Toshiba เปิดตัว Arm® Cortex®-M4 ไมโครคอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุมมอเตอร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสูงชิ้นแรกของตระกูล TXZ+TM

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–29 กรกฎาคม 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เริ่มต้นผลิตอุปกรณ์สำหรับควบคุมมอเตอร์กลุ่ม M4K ใหม่เพื่อวางจำหน่าย 12 รายการ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่จัดให้อยู่ในระดับขั้นสูงกลุ่มแรกของตระกูล TXZ+TM และจะเริ่มต้นการผลิตอุปกรณ์ในกลุ่ม M4M อีก 10 รายการในเดือนสิงหาคม 2564 โดยไมโครคอนโทรลเลอร์ของทั้งกลุ่ม M4K และ M4M จะเป็นการผลิตในรูปแบบ 40nm และจัดให้อยู่ภายใต้ซีรีส์ TXZ4A+

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210728005418/en/

Toshiba: TXZ+ Family Advanced Class, Arm Cortex-M4 Microcontrollers for Motor Control (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไมโครคอนโทรลเลอร์ควบคุมมอเตอร์ Arm Cortex-M4 ผลิตภัณฑ์ขั้นสูงจากตระกูล TXZ+ (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ใช้แกนประมวลผล Arm Cortex-M4 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี FPU ประมวลผลสูงสุดที่ 160MHz ซึ่งผสานเข้ากับวงจรควบคุมมอเตอร์ A-PMD (ตัวขับมอเตอร์ขั้นสูงแบบตั้งโปรแกรมล่วงหน้า) เอ็นโค้ดเดอร์ A-ENC (เอ็นโค้ดเดอร์ขั้นสูง) ขนาด 32 บิต และเครื่องประมวลผลแบบเวกเตอร์ A-VE+ (เครื่องประมวลผลแอดวานซ์เวกเตอร์เอนจิ้นพลัส) อุปกรณ์เหล่านี้มาพร้อมโซลูชันที่เหมาะสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบไม่มีแปรงถ่าน และตัวควบคุมอินเวอร์เตอร์ขนาด 12 บิต สำหรับแปลงระบบอนาล็อกเป็นดิจิทัลที่มีความเร็วแบบไฮสปีดและความคมชัดแบบไฮเรสโซลูชันสูงสุดสามหน่วย

อุปกรณ์ในกลุ่ม M4K มีระบบ UART, SPI และ I2C เป็นอินเทอร์เฟสสื่อสารโดยทั่วไป ขณะที่กลุ่ม M4M จะมีระบบ CAN ที่เป็นอินเทอร์เฟสสื่อสารเพิ่มเข้ามา โดยทั้งสองกลุ่มมีฟังก์ชันวินิจฉัยการทำงานด้วยตัวเองสำหรับ ROM, RAM, ADC และนาฬิกา ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับการรับรองความปลอดภัยในการทำงาน IEC60730 Class B นอกจากนี้ ทั้งสองกลุ่มยังมีอัตราการใช้กระแสไฟที่ต่ำขณะที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง และยังสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์กลุ่ม M4K(2) ตระกูล TXZTM ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

เอกสาร ซอฟต์แวร์ตัวอย่างพร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง บอรด์ประเมิน และซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอินเทอร์เฟสของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันจะจัดมาให้พร้อมกับการจัดส่งชิ้นส่วน เครื่องมือช่วยพัฒนาจะจัดมาให้พร้อมกันเพื่อรองรับความต้องการด้านต่าง ๆ ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศของ Arm ทั่วโลก

คุณสมบัติที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่

  • แกนประมวลผลประสิทธิภาพสูง Arm Cortex-M4 พร้อม FPU สูงสุด 160MHz
  • ฟังก์ชันควบคุมมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ และอินเทอร์เฟสสื่อสาร
  • ฟังก์ชันวินิจฉัยการทำงานด้วยตัวเองเพื่อมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน IEC60730 class B

การใช้งาน

ควบคุมมอเตอร์สำหรับเครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์อุตสาหกรรม
เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า อินเวอร์เตอร์ทั่วไป เครื่องกรองไฟ หุ่นยนต์ และอื่น ๆ

ข้อมูลจำเพาะ

ชื่อซีรีส์/กลุ่มผลิตภัณฑ์

TXZ4A+ series / M4K group / M4M group

แกนประมวลผล CPU

Arm Cortex-M4
‒ หน่วยปกป้องข้อมูล (MPU)
‒ หน่วยคำนวณจำนวนจุดลอยตัว (FPU)

ความถี่ใช้งานสูงสุด

160MHz

วงจรกําเนิดสัญญาณภายใน

10MHz (+/-1%)

หน่วยความจำภายใน

Flash (โค้ด)

128KB/256KB

Flash (ข้อมูล)

32KB

RAM

24KB

พอร์ต I/O

31 ถึง 87

การอินเตอร์รัพท์ภายนอก

10 ถึง 20

ตัวควบคุม DMA (DMAC)

1 หน่วย

ฟังก์ชันควบคุมเวลา

32-bit timer : 6
(สามารถใช้รูปแบบ 16-bit timer : 12 ได้)

ฟังก์ชันสื่อสาร

UART

3 ถึง 4 ช่อง

I2C

1 ถึง 2 ช่อง

TSPI

1 ถึง 2 ช่อง

CAN

1 ช่อง (เฉพาะในกลุ่ม M4M เท่านั้น)

ฟังก์ชันการทำงาน

แบบอนาล็อก

12-bit AD converter

อินพุต 8 ถึง 22 ช่อง

Op-Amp

3 ช่อง

อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน

Encoder input (A-ENC)

0 ถึง 3 ช่อง

Motor control (A-PMD)

3 ช่อง (1 ช่องใน LQFP44)

Vector engine (A-VE+)

1 ช่อง

ฟังก์ชันของระบบ

Watchdog timer (WDT)

1 ช่อง

ฟังก์ชันแก้ไขจุดบกพร้องในชิป

Serial Wire
(JTAG/TRACE/NBDIF สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์แบบ 100 ขาได้)

แรงดันไฟเมื่อใช้งาน

2.7 ถึง 5.5V, จ่ายไฟจากแหล่งจ่ายไฟเดียว

แพ็คเกจ / ขา

LQFP100 (14มม. x 14มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)
QFP100 (14มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.65มม.)
LQFP80 (12มม. x 12มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)
LQFP64 (10มม. x 10มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)
LQFP64 (14มม. x 14มม. ระยะพิชต์ 0.8มม.)
LQFP44 (10มม. x 10มม. ระยะพิชต์ 0.8มม.)
(LQFP44 สำหรับกลุ่ม M4K เท่านั้น)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/microcontrollers/txz4aplus-series.html

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครคอนโทรลเลอร์ของ Toshiba ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/microcontrollers.html

* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือทั่วโลก
* TXZ+™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ MCU และอุปกรณ์ดิจิทัล
โทร: +81-3-3457-2913
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาด้านบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูล ณ ปัจจุบันในวันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (TDSC) ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวมรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 22,000 คนจากทั่วโลกของTDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 7.1 แสนล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TDSC ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210728005418/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย