Tag Archives: world

Mary Kay Inc. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์แก้ไขปัญหาความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงานผ่านเครือข่ายสำหรับการสอนผู้ประกอบการ (NFTE) World Series of Innovation Challenge

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–04 พฤศจิกายน 2564

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ประกาศในวันนี้ว่า World Series of Innovation (WSI) Challenge ครั้งที่ 2 ร่วมกับ เครือข่ายสำหรับการสอนผู้ประกอบการ หรือ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) ในปีที่สองของการเป็นพันธมิตรกับ NFTE โดย Mary Kay ได้ให้การสนับสนุนโปรแกรม 2021 NFTE World Series of Innovation ซึ่งเป็นประสบการณ์การศึกษาระดับโลกที่เชิญชวนให้เยาวชนอายุระหว่าง 13-24 ปี ใช้ช่องทางการคิดเชิงวิพากษ์และทักษะในการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่กำลังเผชิญกับโลกในปัจจุบันและช่วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ให้ก้าวไกลในขณะที่ส่งเสริมความคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211104005178/en/

Mary Kay’s World Series of Innovation Challenge asks students to think about ways to promote workplace equality and ensure equal access to economic opportunity for women and girls. (Photo: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay ขอให้นักเรียนคิดหาวิธีส่งเสริมความเท่าเทียมในสถานที่ทำงานและรับรองการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง (ภาพ: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลกได้เสนอวิธีแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 5: ความเท่าเทียมทางเพศ หรือ Gender Equality โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายครั้งนี้ได้ขอให้นักเรียนคิดหาวิธีการส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงาน และรับรองของการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งก่อนเกิดโควิด-19 ข้อมูลหลายทศวรรษแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของผู้หญิงในแรงงาน แม้ว่าช่องว่างค่าจ้างยังคงมีอยู่ ผู้หญิงจำนวนที่มากขึ้นเข้าร่วมตลาดแรงงานทุกปี แต่การตกงานจากการระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างไม่เป็นสัดส่วนนัก และตั้งแต่ปี 2563 การพยายามอย่างสูงไปสู่ความเท่าเทียมของแรงงานก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“Mary Kay ทราบถึงความสำคัญของการเป็นผู้ประกอบการและบทบาทที่มีต่อโลกในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงลงทุนทุกปีในโปรแกรมและโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อช่วยส่งเสริมผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เราต้องการช่วยที่ไม่เพียงแต่ให้โอกาสทางการศึกษาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาไล่ตามความฝันไปทั่วโลก เราตื่นเต้นมากสำหรับความท้าทายนี้ซึ่งเชื่อมโยงกับภารกิจหลักของบริษัทของเรา”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้ต่ำ World Series of Innovation (WSI) Challenge ได้เชื้อเชิญความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ด้วยจำนวนนักเรียน 100,000 คนจากทั่วโลก ในปี 2563 NFTE ได้รับนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 4,000 คนจากทุกภูมิหลังที่ส่งแนวคิดใน WSI Challenges และนักเรียนเกือบ 350 คนเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งแรกที่ Mary Kay สนับสนุนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 12: การบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Consumption and Production ผู้ชนะสามรายของความท้าทายปี 2563 ของ Mary Kay ได้แก่:

  • อันดับที่หนึ่ง: Loop Tee Loop
    • Loop Tee Loop เป็น clothing loop แบบยั่งยืนที่รวมโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไลโอเซลล์เข้ากับการบริการรีไซเคิลเครื่องแบบจากมหานครมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์
  • อันดับที่สอง: SwagSwap
    • SwagSwap เป็นเครือข่ายโซเชียลในสหรัฐอเมริกาสำหรับเสื้อผ้ามือสอง โดยเปิดการใช้งานการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ peer-to-peer สำหรับวัยรุ่น
  • อันดับที่สาม: Project DBrand
    • Project DBrand เป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง de-brands เครื่องแบบที่ใช้แล้ว เพื่อว่าพวกเขาสามารถนำไปรีไซเคิลสร้างสิ่งใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา

J.D. LaRock ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NFTE กล่าวว่า “การสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการของเยาวชนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยสร้างโลกให้ดียิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป” “ในแต่ละปีเรายังคงได้รับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปได้จินตนาการ และเราหวังว่าจะได้เห็นแนวคิดใหม่ทั้งหมดจากผู้เข้าแข่งขันใน WSI ปี 2564 เรารู้สึกขอบคุณ Mary Kay Inc. สำหรับการสนับสนุนเป็นปีที่สอง โดยวางความท้าทายระดับโลกที่สำคัญนี้เพื่อช่วยพัฒนาความเท่าเทียมกันในสถานที่ทำงานและเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง”

นอกเหนือจาก World Series of Innovation แล้ว Mary Kay ยังสนับสนุนโครงการ Entrepreneurship ของ NFTE ในทุกโรงเรียน โดยนำเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการผ่านหลักสูตรไปสู่นักเรียนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และสนับสนุนความท้าทายในการเป็นผู้ประกอบการเยาวชนระดับภูมิภาคของ NFTE ที่ซึ่งนักเรียนนำเสนอโอกาสทางธุรกิจเพื่อสร้างเงินในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน

โปรแกรม 2021 NFTE World Series of Innovation นำเสนอโดย Citi Foundation และมีความท้าทายจาก Bank of the West, Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY US), Mary Kay, Inc., Maxar Technologies, PIMCO และ Saint-Gobain ความท้าทายนี้เปิดตัวในวันที่ 15 กันยายน และรายการจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 ธันวาคม การตัดสินจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2565 ผู้เข้ารอบสุดท้ายจะประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ และผู้ชนะจะประกาศในวันที่ 31 มีนาคม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด สามารถเยี่ยมชมได้ที https://innovation.nfte.com

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 56 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ www.marykayglobal.com

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 45,000 คนในปีการศึกษานี้ ด้วยการเปิดโปรแกรมใน 25 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และในอีก 20 ประเทศเพิ่มเติม นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านโปรแกรมในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย เยี่ยมชมได้ที่ www.nfte.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211104005178/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Global Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972-687-5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แบรนด์สัตว์เลี้ยงและสัตว์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คว้ารางวัล World Branding Awards ประจำปี 2564 โดย Storm

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–9 กันยายน 2564

วันนี้รางวัลอันทรงเกียรติ World Branding Awards ซึ่งเป็นสุดยอดรางวัลการเชิดชูแบรนด์ระดับโลก ในขณะนี้เป็นครั้งที่ 13 ของงานแล้ว โดยคัดเลือก 150 แบรนด์จาก 41 ประเทศ และมอบรางวัล “แบรนด์แห่งปี” หรือ “Brand of the Year” ในพิธีมอบรางวัลเสมือนจริงครั้งแรกที่จัดขึ้นในประวัติศาสตร์ของรางวัลนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ได้รับการเสนอชื่อจากผู้บริโภคมากกว่า 115,000 รายจากหกทวีปสำหรับ Animalis edition ที่พิเศษซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ สองปี โดยมุ่งเน้นที่การมอบรางวัลแบรนด์สัตว์เลี้ยงและสัตว์ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก

Animal Planet, BuddyRest, FRONTLINE, KONG, ORIJEN, Pedigree, Petplan, PURINA Friskies, Rogz, Tetra และ Whiskas ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะระดับ Global Tier ในปีนี้ ท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ

Aqua Design Amano (ญี่ปุ่น), Vitakraft และ Zooplus (เยอรมนี) และ PetSmart (สหรัฐอเมริกา) ล้วนได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ชนะระดับ Regional Tier พร้อมกับแบรนด์อื่น ๆ อีกสองสามราย

แบรนด์ของมาเลเซียที่เป็นจุดสนใจ ได้แก่ Aquanice (อาหารปลา), Aquaria KLCC (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสาธารณะ), Catzonia (โรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง – แมว) และ Powercat (อาหารแมว – แบบแห้ง/แบบเม็ด) ท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ

แบรนด์ดังของสิงคโปร์ ได้แก่ Gold-D (อาหารแมว) และ Snappy (ทรายแมว) ในฐานะผู้ชนะระดับ National Tier และ Happi Doggy (ขนมขัดฟัน) และ Kit Cat (ผลิตภัณฑ์/อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง) ในฐานะผู้ชนะระดับ Regional Tier ท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ

และสุดท้าย แบรนด์ที่ได้รับชัยชนะจากฟิลิปปินส์ ได้แก่ Top Breed (อาหารสุนัข – แบบแห้ง/แบบเม็ด), Pupkits (ชุดเครื่องนอน) และ Petshop.ph (ร้านขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์) ท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ

“รางวัล Animalis Edition เป็นรางวัลอันทรงเกียรติแก่แบรนด์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสัตว์และสัตว์เลี้ยงทั่วโลก และเชิดชูแบรนด์ที่ยังคงอยู่แถวหน้าในจิตใจของผู้บริโภค โดยเมื่อพิจารณาจากความท้าทายของการระบาดใหญ่ทั่วโลกที่ประสบต่อธุรกิจ อย่างน้อยก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจ” ริชาร์ด โรวส์ ประธานองค์กร World Branding Forum กล่าว

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองของนักการตลาดที่ดีที่สุดของแบรนด์สัตว์เลี้ยงและสัตว์จากทั่วโลก” Rowles กล่าวเสริม

พิธีมอบรางวัลดังกล่าวมีผู้ประกอบการ Lara Morgan และสื่อสัตวแพทย์ Joe Inglis กล่าวปาฐกถาพิเศษแก่แขกผู้มีเกียรติ

รางวัลนี้จัดขึ้นโดย World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่อุทิศตนเพื่อยกระดับมาตรฐานการสร้างแบรนด์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะทั้งหมด สามารถเยี่ยมชมได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ the World Branding Forum

World Branding Forum (WBF) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ผ่านการจดทะเบียน โดยมีจุดมุ่งหมายและกิจกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานการสร้างแบรนด์เพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมและผู้บริโภค องค์กร WBF ทำการผลิต จัดการ และสนับสนุนโปรแกรมที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมการวิจัย การพัฒนา การศึกษา การยอมรับ เครือข่าย และการขยายงาน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ brandingforum.org

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210909005386/en/

ติดต่อ:

Press
Peter Michaels
peter.michaels@brandingforum.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

New World La Plume Niseko Resort เตรียมเปิดให้บริการในปี 2566

Logo

รีสอร์ทแห่งนี้จะเป็นอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในญี่ปุ่นของ New World แบรนด์ที่กำลังขยายการเติบโตทั่วทั้งเอเชียอย่างต่อเนื่อง

นิเซโกะ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–30 เมษายน 2564

New World® Hotels & Resorts ได้รับการแต่งตั้งโดยบริษัท La Plume Niseko Resort TMK บริษัทอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาโครงการจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ให้บริหารจัดการ New World La Plume Niseko Resort รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในปี 2566 ด้วยอาณาบริเวณที่กินพื้นที่เกือบเก้าเอเคอร์ซึ่งรายล้อมด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ระหว่างภูเขาโยเทอิและภูเขาอันนุปุริในฮอกไกโด ผู้มาเยือน New World La Plume Niseko Resort จะได้เข้าถึงประสบการณ์แบบกลางแจ้งซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้จากกิจกรรมนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึงการเล่นสกีและกอล์ฟระดับสุดยอด และยังมีร้านอาหารและร้านค้าขึ้นชื่อของหมู่บ้านนิเซโกะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลออกไป โดยประกาศครั้งล่าสุดจาก New World Hotels & Resorts นี้ยังได้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์การเติบโตของแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียที่แสดงถึงความมุ่งมั่นและการพิจารณาอย่างรอบคอบอีกด้วย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210430005017/en/

New World La Plume Niseko Resort (Photo: Business Wire)

New World La Plume Niseko Resort (รูปภาพ: Business Wire)

สำหรับสถาปัตยกรรมของรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้อนุรักษ์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เอาไว้ ควบคุมโดย Kazuko Okuyama สถาปนิกชื่อดังแห่ง Daiken Design Co โดยแผนการออกแบบโครงสร้างของ Okuyama ที่คิดมาอย่างละเอียด ได้นำองค์ประกอบของจิตวิญญาณการผจญภัยในพื้นที่และวิวที่งดงามตระการตามารวมเข้ากับทิวทัศน์ภูเขาโดยรอบได้อย่างแนบเนียนลงตัว และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือต้นเบิร์ชสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิเซโกะ ซึ่งถูกนำมาผสานเข้ากับดีไซน์ภายนอกได้อย่างพิถีพิถัน เข้ากับพื้นผิวกระจกด้านนอกของอาคารซึ่งทำให้มองเห็นบริเวณภายนอก แสง สภาพอากาศ และฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การตกแต่งภายในโดย Norihiko Shinya แห่ง S.D.S International Co. ยังเข้ามาเสริมให้อาคารแห่งนี้สามารถนำเสนอความงดงามในแบบร่วมสมัยที่ลงตัวกับภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่อีกด้วย

หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ รีสอร์ทแห่งนี้จะมีห้องพักแขกทั้งหมด 219 ห้อง และบ้านพักแบบวิลล่า 5 หลังที่มีสไตล์เรียบง่ายและทันสมัย แต่ละหลังยังมีห้องครัวหรือบริเวณทำครัวเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกไม่ต่างจากการพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ห้องพักบางห้องยังมาพร้อมบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวและเตาผิงสำหรับสร้างความอบอุ่นและบรรยากาศที่ผ่อนคลายทั้งภายในและภายนอก สำหรับผู้ที่ต้องการอาศัยในพื้นที่ที่ได้เป็นเจ้าของแบบถาวร สถานที่แห่งนี้ก็มีห้องชุดสำหรับขาย รวมถึงห้องพักแบบวิลล่าที่แต่ละหลังแยกตัวออกจากกันเป็นสัดส่วนเพื่อมอบบริเวณพักผ่อนที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยห้องอาหารสองแห่งและบาร์ มีทั้งห้องอาหารซิกเนเจอร์ ห้องอาหารที่ให้บริการทั้งวัน และล็อบบี้เลาจน์โดยแต่ละแห่งเสิร์ฟเมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจในบรรยากาศอันน่าทึ่ง สำหรับประสบการณ์รับประทานอาหารแบบองค์รวม ที่นี่มีให้ลิ้มลองทั้งอาหารในสไตล์ญี่ปุ่น ตะวันตก และจีน และยังมีเมนูที่ใช้เครื่องปรุงจากท้องถิ่นในภูมิภาคนั้นด้วย ส่วนบริเวณล็อบบี้เลาจน์ที่อยู่ถัดไปจากโถงต้อนรับจะตกแต่งภาพเขียนบนผนังตลอดทางเดินเล่นระดับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับให้ผู้ที่รักธรรมชาติได้ใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายนอกอาคารระหว่างเพลิดเพลินกับการจิบไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ และเมนูเครื่องดื่มอีกหลากหลายรายการที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว

“ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมน่าตื่นเต้นหลงใหล และเป็นจุดหมายปลายทางที่ New World Hotels & Resorts ให้ความสนใจมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งเราพยายามขยายการเติบโตแบรนด์ของเราให้ทั่วเอเชีย” Sonia Cheng ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Rosewood Hotel Group กล่าว “นิเซโกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในการเล่นสกีอันดับต้น ๆ ของโลกและเป็นแหล่งเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดของทวีป เป็นที่ชื่นชอบด้วยมีสิ่งต่าง ๆ มากมายให้มาสัมผัส ภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล และกิจกรรมที่หลากหลาย เราตื่นเต้นที่ได้นำมาตรฐานใหม่ของความหรูหราและบริการมาสู่ภูมิภาคนี้ และขอแสดงความขอบคุณไปถึงพันธมิตรของเราที่ La Plume Niseko Resort TMK ด้วย สำหรับโอกาสที่พวกเขามอบให้เราได้ทำในสิ่งเหล่านี้”

หนึ่งในจุดดึงดูดหลักของรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นระเบียงนอกอาคารที่สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาของภูมิทัศน์โดยรอบ และยังมีสระว่ายน้ำ ยิม ออนเซ็นทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง รีสอร์ทแห่งนี้ยังมีสโมสรสำหรับเด็ก ๆ ที่จะสร้างความบันเทิงให้กับเจ้าตัวเล็กด้วยความสนุกสนานและเกมต่าง ๆ รวมถึงบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟและการดูแลเป็นพิเศษ นิเซโกะมีสิ่งต่าง ๆ รอต้อนรับที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ผู้มาเยือนจะได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งจุดเล่นหิมะที่ประกอบด้วยกิจกรรมอย่างสกีหิมะ นั่งรถเลื่อนบนหิมะ และการเดินบนรองเท้าหิมะ หรือกิจกรรมในช่วงที่อาการศอบอุ่นอย่างเช่นการพายเรือแคนู การล่องแพ และตกปลาในแม่น้ำหรือกิจกรรมขี่ม้า จักรยานเสือภูเขา กอล์ฟ รวมถึงนั่งบอลลูน

“จุดหมายปลายทางที่ผู้คนมากมายปรารถนาที่จะได้มาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการมาสัมผัสความหนาวเย็น นิเซโกะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะเมืองสกีรีสอร์ทชั้นนำ” Zhang XiaoJin ประธานแห่ง La Plume Niseko Resort TMK กล่าว “เมื่อเราเตรียมนำนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่มาเยือนจุดหมายปลายทางที่แสนพิเศษแห่งนี้ เรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีพันธมิตรรายใดที่เหมาะสมไปกว่า New World Hotels & Resorts เราต่างตั้งตารอที่จะได้แนะนำสถานที่น่ามหัศจรรย์แห่งนี้ให้กับนักเดินทางจากนานาประเทศอีกมากมายได้รู้จัก”

New World La Plume Niseko Resort จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งอสังหาที่มีความโดดเด่นของ New World ซึ่งมีอยู่ทั่วทั้งเอเชีย ทั้งนี้ยังมีอีกหลายโครงการในภูมิภาคนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ New World Jaipur Resort (อินเดีย), New World Hoiana Hotel (เวียดนาม), New World Nha Trang Hotel (เวียดนาม) และ New World Phu Ouoc Resort (เวียดนาม)

เกี่ยวกับ New World Hotels & Resorts

New World® Hotels & Resorts เป็นทั้งศูนย์ธุรกิจที่หรูหรา โรงแรมที่เน้นการจัดประชุม (MICE) และรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นแหล่งรวมความสะดวกสบายทั้งในเมืองหลักและเมืองรองของประเทศจีน ประตูสู่ทวีปเอเชียที่สำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่ได้รับความนิยม อสังหารวมทั้งหมด 9 แห่งของ New World Hotels & Resorts ตั้งอยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ปักกิ่ง ต้าเหลียน กุ้ยหยาง อู่ฮั่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมถึงโรงแรมที่เป็นพันธมิตรอีกหนึ่งแห่งในซุ่นเต๋อ ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมขนาด 350 ห้องขึ้นไป เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการแบบครบวงจร รวมถึงห้องอาหารที่หลากหลาย บริการด้านธุรกิจต่าง ๆ ห้องประชุมขนาดใหญ่ ชั้นสำหรับผู้บริหาร และตัวเลือกด้านสันทนาการอีกมากมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ newworldhotels.com

เกี่ยวกับ Rosewood Hotel Group

Rosewood Hotel Group บริษัทซึ่งถือครองโดยเอกชน หนึ่งในกลุ่มผู้ให้บริหารการจัดการธุรกิจไลฟ์สไตล์และบริการชั้นนำของโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ 5 แบรนด์ ได้แก่ Rosewood Hotels & Resorts® สุดหรูหรา, New World Hotels & Resorts โรงแรมและรีสอร์ทระดับบน, KHOS คอนเซ็ปต์ที่พักแนวไลฟ์สไตล์โดย Rosewood, Asaya คอนเซ็ปต์ที่พักเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร และ Carlyle & Co. คลับสำหรับสมาชิกแบบส่วนตัวที่มีความล้ำและทันสมัย และยังมีโรงแรมในเครือรวมทั้งหมด 39 แห่ง ใน 19 ประเทศ และอสังหาอีกเกือบ 40 แห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

เกี่ยวกับ La Plume Niseko Resort TMK

La Plume Niseko Resort TMK ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Sakura Capital International Holdings (HK) Limited เป็นบริษัทโฮลดิ้งในฮ่องกงที่เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ผู้ที่ถือหุ้นอยู่เบื้องหลังเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโรงแรมรีสอร์ทระดับไฮเอนด์จำนวนมาก และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยวที่มีพื้นที่เกือบหนึ่งล้านตารางเมตร

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210430005017/en/

สื่อ:
Rosewood Hotel Group
โทร: +852 2138 2260
อีเมล: rwhg.mediacontacts@rosewoodhotelgroup.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ใช้ ‘VOW’ เพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ: ‘Vaccinate Our World!’

Logo

มาเข้าร่วม AHF และผู้สนับสนุนอื่นๆ เพื่อเปิดตัวคำกระตุ้นการตัดสินใจทั่วโลกใหม่เพื่อเร่งเร้าผู้นำระดับโลก ผู้ผลิตวัคซีนและองค์กรด้านสาธารณสุขใน VOW ที่จะให้การเข้าถึงวัคซีน COVID-19 ทั่วโลกเป็นไปอย่างเป็นธรรม คำกระตุ้นการตัดสินใจจะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ด้วยการสนับสนุนด้านมัลติมีเดียทั่วโลกและแคมเปญโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ และตามมาด้วยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าโดยงานแถลงข่าวในกรุงเทพฯ โจฮันเนสเบิร์ก ลอนดอน เซาเปาโล และวอชิงตัน ดี.ซี.

ถ้าหากการจัดสรรวัคซีนที่ผิดศีลธรรมไม่ได้รบกวนคุณ อันตรายก็อาจจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–20 เมษายน 2564

เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่อยู่เบื้องหลังในการรักษาความปลอดภัยอย่างพอเพียงหรือสำหรับบางประเทศ แม้กระทั่งวัคซีน COVID-19 สำหรับพลเมืองของตนเป็นที่น่าชัดเจนอย่างเจ็บปวดว่าโลกต้องการการเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและมีนวัตกรรมใหม่เพื่อให้มีโอกาสที่แท้จริงในการเอาชนะการระบาดใหญ่ทั่วโลก  AIDS Healthcare Foundation (AHF) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดูแลและรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์รายใหญ่ที่สุดทั่วโลก เป็นกองหน้าในการริเริ่มระดับโลกเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล ผู้ผลิตวัคซีนและสถาบันสาธารณสุขระหว่างประเทศให้ ' VOW ' ในการปกป้องมนุษยชาติและการเข้าถึงวัคซีน COVID-19 อย่างเท่าเทียมกันและ ‘VOW’ คำกระตุ้นการตัดสินใจ “Vaccinate Our World!” จะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ด้วยแคมเปญสนับสนุนมัลติมีเดียซึ่งจะตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าพร้อมกับกิจกรรมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการและ /หรือเสมือนจริงบนออน์ไลน์ในกรุงเทพฯ โจฮันเนสเบิร์ก ลอนดอน เซาเปาโล และวอชิงตัน ดี.ซี.

คำกระตุ้นการตัดสินใจ ‘Vaccinate Our World’ ที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าแต่สามารถทำได้มีหลักการ  5 ประการดังต่อไปนี้

  • ความพยายามในการฉีดวัคซีน COVID-19 ทั่วโลกต้องสำรองเงิน 100 พันล้านดอลลาร์จากประเทศกลุ่ม G20
  • ต้องผลิตและจัดสรรวัคซีนเจ็ดพันล้านโดสทั่วโลกภายในหนึ่งปี
  • บริษัทและรัฐบาลต้องยกเว้นหรือระงับสิทธิบัตรวัคซีน COVID-19 ทั้งหมดระหว่างการแพร่ระบาด
  • ประเทศต่างๆ จะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส 100% และประการสุดท้าย
  • ผู้นำโลกต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศให้มากขึ้นเพื่อเป็นแรงผลักดันในการยุติการแพร่ระบาดไม่ใช่ดำเนินต่อไปในทางการเมืองตามปกติ

“ถ้าหากการจัดสรรวัคซีนที่ผิดศีลธรรมไม่ได้รบกวนคุณ อันตรายก็อาจจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าประเทศที่ร่ำรวยจะกล่าวในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดว่าทุกคนจะได้รับวัคซีน แต่ประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รับน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของจำนวน 773 ล้านโดสทั่วโลกที่ได้รับการให้” Michael Weinstein ประธาน AHF กล่าว “เราพบผู้ป่วย COVID-19 ทั่วโลกมากกว่า 140 ล้านรายและเสียชีวิตมากกว่า 3 ล้านรายทั่วโลก ในขณะเดียวกันประเทศที่ร่ำรวยก็กักตุนวัคซีนอย่างเห็นแก่ตัวและผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อให้ได้รับปริมาณโดสในการช่วยชีวิตสำหรับประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุดในโลก และนั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ – จะไม่มีประเทศใดปลอดภัยจนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัยและเปรียบเสมือนไฟป่าของ COVID-19 ทุกแห่งก็จะดับลง โลกต้องร่วมกัน VOW เพื่อยุติการแพร่ระบาดนี้โดยทำตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อ ' Vaccinate Our World’ now' เดี๋ยวนี้!”

Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า 87% ของวัคซีนกว่า 700 ล้านวัคซีนทั่วโลกได้ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงหรือรายได้ปานกลางในขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รับเพียง 0.2% ประเทศที่มีรายได้สูงมีการฉีดวัคซีนโดยเฉลี่ย 1 ใน 4 คนในขณะที่มีเพียง 1 ในมากกว่า 500 คนในประเทศที่มีรายได้ต่ำที่ได้รับวัคซีน COVID-19

นอกเหนือจากการจัดหาเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการจัดหาวัคซีนแล้ว การผลิตวัคซีนจะต้องเพิ่มขึ้นทั่วโลกและการเข้าถึงสิทธิบัตรควรเป็นไปอย่างอิสระเพื่อให้สามารถขยายการผลิตได้อย่างรวดเร็ว การยุติการแพร่ระบาดจะต้องมีการแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้นรวมถึงการยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดขึ้นเองในการส่งออกวัคซีนสำหรับประเทศเหล่านั้นที่มีส่วนเกิน ผู้นำจากกลุ่ม G20 และสถาบันการเงินระดับโลก เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกต้องให้ VOW ที่จะเพิ่มในการมีส่วนร่วมโดยทันที

 “ยังมีงานหนักและภาระที่หนักหน่วงที่ต้องทำ – แต่ด้วยโลกที่เป็นหนึ่งเดียวกัน เราสามารถทำได้และเราต้องลงมือทำ” Weinstein กล่าวเพิ่มเติม“ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ใช้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และสูญเสียผลผลิตไปหลายล้านล้าน และเศรษฐกิจของพวกเขาได้รับความเสียหาย ด้วย 100 พันล้านเหรียญเป็นราคาเพียงเล็กน้อยที่ต้องจ่ายเพื่อปกป้องทุกคนบนโลกใบนี้ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยชีวิต ผู้นำระดับโลก ผู้ผลิตวัคซีน องค์กรด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศและพลเมือง เราทุกคนต้อง VOW ร่วมกันว่าจะ ‘Vaccinate Our World’ ถ้าหากเราจะเอาชนะการแพร่ระบาดนี้อย่างแท้จริง “

 “Vaccinate Our World” จะเปิดตัวในสัปดาห์นี้โดยเริ่มจากการสนับสนุนทางโซเชียลมีเดียและผ่านสื่อสาธารณะอื่น ๆ ซึ่งจะเผยแพร่ไป 45 ประเทศที่ AHF ดำเนินการอยู่

พันธมิตรและผู้สนับสนุนของ AHF จะเปิดตัวโฆษณาทางหนังสือพิมพ์เพื่อสนับสนุนการรณรงค์ระดับโลกใน Vaccinate Our World ที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์รายวันรายใหญ่อย่างน้อยแปดประเทศทั่วโลก โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ VOW จะแสดงครั้งแรกในอินเดียโดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ นี่คือรายชื่อประเทศและช่องข่าวที่จะเผยแพร่โฆษณาแคมเปญ VOW:

อินเดีย

  • Times of India
  • Mint

บราซิล:

  • Globo
  • Folha de Sao Paulo
  • Somma Comunicações

เม็กซิโก

  • El Universal
  • Reforma

ยูเครน

  • “Kорреспондент” (Korrespondent)
  • “Фокус” (Focus)

สหภาพยุโรป

  • EU Observer
  • The Guardian

ไนจีเรีย

  • PUNCH
  • The Guardian
  • THIS DAY

เคนยา

  • Daily Nation
  • Nation.Africa

แอฟริกาใต้

  • The Citizen
  • Daily Sun
  • Daily Maverick
  • Isolezwe
  • Sowetan
  • Sunday Times

นอกเหนือจากงานแถลงข่าวและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป โปรดมองหา #VaccinateOurWorld และกิจกรรม #VOWnow มาเข้าร่วมในการต่อสู้และ VOW เพื่อปกป้องมนุษยชาติ! สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ โปรดเยี่ยมชม www.VaccinateOurWorld.org

AIDS Healthcare Foundation (AHF) ซึ่งเป็นองค์กรด้านโรคเอดส์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด ในปัจจุบันให้การรักษาพยาบาลและ /หรือบริการแก่ลูกค้ากว่า 1.5 ล้านราย ใน 45 ประเทศทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา แอฟริกา ลาตินอเมริกา/แคริบเบียน ภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิกและยุโรป หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AHF โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: www.aidshealth.org ค้นหาเราบน Facebook: www.facebook.com/aidshealth และติดตามเราได้ที่ Twitter: @aidshealthcareและ Instagram: @aidshealthcare

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210420005516/en/

ติดต่อสื่อสหรัฐอเมริกา:
Ged Kenslea,
Senior Director,
Communications, AHF
+1.323.791.5526 cell
ged.kenslea@ahf.org

Terri Ford,
Chief of Global Advocacy & Policy, AHF
+1.213.399.1001
terri.ford@ahf.org

Denys Nazarov,
Director of Global Policy &
Communications, AHF
+1 323.308.1829
denys.nazarov@ahf.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Global Youth Problem-Solvers ประกาศเป็นผู้ชนะของ Mary Kay Inc. ที่สนับสนุน NFTE World Series of Innovation Challenge

Logo

World Series of Innovation Challenge ของ NFTE ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลก และประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการ ได้เชิญชวนเยาวชนให้แก้ปัญหาที่ท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยเผชิญหน้ากับโลกของเราและช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2564

Mary Kay Inc. เป็นผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำในการเสริมสร้างศักยภาพและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงได้ประกาศในวันนี้สำหรับผู้ชนะ 3 อันดับแรกของ World Series of Innovation (WSI) Challenge ร่วมกับ Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) ในปีแรกที่ร่วมมือกับ NFTE โดย Mary Kay ได้ให้การสนับสนุนงาน 2020 NFTE World Series of Innovation ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านการศึกษาระดับโลกที่เชิญชวนให้เยาวชนอายุ 13-24 ปีใช้ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหาเพื่อค้นหาวิธีในการแก้ไขปัญหาสำหรับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เผชิญอยู่ในโลกปัจจุบันและยังช่วยพัฒนาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมวิธีคิดของผู้ประกอบการ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

Mary Kay sponsors Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge to inspire young entrepreneurs to solve the world’s most pressing problems. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ผู้สนับสนุน Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในการแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดในโลก (ภาพ: Mary Kay Inc.)

World Series of Innovation Challenge ของ Mary Kay สนับสนุนให้เยาวชนจากทั่วโลก ยื่นเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 12: การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ ในทั่วโลกคาดว่า 80% ของสิ่งทอที่ถูกทิ้งจะถูกฝังกลบในหลุมฝังกลบ สถิติดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอเป็นอันดับที่ 2 ในรายชื่ออุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษเลวร้ายที่สุดรองจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สำหรับความท้าทายนี้ นักเรียนได้ถูกขอให้ออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการหรือความคิดริเริ่มที่จะสร้าง “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ที่ช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลเครื่องแบบ และ/หรือเสื้อผ้าใช้แล้วอื่น ๆ ลดของเสียที่ต้องฝังกลบ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการย่อยสลายสิ่งทอ

ผู้ชนะทั้งสามของ Mary Kay’s Challenge ได้แก่:

  • อันดับที่หนึ่ง: Loop Tee Loop

o        Loop Tee Loop เป็น clothing loop แบบยั่งยืนที่รวมโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไลโอเซลล์เข้ากับการบริการรีไซเคิลเครื่องแบบจากมหานครมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์

  • อันดับที่สอง: SwagSwap

o        SwagSwap เป็นเครือข่ายโซเชียลในสหรัฐอเมริกาสำหรับเสื้อผ้ามือสอง โดยเปิดการใช้งานการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ peer-to-peer สำหรับวัยรุ่น

  • อันดับที่สาม: Project DBrand

o        Project DBrand เป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง de-brands เครื่องแบบที่ใช้แล้ว เพื่อว่าพวกเขาสามารถนำไปรีไซเคิลสร้างสิ่งใหม่ได้ในสหรัฐอเมริกา

 “วันนี้นักเรียนเติบโตมาในโลกแห่งความยั่งยืน โดยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การสนทนาทั่วโลก และพวกเขามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อผลักดันในการเปลี่ยนแปลงนี้”  Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “Mary Kay ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ NFTE องค์กรที่ไม่เพียงช่วยจุดประกายความคิดของผู้ประกอบการในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้พวกเขาคิดวิเคราะห์เพื่อจัดการกับปัญหาระดับโลกที่ท้าทายอีกด้วย บริษัทระดับโลกอย่างเช่น Mary Kay มีความรับผิดชอบในการส่งเสริมนวัตกรรมของผู้ประกอบการที่สามารถช่วยทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นไป”

NFTE เป็นองค์กรการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของการเป็นผู้ประกอบการมาสู่เยาวชนในชุมชนที่มีรายได้น้อย World Series of Innovation (WSI) Challenge ได้เชิญชวนความท้าทายที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อจัดการกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ด้วยการเข้าถึงนักเรียน 100,000 คนทั่วโลก ในปี 2020 NFTE ได้รับนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 4,000 คนจากทุกภูมิหลังที่ยื่นส่งแนวคิดใน WSI Challenges และนักเรียนที่เข้าร่วมเกือบ 350 คน ที่ได้รับจาก Mary Kay-sponsored challenge

 “World Series of Innovation ส่งเสริมให้เยาวชนในการใช้วิธีคิดของผู้ประกอบการเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก”  J.D. LaRock ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NFTE กล่าว “ในแต่ละปี เรายังคงได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดสร้างสรรค์ที่ผู้ประกอบการรุ่นต่อไปที่คาดเดาไม่ถึง เรารู้สึกขอบคุณ Mary Kay Inc. ได้แสดงความท้าทายระดับโลกที่ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนได้คิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนของเสื้อผ้าและสิ่งทอในรูปแบบใหม่”

นอกเหนือจาก World Series of Innovation ดังกล่าวแล้ว Mary Kay ยังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน United Nations Global Goals Conversation ของ NFTE ในปี 2020 ซึ่งเป็นกิจกรรมผู้นำทางความคิดประจำปีที่รวม เยาวชน อุตสาหกรรม องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และการกุศล เพื่อพัฒนาบทสนทนาเกี่ยวกับโซลูชันการประกอบการเพื่อสังคม ซึ่งจัดขึ้นในช่วง Global Entrepreneurship Week หัวข้อของการอภิปรายคือ “การมีส่วนร่วมให้ผู้ประกอบการคิดค้นและดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ต่อสังคม” ผู้ร่วมอภิปรายได้อภิปรายถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก เช่น การว่างงาน ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความไม่สงบในสังคมที่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในโลกหลัง COVID ซึ่ง UN Global Goals Conversation 2020 นำเสนอโดย Citi Foundation, Ernst & Young LLP (EY) และ Mary Kay Inc. พร้อมการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก Bank of the West BNP Paribas

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Series of Innovation และความท้าทายทั้งหมด โปรดไปที่ https://innovation.nfte.com.

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆจากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

เกี่ยวกับ NFTE

Network for Teaching Entrepreneurship (NFTE) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ให้การศึกษาด้านการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพสูงแก่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากชุมชนที่มีทรัพยากรน้อย รวมถึงโปรแกรมสำหรับนักศึกษาและผู้ใหญ่ NFTE เข้าถึงนักเรียนมากกว่า 70,000 คนต่อปี ใน 25 รัฐ ทั่วสหรัฐอเมริกา และเปิดสอนโปรแกรมในอีก 12 ประเทศเพิ่มเติม เราได้ให้การศึกษาแก่นักเรียนมากกว่าหนึ่งล้านคนผ่านช่องทางในโรงเรียน นอกโรงเรียน วิทยาลัย และค่ายฤดูร้อน ที่เปิดสอนโดยตรงและทางออนไลน์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราส่งเสริมระบบทุนนิยมรอบด้าน และสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่หลากหลาย โปรดไปที่ www.nfte.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210331005187/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แบรนด์ไทยกวาดรางวัลระดับโลกในงาน World Branding Awards ประจำปี 2563-2564

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–10 มี.ค. 2564

รางวัล World Branding Awards อันทรงเกียรติ ซึ่งถือเป็นรางวัลที่แสดงการยอมรับแบรนด์ระดับโลกขั้นสุดยอด ได้รับการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 12 แล้วนับถึงปัจจุบัน โดยมีแบรนด์มากกว่า 400 แบรนด์ จากกว่า 45 ประเทศที่ได้รับรางวัล “แบรนด์แห่งปี” ประจำปี 2563-2564 ผ่านการเสนอชื่อโดยผู้บริโภคมากกว่า 250,000 คนทั่วโลก

ในบรรดาแบรนด์ชั้นนำที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ชนะระดับโลก รวมถึง Beijing Tong Ren Tang, CoCo, Faber Castell, Fender, Heinz, IKEA, LEGO, Lurpak, McCain, Netflix, PILOT, Spotify, Yakult และ Yamaha เป็นต้น

ผู้ชนะระดับภูมิภาค ได้แก่ Anchor (นิวซีแลนด์), Cotton On (ออสเตรเลีย), Elkjøp (นอร์เวย์), LuLu (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Isetan และ Uniqlo (ญี่ปุ่น) เป็นต้น

แชมป์ระดับประเทศ ได้แก่ ออโรร่า (อัญมณี), คาเฟ่อเมซอน (ร้านค้าปลีก – กาแฟ), คิงเพาเวอร์ (ร้านค้าปลีก – ดิวตี้ฟรี), M-150 (เครื่องดื่มชูกำลัง), สถานีปตท. (ปั๊มน้ำมัน / ปั๊มก๊าซ), ไทยประกันชีวิต (ประกันภัย), และ TrueOnline (บรอดแบนด์ / ISP) ซึ่งทั้งหมดนี้เคยเป็นผู้ได้รับรางวัลมาปีก่อนหน้านี้ ร่วมด้วยแบรนด์อื่น ๆ

ผู้ชนะจะได้รับการตัดสินโดยวิธีการที่แตกต่างกันสามวิธี ได้แก่ การประเมินมูลค่าแบรนด์ การวิจัยตลาดผู้บริโภค และการลงคะแนนออนไลน์แบบสาธารณะ ทั้งนี้ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของขั้นตอนการให้คะแนนมาจากการโหวตของผู้บริโภค โดยสามารถมีผู้ชนะได้เพียงหนึ่งรายในแต่ละประเภทต่อประเทศ

การลงคะแนนและการเสนอชื่อเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก ในขณะที่หลายประเทศต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมและป้องกันที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจอย่างมาก รางวัลนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองวิธีที่สร้างสรรค์ระดับนวัตกรรมที่แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อคงความแตกต่างของแบรนด์และเพื่อการสร้างประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงปีที่ผ่านมา

“นี่คือการเฉลิมฉลองให้กับนักการตลาดที่ดีที่สุดจากทั่วโลก รางวัลนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของทีมงานที่สร้างและรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

“ในการเป็นผู้ชนะรางวัลในครั้งนี้ แบรนด์ที่ชนะรางวัลได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้สร้างตัวเองขึ้นมาจนได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก” Danny Pek ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ World Branding Forum กล่าว

สำหรับปีนี้ที่เป็นปีที่ 7 แล้ว การประกาศรางวัลจะจัดโดย World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อพัฒนามาตรฐานการสร้างแบรนด์ โดยงานขององค์กรส่วนหนึ่งคือการจัดและสนับสนุนโปรแกรมที่ให้ความรู้ที่หลากหลาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อแบรนด์ได้รับรางวัลทั้งหมด โปรดไปที่ awards.brandingforum.org.

เกี่ยวกับ the World Branding Forum

World Branding Forum (WBF) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่จดทะเบียนแล้ว ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างกิจกรรมเพื่อยกระดับมาตรฐานในการสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อประโยชน์ของอุตสาหกรรมและผู้บริโภค อนึ่ง WBF ผลิต จัดการ และสนับสนุนโครงการที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมถึงการวิจัย การพัฒนา การศึกษา การรับรู้ การสร้างเครือข่าย และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ brandingforum.org.

###

ติดต่อ:

Peter Michaels

peter.michaels@brandingforum.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย