Tag Archives: technologies

Barracuda Technologies เปิดตัวโครงการโรงงานไบโอรีไฟเนอรีแบบมอดุลาร์ครั้งแรกในอินเดีย

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–29 ตุลาคม 2024

Barracuda Technologies Pvt. Ltd. บริษัทย่อยทางอ้อมของ Barracuda Technologies Inc. บริษัทสตาร์ตอัปที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก (สหรัฐอเมริกา) เพิ่งได้ดำเนินการสร้างโครงการโรงงานไบโอรีไฟเนอรีแบบมอดุลาร์ (modular Bio-Refinery) ครั้งแรกในอินเดียสำเร็จไป โดยถือเป็นก้าวสำคัญในด้านการผลิตวัสดุแบบยั่งยืนและหมุนเวียน (sustainable and circular materials) โรงงานไบโอรีไฟเนอรีระดับกึ่งเชิงพาณิชย์นี้ใช้กระบวนการแยกองค์ประกอบชีวมวล (biomass fractionation) เฉพาะของบริษัท เพื่อแปรรูปเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว, ฟางข้าวสาลี, ลำต้นกล้วย, กากอ้อย, ปาล์ม EFB, หญ้า Brachiaria (บราซิล), กัญชง และวัตถุดิบอื่น ๆ ให้กลายเป็นวัสดุที่มีค่า เช่น ลิกนินบริสุทธิ์ (clean Lignin), เซลลูโลส, ไบโอซิลิกา (bio-silica) และเฮมิเซลลูโลส (hemi-cellulose) โรงงานนี้สามารถใช้ชีวมวลได้หลากหลายประเภทและมีของเหลวเหลือทิ้งใกล้ศูนย์ (near-zero liquid discharge) จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปราศจากของเสีย

เซลลูโลสของ Barracuda มีศักยภาพในการนำไปใช้งานหลากหลาย เช่น การใช้ในวัสดุที่ไม่ถักทอ (non-woven materials) อย่างกระดาษและภาชนะบนโต๊ะอาหาร รวมถึงการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ (biofuels), ไมโครไฟบริลเลต เซลลูโลส (micro fibrillated cellulose : MFC) และนาโนเซลลูโลส (nano cellulose : CNC) รวมถึงการใช้งานอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ลิกนินบริสุทธิ์ของ Barracuda ซึ่งมีคุณสมบัติ เช่น การป้องกันการไหม้ (anti-charring), การต้านรังสียูวี (UV resistance) และความทนต่อความชื้น และยังมีศักยภาพในการนำไปใช้กับสารเคลือบ กาว เครื่องสำอาง วัสดุก่อสร้าง อาหารเสริมสัตว์ เทอร์มอพลาสติก พอลิยูรีเทน และอื่น ๆ อีกด้วย Barracuda กำลังดำเนินการผลิตไบโอบิทูเมน (Bio-Bitumen) จากลิกนินที่มี โรงงานไบโอรีไฟเนอรียังผลิตไบโอซิลิกาที่มีประโยชน์ในหลากหลายการใช้งาน เช่น ยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อาหาร วัสดุทั้งหมดของ Barracuda เป็นวัสดุที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ

โครงสร้างแบบมอดุลาร์ของโรงงานไบโอรีไฟเนอรีนี้ช่วยแก้ปัญหาด้านการขนส่งและการจัดการวัตถุดิบที่มีความหนาแน่นต่ำ โดยเอื้อต่อโมเดลแบบระบบศูนย์กลางและเครือข่าย (hub-and-spoke model) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน โครงการนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของกระบวนการของ Barracuda แต่ยังเป็นทางออกให้กับปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การเผาซังข้าว และยกระดับเศษวัสดุให้มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมหาศาล

Navin Singhania (ผู้ได้ชื่อว่า “มนุษย์เส้นใย”) ผู้ก่อตั้ง Barracuda Technologies และผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการแยกองค์ประกอบชีวมวลกล่าวว่า “นี่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของวงการวัสดุที่ยั่งยืน โรงงานไบโอรีไฟเนอรีแบบมอดุลาร์เปลี่ยนแปลงทุกด้านของปัญหาที่มีมายาวนานเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานและปัญหาด้านการขนส่งวัตถุดิบที่มีความหนาแน่นต่ำและ CAPEX กระบวนการของ Barracuda นั้นมีต้นทุนที่ต่ำมาก สะอาด และเป็นระบบหมุนเวียน เราจะผลิตไฟเบอร์และลิกนินที่ถูกที่สุดในตลาดโลกปัจจุบัน” “เรากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจำนวนมาก และจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ
info@barra-labs.com

แหล่งที่มา : Barracuda Technologies

INVIDI Technologies ร่วมมือกับ Thaicom และ PSI พลิกโฉมอุตสาหกรรมสื่อของประเทศไทย

Logo

พรินซ์ตัน นิวเจอร์ซีย์ และกรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–01 ตุลาคม 2024

INVIDI Technologies ผู้นําระดับโลกด้านการโฆษณาและนวัตกรรมที่ตรงเป้าหมาย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Thaicom บริษัทเทคโนโลยีดาวเทียมและอวกาศชั้นนําของเอเชีย และ PSI ผู้ให้บริการเครือข่ายดาวเทียมและกล่องรับสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเปิดตัวโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถนําเสนอโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับบุคคลหรือครัวเรือนที่เฉพาะเจาะจงในประเทศไทย  INVIDI ได้พัฒนาระบบโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายระบบแรกของโลก ได้ให้คํามั่นสัญญาที่จะสนับสนุนผู้แพร่ภาพกระจายเสียงของไทย ในการเพิ่มรายได้จากโฆษณาและระดมทุนให้กับเนื้อหาพรีเมียมใหม่ๆ

” Thaicom ในฐานะผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมการแพร่ภาพกระจายเสียงของประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าของเรา” Ekachai Phakdurong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Thaicom กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทํางานร่วมกับ INVIDI และ PSI ในการพัฒนาโซลูชันการโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกระจายเสียงของไทยได้รับประโยชน์ร่วมกันจากเทคโนโลยีและความร่วมมือ”

Addressable TV พลิกโฉมรูปแบบธุรกิจโฆษณาและทุกคนได้รับประโยชน์ โดยให้รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากแก่ผู้ให้บริการเนื้อหาและผู้จัดจําหน่าย ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้โฆษณากําหนดเป้าหมายลูกค้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ในขณะเดียวกัน ผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นมากเนื่องจากพวกเขาได้รับโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับตนเอง

“PSI เชื่อว่าการโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรม และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาครั้งนี้” Phanuwat Phongsuwankul ซีอีโอของ PSI กล่าว “ในฐานะที่มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมที่สูงที่สุดในประเทศไทย เราจึงรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ INVIDI และ Thaicom เพื่อการเติบโตในอนาคตของโฆษณาแบบระบุตำแหน่งในประเทศไทย”

จากข้อมูลของ Media Partners Asia โอกาสที่ระบุกลุ่มเป้าหมายได้ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวคิดเป็น CAGR 19% ในอีกห้าปีข้างหน้า และคิดเป็น CAGR 24% ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย

“การโฆษณาทางทีวีมีศักยภาพที่ชัดเจน ฉันสามารถพูดแบบนี้ได้เพราะพวกเราที่ INVIDI ได้เห็นผลกระทบด้านรายได้อันน่าทึ่งจากการโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายในสหรัฐอเมริกา” Nick Chuah กรรมการผู้จัดการประจําภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ INVIDI กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ Thaicom และ PSI เนื่องจากทั้งสองบริษัทเป็นกําลังสําคัญในตลาดไทย”

ด้วยโฆษณาที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้ อนาคตของโทรทัศน์ระดับพรีเมียมจึงสดใส INVIDI และพันธมิตรมีแผนใหญ่และคาดว่าจะเปิดตัวโฆษณาที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้ผ่านพื้นที่ของสัญญาณดาวเทียมในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ตามด้วยพื้นที่โฆษณาภาคพื้นดินในปลายปี 2026

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายได้โปรดไปที่ www.invidi.com

เกี่ยวกับ INVIDI Technologies

INVIDI Technologies เป็นผู้นําระดับโลกด้านโซลูชันโฆษณาแบบระบุกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง โดยนําเสนอเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสําหรับการโฆษณาที่ตรงเป้าหมายซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของแคมเปญสื่อ ด้วยความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรม INVIDI ยังคงเป็นผู้นําอุตสาหกรรมในการนำเสนอโซลูชันล้ำสมัยสําหรับผู้โฆษณาและผู้สร้างเนื้อหาทั่วโลก

เกี่ยวกับ Thaicom

Thaicom Public Company Limited เป็นบริษัทผู้ให้บริการดาวเทียมชั้นนําในเอเชีย และเป็นบริษัทเทคโนโลยีอวกาศระดับภูมิภาค Thaicom ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยใช้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดาวเทียมเพื่อให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมแบบครบวงจร ด้วยประวัติที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในฐานะผู้บุกเบิกบริการบรอดแบนด์และบรอดคาสต์ในเอเชีย Thaicom ได้พัฒนาและเปิดตัว IPSTAR (Thaicom 4) ซึ่งเป็นดาวเทียมที่รองรับปริมาณการรับส่งข้อมูลสูง (HTS) ดวงแรกของโลก และให้บริการการแพร่ภาพกระจายเสียง Ku-band Direct-to-Home (DTH) แห่งแรกของเอเชีย ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอวกาศชั้นนําระดับภูมิภาค Thaicom ใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากอวกาศ โดยนําเทคโนโลยี GEO หรือ non-GEO มาใช้เพื่อรวบรวมบริการใหม่ๆ บริษัททุ่มเทเพื่อสร้างความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้คนด้วยเทคโนโลยีอวกาศที่เป็นนวัตกรรมอันสร้างสรรค์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.thaicom.net

เกี่ยวกับ PSI

PSI Corporation Co, Ltd เป็นผู้นำด้านศูนย์จำหน่ายจานดาวเทียม เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด เป็นผู้ผลิตและจัดจําหน่ายจานดาวเทียมที่ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยภายใต้แบรนด์ PSI เป็นบริษัทชั้นนําในการผลิตและจัดจําหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมของประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

INVIDI Technologies:
media@invidi.com

ที่มา: INVIDI Technologies

SMART Modular Technologies เปิดตัวแฟลชไดรฟ์หน่วยความจำพร้อมระบบการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) สำหรับแอปพลิเคชันใช้งานจากระยะไกล

Logo

เทคโนโลยีการลดปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) จะช่วยให้สามารถลดต้นทุนการบริการได้เป็นอย่างมากในแอปพลิเคชันเครือข่าย โทรคมนาคม และเอดจ์เซิร์ฟเวอร์ที่มีความต้องการสูง

NEWARK, Calif.–(BUSINESS WIRE)–17 กันยายน 2024

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นภาคส่วนใน SGH (Nasdaq: SGH) และเป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ โซลิดสเตตไดรฟ์ และหน่วยความจำขั้นสูง ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เพื่อการลดผลกระทบด้านลบสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) ในระบบที่ใช้หน่วยความจำแฟลชที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ผลิตภัณฑ์ MP3000 NVMe SSD ของ SMART Modular พร้อมระบบการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) จะช่วยลดอัตราความล้มเหลวต่อปีที่สูงถึง 17.5k/Mu (ล้านหน่วย) ลงเหลือน้อยกว่า 10/Mu และสามารถประหยัดต้นทุนการบริการที่อาจเกิดขึ้นได้หลายแสนเหรียญสหรัฐ โดยการรับประกันเวลาใช้งานโดยไม่มีการหยุดชะงักได้หลายร้อยชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับใช้งานแบบระยะไกลที่ยากในการซ่อมแซม

SMART’s MP3000 PCIe/NVMe and ME2 SATA product portfolios include SEU mitigation technology to protect against system failures in the field. (Photo: Business Wire)

กลุ่มผลิตภัณฑ์ MP3000 PCIe/NVMe และ ME2 SATA ของ SMART รวมถึงเทคโนโลยีการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) เพื่อปกป้องระบบเกิดความล้มเหลวในการดำเนินการ (ภาพถ่าย: Business Wire)

“ไดรฟ์บูต SATA และ PCIe ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมของเราสามารถช่วยลดอัตราความล้มเหลวต่อไปได้สูงถึง 99.7% โดยการกู้คืนข้อมูลจากข้อผิดพลาดเล็กน้อยเนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว” Satya Iyer รองประธานฝ่ายหน่วยความจำพิเศษของ SMART กล่าว “ในแอปพลิเคชันเครือข่ายและโทรคมนาคมในสถานที่ห่างไกลและยากในการเข้าถึงบริการ การแก้ไขปัญหาสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) และความสามารถในการกู้คืนข้อมูลจากข้อผิดพลาดเล็กน้อยสามารถสร้างความแตกต่างสำหรับระบบที่มีความต้องการสูงและต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา 24/7 ทุกวัน”

SEU เป็นการเปลี่ยนแปลง “สถานะบิต” ที่เกิดขึ้นในระบบดิจิทัล เมื่อนิวตรอนพลังงานสูง หรืออนุภาคอัลฟ่า เข้าโจมตีแบบสุ่มและทำให้บิตในหน่วยความจำ ซึ่งเป็นส่วนประกอบทางตระกะ พลิกเปลี่ยนสถานะ โดยอนุภาคพลังงานสูงเหล่านี้สามารถก่อกำเนิดจากพื้นดินหรือนอกโลก เช่น รังสีคอสมิก SEU สามารถนำไปสู่การทำงานที่ผิดปกติของระบบดิจิทัลหรือทำให้ระบบทั้งหมดล้มเหลว ความสามารถในการจัดการกับข้อผิดพลาดหรือความขัดข้องเหล่านี้ภายใน SSD จะช่วยให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้โดยไม่จำเป็นค้องรีบูตทั้งระบบ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินงานที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก

เทคโนโลยีการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (SEU) นั้นเหนือกว่าโซลูชันอื่นๆ ที่ ECC สำหรับ SRAM ภายใน ด้วยความสามารถในการรีบูตตัวเองโดยไม่ต้องรีบูตระบบโฮสต์ SSD ยังสามารถรับมือกับบิตที่เปลี่ยนแปลงในส่วนประกอบอื่นๆ ภายใน SSD ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดความล้มเหลวได้เพิ่มเติม 10% โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการเวลาพร้อมใช้งานสูงสุด ไดร์ฟบูตพร้อมการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเหล่านี้มาพร้อมความจุในการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ 60GB ถึง 1.92TB และมีพร้อมจำหน่ายในเกรดอุณหภูมิเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

ไดร์ฟ ME2 SATA M.2 และ mSATA พร้อมการแก้ไขปัญหา SEU มาพร้อมความจุในการจัดเก็บข้อมูลขนาด 60GB ถึง 1.92TB และพร้อมจำหน่ายในเกรดเชิงพาณิชย์ (อุณหภูมิการทำงาน: 0 ถึง 70°C) และเกรดอุตสาหกรรม (อุณหภูมิการทำงาน: -40 ถึง 85°C) M.2 2280 ยังรองรับการป้องกันข้อมูลสูญเสียพลังงาน SafeDATA™

ไดรฟ์ MP3000 NVMe PCIe พร้อมการแก้ไขปัญหา SEU มาพร้อมความจุในการจัดเก็บข้อมูลขนาด 80GB ถึง 1.92TB ในรุ่นแฟคเตอร์ M.2 2280, M.2 22110 และ E1.S และพร้อมจำหน่ายในเกรดอุณหภูมิเชิงพาณิชย์ (อุณหภูมิการทำงาน: 0 ถึง 70°C) และเกรดอุณหภูมิอุตสาหกรรม (อุณหภูมิการทำงาน: -40 ถึง 85°C) รวมถึงการรองรับการป้องกันข้อมูลสูญเสียพลังงาน SafeDATA™ ด้วยเช่นกัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของ SMART

รูปแบบตัวหนังสือ “S” และ “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies, Inc.

เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในการคงความสามารถการปฏิบัติงานด้านการประมวลผลที่สูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงสำหรับโซลูชันหน่วยความจำแบบพิเศษ ผลงานที่โดดเด่นของเราครอบคลุมทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแฟลชและ DRAM แบบมาตรฐานและรุ่นเก่า โดยเรามีการนำเสนอโซลูชันหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูลมาตรฐาน ทนทาน และปรับตามความต้องการเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการขยายตัวสูง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54122695/en

ติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Ed Cuellar
SMART Modular Technologies
Director, Flash Product Marketing
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
ed.cuellar@smartm.com

ติดต่อฝ่ายสื่อ
John Crook
SMART Modular Technologies
Marketing Communications
+1 (510) 474 8326
john.crook@smartm.com

Maureen O’Leary
SGH/Penguin Solutions
Director, Communications
+1 (602) 330-6846
pr@sghcorp.com

แหล่งข้อมูล: SMART Modular Technologies, Inc.

สตาร์ตอัปของอดีตผู้บริหาร Google อย่าง Crackle Technologies ในสิงคโปร์ ซึ่งมุ่งเน้นบริษัทผู้เผยแพร่ ระดมทุนได้ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพลิกโฉมเทคโนโลยีการโฆษณาด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–11 กันยายน 2024

Crackle Technologies ระดมทุนช่วงทดสอบไอเดียได้ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AI ในการช่วยให้ผู้เผยแพร่เพิ่มรายได้จากเทคโนโลยีการโฆษณาของตนให้ได้มากที่สุด รอบการระดมทุนนี้นำดำเนินการโดย We Founder Circle และ AC Ventures ผู้ลงทุนรายอื่นที่เข้าร่วม ได้แก่ ผู้ก่อตั้ง Impetus Technologies, Sunicon Ventures, Global DeVC และ Misfits Capital ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ก่อตั้งบริษัทเผยแพร่ชั้นนำอย่าง Ludo King, Dainik Jagran, Amar Ujala และรายอื่น ๆ ก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อทีมงาน Crackle ผ่านการร่วมเป็นผู้ลงทุนด้วยเช่นกัน ซึ่ง Crackle จะขยายขอบเขตการดำเนินงานไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมุ่งเน้นที่เวียดนามและอินโดนีเซีย

Crackle Co-Founders (L-R) Harsh Mittal, Shashank Dudeja and Jaivir Singh Nagi (Photo: Business Wire)

ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle (จากซ้ายไปขวา) Harsh Mittal, Shashank Dudeja และ Jaivir Singh Nagi (รูปภาพ: Business Wire)

เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเป็นหลัก รวมถึงขยายการดำเนินงานทั่วโลกเพื่อสนับสนุนผู้เผยแพร่รายต่าง ๆ ในด้านเกม แอป ข่าว และ OTT (ผ่านการจัดการปัญหาสำคัญ ซึ่งรวมถึง Fill Rate ที่ต่ำ และ eCPM) เทคโนโลยีอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ Crackle ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและการจำลองโมเดลเชิงคาดการณ์ขั้นสูงเพื่อยกระดับรายได้จากโฆษณาของผู้เผยแพร่ รวมถึงจัดการขั้นตอนการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ และส่งมอบประสบการณ์ที่ชั้นเลิศให้แก่ผู้ใช้

Crackle มีการก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้บริหาร Google สามราย ได้แก่ Harsh Mittal, Shashank Dudeja และ Jaivir Singh Nagi โดยทั้งสามมีประสบการณ์รวมกันถึง 18 ปีในอุตสาหกรรมการสร้างรายได้สำหรับผู้เผยแพร่ ซึ่งจากประสบการณ์ระดับมืออาชีพนี้ เหล่าผู้ก่อตั้งได้บริหารจัดการเงินหลายพันล้านในด้านรายได้จากโฆษณาและช่วยให้ผู้เผยแพร่หลายรายขยับขยายการสร้างรายได้จากโฆษณาของตนได้ถึง 10 เท่าด้วยการใช้นวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมหลายรายการ โดย Crackle มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้เผยแพร่เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของตนให้ได้มากที่สุดและสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน

Vikash Jaiswal ผู้สร้าง Ludo King ยอดนิยมที่มียอดการดาวน์โหลดกว่า 1 พันล้านครั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนว่า “ประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากโฆษณาในเกมของทีมผู้ก่อตั้งส่งผลให้ Crackle อยู่ในระดับแนวหน้าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการโฆษณา ผมเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางของพวกเขา”

Jaivir ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle แสดงความขอบคุณต่อความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากผู้ลงทุน โดยกล่าวเสริมว่า “เงินทุนนี้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันพันธกิจของเรา เพื่อเพิ่มรายได้ของผู้เผยแพร่ให้ได้มากที่สุดและส่งเสริมระบบนิเวศอันประกอบไปด้วยเนื้อหาที่หลากหลายซึ่งกำลังเติบโตก้าวหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อให้โลกอินเทอร์เน็ตน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนต่อไป”

Harsh ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle ระบุเพิ่มเกี่ยวกับการขยายการดำเนินงานไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า “แวดวงเทคโนโลยีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพร้อมสำหรับนวัตกรรม เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับผู้พัฒนาเกมและแอปเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของผู้พัฒนาด้วยโซลูชันเทคโนโลยีการโฆษณาของเรา”

นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2023 ทาง Crackle ได้รับความสนใจอย่างมากผ่านการสร้างผลตอบแทนจำนวนมากให้กับผู้เผยแพร่ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราการสร้างรายได้ต่ำและการครอบครองตลาดของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรายใหญ่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54119780/en

ข้อมูลติดต่อ

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ Shashank Sethi ที่ shashank.sethi@ihorizoncommunications.com

แหล่งที่มา: Crackle Technologies

SMART Modular Technologies เปิดตัว DDR5 RDIMM ที่มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบจมใต้น้ำ

Logo

กระบวนการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์จะปกป้องแผงวงจรจากการกัดกร่อน รวมถึงเพิ่มเสถียรภาพและลดต้นทุนสำหรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล

นวร์ก, แคลิฟอร์เนีย –(BUSINESS WIRE)–13 สิงหาคม 2024

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) แผนกหนึ่งของ SGH (Nasdaq: SGH) และผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ โซลิดสเตตไดรฟ์ และหน่วยความจำขั้นสูง ได้เปิดตัวสายสินค้า DDR5 Registered DIMM (RDIMM) ใหม่ที่มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์ ซึ่งออกแบบมาสำหรับใช้งานในเซิร์ฟเวอร์แบบจมใต้น้ำโดยเฉพาะ สายสินค้าล้ำนวัตกรรมนี้ผสมผสานสมรรถนะเหนือระดับของเทคโนโลยี DDR5 พร้อมการปกป้องประสิทธิภาพสูง จึงรับรองเสถียรภภาพและอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมศูนย์ข้อมูลที่มีความต้องการสูงสุดได้

SMART Modular's RDIMMs with conformal coating protects modules used in liquid immersion servers which leads to higher reliability and reduced costs for data center applications. (Graphic: Business Wire)

RDIMM ของ SMART Modular มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์เพื่อปกป้องแผงวงจรที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์แบบจมใต้น้ำ ทำให้มีเสถียรภาพสูงขึ้นและลดต้นทุนสำหรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล (กราฟิก: Business Wire)

Arthur Sainio ผู้อำนวยการกลุ่มสินค้า DRAM จาก SMART อธิบายความสำคัญของการเปิดตัวนี้ว่า “DDR5 RDIMM ใหม่ของเรามาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์ ซึ่งเป็นการผสมผสานสมรรถนะล้ำสมัยและเสถียรภาพอันเหนือชั้นสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ที่ระบายความร้อนใต้น้ำได้อย่างลงตัว ด้วยการนำเอาความเร็วและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี DDR5 มารวมเข้ากับการเคลือบป้องกันขั้นสูง เราจึงสามารถช่วยให้ลูกค้ายกระดับเพดานของพลังในการประมวลผล พร้อมกับรับรองความทนทานระยะยาวในสภาพแวดล้อมการใช้งานใต้น้ำ สินค้ากลุ่มนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมและแรงผลักดันของเราเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”

ต่อไปนี้คือข้อดีสามประการของการออกแบบ DDR5 RDIMM ที่มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์

  1. ป้องกันการกัดกร่อน – การเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์สามารถป้องกันการกัดกร่อนได้โดยการปกป้องส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนจากสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนและให้การป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อม เช่น ปฏิกิริยาออกซิเดชัน อีกหนึ่งชั้น จึงยืดอายุการใช้งานของแผงวงจรหน่วยความจำได้
  2. ลดการบำรุงรักษา – การเคลือบแผงวงจรมีส่วนช่วยในด้านการบำรุงรักษา เนื่องจากการป้องกันการกัดกร่อนประสิทธิภาพสูง ทำให้มีเสถียรภาพสูงขึ้นและลดต้นทุนด้านการบำรุงรักษา
  3. เสถียรภาพทางความร้อน – การเคลือบแผงวงจรด้วยฟิล์มโพลีเมอร์ช่วยมอบเสถียรภาพทางความร้อน ซึ่งเหมาะสมกับระบบระบายความร้อนแบบจมใต้น้ำโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้รับความนิยมในด้านประสิทธิภาพและความทนทานอีกด้วย ระบบระบายความร้อนแบบจมใต้น้ำมีความร้อนแวดล้อมที่คงที่ จึงลดความเสี่ยงของการสะสมความร้อนและปรับปรุงเสถียรภาพโดยรวมของระบบ

DDR5 RDIMM ที่มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์ของ SMART ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณที่มีความต้องการสูงสุด ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (ML), การประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) และการวิเคราะห์ฐานข้อมูลปริมาณสูง โดยรองรับสูงสุด 256GB ต่อแผงวงจร และแผงวงจรเหล่านี้ยังเหมาะสมกับการใช้งานในเซิร์ฟเวอร์แบบจมใต้น้ำ ซึ่งจำเป็นต้องมีความจุหน่วยความจำและรองรับปริมาณข้อมูลสูง

DDR5 RDIMM ที่มาพร้อมกับการเคลือบฟิล์มโพลีเมอร์ของ SMART จะวางจำหน่ายทันทีผ่านเครือข่ายการขายทั่วโลกของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า RDIMM แบบจมใต้น้ำของ SMART

*ตัวอักษร “S” ที่มีรูปแบบเฉพาะและ “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies, Inc.

เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในด้านการประมวลผลสมรรถนะสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และการบรรจุโซลูชันหน่วยความจำเฉพาะทางขั้นสูง สินค้ามากมายของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีล้ำสมัยของยุคนี้ไปจนถึงสินค้าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล DRAM และ Flash แบบมาตรฐานและดั้งเดิม เราจัดหาโซลูชันหน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐาน ทนทาน และแบบกำหนดเองที่ตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54108350/en

ข้อมูลติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายการตลาดสินค้า
Arthur Sainio
SMART Modular Technologies
Director, DRAM Product Marketing
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
arthur.sainio@smartm.com

ผู้ติดต่อฝ่ายสื่อ
John Crook
SMART Modular Technologies
Marketing Communications
+1 (510) 474 8326
john.crook@smartm.com

Maureen O’Leary
Penguin Solutions
Director, Communications
pr@sghcorp.com

ที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.

RunPod ระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐในการระดมทุน Seed ที่นําโดย Intel Capital และ Dell Technologies Capital

Logo

RunPod ผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกสําหรับแอปพลิเคชัน AI กําลังดึงดูดนักพัฒนาจากหลากหลายอุตสาหกรรม และเร่งการเติบโตของแพลตฟอร์ม

MT. LAUREL, N.J.–( BUSINESS WIRE)–08 พฤษภาคม 2024

RunPod ซึ่งเป็น Launchpad ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับใช้แอปพลิเคชัน AI แบบฟูลสแตกแบบกําหนดเอง ประกาศในวันนี้ว่าได้ระดมทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการระดมทุน Seed ซึ่งนําโดย Intel Capital และ Dell Technologies Capital โดยมีความร่วมมือจาก Julien Chaummond, Nat Friedman และ Adam Lewis ร่วมกับการจัดหาเงินทุน Mark Rostick รองประธานและกรรมการผู้จัดการอาวุโสของ Intel Capital จะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของ RunPod

RunPod เป็นบริการประมวลผลบนคลาวด์ GPU ที่กระจายทั่วโลกสําหรับการฝึกอบรม การปรับใช้ และการปรับขนาดโมเดล AI ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์หลักสองรายการของ RunPod ได้แก่ GPU Cloud และ Serverless นักพัฒนาสามารถหมุนอินสแตนซ์ GPU ตามความต้องการได้ในไม่กี่คลิก และสร้างจุดสิ้นสุด API ที่ปรับขนาดอัตโนมัติสําหรับการอนุมานแบบปรับขนาดบนโมเดล AI ในการผลิต

“ความสามารถในการสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชัน AI ในวงกว้างจะเป็นสิ่งสําคัญยิ่งต่อการนําไปใช้และการใช้งาน” Amjad Masad นักลงทุน RunPod กล่าว “ทีม RunPod ได้ให้ความสําคัญกับประสบการณ์นักพัฒนาอย่างชัดเจน เพื่อสร้างโซลูชันที่สวยงามซึ่งช่วยให้บุคคลสามารถพัฒนาแอป AI ที่กําหนดเองได้อย่างรวดเร็ว หรือการบูรณาการ ในขณะเดียวกันก็ปูทางให้องค์กรต่างๆ สามารถปฏิบัติตามคํามั่นสัญญาของ AI ได้อย่างแท้จริง”

RunPod ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเรียกใช้เวิร์กโหลด GPU ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การทํางานของแมชชีนเลิร์นนิงน้อยลง และให้ความสําคัญกับการสร้างแอปพลิเคชันมากขึ้น ความสามารถเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นประโยชน์สําหรับนักพัฒนาและส่งผลให้ RunPod ขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยการเติบโตของรายได้ 10 เท่าทุกปี

“RunPod เริ่มต้นจากการเป็นสนามเด็กเล่นสําหรับนักพัฒนาและนักนวัตกร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาไปทําวิจัย พัฒนา และปรับแต่งโครงการของพวกเขา ตอนนี้มีชุมชนนักพัฒนามากกว่า 100,000 คน” Zhen Lu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ RunPod กล่าว “เราเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะ RunPod สร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างการให้อิสระแก่นักพัฒนา ในการเปิดตัวสิ่งที่พวกเขาต้องการ ในขณะที่ยังคงมีโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือที่จําเป็นเพื่อช่วยในการปรับแต่ง การพัฒนา และการปรับใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง”

การเกิดขึ้นของปริมาณงานเฉพาะด้าน AI ทําให้เกิดความต้องการด้านการคํานวณที่เพิ่มขึ้น เมื่อโซลูชั่นท่ใช้งานได้จริงแล้ว แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งานทันที จะไม่คุ้มค่าหรือเร็วพอที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างแบบกําหนดเองได้อีกต่อไป ด้วย RunPod นักพัฒนาสามารถพัฒนา ฝึกอบรม ปรับขนาด และเปิดตัวแอปพลิเคชัน AI แบบฟูลสแตกแบบกําหนดเอง หรือการบูรณาการในระบบคลาวด์ในระดับโลกได้อย่างน่าเชื่อถือและง่ายดาย

“RunPod เติบโตอย่างรวดเร็วทั้งฐานลูกค้าและรายได้ ด้วยการนําเสนอแพลตฟอร์มที่กว้างขวาง รวดเร็ว และใช้งานง่าย ซึ่งตอบสนองความต้องการของนักพัฒนาและแอปพลิเคชันโมเดลสามมิติของพวกเขา” Mark Rostick รองประธานและหุ้นส่วนผู้จัดการอาวุโสของ Intel Capital กล่าว “ผมได้ดูโมเมนตัมของ RunPod ตั้งแต่สตาร์ทอัพขนาดเล็กที่นำเสนอระบบนิเวศให้กับนักพัฒนาแต่ละราย เพื่อเริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาไปจนถึงข้อเสนอแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ ที่ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถปรับขนาดผลิตภัณฑ์และโซลูชันคุณภาพสูงที่กําหนดเองได้”

การเติบโตอย่างรวดเร็วและการยอมรับของนักพัฒนาทําให้เกิดความจําเป็นในการขยายทีมเกือบ 10 เท่าในปีที่ผ่านมา โดยสร้างตัวเองให้เป็นผู้นําในการบุกเบิกการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย GPU AI แพลตฟอร์มดังกล่าวเพิ่งเปิดตัวความสามารถในการปรับใช้อินสแตนซ์การประมวลผลของ CPU ซึ่งเป็นก้าวสําคัญในการสร้างโซลูชันระบบคลาวด์แบบองค์รวม การระดมทุน Seed นี้จะช่วยให้ RunPod สามารถยกระดับชีวิตประจําวันของนักพัฒนา สร้างพันธมิตรใหม่และการบูรณาการ เพื่อประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น และนําเสนอรากฐานที่สมบูรณ์แบบสําหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน สําหรับการพัฒนาโมเดล AI แบบกําหนดเอง

“ในขณะที่องค์กรปรับใช้แอปพลิเคชัน AI ในการผลิตมากขึ้น กุญแจสู่ความสําเร็จคือการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และปรับขนาดได้ นี่คือสิ่งที่ Zhen, Pardeep และทีมงานสร้างขึ้นด้วยแพลตฟอร์ม RunPod” Radhika Malik หุ้นส่วนของ Dell Technologies Capital กล่าว “พวกเขามุ่งมั่นที่จะรักษาประสบการณ์การพัฒนาเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่พวกเขาทํา ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเชิงบวกอย่างท่วมท้นจากชุมชน และการเติบโตของผู้ใช้ที่น่าประทับใจและยั่งยืน”

เกี่ยวกับ RunPod:

RunPod เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ GPUที่กระจายทั่วโลก ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับใช้แอปพลิเคชัน AI แบบฟูลสแตกแบบกําหนดเองได้ง่ายๆ ทั่วโลก และในวงกว้าง ด้วยข้อเสนอหลักของ RunPod อินสแตนซ์ GPU และ GPU แบบไร้เซิร์ฟเวอร์ นักพัฒนาสามารถพัฒนา ฝึกฝน และปรับขนาดแอปพลิเคชัน AI ในระบบคลาวด์เดียวภายในไม่กี่วินาที RunPod มุ่งมั่นที่จะทําให้การประมวลผลบนคลาวด์สามารถเข้าถึงได้และราคาไม่แพง โดยไม่กระทบต่อคุณสมบัติ การใช้งาน หรือประสบการณ์ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับบุคคลและองค์กรด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย  ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกศักยภาพของ AI และการประมวลผลบนคลาวด์ได้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ RunPod โปรดไปที่ https://www.runpod.io/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Chris Love
press@runpod.io

ที่มา: RunPod

SMART Modular Technologies เปิดตัวการ์ดเสริม CXL ตระกูลใหม่สําหรับการขยายหน่วยความจําในเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง

Logo

Add-in Cards CXL ของ SMART ช่วยให้ศูนย์ข้อมูล บริการคลาวด์ และผู้ให้บริการ HPC สามารถขยายความจุหน่วยความจําสําหรับแอปพลิเคชันการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจํามากได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า

นวร์ก แคลิฟอร์เนีย

SMART Modular Technologies เปิดตัวโมดูลหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ที่มีประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือสูงพิเศษสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสมรรถนะสูง

Logo

นวร์ก แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–03 เมษายน 2024

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) หรือแผนกของ SGH (Nasdaq: SGH) ร่วมกับผู้นำโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลไฮบริด เปิดตัวโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำ  หรือแรมที่ใช้โมดูลแบบ Zefr™ ZDIMM™ โมดูล ZDIMM เหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่มีการใช้งานหน่วยความจำขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรทุกส่วนของแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจัยสำคัญสำหรับศูนย์ข้อมูลคือประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือของหน่วยความจำ เพราะหากเกิดเหตุระบบขัดข้อง ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา โมดูล ZDIMM มีลักษณะของเมนบอร์ด (Form factor) ทั้งในรูปแบบ DDR4-3200 และ DDR5-5600 และในรูปแบบดิสก์ความหนาแน่นสูง (HD) ให้บริการ

SMART Modular’s Zefr ZDIMM ultra-high reliability memory modules are ideally suited for data centers, hyperscalers, high performance computing (HPC) platforms and other environments that run large memory applications. (Photo: Business Wire)

มดูลหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ที่มีความน่าเชื่อถือสูงเป็นพิเศษของ SMART Modular เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูล ไฮเปอร์สเกลเลอร์ แพลตฟอร์มการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่ใช้งานแอปพลิเคชันหน่วยความจำขนาดใหญ่ (รูปภาพ: Business Wire)

โมดูล ZDIMM ใช้การประมวลผลหน้าจอ Zefr ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ SMART ซึ่งให้ประสิทธิภาพของช่วงเวลาที่ระบบทำงานและความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด โดยทั่วไปจะสามารถทำงานได้ดีกว่าหน่วยความจำโมดูลมาตรฐานอุตสาหกรรมถึง 90%  โมดูล ZDIMM จะทำงานผ่านการประมวลผลหน้าจอที่จำลองสภาวะโลกจริง ซึ่งเป็นการรับรองถึงความทนทานและความสามารถในการกลับคืนสู่การทำงานปกติของโมดูล ZDIMM สำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสมรรถนะสูง

“จำนวนของเสียต่อการผลิตหนึ่งล้านชิ้น หรือ DPPM ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับโมดูล DRAM อยู่ในช่วง 3,000 ถึง 5,000 ชิ้น สำหรับโมดูล Zefr ZDIMM จะมี DPPM อยู่ในช่วง 200 ถึง 300 ชิ้น ประสิทธิภาพความน่าเชื่อถือสูงพิเศษนี้มีค่ามากต่อสภาพแวดล้อมที่การประมวลผลข้อมูลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด โดยช่วงเวลาที่ระบบทำงานมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดและค่าความเสียหายจากช่วงเวลาที่ระบบขัดข้องสามารถเพิ่มขึ้นสูงได้อย่างรวดเร็ว” Tom Quinn รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ SMART กล่าว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยความจำ Zefr ZDIMM ของ SMART โปรดดูที่ DDR4 ZDIMM และ DDR5 ZDIMM ดูที่ smartm.com หรือติดต่อ info@smartm.com

Zefr, ZDIMM, รูปแบบอักษร “S” และ “SMART” รวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่น ทั้งหมดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองเครื่องหมายนั้น

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

เป็นเวลามากกว่า 30 ปีที่ SMART Modular Technologies ช่วยให้ลูกค้าจากทั่วโลกได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และการนำเทคโนโลยี advanced packaging มาใช้ในโซลูชันอุปกรณ์หน่วยความจำที่ใช้ความชำนาญพิเศษ ผลงานอันโดดเด่นของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีชั้นนำที่ทันสมัย ไปจนถึงผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแฟลชและ DRAM ที่มีมาก่อนหน้า เราให้บริการโซลูชันสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและหน่วยความจำที่ได้มาตรฐาน ทนทานและสามารถปรับให้เหมาะสมได้ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการการใช้งานที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูงได้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53915134/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Arthur Sainio
Director, DRAM Product Marketing
SMART Modular Technologies
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
+1 (510) 364-3647
info@smartm.com

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์
John Crook
Sr. Marketing Communications Specialist
SMART Modular Technologies
John.Crook@smartm.com

ที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.

เปิดตัวเทคโนโลยีลมที่ล้ำสมัยของ Cargill และ BAR Technologies กำหนดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมการเดินเรือแบบคาร์บอนต่ำ

Logo

นวัตกรรมความร่วมมือระหว่าง Cargill, BAR Technologies, Mitsubishi Corporation และ Yara Marine Technologies เพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของเรือบรรทุกสินค้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2023

BAR Tech WindWings โดย Yara Marine นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Cargill และ BAR Technologies ได้ออกเดินทางในน่านน้ำเปิด เพื่อทดสอบเทคโนโลยีใหม่ที่นำระบบขับเคลื่อนลมที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก

Cargill and BAR Technologies’ ground-breaking wind technology sets sail, chartering a new lower-carbon path for the maritime industry. (Photo: Business Wire)

เปิดตัวเทคโนโลยีลมอันล้ำสมัยของ Cargill และ BAR Technologies กำหนดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมการเดินเรือแบบคาร์บอนต่ำ (ภาพ: Business Wire)

Pyxis Ocean ของบริษัท Mitsubishi Corporation ซึ่งเช่าเหมาลำโดย Cargill เป็นเรือลำแรกที่ติดตั้ง WindWings สองใบ ซึ่งเป็นใบเรือขนาดใหญ่ที่มีความสูง 37.5 เมตร สามารถติดตั้งบนดาดฟ้าของเรือบรรทุกสินค้าเพื่อควบคุมพลังลมได้ คาดว่า WindWings ที่ผลิตโดย Yara Marine Technologies พันธมิตรด้านอุตสาหกรรมของ Cargill จะประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับเรือต่อใหม่ ซึ่งอาจสูงกว่านี้หากใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงทางเลือก การติดตั้งใบเรือดังกล่าวได้ดำเนินการที่อู่ต่อเรือ COSCO ในประเทศจีน และ Pyxis Ocean ก็ได้ล่องลงสู่มหาสมุทรเพื่อออกเดินทางเป็นครั้งแรก

Jan Dieleman ประธานธุรกิจการขนส่งทางทะเลของ Cargill กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการเดินเรือกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อลดปริมาณคาร์บอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ที่ Cargill เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการบุกเบิกโซลูชันการลดคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและความต้องการของโลก ซึ่งเทคโนโลยีอย่าง WindWings ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน แต่ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมและผู้ที่ร่วมมือกับเจ้าของเรือที่มีวิสัยทัศน์อย่าง Mitsubishi Corporation เราไม่กลัวที่จะลงทุน กล้าเสี่ยง และเปิดเผยการเรียนรู้ของเราเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรของเราในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน”

การติดตั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายทางพลังงานสำหรับเรือที่มีอยู่ โครงการ WindWings ซึ่งได้รับการร่วมทุนจากสหภาพยุโรปโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CHEK Horizon 2020 สามารถช่วยให้อุตสาหกรรมบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นโดยนำเสนอโซลูชันการปรับปรุงใหม่ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนจากเรือที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือบรรทุกสินค้าทั่วโลกที่มีอายุไม่เกินเก้าปีที่คิดเป็น 55%

ประสิทธิภาพของ WindWings จะได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อปรับปรุงการออกแบบ การดำเนินงาน และประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายว่าจะใช้ Pyxis Ocean เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการขยายขนาดและการนำไปใช้ในกองเรือของ Cargill และในอุตสาหกรรม BAR Technologies และ Yara Marine Technologies กำลังวางแผนที่จะสร้างใบเรืออีกหลายร้อยใบในอีกสี่ปีข้างหน้า และ BAR Technologies กำลังทำการวิจัยการต่อเรือรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบตัวถังแบบไฮโดรไดนามิกที่ดีขึ้น

“หากการเดินเรือระหว่างประเทศต้องการบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซ CO2 นวัตกรรมจะต้องเป็นหัวใจหลัก พลังงานลมเป็นเชื้อเพลิงที่แทบไม่มีต้นทุนและมีโอกาสมากในการลดการปล่อยมลพิษควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนการเดินเรืออย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของการบุกเบิกการวิจัยเป็นเวลาหลายปีของเรา ซึ่งเราได้ลงทุนในเทคโนโลยีใบเรือที่ไม่เหมือนใคร และแสวางหาพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญของ Yara Marine Technologies เพื่อให้เจ้าของเรือและผู้ให้บริการเรือได้รับโอกาสในการตระหนักถึงประสิทธิภาพเหล่านี้” John Cooper ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BAR Technologies กล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ WindWing

  • โครงการ WindWing เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการวิจัยและนวัตกรรม Horizon 2020 ของสหภาพยุโรป ภายใต้ข้อตกลงการให้ทุนหมายเลข 955286
  • การควบคุมพลังลมของ WindWings สามารถช่วยเจ้าของเรือให้ปฏิบัติตามกฎ CII ใหม่ได้ เนื่องจากพลังงานลมเป็นพลังงานที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ไม่หมดสิ้น และมีความแน่นอนอย่างมาก จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนการเดินเรือได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • ในเส้นทางทั่วโลกโดยเฉลี่ย WindWings สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 1.5 ตันต่อวัน และมีความเป็นไปได้ที่จะประหยัดได้มากขึ้นสำหรับเส้นทางข้ามมหาสมุทร ซึ่งหมายความว่าเจ้าของเรือสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงหนัก (HFO) ได้ถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งจะยิ่งสำคัญมากขึ้นในการประหยัดเชื้อเพลิงในอนาคตซึ่งจะแพงขึ้นอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับ Cargill

Cargill ทำงานด้านระบบอาหารของโลกเพื่อคุณ เราเชื่อมต่อเกษตรกรกับตลาด ลูกค้ากับวัตถุดิบ และครอบครัวกับสิ่งจำเป็นประจำวัน ตั้งแต่อาหารที่เรากินไปจนถึงพื้นที่เราเดิน พนักงานกว่า 160,000 คนของเราทั่วโลก สร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยจุดมุ่งหมาย ส่งเสริมพันธมิตรและชุมชนของเราในขณะที่เราทำงานเพื่อหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีที่ปลอดภัย รับผิดชอบ และยั่งยืน

ศักยภาพของเรานั้นไร้ขอบเขต ตั้งแต่อาหารที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนไปจนถึงเชื้อเพลิงหมุนเวียนจากของเสีย ค่านิยมของเราไม่เคยเปลี่ยนไป เราให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก เราพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุด เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง นั่นคือวิธีที่เราได้ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่เราเรียกว่าเพื่อนบ้านและโลกที่เราเรียกว่าบ้านมาเป็นเวลา 158 ปี และเราจะทำเช่นนั้นต่อไปในอนาคต สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cargill.com และศูนย์ข่าวสารของเรา

เกี่ยวกับ BAR Technologies

BAR Tech เป็นบริษัทที่ให้บริการคำปรึกษาด้านวิศวกรรมและด้านการออกแบบที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียง เดิมทีบริษัทก่อตั้งขึ้นโดย America’s Cup Team ของอังกฤษ และปัจจุบันให้บริการแก่ลูกค้าในหลากหลายภาคส่วน ได้แก่ เรืองานและเรือพาณิชย์ การขนส่ง โครงการพิเศษ รวมถึงเรือสำราญและเรือยอทช์

BAR Technologies มีทีมนักสถาปัตยกรรมทางเรือและผู้เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มประสิทธิภาพชั้นนำของโลกที่ประสานงานกันอย่างดีเยี่ยม ประกอบด้วย นักพลศาสตร์ของไหล วิศวกรเครื่องกล วิศวกรโครงสร้างและวิศวกรวัสดุคอมโพสิต ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การควบคุมและระบบ วิศวกรข้อมูลและวิศวกรจำลอง โดยใช้เครื่องมือออกแบบเฉพาะภายในที่เข้าถึงความรู้เชิงพาณิชย์ล่าสุด

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.bartechnologies.uk/

เกี่ยวกับ Yara Marine Technologies

Yara Marine (YMT) ให้บริการเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุตสาหกรรมการเดินเรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2010 YMT เป็นแนวหน้าในการลดการปล่อยมลพิษทางทะเล โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าของเรือ อู่ต่อเรือ และสถาปนิกเรือในฐานะพันธมิตรด้านความพยายามของเราในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่การขนส่งที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Yara Marine นำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องขัดผิว SOx ระบบเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิง – FuelOpt และ Fleet Analytics โซลูชันพลังงานชายฝั่งแบบเบ็ดเสร็จ และระบบ WindWings ที่ทันสมัยและช่วยขับเคลื่อนด้วยลม Yara Marine มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ออสโล ประเทศนอร์เวย์ และมีสำนักงานในสวีเดน โปแลนด์ และจีน

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.yaramarine.com หรือติดตาม YMT บน LinkedIn

เกี่ยวกับ Mitsubishi Corporation

สำนักงานใหญ่: 3-1, Marunouchi 2-Chome, Chiyoda-ku, Tokyo, 100-8086, Japan

ตัวแทน: Katsuya Nakanishi กรรมการตัวแทน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

วันที่ก่อตั้ง: 1 กรกฎาคม 1954 (วันที่จดทะเบียน 1 เมษายน 1950)

การดำเนินงานหลัก: MC ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายในหลายอุตสาหกรรมและอยู่ภายใต้การดูแลของ Industry DX Group, Next-Generation Energy Business Group และ 10 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ วัสดุอุตสาหกรรม โซลูชันเคมีภัณฑ์ ทรัพยากรแร่ โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม ยานยนต์และระบบขับเคลื่อน อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมผู้บริโภค โซลูชันพลังงาน และการพัฒนาเมือง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53531038/en

ติดต่อ

Nicole Marlor, media@cargill.com

แหล่งที่มา: Cargill

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





SMART Modular Technologies เปิดตัว PCIe NVMe โซลิดสเทตไดรฟ์รุ่นใหม่

Logo

SSD ตระกูล T6CN ใหม่ของ SMART ที่ให้การรองรับ PCIe Gen 4.0 นำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มราคาสำหรับแอปพลิเคชันด้านการป้องกัน อุตสาหกรรม และโทรคมนาคม

นิวไทเปซิตี้, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–19 เมษายน 2023 

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ SGH (Nasdaq: SGH) และผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ โซลิดสเทตไดรฟ์ และผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริด ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ PCIe NVMe SSD ตระกูล T6CN ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ SMART RUGGED

The T6CN family of SSD drives from SMART Modular RUGGED offers a high performance, cost competitive solution for defense, industrial and telecommunications applications. (Photo: Business Wire)

ไดรฟ์ SSD ตระกูล T6CN จาก SMART Modular RUGGED นำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มราคาสำหรับการใช้งานด้านการป้องกัน อุตสาหกรรม และโทรคมนาคม (ภาพ: Business Wire)

T6CN SSD ได้รับการออกแบบมาเพื่อความลงตัวระหว่าง SSD สำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงมาก และ SSD ที่มีความปลอดภัยสูงและทนทานสำหรับการใช้งานด้านการทหาร อุตสาหกรรม และโทรคมนาคม T6CN ที่คุ้มราคาวางจำหน่ายแล้วในฟอร์มแฟกเตอร์ M.2 2280, E1.S และ U.2 ทั้งหมดนี้รองรับเทคโนโลยี PCIe Gen 4.0 NVME มอบความเร็วในการอ่าน เขียน ถ่ายโอนข้อมูล และการทำงานที่เร็วกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี SSD ในปัจจุบัน

ความจุ SSD มีตั้งแต่ 960GB ถึง 3,840GB สำหรับ M.2, 960GB ถึง 7,680GB สำหรับ E1.S และ 960GB ถึง 16,360GB สำหรับเวอร์ชัน U.2 T6CN มีความเร็วในการอ่านแบบเรียงลำดับสูงถึง 3,500/s และความเร็วในการเขียนแบบเรียงลำดับสูงถึง 3,200MB/s และเป็นไปตามข้อกำหนดของ NVMe v1.4 เทคโนโลยีที่ใช้ Gen 4.0 ทำงานเร็วกว่าความเร็วของ SATA III แบบทวีคูณ

Mike Guzzo ผู้อำนวยการสายผลิตภัณฑ์ SMART RUGGED อธิบายถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ว่า “T6CN ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD ที่ทนทานของเราด้วยการเพิ่มโซลูชัน Gen 4.0 PCIe ที่เน้นเชิงพาณิชย์มากขึ้น ควบคู่กับแฟรช NAND รุ่นถัดไปสำหรับการใช้งานที่มีความจุมากขึ้น ” Guzzo กล่าวเสริมว่า “การปรับปรุงเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ผู้ออกแบบระบบได้รับประสิทธิภาพและความจุที่สูงขึ้นสำหรับความต้องการของระบบที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า”

SSD ตระกูล  T6CN มีวางจำหน่ายสำหรับสภาพอุณหภูมิพาณิชย์และอุตสาหกรรม SSD ผ่านการทดสอบการเบิร์นอิน 100% เพื่อจำลองสภาวะซึ่งมีเกรเดียนต์อุณหภูมิที่รุนแรง เพื่อให้ไดรฟ์ที่มีข้อบกพร่องถูกเปิดเผยและกำจัดออกไป นอกจากนี้ SSD ตระกูล T6CN ยังมีคุณสมบัติการแก้ไขข้อผิดพลาดที่มีพาริติเช็กความหนาแน่นต่ำ (LDPC) และสนับสนุนเทคโนโลยีการวิเคราะห์และการรายงานด้วยตนเอง (S.M.A.R.T.) เวอร์ชัน U.2 และ E1.S ยังมีการป้องกันไฟฟ้าขัดข้อง (pFail) ซึ่งปกป้องความสมบูรณ์และฟังก์ชันการทำงานของข้อมูลในกรณีที่ไฟดับกะทันหัน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดทางเทคนิคและข้อมูลการสั่งซื้อ โปรดไปที่ smartm.com

*สัญลักษณ์ “S” และ “SMART” และ “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

กว่า 30 ปีที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกให้สามารถดำเนินการประมวลผลประสิทธิภาพสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำพิเศษ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีระดับแนวหน้าในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์ DRAM และแฟลชสตอเรจมาตรฐานและรุ่นเก่า เราให้บริการหน่วยความจำและโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐาน ทนทาน และปรับแต่งได้ ซึ่งตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53383457/en

ติดต่อเรา

ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Michael Guzzo
SMART Modular Technologies
ผู้อำนวยการ, ผลิตภัณฑ์ RUGGED
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
info@smartm.com
(+1) 602-524-0299

ฝ่ายสื่อ
APAC
Morris Yang
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
+886 (2) 7705 2770
apac@smartm.com

ที่มา: SMART Modular Technologies, Inc.