Aesthetic Healthcare สร้างฐานที่มั่นคงเพื่อขยายธุรกิจสู่เอเชียและยกระดับความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานของ SBC ในตลาดโลก
SBC จะใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังด้านการดำเนินงานและดำเนินกลยุทธ์การเติบโตเพื่อขยายธุรกิจในแนวดิ่งและเข้าถึงภูมิภาคใหม่
TOKYO
SBC Medical Group Holdings Inc. รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024
เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2024
SBC Medical Group Holdings Incorporated (“SBC Medical” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้ดําเนินการ และผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการและผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์บำบัดความงามระดับโลก ในวันนี้ได้ประกาศงบการเงินก่อนตรวจสอบไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024
งบการเงินที่สำคัญไตรมาส 3 ปี 2024
- รายได้รวม ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
- รายได้รวม ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
- รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023
- ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
- รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 65.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
- ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
- EBITDA1 ซึ่งคํานวณโดยการนำค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายมาบวกกับรายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 EBITDA margin อยู่ที่ 42% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024
- รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
- รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 60% จาก 25 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
- จํานวนคลินิกพันธมิตร อยู่ที่ 224 แห่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 24 แห่งจากวันที่ 30 กันยายน 2023
1 EBITDA และ EBITDA Margin เป็นการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP (ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานบัญชี) สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP โปรดดูหัวข้อ “การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ” และตารางที่มีชื่อว่า “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP (ตามมาตรฐานบัญชี) และแบบ non-GAAP “
- จํานวนลูกค้า ในงวดสิบสองเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.3 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อปี) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิต่อปีที่เป็นของบริษัทหารด้วยค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 และ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 31% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- กําไรต่อหุ้น (พื้นฐาน) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิที่เป็นของบริษัทหารด้วยจํานวนหุ้นที่ชำระแล้วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 0.42 เหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
“การประกาศผลประกอบการครั้งแรกของเราในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสําคัญสําหรับ SBC Medical หลังจากประสบความสำเร็จในการควบรวมธุรกิจกับ Pono Capital Two แล้ว SBC Medical เริ่มซื้อขายบน Nasdaq ภายใต้สัญลักษณ์ 'SBC' เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2024” Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBC Medical กล่าว “ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 161 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 59% เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเรา เช่น การปรับโครงสร้างค่าสิทธิและการขยายเครือข่ายคลินิก นอกจากนี้ ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินสด 137 ล้านเหรียญสหรัฐ เราจึงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยมีนโยบายเงินทุนที่ชัดเจน เราให้ความสําคัญกับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างยิ่ง และยังคงให้ความสําคัญกับมูลค่าของผู้ถือหุ้นต่อไปผ่านผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วยการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนต่อเชิงกลยุทธ์ และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นทุกคนรวมถึงนักลงทุนรายย่อยของเรา จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตและความสําเร็จของเรา”
งบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024
รายได้รวมในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 รายได้รวมในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทเริ่มเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าจากคลินิกแฟรนไชส์ของเรา และเนื่องจากการขยายของจํานวนคลินิกแฟรนไชส์ของเรา ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 118% จาก 13 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น
EBITDA ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% จาก 56.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ แต่หักล้างไปบางส่วนด้วยค่าปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ EBITDA ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 14.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 36% จาก 23.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น
รายได้สุทธิในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 24.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้รวม แต่หักล้างไปบางส่วนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมด รายได้สุทธิในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8.1 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023 การลดลงมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่สูงขึ้น
ข้อมูลกระแสเงินสดและสภาพคล่องที่สำคัญ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 SBC Medical ยังคงรักษาสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวม 137.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 103.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างเงินสดที่แข็งแกร่งจากกิจกรรมดําเนินงาน การจัดการการลงทุนอย่างรอบคอบ กลยุทธ์การจัดสรรเงินทุนที่มีวินัย
กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงานอยู่ที่ 27 ล้านเหรียญสหรัฐสในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 23% จาก 22 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น 15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล่าสุดของบริษัท และการปรับปรุงในการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ ปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยการเปลี่ยนแปลงของบัญชีเจ้าหนี้และหนี้สินภาษี ซึ่งสะท้อนถึงการมุ่งเน้นของบริษัทในการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการดําเนินงานที่กําลังเติบโต
กระแสเงินสดจากการลงทุน
เงินสดสุทธิที่ใช้ในกิจกรรมการลงทุนมีมูลค่ารวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ลดลงจาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักหลักที่ส่งผลให้ลดลงนี้ ได้แก่ การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องมูลค่า 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทยังคงจัดสรรเงินทุนอย่างมีกลยุทธ์เพื่อใช้กับสินทรัพย์ที่มีผลกระทบสูงซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตในระยะยาว
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน
เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงินมีมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เพิ่มขึ้นนี้ ได้แก่ รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนธุรกรรม 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสําคัญกับการเติบโตแบบยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านกระแสเงินสดจากการดําเนินงานมากกว่าการจัดหาเงินทุนจากภายนอก โดยไม่มีหนี้สินใหม่ที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
กระแสเงินสดของ SBC Medical ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ บริษัทฯ ยังคงติดตามความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และใช้กลยุทธ์เพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน
ด้วยเงินสดสํารองที่แข็งแกร่งและกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่ดี SBC Medical มั่นใจในความสามารถในการตอบสนองความต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น และจัดหาเงินทุนสําหรับความคิดริเริ่มการเติบโตในอนาคต ฝ่ายบริหารเชื่อว่าสถานะเงินสดในปัจจุบันควบคู่ไปกับกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่วางแผนไว้จะเพียงพอที่จะรองรับการดําเนินธุรกิจและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้า
เกี่ยวกับ SBC Medical
SBC Medical ซึ่งมีสํานักงานใหญ่ในเมืองเออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการด้านการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์เสริมความงาม บริษัทมุ่งเน้นที่การให้บริการด้านการบริหารจัดการอย่างครบวงจรแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การบริหารจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาและการฝึกอบรม) การจองคิวสําหรับลูกค้าคลินิกแฟรนไชส์ การช่วยเหลือในการเช่าที่พักและการเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานแฟรนไชส์ การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ การจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (ขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าคลินิก การออกใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอรับสิทธิบัตรและไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชั่นซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการให้คําปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมรางวัลสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ (โปรแกรมคะแนนความภักดีของลูกค้า) และเครื่องมือการชําระเงินสําหรับคลินิกแฟรนไชส์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/
การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP
บริษัทใช้การวัดผลแบบ non-GAAP เช่น EBITDA ในการประเมินผลการดําเนินงานและเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงาน บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ช่วยระบุแนวโน้มที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับผลการดําเนินงานของบริษัท เพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับผลการดําเนินงานในอดีตของบริษัทและแนวโน้มในอนาคต และช่วยให้มองเห็นตัวชี้วัดหลักที่ฝ่ายบริหารของบริษัทใช้ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ไม่ได้ถูกกําหนดไว้ภายใต้มาตรฐานบัญชีของสหรัฐอเมริกา (U.S. GAAP) และไม่ได้นําเสนอแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP มีข้อจํากัดในเรื่องเครื่องมือวิเคราะห์ และเมื่อประเมินผลการดําเนินงาน กระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของบริษัท นักลงทุนไม่ควรพิจารณาแยกออก หรือพิจารณาแทนผลขาดทุนสุทธิ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดําเนินงาน หรืองบกำไรขาดทุนอื่นๆ และข้อมูลกระแสเงินสดที่จัดทําขึ้นแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกา
บริษัทบรรเทาข้อจํากัดเหล่านี้โดยการกระทบยอดการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP เข้ากับการวัดผลการดําเนินงานแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาที่เทียบเคียงได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเมื่อประเมินผลการดําเนินงานของบริษัท
สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP โปรดดูตารางที่หัวข้อ “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP และแบบ non-GAAP”
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือข้อความเกี่ยวกับสภาวะปัจจุบัน แต่เป็นเพียงการแสดงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดําเนินงานในอนาคตเท่านั้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายสิ่งมีความไม่แน่นอนโดยและอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้สะท้อนถึงมุมมองปัจจุบันของบริษัท เกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายรับและรายได้ แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ และแผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตสามารถระบุได้ด้วยการใช้คําต่างๆ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหมายว่า” “คาดการณ์ว่า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “มีแผนจะ” “คาดว่า” “ทำนาย” “อาจเป็นไปได้” หรือ “หวังว่า” หรือความหมายเชิงลบของคําเหล่านี้หรือคําที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านว่าอย่าพึ่งพาข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตใดๆ มากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจุบัน ณ วันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดการณ์หรือวัดผลได้ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเป็นความคาดหวังในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร มิได้เป็นการรับรองการดําเนินงานในอนาคต บริษัทไม่มีภาระผูกพันหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลอัปเดต หรือการแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตต่อสาธารณะ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่ข้อความดังกล่าวอ้างถึง เว้นแต่ตามที่กฎหมายกําหนด ปัจจัยที่อาจทําให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญจากการคาดการณ์ในปัจจุบันอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ได้ทั้งหมด ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||
30 กันยายน |
31 ธันวาคม |
|||||||
2024 |
2023 |
|||||||
สินทรัพย์ |
||||||||
สินทรัพย์หมุนเวียน: |
||||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด |
$ |
137,393,070 |
$ |
103,022,932 |
||||
บัญชีลูกหนี้ |
1,944,604 |
1,437,077 |
||||||
บัญชีลูกหนี้– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
27,835,179 |
33,676,672 |
||||||
สินค้าคงเหลือ |
1,985,883 |
3,090,923 |
||||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
8,443,338 |
6,143,564 |
||||||
ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า หมุนเวียน |
16,125,086 |
8,484,753 |
||||||
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น |
8,372,668 |
10,050,005 |
||||||
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน |
202,099,828 |
165,905,926 |
||||||
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน: |
||||||||
ทรัพย์สินและอุปกรณ์สุทธิ |
13,194,414 |
13,582,017 |
||||||
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนสุทธิ |
16,218,233 |
19,739,276 |
||||||
การลงทุนระยะยาว |
4,905,115 |
849,434 |
||||||
ค่าความนิยมสุทธิ |
3,545,391 |
3,590,791 |
||||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
4,629,047 |
3,420,489 |
||||||
สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าดําเนินงาน |
5,251,418 |
5,919,937 |
||||||
สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
624,564 |
– |
||||||
ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า ไม่หมุนเวียน |
6,590,301 |
6,444,025 |
||||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
4,308,810 |
4,099,763 |
||||||
การลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
19,561,069 |
19,811,555 |
||||||
ทรัพย์สินอื่น |
15,550,402 |
15,442,058 |
||||||
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน |
94,378,764 |
92,899,345 |
||||||
รวมสินทรัพย์ |
$ |
296,478,592 |
$ |
258,805,271 |
||||
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น |
||||||||
หนี้สินหมุนเวียน: |
||||||||
บัญชีเจ้าหนี้ |
$ |
14,873,829 |
$ |
26,531,944 |
||||
ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี |
136,683 |
156,217 |
||||||
ตั๋วเงินจ่าย หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
10,202,360 |
3,369,203 |
||||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า |
565,495 |
2,074,457 |
||||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
18,994,015 |
23,058,175 |
||||||
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย |
8,000,808 |
8,782,930 |
||||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน หมุนเวียน |
4,060,844 |
3,885,812 |
||||||
หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น |
12,054,047 |
21,009,009 |
||||||
เนื่องจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
3,532,453 |
3,583,523 |
||||||
รวมหนี้สินหมุนเวียน |
72,420,534 |
92,451,270 |
||||||
หนี้สินไม่หมุนเวียน: |
||||||||
เงินให้กู้ยืมระยะยาว |
686,470 |
1,062,722 |
||||||
ตั๋วเงินจ่าย ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
11,659,022 |
11,948,219 |
||||||
หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
3,515,825 |
6,013,565 |
||||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน ไม่หมุนเวียน |
1,528,972 |
2,444,316 |
||||||
หนี้สินอื่น |
1,147,345 |
1,074,930 |
||||||
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน |
18,537,634 |
22,543,752 |
||||||
รวมหนี้สิน |
90,958,168 |
114,995,022 |
||||||
ส่วนของผู้ถือหุ้น: |
||||||||
หุ้นบุริมสิทธิ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 20,000,000 หุ้น ไม่มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1) |
– |
– |
||||||
หุ้นสามัญ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 400,000,000 หุ้น หุ้นที่ออกและชำระแล้ว 103,020,816 หุ้น และ 94,192,433 หุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1) |
10,302 |
9,419 |
||||||
ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้น (1) |
60,825,115 |
36,879,281 |
||||||
ลูกหนี้หุ้นทุนซื้อคืน (หุ้นสามัญ 270,000 หุ้น) – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(2,700,000 |
) |
– |
|||||
กำไรสะสม |
182,923,786 |
142,848,732 |
||||||
ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นสะสม |
(36,078,149 |
) |
(37,578,255 |
) |
||||
รวมส่วนของผู้ถือหุ้นของ Total SBC Medical Group Holdings Incorporated |
204,981,054 |
142,159,177 |
||||||
ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม |
539,370 |
1,651,072 |
||||||
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น |
205,520,424 |
143,810,249 |
||||||
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น |
$ |
296,478,592 |
$ |
258,805,271 |
(1) |
ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบกําไรขาดทุนและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
|||||||||||||||||||||||||||
สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
||||||||||||||||||||||||||
2024 |
2023 |
2024 |
2023 |
||||||||||||||||||||||||
รายได้สุทธิ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
$ |
51,209,243 |
$ |
45,119,709 |
$ |
152,718,488 |
$ |
125,336,653 |
|||||||||||||||||||
รายได้สุทธิ |
1,875,640 |
2,158,976 |
8,276,517 |
5,856,076 |
|||||||||||||||||||||||
รวมรายได้สุทธิ |
53,084,883 |
47,278,685 |
160,995,005 |
131,192,729 |
|||||||||||||||||||||||
ต้นทุนรายได้ตามจริง |
9,845,793 |
13,780,309 |
38,816,865 |
37,256,066 |
|||||||||||||||||||||||
กําไรขั้นต้น |
43,239,090 |
33,498,376 |
122,178,140 |
93,936,663 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน: |
|||||||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร |
16,597,032 |
13,446,618 |
43,784,637 |
46,885,138 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าตอบแทนตามหุ้น |
12,807,455 |
– |
12,807,455 |
– |
|||||||||||||||||||||||
ขาดทุนจากการยักยอก |
– |
28,516 |
– |
380,766 |
|||||||||||||||||||||||
รวมค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน |
29,404,487 |
13,475,134 |
56,592,092 |
47,265,904 |
|||||||||||||||||||||||
รายได้จากการดําเนินงาน |
13,834,603 |
20,023,242 |
65,586,048 |
46,670,759 |
|||||||||||||||||||||||
รายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย): |
|||||||||||||||||||||||||||
รายได้จากดอกเบี้ย |
7,950 |
10,234 |
37,283 |
86,345 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย |
(5,466 |
) |
(3,978 |
) |
(15,898 |
) |
(37,380 |
) |
|||||||||||||||||||
รายได้อื่น |
65,922 |
1,138,869 |
721,894 |
3,875,723 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายอื่น |
(795,158 |
) |
(98,314 |
) |
(2,746,450 |
) |
(581,239 |
) |
|||||||||||||||||||
กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย |
– |
– |
3,813,609 |
– |
|||||||||||||||||||||||
รวมรายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย) |
(726,752 |
) |
1,046,811 |
1,810,438 |
3,343,449 |
||||||||||||||||||||||
กำไรก่อนภาษีเงินได้ |
13,107,851 |
21,070,053 |
67,396,486 |
50,014,208 |
|||||||||||||||||||||||
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ |
10,273,384 |
13,012,262 |
27,254,478 |
25,683,244 |
|||||||||||||||||||||||
กำไรสุทธิ |
2,834,467 |
8,057,791 |
40,142,008 |
24,330,964 |
|||||||||||||||||||||||
หัก: กําไรสุทธิ (ขาดทุน) ที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม |
1,573 |
(298,623 |
) |
66,954 |
(696,812 |
) |
|||||||||||||||||||||
กําไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated |
$ |
2,832,894 |
$ |
8,356,414 |
$ |
40,075,054 |
$ |
25,027,776 |
|||||||||||||||||||
กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จอื่น: |
|||||||||||||||||||||||||||
ส่วนปรับปรุงจากการแปลงค่าสกุลเงินต่างประเทศ |
20,783,646 |
(974,249 |
) |
1,543,245 |
(19,825,222 |
) |
|||||||||||||||||||||
การจําแนกประเภทกําไรทียังไม่เกิดขึ้นจากตราสารหนี้เผื่อขายเป็นกําไรสุทธิตามจริง สุทธิจากผลกระทบทางภาษีเป็นศูนย์และ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ ไม่มีและ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ |
– |
(205,383 |
) |
– |
(8,760 |
) |
|||||||||||||||||||||
รวมกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ |
23,618,113 |
6,878,159 |
41,685,253 |
4,496,982 |
|||||||||||||||||||||||
หัก: กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม |
180,093 |
(387,948 |
) |
110,093 |
(1,129,475 |
) |
|||||||||||||||||||||
กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated |
$ |
23,438,020 |
$ |
7,266,107 |
$ |
41,575,160 |
$ |
5,626,457 |
|||||||||||||||||||
กําไรสุทธิต่อหุ้นที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated (1) |
|||||||||||||||||||||||||||
กำไรต่อหุ้นปรับลด |
$ |
0.03 |
$ |
0.09 |
$ |
0.42 |
$ |
0.27 |
|||||||||||||||||||
จำนวนหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ชำระแล้ว (1) |
|||||||||||||||||||||||||||
กำไรต่อหุ้นปรับลด |
95,095,144.00 |
94,192,433.00 |
94,495,533.00 |
94,192,433.00 |
|||||||||||||||||||||||
(1) |
ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
||||||||
2024 |
2023 |
|||||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน |
||||||||
กำไรสุทธิ |
$ |
40,142,008 |
$ |
24,330,964 |
||||
การปรับเพื่อกระทบยอดกำไรสุทธิกับเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมดําเนินงาน: |
||||||||
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย |
2,867,781 |
9,688,640 |
||||||
ค่าใช้จ่ายการเช่าที่ไม่ใช่เงินสด |
2,908,990 |
2,424,220 |
||||||
สํารองหนี้เสีย (กลับรายการ) |
(127,196 |
) |
282,934 |
|||||
ค่าตอบแทนตามหุ้น |
12,807,455 |
– |
||||||
ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
– |
204,026 |
||||||
กําไรที่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
(223,164 |
) |
|||||
การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะยาว |
1,682,282 |
– |
||||||
กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย |
(3,813,609 |
) |
– |
|||||
ขาดทุน (กําไร) จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน |
185,284 |
(249,532 |
) |
|||||
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี |
(2,154,837 |
) |
(1,379,922 |
) |
||||
การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดําเนินงาน |
||||||||
บัญชีลูกหนี้ |
(804,000 |
) |
(924,061 |
) |
||||
บัญชีลูกหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
4,971,911 |
(19,979,099 |
) |
|||||
สินค้าคงเหลือ |
763,075 |
(4,038,874 |
) |
|||||
ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(3,430,267 |
) |
17,241,740 |
|||||
ลูกหนี้สินเชื่อของลูกค้า |
12,860,220 |
– |
||||||
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น |
902,230 |
8,173,153 |
||||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
432,380 |
(1,991,626 |
) |
|||||
สินทรัพย์อื่น |
(348,178 |
) |
(1,884,352 |
) |
||||
บัญชีเจ้าหนี้ |
(10,511,619 |
) |
6,712,977 |
|||||
ตั๋วเงินจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(14,030,092 |
) |
– |
|||||
ความก้าวหน้าจากลูกค้า |
(1,401,437 |
) |
(681,973 |
) |
||||
รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(3,565,778 |
) |
(7,430,332 |
) |
||||
ภาษีเงินได้ค้างจ่าย |
(549,446 |
) |
16,518,062 |
|||||
หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน |
(2,971,946 |
) |
(2,335,113 |
) |
||||
หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น |
(9,010,270 |
) |
298,743 |
|||||
ค่าใช้จ่ายชดเชยการเกษียณอายุค้างจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
(22,082,643 |
) |
|||||
หนี้สินอื่น |
81,290 |
79,215 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน |
27,886,231 |
22,753,983 |
||||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน |
||||||||
การซื้อทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
(1,974,285 |
) |
(2,299,045 |
) |
||||
การซื้อสินทรัพย์ไม่มีตัวตน |
– |
(1,683,030 |
) |
|||||
การซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ |
(1,700,000 |
) |
(1,000,000 |
) |
||||
การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าสําหรับทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
(843,740 |
) |
(417,353 |
) |
||||
รายได้รับล่วงหน้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(617,804 |
) |
(1,017,292 |
) |
||||
การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน |
(5,245,990 |
) |
– |
|||||
การซื้อเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
(2,106,720 |
) |
|||||
การซื้อเงินลงทุนระยะยาว |
(331,496 |
) |
– |
|||||
เงินลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
(26,780 |
) |
|||||
เงินสดที่ได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่ได้รับ |
– |
722,551 |
||||||
เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ผู้อื่น |
(80,793 |
) |
(421,429 |
) |
||||
การชําระคืนจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
5,990,990 |
734,358 |
||||||
การชําระคืนจากผู้อื่น |
62,927 |
47,356 |
||||||
รายได้จากการขายเงินลงทุนระยะสั้น |
– |
4,125,813 |
||||||
รายได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต |
– |
3,954,760 |
||||||
การจําหน่ายบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่จําหน่ายไป |
(815,819 |
) |
– |
|||||
รายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
1,971 |
8,046,007 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน (ใช้ใน) |
(5,554,039 |
) |
8,659,196 |
|||||
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน |
||||||||
การกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
– |
12,310,106 |
||||||
รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนการทําธุรกรรม |
11,707,417 |
– |
||||||
รายได้จากการออกหุ้นสามัญ |
– |
10 |
||||||
รายได้จากการใช้สิทธิของใบสําคัญแสดงสิทธิ |
31,374 |
– |
||||||
การชําระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว |
(89,448 |
) |
(8,691,462 |
) |
||||
การชําระคืนให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน |
(65,305 |
) |
(7,619,266 |
) |
||||
ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการกําจัดทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
– |
9,620,453 |
||||||
ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร |
– |
642,748 |
||||||
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน |
11,584,038 |
6,262,589 |
||||||
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ |
453,908 |
(11,982,793 |
) |
|||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เพิ่มขึ้นสุทธิ |
34,370,138 |
25,692,975 |
||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ ต้นงวด |
103,022,932 |
51,737,994 |
||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นงวด |
$ |
137,393,070 |
$ |
77,430,969 |
||||
การเปิดเผยข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม |
||||||||
เงินสดที่จ่ายดอกเบี้ยจ่าย |
$ |
15,898 |
$ |
37,380 |
||||
เงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้ |
$ |
31,332,123 |
$ |
12,608,072 |
||||
กิจกรรมจัดหาเงินและกิจกรรมลงทุนที่ไม่ใช่เงินสด |
||||||||
ทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
$ |
164,781 |
$ |
7,681,830 |
||||
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว |
$ |
– |
$ |
17,666,115 |
||||
การชําระหนี้ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันเกี่ยวกับการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ |
$ |
– |
$ |
4,163,604 |
||||
สินทรัพย์สิทธิการเช่าดําเนินงานที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน |
$ |
– |
$ |
1,029,518 |
||||
การวัดค่ามูลค่าใหม่ของหนี้สินตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสินทรัพย์สิทธิการใช้อันเนื่องมาจากการแก้ไขสัญญาเช่า |
$ |
2,408,752 |
$ |
2,110,079 |
||||
การออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันที่เกี่ยวข้องในการให้บริการสินเชื่อ |
$ |
20,398,301 |
$ |
– |
||||
การออกหุ้นสามัญให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันจากการแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพ |
$ |
2,700,000 |
$ |
– |
||||
การออกหุ้นสามัญเป็นหุ้นจูงใจ |
$ |
34 |
$ |
– |
||||
การชําระคืนเงินกู้ให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นสามัญ |
$ |
– |
$ |
795 |
||||
การพิจารณาซื้อที่ไม่ใช่เงินสดสําหรับการซื้อสินทรัพย์ |
$ |
– |
$ |
705,528 |
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED การกระทบยอดผลของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ |
||||||||||||||||
สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน |
|||||||||||||||
2024 |
2023 |
2024 |
2023 |
|||||||||||||
รายได้จากการดําเนินงาน |
13,834,603 |
20,023,242 |
65,586,048 |
46,670,759 |
||||||||||||
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย |
1,018,359 |
3,287,809 |
2,867,781 |
9,688,640 |
||||||||||||
EBITDA |
14,852,962 |
23,311,051 |
68,453,829 |
56,359,399 |
||||||||||||
อัตรากําไร EBITDA |
28 |
% |
49 |
% |
42 |
% |
43 |
% |
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
ในเอเชีย:
SBC Medical Group Holdings Incorporated
Hikaru Fukui / Head of Investor Relations
E-mail: ir@sbc-holdings.com
ในสหรัฐอเมริกา:
ICR LLC
Bill Zima / Managing Partner
Email: bill.zima@icrinc.com
ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated.
Medidata คว้าตำแหน่งสุดยอดผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
นิวยอร์ก –(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024
Medidata (แบรนด์ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางคลินิกชั้นนำในวงการวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต) ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตประจำปี 2024 ที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก รายงานนี้ได้ประเมินผู้ให้บริการ 13 รายโดยอิงตามผลลัพธ์ที่ผลิตภัณฑ์ของผู้ให้บริการเหล่านี้มีต่อตลาด และขีดความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและประสบผลสำเร็จ
Rave CTMS จาก Medidata เป็นผู้นำวงการในการมอบบริการส่งข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์และราบรื่นที่พลิกโฉมระบบการติดตามผลการลงทะเบียน และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและมีข้อมูลประกอบ ทั้งนี้ Rave CTMS ช่วยยกระดับการทำงานร่วมกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงรายการข้อมูลด้วยตนเอง และทำให้การทดลองเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมความแม่นยำที่เหนือชั้น โดยช่วยให้ทีมศึกษาวิจัยเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ในทันที
คุณ Tom Doyle ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Medidata กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำสูงสุดในด้าน CTMS จากทาง Everest Group” และ “รางวัลนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเราในการพลิกโฉมการวิจัยและตอกย้ำถึงกลยุทธ์ของเราในการนำเสนอประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่าน AI ที่จะปฏิวัติวิธีการออกแบบ วางแผน และจัดการการทดลองแบบครบวงจรขององค์กรต่าง ๆ พร้อมมอบผลลัพธ์สูงสุด”
คุณ Tom Doyle ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “ในปี 2025 Medidata จะนำข้อมูลเชิงลึกจาก AI เข้ามาผสานรวมกับโซลูชันด้านการวางแผนและการดำเนินการวิจัย ช่วยให้สามารถจำลองการออกแบบการทดลอง ลดความยุ่งยากของกระบวนการ และยกระดับประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้”
Medidata เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน CTMS, การบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และการทดลองทางคลินิกแบบแยกจากศูนย์ (DCT) จาก Everest Group สำหรับ Rave EDC ของ Medidata, แพลตฟอร์ม Medidata และผลงานของทางบริษัทใน DCT
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของเรา
เกี่ยวกับ Medidata
Medidata มุ่งพัฒนาการรักษาให้มีความอัจฉริยะยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก Medidata ได้พัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาแล้ว 25 ปีจากการทดลองกว่า 34,000 ครั้งและผู้ป่วย 10 ล้านราย บริษัทนี้จึงมีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของวงการ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ผ่าน ๆ มาในระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ราบรื่นของ Medidata ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกว่า 1 ล้านคนจากลูกค้าประมาณ 2,200 ราย เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งคิดค้นนวัตกรรมทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ Dassault Systèmes(Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี และได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.medidata.com และติดตามเราที่ @Medidata
เกี่ยวกับ Dassault Systèmes
Dassault Systèmes ช่วยเร่งให้มนุษย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น เราให้บริการสภาพแวดล้อมเสมือนในการทำงานร่วมกับแก่ธุรกิจและผู้คนเพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ยั่งยืน เมื่อมีการสร้างประสบการณ์แบบ Virtual Twin ที่เหมือนกับโลกความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ของเรา ลูกค้าของเราก็จะสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการสร้างสรรค์ ผลิต และจัดการวงจรการใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนได้ และช่วยให้โลกใบนี้ยั่งยืนยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี ความสวยงามของเศรษฐกิจประสบการณ์ (Experience Economy) ก็คือเศรษฐกิจแบบนี้จะคำนึงถึงมนุษย์เป็นสำคัญเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ป่วย และประชาชน ทั้งนี้ Dassault Systèmes ได้สร้างคุณค่าให้กับลูกค้ากว่า 350,000 รายการในทุกขนาด ทุกวงการ และในกว่า 150 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com
© Dassault Systèmes สงวนสิทธิ์ทุกประการ 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอน Compass, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS คือเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัทในยุโรป (Societas Europaea) ที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายของฝรั่งเศส และมีการจดทะเบียนกับ Versailles Trade และหน่วยงานทะเบียนบริษัทภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่นทั้งหมดจะเป็นของเจ้าของรายนั้น ๆ การใช้เครื่องหมายการค้าใด ๆ ของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรโดยชัดแจ้ง
เกี่ยวกับ Everest Group
Everest Group เป็นบริษัทด้านการวิจัยชั้นนำของโลก ซึ่งช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ การประเมิน PEAK Matrix® ของ Everest Group มาพร้อมการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่องค์กรต่าง ๆ ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกผู้ให้บริการระดับสากล ตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันภายในส่วนตลาดต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันเหล่านี้เองก็เลือกใช้ PEAK Matrix® ในการวัดและเทียบผลิตภัณฑ์ของตนกับผู้อื่นในวงการหรือตลาด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเนื้อหาเชิงลึกที่ www.everestgrp.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ผู้ติดต่อ
ประชาสัมพันธ์ของ Medidata
Medidata.PR@3ds.com
นักวิเคราะห์สัมพันธ์
Medidata.AR@3ds.com
แหล่งที่มา: Medidata
Medidata ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® ด้านการเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกของ Everest Group
นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–17 กันยายน 2024
Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes และเป็นผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางการแพทย์ชั้นนำในอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® ของกลุ่ม Everest Group สำหรับการจับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพเป็นครั้งแรก
รายงานซึ่งประเมินผู้ให้บริการ 20 รายได้เน้น Medidata Rave EDC สำหรับการบูรณาการที่ไร้รอยต่อกับอุปกรณ์สวมใส่ เซ็นเซอร์ และ EHRs รวมถึงความสามารถขั้นสูงในการตรวจสอบข้อมูลต้นทาง การจัดการข้อซักถามที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการจัดการเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ Rave EDC ได้รับการยกย่องสำหรับการออกแบบที่ใช้งานง่ายและลดการเขียนโค้ด ทำให้การปรับปรุงโปรโตคอลเป็นไปอย่างรวดเร็วและการสร้างแบบฟอร์มรายงานกรณีอิเล็กทรอนิกส์ (eCRFs) เป็นเรื่องง่าย พร้อมกับรักษาคุณภาพและความถูกต้องของข้อมูลสำหรับผู้สนับสนุนการทดลองทางการแพทย์ด้วย
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในด้าน EDC โดยกลุ่ม Everest” Anthony Costello ซีอีโอของ Medidata กล่าว “Rave EDC ซึ่งเป็นมาตรฐานทองคำในอุตสาหกรรม ได้เป็นผู้นำในการจับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ด้วยภูมิทัศน์ด้านการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราจึงยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการทดลองแบบกระจายศูนย์ ทำให้ผู้สนับสนุนสามารถใช้ข้อมูลเรียลไทม์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพในการพัฒนาการรักษาที่สามารถช่วยชีวิตได้”
รายงานของกลุ่ม Everest เน้นถึงการมีอยู่ของแบรนด์ Medidata ที่แข็งแกร่งในกลุ่มบริษัทเภสัชกรรมขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวมถึงความร่วมมือที่กว้างขวางกับองค์กรที่ให้บริการวิจัยทางการแพทย์ (CROs) และผู้ให้บริการเทคโนโลยีการทดลองทางคลินิก การรับรองนี้ช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของ Medidata ในการขับเคลื่อนอนาคตของการทดลองทางการแพทย์ดิจิทัล
ไปที่ เว็บไซต์ ของเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
เกี่ยวกับ Medidata
Medidata สนับสนุนการรักษาที่ชาญฉลาดและสุขภาพที่ดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลที่สนับสนุนการทดลองทางคลินิก ฉลองครบรอบ 25 ปีของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการทดลองมากกว่า 34,000 รายการและผู้ป่วย 10 ล้านคน Medidata เสนอความเชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรม ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลทางคลินิกระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านคนจากลูกค้าประมาณ 2,200 รายไว้วางใจแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและครบวงจรของ Medidata เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งการค้นพบทางคลินิก และนำการบำบัดเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata เป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes brand (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก และได้รับการยกย่องเป็นผู้นำโดยกลุ่ม Everest และ IDC ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata
เกี่ยวกับ Dassault Systèmes
Dassault Systèmes เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความก้าวหน้าของมนุษย์ เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ร่วมมือกันให้กับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน โดยการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงของโลกจริงผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ของเรา ลูกค้าของเราสามารถนิยามกระบวนการสร้าง การผลิต และการจัดการวงจรชีวิตของข้อเสนอของพวกเขาใหม่ และมีผลกระทบที่มีความหมายในการทำให้โลกยั่งยืนมากขึ้น ความสวยงามของเศรษฐกิจประสบการณ์คือการที่มันเป็นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นมนุษย์เพื่อประโยชน์ของทุกคน ทั้งผู้บริโภค ผู้ป่วย และพลเมืองทั่วไป Dassault Systèmes นำคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่า 350,000 รายจากทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรม มากกว่า 150 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.3ds.com
© Dassault Systèmes สงวนลิขสิทธิ์ 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอนเข็มทิศ, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes บริษัทจากยุโรป (Societas Europaea) ที่จดทะเบียนตามกฎหมายฝรั่งเศส และจดทะเบียนกับทะเบียนการค้าและบริษัทของ Versailles ภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือของบริษัทในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทเท่านั้น
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
ประชาสัมพันธ์ Medidata
Medidata.PR@3ds.com
นักวิเคราะห์สัมพันธ์
medidata.AR@3ds.com
ที่มา: Medidata
AGC Group ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ Cradle to Cradle Certified® สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบในเอเชีย
โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 กันยายน 2024
ผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบของ AGC Glass Asia Pacific ได้รับรางวัล Cradle to Cradle Certificated® Bronze*1 โดยการรับรองนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบที่ผลิตโดยบริษัทในกลุ่ม AGC สองแห่งในเอเชีย ได้แก่ PT Asahimas Flat Glass Tbk และ AGC Float Glass (Thailand) Plc และเป็นไปตามการรับรองปัจจุบันของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mirox MNGE
AGC Group ได้รับการรับรอง Cradle to Cradle Certified® สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกแบนและกระจกเคลือบทั้งหมดในเอเชีย (รูปภาพ: Business Wire)
ผลิตภัณฑ์กระจกเคลือบและกระจกโฟลตได้รับการประเมินอย่างละเอียดตามเกณฑ์การประเมินหลัก 5 หมวดหมู่ ได้แก่ ความสมบูรณ์ของวัสดุ การนำวัสดุมาใช้ซ้ำ พลังงานหมุนเวียน การจัดการน้ำ และความเสมอภาคทางสังคม โดยการรับรองนี้ไม่เพียงแต่รับรองในด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ได้รับการรับรองอาคารสีเขียว เช่น LEED, WELL และ Green Star (ออสเตรเลีย) อีกด้วย
กลุ่มบริษัท AGC ได้กำหนด “คุณค่าทางสังคมสามประการ” ที่จะสร้างขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่างๆ ในแผนการบริหารจัดการระยะกลาง AGC plus-2026 ในจำนวนนี้ “Blue Planet” มีเป้าหมายที่จะมีส่วนสนับสนุนความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมโลกผ่านการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม เรามีความยินดีที่จะประกาศว่าผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบของเราได้รับการรับรอง Cradle to Cradle Certified®*2 แล้ว หลังจากการตรวจสอบ EPD*3 verification in 2022 โดยกลุ่มบริษัทของเรากำลังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
[หมายเหตุ]
*1 การรับรองนี้มีพื้นฐานมาจากเวอร์ชัน 3.1
*2 AGC Glass Asia Pacific Sustainable Product Certifications
*3 AGC Glass Asia Pacific Embodied Carbon in Glass & EPD
เกี่ยวกับ AGC
AGC Inc. (สำนักงานใหญ่: โตเกียว, ประธานและ CEO: Yoshinori Hirai) (TOKYO:5201) เป็นบริษัทแม่ของ AGC Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกในด้านผลิตภัณฑ์กระจกและซัพพลายเออร์กระจกแบน กระจกรถยนต์และกระจกหน้าจอ สารเคมี เซรามิก และวัสดุและส่วนประกอบไฮเทคอื่นๆ AGC Group ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยมากมายโดยอาศัยนวัตกรรมทางเทคนิคนานกว่าศตวรรษ กลุ่มบริษัทมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 57,000 คนและสร้างยอดขายประจำปีประมาณ 2.0 ล้านล้านเยนญี่ปุ่น (ประมาณ 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการดำเนินงานในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ AGC และบน LinkedIn
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54116541/en
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ข้อมูลติดต่อ
Irene Cheng, Tel: +65 6273 5656, Email: aap.glass@agc.com
แหล่งข้อมูล: AGC Inc.
Xsolla และ Savvy Games Group ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อพัฒนาวิดีโอเกมต่อไปในตะวันออกกลาง
Xsolla และ Savvy Games Group ร่วมเปิดตัว Xsolla Academy ในซาอุดีอาระเบีย เพื่อจัดงานกิจกรรมชั้นนำในอุตสาหกรรม สร้างงานใหม่ 3,600 งาน และจัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของ Xsolla ในรียาด ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Vision 2030 ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในฐานะศูนย์กลางเกมและอีสปอร์ตระดับโลก
รียาด ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2024
Xsolla บริษัทการค้าวิดีโอเกมระดับโลกประกาศลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับ Savvy Games Group (“Savvy”) ซึ่งเป็นผู้นำระดับประเทศด้านเกมและอีสปอร์ตของซาอุดีอาระเบีย เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ Vision 2030 ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียไปข้างหน้า และเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับผู้พัฒนาเกมในตะวันออกกลางและทั่วโลก
(กราฟิก: Xsolla)
การร่วมมือกันเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะส่งเสริมการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม 3,600 งานภายในปี 2030 เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับอนาคตของเกมและอีสปอร์ต ซึ่งถือเป็นพันธกิจครั้งสำคัญต่อการเติบโตของวิดีโอเกมสำหรับผู้พัฒนา ผู้เผยแพร่ เละผู้เล่น ทั้งในซาอุดีอาระเบียและทั่วโลก
ตามข้อกำหนดในบันทึกความเข้าใจ การร่วมมือกันครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการริเริ่มสำคัญหลายประการ รวมถึงการจัดตั้ง Xsolla Academy โปรแกรม Incubator และ Accelerator เพื่อสนับสนุนสตูดิโอพัฒนาเกมในประเทศและต่างประเทศ โดย Academy จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสามารถและส่งเสริมการพัฒนาเกมให้เป็นเส้นทางอาชีพที่ประสบความสำเร็จได้ภายในราชอาณาจักร
นอกจากการจัดตั้ง Academy แล้ว การร่วมมือกันครั้งนี้ยังจะสำรวจโอกาสในการจัดงานกิจกรรมชั้นนำในอุตสาหกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมที่เป็นธุรกิจและผู้บริโภค มอบเงินทุนให้แก่โครงการพัฒนาเกม รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสตูดิโอในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ
ในการร่วมมือกันครั้งนี้ Xsolla จะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในรียาด พร้อมด้วยบริการด้านผลิตภัณฑ์ การพัฒนา เทคโนโลยี การให้บริการลูกค้า และการพัฒนาธุรกิจ เพื่อช่วยผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่ให้สามารถขยับขยายและพัฒนาเกมของตนให้เติบโตในตะวันออกกลางและราชอาณาจักร
Brian Ward ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Savvy Games Group กล่าวว่า “การร่วมมือกับ Xsolla ครั้งนี้ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าก้าวสำคัญในพันธกิจของเราเพื่อยกระดับวงการเกมและอีสปอร์ตของซาอุดีอาระเบียให้โดดเด่นในระดับสากล เมื่อผสานทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของเราเข้าด้วยกัน เราจะสร้างงานและอุตสาหกรรมที่เปี่ยมไปด้วยพลังและยั่งยืน ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดโอกาสและความคิดสร้างสรรค์ไปอย่างยาวนานในอนาคต”
Chris Hewish ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer ของ Xsolla กล่าวเสริมว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Savvy Games Group ในการดำเนินการริเริ่มล้ำสมัยครั้งนี้ เราต่างก็มีวิสัยทัศน์ร่วมที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับอนาคตของวิดีโอเกม และเมื่อร่วมมือกัน เราตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนผู้พัฒนา ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และผลักดันเหล่าผู้มีความสามารถรุ่นต่อไปในซาอุดีอาระเบีย”
เกี่ยวกับ Xsolla
Xsolla คือบริษัทการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งและทรงพลัง ซึ่งออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2005 ทาง Xsolla ได้ช่วยผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมทุกขนาดจำนวนนับพันในการจัดหาเงินทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนทั่วโลกผ่านหลายแพลตฟอร์ม พันธกิจของ Xsolla ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการค้าเกมคือการไขความซับซ้อนที่มาพร้อมกับการเผยแพร่ การทำการตลาด และการสร้างรายได้ในระดับสากล เพื่อช่วยให้พันธมิตรเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสานสัมพันธ์กับผู้เล่นเกมทั่วโลก โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจัดตั้งบริษัทอยู่ในลอสแอนเจลิส พร้อมสำนักงานในมอนทรีออล ลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว และเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก โดยสนับสนุนผู้นำด้านเกมชื่อดังหลายราย เช่น Valve, Twitch, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่น ๆ อีกมากมาย
โปรดดูข้อมูลและเรียนรู้เพิ่มเติมที่: xsolla.com
เกี่ยวกับ Savvy Games Group
Savvy Games Group (“Savvy”) คือบริษัทชั้นนำด้านเกมและอีสปอร์ตที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและการพัฒนาอีสปอร์ตและอุตสาหกรรมเกมในวงกว้างทั่วโลกในระยะยาว โดยมี PIF เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของ Savvy ทั้งหมด ในฐานะผู้นำระดับโลกในภาคส่วนนี้ Savvy จะกลายเป็นผู้นำระดับสากลในด้านเกมและอีสปอร์ตผ่านการลงทุนจำนวนมากในระยะยาว อีกทั้งยังมุ่งมั่นสนับสนุนชุมชนที่ประสบความสำเร็จในประเทศและขับเคลื่อนการพัฒนาของภาคส่วนนี้ในราชอาณาจักรในฐานะผู้นำด้านเกมและอีสปอร์ตของซาอุดีอาระเบีย
เว็บไซต์ Savvy Games Group – savvygames.com
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/54113178/en
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ข้อมูลติดต่อ
ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน – Xsolla
Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com
ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อมวลชน – Savvy Games Group
media@savvygames.com
แหล่งที่มา: Xsolla.
บทวิเคราะห์การสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของ Midea Group ประจำปี 2024: การก้าวกระโดดเชิงกลยุทธ์ในด้านนวัตกรรมระดับโลกและการปรับให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
ซาน ฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–10 กรกฎาคม 2024
Midea Group ซึ่งได้รับการยอมรับในฐานะองค์กรเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการสัญจรเพื่อการสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โดยงานสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และกิจกรรมการสรรหาบุคลากรนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งเป้าสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับโลก รวมถึงการทำนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ด้วย
โครงการสัญจรเพื่อการสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของ Midea Group ประจำปี 2024 ที่มหาวิยาลัยสแตนฟอร์ด (ภาพ: Business Wire)
นี่คือบริษัทผู้เป็นเจ้าของผลงานหลากหลายรอบด้านทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงธุรกิจที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งทาง Midea Group ได้ตอกย้ำถึงความทุ่มเทในตลาดโลกผ่านโครงการสรรหาบุคลากรที่ครอบคลุมนี้ โดยทุกๆ ปี ประมาณ 15-20% ของการรับสมัครในสถานศึกษาของ Midea Group นั้นได้บุคลากรที่มีพื้นฐานการศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มผู้มีความสามารถระดับนานาชาติของบริษัทเป็นอย่างมาก
โดยการสรรหาบุคลากรในสถานศึกษาของ Midea ประจำปี 2024 มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้
- มีผู้สมัครเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน
- มีการจัดงานกิจกรรมของมหาวิทยาลัยมากกว่า 4 ประเทศและมีกิจกรรมที่น่าสนใจกว่า 20 รายการ
- การจัดประชุมแบบโต๊ะกลมกว่า 10 โต๊ะที่ออกแบบมาเพื่อผู้สมัครระดับปริญญาเอกโดยเฉพาะ
การประชุมเชิงกลยุทธ์ในเชิงลึก
- ข้อมูลเชิงลึกในด้านความเป็นผู้นำ: เซสชั่นปาฐกถาพิเศษที่นำเสนอโดย CTO, CPO ของ Midea และผู้บริหารคนอื่นๆ โดยมีการนำเสนอมุมมองวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีและบทบาทสำคัญของ Midea
- เข้าใจวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง: เน้นย้ำถึงปรัชญาของ Midea ที่ให้ความสำคัญกับผู้คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สวัสดิการ และความก้าวหน้าของบุคลากร
- การจัดแสดงนวัตกรรม: นำเสนอเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาที่กว้างขวางของ Midea ซึ่งรวมถึงสถาบันวิจัยกลางที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนาระดับโลกอย่าง “2+4+N” ซึ่งจะทำให้ความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ Midea แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ประสบการณ์เชิงปฏิสัมพันธ์อันสมจริง
- ช่วงถามและตอบคำถาม: การอภิปรายในทุกแง่มุมเรื่องค่านิยม โอกาส และความคาดหวังของ Midea
- การอภิปรายแบบโต๊ะกลม: การสนทนาอย่างละเอียดเกี่ยวกับโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและพัฒนา การเติบโตทางอาชีพ และบทบาทในระดับโลก
- แชร์ประสบการณ์จากอดีตผู้ร่วมงาน: เรื่องราวการเติบโตจากศิษย์เก่าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงเกี่ยวกับโอกาสของการทำงานใน Midea
เส้นทางที่ชัดเจนสู่การสรรหาบุคลากร:
- ช่องทางพิเศษสำหรับนักศึกษาจากต่างประเทศ: นักศึกษาต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ถึงธันวาคม 2025 ล้วนเป็นผู้สมัครเป้าหมายของเราและได้รับอนุญาตให้ส่งประวัติสมัครงานทางออนไลน์ได้
- กระบวนการที่ชัดเจน: ผู้สมัครจะได้รับคำแนะนำผ่านกระบวนการสมัคร การสัมภาษณ์ และการเสนองานที่โปร่งใส
- โอกาสอันหลากหลาย: หน้าที่การงานที่รอบด้านทั้งการวิจัยและพัฒนา, AI, ไอที, วิศวกรรม และอีกมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Midea ในด้านชุดทักษะที่หลากหลายและความสนใจในวิชาชีพ
- Global Outlook: Midea เปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยโอกาสที่จะได้ทำงานในเมืองกว่า 40 เมืองทั่วโลก
ความมุ่งมั่นอันไม่หยุดยั้งของ Midea
เส้นทางการสรรหาบุคลากรตั้งแต่สหราชอาณาจักรไปจนถึงเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ของ Midea ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการสร้างรากฐานที่เป็นนวัตกรรม ครอบคลุม และเปิดกว้าง นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในด้านบุคลากรและการวิจัยและพัฒนา เพื่อการันตีว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54092129/en
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ข้อมูลติดต่อ
Diwei Zhang
zhangdw26@midea.com
แหล่งข้อมูล: Midea Group
ผู้นำของกลุ่ม Montrose Environmental Group และ 3M Chief Technology Officer พูดคุยเรื่องความก้าวหน้าที่ประสบความสำเร็จในการกำจัด “สารเคมีที่อยู่ตลอดไป” จากน้ำ
ลิตเทิลร็อก อาร์คันซอ –(BUSINESS WIRE)–28 พฤษภาคม 2024
บริษัท Montrose Environmental Group, Inc. (“Montrose”) (NYSE: MEG) ได้แบ่งปันไฮไลท์จากการนำเสนอร่วมกับบริษัท 3M ที่งานประชุม Bank of America ครั้งที่ 31 สำหรับภาคการขนส่ง สายการบิน และอุตสาหกรรมที่จัดขึ้นในนิวยอร์ก โดย Vijay Manthripragada ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Montrose และ Dr. Steve Woodard หัวหน้าเจ้าหน้าที่นวัตกรรมของ Montrose ได้ร่วมกับ Dr. John Banovetz หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ 3M ในการจัดเสวนาหัวข้อ “PFAS Panel: Advancing Technology for a Cleaner Tomorrow” (คณะเสวนา PFAS: การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่สะอาดขึ้น)
ในช่วงการเสวนา ทาง Montrose และ 3M ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีการที่ทั้งสองบริษัทจะนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อกำจัดสารประกอบ PFAS ออกจากแหล่งน้ำที่ซับซ้อนในสถานที่ผลิตสารเคมีของ 3M ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน และการบูรณาการความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนไอออนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Montrose
“บริษัทของเรามีพื้นฐานจากนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเราจึงมองหาพันธมิตรในแนวทางเดียวกัน” Dr. Banovetz จาก 3M กล่าว “เราสามารถหาพันธมิตรใน Montrose ได้อย่างรวดเร็ว และรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือของ Montrose ที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะเป้าหมายด้านคุณภาพน้ำของเรา”
“เราทำงานร่วมกับบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 หลายแห่ง John และทีมผู้นำของ 3M เป็นหนึ่งในผู้นำที่มุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืนมากที่สุดที่เราเคยมีความยินดีได้ร่วมงานด้วย” Manthripragada กล่าว “เมื่อทีมของ Montrose และ 3M คิดเกี่ยวกับวิธีการ [กำจัด PFAS จากน้ำ] ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญ ผลลัพธ์จากการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีร่วมกันนั้นคือโซลูชันที่สร้างของเสียน้อยลง ใช้สื่อกลางการกรองน้อยลง มีขนาดเล็กลงซึ่งอาจปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับพนักงาน และใช้พลังงานน้อยลง”
โซลูชันที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Montrose มีลักษณะเป็นลูกปัดพลาสติกขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้พวกมันมีความสามารถสูงในการจับกับ PFAS และกำจัดสารประกอบเหล่านี้ออกจากน้ำ เราสามารถล้างลูกปัดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้แทนที่จะทิ้งและเปลี่ยนลูกปัดเมื่อใช้งานแล้ว นอกจากนี้ Montrose ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีในการทำความสะอาดโซลูชันการฟื้นฟูที่ใช้ไปแล้วโดยใช้การกลั่นและการบรรจุซ้ำ ทำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง การจับคู่เทคโนโลยีการบำบัดด้วยเรซินกับโซลูชันการฟื้นฟูนี้ ทำให้ได้ระบบบำบัด PFAS ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการกำจัด PFAS ออกจากสิ่งแวดล้อม
Dr. Woodard กล่าวว่าระบบที่พัฒนาขึ้นสำหรับ 3M ผ่านความร่วมมือนี้ได้ถูกนำไปใช้ทั่วโลกและกำลังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนต่าง ๆ ที่อยู่ไกลถึงออสเตรเลีย “เราได้พัฒนาเทคโนโลยีหลายประเภทเพื่อกำจัดพวกมันออกจากสิ่งแวดล้อม และ 3M กำลังเป็นผู้นำทาง” Dr. Woodard กล่าว “เราจะเป็นประโยชน์ต่อหลายอุตสาหกรรม ชุมชน และรัฐบาล แต่ที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน
สามารถเข้าฟังการบันทึกเสียงการประชุมซ้ำได้ที่เว็บไซต์การถ่ายทอดสดของการประชุม BofA ที่ PFAS Panel: Advancing Technology for a Cleaner Tomorrow (veracast.com)
เกี่ยวกับ Montrose
Montrose เป็นบริษัทชั้นนำด้านโซลูชันสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นการสนับสนุนองค์กรการค้าและรัฐบาลในการรับมือกับความท้าทายของปัจจุบันและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ด้วยพนักงานประมาณ 3,200 คนในกว่า 100 แห่งทั่วโลก Montrose ผสมผสานความรู้ท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งกับแนวทางแบบบูรณาการในการออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน ทำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของแต่ละโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวัดคุณภาพอากาศและบริการห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน การออกใบอนุญาต วิศวกรรม และการฟื้นฟู Montrose มอบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและปฏิบัติได้จริงที่ช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาอยู่เหนือความต้องการในทันทีและล้ำหน้าในเชิงกลยุทธ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ www.montrose-env.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
Montrose
ฝ่ายสื่อสารกับนักลงทุน:
Rodny Nacier
(949) 988-3383
ir@montrose-env.com
ฝ่ายสื่อสารมวลชน:
Sarah Kaiser
(225) 955-1702
pr@montrose-env.com
ที่มา: Montrose Environmental Group, Inc.
Netmore Group ขยายสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการส่งมอบบริการเครือข่าย LoRaWAN ที่มุ่งเน้นช่องทาง
แพลตฟอร์มในรูปแบบบริการได้รับการวางตำแหน่งเพื่อรองรับการเปิดตัว IoT จำนวนมากในตลาดยูทิลิตี้ เทศบาล และองค์กร
สตอกโฮล์ม, สวีเดน–(BUSINESS WIRE)–15 พฤษภาคม 2024
Netmore Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย LoRaWAN ชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศในวันนี้ว่าจะขยายธุรกิจ IoT ไปสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการตรวจสอบสาธารณูปโภคที่ใช้เซ็นเซอร์และโครงสร้างพื้นฐานของเทศบาลและโซลูชันการจัดการพลังงาน การขยายธุรกิจนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเข้าซื้อกิจการ Senet ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ LoRaWAN ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเป็นการเพิ่มเครือข่ายของ Senet เข้าไปในการดำเนินงานของเครือข่ายระดับผู้ให้บริการในตลาดยุโรป 11 แห่ง
Netmore กำลังเข้าใกล้ภูมิภาค APAC ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นช่องทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการส่งมอบการเชื่อมต่อเครือข่ายที่รองรับอนาคตผ่าน Platform-as-a-Service (PaaS) ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อรองรับการเปิดตัว IoT ขนาดใหญ่ ด้วยประสบการณ์เชิงลึกในโดเมนแนวดิ่ง ความน่าเชื่อถือระดับผู้ให้บริการ และโมเดลราคาที่เอื้อมถึงและปรับขนาดได้ Netmore นำเสนอโครงสร้างที่คุ้มค่าและคาดการณ์ได้สำหรับ MNO, OEM และผู้รวมระบบที่ต้องการขยายข้อเสนอเพื่อสร้างรายได้จากความคิดริเริ่มในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เพื่อลดต้นทุนเครือข่ายอย่างต่อเนื่องในขณะที่ปรับปรุงการให้บริการ Netmore ยังร่วมมือกับบริษัททาวเวอร์และผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในกิจกรรมการพัฒนาธุรกิจร่วมกันในตลาดที่เลือก
ด้วยการขยายธุรกิจนี้ Netmore ได้แต่งตั้ง Lim Perng ให้เป็นหัวหน้าฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย Lim ได้นำมาซึ่งความสำเร็จมายาวนานกว่า 15 ปีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และประวัติที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในด้านการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Lim Perng กล่าวว่า “Netmore อยู่ในตำแหน่งที่ดีมากที่จะกลายเป็นผู้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลักในการส่งมอบการเชื่อมต่อ IoT ในช่วงเวลาที่มีการปรับใช้ทั่วโลก ฉันตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับองค์กรในขณะที่บริษัทขยายตัว ฉันตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับทีม Netmore และพันธมิตรของเราทั่วทั้งระบบนิเวศเพื่อมอบโซลูชันการเชื่อมต่อที่จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุความสำเร็จทางธุรกิจที่ยั่งยืน”
Ove Anebygd ผู้เป็นซีอีโอของ Netmore Group AB กล่าวว่า “ในอีกหลายปีข้างหน้าจะเป็นปีที่พิเศษสำหรับตลาด IoT และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ Lim มาร่วมมือกับเราเพื่อสนับสนุนการเติบโตขั้นต่อไปของเรา ประสบการณ์ของ Lim ในการจัดการทีมที่มีประสิทธิภาพสูงในหลายประเทศและความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานและลูกค้าองค์กรผ่านเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของลูกค้าจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับองค์กรของเรา”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.netmoregroup.com หรืออีเมล lim.perng@netmoregroup.com เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการเป็นพันธมิตร
Netmore Group คือผู้ให้บริการเครือข่าย IoT ที่สร้างเครือข่ายข้ามชาติชั้นนำเพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน เรานำเสนอแพลตฟอร์มเครือข่ายที่เชื่อถือได้และความเชี่ยวชาญด้านการเชื่อมต่อชั้นนำเพื่อการวัดผล การตรวจสอบ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์ 10 ปีในอุตสาหกรรมนี้ เรามีประวัติที่ดี ดำเนินงานอย่างไร้ขอบเขตในตลาดยุโรป และเติบโตขึ้นจนกลายเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำระดับโลก เจ้าของหลักของกลุ่ม Netmore คือ Polar Structure ซึ่งเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชาวนอร์ดิก
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
รายชื่อติดต่อ
ข้อมูลติดต่อสื่อมวลชน:
James Gerber
Crackle Communications
+1 508-233-3391
netmore@cracklepr.com
ข้อมูลติดต่อ Netmore:
Ken Lynch
VP, Global Marketing
+1 617-877-5393
ken.lynch@netmoregroup.com
แหล่งที่มา: Netmore Group
AGC Group ได้รับการรับรอง First Cradle to Cradle Certified® เป็นครั้งแรกสําหรับผลิตภัณฑ์กระจกภายใน Mirox MNGE ในเอเชีย
โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–13 พฤษภาคม 2024
Mirox MNGE ของ AGC Glass Asia กระจกตะกั่วต่ำ ได้รับรางวัล Cradle to Cradle Certified® ในระดับทองแดงตามเวอร์ชัน 3.1 การรับรองนี้ครอบคลุมถึงการผลิตโดยบริษัทในเครือ AGC Group สองแห่งในเอเชีย ได้แก่ PT Asahimas Flat Glass Tbk และ AGC Float Glass (ประเทศไทย)
AGC Group ได้รับการรับรอง First Cradle to Cradle Certified® เป็นครั้งแรกสําหรับผลิตภัณฑ์กระจกภายใน Mirox MNGE ในเอเชีย (รูปกราฟิก: Business Wire)
กระจก Mirox MNGE ได้รับการประเมินอย่างละเอียดตามเกณฑ์การประเมินหลักห้าประเภท ได้แก่ สุขภาพวัสดุ การนําวัสดุกลับมาใช้ใหม่ พลังงานหมุนเวียน การดูแลน้ำ และความเป็นธรรมทางสังคม การรับรองนี้ไม่เพียงตรวจสอบข้อมูลประจําตัวด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการได้รับการรับรองอาคารเขียว เช่น LEED, WELL และ Green Star (ออสเตรเลีย)
AGC Group ได้กําหนด “ค่านิยมทางสังคมสามประการ” ที่จะสร้างขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในแผนการจัดการระยะกลาง “AGC plus-2026” หนึ่งในนั้นคือ “Blue planet” มีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมโลก ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม ด้วยการได้รับการรับรอง Cradle to Cradle Certified® กลุ่มบริษัทกําลังสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
เกี่ยวกับ AGC
AGC Inc. (สํานักงานใหญ่: โตเกียว ประธานและซีอีโอ: Yoshinori Hirai) (TOKYO: 5201) เป็นบริษัท แม่ของ AGC Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นกระจกชั้นนําของโลก และผู้จัดจําหน่ายกระจกแผ่นราบ ยานยนต์ และจอแสดงผล เคมีภัณฑ์ เซรามิก ตลอดจนวัสดุและส่วนประกอบไฮเทคอื่นๆ ด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคที่สั่งสมมานานกว่าหนึ่งศตวรรษ AGC Group ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยมากมาย กลุ่มบริษัทมีพนักงานประมาณ 57,000 คนทั่วโลก และสร้างยอดขายต่อปีประมาณ 2.0 ล้านล้านเยน (ประมาณ 13.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ผ่านการดําเนินงานในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค เรียนรู้เพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ของ AGC และบน LinkedIn
สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53983396/en
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
ติดต่อ
Irene Chen โทร: +65 6273 5656, อีเมล: info-pr@agc.com