Tag Archives: google

สตาร์ตอัปของอดีตผู้บริหาร Google อย่าง Crackle Technologies ในสิงคโปร์ ซึ่งมุ่งเน้นบริษัทผู้เผยแพร่ ระดมทุนได้ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพลิกโฉมเทคโนโลยีการโฆษณาด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–11 กันยายน 2024

Crackle Technologies ระดมทุนช่วงทดสอบไอเดียได้ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AI ในการช่วยให้ผู้เผยแพร่เพิ่มรายได้จากเทคโนโลยีการโฆษณาของตนให้ได้มากที่สุด รอบการระดมทุนนี้นำดำเนินการโดย We Founder Circle และ AC Ventures ผู้ลงทุนรายอื่นที่เข้าร่วม ได้แก่ ผู้ก่อตั้ง Impetus Technologies, Sunicon Ventures, Global DeVC และ Misfits Capital ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ก่อตั้งบริษัทเผยแพร่ชั้นนำอย่าง Ludo King, Dainik Jagran, Amar Ujala และรายอื่น ๆ ก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อทีมงาน Crackle ผ่านการร่วมเป็นผู้ลงทุนด้วยเช่นกัน ซึ่ง Crackle จะขยายขอบเขตการดำเนินงานไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมุ่งเน้นที่เวียดนามและอินโดนีเซีย

Crackle Co-Founders (L-R) Harsh Mittal, Shashank Dudeja and Jaivir Singh Nagi (Photo: Business Wire)

ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle (จากซ้ายไปขวา) Harsh Mittal, Shashank Dudeja และ Jaivir Singh Nagi (รูปภาพ: Business Wire)

เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเป็นหลัก รวมถึงขยายการดำเนินงานทั่วโลกเพื่อสนับสนุนผู้เผยแพร่รายต่าง ๆ ในด้านเกม แอป ข่าว และ OTT (ผ่านการจัดการปัญหาสำคัญ ซึ่งรวมถึง Fill Rate ที่ต่ำ และ eCPM) เทคโนโลยีอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ Crackle ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและการจำลองโมเดลเชิงคาดการณ์ขั้นสูงเพื่อยกระดับรายได้จากโฆษณาของผู้เผยแพร่ รวมถึงจัดการขั้นตอนการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ และส่งมอบประสบการณ์ที่ชั้นเลิศให้แก่ผู้ใช้

Crackle มีการก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้บริหาร Google สามราย ได้แก่ Harsh Mittal, Shashank Dudeja และ Jaivir Singh Nagi โดยทั้งสามมีประสบการณ์รวมกันถึง 18 ปีในอุตสาหกรรมการสร้างรายได้สำหรับผู้เผยแพร่ ซึ่งจากประสบการณ์ระดับมืออาชีพนี้ เหล่าผู้ก่อตั้งได้บริหารจัดการเงินหลายพันล้านในด้านรายได้จากโฆษณาและช่วยให้ผู้เผยแพร่หลายรายขยับขยายการสร้างรายได้จากโฆษณาของตนได้ถึง 10 เท่าด้วยการใช้นวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมหลายรายการ โดย Crackle มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้เผยแพร่เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของตนให้ได้มากที่สุดและสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน

Vikash Jaiswal ผู้สร้าง Ludo King ยอดนิยมที่มียอดการดาวน์โหลดกว่า 1 พันล้านครั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนว่า “ประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากโฆษณาในเกมของทีมผู้ก่อตั้งส่งผลให้ Crackle อยู่ในระดับแนวหน้าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการโฆษณา ผมเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางของพวกเขา”

Jaivir ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle แสดงความขอบคุณต่อความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากผู้ลงทุน โดยกล่าวเสริมว่า “เงินทุนนี้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันพันธกิจของเรา เพื่อเพิ่มรายได้ของผู้เผยแพร่ให้ได้มากที่สุดและส่งเสริมระบบนิเวศอันประกอบไปด้วยเนื้อหาที่หลากหลายซึ่งกำลังเติบโตก้าวหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อให้โลกอินเทอร์เน็ตน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อทุกคนต่อไป”

Harsh ผู้ร่วมก่อตั้ง Crackle ระบุเพิ่มเกี่ยวกับการขยายการดำเนินงานไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า “แวดวงเทคโนโลยีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพร้อมสำหรับนวัตกรรม เราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับผู้พัฒนาเกมและแอปเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของผู้พัฒนาด้วยโซลูชันเทคโนโลยีการโฆษณาของเรา”

นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2023 ทาง Crackle ได้รับความสนใจอย่างมากผ่านการสร้างผลตอบแทนจำนวนมากให้กับผู้เผยแพร่ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราการสร้างรายได้ต่ำและการครอบครองตลาดของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรายใหญ่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54119780/en

ข้อมูลติดต่อ

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ Shashank Sethi ที่ shashank.sethi@ihorizoncommunications.com

แหล่งที่มา: Crackle Technologies

teamLab Planets TOKYO ในโตโยสุติด 5 อันดับแรกของ ‘พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก’ ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปีของ Google โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป งานศิลปะที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จะถูกนำมาจัดแสดงให้ชม

Logo

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังติดอันดับหนึ่งใน “การจัดอันดับจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม” ของ Honichi Lab อีกด้วย

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–23 มกราคม 2024

teamLab Planets TOKYO DMM ในโตโยสุ (teamLab Planets) ติด 5 อันดับแรกของ 'พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก' (*1) ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปี 'Year in Search 2023' ของ Google การจัดอันดับนี้จะแสดงรายการพิพิธภัณฑ์ที่มีการค้นหามากที่สุดบน Google Maps ทั่วโลกในปี 2023 โดย teamLab Planets นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์อันมีชื่อเสียงซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าร้อยปี

Flowers grow, bud, bloom, and in time, the petals fall, and the flowers wither and die. At teamLab Planets, a body immersive museum in Toyosu, Tokyo. (teamLab, Floating in the Falling Universe of Flowers / Photo: teamLab)

ดอกไม้เติบโต แตกยอด ผลิบาน และเมื่อเวลาผ่านไป กลีบดอกไม้ก็ร่วงหล่น และดอกไม้นั้นก็เหี่ยวเฉาและตายไป ณ teamLab Planets ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แบบให้ร่างกายของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงานในโทโยสุ โตเกียว (teamLab Floating in the Falling Universe of Flowers:ลอยละล่องลู่ลมไปกับพายุดอกไม้ / วิดีโอ: teamLab)

Google Maps: พิพิธภัณฑ์ยอดนิยม

  1. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
  2. พิพิธภัณฑ์อังกฤษ (The British Museum) ลอนดอน สหราชอาณาจักร
  3. พิพิธภัณฑ์ออร์แซ ปารีส (Musée d'Orsay) ประเทศฝรั่งเศส
  4. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Natural History Museum) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  5. teamLab Planets โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
  6. Rijksmuseum  อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
  7. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติปราโด (Prado National Museum) มาดริด ประเทศสเปน
  8. พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
  9. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน (American Museum of Natural History) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
  10. บ้านแอนน์ แฟรงค์ (Anne Frank House) อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังติดอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับ “สถานที่ท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม” ของ Honichi Lab

teamLab Planets ได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งใน “การจัดอันดับจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม” ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2023 โดย Honichi Lab (Visit Japan Lab) สื่อข้อมูลการท่องเที่ยวขาเข้าชั้นนำของญี่ปุ่น (*2) การจัดอันดับนี้ประเมินและรวบรวมรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว 4,700 แห่งใน 47 จังหวัดของญี่ปุ่นใน Google Map โดยนำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใครโดย Honichi Lab

10 อันดับแรกในการจัดอันดับมีดังนี้ :

  1. teamLab Planets TOKYO DMM
  2. วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera)
  3. พิพิธภัณฑ์ซามูไรและนินจาเกียวโต (Kyoto Samurai Ninja Museum)
  4. ศาลเจ้าเทพอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
  5. หอโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
  6. ย่านโดทนโบริ (Dōtonbori)
  7. วัดเซนโซจิ (Sensō-ji)
  8. สวนกวางนารา (Nara Park)
  9. ตลาดนิชิกิ เกียวโต (Kyoto Nishiki Market)
  10. หอโตเกียวทาว์เวอร์ (Tokyo Tower)

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในญี่ปุ่น นับจากนี้ไป เราจะรับฟังเสียงที่มีชีวิตของผู้เข้าชมของเราที่แสดงออกมาผ่านการวิจารณ์และคำติชมของพวกเขาต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นในแนวคิด 'ให้ร่างกายทั้งหมดของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงาน' เราได้ทุ่มเทเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นที่จะช่วยให้ผู้คนจากทั่วโลกได้เพลิดเพลินไปกับโลกแห่งศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพิพิธภัณฑ์ของเราได้อย่างเต็มที่” —— teamLab Planets

เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป งานศิลปะที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จะถูกนำมาจัดแสดงให้ชม

ฤดูใบไม้ผลินี้ ผู้เยี่ยมชม teamLab Planets จะได้สัมผัสประสบการณ์อันดอกซากุระจะปกคลุมในพื้นที่ของงานศิลปะขนาดใหญ่สองแห่ง “Floating in the Falling Universe of Flowers : ลอยละล่องลู่ลมไปกับพายุดอกไม้ ” ซึ่งมีดอกไม้บานและกระจัดกระจายอยู่ตลอดทั้งปีนั้น จะมีดอกซากุระเต็มพื้นที่ในช่วงเวลาที่จำกัดนี้เท่านั้น

ในงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งที่ชื่อว่า 'Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity : การวาดภาพบนผิวน้ำที่เกิดจากการเต้นรำของปลาคาร์ปและผู้คน –  อนันตภาพ ' ซึ่งผู้เข้าชมจะต้องเดินเท้าเปล่าผ่านน้ำ ปลาคาร์ปที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำนั้นจะกระจายออกเป็นรูปดอกซากุระเมื่อปะทะกับผู้คน ซึ่งงานศิลปะเหล่านี้ที่มีดอกซากุระนี้จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 (วันศุกร์) ถึงวันที่ 30 เมษายน 2024 (วันอังคาร)

วิดีโองานศิลปะ : Floating in the Falling Universe of Flowers
วิดีโองานศิลปะ : Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity

พิพิธภัณฑ์มีผู้เยี่ยมชมเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 198 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกประมาณหนึ่งในสิบของผู้ที่ได้เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น

ตลอดทั้งปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2023 ผู้คนประมาณ 2.5 ล้านคนจาก 198 ประเทศและภูมิภาค ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น ได้ไปเยี่ยมชม teamLab Planets ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นประมาณ 70% ของผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด (*3) มีรายงานด้วยว่าประมาณ 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นนั้นได้ไปเยี่ยมชม teamLab Planets (*4) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในระดับนานาชาติ โดยได้รับรางวัล “สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย” ในงาน World Travel Awards ประจำปี 2023 ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นรางวัล Oscars แห่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จุดหมายปลายทางในญี่ปุ่นได้รับรางวัล

แนวคิดของ teamLab Planets

เชื่อมโยงกับผู้อื่น  พาร่างกายทั้งหมดเข้าไป รับรู้ด้วยร่างกายของคุณ และหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้เดินผ่านน้ำ และสวนซ฿งทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ ที่นั่นประกอบด้วยพื้นที่แสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 แห่ง และสวน 2 แห่งซึ่งสร้างโดยกลุ่มงานศิลปะ teamLab

ผู้คนจะเดินเท้าเปล่าและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันกว้างใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยงานศิลปะนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการปรากฏตัวของผู้คน ทำให้การรับรู้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานพร่ามัว เมื่อบุคคลอื่นๆ ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปะ ทำให้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานนั้นไม่ชัดเจน และสร้างความต่อเนื่องกันระหว่างตนเอง ศิลปะ และผู้อื่น

*1 “พิพิธภัณฑ์เหล่านี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกตาม Google’s‘Year in Search’” artnet. 20 ธันวาคม 2023.
*2 “สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ! อันดับ 2 คือ “คิโยมิสึเดระ” แล้วอันดับ 1 คืออะไร? ประกาศรายชื่อ TOP 30 ที่ได้รับการคัดเลือกจากสถานที่ท่องเที่ยว 4,700 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น [2023 1 | Honichi Lab (Visit Japan Lab). 15 ธันวาคม 2020

*3 จากข้อมูลการซื้อตั๋วอย่างเป็นทางการของเว็บไซต์ “teamLab Planets” จำแนกตามประเทศ (1 มีนาคม 2023 – 31 สิงหาคม 2023)
*4 “พิพิธภัณฑ์ศิลปะนิปปอน/ดิจิทัลอันน่าทึ่งในโตเกียวได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ – The Japan News” The Japan News by the Yomiuri Shimbun 5 สิงหาคม 2023

teamLab Planets TOKYO DMM
6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo
https://maps.app.goo.gl/QVs4a34HD9qnvjUo8

เวลาทำการ
ทุกวัน: 09:00 – 22:00
*เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง
*เวลาที่เปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดที่หน้าเว็บไซต์ทางการ
วันที่ปิด: วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์; วันพุธที่ 6 มีนาคม; วันพุธที่ 10 เมษายน

ค่าเข้าชม

จนถึงเดือนกุมภาพันธ์

[บัตรเข้าชมแบบตลอดทั้งวัน]

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

3,800 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,300 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,300 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

1,900 JPY

เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

[จ.-ศ.]

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

3,800 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,800 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,500 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

1,900 JPY

[วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงพิเศษ]

*ช่วงเวลาพิเศษ: 21 มีนาคม (พฤหัสบดี) – 5 เมษายน (วันศุกร์), 30 เมษายน (วันอังคาร)

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

4,200 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,800 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,500 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

2,100 JPY

ร้านจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการ
https://teamlabplanets.dmm.com

เว็บไซต์และสื่อสังคม (SNS)
planets.teamlab.artInstagramFacebookX (Twitter)
#teamLabPlanets

อาหารและร้านค้า
Vegan Ramen UZU Tokyo teamLab Flower Shop

สำหรับสื่อมวลชน
Press Kit
Highlight Video

เกี่ยวกับบริษัท PLANETS Co., Ltd.
ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ทำหน้าที่ดำเนินงานและบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของ teamLab Planets TOKYO
ที่อยู่: Tokyo Nihonbashi Tower 10F, 2-7-1 Nihonbashi, Chuo-ku, Tokyo
ตัวแทน: Takumi Nomoto

เกี่ยวกับ teamLab
teamLab (f. 2001) คือกลุ่มศิลปะระดับนานาชาติ แนวทางปฏิบัติร่วมกันของพวกเขาคือการมุ่งหวังที่จะนำทางการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชันCG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิกเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลก ตลอดจนการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านงานศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา ผู้คนจึงแบ่งโลกออกเป็นอัตลักษณ์อิสระโดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างพวกเขา teamLab พยายามที่จะก้าวข้ามขอบเขตเหล่านี้ในการรับรู้โลกของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอยู่ในความต่อเนื่องที่ยาวนาน เปราะบาง แต่อัศจรรย์ และไร้ขอบเขต

นิทรรศการ teamLab จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลลีย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น และอื่นๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑ์ teamLab และนิทรรศการถาวรขนาดใหญ่ ได้แก่ teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, teamLab SuperNature Macao และ teamLab Massless Beijing และอื่นๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในเมืองต่างๆ เช่น อาบูดาบี ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทรคต์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์Museum of Contemporary Art ที่ลอสแอนเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ ซิดนีย์; หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลีย แอดิเลด; พิพิธภัณฑ์ศิลปะAsian Art Museum ซานฟรานซิสโก; พิพิธภัณฑ์สมาคมเอเชีย นิวยอร์ก; Borusan Contemporary Art Collection ในอิสตันบูล; หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย เมลเบิร์น; และเอมอส เร็กซ์, เฮลซิงกิ และอื่นๆ อีกมากมาย

teamLab นำเสนอโดย Pace Gallery, Martin Browne Contemporary และ Ikkan Art.
teamlab.artInstagramFacebookX (Twitter)YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53885086/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

PLANETS Co., Ltd.
Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
การสัมภาษณ์: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd..


Google Pay ในอินเดียลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MoU) กับ NPCI International เพื่อการขยายของ UPI สู่ทั่วโลก

Logo

นิวเดลี–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2024

บริษัท Google India Digital Service (P) Limited และ NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ได้ทำการลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงร่วมกัน (MoU) เพื่อขยายผลของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ซึ่งจะนำความเปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศต่างๆ นอกเหนือจากประเทศอินเดีย

โดยข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ หนึ่งคือทำการขยายการใช้ระบบการชำระและส่งเงินแบบ UPI สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย เพื่อให้พวกเขาสามารถทำธุรกรรมในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น สองคือช่วยในการสร้างระบบการชำระเงินดิจิทัลที่คล้ายกับ UPI ในประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เป็นรูปแบบสำหรับการทำธุรกรรมทางการงานที่ราบรื่น และข้อสุดท้ายคือข้อตกลงร่วมกันนี้มีการให้ความสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้โครงสร้างของ UPI ซึ่งจะทำให้การแลกเปลี่ยนทางการเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น

วัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้จะช่วยในการเร่งรัดให้ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้รับการยอมรับในทั่วโลกมากขึ้น โดยการให้ผู้ประกอบการต่างประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจากอินเดียโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะสกุลเงินต่างประเทศ บัตรเครดิต หรือบัตร Forex เพื่อทำการชำระเงินดิจิทัล และจะทำให้มีตัวเลิกในการใช้แอปพลิเคชันที่รองรับระบบ UPI จากอินเดีย รวมไปถึง Google Pay ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความมุ่งมั่นของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ในการเสริมสร้างบทบาทของอินเดียในเวทีการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก นอกจากนี้แล้ว ข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้ยังจะมีส่วนสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยการลดความผูกขาดของช่องทางการโอนเงินอย่างที่เคยเป็นมา

ดีคชา เคาชาล, ผู้อำนวยการ, หุ้นส่วน, Google Pay ในอินเดีย กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในการขยายขอบเขตการใช้งานระบบ UPI ไปสู่ตลาดระดับสากล และ Google Pay เองเต็มใจและรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมมือกับบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) และระบบการเงินภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน โดยการร่วมมือนี้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยยืนยันถึงการทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องที่ง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบาย ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้แสดงให้โลกเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเมื่อมีการใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระดับที่ประชากรสามารถทำงานร่วมกันได้ และทุกระบบเศรษฐกิจที่เข้าร่วมในเครือข่ายดังกล่าวจะสร้างแรงกระเพื่อมเกินกว่าผลรวมของบทบาทที่มันเป็น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับนี้”

ริเตช ชูกลา, ประธานบริหาร NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับ Google Pay เพื่อผลักดันระบบ UPI ให้เข้าสู่เวทีโลก การวางกลยุทธ์ทางพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การทำธุรกรรมต่างประเทศสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้เราสามารถขยายความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการเกี่ยวกับระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จนี้ไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดใช้งานเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศที่จะมีความราบรื่นและเชื่อมต่อกันมากขึ้นด้วยการขยายความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศของระบบ UPI และด้วยความสำเร็จของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นประจักษ์ในอินเดียนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สานต่อวิสัยทัศน์ของเราในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของการชำระเงินดิจิทัลทั่วโลก”

การขยายตัวไปยังทั่วโลกของระบบ UPI แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่น ปลอดภัย และมีความคุ้มครองทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงให้แก่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NPCI International คลิกที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางติดต่อ

สำหรับสื่อ: corporate.communications@npci.org.in

แหล่งที่มา: NPCI International Payments Ltd

Ingram Micro Cloud นำเสนอพอร์ตโฟลิโอ Google Cloud Platform Google Workspace และ Chrome Enterprise ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

เครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางของ Ingram Micro Cloud ได้รับโอกาสใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและขยายธุรกิจ IaaS ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2565

Ingram Micro Cloud ประกาศในวันนี้ว่ากำลังนำเสนอ Google Cloud Platform (GCP), Google Workspace และ Chrome Enterprise ให้กับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ทั้งนี้ Ingram Micro Cloud กำลังนำเสนอบริการ Google Cloud ที่โดดเด่น ซึ่งเปิดตัวก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส – พร้อมใช้งานเฉพาะกับเครือข่ายในตลาดเหล่านี้เป็นครั้งแรก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสนับสนุนการเสนอ Cloud Marketplace ของ Ingram Micro ทั่วโลก ด้วยพันธมิตรที่มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จาก Ingram Micro Cloud เพื่อขยายธุรกิจ Google Cloud Platform, Google Workspace และ Chrome Enterprise

Google Cloud และ Ingram Micro Cloud กำลังทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาทักษะและข้อเสนอในปัจจุบันของพันธมิตรช่องทางจำหน่าย และพัฒนาทรัพยากรใหม่เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในการจัดการลูกค้าปลายทาง Ingram Micro Cloud ยังครอบคลุมถึงการรองรับพันธมิตรที่หลากหลายและสนับสนุนความคิดริเริ่ม เพื่อช่วยพันธมิตรสร้างแนวทางปฏิบัติ GCP, Google Workspace และ Chrome Enterprise ผ่านโปรแกรมพันธมิตร ซึ่งจัดให้มีโมเดลการมีส่วนร่วมแบบ end-to-end สำหรับ Ingram Micro Cloud เพื่อเปิดใช้งานผู้รวมระบบ (SIs ) และผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV)

Victor Paradell กรรมการบริหาร ฝ่ายขายช่องทางคลาวด์ ตลาดเกิดใหม่ที่ Ingram Micro Cloud กล่าวว่า “พันธมิตรช่องทางจำหน่ายในภูมิภาคจะได้รับประโยชน์จากความแข็งแกร่งของความร่วมมือนี้ ในการคว้าโอกาสการเติบโตที่สำคัญในข้อเสนอบริการคลาวด์แบบ end-to-end ของ Google” Paradell กล่าวต่อว่า “Ingram Micro Cloud รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Google Cloud และในทางกลับกันก็มอบสิทธิ์เฉพาะแก่พันธมิตรผู้ค้าปลีกของเราทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเข้าถึงพอร์ตโฟลิโอ Google Cloud Platform, Google Workspace และ Chrome Enterprise ของเรา ด้วยการประกาศนี้ เราแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรของเราที่สามารถเข้าถึงโซลูชันการทำงานร่วมกันและโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์ดีที่สุด การบริการ และผลประโยชน์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกโอกาสทางดิจิทัลในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในโลก”

Ingram Micro Cloud คาดว่าเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางจะมีโอกาสใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ขยายธุรกิจ IaaS ของพวกเขา จากผลลัพธ์ของการขยายความสัมพันธ์กับ Google Cloud ทั้งนี้ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความเฟื่องฟูในตลาด IaaS ระดับโลก โดย Gartner รายงานการเติบโตคิดเป็น 40.7% ของการบริการคลาวด์สาธารณะ IaaS ทั่วโลกในปี 2563 และนักวิจัยตลาดคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะมีมูลค่าถึง 74.63 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2568

“เราได้พบกับความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากธุรกิจต่าง ๆ โดยที่พวกเขาเปิดรับระบบคลาวด์ในการขับเคลื่อนความยืดหยุ่น นวัตกรรม และการเติบโต การปรับใช้ระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นนี้หมายความว่าความต้องการพันธมิตรที่มีทักษะสูงเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของลูกค้าของเราไม่เคยยิ่งใหญ่เท่านี้มาก่อน” Ruma Balasubramanian กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Google Cloud กล่าว “ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ Ingram Micro Cloud ในการสร้างและปรับขนาดแนวทางปฏิบัติของ Google Cloud ที่ประสบความสำเร็จ SI และ ISV จะได้รับโอกาสที่สำคัญในการส่งมอบการใช้งานที่มีมูลค่าสูงและบริการระดับมืออาชีพ โซลูชันแบบแนวตั้ง และความเชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เราภูมิใจที่พันธมิตรของเราได้เห็นการเติบโตที่น่าประทับใจในแทบทุกด้านของธุรกิจของพวกเขา และความร่วมมือของเรากับ Ingram Micro Cloud เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการจัดหาผลิตภัณฑ์ การบริการ การฝึกอบรม และการสนับสนุนสู่ตลาดให้กับระบบนิเวศของพันธมิตรในภูมิภาคที่จำเป็นในการเร่งแรงผลักดันร่วมกันของเรา”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอ Google Cloud ของ Ingram Micro Cloud สามารถดูได้ที่หน้า IaaS landing page ของเรา

เกี่ยวกับ Ingram Micro Cloud

Ingram Micro Cloud ได้รวบรวมนวัตกรและนักแก้ปัญหาเพื่อช่วยให้โลกประสบความสำเร็จมากขึ้น และยังช่วยอำนวยความสะดวกและจัดการห่วงโซ่คุณค่าดิจิทัลที่ซับซ้อนของระบบคลาวด์ ซึ่งทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี CloudBlue ด้วยการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ การเข้าถึงที่ง่ายดายในการเข้าสู่ตลาดอัตโนมัติและเครื่องมือบูรณาการ ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเชิงลึก และการเลือกโซลูชัน SaaS และ IaaS ที่คัดสรรมาอย่างดี Ingram Micro Cloud ช่วยผู้ขาย ผู้ค้าปลีก และผู้ให้บริการแบบ managed service ได้โดยนำเสนอการบริการแบบ More as a Service ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ingrammicrocloud.com

ติดต่อ:

Megan Binkley
Global Public Relations, Ingram Micro Cloud
Megan.Binkley@ingrammicro.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย