Tag Archives: earth

Bolt.Earth และ Taizhou Chinv Science and Technology Development Co., Ltd กระชับความร่วมมือที่มีมายาวนาน เพื่อปฏิวัติระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า

Logo

ขับเคลื่อนอย่างชาญฉลาด เชื่อมต่อการขับขี่ อนาคตของระบบการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังจะเปิดเผย

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

Bolt.Earth บริษัทในสิงคโปร์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดระบบปฏิบัติการ EV ที่เชื่อมต่อกัน ได้กระชับความร่วมมือกับ Chinv ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบและผลิตรถจักรยานยนต์ EV 2 ล้อ พวกเขาตั้งเป้าที่จะกำหนดนิยามใหม่แห่งอนาคตของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในงาน EICMA 2023 ที่ Fiera Milano-Rho Milan ในปีนี้ ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำงานร่วมกันของความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบของ Chinv และหน่วยปฏิบัติการอันชาญฉลาดของ Bolt.Earth ซึ่งผสานความร่วมมือกันมานานหลายปีเพื่อสร้างประสบการณ์ EV ที่ไม่เคยมีมาก่อน

Driving Innovation: Bolt.Earth and Chinv Redefine the Future of Electric Mobility at EICMA 2023 (Graphic: Business Wire)

การขับเคลื่อนนวัตกรรม: Bolt.Earth และ Chinv กำหนดนิยามใหม่แห่งอนาคตของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในงาน EICMA 2023 (รูปภาพ: Business Wire)

เนื่องจากความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนาน จึงคาดว่าการเปิดตัว Bolt.Earth Blaze ใหม่ที่งาน EICMA 2023 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของวงการรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Bolt.Earth Blaze คือแพลตฟอร์มการชาร์จที่รวดเร็วที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดกระบวนทัศน์การชาร์จ EV ใหม่ นวัตกรรมนี้ช่วยลดระยะเวลาการชาร์จลงอย่างมาก ทำให้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสะดวกและเข้าถึงได้มากขึ้น

Jyotiranjan Harichandan ผู้ร่วมก่อตั้ง Bolt.Earth กล่าวว่า “การเดินทางของเรากับ Chinv ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ความร่วมมือครั้งนี้สร้างขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง ถือเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของการขนส่งที่ยั่งยืน ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของ Chinv ในการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์ ผสมผสานกับการชาร์จและการทำงานของยานพาหนะของเรา กำลังวางรากฐานสำหรับอนาคต

การบรรจบกันของโซลูชันซอฟต์แวร์ขั้นสูงของ Bolt.Earth และความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาฮาร์ดแวร์ของ Chinv แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของช่วงการเปลี่ยนแปลงเพื่อการขนส่งที่ยั่งยืน การร่วมทุนครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์เหล่านี้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและมีความเหนือกว่าใครทางเทคโนโลยี

Ms. Xu Duo (Rita) ประธาน Chinv กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรของเรากับ Bolt.Earth แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปสู่อีกระดับที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นอย่างกล้าหาญ ศักยภาพในการปฏิวัติวงการ EV นั้นยิ่งใหญ่ และเราพร้อมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยกัน

เข้าร่วมกับเราที่ EICMA 2023 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 12 พฤศจิกายนที่ Fiera Milano-Rho Milan โดยที่ Bolt.Earth จะจัดแสดงข้อเสนอล่าสุดของพวกเขาที่บูธหมายเลข C-49 ในฮอลล์หมายเลข 14 ร่วมกับ Chinv พร้อมด้วยประสบการณ์เสมือนจริงที่น่าทึ่ง

เกี่ยวกับ Chinw

Chinv ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2006 และดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ต่างๆ มากมาย รวมถึง “OKLA” สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า, “Motrac” สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน, “O-Town” สำหรับเสื้อผ้า, “OKLATEC” สำหรับการวิจัยและพัฒนา และ “CHINV” สำหรับไฟและชิ้นส่วนไฟฟ้า เรากำหนดแนวทางการขับเคลื่อนของเราใหม่และกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และมีเป้าหมายในการพัฒนาโซลูชันการขนส่งที่สะอาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

OKLATEC มีประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาในการออกแบบรถจักรยานยนต์มากกว่า 50 คัน (ตั้งแต่ ICE ไปจนถึง EV) สำหรับลูกค้าทั่วโลก จากการสำเร็จเป้าหมายที่สำคัญเหล่านี้ Chinv ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการเปิดตัวแบรนด์หลายแบรนด์ในระดับการบูรณาการที่หลากหลายทั้งด้านไฟฟ้าและเครื่องกล ครอบคลุมตั้งแต่รถจักรยานยนต์ EV ความเร็วต่ำไปจนถึงประสิทธิภาพสูง ด้วยเหตุนี้ Chinv จึงกลายเป็นโซลูชันแบบครบวงจรในห่วงโซ่อุปทานของรถจักรยานยนต์ EV

เกี่ยวกับ Bolt.Earth

Bolt.Earth มีภารกิจในการผลักดันตลาดเกิดใหม่ไปสู่การขับเคลื่อนที่สะอาดยิ่งขึ้น บริษัทใช้กลุ่มมาตรวัดความเร็วอัจฉริยะแบบฝังที่ล้ำสมัยซึ่งจะกำหนดประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณใหม่ กลุ่มมาตรวัดความเร็วและหน่วยแสดงผลของ Bolt.Earth ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย โดยใช้ระบบปฏิบัติการของ Bolt.Earth เพื่อนำเสนอเครื่องมือการจัดการยานพาหนะ ข้อมูลสำคัญ ข้อควรระวังในการป้องกันการโจรกรรม และตัวเลือกการปรับแต่งเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาด เชื่อมต่อ และทันสมัย นอกจากนี้ Bolt.Earth ยังเปิดใช้งานเครือข่ายการชาร์จ EV แบบ peer-to-peer ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยมีจุดชาร์จมากกว่า 30,000 แห่งใน 1,100 เมือง พวกเขานำเสนอโซลูชันการชาร์จสำหรับบุคคล ธุรกิจ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการยานพาหนะ และรัฐบาล หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน โปรดไปที่ bolt.earth

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53723980/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสำหรับสื่อMarketing@bolt.earth

ที่มา: Bolt.Earth

Bolt.Earth และ Bafang: ร่วมกันกำหนดอนาคตของรถไฟฟ้าสองล้อ

Logo

บังกาลอร์, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–24 ตุลาคม 2023

Bolt.Earth และ Bafang ผนึกกำลังกันเพื่อจัดหาโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าสองล้อ ความร่วมมือนี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเสริมศักยภาพให้กับผู้รับจ้างผลิตในการส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในวงการขับเคลื่อน

Bolt.Earth and Bafang - T&D Collaborate to Provide Comprehensive Solutions for EV Two-Wheeler OEMs (Graphic: Business Wire)

Bolt.Earth และ Bafang – T&D ร่วมมือกันจัดหาโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ (รูปภาพ: Business Wire)

Bafang เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างแม่นยำ หน่วยควบคุมมอเตอร์ แบตเตอรี่ ระบบจัดการแบตเตอรี่ และหน่วยควบคุมยานพาหนะที่ออกแบบมาสำหรับจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำเสนอความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ความมุ่งมั่นต่อประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถืออย่างแน่วแน่ของ Bafang ทำให้มั่นใจได้ว่า OEM จะมีรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับยานพาหนะของพวกเขา

T&D เป็นแบรนด์จดทะเบียนของ Bafang Electric ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว ประเทศจีน Bafang ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามานานกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ระดับมืออาชีพอย่างลึกซึ้งในด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการบริการ T&D อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการส่งมอบระบบส่งกำลังที่โดดเด่นและสมบูรณ์แบบสำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่งและห่วงโซ่อุปทานที่มีความคล่องตัวและเติบโตเต็มที่ แบรนด์ได้พัฒนาระบบที่แตกต่างกัน 5 ระบบ เพื่อนำเสนอประสิทธิภาพที่เหมาะสม โดดเด่น และกลมกลืนในหมวดหมู่การขับขี่แบบออฟโรด (ซีรีส์ Storm/FE), การขับขี่ในเมือง (ซีรีส์ Forest/LI), การขับขี่ที่เน้นการเดินทางไกล (ซีรีส์ Fire/HUO), การขับขี่เพื่อความบันเทิง (ซีรีส์ Mountain/SH ) และการขับขี่ประสิทธิภาพสูง (ซีรีส์ Lightning/LE)

ในอีกด้านหนึ่งของความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นนี้ Bolt.Earth ได้นำเสนอ EV Operating Stack (OS) ที่ครอบคลุม ซึ่งพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อตั้งตารอคอย ข้อเสนอของ Bolt.Earth รวมถึงแผงหน้าปัดอัจฉริยะ แอปคู่หู EV ที่พร้อมใช้งาน แดชบอร์ดการจัดการกลุ่มยานพาหนะและผู้รับจ้างผลิต และโซลูชันตลาดแบบบูรณาการ ช่วยให้ผู้รับจ้างผลิตสามารถนำเสนอประสบการณ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกันมากขึ้นแก่ลูกค้า นอกจากนี้ เครือข่ายการชาร์จแบบ peer-to-peer ในตัวซึ่งมีจุดชาร์จทั้ง AC และ DC ช่วยให้มั่นใจในการชาร์จที่ง่ายดายและการเข้าถึงที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ปลายทางด้วย

คุณ Jyotiranjan Harichandan ผู้ร่วมก่อตั้ง Bolt.Earth แสดงความตื่นเต้นโดยกล่าวว่า ความร่วมมือนี้ทำให้เราได้เปิดศักราชใหม่สำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ ขณะนี้ ผู้รับจ้างผลิตสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่ผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ของ Bafang และระบบปฏิบัติการที่เป็นนวัตกรรมของเรา เพื่อมอบประสบการณ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นองค์รวม เชื่อมโยงถึงกัน และยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางแก่ลูกค้าได้แล้ว

คุณ Sunny กรรมการผู้จัดการของ Bafang เน้นย้ำว่า ความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่การทำงานอย่างใกล้ชิดของสองบริษัทเท่านั้น แต่เป็นการขยายศักยภาพของรถไฟฟ้าสองล้อสำหรับผู้รับจ้างผลิต เรากำลังมอบเครื่องมือให้ผู้รับจ้างผลิตเพื่อกำหนดนิยามใหม่และยกระดับการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าของพวกเขา ด้วยการบูรณาการระบบขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งของเราเข้ากับโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยของ Bolt.Earth”

สำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ ความร่วมมือนี้ถือเป็นโซลูชันที่ครบวงจร ซึ่งรับประกันความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่ตลาดหรือขยายตลาดอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาระบบการขับเคลื่อนระดับสูงหรือบูรณาการซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ผู้รับจ้างผลิตก็มีเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ราบรื่น

เข้าร่วมกับเราที่ EICMA 2023 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 12 พฤศจิกายนที่ Fiera Milano-Rho Milan และสัมผัสอนาคตของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนด้วยตัวคุณเอง เยี่ยมชมเราที่ฮอลล์หมายเลข I05 ที่บูธหมายเลข 22 เพื่อดูโซลูชันริเริ่มของ Bolt.Earth และ Bafang ที่กำหนดนิยามใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า อย่าพลาดการสาธิตผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยแบบสดๆ สร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้า รับข้อมูลเชิงลึกสุดพิเศษ และพบกับทีมงานผู้มีวิสัยทัศน์ที่อยู่เบื้องหลัง Bolt.Earth และ Bafang วงวันที่ในปฏิทินของคุณและมาร่วมขับเคลื่อนวิวัฒนาการของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนด้วยกัน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53655137/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ติดต่อสำหรับสื่อ : marketing@bolt.earth

ที่มา: Bolt.Earth

 

สูตรของเหลว RGC-COV19TM ที่ใช้ในการวิจัยของ Regencell Bioscience แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพผ่านทางผู้ป่วยที่ลงทะเบียนในการกำจัดโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางภายในระยะเวลาการรักษา 6 วันในการทดลองประสิทธิภาพของ EARTH

Logo

  • ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 36 จาก 37 รายที่รับการรักษาในการทดลองนี้ คิดเป็นประมาณร้อยละ 97.3 ของผู้ป่วย ผลรายงานว่าอาการทั้งหมดถูกกำจัดภายในระยะเวลาการรักษา 6 วัน ช่วยรักษาการสูญเสียหรือลดการรับรู้รสชาติและกลิ่น (“Sensory Dysfunction”) และไอเป็นครั้งคราว ทั้งนี้จำนวนสูงสุดของอาการต่าง ๆ ที่รายงานสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งคือ 14 ราย
  • ผู้ป่วยจำนวน 15 จาก 36 รายมีอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสก่อนเข้ารับการรักษา ในบรรดาผู้ป่วยจำนวน 15 รายนั้น มี 5 รายฟื้นตัวจากการทำงานทางประสาทสัมผัส ในขณะที่อีก 10 รายมีอาการดีขึ้นเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการรักษา 6 วัน
  • ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 31 จาก 37 ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ 83.8 ของผู้ป่วย ผลรายงานว่ามีการกำจัดอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการหลังจากรับประทาน RGC-COV19 TM ครบ 1 โดส (วันที่ 1 ของการรักษา) ด้วยจำนวนมากที่สุดของการกำจัดอาการหลังจาก 1 วัน ของการรักษาคือ 7 อาการ
  • จากผู้ป่วย 37 ราย ในผู้ป่วยจำนวน 9 รายมีอาการหายใจลำบาก (อาการหายใจไม่ออก หรือ difficulty breathing) ร่วมกับอาการเจ็บหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วย 6 จาก 9 รายนี้ไม่มีอาการหายใจลำบากและ/หรือเจ็บหน้าอกอย่างต่อเนื่องหลังจากได้รับ RGC-COV19 TM ครบ 1 โดส
  • ผู้ป่วยทั้งหมด 23 รายที่เริ่มใช้ RGC-COV19 TM ภายใน 3 วันนับจากเริ่มมีอาการ ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 3.2 วัน ในการกำจัดอาการทั้งหมด ช่วยรักษาในความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราว
  • ผู้ป่วยทั้งหมด 14 รายที่เริ่มใช้ RGC-COV19TM ระหว่าง 4 ถึง 5 วันนับจากเริ่มมีอาการ ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 3.6 วัน ในการกำจัดอาการทั้งหมด ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราว

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–17 กุมภาพันธ์ 2565

Regencell Bioscience Holdings Limited (NASDAQ: RGC) (“Regencell” หรือ “บริษัท”) ในวันนี้ประกาศผลการวิเคราะห์บุคคลทั้งหมด 37 รายที่ลงทะเบียนในการประเมินค่า/การตัดสินและการประเมิน RGC-COV19TM TCM ผ่านแนวทางแบบองค์รวม หรือ Evaluation and Assessment of RGC-COV19TM TCM through a Holistic approach (“EARTH”) การทดลองใช้ประสิทธิภาพโดย Regencell Bioscience Asia Limited (“Regencell Asia”) ของ COVID-19 oral TCM candidate RGC-COV19TM ใหม่ชนิดรับประทาน (Regencell Bioscience (RGCA-CV01) ที่เป็นสูตรของเหลว) ผลลัพธ์ยังไม่ได้รับการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ เมื่อเสร็จสิ้นการทดลองประสิทธิภาพของ EARTH แล้ว RGC-COV19TM สามารถใช้ในวงกว้างขึ้นสำหรับการรักษาประชากรที่แสวงหาแนวทางธรรมชาติและองค์รวมเพื่อลดและกำจัดอาการของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อลดความเสี่ยงของการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต

“ผลลัพธ์ของ EARTH ถือเป็นการเดินทางครั้งสำคัญของบริษัทโดยมีเป้าหมายในการช่วยและปรับปรุงชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลก ในขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลกในปี 2565 จึงมีการเร่งโดยด่วนในการหาแนวทางแบบองค์รวมในการรักษาโควิด-19 ด้วยการก่อตั้ง Regencell Asia และจากผลการวิจัยเบื้องต้นของ EARTH เราหวังว่ากระบวนการในการหาทางเลือกในการรักษาโดยธรรมชาติสำหรับโควิด19 จะเร็วขึ้น ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นให้เห็นถึงศักยภาพในการนำเสนอการรักษาแบบองค์รวมและเป็นธรรมชาติสำหรับโควิด-19” Ji Yang Lee (Jay) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Regencell Asia กล่าว

เกี่ยวกับการทดลองประสิทธิภาพของ EARTH

วัตถุประสงค์หลักของ EARTH คือการประเมินค่า/การตัดสินและการประเมินประสิทธิภาพใน TCM – RGC-COV19TM ของ Regencell Bioscience (Regencell Bioscience (RGCA-CV01) สูตรของเหลว) ในการลดและกำจัดอาการโควิด-19 ผ่านแนวทางองค์รวมภายในระยะเวลา 6 วัน

EARTH เป็นการทดลองประสิทธิภาพแบบไม่อำพรางซึ่งดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 เกณฑ์คุณสมบัติกำหนดให้ผู้ป่วยทุกรายได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่าติดเชื้อ SARS-CoV-2 ภายใน 3 วันก่อนการรักษาและมีอาการภายใน 5 วันก่อนการรักษา

ตามเกณฑ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการถูกปฏิเสธและในที่สุดก็มีผู้ป่วย 37 รายที่ผ่านการคัดเลือกและเข้ารับการลงทะเบียน ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนมีอายุระหว่าง 5 ถึง 61 ปี และมีเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ และภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน จำนวน 23 รายอาศัยอยู่ในกัวลาลัมเปอร์และเซเรมบัน ประเทศมาเลเซีย ในขณะที่อีก 14 คนอาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนจำนวน 23 จาก 37 รายเริ่มใช้ RGC-COV19TM ภายใน 3 วันหลังจากเริ่มมีอาการ และผู้ป่วยที่เหลืออีก 14 รายเริ่มใช้ RGC-COV19TM ระหว่าง 4 ถึง 5 วันหลังที่เริ่มมีอาการ

ในการดำเนินการทดลอง EARTH ซึ่ง Regencell Asia ได้กำหนดการรักษาสูงสุดจำนวน 6 วันต่อผู้ป่วยหนึ่งราย ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนต้องรายงานอาการโควิด-19 ทุกวันตามความรุนแรง 3 ประเภท (เล็กน้อย ปานกลาง รุนแรง) และรายการของอาการอย่างเช่น มีไข้ เหนื่อยล้า ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ รู้สึกร้อน หนาวสั่น ง่วงซึม หายใจถี่ เจ็บหน้าอกหรือแน่นอย่างต่อเนื่อง ปวดกล้ามเนื้อและไม่สบายท้อง ผู้ป่วยยังได้รับการร้องขอให้ระบุอาการอื่น ๆ ที่พวกเขาประสบอยู่ ทั้งนี้ผู้ป่วยแต่ละรายได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง 2 วัน ในขณะที่การทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรสย้อนกลับ (RT-PCR) สำหรับผู้ป่วยในมาเลเซียดำเนินการทุก 2 วัน

เมื่อใดก็ตามที่ผลการทดสอบ RT-PCR ของผู้ป่วยเป็นลบหรือผู้ป่วยไม่มีอาการของโควิด-19 อีกต่อไป (ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสหรือไอเป็นครั้งคราว) ภายในระยะเวลาการรักษา 6 วันนั้นการรักษาจะสิ้นสุดลง ขณะรับการรักษา TCM จำนวน 3 รายไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 3 รายได้รับการฉีดวัคซีนบางส่วน และจำนวน 31 รายได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน เมื่อสิ้นสุดการรักษาจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดที่อาการหายไปอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาการรักษา 6 วัน ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราวจะถูกบันทึกเพื่อประเมินประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับผลลัพธ์ของ EARTH

ประสิทธิภาพของอาการหมดไปอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาการรักษา 6 วัน

ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 36 จาก 37 ราย ได้รับการรักษาจนหมดอาการ ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราวภายในระยะเวลาการรักษา 6 วัน การทดลองวัดประสิทธิภาพของเราแสดงให้เห็นว่าหลังจากรับ RGC-COV19TM ผู้ป่วยร้อยละ 97.3 ได้รับการกำจัดโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราวภายในระยะเวลาการรักษา 6 วัน ผู้ป่วยจำนวน 15 จาก 36 รายมีอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสก่อนเข้ารับการรักษา ในบรรดาผู้ป่วย 15 รายนั้น จำนวน 5 ราย มีการฟื้นตัวของการทำงานทางประสาทสัมผัส ขณะที่อีก 10 รายที่เหลือมีอาการดีขึ้นเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการรักษาจำนวน 6 วัน

จากผู้ป่วยจำนวน 36 ราย ซึ่งจำนวนวันที่ใช้รักษาจนหมดอาการ ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสและไอเป็นครั้งคราวภายในระยะเวลาการรักษาจำนวน 6 วัน คือ 1 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 6 ราย, 2 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 7 ราย, 3 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 5 ราย, 4 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 11 ราย, 5 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 4 ราย, 6 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 3 ราย

อาการหมดไปหลังจากได้รับ RGC-COV19TM ครบ 1 โดส

ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 31 จาก 37 ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ 83.8 ของผู้ป่วย ผลรายงานการกำจัดอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการหลังจากรับ RGC-COV19TM ครบ 1 โดส ด้วยจำนวนที่มากที่สุดของการกำจัดอาการหลังจากการรักษา 1 วัน ได้ถูกรายงานโดยผู้ป่วยจำนวน 7 ราย จำนวนวันเฉลี่ยที่ใช้ตั้งแต่เริ่มการรักษาสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 37 รายที่อาการหมดไป ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราวอยู่ที่ประมาณ 3.4 วัน จำนวนมากที่สุดของอาการต่าง ๆ ที่รายงานโดยผู้ป่วยคือ 14 อาการ และจำนวนเฉลี่ยของอาการต่าง ๆ ที่รายงานคือประมาณ 6 อาการ

มาเลเซีย – การรักษาที่นำไปสู่การตรวจด้วยวิธี RT-PCR ที่ได้ผลลบ

จากผู้ป่วยจำนวน 23 รายจากมาเลเซีย มีผู้ป่วยจำนวน 10 ราย (คิดเป็นประมาณร้อยละ 43.48) ทดสอบวิธี RT-PCR ที่ได้ผลลบภายใน 6 วันของการรักษา (RT-PCR ที่ได้ผลลบใน 2 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 4 ราย, 4 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 4 ราย, 5 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 1 ราย, 6 วัน = ผู้ป่วยจำนวน 1 ราย) นับตั้งแต่เริ่มการรักษา จำนวนวันเฉลี่ยของผู้ป่วยจำนวน 10 รายที่ทดสอบได้ผลเป็นลบคือ 3.5 วัน จำนวนวันต่ำสุดและสูงสุดที่ผู้ป่วยทดสอบได้ผลเป็นลบคือ 2 และ 6 วันตามลำดับ ผู้ป่วยที่เหลืออีก 13 ราย ที่อาการหมดไป ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางประสาทสัมผัสและไอเป็นครั้งคราวภายใน 6 วัน (โดยเฉลี่ยประมาณ 3.5 วัน) ดังนั้นจึงไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม

การรักษาภายใน 3 วันนับจากเริ่มมีอาการ เทียบกับภายใน 4 ถึง 5 วันนับจากเริ่มมีอาการ

การวิเคราะห์เพิ่มเติมพบว่าผู้ป่วยจำนวน 23 รายที่เริ่มใช้ RGC-COV19TM ภายใน 3 วันนับจากเริ่มมีอาการใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 3.2 วันที่อาการหมดไป ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราว โดยจำนวนสูงสุดของอาการต่าง ๆ ที่รายงานโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งคือ 14 อาการและจำนวนเฉลี่ยของอาการต่าง ๆ ที่รายงานคือ 5 อาการ

ผู้ป่วยที่เหลืออีกจำนวน 14 รายที่เริ่มใช้ RGC-COV19TM ระหว่าง 4 ถึง 5 วันนับจากเริ่มมีอาการใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 3.6 วันที่อาการหมดไป ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราว โดยจำนวนสูงสุดของอาการต่าง ๆ ที่รายงานโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งคือ 13 อาการและจำนวนเฉลี่ยของอาการที่รายงานคือ 7 อาการ

สถานะการฉีดวัคซีน

ผู้ป่วยจำนวน 3 รายที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ผลรายงานว่าแต่ละรายมีอาการโดยเฉลี่ย 3 อาการ และผู้ป่วยทั้ง 3 รายใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2.3 วันในการกำจัดอาการ ผู้ป่วยจำนวน 3 รายที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพียงบางส่วน ผลรายงานอาการโดยเฉลี่ย 3 อาการต่อราย และใช้เวลาประมาณ 3.3 วันที่อาการหมดไป ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัส ผู้ป่วยจำนวน 1 ใน 3 รายนี้ทดสอบ RT-PCR ได้ผลเป็นลบหลังการรักษาจำนวน 4 วัน ผู้ป่วยที่เหลือซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ผลรายงานจำนวนเฉลี่ย 6 อาการ และผู้ป่วยเหล่านี้ใช้เวลาประมาณ 3.5 วันที่อาการหมดไป ช่วยรักษาความผิดปกติทางประสาทสัมผัสและอาการไอเป็นครั้งคราว ผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับการฉีดวัคซีนอาจได้รับวัคซีนเข็มแรก เข็มสอง หรือวัคซีนสูตรไขว้จาก Pfizer-BioNTech, Moderna, AstraZeneca, Sinovac-CoronaVac และ/หรือ Janssen ของ Johnson & Johnson

ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง

จากผู้ป่วยจำนวน 37 ราย ผู้ป่วยจำนวน 9 รายมีอาการหายใจลำบาก (อาการหายใจไม่ออก) ร่วมกับอาการเจ็บหน้าอกอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยจำนวน 6 ใน 9 รายนี้ไม่มีอาการหายใจลำบากและ/หรือเจ็บหน้าอกอย่างต่อเนื่องหลังจากได้รับ RGC-COV19 TM  ครบ 1 โดส

ไม่มีผลข้างเคียง

จากข้อมูลที่ผู้ป่วยรายงานด้วยตนเอง ไม่มีอาการแย่ลงระหว่างและหลังการใช้ RGC-COV19TM และไม่มีผู้ป่วยรายใดได้รับผลข้างเคียงที่ไม่ทราบสาเหตุ

ไม่มีการรักษาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น

ในบรรดาผู้ป่วยจำนวน 3 รายที่เป็นโรคร่วม อย่างเช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) โรคหอบหืด และโรคมะเร็ง ไม่มีการรักษาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นและไม่มีการหยุด RGC-COV19TM เนื่องจากผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์

การเสียชีวิต/เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

เมื่อสิ้นสุดการทดลองใช้ประสิทธิภาพของ EARTH ไม่มีผู้ป่วยรายใดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและไม่มีผู้เสียชีวิต ประสิทธิภาพของ RGC-COV19TM ไม่ได้รับผลกระทบจากระยะเวลาที่เริ่มมีอาการหรือปัจจัยเสี่ยง ผลลัพธ์มีความสอดคล้องกันในทุกช่วงอายุ เพศ เชื้อชาติและกลุ่มชาติพันธุ์ในผู้ป่วยที่ลงทะเบียน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ EARTH

มีผู้ป่วยหลายร้อยล้านคนทั่วโลกที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และบางคนมีอาการหลังโควิด-19 อย่างเช่น เหนื่อยล้าอย่างรุนแรง (อ่อนเพลีย) หายใจลำบาก มีปัญหาด้านความจำและสมาธิ (สภาวะสมองล้า) ใจสั่น เวียนศีรษะ เจ็บหน้าอกหรือแน่น ปวดข้อ ซึ่งขณะนี้จัดอยู่ในกลุ่มอาการลองโควิด (long-COVID)

เนื่องจากอาการลองโควิดมีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตและความสามารถในการทำงานของแต่ละบุคคล Regencell Asia จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาสำหรับผู้ป่วยลองโควิดโดยใช้สูตรธรรมชาติและองค์รวม – RGC-COV19TM (RGCA-LCV01)

เกี่ยวกับ RGC-COV19TM

RGC-COV19TM (RGCA-CV01) เป็นสูตรของเหลวเพื่อการศึกษาวิจัยที่เป็นธรรมชาติชนิดรับประทาน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อลดและกำจัดอาการโควิด-19

RGC-COV19TM สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยเป็นเวลาสองถึงสามสัปดาห์ ในการดำเนินการEARTH การรักษาถูกจำกัดไว้ที่ 6 วัน เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการลดและกำจัดอาการโควิด-19

Regencell เริ่มแนวทางเชิงสอบสวนเกี่ยวกับการรักษาโควิด-19 เมื่อเพื่อนของ Regencell ได้รับเชื้อโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2563 และ TCM Practitioner ได้ใช้สูตร TCM ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขา โดยใช้มาตลอด 30 ปีที่ผ่านมาเพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป็นหวัดและไข้หวัดใหญ่ต่าง ๆ รวมถึงในช่วงการระบาดของโรคซาร์สในปี 2546 ในการรักษาเขา ทั้งนี้ TCM Practitioner ได้ให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่สมัครใจจำนวน 9 รายในสหรัฐอเมริกา “TCM Practitioner” หมายถึงพันธมิตรการวิจัยเชิงกลยุทธ์ของ TCM ซึ่ง Sik-Kee Au เป็นบิดาของผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเรา

ผลการศึกษาพบว่าการรักษาได้ผลดี เนื่องจาก Regencell มีเป้าหมายในการช่วยชีวิต ปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย และตอบสนองความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองในตลาด Regencell ต้องการทำให้การรักษาแบบธรรมชาติและแบบองค์รวมพร้อมสำหรับผู้คนที่ต้องการ

ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงสิงหาคม 2564 Regencell ได้ตั้งค่าโปรโตคอลและขั้นตอนการดำเนินการทดลองประสิทธิภาพของ EARTH ในมาเลเซียและสหรัฐอเมริกา

RGC-COV19TM ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อกระตุ้นกลไกการรักษาของร่างกายและยาช่วยบรรเทาอาการของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หนาวสั่น เซื่องซึม หายใจถี่ เจ็บอกเรื้อรัง และปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ในขณะที่ยาทำงานเพื่อ (i) ลดและล้างเมือกและเสมหะออกจากระบบทางเดินหายใจส่วนบน; (ii) กำจัดเชื้อโรคจากไวรัสภายนอกผ่านทางเหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระ; (iii) ล้างความร้อนสิ่งที่อยู่ภายในและตับ; (iv) ดีท็อกซ์ตับ; และ (v) ปรับปรุงการไหลเวียนของร่างกาย

ด้วยการใช้ TCM Practitioner “Sik-Kee Au TCM Brain Theory®”, RGC-COV19TM ช่วยขจัดลิ่มเลือดออกจากสมองจึงฟื้นฟูการทำงานของสมองต่าง ๆ ของผู้ป่วย

RGC-COV19TM (RGCA-CV01) จัดให้ที่ 1 โดสของ RGCA-CV01-1Na (ประมาณ 230 มล.) และ 1 โดสของ RGCA-CV01-2Da (ประมาณ 230 มล.) ในแต่ละครั้ง โดยให้ 1 โดสของ RGCA-CV01-1Na เริ่มตั้งแต่คืนวันแรกของการรักษา และรับประทาน 1 โดสของ RGCA-CV01-2Da หลังอาหารกลางวันในวันถัดไปจนกว่าอาการจะหมดไป

เกี่ยวกับ Regencell Bioscience Holdings Limited และ Regencell Bioscience Asia Limited: ความก้าวหน้าในสูตร TCM ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยชีวิตและปรับปรุงชีวิต

เป็นระยะเวลากว่า 30 ปีที่ TCM Practitioner ซึ่ง Regencell Bioscience เป็นพันธมิตรด้วยได้รักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทและโรคติดเชื้อ TCM formulae candidates ของ TCM Practitioner มาจากสูตรพื้นฐานของ TCM และสูตรที่ปรับได้ซึ่งพัฒนาขึ้นจากทฤษฎีสมอง TCM ของเขาหรือที่รู้จักกันในชื่อ “Sik-Kee Au TCM Brain Theory®”

ทั้ง Regencell Bioscience และ TCM Practitioner มุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคมและแสดงให้เห็นถึง CARE ผ่านการดูแลผู้ป่วย ความรับผิดชอบโดยการรักษามาตรฐานคุณภาพและความซื่อสัตย์ในระดับสูง ความเคารพโดยประเมินค่าความร่วมมือ การทำงานเป็นทีมและความสามัคคี และความกระตือรือร้นในการปรับปรุงชีวิตของผู้ด้อยโอกาส

นับตั้งแต่จดทะเบียน Regencell Bioscience ผ่านการร่วมทุนกับ Honor Epic Enterprises Limited ได้ก่อตั้ง Regencell Bioscience Asia Limited เพื่อเสนอการรักษาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 แก่ผู้ป่วยในประเทศอาเซียน อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เนื่องจาก Regencell Bioscience มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำตลาดระดับโลกในด้านการรักษาแบบธรรมชาติและแบบองค์รวมสำหรับความผิดปกติทางระบบประสาทและโรคติดเชื้อ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.regencellbioscience.com และ www.regencellasia.com

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มี “ข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต” ตามความหมายของกฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ แผนงาน และกลยุทธ์ของเรา; ข้อความที่มีการคาดการณ์ผลการดำเนินงานหรือสถานะทางการเงิน; ข้อความที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การพัฒนา และการใช้แพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยี  เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และตัวเลือกผลิตภัณฑ์ของเรา; และข้อความทั้งหมดที่กล่าวถึงกิจกรรม เหตุการณ์ หรือการพัฒนาที่เราตั้งใจ คาดหวัง โครงการ เชื่อ หรือคาดการณ์ว่าจะเกิดหรืออาจเกิดขึ้นในอนาคต ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของบริษัทของเรา ได้แก่: ความสามารถของเราในการได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบและ TCM formulae และ/หรือผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่สุดแล้วตาม TCM formulae ของเรา; ผลการศึกษาวิจัยของเราปราศจากอคติของผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้ป่วย เนื่องจากเราอาศัยข้อมูลที่ได้รับจากพวกเขา; ความยากลำบากในการลงทะเบียนผู้ป่วยในการศึกษาวิจัยของเรา; ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ ที่เกิดจาก TCM formulae candidates อาจทำให้ล่าช้าหรือขัดขวางการอนุมัติด้านกฎระเบียบหรือขัดขวางการค้าเชิงพาณิชย์;หรือไม่ผลการศึกษาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ TCM formulae เฉพาะบุคคลสามารถคาดการณ์ผลการศึกษาวิจัยในอนาคตได้; ความล้มเหลวของกระบวนการวิจัยและพัฒนา; หรือไม่ TCM formulae candidates ใด ๆ ที่สามารถพัฒนา ผลิต ขาย ทำการตลาดและจัดจำหน่าย; ความสามารถในการค้าที่ประสบความสำเร็จในการรักษาใด ๆ ในอนาคต; ความสามารถของเราในการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ของเรา; และความสามารถของเราในการได้มาและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา; และการประชาสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ TCM formulae candidates ส่วนผสมหรือโปรแกรมการตลาดแบบเครือข่าย เราได้ใช้ข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้บนสมมติฐานและการประเมินโดยฝ่ายบริหารของเราตามประสบการณ์และการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับแนวโน้มในอดีต สภาวะปัจจุบัน การพัฒนาในอนาคตที่คาดหวัง และปัจจัยอื่น ๆ ที่พวกเขาเชื่อว่ามีความเหมาะสม นอกจากนี้บริษัทยังใช้และสันนิษฐาน โดยไม่มีการตรวจสอบโดยอิสระ ในความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมดที่มีจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ และไม่รับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยเกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าว แม้ว่าผลการดำเนินงาน สถานะทางการเงินและสภาพคล่อง และการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เราดำเนินการอยู่จะสอดคล้องกับข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตที่มีอยู่ในการนำเสนอนี้ แต่ก็อาจไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์หรือการพัฒนาในอนาคต สำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ เหล่านี้ โปรดดูรายงานประจำปีของเราในแบบฟอร์ม 20-F สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งอยู่บนเว็บไซต์ของ SEC ได้ที่ www.sec.gov ข้อมูลทั้งหมดในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ และบริษัทไม่มีหน้าที่ในการปรับปรุงข้อมูลนี้เว้นแต่กฎหมายจะกำหนด คำเตือนนี้จัดทำขึ้นภายใต้บทบัญญัติด้านความปลอดภัยของมาตรา 21E ของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220216005895/en/

ติดต่อ:

นักลงทุนสัมพันธ์
James Chung
ir@rgcbio.com
+852 2155 0823

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย