Tag Archives: dhabi

Abu Dhabi เตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลที่ 2 ของการแข่งขัน Autonomous Racing League: โดยกลับมาพร้อมทีมใหม่ โมเดล Autonomous Super Formula ที่ได้รับการอัปเกรด และเงินรางวัลมูลค่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

Logo

  • A2RL ฤดูกาลที่ 2 ได้รับการประกาศยืนยันวันแข่งขันแล้วในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina อันโด่งดังของ Abu Dhabi
  • ขยายการเข้าถึงทั่วโลกด้วยทีมใหม่จากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • โปรแกรมเมอร์และวิศวกรแข่งขันกันบนแพลตฟอร์ม AI เพื่อขยายขอบเขตจำกัดของเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ

DUBAI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–14 ตุลาคม 2024

ASPIRE หน่วยงานเร่งพัฒนานวัตกรรมของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของ Abu Dhabi ประกาศเปิดตัวฤดูกาลที่สองของ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) อย่างเป็นทางการ โดยยืนยันวันแข่งขันในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่ สนามแข่ง Yas Marina A2RL กลับมาอีกครั้งพร้อมดึงดูดฐานลูกค้าทั่วโลกด้วยการเพิ่มทีมนานาชาติใหม่สี่ทีม และเปิดตัว Super Formula Emirates Autonomous Vehicle (EAV24) ที่อัปเกรดโดย Dallara ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อขยายขอบเขตจำกัดของ AI ในมอเตอร์สปอร์ต ผู้เข้าแข่งขันจะชิงส่วนแบ่งจากเงินรางวัลมูลค่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

A2RL Season 2 Race Day confirmed for 26 April 2025, at Abu Dhabi’s iconic Yas Marina Circuit (Photo: AETOSWire)

A2RL ฤดูกาลที่ 2 ได้รับการประกาศยืนยันวันแข่งขันแล้วในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina อันโด่งดังของ Abu Dhabi (ภาพถ่าย: AETOSWire)

หลังจากการแข่งขันครั้งแรกที่ประสบความเร็จเมื่อเดือนเมษายน ปี 2024 ซึ่งมีทีมเข้าร่วมจาก สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี อิตาลี สิงคโปร์ จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ A2RL กำลังขยายรายชื่อทีมจากทั่วโลกด้วยการเพิ่มทีมใหม่สี่ทีม: AiPEX Racing จากสหรัฐอเมริกา Aladin Innovation จากฝรั่งเศส SEVRUS Japan (TGM Grand Prix) จากญี่ปุ่น และทีมจาก Technology Innovation Institute (TII) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้เข้าร่วมแข่งขันใหม่เหล่านี้จเข้าร่วมทีมดั้งเดิมจากฤดูกาลที่ 1 ในการเข้าสู่เฟสการจำลองสถานการณ์อันเข้มงวดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพวกเขาจะต้องเผชิญกับสภาพของสนามแข่ง เพื่อสรุปรายชื่อทีมทั้งหมด จะมีการเปิดเผยรูปแบบการแข่งขันสำหรับฤดูกาลที่จะมาถึงนี้หลังผ่านความท้าทายในสถานการณ์จำลอง

ในเฟสการจำลองสถานการณ์ ทีมจะต้องพิสูจน์ความสามารถในการควบคุมรถแข่งภายใต้เงื่อนไขที่ท้าทาย เช่น ความผิดพลาดของ GPS เซ็นเซอร์ไม่ทำงาน และจะต้องผ่านเกณฑ์คุณภาพเพื่อแสดงทักษะในการแซง ทีมยังต้องแสดงกลยุทธ์ในการอุ่นยางและเบรก รันรอบสนามอย่างสวยงาม และแม้กระทั่งแข่งขันกับคู่ต่อสู้เสมือนจริง มีเพียงผู้ที่ผ่านมาตรฐานอันสูงเหล่านี้เท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบการแข่งขันรอบสุดท้าย

การแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการแสดงฝีมือของเหล่าวิศวกรและโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจที่สุดในโลก โดยทีมจะใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเขียนโปรแกรมสำหรับรถแข่งไร้คนขับ ซึ่งลีกการแข่งขันคราวนี้จะเป็นการพัฒนาเข้าสู่ กีฬา AI ระดับโลก ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและการแข่งขันความเร็วสูงเป็นศูนย์กลาง

H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเลขาธิการของ Advanced Technology Research Council เน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกของ A2RL โดยกล่าวว่า: “A2RL เป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการแสดงให้เห็นถึงพลังโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด การขยายขอบเขตที่เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ ช่วยให้เราสามารถเร่งสร้างนวัตกรรมในทุกภาคส่วน และทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน AI”

Stephane Timpano CEO ของ ASPIRE กล่าวเสริมว่า “ฤดูกาลที่สองของ A2RL จะมีความน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก โดยทีมใหม่จะช่วยผลักดันขีดจำกัดของการผสมผสาน AI เข้ากับกีฬามอเตอร์สปอร์ต รถแข่งรุ่นอัปเกรดของเราซึ่งได้รับการออกแบบโดยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ จะเป็นท้าทายในการพัฒนาการเขียนโปรแกรมและวิศวกรรมของทีมไปสู่ยุคใหม่ ลีกการแข่งขันในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงอนาคตของกีฬาที่ขับเคลื่อนด้วย AI อีกด้วย”

ในงาน GITEX Global ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีชั้นนำของ Dubai ผู้เข้าร่วมงานจะได้เยี่ยมชม EAV24 รถแข่งระบบอัตโนมัติรุ่นอัปเกรดรุ่นใหม่ของ A2RL เป็นครั้งแรก โดยรุ่นนี้จะมีตัวถังที่ประดิษฐ์จากวัสดุไบโอคอมโพสิตแบบยั่งยืน พร้อมดีไซน์อันทันสมัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอัลกอริทึมดิจิทัลและรูปแบบข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย AI โดยเน้นย้ำถึงจุดประสงค์หลักของงานด้านนวัตกรรม AI นี้ EAV24 จะเป็นศูนย์กลางแห่งการแข่งขัน โดยทีมต่างๆ จะต้องต่อสู้กันเพื่อพัฒนาระบบ AI ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งและทำผลงานได้ดีเยี่ยมในสนามแข่ง

ฤดูกาลแรกของลีกการแข่งขันนี้มีผู้เข้าชมจำนวนมาก โดยมีผู้ชมมากกว่า 10,000 คน รับชมการแข่งขันสดที่สนามแข่ง Yas Marina และมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก ที่รับชมการแข่งขันทางออนไลน์ ฤดูกาลที่สองนี้ก็มุ่งหวังที่จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน เพื่อตอกย้ำจุดยืนของ A2RL ในฐานะผู้บุกเบิกทั้งมอเตอร์สปอร์ตและการพัฒนา AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ภารกิจของ A2RL ขยายออกไปกว้างไกลเกินกว่าเพียงการแข่งรถ แต่ยังรวมถึงการเร่งพัฒนาระบบอัตโนมัติในแพลตฟอร์มต่างๆ และสร้างความไว้วางใจในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีใหม่นี้ต่อสาธารณชน นอกเหนือจากการแข่งรถแล้ว ลีกการแข่งขันยังครอบคลุมการแข่งขันที่ล้ำสมัยอื่นๆ เช่น การแข่งขันโดรนอัตโนมัติ และรถบักกี้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถทดสอบและปรับปรุงเทคโนโลยีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย การแข่งขันนี้ยังนำเสนอสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงให้แก่ OEMs (Original Equipment Manufacturers) และผู้ผลิตยานยนต์เพื่อให้สามารถสำรวจและพัฒนานวัตกรรมระบบอัตโนมัติ ซึ่งขับเคลื่อนความก้าวล้ำที่วันหนึ่งจะมีผลต่อภาคส่วนยานยนต์ให้ขยายกว้างขึ้นไปในภายภาคหน้า

สามารถเข้าดูตัวอย่างพิเศษเกี่ยวกับ EAV24 และข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนาคตของการแข่งรถที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้ที่ บูธของ ATRC ที่ Hall 17-B10 ในงาน GITEX Global

แหล่งข้อมูลAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54135516/en

ติดต่อ

Dalia Awdi
+971501945368
Dalia.Awdi@edelman.com

แหล่งข้อมูล: Abu Dhabi Autonomous Racing League

ACT Abu Dhabi เปิดให้บริการแล้ว

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2024

Arabian Chemical Terminals LLC ในอาบูดาบี (ACTAD) มีความภูมิใจที่จะประกาศการเริ่มต้นการดำเนินงานของคลังถังเก็บสารเคมีที่สร้างขึ้นใหม่ในท่าเรือคาลิฟา เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาคารนี้เป็นคลังถังเก็บสารเคมีเชิงพาณิชย์แห่งแรกในเอมิเรต

ACT Abu Dhabi open for business (Photo: AETOSWire)

ACT Abu Dhabi เปิดให้บริการแล้ว (ภาพ: AETOSWire)

ACTAD ตั้งอยู่ในท่าเรือคาลิฟาระดับโลกแห่งใหม่และอยู่ติดกับเขตเศรษฐกิจ Khalifa Abu Dhabi (KEZAD) ที่ทันสมัยและกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในเอมิเรต

ACTAD ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นอย่างทันสมัยตามมาตรฐานสากลสูงสุด และมีถังที่มีคุณสมบัติต่างๆ รวมทั้งหมด 40 ถัง (เหล็กกล้าคาร์บอน 20 ถัง รวมถึง IFR 10 ถัง และสแตนเลส 20 ถัง รวมถึงถังหุ้มฉนวน พร้อมระบบทําความร้อน/ทําความเย็น10 ถัง) รวมความจุ 100,000 CBM ถังแต่ละถังมีท่อส่งเฉพาะไปยังท่าเทียบเรือขนาด 16 เมตรและช่องโหลดรถบรรทุกโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนข้ามผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมประสิทธิภาพการทํางานสูงสุดและความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ ไซต์งานยังมีคลังสินค้าขนาด 500 ตารางเมตรสําหรับสินค้าอันตราย และจัดเตรียมถังบรรจุ/IBC

อาคารมีห้องปฏิบัติการสํารวจที่มีอุปกรณ์ครบครันของบุคคลที่สาม ที่ดําเนินการอย่างอิสระสําหรับการสุ่มตัวอย่างและการทดสอบ

ACTAD ดําเนินงานด้วยระบบการจัดการแบบบูรณาการตามมาตรฐานสากล ISO-9000, 14000, 18000, CDI-T และ ISGOTT

ท่าเทียบเรือจะช่วยให้อุตสาหกรรมในท้องถิ่นนําเข้าความต้องการสารเคมีเหลวจํานวนมาก หรือส่งออกผลิตภัณฑ์เคมีเหลวไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางการจัดเก็บและ/หรือการดําเนินงานแบบแบ่งกลุ่มสําหรับบริษัทระหว่างประเทศได้ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตทัณฑ์บนภายในท่าเรือคาลิฟา

ACTAD เป็นส่วนขยายของ Arabian Chemical Terminals Ltd ในซาอุดิอาระเบีย (ACT-KSA) ACT-KSA เป็นเจ้าของ/ผู้ดําเนินการท่าเทียบเรืออีกสองแห่ง แห่งหนึ่งใน Yanbu บนชายฝั่งทะเลแดง และอีกหนึ่งแห่งในท่าเรือพาณิชย์ Jubail บนอ่าวอาหรับ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในยานบูในปี 1986 ACT-KSA เป็นคลังเก็บถังเชิงพาณิชย์แห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในซาอุดิอาระเบียโดยเริ่มด้วยคามจุ 13,000 CBM ในปี 2012 ACT-KSA ได้สร้างสถานที่จัดเก็บสินค้าเชิงพาณิชย์แห่งแรกจำนวนมากใน Jubail โดยเพิ่มความจุในการจัดเก็บอีก 70,000 CBM โดยมีถังตามข้อกําหนดและขนาดที่แตกต่างกัน ขณะนี้ท่าเทียบเรือ Jubail อยู่ระหว่างการขยายเพื่อเพิ่มความจุอีก 70,000 CBM

ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53993781/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Manuel Pereira
m.pereira@act-uae.com

ที่มา: Arabian Chemical Terminals

TUM ชนะเข้าสู่เส้นชัยใน Abu Dhabi Autonomous Racing League ที่ ASPIRE จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit

Logo

  • TUM คว้าชัยชนะเข้าสู่เส้นชัยในรอบสุดท้าย นำหน้า CONSTRUCTOR, POLIMOVE และ UNIMORE
  • H.H. Sheikh Theyab ได้รับรางวัล Championship Trophy พร้อมกับ H.E. Faisal Al Bannai
  • การแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกดึงดูดผู้ชมมากกว่า 10,000 คนในสนามแข่งและผู้ชมกว่า 600,000 คนทางออนไลน์ใน 12 ชั่วโมง
  • รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดย AI แบบเต็มรูปแบบจำนวนแปดคันต่อสู้เพื่อชัยชนะชิงเงินรางวัล2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสี่คันที่ขับโดยมนุษย์แข่งขันเพื่อชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกของโลก
  • Daniil Kvyat อดีตนักขับรถแข่ง F1 สร้างความประทับใจแก่ฝูงชนด้วยชัยชนะอันเฉียดฉิวด้วยเวลา 10.38 วินาทีในการแข่งขันระหว่าง AI และฝีมือขับโดยมนุษย์
  • การแข่งขันความเร็วเพื่อยกระดับและการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และสร้างสรรค์การเคลื่อนที่ในอนาคต

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–28 เมษายน 2024

TUM (Technical University of Munich) จาก Germany คว้าชัยชนะใน Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit เมื่อวันเสาร์ (27 เดือนเมษายน) เมื่อรถยนต์ทุกคันเรียงแถวกันตามเลนแข่ง พร้อมเสาอากาศ เซ็นเซอร์ ระบบควบคุม AI และระบบขับเคลื่อนด้วยสายไฟ แทนที่จะเป็นคนขับ ทั้งแปดทีมแข่งขันกันตลอดสองวัน  TUM เอาชนะการแข่งขันได้ด้วยทักษะการเขียนโปรแกรมและวิศวกรรมในรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันรถยนต์สี่คันครั้งแรกของโลก เพื่อชิงเงินรางวัล 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

TUM Races to Victory at ASPIRE’s Inaugural Abu Dhabi Autonomous Racing League at Yas Marina Circuit - (Photo: AETOSWire)

TUM ชนะเข้าสู่เส้นชัยใน Abu Dhabi Autonomous Racing League ที่ ASPIRE จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ Yas Marina Circuit – (ภาพถ่าย: AETOSWire)

ในการผสมผสานการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในสนามแข่ง เป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาใช้ในสนามแข่ง พร้อมยกระดับกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน A2RL ดึงดูดผู้ชมมากกว่า 10,000 คนเข้ามาในสนามแข่งและได้รับความสนใจจากผู้ชมทางออนไลน์ได้มากกว่า 600,000 คนในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง งานนี้จัดขึ้นโดย ASPIRE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ของ Abu Dhabi A2RL ผสมผสานการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและ AI เข้าด้วยกันเพื่อการพัฒนาระบบและเทคโนโลยีอัตโนมัติระดับโลก

หลังจากใช้เวลาในการเตรียมงานอย่างพิถีพิถันเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อปรับแต่งอัลกอริทึ่ม AI เพื่อจำลองการขับเคลื่อนของรถยนต์ Dallara Super Formula SF23 ที่ปรับแต่งโดย A2RL เพื่อทดสอบขีดจำกัดความเฉลียวฉลาดของมนุษย์และความสามารถของ AI แต่ละทีมมีการใช้รถแข่ง Super Formula ที่เหมือนกัน ซึ่งเป็นรถแข่งแบบล้อเปิดที่เร็วที่สุดในโลกรองจาก Formula One ซึ่งมีการดัดแปลงเพื่อการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดย Technology Innovation Institute (TII) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ASPIRE

ทีมมีการเผชิญกับความซับซ้อนในการเขียนโปรแกรม นับจากการทำความเข้าใจในระดับการยึดเกาะ การจัดการกับอุณหภูมิของยาง การคาดการณ์การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ และการแซงให้สำเร็จ และการดำเนินงาน SF23 ที่ขีดจำกัดของการยึดเกะ AI จะต้องดำเนินการทุกสิ่งที่นักแข่งรถจะทำในช่วงขณะนั้นๆ นอกเหนือจากนี้ ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสี่คันแข่งขันกันบนสนามแข่งพร้อมกัน เป็นก้าวแรกของโลกและเป็นการเพิ่มความท้าทายขึ้นอีกระดับหนึ่ง

ในการแข่งขันรอบสุดท้าย ทีมจากเยอรมัน TUM คว้าชัยชนะอันดับหนึ่งโดยแซงอย่างเฉียดฉิว เมื่อทีมจากอิตาลี UNIMORE ที่อยู่ข้างหน้าชะลอความเร็วลงและหยุดลงในสนาม ทีมงานได้รับการแสดงความยินดีบนสนามแข่งจาก H.H. Theyab bin Mohamed bin Zayed ผู้มอบถ้วยรางวัล Championship Trophy ร่วมกับ H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการ ATRC และที่ปรึกษาด้านการวิจัยเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีขั้นสูงของประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Simon Hoffmann ผู้อำนวยการทีม กล่าว “งานนี้เป็นงานที่พิเศษยิ่ง และตอนจบเป็นช่วงเวลาที่พีคที่สุดของพวกเรา พวกเรารู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะเป็นการแสดงถึงความสามารถด้านวิศวกรรมโดยรวมของเรา ความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม และความมุ่งมั่นที่แท้จริง รวมถึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังอันเหลือเชื่อของ AI ในการผลักดันวิวัฒนาการระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไปสู่อนาคต!”

ผู้ชมล้วนเพลิดเพลินกับการแข่งขันระหว่าง AI และมนุษย์อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดย Technology Innovation Institute (TII) มีการนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาปะทะแข่งขันกับนักแข่ง Formula One ผู้โด่งดังเช่น Daniil Kvyat โดย Kvyat ยังคงสามารถรักษาตำแหน่งและเอาชนะนักแข่งระบบอัตโนมัติได้ด้วยเวลา 10.38 วินาที ในการแข่งขันช่วงเวลา 45 นาทีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความใกล้เคียงของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติกับคนขับที่เป็นมนุษย์

H.E. Al Bannai กล่าว “จาก Abu Dhabi Autonomous Racing League เราได้จุดประกายการปฏิวัติขึ้นในวงการแข่งรถ โดยการจัดการแข่งขันระหว่างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบและการขับเคลื่อนโดยมนุษย์ เป็นการกำหนดบทบาทใหม่ของ UAE สำหรับนวัตกรรมใหม่และเป็นแบบอย่างแก่วงการรถยนต์ระดับโลก งานนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการแข่งขันเท่านนั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนถ่ายช่วงเวลาสำหรับเทคโนโลยี จินตนาการ และความผสมผสานเข้าด้วยกัน A2RL เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นต่อไปทั้งการสร้างสรรค์ระบบใหม่ให้เป็นจริงยิ่งขึ้นและระบบเสมือนให้ดูสมจริง รวมทั้งยังสร้างสรรค์อนาคตเพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริงขึ้นมาในที่สุด”

H.E. Dr. Sultan Al Jaber รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง และ Group MD & CEO ของ ADNOC ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า “ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์เป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนถ่ายสำหรับทุกอุตสาหกรรม A2RL แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ AI และในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ADNOC มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนช่วยผลักดันการสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม”

Stephane Timpano, CEO ของ ASPIRE กล่าวว่า “การเปิดตัว A2RL เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการกีฬาและเทคโนโลยี โดยจะเกิดผลที่ยั่งยืนต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า และเราจะมีการขยายขอบเขตการมุ่งเน้นของเราให้ครอบคลุมยานพาหนะอื่นๆ ในประเภทต่างๆ ให้กว้างขึ้นอีกในอนาคต ขณะเดียวกัน ก็จะมีการดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูงทั่วโลกเพื่อแสดงศักยภาพของพวกเขาให้โลกได้ประจักษ์”

นอกเหนือจากกิจกรรมหลักในงานนี้ A2RL STEM Challenge สำหรับนักเรียนมัธยมปลายและระดับปริญญาตรีที่มีอายุระหว่าง 14 และ 21 ยังได้ดึงดูดความสนใจของโรงเรียนในท้องถิ่นถึง 18 แห่งให้เข้าร่วม นอกเหนือจาก Boys and Girls Club จาก Southeastern Michigan เพื่อเข้ามาแสดงองค์ความรู้ ทักษะ และนวัตกรรม โดยการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติขนาด 1:8 และผู้ชนะการแข่งขัน A2RL STEM Challenge ในครั้งนี้คือ Heriot-Watt University

A2RL เป็นผู้บุกเบิกการผสมผสานองค์ประกอบจริงและเสมือนเป็นครั้งแรกในการแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยจะมีการกำหนดอวตาร์เฉพาะตัวให้กับแปดทีมที่เข้ารอบสุดท้าย และมีการผสมผสานเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) อันล้ำสมัยก่อนกาล F1 เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจุดประกายประสบการณ์สำหรับแฟนๆ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ แฟนๆ ในงานที่ Yas Marina Circuit สามารถเพลิดเพลินกับเวิร์คช้อป STEM เชิงลึก ความท้าทายสำหรับ VR ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เครื่องจำลอง Gran Turismo รถ doodle และพิพิธภัณฑ์ Raceum AI รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย งานในครั้งนี้ปิดตัวด้วยการแสดงพลุดอกไม้ไฟและโดรนอันตระการตา ส่องสว่างในสนาม Yas Marina Circuit

A2RL 2024 ได้รับการสนับสนุนความสำเร็จโดย ADNOC ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก และพันธมิตรชั้นนำ รวมถึง Du, DMT, AWS และ Mubadala ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของงานในครั้งนี้

สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งแปดทีมและอัปเดตอื่นๆ ได้ที่ A2RL.io

แหล่งข้อมูลAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53959012/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
Jennifer.dewan@tii.ae

แหล่งข้อมูล: Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL)







สร้างประวัติศาสตร์: ASPIRE เตรียมเปิดตัว ‘ Abu Dhabi Autonomous Racing League’ ครั้งแรก นิยามใหม่ของอนาคตของกีฬาเอกซ์ตรีมในวันที่ 27 เมษายน

Logo

  • ผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คนร่วมเป็นสักขีพยานในการแข่งรถไร้คนขับที่ Yas Marina Circuit
  • รถไร้คนขับ 4 คันเตรียมลงแข่งพร้อมกันในความพยายามครั้งแรกของโลก
  • นักเขียนโค้ดคือนักแข่ง: 8 ทีมนานาชาติแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัลรวม 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ADNOC รับตำแหน่งผู้สนับสนุน A2RL เพื่อสนับสนุน Mobility Tech Advancement

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi เปิดตัว ‘AI71’: บริษัท AI แห่งใหม่บุกเบิกการควบคุมข้อมูลแบบกระจายศูนย์สำหรับบริษัท & ประเทศต่างๆ

Logo

  • มีการสร้าง AI71 ขึ้นตามโมเดล Falcon Generative AI ที่ได้รับการจัดอันดับระดับโลก
  • บริษัทใหม่มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ระบบ AI แบบก้าวหน้าในหลายโดเมน โดยมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมายในเริ่มแรก

ABU DHABI,United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

ในยุคการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Abu Dhabi (Advanced Technology Research Council ATRC) มีความก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวบริษัท AI แห่งใหม่ชื่อว่า AI71 โดยองค์กรนี้สร้างขึ้นจากโมเดล Falcon generative AI ของสถาบันนวัตกรรม (Technology Innovation Institute – TII) และมีความมุ่งเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญพิเศษในหลากหลายโดเมน ในขณะเดียวกัน ก็มีการนำเสนอตัวเลือกการควบคุมข้อมูล AI ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับบริษัทและประเทศต่างๆ ที่กำลังมองหาโฮสต์สำหรับบริษัท เพื่อความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan, Crown Prince of Abu Dhabi and Chairman of the Abu Dhabi Executive Council launches AI71 along with H.E Faisal Al Bannai, Secretary General, Advanced Technology Research Council (Photo: AETOSWire)

H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มงกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี และประธานของสภาผู้บริหารอาบูดาบีได้เปิดตัว AI71 พร้อมกับ H.E Faisal Al Bannai หัวหน้าเลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ภาพ: AETOSWire)

โรงไฟฟ้า AI แห่งใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวโดย H.H. Sheikh Khaled bin Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่ง Abu Dhabi และประธานของ Abu Dhabi Executive Council โดยมีรัฐมนตรีและตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติชั้นนำเข้าร่วมงาน

ในขณะที่สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของ ATRC เป็นผู้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) Falcon 7B, 40B และ 180B VentureOne ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ATRC จะเป็นผู้นำ AI71 ออกสู่ตลาดสำหรับหลากหลายโดเมน เริ่มจากภาคส่วนการแพทย์ การศึกษา และกฎหมาย การเปิดให้สามารถเข้าถึงคลังข้อมูลนิรนามขนาดใหญ่ในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มประชากรที่หลากหลาย และ AI71 จะสร้างความแตกต่างในตลาด AI ที่สำคัญต่างๆ ในปัจจุบัน กล่าวคือ โครงสร้างพื้นฐานทางอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิทัลและค่อนข้างสมบูรณ์ของ UAE

ในช่วงเวลาที่นวัตกรรมมักจะก้าวล้ำกรอบงานกำกับดูแล โครงสร้างในการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของรัฐบาล UAE ช่วยให้บริษัทใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวล้ำของ AI โดยข้ามกระบวนการที่มีความยืดเยื้อในการพัฒนาดังกล่าว

ด้วยความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรกัน AI71 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้โมเดล AI และได้รับประโยชน์จากการที่สามารถเข้าถึงแหล่งเก็บข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพของ generative AI ที่โดดเด่น ยิ่งไปกว่านั้น AI71 ยังช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ โดยยังนำเสนอมาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย  โดยทำหน้าที่เป็นดัชนีชี้วัดสำหรับโครงการ AI ที่ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ นี่เป็นตัวเลือกที่เปลี่ยนแปลงระบบการเข้าถึงสำหรับ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กร บริษัทขนาดใหญ่ และหน่วยงานรัฐบาลต่างประเทศ ที่ต้องการความมั่นใจในการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

AI71 จะได้รับการสร้างขึ้นตามแนวทางนวัตกรรมแบบสร้างสรรค์ โดยจะมีการนำไปใช้ในทุกแห่ง และบนความมุ่งมั่นที่จะให้มีการใช้งานเทคโนโลยี AI เป็นวงกว้าง ไม่ผูกขาดอยู่เพียงในกลุ่มของคนเพียงไม่กี่คน ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ บริษัท AI แห่งใหม่จะมีการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มข้อมูลประจำตัวสำหรับ Abu Dhabi และครอบคลุม UAE โดยยึดระบบ AI เป็นหลัก และการดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคแห่งความก้าวล้ำแห่งคลังความรู้ของประเทศ

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง กล่าวว่า “ใน UAE การทำงานร่วมกันเป็นมากกว่าเพียงการปฏิบัติ แต่เป็นการฝังรากลึกอยู่ใน DNA ของทุกคน โมเดล Falcon generative AI ของเราซึ่งเป็นหัวใจของ AI71 ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนา บริษัท และประเทศ รวมทั้งยังให้อิสระแก่ทุกคนเพื่อสร้างตัวตนในข้อมูลของตัวเอง ด้วยความสามารถในการเข้าถึงชุดข้อมูลแบบรวมศูนย์ของ UAE การนำโมเดล AI ของไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ภายในภาคส่วนต่างๆ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนงาน AI71 ของเรา ในระหว่างที่เราดำเนินการสำรวจเส้นทางแห่งนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดล Falcon AI แบบโอเพ่นซอร์สด้วยในคราวเดียวกัน เพราะการสร้างสรรค์แหล่งทรัพยากรข้อมูลแบบกระจายศูนย์เหล่านี้เท่านั้นจะที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมทั้งหมดอย่างแท้จริง”

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ล้ำสมัยรายการของ AI71 จะมุ่งเน้นที่ภาคส่วนการแพทย์ และปรับเปลี่ยนความสามารถในการวินิจฉัยและการตัดสินใจ ซึ่งจะเพิ่มระดับความแม่นยำและลดเวลาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยแต่ละรายได้เป็นอย่างมาก

ภาคส่วนการศึกษาและกฎหมายก็ได้รับประโยชน์จากบูรณาการและการปรับแต่ง AI นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะสร้างผลประโยชน์เพิ่มขึ้นแก่แต่ละโดเมน และนำไปสู่โซลูชันใหม่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคม

AI71 มีการร่วมมือกันกับพันธมิตรเจ็ดรายทั่วทั้งระบบนิเวศ รวมถึง Department of Government Enablement – Abu Dhabi ซึ่งมีการรวมศูนย์หน่วยงานภาครัฐกว่า 30 แห่งผ่านการแปลงเป็นดิจิทัล, Office of Artificial Intelligence, Digital Economy และ Remote Work Applications เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง, World Wide Technology เพื่อร่วมพัฒนาโซลูชัน AI ในสถานที่แบบบูรณาการ, CNTXT เพื่อให้บริการติดฉลากข้อมูลและแสดงคำอธิบายประกอบ, Hub71 เพื่อดึงดูดและขยายขนาดสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและ AI, PwC Middle East เพื่อดูแลกรณีการใช้งานของลูกค้า, และ AWS เพื่อจัดหาความจุของพลังงานเพื่อการประมวลผล

เนื่องจาก AI มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและการทำงานของเราในอนาคตอันใกล้ บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จึงมองหาข้อเสนอใหม่ๆ สำหรับองค์กรต่างๆ ตามความต้องการของอุตสาหกรรม และอำนวยความสะดวกในการขยายการใช้งาน AI ในวงกว้างทั่วทุกแห่ง AI71 นำเสนอโอกาสในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนระบบนิเวศที่เน้น AI เป็นอันดับแรกใน UAE และประเทศอื่นๆ

เนื่องจาก AI71 สร้างผลกระทบทั่วทั้งองค์กร อุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ VentureOne จึงจะมีการนำเสนอความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาคส่วนต่างๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53862674/en

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan, Senior Director of Communications
jennifer.dewan@tii.ae.

แหล่งข้อมูล: Advanced Technology Research Council

Powered by Business Wire