Tag Archives: company

Milliken & Company มุ่งมั่นสู่อนาคตที่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Logo

SBTi ตั้งเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของบริษัทเป็นศูนย์ภายในปี 2050

SPARTANBURG, S.C.–(BUSINESS WIRE)–19 ตุลาคม 2022

Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายประกาศว่าเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ได้รับการอนุมัติโดย Science Based Targets initiative (SBTi) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ SBTi เป็นกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษที่สอดคล้องกับภูมิอากาศวิทยาและความตกลงปารีส (Paris Agreement)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย สามารถดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

“ที่ Milliken ความยั่งยืนคือค่านิยมหลัก” กล่าวโดย Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังสร้างแรงกดดันต่อชุมชน บริษัท และโลกของเรา ถึงเวลาต้องดำเนินการอย่างมี เป้าหมายแล้ว”

SBTi คำนวณว่าบริษัทต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสายการผลิตตามภูมิอากาศวิทยา ขณะนี้คิดเป็นมูลค่า 38 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก Milliken เป็นหนึ่งใน 50 บริษัทแรกทั่วโลกที่บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับอนุมัติ และเข้าร่วมกลุ่มบริษัทมากกว่า 1,300 แห่งที่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยใช้มาตรฐาน SBTi Corporate Net-Zero ของปี 2021 Milliken เป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติในเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ทั่วโลกของ Milliken

Kasel Knight ที่ปรึกษาทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Milliken กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั้งหมดจะเหมือนกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ Milliken มุ่งมั่นที่จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างแท้จริงทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ภายในปี 2050 จากปีฐาน 2018” “ด้วยการทำงานร่วมกับ SBTi ความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่ไปกับเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของเราที่ได้รับการอนุมัติ จะได้รับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดในระดับโลก”

“เราภูมิใจที่ Milliken เป็นผู้นำงานนี้” กล่าวสรุปโดย Cook “เป้าหมายของเราช่วยให้ทีมงานของเรามากกว่า 8,000 คนลดความเสี่ยง ลดผลกระทบ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน และค้นพบวิธีการใหม่ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์”

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอวิธีแก้ปัญหาสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและแฟ้มภาพผลงานที่มีการประยุกต์ใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ผลิตภัณฑ์ปูพื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลกมาหลายชั่วอายุคน สามารถดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่กระหายใคร่รู้ของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่สร้างแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter

เกี่ยวกับ Science Based Targets initiative

Science Based Targets initiative (SBTi) เป็นองค์กรระดับโลกที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายที่มีความทะเยอทะยานในการลดการปล่อยมลพิษตามภูมิอากาศวิทยาล่าสุด โดยมุ่งเน้นที่การเร่งรัดให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งก่อนปี 2030 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ก่อนปี 2050 ความคิดริเริ่มนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง CDP, ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact), สถาบันทรัพยากรโลก (WRI) และกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และหนึ่งในพันธกรณีของ We Mean Business Coalition

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221019005053/en/

ติดต่อ

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Boomi คว้ารางวัล Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth ติด 50 อันดับแรกในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุด

Logo

  • David Meredith คว้ารางวัล Best CEOs for Diversity เป็นปีที่สองติดต่อกัน; เข้าร่วมกับผู้ได้รับรางวัลซีอีโอที่ติดอันดับปี 2022 จาก Microsoft และ Adobe
  • รางวัลดังกล่าวเป็นไปตามธุรกรรมมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อมาเป็นบริษัทแบบ standalone และการแต่งตั้งผู้นำเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งเน้นระดับโลกในการว่าจ้างสมาชิกทีม Boomi ใหม่หลายร้อยคน เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าอย่างรวดเร็วของบริษัท

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–19 กรกฎาคม 2022

BoomiTM ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ในวันนี้คว้าสองรางวัลจาก Comparably แพลตฟอร์มด้านวัฒนธรรมในสถานที่ทำงานและชื่อเสียงของแบรนด์องค์กรชั้นนำ ในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุดพร้อมกับผู้ได้รับรางวัลรายอื่น ๆ ในปี 2022 อย่างเช่น Microsoft, Adobe, IBM, Uber, Uber และ SADA ซึ่งได้รับเกียรติจากรางวัล Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth อ้างอิงจากผลตอบรับของพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวจากพนักงานทั่วโลกมากกว่า 1,700 คน Boomi ติด 50 อันดับแรกของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสำหรับความมุ่งมั่นและความสำเร็จในด้านความหลากหลายและความก้าวหน้าในอาชีพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220719005282/en/

Boomi Wins Comparably Awards for Best CEOs for Diversity and Best Company for Career Growth in Largest Company Category (Graphic: Business Wire)

Boomi คว้ารางวัลจาก Comparably สำหรับ Best CEOs for Diversity และ Best Company for Career Growth ในประเภทบริษัทที่ใหญ่ที่สุด (กราฟิก: Business Wire)

“ที่ Comparably เราให้รางวัลที่โปร่งใสในสถานที่ทำงาน” Jason Nazar ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Comparably กล่าว “รางวัลเหล่านี้ช่วยให้พนักงานสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกส่วนตัวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของบริษัท ซึ่งให้รางวัลและเน้นย้ำถึงบริษัทอย่าง Boomi ที่ทำงานได้อย่างโดดเด่นและจัดเตรียมพนักงานให้ประสบความสำเร็จ”

Comparably คัดเลือกผู้ชนะด้วยการประเมินการให้คะแนนของพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวตนกว่า 15 ล้านคนจากบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 70,000 แห่ง พนักงานของ Boomi จัดอันดับโอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพ อย่างเช่น ความก้าวหน้าในอาชีพที่มีเป้าหมาย การให้คำปรึกษา และผลตอบรับที่มีคุณค่าในระดับที่สูง ซึ่งนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับของ Boomi ท่ามกลางรางวัล Best Companies for Career Growth ในการมอบรางวัล Best CEOs for Diversity แก่ Boomi โดย Comparably ประเมินการให้คะแนนของ Meredith จากพนักงาน Boomi รางวัลแห่งปี 2022 สำหรับ Meredith ถือเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ได้รับตำแหน่งที่สำคัญนี้

“ในฐานะบริษัทให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ระดับโลกที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจและมีการเติบโตสูง Boomi มุ่งมั่นที่จะสร้างและรักษาประสบการณ์ของพนักงานระดับโลก” Shawn Maurice ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Boomi กล่าว “เราดำเนินชีวิตตามคติพจน์ที่ว่า ‘การจ้างคนดี’ และค่านิยมหลักที่เป็นเอกลักษณ์ของเราคือ Go Beyond, Play for Each Other, Create Awesome Things, Own It, and Build Trust ในที่สุดความสำเร็จของ Boomi อยู่ในมือของสมาชิกในทีมของเรา และเราให้ความสำคัญกับการสร้างและดูแลสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการพัฒนาและความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนส่งเสริมให้พวกเขากล้าแสดงออกและค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์เพื่อรับมือกับความท้าทาย รางวัลเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงวัฒนธรรมของบริษัทที่โด่งดังของ Boomi ในขณะที่เรายังคงลงทุนในบุคลากรของเราต่อไป”

ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำธุรกิจของการให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) แบบ cloud-native เมื่อเร็ว ๆ นี้ Boomi มีลูกค้ามากกว่า 20,000 ราย ซึ่งสร้างสถิติอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่าย iPaaS บริษัทมีชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย เครือข่ายทั่วโลกที่มีพันธมิตรมากกว่า 800 ราย และหนึ่งในอาเรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบ (GSIs) ระดับโลกในด้าน iPaaS แพลตฟอร์มแบบ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ และมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการมากขึ้น

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Enterprise Integration Platform as a Service (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

บริษัทเพิ่งได้รับรางวัล Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS) และได้รับรางวัลมากมายสำหรับการเป็นนายจ้างที่ได้รับเลือก รวมถึงการได้รับรายชื่อล่าสุดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของนิตยสาร Inc. Magazine

สำหรับรายชื่อตำแหน่งงานที่เปิดรับในทีม Boomi ดูรายละเอียดได้ที่ careers page บนเว็บไซต์ Boomi

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2021

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารการวิจัย และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ขายที่มีคะแนนสูงสุดหรือกำหนดตำแหน่งอื่น ๆ สิ่งพิมพ์วิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการซื้อขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในชื่อ Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi เชื่อมต่อทุกคนกับทุกสิ่งและทุกที่โดยทันทีทันใดด้วยแพลตฟอร์มแบบ cloud-native ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว เปิดกว้าง และชาญฉลาด การให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) ของ Boomi ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 20,000 รายทั่วโลกในด้านความเร็ว ความสะดวกในการใช้งาน และต้นทุนรวมที่ลดลงในการเป็นเจ้าของ ในฐานะผู้บุกเบิกการขับเคลื่อนการใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด วิสัยทัศน์ของ Boomi คือการทำให้ลูกค้าและพันธมิตรสามารถค้นหา จัดการ และประสานข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.boomi.com

เกี่ยวกับ Comparably

Comparably เป็นแพลตฟอร์มวัฒนธรรมสถานที่ทำงานและชื่อเสียงของแบรนด์องค์กรชั้นนำที่มีการจัดอันดับพนักงานที่ไม่เปิดเผยตัวตนมากกว่า 15 ล้านคนจากบริษัท 70,000 แห่ง ด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดในองค์กรขนาดใหญ่และ SMB ในเกือบ 20 ประเภทสถานที่ทำงานที่แตกต่างกัน อ้างอิงตามเพศ เชื้อชาติ อายุ ประสบการณ์ อุตสาหกรรม สถานที่ การศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม SaaS ที่ใช้มากที่สุดสำหรับการสร้างแบรนด์นายจ้างและเว็บไซด์บุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ สำหรับวัฒนธรรมสถานที่ทำงานและค่าตอบแทน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาของ Comparably และรางวัล Best Places to Work ประจำปี ดูรายละเอียดได้ที่ Comparably News

เกี่ยวกับ Comparably Awards

Comparably Awards เป็นงานประจำปีที่เน้นถึงบริษัทและซีอีโอที่โดดเด่นที่สุดใน 16 ประเภทวัฒนธรรมในที่ทำงานที่แตกต่างกันตลอดทั้งปี นับตั้งแต่เปิดตัวในปลายปี 2017 รางวัลดังกล่าวได้มาจากความคิดเห็นด้านความเชื่อมั่นจากพนักงานปัจจุบันที่ให้คะแนนนายจ้างโดยไม่เปิดเผยตัวตนบน Comparably.com ในช่วงระยะเวลาย้อนกลับไป 12 เดือน พนักงานสามารถตอบคำถามแบบมีโครงสร้าง (ใช่/ไม่ใช่ จริง/เท็จ มาตราส่วน 1-10 และรูปแบบตัวเลือกหลายตัวเลือก) ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสถานที่ทำงาน 16 หัวข้อ แต่ละคำตอบจะได้รับคะแนนเป็นตัวเลขและเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ชุดข้อมูลสุดท้ายของผู้ชนะรวบรวมจากการจัดอันดับกว่า 15 ล้านคนจากบริษัท 70,000 แห่ง

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220719005282/en/

ติดต่อ:

สื่อ:
Kristen Walker
Global Corporate Communications
kristenwalker@boomi.com
+1-415-613-8320

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company ติดตามความคืบหน้าในโครงการความยั่งยืนในรายงานความยั่งยืนประจำปีครั้งที่สี่

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–22 เม.ย. 2565

วันนี้ Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่สี่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบการรายงานที่สำคัญสำหรับความคืบหน้าของบริษัทในการมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนปี 2568 โดยในปี 2562 Milliken ได้กำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนเอาไว้ 12 ประการ โดยมุ่งเน้นที่บุคลากร ผลิตภัณฑ์ และโลกใบนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการบรรลุเป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตามแนวทางของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายทั้ง 12 ประการนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในด้านความยั่งยืนในทุกรูปแบบ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220422005043/en/

Milliken's fourth annual Sustainability Report highlights the company's progress toward its 2025 Sustainability Goals. (Photo: Business Wire)

รายงานความยั่งยืนประจำปีครั้งที่สี่ของ Milliken เน้นย้ำถึงความคืบหน้าของบริษัทในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2568 (ภาพ: Business Wire)

ในปี พ.ศ. 2564 Milliken ได้เลิกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงหลักหลังจากทุ่มเงิน 25 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างพลังงานความร้อนร่วม ซึ่งผสมผสานการผลิตไอน้ำและพลังงานเข้าด้วยกัน  ที่สำคัญ Milliken ยังเพิ่มความหลากหลายของทีมผู้บริหารในสหรัฐฯ อีกร้อยละ 8 และได้ประกาศว่าขณะนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดของบริษัทมีคาร์บอนเป็นศูนย์แล้ว

“จุดประสงค์ร่วมและความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ทำให้ Milliken มีเอกลักษณ์พิเศษ ” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “เราไม่เพียงแต่ทำเต็มความสามารถในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกรอบตัวเราเท่านั้น แต่ยังมีความรับผิดชอบในการสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีขึ้นสำหรับคนรุ่นนี้และคนรุ่นต่อ ๆ ไป อีกด้วย”

รายงาน Global Reporting Initiative (GRI) ซึ่งเป็นรายงานฉบับที่สี่ของ Milliken ที่เสร็จสมบูรณ์ตามมาตรฐาน Core ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนแบบองค์รวมที่เกิดขึ้นในปี 2564 ความพยายามเหล่านี้รวมถึง:

  • บันทึกเหตุการณ์ความปลอดภัยหยุดงานเพื่อความปลอดภัยไปเป็นศูนย์จากวิกฤติ COVID-19
  • บันทึกชั่วโมงอาสาสมัคร 27,000 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
  • ร่วมมือกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น Accelerating Circularity, Polypropylene Coalition, PureCycle Technologies และ Alliance to End Plastic Waste เพื่อให้ความเชี่ยวชาญของเราในการแก้ปัญหาการสิ้นสุดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
  • อัปเกรดระบบแสงสว่างเป็นไฟ LED ในโรงงานผลิต 13 แห่ง ลดการปล่อย GHG 3,000 เมตริกตัน และบรรลุครึ่งหนึ่งของเป้าหมายเพื่อแปลงไฟส่องสว่างในโรงงานผลิตทั้งหมดเป็น LED ภายในสิ้นปี 2566 และ
  • เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 97,608 MWh/ปี คิดเป็นมากกว่า ร้อยละ 97 ของเป้าหมายปี 2568 ที่ 100,000 MWh/ปี

Kasel Knight รองประธานอาวุโสและที่ปรึกษาทั่วไปกล่าวว่า “หน้าปกของรายงานประจำปีนี้เป็นภาพจากสารคดีเรื่อง Everest ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องจริงอันน่าทึ่งของทีมนักปีนเขาสี่คนที่ขึ้นไปบนยอดเขา “Milliken และ Polartec กำลังสนับสนุนการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งในวันครบรอบ 25 ปี สำหรับเรา เรื่องราวการทำงานเป็นทีม ความหวัง และความอุตสาหะนี้เหมาะสมกับรายงานปี 2564 ของเราเป็นอย่างมาก เป้าหมายของเราสูงส่ง แต่การทำงานร่วมกัน ทำให้เรารู้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ที่สดใสและที่มีสุขภาพดีขึ้นได้”

หากต้องการดูรายงานฉบับสมบูรณ์ โปรดไปที่คลังความรู้ Milliken's Sustainability ที่นี่

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์วัสดุเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าสำหรับวันหน้า Milliken  ใช้ตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการใช้งานทั่วทั้งธุรกิจสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ปูพื้น เคมี และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกจากรุ่นสู่รุ่น ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และโซลูชันที่เป็นแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และที่ Facebook, Instagram, LinkedIn กับ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220422005043/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma

betsy.sikma@milliken.com

864.909.7908

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 เป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน

Logo

รายชื่อรางวัลด้านจริยธรรมขั้นสุดท้ายถือเป็นการยกย่องที่โดดเด่นสำหรับผู้ผลิตที่หลากหลาย

สปาร์ตันเบิร์ก เซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–15 มีนาคม 2565

Milliken & Company ได้รับการยกย่องจากสถาบัน Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 หรือ 2022 World’s Most Ethical Companies ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลาย ซึ่งมีมากกว่า 60 แห่งและพนักงานประมาณ 8,000 รายทั่วโลก เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณตามหลักจริยธรรมอันทรงเกียรติทุกปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งรางวัล

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

Milliken is one of six companies included on the list for the last 16 years. (Graphic: Business Wire)

Milliken เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่มีอยู่ในรายชื่อในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา (กราฟิก: Business Wire)

“สถาบัน Ethisphere และโปรแกรมบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสำหรับวิธีการดำเนินธุรกิจของเรา” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “การได้รับการยกย่องนี้เป็นเวลาถึง 16 ปีติดต่อกันเป็นการตอกย้ำถึงวัฒนธรรมและความมุ่งมั่นของสมาชิกทีม Milliken ทั่วโลก มันคือสิ่งที่เราเป็น”

ในปี 2565 มีผู้ได้รับรางวัล 136 คน ครอบคลุม 22 ประเทศและ 45 อุตสาหกรรม Milliken เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุตสาหกรรมเจ็ดราย ด้วยการประเมินภายใต้ระบบ Ethics Quotient® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบัน Ethisphere กระบวนการประเมินบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกที่จะได้รับคะแนนจากการให้ข้อมูลผ่านคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม บทบาททางสิ่งแวดล้อมและสังคม บทบาททางจริยธรรม การกำกับดูแลกิจการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง กระบวนการนี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อรวบรวมและประมวลแนวทางปฏิบัติชั้นนำขององค์กรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และทั่วโลก

การดำเนินงานของ Milliken ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยตระหนักว่าจริยธรรมนั้นยึดถือความสำเร็จระยะยาวของบริษัทสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

“ขอแสดงความยินดีกับ Milliken ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 16” Timothy Erblich ซีอีโอของสถาบัน Ethisphere กล่าว “เราขอชมเชยทีมงาน Milliken ทั้งหมดสำหรับความสำเร็จที่สำคัญอย่างแท้จริงและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและยั่งยืนโดยการสร้างวัฒนธรรมแห่งจริยธรรมและวัตถุประสงค์อย่างตั้งใจ”

ผู้ได้รับเกียรติ

รายชื่อบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 สามารถดูได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Milliken

บริษัท Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ จากอุตสาหกรรมโมเลกุลชั้นนำไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการใช้งานในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของบริษัท Milliken ได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagramLinkedIn และ Twitter.

เกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere

สถาบัน Ethisphere® เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ซึ่งกระตุ้นคุณลักษณะขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ สถาบัน Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมหลักโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้ปรับปรุงลักษณะองค์กรและวัดผลและปรับปรุงวัฒนธรรม ทั้งนี้สถาบัน Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโปรแกรมการยกย่องบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลก และมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere สามารถค้นหาได้ที่: https://ethisphere.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

ติดต่อสื่อ
Betsy Sikma, Milliken
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Anne Walker, Ethisphere
Anne.Walker@Ethisphere.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Wella Company ฉลองปีแรกในฐานะบริษัทเอกเทศด้วยการก้าวข้ามเป้าหมายการเติบโตในการแนะนำนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและขยายขีดความสามารถในการเป็นผู้นำ

Logo

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–01 ธันวาคม 2564

Wella Company ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมความงามมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ ในวันนี้ฉลองครบรอบหนึ่งปีในฐานะบริษัทแบบสแตนด์อโลน Wella Company มีความเชี่ยวชาญและการค้าปลีกในด้านผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีความงามและสีทาเล็บที่สุดแห่งแบรนด์ รวมถึง Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีในปี 2423 และกลับสู่สถานะการดำเนินงานอิสระในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ซึ่งนำโดย Kohlberg Kravis and Roberts (“KKR”) บริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่ลงทุนในหุ้นส่วนใหญ่โดยเพิ่มขึ้นสองเท่าในปีที่ผ่านมา

Wella Company ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลก ในระหว่างนั้นอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพเกือบทั้งหมดที่เป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทได้ถูกล็อกดาวน์ แม้จะมีสภาพแวดล้อมระดับโลกที่ท้าทายเช่นนี้ บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นในการสร้างรากฐานการดำเนินงานเพื่อความสำเร็จแบบสแตนด์อโลน และรับสมัครพนักงานเกือบ 1,100 คนทั่วโลก รวมถึงรายชื่อผู้นำด้านความงาม ร้านค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำมาร่วมในทีมผู้บริหาร

“ในปีแรกของบริษัท ทีมงานของเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เราได้รับสถานะอิสระในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมความงามและมีรายได้เติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับทั้งปี 2563 และ 2562 โดยปีงบประมาณของเราซึ่งเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้นได้เริ่มต้นอย่างมั่นคง ธุรกิจโดยรวมของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก และผลประกอบการทางการเงินของเรากำลังส่งมอบเกินเป้าหมายประจำปีในทุกธุรกิจและทุกภูมิภาค” Annie Young-Scrivner ซีอีโอของ Wella Company กล่าว “เราพร้อมแล้วสำหรับการเติบโตไปยังทั่วโลก และยังคงมุ่งเน้นในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดยจะเดินหน้าขยายช่องทางและภูมิศาสตร์ต่อไปในขณะที่ปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ของเรา”

ประสิทธิภาพและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์

Wella Company มีกระบวนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งในการผลิตผลงานในปีแรกนี้

หัวข้อเด่นจากผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้แบรนด์ที่ดีที่สุดของ Wella Professionals ได้แก่:

  1. True Grey ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่ยอมรับผมสีเทาของพวกเขา มีการลงทะเบียนร้านเสริมสวย 10 แห่งทุก ๆ ชั่วโมงในช่วงสองเดือนแรกทั่วภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)
  2. Koleston Perfect ผลิตภัณฑ์ทำสีผมถาวรสำหรับมืออาชีพที่ขายดีที่สุดในโลก ได้มาถึงจุดที่ใช้อ้างอิงใหม่ – ทั้งนี้มีการซื้อหนึ่งหลอดทุก ๆ วินาทีทั่วโลก
  3. ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Wella Professional Hair Care ยังคงเติบโตในอัตราเลขสองหลักอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก

Clairol และ Wella ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผมสำหรับค้าปลีกของบริษัท โดยได้รับประโยชน์จากการลงทุนใหม่และการปรับเปลี่ยนแบรนด์ ทั้งนี้ Clairol กำลังประกาศผลกำไรที่แข็งแกร่งกว่าเจ็ดเดือนติดต่อกัน ในส่วนของทาง Wella Retail แบรนด์ดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 24% ในเม็กซิโก และปัจจุบันครองตำแหน่งทางการตลาดอันดับ 1 ในตะวันออกกลาง และเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมอันดับ 1 ในบราซิลอีกด้วย

OPI แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทาเล็บชั้นนำจากลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากชื่อเฉดสีที่น่าจดจำ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทาเล็บวีแก้นที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติอย่าง Nature Strong ในตลาดกว่า 20 แห่งในช่วงซัมเมอร์นี้ Nature Strong ดำเนินการได้ดีเกินคาด ช่วยให้ผลงานเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลัก

ตลอดปี 2564 Nioxin มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลักในปี 2563 เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองและการบำรุงรักษาที่บ้านมากขึ้น รวมถึงการดูแลหนังศีรษะและผมร่วงในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

Ghd (good hair day) ในลอนดอน ซึ่งกำลังนิยามเทคโนโลยีความงามใหม่ ghd ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเส้นผมที่เป็นเอกสิทธิ์ของตนเองเพื่อเปิดตัว Unplugged เครื่องจัดแต่งทรงผมไร้สายที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก การเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลักอย่างสม่ำเสมอของพวกเขาเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเปิดตัวสู่ตลาดจีน โดยขายเครื่องจัดแต่งทรงผม 2,500 เครื่องได้ในห้านาที

ความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรม

การสนับสนุนให้ศิลปินในอุตสาหกรรมเสริมสวยอยู่นำหน้าเทรนด์และฝึกฝนฝีมือและทักษะต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน Wella Company ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Wella Company ได้เปิดสอนชั้นเรียนการศึกษาออนไลน์หลายร้อยชั้นเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและฝึกอบรมสไตลิสต์ ในเดือนเมษายนเมื่อโลกส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะล็อกดาวน์ บริษัทได้จัดงานเสมือนจริงระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรกชื่อว่า “WeCreate” ซึ่งจัดประชุมสไตลิสต์และนักการศึกษาระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่อสัมผัสทักษะใหม่ ๆ และค้นพบความหลงใหลในงานฝีมืออีกครั้ง เพื่อให้สามารถเปิดร้านใหม่ได้สำเร็จหลังจากการล็อกดาวน์ WeCreate เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากกว่า 100,000 คนใน 100 ประเทศ และบริษัทได้บริจาคค่าเล่าเรียนเพื่อตอบแทนอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนมูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมเสริมสวยและเชื่อมั่นในพลังของการยกระดับสไตลิสต์และช่างเทคนิคที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” Young-Scrivner กล่าว “เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้เป็นกำลังที่สำคัญของชุมชนของพวกเขา เราเชื่อว่าเมื่ออุตสาหกรรมประสบความสำเร็จ เราก็ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน การสนับสนุนของเราสำหรับเจ้าของร้านเสริมสวยทั่วโลกเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่เรากำลังสร้างธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมาย”

ความเป็นผู้นำ

ทีมผู้นำของ Wella Company ประกอบด้วยผู้บริหารจากทั่วทั้งยุโรป เอเชีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง บริษัทยังคงลงทุนในความสามารถระดับสูง การนัดหมายครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนเพื่อขยายขีดความสามารถของอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกของทีมผู้บริหารดังนี้:

Yannis Rodocanachi ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งประธานบริษัทของอเมริกา Yannis นำประสบการณ์ด้านความงามระดับโลกที่ละเอียดครอบคลุม โดยได้ร่วมงานกับทั้งบริษัทผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่มีมูลค่าตลาดสูง และการเริ่มธุรกิจใหม่ด้านความงามและเส้นผมที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้นนอกตลาดที่มีการเติบโตสูง เขาใช้เวลาเกือบ 20 ปีที่ L’Oréal ขยายผลงานผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมและความงามไปทั่วโลก และทำงานด้านการขาย การตลาด และการจัดการทั่วไปในยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาดำรงตำแหนงซีอีโอของ BH Cosmetics ในแอลเอ ซึ่งเขาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบริษัทที่กำหนดเป้าหมาย Gen Z ไปสู่ธุรกิจที่หลากหลาย ยุติธรรม และยั่งยืน พร้อมปรับขนาดเพื่อการเติบโตในการขายสินค้าแบบปลีกผ่านช่องทางการขายเฉพาะที่เป็นของแบรนด์เอง

Emmanuel Miran ได้เข้าร่วมในบทบาทที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก โดยเป็นการบูรณาการและเร่งรัดความมุ่งมั่นด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีของบริษัทภายใต้องค์กรเดียวกัน Miran นำประสบการณ์ด้านความงาม, CPG, สื่อ และการดูแลสุขภาพมาอย่างละเอียดครอบคลุม และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึง CIO, CTO และ CDO การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีในการสร้างรายได้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต โดยใช้เวลามากกว่า 16 ปีที่ L’Oréal ในตำแหน่งผู้นำด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ก่อนหน้านั้นเขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและดิจิทัลของ Mondelez International, News Corp. และครั้งล่าสุดที่ International SOS

ทีมผู้บริหารของบริษัทยังรวมถึงการเพิ่ม Virginie Costa ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินระดับโลก Gretchen Koback Pursel ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลระดับโลก และ Hugh Dineen ประธานของ Global Brands และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลก ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมในเดือนสิงหาคม Costa เป็นหนึ่งในเจ็ด CFO ระดับโลกที่เป็นผู้หญิงจาก 25 บริษัทด้านความงามชั้นนำ

Wella Company มีพนักงานมากกว่า 6,000 คนในกว่า 100 ประเทศ ในปัจจุบันพนักงานของ Wella 57 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเป็นผู้หญิง และ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ Wella อยู่ในระดับตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 การจ้างงานใหม่เกือบ 70% เป็นผู้หญิง และประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของการเลื่อนตำแหน่งทั้งหมดที่ได้รับก็เป็นผู้หญิง

“เราเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นบนกำลังสำคัญของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นช่างทำสีผม สไตลิสต์ ช่างทำเล็บ ในความเป็นจริงแล้วเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรประกอบด้วยผู้หญิง แต่เป็นเจ้าของธุรกิจจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น” Young-Scrivner กล่าว “เราต้องการสนับสนุนความสำเร็จของอุตสาหกรรมทั้งหมด และเชื่อว่านั่นหมายถึงการทำในส่วนของเราเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้”

เกี่ยวกับ Wella Company

Wella Company เป็นหนึ่งในบริษัทด้านความงามชั้นนำของโลก ซึ่งประกอบด้วยที่สุดแห่งแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd ที่ Wella Company เราเป็นนวัตกรที่พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามผ่านแบรนด์ของเราเพื่อให้มีรูปลักษณ์ สัมผัส และเป็นตัวตนที่แท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทด้านความงามที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม โดยที่พนักงานกว่า 6,000 คนของเราในกว่า 100 ประเทศสามารถทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำงาน ด้วยค่านิยมของบริษัทและนำโดยวัตถุประสงค์ในการส่งผลลัพธ์เชิงบวกต่อผู้คนผ่านผลิตภัณฑ์และต่อโลกและสังคม เรามอบการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wella Company สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.wellacompany.com และติดตามเราบน LinkedInInstagram และ Facebook

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211201005310/en/

ติดต่อ:

Hilary Crnkovich
+1 646 217 1700
Hilary.crnkovich@wella.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company เข้าซื้อกิจการ Encapsys LLC

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก เซาท์แคโรไลนา–(บิสิเนสไวร์)–19 ต.ค. 2564

Milliken & Company (“Milliken”) ผู้ผลิตที่มีความหลากหลายระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์มากว่าศตวรรษครึ่งได้เข้าซื้อกิจการ Encapsys, LLC (“Encapsys”) ผู้นำระดับโลกด้านไมโครแคปซูลจาก Cypress Performance Group LLC (“ไซเปรส”) ธุรกรรมดังกล่าวปิดตัวลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211018005946/en/

“การขับเคลื่อนความยั่งยืนต้องใช้ความคิดที่ยิ่งใหญ่และความร่วมมือที่ทรงพลัง  เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Encapsys สู่ Milliken” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “ความเชี่ยวชาญของ Encapsys ควบคู่ไปกับความสามารถของเราในการเติบโตจะช่วยขับเคลื่อนความพยายามของเราในการนำเสนอนวัตกรรมที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าของเรา”

“Encapsys นำการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาสู่ทีม Milliken” Cindy Boiter รองประธานบริหารและประธานบริษัทกล่าว ธุรกิจเคมีภัณฑ์ของ Milliken “การเสริมพอร์ตผลิตภัณฑ์เคมีพิเศษของเราให้เข้าถึงได้ทั่วโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเร่งการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนสำหรับตลาดและลูกค้าที่เราให้บริการ”

เมื่อ Encapsys รวมเข้ากับ Milliken การดำเนินงานรายวันจะดำเนินต่อไปโดยไม่หยุดชะงักรวมถึงความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์และลูกค้าที่มีอยู่

Encapsys ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมือง แอปเปิลตัน รัฐวิสคอนซิน เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไมโครแคปซูลซึ่งทำให้เปลือกโพลีเมอร์สม่ำเสมอรอบวัสดุหลักที่ระดับไมครอนและสร้างแคปซูล Microencapsulation โดยมีการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ และช่วยให้บริษัทต่างๆ บรรลุผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้นด้วยการบริโภคอย่างรับผิดชอบและการส่งมอบวัสดุที่ออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ

“ผู้ร่วมงานของ Encapsys รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นสมาชิกของทีม Milliken และยินดีต้อนรับองค์กรระดับโลกสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของวิสคอนซิน ” Mary Goggans ประธานของ Encapsys กล่าว “วัฒนธรรมและค่านิยมของเราเหมาะสมอย่างยิ่ง และเราตั้งตารอที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถระดับโลกของ Milliken ในการเร่งนวัตกรรมและการเติบโต”

Milliken มีที่ปรึกษากฎหมาย Jones Day และที่ปรึกษาทางการเงิน JJ.P. Morgan Securities LLC. BofA Securities, Inc. และ Credit Suisse Securities (USA) LLC และ Lewis & Bockius LLP เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับ Encapsys.

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้  Milliken & Company สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชนของบริษัทตั้งแต่โมเลกุลชั้นนำของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน โดยมีผลงานข้ามอุตสาหกรรมสิ่งทอ พื้น เคมีพิเศษและการดูแลสุขภาพธุรกิจ  บริษัทสานความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศในการสร้างผลกระทบเชิงบวกโลกให้กับคนรุ่นต่อไป  ค้นพบแรงบันดานใจและแนวทางการแก้ปัญหาของ Milliken ได้ที่ milliken.com และ Facebook, Instagram, LinkedIn และ Twitter

เกี่ยวกับ Encapsys

โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในแอปเปิลตัน รัฐวิสคอนซิน Encapsys เป็นผู้ริเริ่มระดับโลกในด้านไมโครแคปซูล  Encapsys เป็นผู้ประดิษฐ์ไมโครเอนแคปซูเลชันที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และได้นำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมแก่พันธมิตรในการดูแลบ้าน การดูแลส่วนบุคคล การเกษตร สิ่งทอ เครื่องนอน และกระดาษไร้คาร์บอนมานานกว่า 65 ปี หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Encapsys กรุณาเยี่ยมชม www.encapsys.com

เกี่ยวกับ The Cypress Performance Group LLC

The Cypress Performance Group เป็นเจ้าของ Encapsys ตั้งแต่ปี 2015 โดย Cypress เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ก่อตั้งโดย George Sherman โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจการผลิตหรือบริการทางอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม  Cypress ช่วยให้บริษัทต่างๆ ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์โดยใช้ระบบธุรกิจเพื่อมุ่งเน้นที่การเติบโตและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ในขณะเดียวกันก็พัฒนาแนวทางปฏิบัติชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและมอบมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211018005946/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma, Milliken
betsy.sikma@milliken.com 
864.909.7908

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เรือ ‘Hidden Gem’ ถึงเมืองรอตเตอร์ดัมเพื่อเปลี่ยนเป็นเรือเก็บแร่และหินสำหรับ The Metals Company

Logo

  • เรือความยาว 228 เมตรคาดว่าจะเป็นเรือลำแรกที่ได้รับการจัดประเภทเป็นเรือขุดใต้น้ำภายใต้กรม American Bureau of Shipping
  • มีการบูรณาการอุปกรณ์เพื่อรองรับยานพาหนะเก็บแร่ธาตุนำร่องและระบบไรเซอร์ที่กำลังออกแบบและสร้างโดย Allseas
  • เริ่มการทดสอบสำหรับการใช้งานในโรงงานสำหรับส่วนประกอบของระบบที่จะรวมเข้ากับเรือ

นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–21 ก.ย. 2564

The Metals Company (Nasdaq: TMC) ได้ประกาศในวันนี้ว่าอดีตเรือขุดเจาะความยาว 228 เมตรที่เปลี่ยนชื่อเป็น Hidden Gem ได้มาถึงเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์แล้วเพื่อเริ่มแปลงเป็นเรือขุดใต้ทะเลเรือลำแรกโดย American Bureau of Shipping Allseas  Allseas พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ TMC ได้ซื้อเรือขุดเจาะน้ำลึกพิเศษในอดีต ซึ่งสามารถรองรับคนได้ 200 คนในเดือนมีนาคม 2563 เนื่องจากการกำหนดค่านั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการดัดแปลงที่จะช่วยให้สามารถติดตั้งเครื่องยกสูงยาว 4.5 กิโลเมตรในทะเลได้เพื่อนำก้อนโพลีเมทัลลิกขึ้นมาจากพื้นทะเล

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210921005945/en/

Hidden Gem vessel (Photo: Business Wire)

เรือ Hidden Gem (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

โดยร่วมกับ The Metals Company (เดิมชื่อ DeepGreen Metals Inc.) Allseas กำลังพัฒนาระบบรวบรวมแร่ธาตุจากทะเลลึกเพื่อนำก้อนโพลีเมทัลลิกกลับมาใช้ใหม่จากพื้นมหาสมุทรอย่างมีความรับผิดชอบและส่งต่อเพื่อการขนส่งไปยังฝั่ง  แต่ละก้อนประกอบด้วยนิกเกิล แมงกานีส ทองแดง และโคบอลต์คุณภาพสูง ซึ่งเป็นโลหะสำคัญที่จำเป็นสำหรับการสร้างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น Hidden Gem ในยุโรปและได้เห็น Allseas มีความก้าวหน้าอย่างมาก” Gerard Barron ประธานและซีอีโอของ The Metals Company กล่าว “เรือลำดังกล่าวประสบความสำเร็จในการเริ่มดำเนินการในขั้นตอนการบำรุงรักษาในอู่ ซึ่งน่าจะเป็นการแปลงที่ราบรื่นและทันเวลาล่วงหน้าก่อนโครงการขุดนำร่องของเราในปี 2565”

The Metals Company เพิ่งเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการของ SPAC และการเสนอขายหุ้นใน Nasdaq  นอกจากนี้ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ Allseas ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านวิศวกรรมนอกชายฝั่งได้แสดงความยินดีให้ก้ับทางบริษัท “ในฐานะนักลงทุนรายสำคัญในบริษัทและนักลงทุนใน PIPE เราเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับ The Metals Company ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  เรามีวิสัยทัศน์ร่วมกับพวกเขาในการใช้ประโยชน์จากแหล่งโลหะแบตเตอรี่ที่ความว่าใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” Edward Heerema ผู้ก่อตั้งและประธาน Allseas กล่าว

TMC และ Allseas คาดว่าเรือจะพร้อมดำเนินการทดสอบนำร่องภายในกลางปี ​​2565

เกี่ยวกับ The Metals Company

The Metals Company เป็นบริษัทแคนาดาที่สำรวจแบตเตอรี่ที่มีผลกระทบต่ำจากก้อนโพลีเมทัลลิกใต้ท้องทะเล โดยมีภารกิจสองประการ: (1) จัดหาโลหะสำหรับการเปลี่ยนพลังงานสะอาดโดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในเชิงลบน้อยที่สุด และ (2) เร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจโลหะหมุนเวียน  ทางบริษัท ผ่านบริษัทในเครือ ถือครองสิทธิในการสำรวจและการค้าในพื้นที่สัญญาจ้างโลหะโพลีเมทัลลิกสามแห่งในเขต Clarion Clipperton ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งควบคุมโดย International Seabed Authority และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของนาอูรู คิริบาส และราชอาณาจักรตองกา

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.metals.co

เกี่ยวกับ Allseas

Allseas Group SA เป็นผู้รับเหมาชั้นนำระดับโลกในด้านการติดตั้งท่อส่งน้ำมันนอกชายฝั่ง ลิฟต์ขนาดใหญ่ และการก่อสร้างใต้ทะเล  บริษัทมีพนักงานมากกว่า 4,000 คนทั่วโลก และดำเนินการกองเรืออเนกประสงค์สำหรับรถบรรทุกหนัก การวางท่อ และเรือสนับสนุนเฉพาะทาง ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายในบริษัท

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Allseas ได้ที่ www.allseas.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความบางส่วนในการนำเสนอนี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต แต่เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยภายใต้กฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act ปี 2538 ส่งต่อ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าจะมาพร้อมกับคำต่างๆ เช่น “เชื่อ” “อาจ” “จะ” “ประมาณการ” “ดำเนินการต่อ” “คาดการณ์” “ตั้งใจ” “คาดหวัง” “ควร” “อาจจะ” “วางแผน” “ทำนาย” “มีศักยภาพ” “ดูเหมือน” “แสวงหา” “ในอนาคต” “มีมุมมอง” และสำนวนที่คล้ายกันที่ทำนายหรือบ่งชี้เหตุการณ์หรือแนวโน้มในอนาคตหรือที่ไม่ใช่ข้อความของเรื่องทางประวัติศาสตร์ ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความคาดหวังของ TMC ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือสำรวจ การใช้งานและการทำงานของอุปกรณ์ และความร่วมมือกับ Allseas และระยะเวลาของการทดสอบการรวบรวมโหนดนำร่อง  ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สำคัญซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากที่กล่าวถึงในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า  ปัจจัยเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ TMC และคาดการณ์ได้ยาก ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความแตกต่างดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: การไม่สามารถรักษารายชื่อหุ้นของ TMC บน Nasdaq ความสามารถในการรับรู้ถึงผลประโยชน์ที่คาดการณ์ไว้ของการรวมธุรกิจที่เพิ่งเสร็จสิ้นซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความเป็นไปได้ทางการค้าและทางเทคนิคของการทำเหมืองและการแปรรูปก้อนโลหะโพลีเมทัลลิก อุปทานและอุปสงค์ของโลหะแบตเตอรี่ ราคาโลหะแบตเตอรี่ในอนาคต เวลาและเนื้อหาของระเบียบการแสวงหาผลประโยชน์ของ ISA ที่จะสร้างกรอบทางกฎหมายและทางเทคนิคสำหรับการหาประโยชน์จากก้อนโลหะโพลีเมทัลลิกในโซน Clarion Clipperton  ข้อบังคับของรัฐบาลเกี่ยวกับการทำเหมืองใต้ทะเลลึกและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำเหมือง ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ระยะเวลาและปริมาณการผลิตในอนาคตโดยประมาณ ต้นทุนการผลิต รายจ่ายฝ่ายทุน และข้อกำหนดสำหรับเงินทุนเพิ่มเติม กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน ความสามารถของ TMC ในการจัดหาเงินทุนในอนาคต ค่าใช้จ่ายในการถมที่ไม่คาดคิด การเรียกร้องและข้อจำกัดในการประกัน  ความไม่แน่นอนในการประมาณการทรัพยากรแร่ ความไม่แน่นอนในการศึกษาและความคิดเห็นทางธรณีวิทยา อุทกวิทยา โลหะวิทยา และธรณีเทคนิค ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความสามารถของ TMC ในการบังคับใช้ภาระผูกพันของผู้ลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ภายใต้สัญญาจองซื้อที่เกี่ยวข้องกับการรวมธุรกิจ ความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และการพึ่งพาผู้บริหารหลักและเจ้าหน้าที่บริหาร และความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่นๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในหนังสือมอบฉันทะ/หนังสือชี้ชวนที่เกี่ยวข้องกับการรวมธุรกิจที่เพิ่งเสร็จสมบูรณ์ รวมถึงที่อยู่ภายใต้ “ปัจจัยเสี่ยง” ในนั้น และในการยื่นเอกสารอื่นๆ ต่อ SEC TMC เตือนว่ารายการปัจจัยข้างต้นไม่ใช่เฉพาะ TMC เตือนผู้อ่านอย่าใช้ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกินควร ซึ่งพูดเฉพาะ ณ วันที่ทำ TMC ไม่ดำเนินการหรือยอมรับภาระผูกพันหรือการดำเนินการใด ๆ ในการเผยแพร่การปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ต่อสาธารณะเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ตามข้อความดังกล่าว

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210921005945/en/

ติดต่อ:

Chelsea Lauber | Antenna Group | tmc@antennagroup.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บริษัท Milliken & Company เผยแพร่รายงานความยั่งยืนขององค์กรประจำปีฉบับที่สาม

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก เซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–22 เมษายน 2564

บริษัท Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกเปิดตัวรายงานความยั่งยืนประจำปีฉบับที่ 3 ในชื่อ Together for Tomorrow รายงานนี้ซึ่งวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัท Milliken ด้วยมุมมองของความพยายามด้านความยั่งยืนแบบองค์รวมและได้เน้นย้ำถึงความก้าวไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนในปี 2568 ที่บริษัทกำหนดไว้ในปี 2561 ซึ่งครอบคลุมทั้งผู้คน ผลิตภัณฑ์และโลก รายงานนี้สร้างความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เชิญชวนให้มีการสนทนาและการทำงานร่วมกันใหม่ ๆ ในฐานะ บริษัทที่ทำงานเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกที่จะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210422005332/en/

Together for Tomorrow: Milliken's Third Annual Corporate Sustainability Report (Photo: Business Wire)

Together for Tomorrow: รายงานความยั่งยืนขององค์กรประจำปีฉบับที่สามของบริษัท Milliken (ภาพ: Business Wire)

 “เราได้พบเจอกับช่วงเวลาสำคัญของปี 2563 ด้วยกัน” Halsey Cook ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Milliken กล่าวแบ่งปัน “เราหมุนสายการผลิต เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ และรวบรวมทีมของเรา เพื่อปรับปรุงตัวชี้วัดความยั่งยืนของเราใน 10 จาก 12 หมวดกลยุทธ์ โครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนของเรามีแรงผลักดันและกำลังเปลี่ยนแปลงที่เป็นรากฐานธุรกิจของเรา”

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ที่ให้บริการในอุตสาหกรรมเคมี วัสดุปูพื้น สิ่งทอ และการดูแลสุขภาพ ผู้ร่วมงานของบริษัท Milliken จะตรวจสอบและรายงานความก้าวหน้าของบริษัทเป็นประจำทุกปี และการค้นพบของพวกเขาได้กำหนดรูปแบบรายงานนี้ขึ้นมา การจัดให้อยู่แนวเดียวกันเสร็จสมบูรณ์ตามกรอบงานของ Global Reporting Initiative และ Together for Tomorrow พร้อมให้บริการแก่สาธารณะในรูปแบบประสบการณ์ดิจิทัลพร้อมเนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้

ในปี 2563 บริษัท Milliken มีความคืบหน้าที่สำคัญในเป้าหมายของโลก ผลิตภัณฑ์และผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

  • เพิ่มความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมเข้าด้วยกันเมื่อเผชิญกับความไม่สงบในสังคม;
  • มุ่งเน้นการพัฒนาและกระบวนการผลิตเพื่อช่วยต่อสู้กับ COVID-19 โดยการผลิตชุดคลุมทางการแพทย์ หน้ากากป้องกันใบหน้า และวัสดุปูพื้นซึ่งช่วยในการแยกทางสังคม
  • จัดลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็น โดยการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเป็นอันดับแรกในระหว่างการระบาด
  • สนับสนุนการอภิปรายเกี่ยวกับการใช้หมุนเวียนของพลาสติกโดยการประชุมผ่านผู้นำทางความคิดโดยมีเป้าหมายเพื่ออธิบายโซลูชันระบบนิเวศที่ใช้งานได้ซึ่งจัดทำโดย National Geographic Creative Works;
  • ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดถ่านหินที่เป็นแหล่งเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดของเสีย
  • การเข้าซื้อบริษัท Borchers – การเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันของบริษัท Milliken ซึ่งจะปรับขนาดแพลตฟอร์มสารเคลือบผิวของบริษัทในลักษณะที่ช่วยลดตัวทำละลายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ
  • เปิดตัว Milliken Leadership Model ซึ่งจะฝึกอบรมผู้ร่วมงานเกี่ยวกับความเป็นผู้นำที่เติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมาย

หากต้องการเยี่ยมชมอุปกรณ์อินเตอร์แอกทีฟฮับและรับชมรายงานฉบับสมบูรณ์คลิกที่นี่

เกี่ยวกับบริษัท Milliken

บริษัท Milliken & Company ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัสดุศาสตร์ ตระหนักดีว่าโมเลกุลเดี่ยวมีศักยภาพที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ด้วยโซลูชั่นที่มีความสร้างสรรค์ในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ บริษัท Milliken ตอบโจทย์ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกโดยสถาบัน Ethisphere ติดต่อกันถึง 15 ปี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและชุมชน โดยมีผู้ร่วมงานกว่าแปดพันคนใน 46 แห่งทั่วโลก โดยเบื้องหลังการชุมนุมที่มีจุดประสงค์ร่วมกัน: เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของบริษัท Milliken ได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210422005332/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Liz Morris
liz@edit-grp.com
864.918.5196

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MegazoneCloud และ Hyundai Motor Company เปิดตัวแพลตฟอร์มบริการสื่อใหม่บนคลาวด์เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ให้กับลูกค้าทั่วโลก

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–8 มีนาคม 2564

MegazoneCloud ผู้ให้บริการจัดการระบบคลาวด์ชั้นนำซึ่งตั้งอยู่ในเกาหลีใต้ประกาศความร่วมมือกับ Hyundai Motor Company (KRX: 005380) เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มบริการสื่อใหม่ ‘Channel Hyundai’ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าแบบดิจิทัลและช่องทางการสื่อสารท่ามกลางการระบาดทั่วโลก

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา Hyundai Motor Company ได้เปิดตัว Channel Hyundai ซึ่งเป็นแอปอินเทอร์แอกทีฟสำหรับสมาร์ททีวีที่มีเนื้อหามัลติมีเดีย ช่วยให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์ผ่านอินเทอร์เฟซดิจิทัล แอปนี้มีด้วยกันสามหมวดหมู่ – รายการสด ทีวี และโมเดลพร้อมทั้งคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต Channel Hyundai ได้ให้บริการถ่ายทอดสดสำหรับรอบปฐมทัศน์โลกของ 2021 All-New Hyundai Tucson และการเปิดตัว XCIENT Fuel Cell ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่รุ่นแรกของโลกที่ได้รับการผลิตจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ด้วยช่องทางนี้ Hyundai Motor จะสามารถส่งมอบ branded video content คุณภาพสูงหลายร้อยรายการที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้าทั่วโลก

ตั้งแต่เริ่มต้น Hyundai Motor ได้ออกแบบ Channel Hyundai เหมือนสถาปัตยกรรมที่ปรับให้เหมาะสมกับระบบคลาวด์และเคลื่อนย้ายออกจากแพลตฟอร์มสื่อ legacy โดยร่วมมือกับ MegazoneCloud ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการทั้งบนระบบคลาวด์และสื่อดิจิทัล ซึ่งทั้งสองทีมช่วยลดเวลาในการทำตลาดลงอย่างมากและส่งมอบบริการมัลติ-แพลตฟอร์มที่สามารถสตรีมเนื้อหาแบบไดนามิกไปยังผู้ชมทั่วโลกที่ได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

 “Channel Hyundai ได้รับการออกแบบบนระบบคลาวด์เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นและสมจริงของยานพาหนะและเนื้อหาของเราให้กับลูกค้าทั่วโลก MegazoneCloud ช่วยให้เราสร้างแพลตฟอร์มนี้ได้สำเร็จตั้งแต่การออกแบบเริ่มต้นไปจนถึงการนำไปใช้งาน” ตัวแทนของ Hyundai Motor กล่าว

 “ธุรกิจทั่วโลกถูกขอให้ใช้บริการวิดีโอเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าในด้านการขาย การตลาด การฝึกอบรม และหลาย ๆ ด้านของการดำเนินธุรกิจ”  Willy Cho ประธานบริหารของ MegazoneCloud กล่าว “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วย Hyundai Motor Company ในการเปิดตัวแพลตฟอร์มบริการวิดีโอสตรีมมิ่งทั่วโลกบน AWS ด้วยไทม์ไลน์ในการเปิดตัวบริการที่ลดลงอย่างมากและเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าทั่วโลก”

MegazoneCloud กำลังเร่งขยายตัวสู่ตลาดเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเวียดนาม โดยได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จล่าสุดในการระดมแหล่งเงินทุน Series B มูลค่า 122 ล้านดอลลาร์ บริษัทเป็นผู้ให้บริการให้คำปรึกษาด้านสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มการจัดการวิดีโอบนคลาวด์ CloudPlex Media เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าดิจิทัลใหม่ ๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19

เกี่ยวกับ MegazoneCloud

MegazoneCloud ตั้งอยูในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้เริ่มต้นธุรกิจในฮ่องกง MegazoneCloud เพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้าด้วยเทคโนโลยีคลาวด์-ออพติไมซ์ ผู้คน และกระบวนการ โดยการให้บริการให้คำปรึกษาและโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับการปรับใช้ระบบคลาวด์ของธุรกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยอาศัยความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับ Amazon Web Services (AWS) และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีระดับโลกกว่า 100 ราย ด้วยเคสการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่การย้ายระบบคลาวด์อย่างง่ายไปจนถึงโปรเจคแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนที่สุด MegazoneCloud ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 3,000 ราย ตั้งแต่บริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ อย่างเช่น Samsung LG และ Lotte Group ยิ่งไปกว่านั้นความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคในเชิงลึกและประสบการณ์ในการทำงานกับลูกค้าในขนาดและอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันได้พิสูจน์ให้เห็นว่า MegazoneCloud เป็นพันธมิตรที่ปรึกษาชั้นนำของ AWS ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก นอกเหนือจากประเทศเกาหลี MegazoneCloud กำลังขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกใน พาโล อัลโต โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ฮานอย และฮ่องกง หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ www.megazone.com/us/

ติดต่อสื่อ:
MegazoneCloud
Won Joo Park
cloud@megazone.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company แต่งตั้ง Cindy Boiter เป็นรองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมี

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2564

Milliken & Company มีความยินดีที่จะประกาศว่า Cindy Boiter ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมีของ Milliken ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป เธอจะก้าวเข้าสู่บทบาทที่ David Moody ดำรงอยู่ในปัจจุบันในขณะที่เขาเปลี่ยนไปรับบทบาทภายนอกของ Milliken

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210304005823/en/

Cindy Boiter, newly announced executive vice president and president of Milliken's Chemical Division (Photo: Business Wire)

Cindy Boiter รองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมีของ Milliken ที่เพิ่งประกาศใหม่ (ภาพ: Business Wire)

 “เป็นการแต่งตั้งที่น่าตื่นเต้นสำหรับบริษัทของเรา เนื่องจาก Cindy จะกลายเป็นประธานฝ่ายหญิงคนแรกของ Milliken” Halsey Cook ประธานและประธานบริหารของ Milliken กล่าว “เธอมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครในการเป็นผู้นำฝ่ายเคมีของเรา และต้องขอขอบคุณเธอด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการเข้าซื้อกิจการที่เธอทำสำเร็จและเธอเป็นภาพรวมในเป้าหมายของ Milliken”

Boiter ได้เข้าร่วมงานกับฝ่ายเคมีของ Milliken ในปี 2555 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของฝ่าย ซึ่งเธอมีบทบาทสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2561 เธอได้เปลี่ยนไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Milliken ซึ่งเธอเป็นผู้นำการริเริ่มการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทของปี 2568 และดูแลการเข้าซื้อกิจการที่สำคัญสองครั้ง Boiter เป็นผู้รับรางวัล Milliken Honors Award for Diversity and Inclusion และเป็นพันธมิตรที่กระตือรือร้นกับผู้ร่วมงานทั่วโลก

 “เราอยากจะใช้เวลาสักครู่เพื่อขอขอบคุณ David Moody สำหรับ 33 ปีของการทำงานที่ Milliken และขอแสดงความปรารถนาดีให้กับเขาในการก้าวไปสู่ขั้นต่อไปในอาชีพการงาน” Cook กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัสดุศาสตร์ ตระหนักดีว่าโมเลกุลเดี่ยวมีศักยภาพที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ด้วยโซลูชั่นที่มีความสร้างสรรค์ในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุที่ใช้ปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ Milliken ตอบโจทย์ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกโดยสถาบัน Ethisphere ติดต่อกันถึง 15 ปี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและชุมชน โดยมีผู้ร่วมงานกว่าแปดพันคนใน 46 แห่งทั่วโลก โดยเบื้องหลังการชุมนุมที่มีจุดประสงค์ร่วมกัน: เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของ Milliken ได้ที่ milliken.com and on FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210304005823/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Liz Morris
liz@edit-grp.com
864.918.5196

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย