โซล เกาหลีใต้–(บิสิเนสไวร์)–08 ก.พ. 2565
โซล, เกาหลีใต้ — Betalabs (CEO Kim Ho-gwang) ผู้ดำเนินการ Cy Club ได้ยื่นขอ 'คำสั่งห้ามชั่วคราว ได้แก่ การห้ามขัดขวางการทำธุรกิจ เช่น การออกสกุลเงินดิจิทัล' กับสามบริษัท ซึ่งรวมถึง Cyworld Z ในวันที่ 4 ทางอุตสาหกรรมและนักลงทุนกำลังสังเกตภูมิหลังของการมีส่วนร่วมของบริษัทกฎหมาย Kim & Chang ในฐานะตัวแทนทางกฎหมายของ Betalabs
การยื่นขอคำสั่งห้ามโดย Betalabs ต่อศาลกลางกรุงโซลเป็นคำขอเพื่อรับรองสถานะการผูกขาดของ Betalabs ในการดำเนินงานโดยรวมของ Cyworld ซึ่งรวมถึงการออกเหรียญ การรีแบรนด์ การใช้โลโก้ การเชื่อมโยงแพลตฟอร์ม และการใช้ทรัพยากรเนื้อหา นอกจากนี้ยังมีคำขอให้ระงับโครงการบล็อคเชนที่ Cyworld Z กำลังส่งเสริมกับบริษัทอื่นๆ เช่น Conun Korea เนื่องจากไม่มีสิทธิทางกฎหมาย
เมื่อเร็วๆ นี้ Cyworld Z ไล่ CEO Hogwang Kim ของจากตำแหน่งและแจ้ง Betalabs เพื่อยุติสัญญา ทั้งนี้ Betalabs ได้ตอบโต้ว่า Cyworld Z กำลังละเมิดกฎหมายโดยนำเสนอบันทึกความเข้าใจเมื่อวันที่ 16 มีนาคมของปีที่แล้วและข้อตกลงในการออกเหรียญในวันที่ 14 เมษายน Betalabs อ้างว่าสถานะพิเศษของ Betalabs ระบุไว้ในเอกสารทั้งสองฉบับและการแจ้งการบอกเลิกสัญญาไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย หากศาลยอมรับคำเสนอของ Betalabs อุตสาหกรรมจะเชื่อว่า Cyworld Z อาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ
เมื่อ 'Kim & Chang' ขึ้นศาลในนามของ Betalabs หมู่คนในวงการได้ลือกันว่า 'Kim & Chang' น่าจะรับคดีนี้ขึ้นเพราะมีพื้นฐานทางกฎหมายและคาดว่าจะได้รับชัยชนะ ฝ่าย 'Kim & Chang' กล่าวว่า “เราต้องรอคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับผลการขอคำสั่งห้าม” แต่ยังกล่าวอีกว่า “หลังจากใช้เวลาพอสมควรในการตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว เราจึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Kim & Chang ยอมรับข้ออ้างทางกฎหมายของ Betalabs
ด้วยผู้ใช้และนักลงทุนจำนวนมากที่รอคอยให้ Cyworld เปิด ความสนใจของอุตสาหกรรมจึงมุ่งเน้นไปที่ว่าคำตัดสินของศาลจะเปิดทางไปสู่การฟื้นฟูธุรกิจหรือไม่
อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005996/en/
ติดต่อ:
Betalabs
Kim Ho-gwang CEO
+82-70-7772-1107
ceo@Betalabs.kr
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย