Tag Archives: 2025

Xsolla ร่วมมือกับ Day of the Devs ในปี 2025 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเกมใหม่และการเปิดตัวในงานสำคัญต่างๆ

Logo

Day Of The Devs ที่ขับเคลื่อนโดย Xsolla จะเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์และนำโอกาสมาสู่เหล่านักพัฒนาเกมทุกประเภท ทุกภูมิหลัง และสถานที่

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–13 กุมภาพันธ์ 2025

Xsolla บริษัทจำหน่ายวิดีโอเกมชั้นนำระดับโลก ประกาศการเป็นผู้สนับสนุนหลักประจำปี 2025 ให้กับ Day of the Devs ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และความมหัศจรรย์ของวิดีโอเกม การประกาศครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Xsolla ที่จะส่งเสริมนักพัฒนาเกมและนำโอกาสมารวมกันสำหรับผู้มีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาจากทั่วโลก

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

Berkley Egenes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการเติบโตกล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรและความร่วมมือครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงภารกิจอย่างต่อเนื่องของเราในการเสริมพลังให้กับนักพัฒนาและทำให้เกมที่ยอดเยี่ยมสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากที่ไหนก็ตาม” และกล่าวเสริมอีกว่า “Day of the Devs ที่ขับเคลื่อนโดย Xsolla ได้มอบแพลตฟอร์มที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อสนับสนุนความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย และสร้างช่องทางในการนำโอกาสมารวมกันสำหรับนักพัฒนา และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่มนี้”

Day of the Devs ที่ขับเคลื่อนโดย Xsolla จะรวมกิจกรรมและโอกาสต่างๆ ที่น่าทึ่งสำหรับนักพัฒนาวิดีโอเกมในการนำเสนอเกมใหม่ของพวกเขา และเชื่อมต่อกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อช่วยพวกเขาสร้างธุรกิจเกมของพวกเขา ซึ่งจะเริ่มต้นในปี 2025 โดย Day of the Devs: San Francisco Edition จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2025 ที่ The Midway ในซานฟรานซิสโก โดยจะนำแฟนเกมอินดี้และนักพัฒนาหลายพันคนมารวมตัวกันเพื่อเล่นเกมที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน สามารถดูได้ที่หน้า Eventbrite ที่นี่

เพื่อเฉลิมฉลองอย่างต่อเนื่อง Day of the Devs: GDC Edition จะนำเสนอเกมที่ได้รับการคัดสรรจาก San Francisco Edition ที่ Moscone Center ในระหว่างการประชุม Game Developers Conference (GDC) 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ถึง 21 มีนาคม บนชั้น 3 ของ Moscone West โดยผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจเกมที่ยังไม่เผยแพร่เหล่านี้ได้ในช่วงเวลาปกติ ในขณะที่บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ ในช่วง GDC Nights ทุกเย็นวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 18.30 น. ถึง 22.00 น. ตามเวลาแปซิฟิก นอกจากนี้ Xsolla จะเป็นเจ้าภาพในการจัดเลานจ์บนชั้น 1 ของ Moscone West เพื่อรองรับชุมชน และจัดเตรียมพื้นที่สำหรับนักพัฒนาในการทำงานร่วมกับทีม Xsolla

Day of the Devs ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ได้เฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และความมหัศจรรย์ของวิดีโอเกมมาเป็นเวลากว่า 13 ปี โดยได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมงานกิจกรรมจริงหลายพันคน เข้าถึงผู้เข้าร่วมงานหลายล้านคนผ่านการแสดงเสมือนจริง และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเกมและนักพัฒนาหลายร้อยเกม

“งานนี้ได้รวบรวมจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์และชุมชนที่จะช่วยกำหนดเกมอินดี้” กล่าวโดย Greg Rice หัวหน้าภัณฑารักษ์ของ Day of the Devs “ต้องขอบคุณพันธมิตรอย่าง Xsolla ที่ทำให้เราสามารถจัดกิจกรรมเหล่านี้ต่อไปได้ฟรีและเข้าถึงได้ ช่วยให้ผู้คนนับพันได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของเกมและพรสวรรค์ที่อยู่เบื้องหลังเกมเหล่านี้”

ด้วยการสนับสนุนนี้ Xsolla จะมีส่วนร่วมกับนักพัฒนาเกมหลายร้อยรายเพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มของพวกเขา และนำโอกาสต่างๆ มารวมกันเพื่อแก้ไขปัญหาและความท้าทายที่ต้องเผชิญในการจัดหาเงินทุน การจัดจำหน่าย รวมถึงการสร้างรายได้ การสนับสนุนหลักนี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Xsolla ในการสนับสนุนนักพัฒนาเกมเพื่อมอบโอกาสและการเชื่อมโยงที่เท่าเทียมกันให้กับเกมใดๆ ก็ตาม โดยไม่ได้คำนึงถึงขนาด สถานที่ ประเภท หรือแพลตฟอร์มเลย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.blog/dotdgdc

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 โดย Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ในการระดมทุนทุกระดับ การตลาด การเปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

เกี่ยวกับ Day of the Devs

Day of the Devs เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีภารกิจในการเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และความมหัศจรรย์ของวิดีโอเกม โดย Day of the Devs ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถที่ไม่ได้เป็นรู้จักด้วยแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้เล่นกับผู้พัฒนาและเกมของพวกเขา ซึ่ง Day of the Devs ได้จัดขึ้นในรูปแบบของกิจกรรมเสมือนจริงและทางกายภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับนักพัฒนาหรือผู้เข้าร่วม โดยในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา Day of the Devs ได้สร้างความโดดเด่นให้กับเกมหลายร้อยเกม เป็นเจ้าภาพในการจัดงานแบบพบปะผู้คนหลายหมื่นคน และเข้าถึงผู้ชมหลายล้านคนผ่านการนำเสนอผลงานเสมือนจริง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ dayofthedevs.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54205220/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Symphony of Sparkles: งาน HKTDC Twin Jewellery มีกำหนดเปิดในเดือนมีนาคม 2025

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–28 มกราคม 2025

จัดโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) โดยงาน HKTDC Hong Kong International Jewellery Show ครั้งที่ 41 และงาน HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show ครั้งที่ 11 จะกลับมาอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2025 ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) และ AsiaWorld-Expo ตามลำดับ ภายใต้ธีม Symphony of Sparkles งาน Twin Jewellery Shows นี้คาดว่าจะดึงดูดผู้แสดงสินค้าได้มากกว่า 4,000 รายทั่วโลก โดยจัดแสดงเครื่องประดับสำเร็จรูป พลอยร่วง และวัตถุดิบ

Hong Kong International Jewellery Show and Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show (Photo: Business Wire)

งาน Hong Kong International Jewellery Show และ Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show (ภาพ: Business Wire)

งานจัดแสดง

Click2Match

งาน HKTDC Hong Kong International Jewellery Show

4 – 8 มีนาคม 2025

ที่ HKCEC

23 กุมภาพันธ์ ถึง 13 มีนาคม 2025

งาน HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem and Pearl Show

2 – 6 มีนาคม 2025

ที่ AsiaWorld-Expo

งาน Hong Kong International Jewellery Show จะมีโซนธีมต่างๆ รวมถึง Hall of Extraordinary และ Hall of Fame Hall of Extraordinary จะจัดแสดงคอลเลคชั่นระดับไฮเอนด์ที่ประดับด้วยเพชร อัญมณีล้ำค่า หยก และไข่มุกจากผู้แสดงสินค้าชื่อดังอย่าง Dehres, On Tung และ Lili Jewelry โดยโซน Hall of Fame จะมีการนำแบรนด์ดังระดับนานาชาติมาจัดแสดง อาทิ Giorgio Visconti จากอิตาลี, Lao Feng Xiang จากจีนแผ่นดินใหญ่ และ Cheté จากฮ่องกง

นอกจากโซนที่ได้รับการยกย่องแล้ว ยังมีโซนผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด: Gold Jewellery ที่จะเปิดตัวดีไซน์ที่สร้างสรรค์และงานฝีมือที่ประณีตในชิ้นงานทองคำต่างๆ

ด้วยจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์นี้ Hong Kong Jewellery Design Competition ขอเชิญชวนผู้มีความสามารถด้านการออกแบบมาสำรวจธีม Lasting Brilliance โดยผลงานอันสร้างสรรค์นี้จะสามารถสร้างความหลงใหลและแรงบันดาลใจผ่านความเปล่งประกายและความงดงามที่ก้าวข้ามผ่านกาลเวลา และจะมีพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่งาน International Jewellery Show ซึ่งจะมีการจัดแสดงผลงานที่ชนะรางวัลด้วย

ในขณะเดียวกัน งาน Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show จะมีการนำเสนอการคัดสรรเพชร ไข่มุก และอัญมณีคุณภาพเยี่ยม รวมไปถึงวัตถุดิบสำหรับทำเครื่องประดับจากแหล่งต่างๆ โดยโซน Hall of Fine Diamonds จะนำเสนอเพชรกะรัตขนาดใหญ่ ส่วนโซน Treasures of Nature จะมีการจัดแสดงคอลเลกชั่นอัญมณีอันน่าทึ่งจากทับทิม มรกต และไพลิน และโซน Treasures of Ocean ที่จะดึงดูดใจผู้ซื้อด้วยไข่มุกทะเลธรรมชาติ

งานแสดงดังกล่าวประกอบด้วยโปรแกรมต่างๆ อันครบครัน อาทิ ขบวนพาเหรดอัญมณี สัมมนา ฟอรั่มผู้ซื้อ และกิจกรรมสร้างเครือข่ายที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มทางการตลาดให้กับผู้เล่นต่างๆ ในอุตสาหกรรม

เว็บไซต์สำหรับแอป Marketplace
https://tinyurl.com/2rneaheu

เว็บไซต์ของงาน
HK International Jewellery Show: hkjewelleryshow.hktdc.com
HK International Diamond, Gem & Pearl Show: hkdgp.hktdc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54189770/en

Contacts

การสอบถามสำหรับสื่อ:
แผนกนิทรรศการของ HKTDC:
Ken Tsang
โทร: (852) 2240 4136
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org

ที่มา: Hong Kong Trade Development Council
 

 


Japan Prize ประจำปี 2025: นักวิทยาศาสตร์ 2 คนจากสหรัฐอเมริกาและสเปนได้รับรางวัล พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่โตเกียวในเดือนเมษายน

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 มกราคม 2025

Japan Prize Foundation ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล Japan Prize ประจำปี 2025 ในวันที่ 22 มกราคม 2025 เวลา 13.00 น. โดย Prof. Russell Dean Dupuis (สหรัฐอเมริกา) ได้รับรางวัล Japan Prize ในสาขาวัสดุศาสตร์และการผลิตและ Prof. Carlos M. Duarte (สเปน) ได้รับรางวัล Japan Prize ในสาขาการผลิตทางชีวภาพ นิเวศวิทยา/สิ่งแวดล้อม

สำหรับรางวัล Japan Prize ประจำปีนี้ Prof. Dupuis ได้รับการยกย่องจากผลงานที่โดดเด่นในการพัฒนาเทคโนโลยีการตกสะสมไอสารเคมีโลหะอินทรีย์สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และออปโตอิเล็กทรอนิกส์แบบเซมิคอนดักเตอร์แบบผสม และการมีส่วนบุกเบิกในการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง และ Prof. Duarte ได้รับการยกย่องจากผลงานในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเลในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการวิจัยบุกเบิกเกี่ยวกับ Blue Carbon

สำหรับรางวัล Japan Prize ประจำปี 2025 ทางมูลนิธิได้ขอให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีชื่อเสียงประมาณ 15,500 คนจากทั่วโลกเสนอชื่อนักวิจัยที่ทำงานในสาขาต่างๆ ของปีนี้ เราได้รับการเสนอชื่อ 149 คนสำหรับสาขาวัสดุศาสตร์และการผลิต และ 72 คนสำหรับสาขาการผลิตทางชีวภาพ นิเวศวิทยา/สิ่งแวดล้อม ผู้ชนะในปีนี้ได้รับการคัดเลือกจากผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด 221 คน

เกี่ยวกับ Japan Prize

การจัดตั้ง Japan Prize ในปี 1981 ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อสร้างรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนการบริจาคจำนวนมาก Japan Prize Foundation ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 1983

Japan Prize เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์และน่าทึ่ง ซึ่งช่วยในการพัฒนาสาขาของตัวเอง และมีส่วนสำคัญในการตระหนักถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับมวลมนุษยชาติ นักวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกแขนงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล โดยจะมีการคัดเลือกสองสาขาในแต่ละปี โดยคำนึงถึงแนวโน้มปัจจุบันในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยหลักการแล้ว จะมีการคัดเลือกนักวิจัยหนึ่งคนจากแต่ละสาขา และได้รับใบรับรอง เหรียญรางวัล และรางวัลเงินสด พิธีมอบรางวัลแต่ละครั้งจะมีจักรพรรดิและจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลทั้งสามสาขา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และตัวแทนจากองค์กรอื่นๆ ทางสังคมเข้าร่วม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

The Japan Prize Public Relations Office
japanprize@ml.prap.co.jp

ที่มา: The Japan Prize Foundation

Saudi Sports for All Federation เตรียมเปิดตัวกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่รวม SFA Expo และ Riyadh Marathon เข้าด้วยกัน

Logo

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–27 มกราคม 2025

Saudi Sports for All Federation (SFA) ) ได้ประกาศโครงการริเริ่มใหม่ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2025 โดยจะรวมกิจกรรมสำคัญ 2 รายการเข้าด้วยกัน คือ SFA Expo และ Riyadh Marathon โดยโครงการริเริ่มนี้สอดคล้องกับพันธกิจของ SFA ในการสร้างแรงบันดาลใจให้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนผ่านการออกกำลังกาย

งาน SFA Expo ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ JAX District จะมีโซนอินเทอร์แอคทีฟที่เน้นเรื่องสุขภาพ ฟิตเนส และความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งรวมถึงพื้นที่สำหรับกีฬาสำหรับเด็ก กิจกรรมทางกาย เรื่องราวความสำเร็จของนักกีฬา เทคโนโลยีฟิตเนส และการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ที่โซนมาราธอนจะมีการจัดจำหน่ายชุดแข่งขันและกิจกรรมก่อนการแข่งขัน โดย SFA Expo ครั้งแรกนั้นสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 12,000 ราย ผู้แสดงสินค้า 58 ราย สหพันธ์ซาอุดีอาระเบีย 13 แห่ง และวิทยากร 60 ราย

Riyadh Marathon ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2025 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ มาราธอนเต็มรูปแบบ 42 กม., ฮาล์ฟมาราธอน 21 กม., การแข่งขันวิ่งระยะทาง 10 กม. และการแข่งขันวิ่งสำหรับครอบครัว 4 กม. โดยมีเส้นทางที่เน้นที่สถานที่สำคัญของริยาด โดยในงานปีที่แล้วสามารถดึงดูดนักวิ่งกว่า 20,000 คนจาก 125 ประเทศ โดยมีชาวซาอุดีอาระเบียคิดเป็น 58% สำหรับงานในปี 2025 นี้มีเป้าหมายที่จะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจำนวน 40,000 ราย

ทั้งสองงานได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนหลัก Saudi Awwal Bank (SAB) ซึ่งกลับมาเป็นพันธมิตรจัดงาน Riyadh Marathon อีกครั้ง สำหรับพันธมิตรทางยุทธศาสตร์สำหรับทั้งสองงาน คือ ASICS และ Tawuniya

เจ้าชาย Khaled bin Alwaleed bin Talal Al Saud ประธาน SFA กล่าวว่า “การเปิดตัวงานของ Saudi Sports for All Federation ซึ่งรวมเอา SFA Expo และ Riyadh Marathon 2025 เข้าด้วยกัน ถือเป็นก้าวสำคัญในพันธกิจของเราในการทำให้การออกกำลังกายเป็น รากฐานที่สำคัญของชีวิตประจำวันในราชอาณาจักร เราจะไม่เพียงแค่เฉลิมฉลองความเป็นเลิศทางด้านกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำหรับชุมชนของเราในการเปิดโลกกีฬาใหม่ๆ และเปิดรับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น”

Ms. Shaima Saleh Al-Husseini กรรมการผู้จัดการของ SFA กล่าวว่า “การนำกิจกรรมของเรามารวมกันในงานเดียวกันจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬาชั้นยอด ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกาย หรือเพียงผู้ที่ต้องการมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โครงการริเริ่มนี้จะมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับทุกๆ คน”

กิจกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบียปี 2030 ที่ส่งเสริมการออกกำลังกายให้เป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างทางสังคมของซาอุดีอาระเบีย Riyadh Marathon ถือเป็นการแข่งขันประเภท “World Athletics Elite Label Road Race” อันทรงเกียรติ

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ เส้นทางวิ่งมาราธอน และผู้สนับสนุนจะประกาศให้ทราบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เกี่ยวกับ (SFA)

Saudi Sports for All Federation (SFA) เป็นองค์กรด้านกีฬาและสุขภาพชุมชนเชิงรุกที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกในสังคมได้ออกกำลังกาย SFA ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ หน่วยงานด้านกีฬา และภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มกิจกรรมทางกายและตัวชี้วัดด้านสุขภาพทั่วประเทศ โดย SFA ได้ขับเคลื่อนความสำคัญเชิงกลยุทธ์สี่ประการ ประกอบด้วย การศึกษา ชุมชนและอาสาสมัคร ฟิตเนสและความเป็นอยู่ที่ดี และการรณรงค์และการส่งเสริมการขาย ในการออกแบบโปรแกรมกีฬาสันทนาการที่เหมาะกับผู้หญิง ผู้ชาย เยาวชน และคนพิการ

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

Malek Abdelrahman, +966544426364
mabdelrahman@apcoworldwide.com

ที่มา: Saudi Sports for All Federation

Korea Grand Sale 2025 เทศกาลช้อปปิ้ง วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

Logo

  •  สิทธิพิเศษเฉพาะวันที่ 15 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์เท่านั้น

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–24 มกราคม 2025

Korea Grand Saleงานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการวาดภาพ “(Your) Colourful Stories in Korea” พร้อมแล้วในวันที่ 15 มกราคม 2025

The Korea Grand Sale 2025 runs from January 15 to February 28 offering benefits and discounts across various areas, including flights, shopping, cultural experiences, and more.  (image: Visit Korea Committee)

งาน Korea Grand Sale 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ โดยมีสิทธิประโยชน์และส่วนลดต่างๆ มากมายในหลากหลายด้าน อาทิ เที่ยวบิน การช้อปปิ้ง ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม และอื่นๆ อีกมากมาย (ภาพ: คณะกรรมการเยี่ยมชมประเทศเกาหลี)

เทศกาลพิเศษนี้มอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมายสำหรับเที่ยวบิน การช้อปปิ้ง และการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมให้กับทุกคนที่วางแผนจะไปเที่ยวที่เกาหลี นอกจากสิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมายแล้ว Korea Grand Sale ยังมอบความสะดวกสบายต่างๆ อีกมากมาย เช่น การชำระเงินที่ง่ายดาย การแลกเปลี่ยนเงินตรา การช้อปปิ้งปลอดภาษี การขนส่ง และการจัดเก็บสัมภาระ เพื่อให้การช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวในเกาหลีง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

เพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ที่มีเฉพาะในเกาหลีช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ด้วยโปรแกรมต่างๆ ที่ได้รับการคัดสรรมาโดยเฉพาะสำหรับงาน Korea Grand Sale

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54184904/en

Contacts

ข้อมูลติดต่อ
Visit Korea Committee
Saeram Zeong
zeongs@smtown.com

ที่มา: Visit Korea Committee

 

 

รายงาน Thoughtworks Looking Glass เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำ AI มาใช้ในเฟสต่อไปในปี 2025

Logo

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2025

Thoughtworks บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ผสานกลยุทธ์การออกแบบและวิศวกรรม เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล ได้เผยแพร่รายงาน Looking Glass ล่าสุดฉบับที่ 5 เพื่อแนะแนวทางให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม และค้นหาโอกาสใหม่ๆ โดยมี 5 มุมมองสำคัญที่วิเคราะห์เทรนด์เทคโนโลยี พร้อมชี้โอกาสสำคัญทางธุรกิจและคำแนะนำที่สามารถปรับใช้ได้จริง

“รายงาน Looking Glass  ฉบับปี 2024 ได้ชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ทั่วไปของ AI ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากมาตลอดทั้งปี ในรายงานฉบับนี้ เรามีการนำเสนอความท้าทายที่แท้จริง – ซึ่งอาจถูกมองข้ามบ่อยครั้ง – ของการนำ AI มาใช้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ” Rachel Laycock ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ  Thoughtworks กล่าวว่า “ในขณะที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมอย่างมาก การปรับปรุงแพลตฟอร์มข้อมูลให้ทันสมัย และการใช้ประโยชน์จากแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้มาซึ่งมูลค่าระยะยาวที่แท้จริงจากการนำ AI ไปใช้งาน จึงมีความเร่งด่วนมากขึ้น”

5 มุมมองสำคัญในรายงาน Looking Glass ประจำปี 2025 ประกอบด้วย:

  •  การนำ AI มาใช้ในปฏิบัติการเพื่อสร้างผลกระทบทางธุรกิจ แม้ว่ากระแสการนำ AI มาใช้ในปฏิบัติการ และโดยเฉพาะ GenAI จะไม่ชะลอตัวลง แต่สิ่งที่ชัดเจนขึ้นก็คือ การนำโมเดล AI ไปใช้งานจริงในกระบวนการการผลิตยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย
  •  เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่มูลค่าข้อมูลโดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มข้อมูลและ AI แนวคิดที่ว่าข้อมูลคือแกนสำคัญของธุรกิจเป็นความจริงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สิ่งที่ยังต้องปรับปรุงคือการสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อให้ห่วงโซ่มูลค่าข้อมูลนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  •  แนวคิดใหม่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบในยุคของ GenAI ในขณะที่โลกมองหาหนทางที่จะนำ AI มาใช้ในเชิงปฏิบัติการ การคิดถึงผลที่ตามมาของเทคโนโลยีดังกล่าว และคำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงและความรับผิดชอบจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหมายความว่าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีความรับผิดชอบควรถูกผลักดันให้เป็นวาระเร่งด่วน
  •  เน้นการสร้างประสบการณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นผ่านการโต้ตอบหลายโหมด วิธีที่มนุษย์สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์และบริการได้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ด้วยนวัตกรรมด้าน AI อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องพิจารณาการสร้างการโต้ตอบแบบหลายโหมดที่เฉพาะเจาะจงกับบริบท
  •  เพิ่มมูลค่าจากการผสมผสาน ประสบการณ์จากโลกจริงและโลกดิจิทัล: การผสมผสานประสบการณ์ระหว่างกายภาพที่จับต้องได้และช่องทางดิจิทัลแทบจะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน ตั้งแต่ตู้เย็นอัจฉริยะจนถึงอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคสวมใส่ ในความเป็นจริง การผสมผสานระหว่าง 2 โลกจริงนี้มีศักยภาพอย่างมากต่อแนวทางการพัฒนาธุรกิจด้านการขนส่ง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการบำรุงรักษา

Thoughtworks ทำการอัปเดทรายงาน Looking Glass ประจำทุกปีเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและประโยชน์ทางธุรกิจ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจและอุตสาหกรรมได้ที่ thoughtworks.com/insights/business

ข้อมูลอ้างอิง:

–  ### –

เกี่ยวกับ Thoughtworks
Thoughtworks คือบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ผสานรวมกลยุทธ์ การออกแบบ และวิศวกรรมเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัล เรามีพนักงานมากกว่า 10,000 คนในสำนักงาน 48 แห่งใน 19 ประเทศ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่เราได้ร่วมมือกับลูกค้าแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อนโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อสร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใคร

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

มีเดีย:
Linda Horiuchi, global head of public relations
อีเมล: linda.horiuchi@thoughtworks.com
โทรศัพท์: +1 (646) 581-2568

ที่มา: Thoughtworks

GIGABYTE สาธิตความสามารถของ Omni-AI ในงาน CES 2025: โซลูชั่นการประมวลผลที่ครอบคลุมจากคลาวด์ไป Edge

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–07 มกราคม 2025

GIGABYTE Technology เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในระดับสากลในด้านความสามารถในการวิจัยและพัฒนารวมถึงเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านเซิร์ฟเวอร์และโซลูชันศูนย์ข้อมูล และยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในช่วงวิกฤตของความก้าวหน้าด้าน AI และการประมวลผล ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI ที่ครอบคลุม GIGABYTE จะจัดแสดงโซลูชันการประมวลผล AI ครบวงจรที่งาน CES 2025 ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลไปจนถึงแอปพลิเคชัน IoT และการประมวลผลส่วนบุคคล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสายผลิตภัณฑ์ที่กว้างขวางนี้ได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในทุกภาคส่วนในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ได้อย่างไร

GIGABYTE Demonstrates Omni-AI Capabilities at CES 2025: Comprehensive Computing Solutions from Cloud to Edge (Photo: Business Wire)

GIGABYTE สาธิตความสามารถของ Omni-AI ในงาน CES 2025: โซลูชั่นการประมวลผลที่ครอบคลุมจากคลาวด์ไป Edge (รูปภาพ: Business Wire)

ขับเคลื่อน AI จากคลาวด์

ด้วย AI Large Language Models (LLM) ในตอนนี้จะมีการใช้พารามิเตอร์ตั้งแต่หลายร้อยพันล้านถึงล้านล้านพารามิเตอร์อยู่เป็นประจำ ดังนั้นสภาพแวดล้อมการเทรนที่แข็งแกร่ง (ศูนย์ข้อมูล) จึงกลายเป็นข้อกำหนดที่สำคัญในการแข่งขันด้าน AI โดย GIGABYTE ได้นำเสนอโซลูชั่นที่โดดเด่นสามประการสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI:

 1. เซิร์ฟเวอร์ AI Super

 ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้นำในอุตสาหกรรม GIGABYTE ได้เป็นผู้นำในการนำเสนอความหลากหลายสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เซิร์ฟเวอร์ AI โซลูชั่นสู่ตลาด ในงาน CES 2025 บริษัทจะจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี AMD Instinct™ รุ่นล่าสุด MI300 series, Intel® Gaudi® 3ตัวเร่งความเร็ว AI และ NVIDIA HGX™ โดยแต่ละโมดูลได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยการเชื่อมต่อความเร็วสูงและหน่วยความจำแคชสำหรับความต้องการการประมวลผลแบบขนาน

 2. เกรดศูนย์ข้อมูล – ระดับแร็ค การประมวลผลแบบคลัสเตอร์

 NVIDIA GB200 NVL72 ที่ล้ำสมัยด้วยสถาปัตยกรรม “rack-as-a-GPU” โดยแต่ละเซิร์ฟเวอร์สามารถรองรับ NVIDIA GB200 Grace™ Blackwell ซุปเปอร์ชิป เชื่อมต่อกับ NVIDIA B200 Tensor Core GPU สองตัวผ่าน NVIDIA NVLINK®-C2C ซึ่งให้ประสิทธิภาพการอนุมาน 30 เท่าของการกำหนดค่า H100 ที่เทียบเท่ากัน โหนดประมวลผล ORv3 ใหม่ช่วยเสริมข้อเสนอนี้ด้วยการเชื่อมต่อ NVLink รวมถึวการระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง ทำให้ได้รับประสิทธิภาพการประมวลผล FP4 ที่ 40 TeraFLOPS ต่อโหนด

 3. โซลูชั่นระบายความร้อนด้วยของเหลวขั้นสูง

นวัตกรรมครบวงจรของ GIGABYTE การระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง ระบบ (DLC) ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับประสิทธิภาพการประมวลผล โดยมีเซิร์ฟเวอร์รวม เพลตเย็น และท่อร่วมเพื่อการจัดการที่ดียิ่งขึ้น เทคโนโลยีนี้ปรับปรุงประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันก็รักษาประสิทธิภาพสูงสุดและความยั่งยืนบนเซิร์ฟเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดของ AMD, Intel และ NVIDIA

AI ที่เหนือกว่าคลาวด์: การประมวลผลแบบ Edge และนวัตกรรมในชีวิตประจำวัน

GIGABYTE ขยายขีดความสามารถของ AI ไปสู่ขอบด้วยมินิพีซีซีรีส์ BRIX รุ่นล่าสุด ซึ่งมีหน่วยประมวลผลนิวรอล (NPU) ในตัว และรองรับบริการ AI ขั้นสูง รวมถึง Microsoft Copilot+ และ Adobe โซลูชันการประมวลผลทางอุตสาหกรรมของบริษัท ซึ่งขับเคลื่อนโดย NVIDIA® Jetson Orin™ ช่วยให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันตั้งแต่ระบบอัตโนมัติที่มีความแม่นยำไปจนถึงหุ่นยนต์อัจฉริยะ

ในภาคยานยนต์ไร้คนขับ GIGABYTE ยังคงก้าวหน้าต่อไปADAS(ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง – Advanced Driver Assistance Systems) และเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีสนับสนุนการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับและระบบขนส่งอัจฉริยะ

AI ในการประมวลผลส่วนบุคคล

GIGABYTE เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ก้าวล้ำในงาน CES 2025 รวมถึงผลิตภัณฑ์ฮีโร่ AI PCที่ใช้คุณสมบัติหลัก: ตัวแทน AI พิเศษของ GIGABYTE “GiMATE” สร้างขึ้นจากเทคโนโลยี LLM ขั้นสูงพร้อมคุณสมบัติ Press and Speak ที่ใช้งานง่าย ช่วยในการควบคุมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ราบรื่นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์ นอกจากกราฟิกการ์ด GeForce RTX ซีรีส์ 50 ที่ขับเคลื่อนโดย NVIDIA® Blackwell และ AI แล้ว ยังอัปเกรดโซลูชันการระบายความร้อนในรุ่นระดับบนได้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน มาเธอร์บอร์ดซีรีส์ AMD B850 และ Intel B860 และจอภาพ OLED ใหม่ล่าสุดจะเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย พร้อมด้วยการอัปเกรดโซลูชันการฝึกอบรม AI ในท้องถิ่นของ AI TOP

ทำทุกอย่างด้วย AI

CES รวบรวมผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อแสดงนวัตกรรมและกำหนดให้ AI เป็นอนาคตของการประมวลผล ในระดับแนวหน้า GIGABYTE เชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลคลาวด์ การประมวลผลแบบ Edge และอุปกรณ์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบนิเวศแบบครบวงจร คำประกาศของประธานและประธาน Dandy Yeh ว่า “GIGABYTE จะทำให้ AI แพร่หลาย” ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของบริษัทในการพัฒนา AI ให้ก้าวหน้า โดย GIGABYTE ยังคงผลักดันขอบเขตของประสิทธิภาพการประมวลผล เพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ เจาะลึกแอปพลิเคชัน AI ในทุกสถานการณ์ และขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้านการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม CES ของ GIGABYTE https://www.gigabyte.com/Events/CES

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54171987/en

Contacts

ข้อมูลผู้ติดต่อด้านสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE Technology


ช้อนเกลือไฟฟ้าจาก Kirin เฉิดฉายใน CES Innovation Awards 2025 และคว้าชัยชนะเป็นครั้งแรกในหมวดเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพและเทคโนโลยีเพื่อความสามารถในการเข้าถึงและผู้สูงวัย!

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 ธันวาคม 2024

Kirin Holdings Company, Limited (Kirin Holdings) (โตเกียว: 2503) คว้ารางวัลในสองหมวดหมู่ ได้แก่ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพและเทคโนโลยีเพื่อความสามารถในการเข้าถึงและผู้สูงวัยจากงาน CES Innovation Awards® 2025 จากผลิตภัณฑ์ใหม่แห่งนวัตกรรมของบริษัทอย่าง “ช้อนเกลือไฟฟ้า” โดยอุปกรณ์รูปร่างเหมือนช้อนทานอาหารที่มีความโดดเด่นนี้เพิ่มรสเค็มและรสอูมามิให้กับอาหารโซเดียมต่ำ ซึ่งมอบโซลูชันสั่นสะเทือนวงการให้กับการทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น โดยความสำเร็จนี้เป็นรางวัลครั้งแรกที่ Kirin Group ได้รับในงาน CES Innovation Awards นอกจากนี้ Kirin Holdings จะมาแสดงสินค้าเป็นครั้งแรกในงาน CES 2025 ด้วย

The CES Innovation Awards 2025 (Graphic: Business Wire)

งาน CES Innovation Awards 2025 (กราฟิก: Business Wire)

  •  เกี่ยวกับ CES®

CES คืองานกิจกรรมประจำปีที่จัดขึ้นทุกเดือนมกราคมในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดแสดงอุปกรณ์และบริการอิเล็กทรอนิกส์ล่าสุด ในฐานะงานแสดงสินค้าทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก งานนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยจัดขึ้นครั้งแรกนานกว่า 50 ปีที่แล้วในปี 1967 งาน CES Innovation Awards ยกย่องผลิตภัณฑ์และบริการที่มีการออกแบบและเทคโนโลยีโดดเด่น โดยงาน CES Innovation Awards 2025 นี้มีผู้ส่งผลิตภัณฑ์และบริการเข้ามามากกว่า 3,400 รายการ ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

หมายเหตุ: รางวัล CES Innovation Awards พิจารณาจากคำบรรยายที่ส่งให้กรรมการผู้ตัดสิน โดยสมาคมเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคหรือ CTA ไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตลอดจนคำกล่าวอ้างของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ส่งเข้ามา และไม่ได้ทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้รับรางวัล

  •  เกี่ยวกับหมวดหมู่รางวัลทั้งสอง

 เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสุขภาพ: หมวดหมู่นี้ไฮไลท์อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและสุขภาวะ รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในการจัดการและวิเคราะห์สุขภาพ การตรวจพบโรค และประสิทธิภาพของการรักษา

 เทคโนโลยีเพื่อความสามารถในการเข้าถึงและผู้สูงวัย: หมวดหมู่นี้ยกย่องผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับความสามารถในการเข้าถึงสำหรับผู้ทุพพลภาพ รวมถึงฟีเจอร์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ที่ส่งเสริมการดำรงชีวิตอย่างอิสระของผู้สูงวัย

  •  เกี่ยวกับช้อนเกลือไฟฟ้า

ช้อนเกลือไฟฟ้าคืออุปกรณ์รูปร่างเหมือนช้อนทานอาหารที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มรสเค็มและรสอูมามิของอาหารโซเดียมต่ำ*1 เช่น ซุปและแกง โดยใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ อุปกรณ์นี้เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024*2 โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับห้องปฏิบัติการมิยาชิตะของศ.โฮเมอิ มิยาชิตะแห่งภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อแนวหน้า คณะวิทยาศาสตร์ทางคณิตศาสตร์แบบสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเมจิ โดยผลิตภัณฑ์นี้มีเทคโนโลยีรูปแบบคลื่นไฟฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์*4 ซึ่งเพิ่มความเค็มให้กับอาหารโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า*3 จากนี้เป็นต้นไป Kirin Holdings มีแผนที่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนกับธุรกิจและรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อขยายการใช้งานและตลาดของผลิตภัณฑ์นี้ รวมถึงสำรวจการนำการใช้งานของผลิตภัณฑ์นี้ไปใช้ในเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารประเภทอื่นๆ และการพัฒนาตัวเลือกอาหารโซเดียมต่ำ

 *1 การประชุม Neurostimulation Interface Research Meeting ครั้งที่ 3 (มีนาคม 2023) “ผลของรูปแบบคลื่นไฟฟ้าควบคุมรสชาติที่เพิ่มความเค็มของอาหารโซเดียมต่ำให้เกิดรสชาติอูมามิ” ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับอาจต่างกันไป และการรับรู้รสอาจต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร
*2 ข่าวประชาสัมพันธ์ของ Kirin Holdings, 20 พฤษภาคม 2024: Kirin Holdings จะเริ่มการจำหน่ายทางออนไลน์ของ “ช้อนเกลือไฟฟ้า” ซึ่งเป็นช้อนที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการเพิ่มรสเค็มและรสอูมามิ ในวันที่ 20 พฤษภาคม
 https://www.kirinholdings.com/en/newsroom/release/2024/0520_01.html
*3 การประเมินความระดับความเค็มระหว่างตัวอย่างที่คล้ายอาหารปกติกับตัวอย่างที่ลดเกลือลง 30%
การทดสอบใช้ตะเกียบติดเทคโนโลยีเกลือไฟฟ้า (ช่วงกระแสไฟฟ้า: 0.1-0.5mA) โดยจากการสำรวจผู้ชายและผู้หญิง 31 คนอายุ 40-65 ปีที่เคยลดการบริโภคเกลือหรือกำลังลดการบริโภคเกลือ ผู้เข้าร่วม 29 จาก 31 คนรายงานว่าความเค็มของอาหารที่ทดสอบเพิ่มขึ้น
 *4 ข่าวประชาสัมพันธ์ของ Kirin Holdings, 11 เมษายน 2022: ครั้งแรกของโลก! งานวิจัยยืนยันว่ามีการเปลี่ยนแปลงการรับรู้รสผ่านการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ซึ่งนำไปสู่การพัฒนา 'ตะเกียบปรับรสชาติ'
 https://www.kirinholdings.com/en/newsroom/release/2022/0411_01.html

  •  ภาพรวมของบูธ

วันที่: 7-10 มกราคม 2025
*จะมีการจัดแสดงบูธในงาน CES Unveiled Las Vegas ในวันที่ 5 มกราคมด้วย
สถานที่: Las Vegas Convention Center, Eureka Park ของ Venetian Expo
บูธช้อนไฟฟ้า: Tech West, Venetian Expo, โถง A-D — 51320 — เทคโนโลยีอาหาร
เว็บไซต์ทางการของ CES: https://www.ces.tech/

  •  คำกล่าวของผู้ชนะรางวัล: คุณไอ ซาโต้, กลุ่มธุรกิจใหม่, แผนกวิทยาศาสตร์สุขภาพ, Kirin Holdings

“ช้อนเกลือไฟฟ้าพัฒนาขึ้นโดยมีปรัชญาหลักคือ “มื้ออาหารที่อร่อยสำหรับทุกคน” เพื่อหาคำตอบให้กับความท้าทายของสังคมและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการทานอาหารลดโซเดียม การทานโซเดียมมากเกินไปเป็นปัญหาสำคัญด้านสุขภาพทั่วโลก ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่วิสัยทัศน์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังช้อนเกลือไฟฟ้าได้รับการยอมรับ และเรารู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้รับรางวัลนี้ ในขณะเดียวกัน ดิฉันมองรางวัลนี้เป็นสัญญาณแห่งความคาดหวังต่ออนาคต เราจะผลักดันธุรกิจของเราให้ก้าวไปข้างหน้าต่อไป เพื่อมอบคุณค่าของสุขภาพและความสุขผ่านอาหารแก่ลูกค้าทั่วโลก”

Kirin Group ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการระยาวชื่อว่า Kirin Group Vision 2027 ขึ้นโดยมีเป้าหมายในการกลายเป็นผู้นำระดับโลกด้าน CSV*5 ทั้งในภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและภาคธุรกิจเภสัชกรรม เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของผู้คนผ่านการเติบโตของธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพของบริษัท โดยช้อนเกลือไฟฟ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อมอบพฤติกรรมการทานอาหารที่มีความสุข อร่อย และดีต่อสุขภาพให้กับลูกค้า เพื่อสังคมที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขยิ่งขึ้น

*5 ย่อมาจาก Creating Shared Value หรือการสร้างคุณค่าร่วม โดยสร้างประโยชน์ต่อผู้บริโภคและสังคมในภาพรวมไปพร้อมๆ กัน

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทข้ามชาติที่ประกอบธุรกิจในภาคอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม), ภาคเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และภาควิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings เริ่มต้นมาจาก Japan Brewery ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1885 และจาก Japan Brewery ก็ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 นับแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทก็ขยายกิจการออกไปโดยมีการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในทศวรรษ 1980 ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นศูนย์กลางของการเติบโตระดับโลกต่อมาเรื่อยๆ ในปี 2007 Kirin Holdings ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยมีลักษณะเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นอย่างแท้จริง (Pure Holding Company) และขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความเติบโตให้กับภาควิทยาศาสตร์สุขภาพของบริษัท

ภายใต้ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการระยะยาวที่เริ่มใช้งานในปี 2019 ทาง Kirin Group พุ่งเป้าไปที่การกลายเป็นผู้นำระดับโลกด้าน CSV* เพื่อสร้างคุณค่าทั้งในภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและภาคธุรกิจเภสัชกรรมของเรา จากนี้เป็นต้นไป Kirin Group จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวเองต่อไปเพื่อสร้างคุณค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของเรา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำการเติบโตที่ยั่งยืนมาผสานไว้ในค่านิยมขององค์กร

* ย่อมาจาก Creating Shared Value หรือการสร้างคุณค่าร่วม โดยสร้างประโยชน์ต่อผู้บริโภคและสังคมในภาพรวมไปพร้อมๆ กัน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/54170896/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ
แผนกสื่อสารองค์กรของ Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 นากาโนะ, เขตนากาโนะ, โตเกียว
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Source: Kirin Holdings Company, Limited


AI เจเนอเรชันใหม่กำลังรออยู่ GIGABYTE ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับ HPC ในงาน CES 2025

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–11 ธันวาคม 2024

GIGABYTE Technology ขึ้นชื่อในด้านนวัตกรรมล้ำสมัยด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และยังคงเดินหน้าพัฒนาความก้าวหน้าต่างๆ ที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมต่อไป โดยตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 10 มกราคม 2025 GIGABYTE จะเข้าร่วมงาน CES เพื่อจัดแสดงความก้าวหน้าล่าสุดในด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและโซลูชันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต่างๆ

The Next Gen of AI Awaits, GIGABYTE Sets the Benchmark for HPC at CES 2025 (Photo: Business Wire)

AI เจเนอเรชันใหม่กำลังรออยู่ GIGABYTE ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับ HPC ในงาน CES 2025 (ภาพ: Business Wire)

โดยในบูธของ GIGABYTE จะมีการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่หลากหลายภายใต้ธีม “ACCEVOLUTION” ที่มีไฮไลท์ ได้แก่:

โซลูชันการประมวลผลคลัสเตอร์แบบแร็คสเกลสำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

เซิร์ฟเวอร์ AI ที่รองรับ “ซูเปอร์ชิป” รุ่นถัดไป

เทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและ ประสิทธิภาพการทำงาน

เวิร์กสเตชันที่ออกแบบมาสำหรับเวิร์กโหลดขนาดเล็ก

Mini-PC ระบบฝังตัว และแพลตฟอร์มในรถยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานปลายทางและการใช้งานเชิงพาณิชย์

ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ GIGABYTE แสดงให้เห็นว่าพลังการประมวลผลได้ช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ AI ซึ่งจะช่วยให้องค์กร สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และบุคคลทั่วไปบรรลุเป้าหมายใหม่ๆ ในด้านนวัตกรรม AI ในทุกสาขาวิชา และทุกๆ ขนาดได้อย่างไร

ความมุ่งมั่นของ GIGABYTE ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้เร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับโลกและนวัตกรรม AI ขั้นสูง ด้วยความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับผู้นำในอุตสาหกรรม GIGABYTE จึงสามารถส่งมอบโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ AI ล้ำสมัยได้อย่างสม่ำเสมอพร้อมกับการปรับใช้ที่รวดเร็วหลังจากการอัปเกรดในแต่ละรุ่น โดยในงาน CES 2025 GIGABYTE จะเปิดตัว:

• เซิร์ฟเวอร์ AI ซีรีส์ AMD Instinct™ MI300, ตัวเร่งความเร็ว Intel® Gaudi® 3 และ NVIDIA HGX™

• โมดูล NVIDIA GB200 NVL72 ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “เซิร์ฟเวอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก” สำหรับการประมวลผลของ AI โดยมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่า GPU H100 ถึง 30 เท่า

ด้วยสถาปัตยกรรม “rack-as-a-GPU” ที่เป็นนวัตกรรม โดย NVIDIA GB200 NVL72 ได้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการประมวลผล AI ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนี้ด้วยตนเองและมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ GIGABYTE เพื่อกำหนดอนาคตของโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การประมวลผลประสิทธิภาพสูงกับความยั่งยืน

เพื่อเร่งวิวัฒนาการของ AI ให้เร็วขึ้น GIGABYTE กำลังกำหนดนิยามประสิทธิภาพการระบายความร้อนใหม่ด้วยโซลูชันการระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง (DLC) แบบครบวงจร ระบบที่ครอบคลุมนี้จะผสานรวมกับเซิร์ฟเวอร์ ชุดระบายความร้อนแบบกำหนดเอง และแร็คที่มีความเข้ากันได้อย่างราบรื่นกับ CDU จากผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น CoolIT และ Motivair ด้วยการจัดการกับข้อจำกัดของการระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม GIGABYTE จึงรับประกันความหนาแน่นในการคำนวณที่เหมาะสมที่สุด ความเสถียรของระบบที่เพิ่มขึ้น และการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานในศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัย

เซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD, Intel และ NVIDIA รุ่นล่าสุด ใช้ประโยชน์จาก DLC เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพที่ล้ำสมัยกับการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนและเปิดใช้งานเอาต์พุตการคำนวณที่สูงขึ้น โซลูชันเหล่านี้จึงตอบสนองกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนในทั้งสองด้าน

ขับเคลื่อนการนำ AI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์และนวัตกรรมแบบฝังตัว

ความเชี่ยวชาญของ GIGABYTE ในการออกแบบเมนบอร์ดทำให้ GIGABYTE กลายเป็นผู้เล่นหลักในการประมวลผลอุตสาหกรรมและการนำ AI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ด้วยความร่วมมือกับ NVIDIA ช่วยให้ GIGABYTE นำเสนอระบบฝังตัวที่ขับเคลื่อนด้วยโมดูล Jetson Orin™ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ให้บริการด้านระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม การตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ (AOI) การตรวจจับข้อบกพร่อง การประมวลผลแบบเอจ และหุ่นยนต์ ในขณะเดียวกัน ซีรีส์ BRIX mini-PC ที่มีโปรเซสเซอร์พร้อมหน่วยประมวลผลนิวรอล (NPU) แบบบูรณาการ จะส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ AI ขั้นสูงในดีไซนกะทัดรัด

เร่งความเร็วให้กับเทคโนโลยีอัตโนมัติ

การบรรจบกันของพลังการคำนวณและ AI กำลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าในเทคโนโลยีอัตโนมัติ รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับ รถโดยสาร และยานยนต์ผิวน้ำไร้คนขับ (USV) โดย GIGABYTE ยังคงเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้นในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และเทเลเมติกส์ ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ที่สำคัญ

การปฏิวัติประสบการณ์พีซีระดับไฮเอนด์

พีซี AI AORUS ของ GIGABYTE กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับเกมเมอร์และเหล่าบรรดามืออาชีพทั้งหลาย โดยนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น:

AI Boost: การโอเวอร์คล็อกแบบไดนามิกสำหรับเซสชันการเล่นเกมที่เข้มข้น

AI Power Gear: การสลับ GPU อัจฉริยะเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ระหว่างการใช้งานมือถือ

AI Generator: ความสามารถ AI ที่สร้างได้บนอุปกรณ์เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่น

ในงาน CES 2025 GIGABYTE ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี กำหนดทิศทางของ AI ในอนาคต และนำเสนอโซลูชันที่ก้าวล้ำสำหรับระบบนิเวศการประมวลผล

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม CES ของ GIGABYTE ได้ที่ https://www.gigabyte.com/Events/CES

ข้อมูลผู้ติดต่อ

ข้อมูลผู้ติดต่อด้านสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE Technology

AI เจเนอเรชันใหม่กำลังรออยู่ GIGABYTE ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับ HPC ในงาน CES 2025 (ภาพ: Business Wire)

ไทเป–(BUSINESS WIRE)– GIGABYTE Technology ขึ้นชื่อในด้านนวัตกรรมล้ำสมัยด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และยังคงเดินหน้าพัฒนาความก้าวหน้าต่างๆ ที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมต่อไป โดยตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 10 มกราคม 2025 GIGABYTE จะเข้าร่วมงาน CES เพื่อจัดแสดงความก้าวหน้าล่าสุดในด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและโซลูชันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต่างๆ

โดยในบูธของ GIGABYTE จะมีการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่หลากหลายภายใต้ธีม “ACCEVOLUTION” ที่มีไฮไลท์ ได้แก่:

โซลูชันการประมวลผลคลัสเตอร์แบบแร็คสเกลสำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

เซิร์ฟเวอร์ AI ที่รองรับ “ซูเปอร์ชิป” รุ่นถัดไป

เทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและ ประสิทธิภาพการทำงาน

เวิร์กสเตชันที่ออกแบบมาสำหรับเวิร์กโหลดขนาดเล็ก

Mini-PC ระบบฝังตัว และแพลตฟอร์มในรถยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานปลายทางและการใช้งานเชิงพาณิชย์

ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ GIGABYTE แสดงให้เห็นว่าพลังการประมวลผลได้ช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ AI ซึ่งจะช่วยให้องค์กร สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และบุคคลทั่วไปบรรลุเป้าหมายใหม่ๆ ในด้านนวัตกรรม AI ในทุกสาขาวิชา และทุกๆ ขนาดได้อย่างไร

ความมุ่งมั่นของ GIGABYTE ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงได้เร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระดับโลกและนวัตกรรม AI ขั้นสูง ด้วยความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับผู้นำในอุตสาหกรรม GIGABYTE จึงสามารถส่งมอบโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ AI ล้ำสมัยได้อย่างสม่ำเสมอพร้อมกับการปรับใช้ที่รวดเร็วหลังจากการอัปเกรดในแต่ละรุ่น โดยในงาน CES 2025 GIGABYTE จะเปิดตัว:

• เซิร์ฟเวอร์ AI ซีรีส์ AMD Instinct™ MI300, ตัวเร่งความเร็ว Intel® Gaudi® 3 และ NVIDIA HGX™

• โมดูล NVIDIA GB200 NVL72 ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “เซิร์ฟเวอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก” สำหรับการประมวลผลของ AI โดยมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่า GPU H100 ถึง 30 เท่า

ด้วยสถาปัตยกรรม “rack-as-a-GPU” ที่เป็นนวัตกรรม โดย NVIDIA GB200 NVL72 ได้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการประมวลผล AI ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนี้ด้วยตนเองและมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของ GIGABYTE เพื่อกำหนดอนาคตของโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การประมวลผลประสิทธิภาพสูงกับความยั่งยืน

เพื่อเร่งวิวัฒนาการของ AI ให้เร็วขึ้น GIGABYTE กำลังกำหนดนิยามประสิทธิภาพการระบายความร้อนใหม่ด้วยโซลูชันการระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง (DLC) แบบครบวงจร ระบบที่ครอบคลุมนี้จะผสานรวมกับเซิร์ฟเวอร์ ชุดระบายความร้อนแบบกำหนดเอง และแร็คที่มีความเข้ากันได้อย่างราบรื่นกับ CDU จากผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น CoolIT และ Motivair ด้วยการจัดการกับข้อจำกัดของการระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม GIGABYTE จึงรับประกันความหนาแน่นในการคำนวณที่เหมาะสมที่สุด ความเสถียรของระบบที่เพิ่มขึ้น และการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานในศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัย

เซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD, Intel และ NVIDIA รุ่นล่าสุด ใช้ประโยชน์จาก DLC เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพที่ล้ำสมัยกับการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนและเปิดใช้งานเอาต์พุตการคำนวณที่สูงขึ้น โซลูชันเหล่านี้จึงตอบสนองกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนในทั้งสองด้าน

ขับเคลื่อนการนำ AI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์และนวัตกรรมแบบฝังตัว

ความเชี่ยวชาญของ GIGABYTE ในการออกแบบเมนบอร์ดทำให้ GIGABYTE กลายเป็นผู้เล่นหลักในการประมวลผลอุตสาหกรรมและการนำ AI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ด้วยความร่วมมือกับ NVIDIA ช่วยให้ GIGABYTE นำเสนอระบบฝังตัวที่ขับเคลื่อนด้วยโมดูล Jetson Orin™ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ให้บริการด้านระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม การตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติ (AOI) การตรวจจับข้อบกพร่อง การประมวลผลแบบเอจ และหุ่นยนต์ ในขณะเดียวกัน ซีรีส์ BRIX mini-PC ที่มีโปรเซสเซอร์พร้อมหน่วยประมวลผลนิวรอล (NPU) แบบบูรณาการ จะส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ AI ขั้นสูงในดีไซนกะทัดรัด

เร่งความเร็วให้กับเทคโนโลยีอัตโนมัติ

การบรรจบกันของพลังการคำนวณและ AI กำลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าในเทคโนโลยีอัตโนมัติ รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับ รถโดยสาร และยานยนต์ผิวน้ำไร้คนขับ (USV) โดย GIGABYTE ยังคงเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้นในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และเทเลเมติกส์ ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ที่สำคัญ

การปฏิวัติประสบการณ์พีซีระดับไฮเอนด์

พีซี AI AORUS ของ GIGABYTE กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับเกมเมอร์และเหล่าบรรดามืออาชีพทั้งหลาย โดยนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น:

AI Boost: การโอเวอร์คล็อกแบบไดนามิกสำหรับเซสชันการเล่นเกมที่เข้มข้น

AI Power Gear: การสลับ GPU อัจฉริยะเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ระหว่างการใช้งานมือถือ

AI Generator: ความสามารถ AI ที่สร้างได้บนอุปกรณ์เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่น

ในงาน CES 2025 GIGABYTE ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี กำหนดทิศทางของ AI ในอนาคต และนำเสนอโซลูชันที่ก้าวล้ำสำหรับระบบนิเวศการประมวลผล

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม CES ของ GIGABYTE ได้ที่ https://www.gigabyte.com/Events/CES

ข้อมูลผู้ติดต่อ

ข้อมูลผู้ติดต่อด้านสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE Technology

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


NIQ เผยรายงาน CMO OUTLOOK ประจำปี 2025

Logo

รายงานเผยว่า GenAI  ที่เป็นเครื่องมือวัดผลทางการตลาดขั้นสูงและความร่วมมือที่ทำงานได้ราบรื่นขึ้นระหว่างฝ่ายไอที วิทยาศาสตร์ข้อมูลและการตลาด ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในปี 2025

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–03 ธันวาคม 2024

NIQ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคระดับโลก ได้เปิดตัวรายงาน CMO Outlook ฉบับล่าสุด เน้นย้ำถึงลำดับความสำคัญและความกังวลที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้นำด้านการตลาดทั่วโลก รายงานในปีนี้สำรวจวิธีที่นักการตลาดปรับตัวรับทั้งความท้าทายและตัวช่วยในแผนกลยุทธ์สำหรับปี 2025 รวมถึงยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตลาด

ผู้บริโภคยังคงเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านอาหารและค่าสาธารณูปโภค ประกอบกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจที่อาจถดถอย ส่งผลให้เกิดรูปแบบการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) และการค้าปลีก ในขณะเดียวกัน AI มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์การตลาดระยะยาว เช่น กิจกรรมส่งเสริมการขายและการสร้างแบรนด์ เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมองหาความคุ้มค่าและการประหยัดอยู่ แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจเหล่านี้ แต่โอกาสสำหรับการเติบโตทางการตลาดยังคงมีอยู่

รายงานระบุว่าผู้นำด้านการตลาดยังคงมองในแง่ดีในอนาคต โดย 78% คาดว่าจะอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในอีกสามปีข้างหน้า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมปัจจุบัน กว่า 56% ยังคงมองว่าการตลาดเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายยอดขายในทันที (ลดลงจาก 64% ในปี 2023) ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างแบรนด์ในระยะยาว แม้ว่าผู้นำการตลาด 60% จะมองว่าการชี้แจงความจำเป็นในการลงทุนด้านการตลาดเป็นเรื่องง่าย (ลดลงจาก 65% ในปี 2023) แต่ความเชื่อมั่นของ CEO และ CFO ต่อคุณค่าระยะยาวของการลงทุนในแบรนด์กลับเพิ่มขึ้น (44% ในปี 2024 เทียบกับ 41% ในปี 2023) นักการตลาดยังหันมาใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาหลัก ซึ่งบ่งชี้ว่า AI กำลังจะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือกับภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต

Marta Cyhan-Bowles ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารและหัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับโลกของ NIQ กล่าวถึงผลการศึกษาว่า “อนาคตของการตลาดจะขับเคลื่อนด้วย AI แม้กลยุทธ์อื่นๆ ของ CMO จะยังคงเสถียรในปี 2024 แต่ Generative AI (GenAI) กำลังสร้างการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังกลายเป็นองค์ประกอบหลักในกลยุทธ์การตลาดเพื่อเร่งการเติบโต AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้านที่เราดูแล ตั้งแต่การสื่อสารกับลูกค้า การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกในโปรเจคต่างๆ และการเปิดโอกาสใหม่ๆ

แนวโน้มสำคัญที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจด้านการตลาดในปี 2025:

  • ฟังก์ชันการตลาดใช้ AI มากขึ้นเรื่อยๆ: นักการตลาดระดับสูงกำลังทำให้ GenAI เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ โดย 72% ใช้สำหรับการสร้างเนื้อหาและความคิดสร้างสรรค์ 67% ใช้ในการวัดสุขภาพของแบรนด์ 65% ใช้สำหรับการวางแผนและปรับปรุงสื่อ และ 30% ใช้สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ GenAI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกฟังก์ชันการตลาด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ลูกค้าอีกด้วย
  • AI จะกระตุ้นความมั่นใจในการใช้ข้อมูล: ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลกำลังกลายเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันสำหรับนักการตลาด โดยการใช้งาน AI เป็นแรงขับเคลื่อนความมั่นใจนี้ นักการตลาดส่วนใหญ่ (81%) พึ่งพาข้อมูลเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และมากกว่าครึ่ง (60%) ขององค์กรที่ใช้ข้อมูลเป็นหลักมีความมั่นใจอย่างมากในความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลของตน แม้จะมีแนวโน้มเชิงบวกนี้ แต่ 31% ของนักการตลาดระดับสูงยังคงประสบปัญหาในการเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของเครื่องมือ AI ขั้นสูง AI ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ พร้อมนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาเพื่อทำให้การวัดผลการตลาดมีความแม่นยำและคุ้มค่ามากขึ้น
  • การปรับปรุงในสุขภาพของฟังก์ชันการตลาด: ดัชนี CMO Outlook ซึ่งติดตามมิติหลักขององค์กรที่มุ่งเน้นการตลาด ได้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 ความ 'สุขภาพ' โดยรวมของการตลาดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นสี่คะแนนในความรู้สึกที่เกิดจากการปรับปรุงการประสานงานกับผู้บริหารระดับสูง AI กำลังก้าวไปข้างหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้ และกำลังถูกใช้ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการตลาดและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • AI จะกำจัดช่องว่างระหว่างลูกค้ากับธุรกิจโดยการเพิ่มความเข้าใจในความชอบของผู้บริโภค: AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นผู้บริโภคในระยะยาว BASES Ad Explorer ของ NIQ ช่วยนักการตลาดในการปรับปรุงมูลค่าของแบรนด์และให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความชอบของผู้บริโภค โดยการใช้ AI นักการตลาดสามารถให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงลึกด้านความคิดสร้างสรรค์ ทดสอบโฆษณาหลายเวอร์ชัน และทำงานให้เสร็จตามกำหนดโดยไม่ลดทอนคุณภาพ
  • นักการตลาดจะให้ความสำคัญกับความร่วมมือข้ามแผนก: นักการตลาดกำลังใช้ภาษาของ CFO เพื่อดึงดูดการลงทุนและร่วมงานกับ CTO เพื่อใช้ศักยภาพของ AI ให้สูงสุด ในปีใหม่จะเห็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างการตลาด นักวิเคราะห์ข้อมูล และผู้นำธุรกิจ เพื่อทำลายข้อจำกัดของข้อมูลและรวมแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้มากขึ้น

ทำไมแนวโน้มเหล่านี้จึงสำคัญในปี 2025

รายงาน CMO Outlook เน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของ AI ในด้านการตลาด เพื่อช่วย CMO ในการวางแผนปี 2025 รายงานเผยให้เห็นถึงลำดับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของนักการตลาดอาวุโส และวิธีที่พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ AI และเครื่องมือข้อมูลเพื่อนำทางภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนข้างหน้า หัวข้อต่างๆ ได้แก่:

  • ความสำคัญและโอกาสด้านการตลาดในปี 2025
  • ศักยภาพและผลกระทบของ AI ต่อการตลาด
  • การสร้างความไว้วางใจใน AI สำหรับกลยุทธ์การตลาดในอนาคต

ดาวน์โหลดสำเนารายงาน CMO Outlook: วิธีที่ผู้นำการตลาดควรคิดเกี่ยวกับ AI และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในปี 2025 ได้ ที่นี่

เกี่ยวกับรายงานนี้:

รายงาน CMO Outlook ของ NIQ: How marketing leaders should be thinking about AI and data-driven decisioning heading into 2025 รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจผู้นำการตลาดระดับสูงเกือบ 600 คนจากบริษัทที่มีรายได้ประจำปีมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมีพนักงานมากกว่า 250 คน การสำรวจครอบคลุม 18 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง/แอฟริกา และอเมริกาเหนือ ผู้นำการตลาดถูกกำหนดว่าเป็น CMO หรือหัวหน้าแบรนด์ ผู้อำนวยการหรือรองประธานฝ่ายการตลาด แบรนด์ การดำเนินงานการตลาด หรือประสบการณ์ลูกค้า

เกี่ยวกับ NIQ:

NIQ เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคระดับสากลชั้นนำ ที่มอบความเข้าใจที่ครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคและเผยเส้นทางในการเติบโตใหม่ ๆ ในปี 2023 NIQ ได้ควบรวมกิจการกับ GfK เป็นการรวมสองผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายระดับสากล ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ ปัจจุบัน NIQ ดำเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP โลก NIQ ใช้ข้อมูลค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ผสานเข้ากับการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เพื่อนำเสนอมุมมองแบบรอบด้าน Full View™

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.niq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Sweta Patra
Sweta.patra@nielseniq.com

ที่มา: NielsenIQ