Tag Archives: 2024

2024 Japan Prize: นักวิทยาศาสตร์สามคนจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้รับรางวัลนี้

Logo

พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่โตเกียวในวันที่ 16 เดือนเมษายน

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–30 มกราคม 2024

Japan Prize Foundation ประกาศรายชื่อผู้ชนะได้รับรางวัล 2024 Japan prize ในวันที่ 23 เดือนมกราคม ปี 2024 เวลา 13:00 น. Prof. Sir Brian J. Hoskins (สหราชอาณาจักร) และ Prof. John Michael Wallace (สหรัฐอเมริกา) เป็นผู้ชนะได้รับรางวัล Japan Prize ร่วมกันในสาขา ทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และ Prof. Ronald M. Evans (สหรัฐอเมริกา) ได้รับรางวัล Japan Prize ในสาขา วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชศาสตร์

สำหรับ Japan Prize ประจำปีนี้ Prof. Hoskins และ Prof. Wallace ได้รับการยกย่องจากผลงานที่โดดเด่นใน การจัดตั้งพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับความเข้าใจและการคาดการณ์เหตุการณ์ด้านสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้ว และ Prof. Evans ได้รับการยกย่องจาก การค้นพบตระกูลตัวรับฮอร์โมนนิวเคลียร์ และการประยุกต์ใช้ในการพัฒนายา

สำหรับ 2024 Japan Prize ทางมูลนิธิได้ขอให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีชื่อเสียงประมาณ 15,500 คนจากทั่วโลกนำเสนอชื่อนักวิจัยที่ทำงานในสาขาของปีนี้ เราได้รับการนำเสนอชื่อเข้าชิง 130 คนในสาขาทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และ 198 ชื่อในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชศาสตร์ และมีการเลือกผู้ชนะได้รับรางวัลในปีนี้จากท่ามกลางผู้สมัครทั้งหมด 328 คน

พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่โตเกียวในวันที่ 16 เดือนเมษายน

เกี่ยวกับ Japan Prize
การจัดตั้ง Japan Prize ในปี 1981 ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อสร้างรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนการบริจาคจำนวนมาก Japan Prize Foundation ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 1983

Japan Prize เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์และน่าทึ่ง ซึ่งช่วยในการพัฒนาสาขาของตัวเอง และมีส่วนสำคัญในการตระหนักถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับมวลมนุษยชาติ นักวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกแขนงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล โดยจะมีการคัดเลือกสองสาขาในแต่ละปี โดยคำนึงถึงแนวโน้มปัจจุบันในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยหลักการแล้ว จะมีการคัดเลือกนักวิจัยหนึ่งคนจากแต่ละสาขา และได้รับใบรับรอง เหรียญรางวัล และรางวัลเงินสด พิธีมอบรางวัลแต่ละครั้งจะมีจักรพรรดิและจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลทั้งสามสาขา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และตัวแทนจากองค์กรอื่นๆ ทางสังคมเข้าร่วม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

The Japan Prize Public Relations Office
japanprize@ml.prap.co.jp

แหล่งข้อมูล: The Japan Prize Foundation

Xsolla Curine Academy เตรียมจัดงาน Global Game Jam 2024 อันทรงเกียรติในกัวลาลัมเปอร์

Logo

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–24 มกราคม 2024

Xsolla Curine Academy ตื่นเต้นที่จะประกาศถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Game Jam 2024 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่น่าตื่นเต้นโดย MDEC ในกัวลาลัมเปอร์ โดยจะจัดตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 28 มกราคม สํานักงาน Xsolla ใน Bangsar South จะกลายเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมที่มีชีวิตชีวา งานนี้จะรวบรวมนักพัฒนาเกมจากภูมิหลังที่หลากหลาย มาร่วมงานสร้างสรรค์เกมแบบมาราธอนตลอด 48 ชั่วโมงที่เข้มข้นและสนุกสนาน

ในฐานะบริษัทร่วมทุนด้านการศึกษา Xsolla และ Curine ได้ก่อตั้ง Xsolla Curine Academy โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงการเรียนรู้ทางวิชาการ และความต้องการแบบไดนามิกของภาคการพัฒนาเกม ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติ สถาบันการศึกษายึดมั่นในภารกิจในการดูแลมืออาชีพให้พร้อมสําหรับอนาคต เพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาเกมอิสระ และสนับสนุนการเติบโตของทรัพย์สินทางปัญญาในท้องถิ่นในอุตสาหกรรมเกมของมาเลเซีย

Global Game Jam ถือเป็นงานสร้างเกมที่สําคัญที่สุดทั่วโลก โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมหลายพันคนที่เรียกว่า “jammers” ให้มาแข่งขันกันอย่างสนุกสนานตลอด 48 ชั่วโมง Global Game Jam ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ งานนี้จะต้อนรับผู้เข้าร่วมที่มีทักษะและภูมิหลังที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมเมอร์ ศิลปิน นักออกแบบ นักดนตรี และนักเขียน พวกเขาจะรวมตัวกันทั้งในสถานที่จริงและเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ การทํางานเป็นทีม และการสํารวจเชิงนวัตกรรม งานนี้ไม่ใช่แค่การสร้างเกมเท่านั้น แต่เป็นการเฉลิมฉลองการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยเป็นเวทีสําหรับการทดลองและแบ่งปันความคิด ผลลัพธ์มีหลากหลายตั้งแต่เกมที่ได้รับการยอมรับในเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการพัฒนาทักษะอันล้ำค่า ผลักดันให้เกิดความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการสร้างเครือข่ายภายในสมาคมเกมระดับโลก

Xsolla มีความภาคภูมิใจในความร่วมมือกับ Global Game Jam โดยให้พื้นที่สํานักงานเป็นสถานที่จัดงานและจัดเลี้ยงในฐานะผู้สนับสนุนด้านอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ Megamod ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเทคนิค จะสร้างพื้นที่เฉพาะสําหรับการสตรีมสดบน YouTube โดยนําเสนอภาพรวมของกระบวนการพัฒนาเกม และรวบรวมสาระสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ในการดําเนินการ

งานนี้นําเสนอโอกาสพิเศษสําหรับผู้เข้าร่วมในการทํางานและอาศัยอยู่ภายในสํานักงาน Xsolla KL ตลอดระยะเวลาที่จัดงาน การจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกัน ข้อกำหนดที่เอื้อเฟื้อนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถมุ่งเน้นไปที่โครงการของตนได้อย่างเต็มที่ และสามารถเข้าถึงสถานที่ดังกล่าวได้ตลอดสุดสัปดาห์

มีความคาดหวังสูงสําหรับความร่วมมือของ Xsolla KL กับ Global Game Jam โดยคาดหวังถึงผลตอบรับเชิงบวกของผู้เข้าร่วม เกี่ยวกับสถานที่จัดงานและองค์กรของงาน Xsolla KL ใช้ประโยชน์จากความสำเร็จของงานในปีนี้ โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ และการพัฒนาเกมที่ก้าวล้ำ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy โปรดไปที่: www.xcdev.com

โซเชียลมีเดีย:
Instagram
Facebook
Discord
Linkedin

เกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy

Xsolla Curine Academy ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Xsolla มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเกมผ่านกิจกรรม ความร่วมมือ และการสร้างชุมชน

Megamod

Megamod เป็นแพลตฟอร์มเกมที่มีเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC) ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างสามารถพัฒนา แก้ไข และเผยแพร่เกมได้อย่างง่ายดาย แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือที่หลากหลาย รวมถึง MegaCode, MegaCore, MegaSkin, MegaStore และ MegaBuilder ซึ่งแต่ละเครื่องมือได้รับการปรับแต่งเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างเกม สําหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดอย่างกว้างขวาง

ด้วยการใช้เทคโนโลยี voxel MegaMod ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโมเดลและโลกที่สร้างโดยผู้ใช้นั้นมีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพในแง่ของการดำเนินการและการจัดเก็บข้อมูล ตัวเลือกเทคโนโลยีนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การพัฒนาเกมเข้าถึงและจัดการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้อายุน้อยและผู้สร้างที่มีความมุ่งมั่น

ด้วยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้สําหรับการพัฒนาเกม MegaMod สร้างความแตกต่างในพื้นที่ UGC โดยเสนอทางเลือกที่เป็นไปได้แทนแพลตฟอร์มที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เช่น Roblox การเน้นที่ความสะดวกในการใช้งาน และการเพิ่มขีดความสามารถของผู้สร้างทําให้เกมนี้เป็นองค์ประกอบที่สําคัญในการทําให้การพัฒนาเกมเป็นประชาธิปไตย และปรับภูมิทัศน์ของเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันราย ให้ทุน ทําการตลาด เปิดตัวและสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและในหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรมการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจําหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงภูมิภาคได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก Xsolla มีสํานักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสํานักงานในเบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนเกมหลักๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

เกี่ยวกับ Global Game Jam

Global Game Jam เป็นงานประจําปีที่รวบรวมนักพัฒนาเกม นักออกแบบ และผู้ที่ชื่นชอบจากทั่วโลก เพื่อทํางานร่วมกันและสร้างเกมในการแข่งขันสไตล์แฮกกาธอน 48 ชั่วโมง งานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การทํางานร่วมกัน และการทดลองในชุมชนการพัฒนาเกม

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Derrick Stembridge ผู้อํานวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Xenco Medical เปิดตัว TrabeculeX Continuum ซึ่งเป็นการผสานรวมอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ ในงาน CES 2024 ที่ลาสเวกัส ซึ่งเป็นการประชุมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Logo

SAN DIEGO–(BUSINESS WIRE)–16 มกราคม 2024

วันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิกได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ ที่ผ่านการรับรองจาก FDA เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับศัลยแพทย์ในการปลูกถ่าย TrabeculeX Bioactive Matrix ที่ผ่านการรับรองจาก FDA ของ Xenco Medical เพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยใน TrabeculeX Recovery App และสามารถใช้ในการตรวจสอบเพื่อการรักษาจากระยะไกล ตลอดจนวิดีโอและการส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส TrabeculeX Continuum เป็นการผสานรวมเวชศาสตร์ฟื้นฟูและสุขภาพดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

On January 11th, trailblazing medical technology company Xenco Medical unveiled its convergent technology bridging Digital Health and Biomaterials by showcasing its TrabeculeX Continuum™ at the 2024 Consumer Electronics Show in Las Vegas, Nevada. Comprising the TrabeculeX Bioactive Matrix™ and the TrabeculeX Recovery App™, the TrabeculeX Continuum is the first technology-enabled bridge between orthobiologics and digital health, unifying a patient’s biomaterial implantation and postoperative journey. (Graphic: Business Wire)

เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุขีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ (กราฟิก: Business Wire)

โดยมีการออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการขึ้นรูปแบบไฮดรอกซีคาร์บอเนตอะพาไทต์ใน TrabeculeX Bioactive Matrix วัสดุชีวภาพที่สร้างขึ้นใหม่ใน TrabeculeX Continuum ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตโดย Xenco Medical เพื่อช่วยในการสร้างรูปกระดูกแบบสามมิติ โดยสถาปัตกรรมใหม่ของ TrabeculeX Bioactive Matrix เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นผิวที่ซับซ้อน เริ่มต้นที่ขนาดต่ำกว่าไมครอน และขยายไปยังโครงสร้างเนื้อเยื่อทั้งหมด TrabeculeX Recovery App เป็นการผสานรวมวิธีการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพเข้ากับการฟื้นฟูกายภาพอย่างเต็มรูปแบบ โดยเอื้อให้ศัลยแพทย์ที่ใช้ TrabeculeX Bioactive Matrix ในผู้ป่วยสามารถสั่งจ่ายยาและติดตามแผนการฟื้นฟูกายภาพเฉพาะด้านจากระยะไกล พร้อมความสามารถในการวิดีโอ และส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส

“ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ไม่เพียงทุ่มเทให้กับการดูแลระหว่างการผ่าตัดของผู้ป่วยเท่านั้น แต่เรายังมุ่งเน้นการฟื้นตัวในระยะยาวด้วยเช่นกัน เรามุ่งมั่นที่จะขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่การผ่าตัดไปจนถึงการฟื้นฟูกายภาพ ด้วย TrabeculeX Continuum เราขอแนะนำเทคโนโลยีการผสานรวมที่สามารถบันทึกทุกขั้นตอนในการรักษาผู้ป่วย แทนที่จะเป็นเพียงเฉพาะการดูแล” Jason Haider ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xenco Medical กล่าว

ผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้งานวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุขั้นสูงและเครื่องมือสำหรับการผ่าตัด รวมถึงการออกแบบการปลูกถ่าย นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุของ Xenco Medical รวมถึงระบบการผ่าตัดคอมโพสิตโพลีเมอร์และการปลูกถ่ายไขสันหลังแบบโฟมไทเทเนียมไบโอมิเมติกได้รับการรับรองจากสถานพยาบาลทั่วประเทศ Xenco Medical ได้รับการยอมรับและเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลกจาก Fast Company Magazine ในปี 2023

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53882026/en

ติดต่อ

Melissa Russell
858-202-1505
info@xencomedical.com

แหล่งข้อมูล: Xenco Medical

Korea Grand Sale 2024 เทศกาลช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของเกาหลีเริ่มขึ้นแล้ว

Logo

มหกรรมช้อปปิ้งระยะเวลา 50 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์

กรุงโซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2024

Korea Grand Sale ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรกในปีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของ 2023-2024 Visit Korea Year พร้อมแล้วที่จะจุดประกาย “ช่วงเวลาสุดพิเศษในเกาหลี” ของคุณตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นไป

Korea Grand Sale 2024 runs from January 11th to February 29th, offering benefits and discounts across various areas, including K-travel, K-shopping, K-culture, and more. (Graphic: Visit Korea Committee)

Korea Grand Sale 2024 เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โดยจะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี วัฒนธรรมเกาหลี และอีกมากมาย (กราฟิก: คณะกรรมการ Visit Korea)

เทศกาลที่น่าตื่นเต้นนี้พร้อมที่จะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี และวัฒนธรรมเกาหลี ดื่มด่ำกับประสบการณ์ในแบบฉบับเกาหลีขนานแท้หลากหลายแขนง พร้อมด้วยโปรแกรมคอนเทนต์เกาหลีได้รับการคัดสรรมาเพื่ออีเวนต์นี้โดยเฉพาะ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53879288/en

ข้อมูลติดต่อ

คณะกรรมการ Visit Korea
Saeram Zeong
zeongs@smtown.com

แหล่งที่มา: คณะกรรมการ Visit Korea

GIGABYTE ปลดปล่อยความมหัศจรรย์ของ AI ในงาน CES 2024: ผู้บุกเบิกเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC, เทคโนโลยีสีเขียว, AIoT และGaming Powerhouses

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2024

GIGABYTE Technology ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านไอทีที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์และคอมพิวเตอร์ AI และยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ กำลังเป็นศูนย์กลางที่งาน CES 2024 ด้วยซีรีส์เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ที่ล้ำสมัย ซึ่งเน้นโดยเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ AMD Instinct™ MI300A APU, NVIDIA Grace Hopper Superchip, และ NVIDIA HGX H100 8-GPU ชิปใหม่เหล่านี้จากผู้นำในอุตสาหกรรมได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตแบบทวีคูณของ AI โดยจัดการพารามิเตอร์โมเดลและชุดข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นก้าวสำคัญใหม่ในภูมิทัศน์ของ AI

GIGABYTE's presentation at CES includes cutting-edge AI/HPC servers, servers for advanced data centers, green computing solutions, AIoT, and AI-powered flagship computers, embodying the booth theme

การนำเสนอของ GIGABYTE ที่งาน CES มีทั้งเซิร์ฟเวอร์เทคโนโลยี HPC/AI สุดล้ำ, เซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลขั้นสูง, โซลูชันการประมวลผลสีเขียว, AIoT, และคอมพิวเตอร์รุ่นเรือธงที่ประมวลผลด้วยเทคโนโลยี AI, โดยรวมอยู่ในบูธที่มาในธีม “อนาคตแห่งระบบประมวลผล” (รูป: Business Wire)

ที่บูธ GIGABYTE ยังจัดแสดงโซลูชั่นระบบประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับเวิร์กโหลด AI จำนวนมากพร้อมลดการใช้พลังงานลง บรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืนด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยลง

นิทรรศการของ GIGABYTE ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมที่หลากหลาย เซิร์ฟเวอร์ โซลูชันadvanced cooling solutions AIoT และคอมพิวเตอร์รุ่นเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกมและผู้สร้าง โดยรวบรวมบูธต่างๆ ในหัวข้อ “Future of COMPUTING” แบ่งเป็นห้าส่วนที่โดดเด่น

เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC: คอมพิวเตอร์ระดับ Exascale

GIGABYTE และบริษัทในเครือ Giga Computing กำลังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ระดับท็อปสี่ตัวที่งาน CES เซิร์ฟเวอร์ G383-R80 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมล่าสุด รองรับ AMD Instinct™ MI300A APU ซึ่งผสานรวม CPU, GPU และหน่วยความจำ HBM3 แบบรวมขนาด 128GB เพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์

ความโดดเด่นอีกอย่างคือ AI server ซีรีส์ G593 ที่มาพร้อมกับ NVIDIA HGX H100 8-GPU ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการฝึกฝนโมเดล AI และการอนุมานภายในการกำหนดค่า 5U ความหนาแน่นสูงที่ไม่มีใครเทียบได้ เซิร์ฟเวอร์นี้มีความเป็นเลิศในเกณฑ์มาตรฐานการฝึกอบรม MLPerf และพิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่งกาจของเวิร์กโหลด AI ที่หลากหลาย

สำหรับความต้องการด้านคอมพิวเตอร์ที่ปรับขนาดได้และยืดหยุ่น GIGABYTE ขอแนะนำ XH23-VG0 ซึ่งขับเคลื่อนโดย NVIDIA Grace Hopper Superchip ซึ่งยึดตามการออกแบบโมดูลาร์ MGX โดยมอบสล็อตขยาย FHFL สำหรับแอปพลิเคชัน AI/HPC ขนาดใหญ่ G493-SB0 รองรับ GPU Gen5 สล็อตคู่ 8 ช่อง รองรับปริมาณงานที่หลากหลาย รวมถึง generative AI การจำลองเสมือน การเรนเดอร์ และกราฟิก 3D

ศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืน: ระบบประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อม

โซลูชันการประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อมของ GIGABYTE ช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ท่ามกลางการดำเนินงานที่ต้องใช้การประมวลผลสูงและเวิร์กโหลด AI เซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมระบายความร้อนด้วยของเหลวและแบบ immersion cooling-ready servers ได้รับการรับประกันประสิทธิภาพด้วยการออกแบบระบายความร้อนชั้นนำของอุตสาหกรรมของ GIGABYTE ซึ่งรับประกันประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม (PUE) และต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่ได้เปรียบ GIGABYTE ยังนำเสนอระบบ direct liquid cooling (DLC) และโซลูชันการทำความเย็นแบบ single-phase immersion cooling ซึ่งรวมทั้งหมดในหนึ่งเดียว สำหรับนิทรรศการพร้อมตู้เซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรและถังแช่ A1P0-EA0

การใช้งานไอทีแบบ Agile

ที่บูธ GIGABYTE ขอแนะนำเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูล S183-SH0 ซึ่งได้รับการปรับแต่งสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) โดยมี E1.S NVMe SSD จำนวน 32 ตัวสำหรับการจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ R163-P32 พร้อมโปรเซสเซอร์ตระกูล AmpereOne™ ที่รองรับสูงสุด 192 คอร์ และเซิร์ฟเวอร์ Edge ความหนาแน่นสูง E163-S30 ที่สร้างขึ้นสำหรับสภาพแวดล้อมเครือข่าย 5G เซิร์ฟเวอร์ที่ล้ำสมัยเหล่านี้ช่วยให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของตลาดที่กำลังพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

IoT ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และความคล่องตัวทางอิเล็กทรอนิกส์

GIGABYTE นำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะที่ครอบคลุมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมด้วย  Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) และระบบเทเลเมติกส์ของยานพาหนะช่วยให้ขับขี่อัตโนมัติในสภาพถนนที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์แบบแล็ปท็อปที่ทนทานเป็นพิเศษและพีซีอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่มีความทนทานสูงและประสิทธิภาพที่เสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นในสถานการณ์ของสถานีตรวจอากาศที่บูธ

การเล่นเกมและการสร้างสรรค์

GIGABYTE ได้รับการยกย่องด้าน gaming and creator computers รวมถึง AORUS AERO และ แล็ปท็อป เมนบอร์ด การ์ดกราฟิก และจอภาพ 4K OLED ของ GIGABYTE Gaming series แสดงให้เห็นถึงพลังและเสน่ห์ในงาน CES กลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม AI ในปี 2024 ของ GIGABYTE มีคอร์ AI เจเนอเรชันถัดไปและ AI Nexus ที่เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับประสบการณ์ AI ที่ราบรื่นในด้านประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และ AI กำเนิด นอกจากนี้ ผู้ชื่นชอบงานสร้างสรรค์ยังสามารถสำรวจการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาราวขนนก 1.49 กก. ของแล็ปท็อป AERO 14 OLED และจอแสดงผล OLED HDR 2.8K ที่ปรับเทียบสี ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานไปสู่อีกระดับหนึ่ง

เยี่ยมชมหน้าเวบเพจของ GIGABYTE’s CES event page.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53876542/en

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE Technology


Sharp เตรียมเข้าร่วมงาน CES 2024 ซึ่งเป็นงานกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญในอเมริกา

Logo

ลาสเวกัส–(BUSINESS WIRE)–4 มกราคม 2024

Sharp Corporation จะเข้าร่วมในงาน CES 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก ตามสโลแกนที่ว่า “Toward the Future for a Better Life (ก้าวล้ำไปในอนาคต)” Sharp จะส่งเสริมเทคโนโลยีระดับเวิร์ลคลาสที่หลากหลายในตลาดโลกด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ภายใต้กรรมสิทธิ์ของเรา

  • ไฮไลท์
  1. การใช้ชีวิตแบบสมาร์ท
    เทคโนโลยีที่ลดข้อกังวลต่างๆ มากมายภายในบ้านและทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณ
    ผู้สอนเสมือนจริง (บอตอธิบายรายละเอียด) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบบ Edge AI ที่ทาง Sharp ได้พัฒนาขึ้นมาชื่อว่า CE-LLM*1 (Communication Edge-LLM) จะทำการแนะนำนิทรรศการผ่านการสนทนาแบบอินเตอร์แอคทีฟอย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้เตาอบความความเร็วสูงที่ลดเวลาในการปรุงอาหารลงอย่างมากด้วยเทคโนโลยีการทำความร้อนที่มีลักษณะเฉพาะตัวและการควบคุมแหล่งจ่ายความร้อนได้อย่างลงตัวที่สุด นิทรรศการนี้ยังมีทั้งเครื่องเป่าผมและเครื่องดูดฝุ่นทรงตั้งที่มาพร้อมกับเสียงรบกวนต่ำและทรงพละกำลังสูง
  2. การปฏิวัติทางอุตสาหกรรม
    แนวคิดที่จะมอบความเร็วและประสิทธิภาพต่อแวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ นิทรรศการนี้จึงประกอบไปด้วยเทคโนโลยีกล้องที่รองรับเทคโนโลยี XR นอกจากการนำเสนอภาพเสมือนจริงในการสนทนาและแนวคิดต่างๆ ต่อการดำเนินธุรกิจโดยใช้แว่นตา XR*2 และระบบ AI และจอแสดงข้อมูลที่สามารถใช้งานได้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น คำแนะนำในการใช้งานของตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ เซ็นเซอร์รับกลิ่น Olfactory ที่ใช้ระบบ AI ที่ได้รับการพัฒนาด้วยการปรับเทคโนโลยีพื้นผิวของจอแสดงผล ช่วยในการตรวจจับกลิ่นโดยการเลียนแบบสิ่งมีชีวิต และอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ก๊าซ IMS (ion Mobility Spectrometry) ที่ใช้องค์ประกอบการปล่อยอิเล็กตรอนในชั้นบรรยากาศจะนำใช้ในการจัดแสดง
  3. ความยั่งยืน
    เทคโนโลยีต่างๆ ที่สร้างพลังงานหมุนเวียนแห่งโลกอนาคตและแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น การจัดแสดงป้าย LCD แบบใช้การสะท้อนแสงสำหรับจอกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ชนิดสีที่ใช้ภายนอกอาคารและ ePoster ที่มีการใช้พลังงานต่ำ Sharp จะยังทำการเปิดตัวอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ภายในอาคารอย่าง LC-LH ที่ใช้แสงสว่างภายในอาคารและให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง และสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ IoT ได้อีกด้วย รีโมตคอนโทรลของ TV ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ LC-LH ก็นำมาแสดงด้วยเช่นเดียวกัน
  • ตำแหน่งบูทของ Sharp: 17229 เซ็นทรัลฮอล์ ลาสเวกัสคอนเวนชันเซ็นเตอร์ (เนวาดา สหรัฐอเมริกา)
  • วันและเวลาจัดนิทรรศการ: 9 ถึง 12 มกราคม 2024 (วันอังคารถึงวันศุกร์) เวลา: 10:00 – 18:00 น.
    สำหรับรายละเอียด: Dates and Hours (ces.tech)

*1

ระบบจะตอบการสนทนาและการโต้ตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติด้วยการตัดสินใจจัดการกับคำถามในทันทีโดยใช้ Edge AI เช่น LLM ที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบ หรือ AI บนคลาวด์ เช่น Chat GPT สำหรับการตอบคำถามจากผู้ใช้งาน

*2

เทคโนโลยี XR/เทคโนโลยี CR: เทคโนโลยีที่ใช้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านการผสานระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจริง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53873296/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ทีมประชาสัมพันธ์และการสร้างแบรนด์ของ Sharp Corporation
pr-brand@sharp.co.jp

แหล่งข้อมูล: Sharp Corporation





Tim Liu CTO ของ Hillstone Networks แชร์แนวโน้มความปลอดภัยทางไซเบอร์ประจำปี 2024

Logo

CTO’s Corner: การนำทางภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กำลังพัฒนากับ Tim Liu

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–22 ธันวาคม 2023

Hillstone Networks ภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปี 2024 นั้นถูกเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งนำเสนอทั้งความท้าทายและโอกาส ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกำลังติดตามแนวโน้มสำคัญหลายประการอย่างใกล้ชิดซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงกลยุทธ์ด้านไอทีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อรับมือกับพวกมัน Tim Liu CTO แบ่งปันแนวโน้มสูงสุดของเขาในปี 2024:

ผลกระทบของ AI ต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์

การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยได้รับแรงกระตุ้นจากการเปิดตัว ChatGPT และเทคโนโลยี AI อื่นๆ ในปี 2023 ทั้งยังได้เปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า AI จะสัญญาว่าจะปรับปรุงความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพการทำงาน และการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ทั่วไป แต่ก็ยังนำมาซึ่งเวกเตอร์ภัยคุกคามใหม่แบบใหม่อีกด้วย ธรรมชาติของ 'wild West' ในขอบเขตของ AI ร่วมกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล ความอ่อนแอของ AI ต่อการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตและการหาประโยชน์ทางวิศวกรรมสังคมที่มีการเสริมพลังด้วยกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เป็นผลให้เกิดความซับซ้อนอีกชั้นต่อภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เมื่อ AI เข้าถึงได้มากขึ้น ยิ่งก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของ AI ทั้งในวัตถุประสงค์ด้านดีและด้านที่เป็นอันตราย อีกทั้งเราต้องยังคงตื่นตัวเสมอเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมา

ความท้าทายด้านความปลอดภัยบนคลาวด์

การนำระบบคลาวด์มาใช้ยังคงไม่หยุดยั้งโดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการริเริ่มด้าน AI ขององค์กร อย่างไรก็ตาม รูปแบบความรับผิดชอบร่วมกันด้านความปลอดภัยบนคลาวด์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นไม่เป็นที่เข้าใจในระดับสากลโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารระดับสูงและระดับคณะกรรมการ ปัญหาต่างๆ เช่น ข้อกังวลด้านความปลอดภัยของอินสแตนซ์บนคลาวด์ที่มีการจัดการแบบระบบไอทีเงาและการขาดการดูแลโดยทีมไอทีที่มีประสบการณ์ มีส่วนทำให้เกิดความท้าทายด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ยังคงอยู่

การขยายพื้นที่โจมตี

การแพร่หลายของอุปกรณ์ Edge รวมถึงอุปกรณ์ IoT สิ่งอำนวยความสะดวกที่เชื่อมต่อกับ 5G และยานพาหนะไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเครือข่ายกำลังขยายขอบเขตภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว การป้องกันเครือข่ายแบบดั้งเดิมจะต้องพัฒนาเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของการโจมตีใหม่ ๆ และจุดเข้าใช้งานใหม่เหล่านี้โดยต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุมสู่ความปลอดภัยทางไซเบอร์

ปัจจัยมนุษย์ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

ท่ามกลางการมุ่งเน้นไปที่ AI Cloud และอุปกรณ์ปลายทาง ปัจจัยมนุษย์ยังคงเป็นเวกเตอร์การโจมตีที่แพร่หลาย เหตุการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์มักเกิดจากการกระทำของมนุษย์โดยเน้นน้ำหนักไปที่ของการปฏิบัติด้านความปลอดภัยพื้นฐาน การอัปเดตการฝึกอบรมพนักงานและการจัดการอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทางไซเบอร์ และทำให้ชัดเจนว่าการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นเป็นปัญหาของผู้คนมากพอ ๆ กับเทคโนโลยี

การแปลงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยดิจิตอล

ในขณะที่ธุรกิจพึ่งพาการทำธุรกรรมดิจิตอลมากขึ้นการสร้างและการรักษาความไว้วางใจดิจิทัลจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีส่วนทำให้ความไว้วางใจดิจิทัลโดยเน้นที่ท่าทางความปลอดภัยแบบองค์รวมและการพัฒนาที่พัฒนาเช่นการดำเนินงานด้านความปลอดภัย (SECOPS) เครื่องมือเช่น SIEM และ XDR มีบทบาทสำคัญในการย้ายจากการรื้อล่วงหน้าไปยังท่าโพสต์ที่ผ่านมาโดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจจับการตอบสนองและการบรรเทา แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่เช่น SASE และ SSE เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรและแบบบูรณาการ

ภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปี 2024 ต้องการการปรับตัวและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เทคโนโลยีวิวัฒนาการไปอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนองค์กรจะต้องระมัดระวังการจัดลำดับความสำคัญของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เน้นผู้คนเป็นศูนย์กลางและยอมรับกลยุทธ์ความปลอดภัยแบบองค์รวมเพื่อนำทางภูมิทัศน์การคุกคามที่พัฒนาขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

สุขสันต์วันหยุดจาก Hillstone Networks

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ส่งมอบทั้งความลึกและความกว้างของการป้องกันให้กับบริษัททุกขนาดตั้งแต่ Edge ไปจนถึง Cloud ตลอดจนทั่วทั้งภาระงาน แนวทางการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แบบบูรณาการของ Hillstone Networks นำมาซึ่งความครอบคลุม การควบคุมและการรวมเข้าด้วยกันให้กับองค์กรกว่า 26,000 แห่งทั่วโลกwww.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งที่มา: Hillstone Networks

TSUBURAYA PRODUCTIONS จะเริ่มโรดโชว์ ULTRAMAN CARD GAME ในปี 2024

Logo

เกมแรกมีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2023

บริษัท Tsuburaya Productions จำกัด (สำนักงานใหญ่ในโตเกียว) ได้ประกาศในงาน Anime Festival Asia Singapore 2023 (AFA23) ว่าบริษัทจะโรดโชว์เพื่อจัดแสดงชุดต่างๆ ของ ULTRAMAN CARD GAME ที่กำลังจะออกสู่ตลาดทั่วโลกในปี 2024

Ultraman Card Game scheduled to launch in 2024. (Graphic: Business Wire)

การ์ดเกม Ultraman มีกำหนดเปิดตัวในปี 2024 (กราฟิก: Business Wire)

AFA23 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ถึง 26 พฤศจิกายน ได้รับเลือกให้เป็นงานแรกที่จะนำ ULTRAMAN CARD GAME มาสู่แฟนๆ และพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ผู้เข้าชมจะได้เพลิดเพลินกับบททดสอบและการแสดงสดบนเวทีเพื่อแนะนำเกม

“เกมนี้ออกแบบมาสำหรับคนทุกรุ่น ตั้งแต่แฟนๆ Ultraman ไปจนถึงผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับตัวละครและเรื่องราว” Takayuki Kawai รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Tsuburaya Productions กล่าว เขากล่าวเสริมว่า “เราหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับ ULTRAMAN CARD GAME กับครอบครัวและเพื่อนฝูง และนี่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และชื่นชอบผลงานของ Tsuburaya Productions ให้มากขึ้น”

โปรโมชั่นจะเริ่มในปี 2024 หลังจากเปิดตัวซึ่งมีกำหนดในช่วงฤดูร้อนปี 2024 การแข่งขันระดับท้องถิ่นและระดับโลกจะมีการวางแผนสำหรับผู้เล่นทั่วโลก ULTRAMAN CARD GAME มีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายละเอียดและการอัพเดตของเกมสามารถดูได้ที่:
https://www.facebook.com/ultramancardgame

ULTRAMAN CARD GAME คืออะไร

ULTRAMAN CARD GAME เป็นการ์ดเกมที่ผสมผสานการสร้างโลกของซีรีส์ Ultraman เข้ากับรูปแบบการเล่นและของสะสมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้

การ์ดได้รับการออกแบบด้วยงานศิลปะคุณภาพสูงเพื่อแสดงองค์ประกอบที่น่าดึงดูดของรูปลักษณ์ การเพิ่มพลัง ท่าพิเศษ และระบบประเภทของ Ultraman
ภายใต้ประโยชน์ของ Tsuburaya Productions เกม ULTRAMAN CARD GAME มีกำหนดการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับผลงาน บริการ และการถ่ายทอดสดที่เกี่ยวข้องกับ Ultraman ตลาดที่เปิดตัวครั้งแรกมีกำหนดคือญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความร่วมมือเป็นพิเศษ: Shanghai Character License Administrative Co.,Ltd. (SCLA), Zhejiang Kayou Animation Co., Ltd. (Kayou).

เกี่ยวกับบริษัท Tsuburaya Productions จำกัด

Tsuburaya Productions ก่อตั้งในปี 1963 โดย Eiji Tsuburaya หรือที่เรียกกันว่า “เทพเจ้าแห่งสเปเชียลเอฟเฟกต์” และได้สร้างภาพยนตร์สเปเชียลเอฟเฟกต์คนแสดงหลายเรื่อง ซึ่งซีรีส์ Ultraman มีชื่อเสียงที่สุด รวมถึง Ultra Q และ Ultraman ที่ออกอากาศทางทีวีของญี่ปุ่นในปี 1966 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Ultraman ได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าทีวีไปยังโรงภาพยนตร์ บริการสตรีมมิ่ง การแสดงสด สวนสนุก และมีจำหน่ายในรูปแบบสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลก
Tsuburaya Productions ฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2023

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53869667/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

ทีมงานประชาสัมพันธ์ Tsuburaya Productions
global_pr@tsuburaya-prod.co.jp 

แหล่งที่มา: บริษัท Tsuburaya Productions จำกัด




แก้ไขและแทนที่: Aurora, PTT Station และ Royal Umbrella เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศคว้ารางวัล 2023 – 2024 World Branding Awards

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–15 ธันวาคม 2023

World Branding Awards ครั้งที่ 17 ยกย่องความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสำหรับกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 2023 – 2024 World Branding Awards มีแบรนด์เข้าร่วมมากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีไม่ถึง 200 แบรนด์ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นที่ต้นกำเนิดของรางวัลนี้ นั่นคือ พระราชวังเคนซิงตัน สหราชอาณาจักร โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 100 คนทั่วโลก และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะเลิศระดับโลกที่ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติในอุตสาหกรรม ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา), และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะเลิศจากประเทศไทย ได้แก่ Thai Life Insurance, PTT Station, King Power, M-150, Café Amazon, Royal Umbrella, Aurora, VITADAY, TrueOnline, Farmhouse, และ TOPS ผู้ชนะเลิศจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Mercadona (สเปน), Airland (ฮ่องกง), และ Getha (มาเลเซีย) และยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

มีเพียง 14 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย), HECOM (ฮ่องกง), และ VITADAY (ไทย) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปภายใต้ 3 ภูมิภาคขึ้นไปทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ในการคงการตอบรับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์จะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์และคงอยู่ตราบเท่านาน ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนสำหรับแบรนด์ผ่านการตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องรับประกันได้ว่า ผู้คนทุกเจนเนอเรชันจะยังให้การตอบรับแบรนด์และมีความสนใจในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” Mr Richard Rowles ประธานของ World Branding Forum กล่าว

ในปีนี้ มีผู้บริโภคเข้าร่วมในการเสนอชื่อทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละประเทศมีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award นี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะเลิศทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการจดทะเบียน รางวัลนี้เป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

อนาคตของคอมพิวเตอร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว – ในงาน CES 2024 GIGABYTE จะมานำเสนอนวัตกรรมที่สำคัญและขับเคลื่อนความก้าวหน้าด้วย AI และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Logo

TAIPEI–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม 2023

GIGABYTE Technology ผู้บุกเบิกด้านไอทีซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์ และระบบคอมพิวเตอร์แบบ AI ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ที่งาน CES ด้วยธีม “อนาคตของคอมพิวเตอร์” โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

GIGABYTE is carrying forward its booth theme, “Future of COMPUTING” from COMPUTEX to CES 2024. Photo: One of the highlights – AI/HPC servers (Photo: Business Wire)

GIGABYTE สานต่อธีมบูธ “อนาคตของคอมพิวเตอร์” จาก COMPUTEX จนถึงงาน CES 2024 ภาพถ่าย: หนึ่งในไฮไลต์ – เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC (ภาพถ่าย: Business Wire)

GIGABYTE นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเสนอทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จากคลาวด์และศูนย์ข้อมูลไปยัง Edge และผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมของ GIGABYTE ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างคล่องตัว และสามารถเข้าดูข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในตลาดที่หลากหลาย อีกทั้งยังมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและดื่มด่ำสำหรับผู้บริโภค

GIGABYTE นำเสนอความเชี่ยวชาญรอบด้านด้วยเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ที่ทรงพลังสูงสุด โซลูชันระบายความร้อนขั้นสูง พีซีสำหรับอุตสาหกรรม เทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์เกมและผู้สร้าง นิทรรศการอันตระการตาจะมีการจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 9 ถึง 12 เดือนมกราคม มาพบกับเราได้ที่ Booth #9637, North Hall, Las Vegas Convention Center

ปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดใน AI ด้วยเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ของ GIGABYTE

ในงาน CES 2024 GIGABYTE และ Giga Computing บริษัทในเครือ จะนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ใหม่ล่าสุด โดยดารรวม GPU และตัวเร่งความเร็วระดับแนวหน้าเข้าด้วยกัน GIGABYTE นำเสนอโซลูชันอเนกประสงค์ที่ชาร์จพลังเวิร์กโหลดของ AI ตามความต้องการได้มากที่สุด เช่น AI เชิงสร้างสรรค์ โมเดลการฝึกอบรมภาษาขนาดใหญ่ metaverse ดิจิทัลระบบคู่ การเรนเดอร์และกราฟิกแบบ 3D จัดแสดงโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับ AI แห่งอนาคต

ผลิตภัณฑ์ด้านเซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE สามารถรับมือกับสถานการณ์การใช้งานไอทีที่หลากหลาย GIGABYTE จะมีการจัดแสดงเซิรฟ์เวอร์จัดเก็บข้อมูลที่ปรับแต่งสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ Arm สำหรับการใช้งานบนคลาวด์ และเซิร์ฟเวอร์ Edge ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับแอปพลิเคชัน 5G เซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายเหล่านี้จะช่วยเสริมให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถรับมือกับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยการอัปเกรดระบบไอทีที่มีความยืดหยุ่นและไม่ยุ่งยาก

โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูง AIoT และเทคโนโลยียานยนต์ เป็นตัวอย่างความเชี่ยวชาญรอบรู้ของ GIGABYTE

ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำและนักบูรณาการ โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูง GIGABYTE จะมีการจัดการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ ระบบการระบายความร้อนแบบแช่เฟสเดียว และ ระบบการระบายความร้อนโดยใช้ของเหลวโดยตรง ในงาน CES โซลูชันเหล่านี้เป็นตัวอย่างความมุ่งมั่นของ GIGABYTE ในการจัดหาโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงาน โซลูชันของ GIGABYTE ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและสถาบันชั้นนำของโลก รวมถึงยักษ์ใหญ่แห่งเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก บริษัทโทรคมนาคม และศูนย์การวิจัย

โซลูชันการระบายความร้อนขั้นสูงของ GIGABYTE รองรับเทคโนโลยี CPU/GPU ล่าสุดจาก AMD, Intel และ NVIDIA โดยมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายซึ่งเหมาะสำหรับกลยุทธ์การใช้งานในระบบไอทีที่แตกต่างกัน และปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ CPU/GPU ประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอ์ที่ได้รับการปรับแต่งนั้น ช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานให้น้อยลง ซึ่งให้ประโยชน์ด้านความยั่งยืนอย่างหาที่เปรียบมิได้ และต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

เทคโนโลยีที่ครอบคลุมของ GIGABYTE ขยายขอบเขตพลังการประมวลผลจากศูนย์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อไปยังผู้ใช้ คอมพิวเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมจะเอื้อสำหรับระบบกระบวนการอัตโนมัติในโรงงานผลิตและนอกอาคาร มอบประสิทธิภาพระดับสูงสุดเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และระบบเทเลเมติกส์ของยานพาหนะจะช่วยอำนวยความสะดวกและเสริมประสบการณ์ในการขับขี่แบบอัตโนมัติอันชาญฉลาดขั้นสูง นวัตกรรมฮาร์ดแวร์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ GIGABYTE ในการเสริมประสิทธิภาพการปรับแปลงให้เป็นระบบดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI

กลุ่มผลิตภัณฑ์เกมและครีเอเตอร์ผลักดันให้ขยายขอบเขตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่กับความสวยงาม

กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ล่าสุดของ GIGABYTE จะแสดงถึงปรัชญาการออกแบบซึ่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ยอดเยี่ยม นักเล่นเกมสามารถตั้งตารอแล็ปท็อป AORUS และ GIGABYTE รุ่นล่าสุดได้เลย ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นอย่างน่าประทับใจ ครีเอเตอร์จะได้รับความพึงพอใจกับจอแสดงผล 2.8K OLED HDR ระดับมืออาชีพของแล็ปท็อป AERO 14 OLED พร้อมฟังก์ชันการปรับแต่งสีชั้นนำระดับโลก และเทคโนโลยีการถนอมดวงตาระบบ AI สุดพิเศษ ผู้เล่นคอนโซลจะต้องทึ่งกับจอภาพ OLED 4K/120Hz ขนาด 48 นิ้วเครื่องแรกของโลก พร้อมภาพและเสียงที่เหมือนจริง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์แบบ DIY เมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดจะชนะใจพวกเขาด้วยดีไซน์ที่ใช้งานง่ายและประสิทธิภาพที่มีความเสถียรและทนทานสำหรับฟิเจอร์ที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง

เข้าเยี่ยมชม เพจอีเว้นท์ CES ของ GIGABYTE

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53867952/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

แหล่งข้อมูล: GIGABYTE Technology