Tag Archives: 2024

Xsolla เตรียมจัดแสดงโซลูชันเพื่อการก้าวสู่ระดับโลกที่งาน Tokyo Game Show 2024

Logo

Xsolla จะนำเสนอเครื่องมือที่ล้ำสมัยเพื่อให้ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมสามารถตีตลาดในระดับโลก

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 กันยายน 2024

Xsolla บริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลก จะนำเสนอโซลูชันอันล้ำสมัยที่ฮอลล์ 4 บูธ #04-C48 ในงาน Tokyo Game Show 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26-27 กันยายน 2024 ณ ศูนย์การประชุมมาคุฮาริ เมสเสะ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยบูธของ Xsolla จะมีการสาธิตการใช้งานโซลูชันใหม่ล่าสุดแบบสดๆ ซึ่งโซลูชันเหล่านี้เน้นหนักไปที่การช่วยให้ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมประสบความสำเร็จในการขยับขยายเข้าสู่ตลาดนานาชาติ

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

ในงานนี้ นายจิน จอง รองประธานประจำภูมิภาคของ Xsolla ประเทศญี่ปุ่น จะมาพูดคุยในเซสชันการนำเสนอโดยเน้นไปที่บทบาทสำคัญของโซลูชัน Merchant of Record (MoR) ของ Xsolla ในการพลิกโฉมวิธีที่บริษัทเกมจะจัดการกับธุรกรรมข้ามพรมแดน ภาษี และความซับซ้อนในแง่ของระเบียบข้อบังคับ เซสชันนี้จะทำให้ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่ได้มองเห็นภาพรวมแบบรอบด้านว่า Xsolla ช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงานระดับโลกได้อย่างไร ช่วยให้สตูดิโอต่างๆ สามารถทุ่มเทไปกับการสร้างสรรค์เกม ในขณะที่ Xsolla ช่วยดูแลในส่วนของธุรกิจให้

นอกจากการนำเสนอโซลูชัน MoR แล้ว Xsolla ก็จะสาธิตให้ดูด้วยว่าระบบชำระเงินและฟีเจอร์การเล่น/ชำระเงินข้ามแพลตฟอร์มของพวกเขาจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงในระดับโลกแก่ผู้พัฒนาเกมทุกขนาดในทุกแพลตฟอร์มได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น Xsolla ก็จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาช่วยให้บริษัทวิดีโอเกมผสานการทำงานร่วมกับวิธีการชำระเงินแบบต่างๆ ทั่วโลกได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างรายได้จากเกมของตนเองในภูมิภาคต่างๆ อย่างง่ายดาย

นายเดวิด สเตลเซอร์ ประธานบริษัท Xsolla ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานกิจกรรมครั้งนี้ที่มีต่อบริษัทว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Tokyo Game Show และได้นำเสนอโซลูชันล่าสุดซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบพลังให้ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมสามารถขยับขยายไปสู่ระดับโลก ภารกิจของเราคือการสนับสนุนอุตสาหกรรมเกมด้วยเครื่องมือที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในตลาดนานาชาติ และเราก็ตื่นเต้นมากครับที่จะได้แสดงให้เห็นว่า Xsolla สามารถทำให้การก้าวสู่ระดับโลกนั้นง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ขอเชิญผู้ร่วมงานเยี่ยมชมบูธของ Xsolla เพื่อพบกับทีมผู้เชี่ยวชาญซึ่งพร้อมจะมอบข้อมูลเชิงลึก ตอบข้อสงสัย และร่วมหารือว่าโซลูชันที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะของพวกเขาจะช่วยผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมขยับขยายธุรกิจได้อย่างไร สำหรับผู้ที่สนใจสนทนาในเชิงลึกเพิ่มเติม Xsolla ก็มีบริการปรึกษาพูดคุยแบบตัวต่อตัวเพื่อเลือกสรรโซลูชันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการขยายตลาดสู่ระดับโลก

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการนัดเวลาพูดคุยกับ Xsolla ในงาน Tokyo Game Show โปรดไปที่ xsolla.com/events/tgs24

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการอันทรงพลัง ไว้วางใจได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมเกมโดยเฉพาะ ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยให้ผู้พัฒนาและผู้เผยแพร่เกมทั้งขนาดเล็กใหญ่นับพันรายสามารถระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนในระดับโลกและในหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำการสร้างสรรค์ในวงการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการขจัดความยุ่งยากในกระบวนการของการจัดจำหน่ายระดับโลก การทำการตลาด และการสร้างรายได้ เพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น สร้างรายได้เพิ่มเติม และสานสัมพันธ์กับบรรดาเกมเมอร์ทั่วโลก Xsolla มีสำนักงานใหญ่จดทะเบียนตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนี่ย และมีสำนักงานตั้งอยู่ในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลีห์ โตเกียว มอนทรีอัล และเมืองต่างๆ รอบโลก และสนับสนุนค่ายเกมชื่อดังต่างๆ ทั้ง Valve, Twitch, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

หากต้องการสอบถามข้อมูลและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54126695/en

ช่องทางติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อ
Derrick Stembridge (เดอร์ริก สเตมบริดจ์)
Director of Public Relations, Xsolla (ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Xsolla)
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งที่มา: Xsolla

NIQ มีการเปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ล่าสุดสำหรับแบรนด์ CPG ที่งาน FastCompany Innovation Festival 2024 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเชิงลึกฝีมือมนุษย์แต่ด้วยความเร็วของ AI

Logo

แนะนำโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ CPG โมเดลแรกของโลก รวมถึง BASES AI ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้จริงเพื่อสร้างกลุ่มผู้บริโภคจำลองสำหรับการทดสอบแนวคิด

โมเดลภาษาใหม่มีการทำงานอัตโนมัติที่ดีกว่าโมเดลสาธารณะกว่า 7 เท่า สามารถระบุหา จัดระเบียบ และจัดประเภทผลิตภัณฑ์ซึ่งฝึกโดยใช้ข้อมูลขนาด 160 เพตะไบต์

BASES AI จะสร้างกลุ่มผู้บริโภคสำหรับสำรวจจำลองขึ้นมาซึ่งใช้ทดสอบและเปรียบเทียบไอเดียโดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิด

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2024

NielsenIQ (NIQ) บริษัทข้อมูลข่าวกรองของผู้บริโภคชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่สองอย่างเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ซึ่งจะยิ่งแสดงให้เห็นว่า NIQ เป็นบริษัทชั้นนำที่แท้จริง BASES AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่โมเดลแรกของอุตสาหกรรม CPG จะช่วยให้ลูกค้า NIQ สามารถใช้พลังของ AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อกระตุ้นสร้างนวัตกรรมและขยายส่วนแบ่งตลาดได้ นอกจากนี้ NIQ จะพูดคุยเรื่องแนวโน้ม AI เกี่ยวกับข้อมูลข่าวกรองการซื้อสินค้าของผู้บริโภคและนวัตกรรมที่เวทีงานในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน เวลา 14:20 ET หัวข้อชื่อ “AI รู้ว่าเราต้องการอะไรจริงหรือไม่ เหตุผลที่ผู้ตอบแบบสอบถามจำลองเป็นตัวขัดขวางการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์

BASES AI เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตจากผู้บริโภคเกี่ยวกับรูปแบบการบริโภคของครัวเรือนกว่าแสนครัวเรือนเพื่อนำมาเลียนแบบพฤติกรรมของผู้บริโภค แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ ช่วยให้สามารถสร้างกลุ่มผู้บริโภคจำลองที่ตอบแบบสอบถามเพื่อลองใช้เทคนิคและวิธีการการวิจัยด้านตลาดที่เป็นผู้คนวางใจได้โดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด BASES AI สามารถมอบการวิเคราะห์ศักยภาพแนวคิดได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น แทนที่จะใช้เวลาเป็นวันหรือสัปดาห์เพื่อรวบรวมข้อมูลความเห็นจากมนุษย์ ซึ่งบริษัทเครือ CPG สามารถใช้คะแนนเหล่านี้ รวมถึงคำแนะนำที่มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับปัจจัยกระตุ้นความสนใจและความเป็นเอกลักษณ์เพื่อที่จะทำการปรับเปลี่ยนไอเดียก่อนที่จะนำไปผ่านการทดสอบกับผู้บริโภคที่เป็นมนุษย์จริง การที่ BASES AI มีความเร็วและคุณภาพนั้นทำให้สามารถประเมินไอเดียจำนวนมหาศาลได้ขณะที่ยังสามารถร่นระยะเวลาโดยรวมของนวัตกรรมไปด้วยได้ สิ่งที่มาคู่กับการเปิดตัว BASES AI ให้ผู้ทดสอบใช้งานเบต้าได้ใช้งานในอเมริกาเหนือนั้น คือการเปิดตัวโมเดลภาษาของ NIQ ที่เจาะจงสำหรับ CPG โมเดลแรก ซึ่งช่วยขับเคลื่อนความสามารถด้านการแบ่งส่วนผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของ Discover ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการวัดผลการค้าปลีกระดับเรือธงของ NIQ เนื่องจากมีการใช้ฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์กว่า 160 ล้านรายการของ NIQ ทำให้โมเดลมีประสิทธิภาพมากกว่าโมเดล LLM สาธารณะกว่า 7 ในเรื่องความสามารถในการสร้างรหัสรายการสินค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ และเนื่องจากสามารถใช้ตัวเร่งใหม่ๆ ได้ โมเดลจะสามารถพัฒนาเรื่องความสามารถและความซับซ้อนขึ้นได้ตลอด ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถใช้ Full View™ กับตลาดและผู้บริโภคของตัวเองได้โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพกว่าโมเดลอื่น

“ในฐานะที่อยู่ในแวดวงข้อมูลข่าวกรองของผู้บริโภค เราก็ได้ปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่สำคัญต่อภารกิจของเราครับ” กล่าวโดย Ramon Melgarejo ประธานฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์และข้อมูลเชิงลึกที่ NIQ “ในสภาพแวดล้อมที่ดำเนินอย่างรวดเร็ว ตลาดผู้บริโภคจะเน้นไปที่นวัตกรรมที่อิงจากแนวโน้ม ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจะเป็นสิ่งที่สำคัญ และความสามารถในการใช้ประโยชน์และการดึงข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลเหล่านั้นจะสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก การเปิดตัวเหล่านี้เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าการใช้งานขุมพลังวิเคราะห์ของเราในชุดข้อมูลชั้นนำในตลาดเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพกว่าโมเดลอื่นที่จะช่วยบริษัทเครือ CPG ได้มีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก”

ชุดผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ NIQ มีพลังฝีมือของวิศวกรกว่า 2,000 คนโดยเน้นไปที่การวิเคราะห์การใช้จ่ายของผู้บริโภคมูลค่ากว่า 7.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงข้อมูลจากบริษัทพาร์ทเนอร์ด้านการขายปลีกกว่า 3,200 รายที่ไม่ซ้ำกัน ด้วยชุดแหล่งข้อมูลมหาศาลที่ครอบคลุมหลายประเทศและเหล่านักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มุ่งเน้นพัฒนาโซลูชันข้อมูลข่าวกรองธุรกิจพลัง AI ที่มีความรับผิดชอบเหมาะสมนี้ ทำให้ NIQ คงสถานะเป็นผู้นำในตลาดในเรื่องการสร้าง รักษา และกระตุ้นการมีส่วนแบ่งตลาดใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

BASES AI และโมเดลภาษา CPG ของ NIQ เป็นโซลูชันพลัง AI ล่าสุดในหมู่ชุดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มากมายของ NIQ เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศการผสานรวมข้อมูลกลุ่มผู้บริโภคและการวัดผลการค้าปลีกใน แพลตฟอร์ม NIQ Discover ซึ่งเป็นการพลิกโฉมภูมิทัศน์ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคผ่านการใช้โมเดลวิเคราะห์ขั้นสูงและความสามารถที่ทำงานตลอดเวลาที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่ปรับแต่งได้แก่ลูกค้าหากลูกค้ามีคำขอที่สำคัญต่อภารกิจของตน แพลตฟอร์มบนคลาวด์เป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งมีทั้งการผสานรวมตลาด Microsoft Azure, การทำงานร่วมร้านค้า Tik Tok และการบริการ NIQ Spacemanสำหรับพาร์ทเนอร์ระดับโลกอย่าง SPAR International การประกาศทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทมีการใช้เครื่องมือ Generative AI (AI ช่วยสร้าง) ที่มีคุณสมบัติการค้นหาทั่วโลก การวิเคราะห์ข้อมูลแบบปรับให้เหมาะสำหรับแต่ละคน และการแนะนำเพื่อให้มีการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล ซึ่งก็คือ NIQ Ask Arthur ที่ได้เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้

“พลังขับเคลื่อนให้สร้างนวัตกรรมและเป็นเลิศนั้นอยู่ในสายเลือดของ NIQ มานานนับศตวรรษแล้ว” กล่าวเพิ่มเติมโดย Mohit Kapoor ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีที่ NIQ “การผสานรวม GfK ที่ดำเนินไปได้อย่างสำเร็จของเราได้สร้างลูกค้ากว่า 25,000 รายแก่บริษัท โดยที่มีการวิเคราะห์ธุรกรรมกว่า 2.48 ล้านล้านรายการต่อสัปดาห์ ความสามารถพิเศษของ NIQ ในการมอบ Full View™ ซึ่งให้มุมมองพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดในโลกโดยใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์พลัง AI ทำให้เราสามารถทำการทดลองกับพารามิเตอร์จำนวนมากขึ้นไปอีกได้ ใช้วิธีที่ไม่เหมือนที่ใดในการเตรียมความพร้อมให้เราสามารถคว้าโอกาสในตลาดในอีก 100 ปีข้างหน้า”

นอกจากนี้ NIQ ยังให้ข้อมูลที่ไม่ซ้ำแหล่งใดเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ตามแนวโน้มของผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งรวมถึงรายงาน SpendZ ของบริษัทที่เป็นการแจกแจงข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายของคนกลุ่ม Gen Z และรายงานแนวโน้มผู้บริโภคที่ออกเป็นประจำซึ่งมีการวิเคราะห์แนวโน้ม พฤติกรรม และความรู้สึก

เกี่ยวกับ NIQ
NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทข้อมูลข่าวกรองของผู้บริโภคชั้นนำของโลก ผู้ให้บริการข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคอันมาจากความเข้าใจอย่างสมบูรณ์ที่สุด และช่วยเบิกทางใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจ NIQ ได้รวมทำกิจการกับ GfK ในปี 2023 ทำให้กลายเป็นบริษัทผู้นำอุตสาหกรรมที่สามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ในปัจจุบันนี้ NIQ ดำเนินการในมากกว่า 95 ประเทศครอบคลุม GDP ในอัตรา 97% NIQ อ่านค่าด้านการค้าปลีกและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ละเอียดที่สุด ซึ่งส่งมอบโดยใช้ระบบวิเคราะห์ขั้นสูงในแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัยอย่าง Full View™

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่www.niq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:
Sweta Patra
sweta.patra@nielseniq.com

แหล่งที่มา: NielsenIQ

เปิดตัวงาน Zhejiang International Trade Exhibition 2024 อย่างเป็นทางการ

Logo

กรุงเทพฯ –(BUSINESS WIRE)–06 กันยายน 2024

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2024 งาน Zhejiang International Trade Exhibition 2024 (ไทย) ซึ่งจัดโดยกรมการค้ามณฑลเจ้อเจียง ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการที่ศูนย์แสดงสินค้าและการปชุมอิมแพ็คอันทรงเกียรติในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ในพิธีเปิด แขกผู้มีเกียรติจากกระทรวงพลังงานของประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมพาณิชย์และเศรษฐกิจสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจําราชอาณาจักรไทย และสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมและมีส่วนร่วมในการทัวร์นิทรรศการวีไอพีพิเศษ เพื่อเป็นเวทีสําหรับเหตุการณ์สําคัญในการค้าระหว่างประเทศ โดยแขกเหล่านี้กล่าวชื่นชมแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่นของ “สินค้าเจ้อเจียงที่มีคุณภาพ”

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

นิทรรศการซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่สาม เน้นย้ำถึงความได้เปรียบในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแสงสว่าง เมืองอัจฉริยะ การดำรงชีวิตอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องของเจ้อเจียง และยังสอดคล้องกับธีมของ “Zhejiang Made All Need” อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับประเทศไทยในการเชื่อมต่อกับบริษัทผู้ผลิตชั้นนำจากมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งได้แก่ Hikvision, Tuya, Meka และ VOC ซึ่งจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล้ำสมัย นอกเหนือจากแบรนด์บุกเบิกอย่าง Hikvision และ Dahua Technology ที่หยั่งรากลึกในตลาดประเทศไทยแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Tuya ในฐานะองค์กรระดับยูนิคอร์นในอุตสาหกรรมจีน ได้จับมือกับบริษัทชั้นนําของไทย เช่น SCG และ T3 Technology เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบ้านอัจฉริยะในประเทศไทย และเป็นพันธมิตรในการพัฒนาระบบนิเวศ IoT ของประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสามของจีนในอาเซียน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 จีนและไทยได้สร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 10 ปีอันเป็นมงคลของโครงการริเริ่ม Belt and Road เหตุการณ์สําคัญครั้งนี้ช่วยเร่งการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเจ้อเจียงและไทย และเปิดโอกาสใหม่ๆ ในฐานะมหาอํานาจทางเศรษฐกิจที่สําคัญ และเป็นศูนย์กลางการค้าต่างประเทศที่สําคัญในประเทศจีน เจ้อเจียงจึงอยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นนี้

นิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นเวลาสามวันจะรวมบริษัทกว่าพันแห่ง รวมถึงผู้ซื้อและผู้ขาย ส่งเสริมการเชื่อมโยงทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นผ่านฟอรัมอุตสาหกรรม การประชุม คณะผู้แทนระดับวีไอพี การประชุมแบบพบหน้า และโอกาสที่น่าสนใจอื่นๆ ในอีกสองวันข้างหน้าบริษัทต่างๆ ในเจ้อเจียงจะเพลิดเพลินไปกับเครือข่ายธุรกิจที่ขยายออกไป พร้อมกับผู้ซื้อและผู้เยี่ยมชมระดับวีไอพีที่ผ่านจุดสัมผัสของนิทรรศการต่างๆ รวมถึงบูธเฉพาะที่มีการจัดแสดงสินค้าและการสาธิต การประชุมแบบพบหน้า และการเชิญประชุมออนไลน์กับผู้ซื้อและผู้เยี่ยมชมระดับวีไอพี

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54118306/en 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Robby Mex, +91-9899890048

ที่มา: Zhejiang International Trade Exhibition

NIPPON KINZOKU จัดแสดงในงาน “STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024”

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2024

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (TOKYO: 5491, สำนักงานใหญ่: เขตมินาโตะ โตเกียว) และ Tokyo Stainless Grinding Co., Ltd. (สํานักงานใหญ่: เขตซูมิดะ โตเกียว) จะร่วมเข้าร่วมในงาน STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024 ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จะจัดขึ้นที่ Singapore EXPO ในสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 11 (พุธ) ถึง 12 กันยายน (พฤหัสบดี) 2024

We will exhibit our carbon neutral products such as high-performance stainless steel, high-precision tubes, profile rolled products (Fine Profile), and rolled magnesium alloy materials, along with examples of their applications. (Graphic: Business Wire)

เราจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลางทางคาร์บอน เช่น สแตนเลสสตีลประสิทธิภาพสูง ท่อความแม่นยําสูง ผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปโปรไฟล์ (Fine Profile) และวัสดุโลหะผสมแมกนีเซียมขึ้นรูป พร้อมตัวอย่างการใช้งาน (กราฟิก: Business Wire)

• รายละเอียดการจัดแสดง
1. สแตนเลสสตีล
(1) แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้าง
โรงงานรีดแผ่นฟอยล์สามารถผลิตแผ่นที่มีความหนา ±1.0 μm ของค่าพิกัดความเผื่อ โดยสามารถผลิตแผ่นที่มีความกว้างสูงสุด 620 มม.

(2) ผิวเคลือบแบบ L•Core
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้านทานการสัมผัสไฟฟ้ากับสแตนเลสสตีลต่ำ

(3) ผิวเคลือบแบบ FI
เป็นความต้านทานฉนวนพื้นผิวสูงและเป็นฟิล์มที่ทนต่อความร้อนสูง

(4) สแตนเลสสตีลทางการแพทย์
เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับโคบอลต์ (Co: 0.1% หรือน้อยกว่า) ในระเบียบอุปกรณ์การแพทย์ของยุโรป (MDR)

2. โลหะผสมแมกนีเซียมใหม่ (ZA10)
 ZA10 ช่วยเพิ่มความสามารถในการขึ้นรูปแบบเย็นสําหรับโลหะผสมแมกนีเซียม ซึ่งโดยทั่วไปต้องผ่านการขึ้นรูปแบบร้อน นอกจากนี้เรายังยืนยันว่าโลหะผสมชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนําความร้อนเทียบเท่ากับโลหะผสมอะลูมิเนียม และสามารถปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิตโดยการจัดหาวัสดุในรูปแบบคอยล์

3. แผ่นเหล็กไฟฟ้าบางเฉียบ
เราเป็นผู้ผลิตแผ่นเหล็กไฟฟ้าบางเฉียบเพียงรายเดียวที่มีความหนาน้อยกว่า 0.10 มม. ในญี่ปุ่น

4. “Fine Pipe” ที่มีพื้นผิวด้านในที่มีความแม่นยําสูง
ในบรรดาท่อที่มีความแม่นยําสูง (fine pipe) ของเราเป็นท่อที่มีพื้นผิวด้านในที่ได้รับการปรับปรุงสําหรับท่อแคพิลลารีที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็ก โดยสามารถให้ค่า Ra 0.5 μm หรือต่ำกว่า โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.5 มม. ขึ้นไป

5. Fine Profile (ผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปโปรไฟล์)
โดยการควบคุมรูปทรงและอุปกรณ์ขึ้นรูปโครงที่มีความแข็งแกร่งสูงของเรา ทำให้ได้ Fine Profile ที่มีความแม่นยำสูง Fine Profile เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถลดต้นทุนการผลิตด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการตัด

• ภาพรวมนิทรรศการ

STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024 เป็นนิทรรศการเทคโนโลยีวัสดุล้ำสมัยจากทั่วโลก

วันที่: 11(พุธ) – 12 (พฤหัสบดี) กันยายน 2024

สถานที่: Singapore EXPO, Hall 6 F52-25

ที่อยู่: 1 Expo Drive, #02-01, Singapore 486150

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนิทรรศการ: stainless-steel-world-asia.com/
เว็บไชต์อย่างเป็นทางการของสถานที่: https://www.singaporeexpo.com.sg

• เว็บไซต์ของเราและกลุ่มบริษัทของเรา

NIPPON KINZOKU CO., LTD.:  https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/
NIPPON KINZOKU (THAILAND) CO., LTD.:  https://www.fact-link.com/mem_content.php?pl=th&mem=00003164&page=00013873
NIPPON KINZOKU (MALAYSIA) SDN.BHD.:  https://www.malaysiabrand.com.my/website/kinzoku/

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อความฉบับเต็ม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2024/09/NIPPON-KINZOKU-Exhibit-at-STAINLESS-STEEL-WORLD-ASIA-2024.pdf

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54115951/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายพัฒนาการขาย
NIPPON KINZOKU CO., LTD.

อีเมล์: nikkin-overseas@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

Gradiant ประกาศการเติบโตอย่างรวดเร็วของยอดขายด้วยยอดสั่งซื้อใหม่กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024

Logo

การเติบโตดัวกล่าวขับเคลื่อนโดยการขยายตัวทางภูมิศาสตร์และความก้าวหน้าเชิงกลยุทธ์ในภาคส่วนเซมิคอนดัคเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงข้อเสนอต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในตลาดอุตสาหกรรมอื่นๆ

BOSTON–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2024

Gradiant ผู้ให้บริการโซลูชันระดับโลกด้านการบำบัดน้ำและน้ำเสีย ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการปิดยอดสั่งซื้อใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 ได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยังคงสามารถรักษาสถิติจากยอดสั่งซื้อในไตรมาสแรกซึ่งทำสถิติสูงสุดที่ 337 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลประกอบการในครั้งนี้ถือเป็นปีที่ห้าที่สามารถทำยอดขายประจำปีได้มากขึ้นเป็นสองเท่า และเป็นผลจากการที่บริษัทขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ไปยังสหรัฐอเมริกาและมุ่งเน้นภาคส่วนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงที่สำคัญทั่วโลก

Gradiant ยังคงให้บริการแก่ผู้นำในอุตสาหกรรมสำคัญๆ ทั่วโลก ซึ่งกลายเป็นพันธมิตรด้านโซลูชันน้ำที่ทุกคนนึกถึง โดยมีการลงนามในข้อตกลงใหม่สำหรับการออกแบบ สร้าง และดำเนินการโรงงานบำบัดน้ำและรีไซเคิลน้ำเสียรายหลักในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย โดยคำสั่งซื้อใหม่จำนวนมากเป็นคำสั่งซื้อสำหรับโครงการที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย รวมถึงลูกค้าประจำที่มีการใช้โซลูชันของ Gradiant มากขึ้นเรื่อยๆ จากประสบการณ์เชิงบวกในเทคโนโลยีและทีมงาน คำสั่งซื้อใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 เป็นคำสั่งซื้อจากลูกค้าหลายราย รวมถึง Micron, STMicroelectronics, AB InBev, Coca-Cola, Nestle, Rio Tinto, Petronas, ADNOC และ Nama Water

ข้อตกลงเหล่านี้เน้นย้ำถึงความต้องการที่สูงขึ้นในภาคส่วนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงที่สำคัญ อาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมหนักสำหรับโซลูชันที่ช่วยลดการใช้น้ำ เรียกคืนทรัพยการที่มีค่า และฟื้นฟูน้ำเสียเพื่อคืนสู่ธรรมชาติ ข้อตกลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Gradiant ในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลกในภูมิทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และกฎระเบียบต่างๆ

อุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้น้ำทั่วโลกสูงถึง 50% Gradiant นำเสนอเทคโนโลยีแบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความท้าทายที่ซับซ้อนด้านน้ำและน้ำเสีย สำหรับอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก รวมถึงภาคส่วนอาหารและเครื่องดื่ม ยา การขุดเหมือง พลังงานหมุนเวียน และพลังงานไฟฟ้า โซลูชันของ Gradiant ช่วยให้พันธมิตรในภาคส่วนอุตสาหกรรมสามารถมั่นใจได้ว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานและความยั่งยืนด้วยต้นทุน CAPEX และ OPEX ที่ต่ำที่สุด

ความสำเร็จที่ต่อเนื่องกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นนที่เพิ่มขึ้นของ Gradiant อันเป็นผลมาจากการเพิ่ม CURE Chemicals ซึ่งเป็นชุดโซลูชันทางเคมีที่ปรับแต่งอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการดำเนินการด้านน้ำและน้ำเสียที่เพิ่งมีการประกาศเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานนี้ จากการเติบโตที่มีมาอย่างต่อเนื่อง GWI Global Water Summit อันทรงเกียรติได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ “Water Company of the Year (Distinction)” และ “Water Technology Idol'' ให้กับ Gradiant ในเดือนพฤษภาคม เพื่อยกย่องผลงานความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี

“ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรอุตสาหกรรมเทคโลโนยีขั้นสูงใหม่ๆ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ในแนวทางที่เน้นการแก้ไขปัญหาและนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีของเราที่ตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนสำหรับลูกค้าของเรา” Prakash Govindan, COO ของ Gradiant กล่าว “เรากำลังดำเนินการตามคำมั่นสัญญาของเราที่จะช่วยให้ภาคส่วนอุตสาหกรรมและชุมชนเจริญรุ่งเรืองเคียงคู่กัน และให้แน่ใจได้ว่า เราจะมีน้ำใช้สำหรับคนรุ่นต่อไป”

Gradiant ปรับเสริมแนวทางในไตรมาสที่ Q2 ด้วยการประกาศเชิงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้านการบำบัด PFAS และการผลิตลิเธียม

ในเดือนพฤษภาคม Gradiant มีการประกาศเปิดตัว ForeverGone โซลูชันแบบครบวงจรชุดแรกของอุตสาหกรรมในการกำจัดและทำลาย PFAS ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายอย่างถาวร ForeverGone ผลิตน้ำที่สอดคล้องหรือแม้กระทั่งเกินมาตรฐานสำหรับ PFAS ในน้ำดื่มล่าสุดของ US EPA โดยโซลูชันที่บูรณาการอย่างสมบูรณ์นี้สามารถช่วยในการกำจัด PFAS ได้อย่างครอบคลุมอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และใช้ต้นทุนโดยรวมต่ำที่สุด

นอกเหนือจากนั้น ในเดือนมิถุนายน Gradiant ประกาศเปิดตัว alkaLi ซึ่งเป็นบริษัทแยกย่อยที่แยกตัวออกต่างหาก ซึ่งมุ่งเน้นการเร่งขยายการผลิตลิเธียมเกรดแบตเตอรี่a alkaLi ดำเนินการโดย EC2 ซึ่งเป็นนวัตกรรมเกรด Gradiant ซึ่งเป็นโซลูชันแบบครบวงจรชุดแรกและโซลูชันเดียวในอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อสกัด แยกความเข้มข้น และแปลงลิเธียมเกรดแบตเตอรี่ alkaLi นำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกสำหรับการผลิตลิเธียมและตอบสนองเทรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภาคส่วนการใช้ไฟฟ้า รองรับความต้องการในการใช้ EV อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นบริษัทโซลูชันน้ำที่ไม่เหมือนใคร ด้วยชุดโซลูชันที่ครบวงจรซึ่งมีความแตกต่างและเป็นกรรมสิทธิ์สำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง ซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านน้ำ บริษัทให้บริการรองรับการดำเนินการที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจของลูกค้าในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ ในโลก รวมถึงเซมิคอนดัคเตอร์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียมและแร่ธาตุที่สำคัญ และพลังงานหมุนเวียน โซลูชันเชิงนวัตกรรมของ Gradiant ช่วยลดการใช้น้ำและปริมาณน้ำเสียที่มีการปล่อยออกมา เรียกคืนทรัพยากรที่มีค่า และเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำจืด สำนักงานใหญ่ที่บอสตันก่อตั้งขึ้นที่ MIT และมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อสำหรับองค์กร
Felix Wang
Gradiant
Global Head of Branding and PR
fwang@gradiant.com

แหล่งข้อมูล: Gradiant.

Techtronic Industries รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2024 ที่ดีเยี่ยม

Logo

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 39.9% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 550 ล้านเหรียญสหรัฐ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–06 สิงหาคม 2024

Techtronic Industries Co. Ltd. (“TTI” หรือ “กลุ่ม”) (รหัสหุ้น: 669, OTCQX: TTNDY, TTNDF) ผู้นำระดับโลกในด้านเครื่องมือระดับมืออาชีพไร้สาย เครื่องมือ DIY และอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง มีความยินดีที่จะประกาศการรวมบัญชีที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในช่วงหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024 TTI เพิ่มยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เป็น 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.3% ตามสกุลเงินที่รายงาน และ 6.6% ตามสกุลเงินท้องถิ่น ทาง MILWAUKEE มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลักในสกุลเงินท้องถิ่น และ RYOBI มีผลการดำเนินงานดีกว่าตลาด

  • TTI รายงานผลครึ่งปีแรกที่ดีเยี่ยม โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 6.3% เป็น 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15.7% เป็น 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ธุรกิจหลักของเราใน MILWAUKEE มียอดขายเพิ่มขึ้น 11.2% ตามสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งขยายตำแหน่งผู้นำของเราในฐานะแบรนด์เครื่องมือไฟฟ้าระดับมืออาชีพอันดับ 1 ทั่วโลก
  • อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 67จุดพื้นฐาน (bps) เป็น 39.9% ในครึ่งแรกของปี 2024
  • มีการสร้างกระแสเงินสดอิสระในครึ่งปีแรกเป็นประวัติการณ์ที่ 508 ล้านเหรียญสหรัฐ และปรับปรุงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (gearing) เป็น 9.2%
  • นาย Steven Philip Richman ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ TTI เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2024

ไฮไลท์ผลการดำเนินงานทางการเงินสำหรับครึ่งปีแรกประจำปี 2024

2024

2023

US$’

US$’

million

million

Changes

รายได้

7,312

6,879

+6.3%

อัตรากำไรขั้นต้น

39.9%

39.3%

+67 bps

กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT)

626

560

+11.8%

กำไรเจ้าของบริษัท

550

476

+15.7%

กำไรต่อหุ้น (EPS) (เซนต์สหรัฐ)

30.12

26.00

+15.8%

กระแสเงินสดอิสระ

508

301

+207 m

เงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น (ประมาณเซนต์สหรัฐ)

13.90

12.23

+13.7%

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 67 จุดพื้นฐาน (bps) เป็น 39.9% ในครึ่งปีแรกของปี 2024 เราปิดครึ่งปีแรกของปี 2024 ด้วยสต๊อกสินค้ามูลค่า 4,027 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 71 ล้านเหรียญสหรัฐจากสิ้นปี 2023 และลดลง 554 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว เรามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) จำนวน 626 ล้านเหรียญสหรัฐในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 11.8% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2023 อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายอยู่ที่ 8.6% ซึ่งเพิ่มขึ้น 42 จุดพื้นฐานจากครึ่งปีแรกของปี 2023 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15.7% เป็น 550 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสุทธิลดลง 34.0% เป็น 32 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนถึงการลดหนี้ที่มีต้นทุนสูงอย่างยอดเยี่ยมและการใช้ประโยชน์จากการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างมีประสิทธิภาพ กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 15.8% เป็น 30.12 เซนต์สหรัฐ ส่วนของทุนหมุนเวียนเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายดีขึ้น 409 จุดพื้นฐานเป็น 18.7% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน 2023 อัตราส่วนการกู้ยืม (gearing) ดีขึ้นเป็น 9.2% ขณะที่เรามีกระแสเงินสดอิสระในเชิงบวกจำนวน 508 ล้านเหรียญสหรัฐในครึ่งปีแรกของปี 2024 ซึ่งดีขึ้น 207 ล้านเหรียญสหรัฐจากครึ่งปีแรกของปี 2023 เรามีตำแหน่งที่ดีในการขับเคลื่อนการแปลงกระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่งในปีต่อๆ ไป

กลุ่มอุปกรณ์พลังงาน TTI มีการเติบโตของยอดขาย 7.1% ตามสกุลเงินท้องถิ่น เป็น 6.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ธุรกิจ MILWAUKEE มีการเติบโตเป็นเลขหลักเดียวในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีการเพิ่มขึ้น 11.2% ตามสกุลเงินท้องถิ่น กลุ่มธุรกิจของเราที่เน้นผู้บริโภคมีผลประกอบการที่ดีในครึ่งปีแรกของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในกลุ่มอุปกรณ์กลางแจ้ง RYOBI มีการเติบโตของยอดขายในระดับกลางของเลขหลักเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ธุรกิจการทำความสะอาดและการดูแลพื้นของเราให้ผลกำไรที่ดีขึ้น 9.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และรายได้ 428 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ที่สร้างขึ้นในครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว

คณะกรรมการได้มีมติประกาศเงินปันผลระหว่างกาลที่ 108.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 13.90 เซนต์สหรัฐ) (ปี 2023: 95.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 12.23 เซนต์สหรัฐ)) ต่อหุ้น สำหรับช่วงหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024 เงินปันผลระหว่างกาลจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นที่ลงทะเบียนในบัญชีสมาชิกของบริษัท ณ วันที่ 6 กันยายน 2024 คาดว่าเงินปันผลระหว่างกาลจะจ่ายในหรือประมาณวันที่ 19 กันยายน 2024

นาย Horst Julius Pudwill ประธานของ TTI กล่าวว่า “เรามีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมในครึ่งปีแรกของปี 2024 รวมถึงการสร้างกระแสเงินสดอิสระที่ดีงามและการเสริมสร้างงบดุลของเราโดยการจัดการทุนหมุนเวียนอย่างมีระเบียบ ด้วยการเลื่อนตำแหน่ง Steven Philip Richman เป็น CEO และกลุ่มบุคลากรที่มีความสามารถที่สนับสนุนเขา เรามีตำแหน่งที่ดีเยี่ยมในการเติบโตของตลาดโดยรวมและขยายความเป็นผู้นำของเรา”

นาย Steven Philip Richman CEO ของ TTI กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของเราสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายตำแหน่งความเป็นผู้นำในตลาดภายในกลุ่มธุรกิจ MILWAUKEE และกลุ่มผู้บริโภค พร้อมกับการแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามุ่งมั่นต่อกลยุทธ์ของเราที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงบุคลากรที่ยอดเยี่ยมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเรา”

เกี่ยวกับ TTI

TTI เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีไร้สายที่ครอบคลุมเครื่องมือพลังงาน อุปกรณ์พลังงานกลางแจ้ง การทำความสะอาดพื้นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สำหรับผู้ใช้งาน DIY ผู้บริโภค มืออาชีพ และอุตสาหกรรมในบ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมีพื้นฐานที่สร้างขึ้นจากสี่ปัจจัยกลยุทธ์หลัก ได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ที่นวัตกรรม บุคลากรที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการค้นคว้านวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งได้นำ TTI ไปสู่ตำแหน่งแนวหน้าของอุตสาหกรรมขณะรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่สูง แบรนด์ที่ทรงพลังของ TTI รวมถึง MILWAUKEE, RYOBI และ AEG เครื่องมือพลังงาน อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือช่าง ผลิตภัณฑ์กลางแจ้ง RYOBI ผลิตภัณฑ์จัดแนวและวัดของ EMPIRE และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น HOOVER, VAX, DIRT DEVIL และ ORECK

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งฮ่องกง จำกัด ในปี 1990 โดยเป็นหนึ่งในหุ้นองค์ประกอบของดัชนี Hang Seng ดัชนีเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนขององค์กร Hang Seng ดัชนี FTSE RAFI™ All-World 3000 ดัชนี FTSE4Good Developed และ ดัชนี MSCI ACWI บริษัทยังซื้อขายในตลาดที่ดีที่สุดของ OTCQX ภายใต้สัญลักษณ์ “TTNDY” และ “TTNDF” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่อยู่ในรายการนอกเหนือจาก AEG, OTCQX และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (publ.) และใช้ภายใต้ใบอนุญาต OTCQX เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ OTC Markets Group Inc. RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับการสอบถามข้อมูลนักลงทุนสัมพันธ์:

Main Contact
TTI Investor Relations – North America
Ross Gilardi
รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์
Email: ross.gilardi@ttihq.com

Asia/Pacific
TTI Investor Relations – Asia
Jimmy Li
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
Email: jimmy.li@tti.com.hk

ที่มา: Techtronic Industries Co. Ltd.

บาฮามาสเปิดตัวกฎหมายการแปลงสินทรัพย์ดิจิทัล: พระราชบัญญัติ DARE 2024

Logo

บาฮามาสก้าวนำด้วยพระราชบัญญัติ DARE 2024

NASSAU, The Bahamas–(BUSINESS WIRE)–31 กรกฎาคม 2024

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งบาฮามาส (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์) ประกาศในวันนี้ว่า พระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักทรัพย์จดทะเบียน 2024 (DARE 2024) ผ่านการรับรองเป็นกฏหมายโดยรัฐสภาของบาฮามาส ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างตำแหน่งของประเทศในฐานะผู้นำด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล กฎหมายนี้สร้างขึ้นบนรากฐานที่กำกับโดยพระราชบัญญัติ DARE 2020 โดยนำเสนอการปฏิรูปที่ครอบคลุมซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของสินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดสกุลเงินดิจิทัล

“DARE 2024 ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการบริหารความเสี่ยงอย่างเสถียร” Christina Rolle กรรมการบริหารของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ กล่าว “เรามีการสร้างกรอบการทำงานที่ไม่เพียงเน้นการคุ้มครองนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบอีกด้วย เสริมให้บาฮามาสเป็นแนวหน้าในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก”

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ใช้แนวทางเชิงรุกสำหรับ DARE 2024 เพื่อรับรองความสอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากลปัจจุบัน และคำแนะนำของหน่วยงานควบคุมมาตรฐาน รวมถึงมาตรฐานของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ระหว่างประเทศสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล และคำแนะนำของคณะปฏิบัติการทางการเงิน กฏหมายใหม่นี้ยังเป็นผลจากการเปรียบเทียบความก้าวหน้าของกฎหมายและระเบียบควบคุมระดับโลก การพัฒนาความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และการปรึกษาหารือกับผู้ถือหุ้นและอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง

จุดเด่นสำคัญของ DARE 2024 ได้แก่:

  1. ขยายขอบเขตปัจจุบัน กฏหมายครอบคลุมกิจกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างขึ้น รวมถึงบริการให้คำปรึกษาหรือการบริหารจัดการ อนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัล และบริการสเตคกิ้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ยังมีความยืดหยุ่นในการเพิ่มกิจกรรมเพิ่มเติมตามการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค
  2. ข้อกำหนดการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลขั้นสูงการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการคุ้มครองนักลงทุนและผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อกำหนดด้านระบบและการควบคุมที่เข้มงวด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสมบูรณ์และความปลอดภัยของธุรกรรม
  3. กรอบการทำงานดูแลสินทรัพย์ที่เสถียร: บทบัญญัติใหม่กำหนดให้มีการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลหรือบริการดูแลกระเป๋าเงินภายใต้ DARE 2024 และเพิ่มการคุ้มครองผลประโยชน์ของลูกค้าโดยกำหนดให้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ นอกเหนือจากบทบัญญัติอื่นๆ
  4. กรอบการทำงานสเตคกิ้งDARE 2024 เปิดตัวระบบการเปิดเผยข้อมูลแบบใหม่สำหรับสเตคกิ้งสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นของลูกค้า หรือการดำเนินการ หรือการบริหารจัดการกลุ่มสเตคกิ้งในฐานะธุรกิจ
  5. กรอบการทำงาน Stablecoin ที่ครอบคลุมพระราชบัญญัตินี้กำหนดคำจำกัดความที่ชัดเจนสำหรับ stablecoins เพื่อรองรับการลงทะเบียน stablecoins ที่มีอยู่ ระบุรูปแบบที่ได้รับการยอมรับสำหรับสินทรัพย์สำรอง และกำหนดข้อกำหนดใหม่สำหรับการดูแลและการบริหารจัดการ การแยก การรายงานและการไถ่ถอนสินทรัพย์สำรอง ห้ามออก stablecoin แบบอัลกอริทึมโดยเด็ดขาด
  6. ผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัลมาตรการคุ้มครองนักลงทุนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยการรวมมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับผู้ออกสินทรัพย์ดิจิทัล นอกเหนือไปจากข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลและรายงานทางการเงินใหม่

ในบรรดาข้อกำหนดที่โดดเด่นอื่นๆ ของ DARE 2024 ได้แก่ มาตรฐานที่เข้มงวดในการจัดการกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง กฏหมายฉบับใหม่ยังมีการระบุการจำแนกประเภทของโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนได้ว่าเป็นสินทรัพย์ทางการเงินหรือของผู้บริโภค ระบุข้อกำหนดด้านสภาพคล่องและการรายงาน ห้ามออกโทเค็นส่วนตัว และแนะนำข้อจำกัดบางประการในการขุดโทเค็น

คาดว่าการนำ DARE 2024 มาใช้จะช่วยรักษากรอบการกำกับดูแลที่เสถียรและปฏิบัติได้จริงสำหรับผู้ประกอบการด้าน fintech รายใหม่และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่จัดตั้งขึ้นในบาฮามาส ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับนานาชาติชั้นนำ กฏหมายฉบับใหม่นี้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากรอบการกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบการคุ้มครอบที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคและนักลงทุน

พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ 2024 ผ่านการรับรองให้เป็นกฏหมายในบาฮามาส พร้อมกับ DARE 2024 โดยปรับปรุงระบอบการกำกับดูแลสำหรับอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เพื่อให้แน่ใจในกรอบการทำงานที่เสถียรและคล่องตัวมีความสอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกและแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากล

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DARE 2024 และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในบาฮามาส หรือพระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ 2024 ได้ที่: https://www.scb.gov.bs/

ข้อมูลบรรณาธิการ:

  1. สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักทรัพย์ที่ลงทะเบียน 2024 ได้ที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ (www.scb.gov.bs/dare-act-2024-information/)
  2. สามารถดูพระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ 2024 ได้ที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ (www.scb.gov.bs/legislative-framework/acts-and-regulations/)
  3. นอกเหนือจากพระราชบัญญัติ SIA และ DARE แล้ว คณะกรรมาธิการยังรับรองพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อการลงทุน 2019 พระราชบัญญัติผู้ให้บริการทางการเงินและองค์กร 2020 และพระราชบัญญัติการซื้อเครดิตคาร์บอน 2022

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Shari Smith
Vice President, Burson
shari.smith@bursonglobal.com

แหล่งข้อมูล: Securities Commission of The Bahamas

ทีมสนับสนุนตำรวจจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ช่วยในการรักษาความปลอดภัยในโอลิมปิกปารีส 2024

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–30 กรกฎาคม 2024

ทีมสนับสนุนตำรวจจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เริ่มภารกิจเพื่อช่วยตำรวจฝรั่งเศสในการรักษาความปลอดภัยในโอลิมปิกปารีส 2024 ซึ่งได้รับการเปิดตัวเมื่อวันศุกร์โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmauel Macron การมีส่วนร่วมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการรักษาความปลอดภัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “งานมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อความร่วมมือระหว่างประเทศและการสนับสนุนงานขนาดใหญ่เพื่อให้ความปลอดภัย ความมั่นคง และความเสถียรของชุมชนทั่วโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นเสาหลักเชิงกลยุทธ์ในวิสัยทัศน์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

สมาชิกทีมตำรวจเอมิเรตส์ได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวด ก่อนส่งกำลังไปยังปารีส เพื่อช่วยเหลือตำรวจฝรั่งเศสในการรักษาความปลอดภัยในสนามกีฬา ถนนทางเข้า และสถานที่รวมกลุ่มของทีมและฝูงชนขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเข้าร่วมในโอลิมปิก 2024 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากทั่วทุกมุมโลก

หน่วยตำรวจสุนัข (K9) ได้ตรวจสอบพื้นที่ที่กำหนดตามการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นและการทำแผนที่อย่างละเอียด ทีมงานเฉพาะทางได้ปฏิบัติหน้าที่เดินลาดตระเวนในหลายส่วนของกรุงปารีส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมือที่ลึกซึ้งและความสัมพันธ์อันโดดเด่นระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส

การมีส่วนร่วมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการรักษาความปลอดภัยในโอลิมปิกปารีส 2024 เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพและความเป็นมืออาชีพของบุคลากรตำรวจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้คำแนะนำและการสนับสนุนของผู้นำระดับสูง ซึ่งจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ทันสมัยและการฝึกอบรมระดับโลกให้แก่กองกำลังเพื่อพัฒนาทักษะของพวกเขาตามมาตรฐานสากลที่สูงที่สุด ซึ่งจะช่วยให้กองกำลังตำรวจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สามารถแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดกับหน่วยงานระหว่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในด้านต่างๆ

ทีมสนับสนุนตำรวจเอมิเรตส์ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หญิงที่มีประสบการณ์จากกระทรวงมหาดไทย และผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณวุฒิและได้รับการฝึกอบรม ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ ของตำรวจ หน่วยสุนัขตำรวจ (K9) และทีมสนับสนุนด้านความปลอดภัย การมีส่วนร่วมของพวกเขาจะช่วยรวบรวมชื่อเสียงที่ดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบทบาทผู้นำในความร่วมมือและการปฏิบัติการร่วมระดับนานาชาติ

ติดต่อเรา:

Facebook
Twitter
YouTube
Instagram

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54101089/en

ติดต่อ

UAE Ministry of Interior
Raed Al Ajlouni, +971504702790
Or
Amanda Ayass, +971567225338
amanda@securitymedia.ae

ที่มา: UAE Ministry of Interior.

ผู้คน ความหลงใหล โลก: Mary Kay เผยแพร่รายงานความยั่งยืนปี 2024

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–23 กรกฎาคม 2024

บริษัท Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกในด้านความยั่งยืนและการสนับสนุนขององค์กร ในวันนี้ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี 2024 รายงานซึ่งจัดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างและดูแลรักษาโมเดลธุรกิจที่ยกระดับชีวิตของสตรีและสนับสนุนชุมชนไปพร้อมๆ กับการปกป้องโลกของเรา

Mary Kay’s 2024 Sustainability report, released in July, is organized by environmental, social, and economic impact. It underscores the company’s commitment to creating and nurturing a business model that enriches women’s lives and supports communities while protecting our planet. (Photo credit: Mary Kay).

รายงานความยั่งยืนของ Mary Kay ปี 2024 ซึ่งเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม มีการจัดหมวดหมู่ตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างและดูแลรักษารูปแบบธุรกิจที่เสริมสร้างชีวิตของผู้หญิงและสนับสนุนชุมชนไปพร้อม ๆ กับการปกป้องโลกของเรา (เครดิตภาพ: Mary Kay)

“ความยั่งยืนมีรากฐานที่ลึกซึ้งในเรื่องราวของ Mary Kay” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เราอยากจะบอกว่าเราทำมันก่อนที่มันจะ 'เป็นที่นิยม' คุณ Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งอันโด่งดังของเรามีความหลงใหลในเรื่องนี้ ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโลก แต่ยังปกป้องโลกอีกด้วย ฉันภูมิใจในงานที่เราได้ทำสำเร็จในปีนี้และทุกปีในการทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง ฉันคิดว่าเธอคงจะภูมิใจเช่นกัน”

ในโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว Mary Kay ยืนอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลง โดยสนับสนุนประเด็นของผู้หญิง พร้อมตระหนักถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่บรรดาผู้หญิงมีในการกำหนดรูปแบบเศรษฐกิจโลกของเรา และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญ

รายงานปี 2024 เน้นย้ำคำมั่นสัญญาของ Mary Kay ในการตัดสินใจที่เหมาะสมสำหรับโลกของเราและผู้คน:

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

  • การดูแลน้ำ: ด้วยการร่วมมือกับ The Nature Conservancy มานานกว่า 36 ปี Mary Kay สนับสนุนโครงการริเริ่ม “Super Reefs” เพื่อปกป้องแนวปะการังที่มีความยืดหยุ่น
  • การอนุรักษ์ทรัพยากร: ด้วยความร่วมมือ 16 ปีกับ Arbor Day Foundation Mary Kay ได้สนับสนุนการปลูกต้นไม้มากกว่า 1.4 ล้านต้นในโครงการปลูกป่าในเก้าประเทศ
  • การจัดหาอย่างยั่งยืน: ด้วยการเข้าร่วม Global Shea Alliance ทำให้ Mary Kay ส่งเสริมความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจสำหรับผู้หญิงผู้เก็บเกี่ยวเมล็ดเชีย 16 ล้านคนในแอฟริกาตะวันตก

ความยั่งยืนทางสังคม

  • Pink Changing Lives: Mary Kay ได้บริจาคเงินกว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับโครงการต่าง ๆ ที่เสริมสร้างชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่กำหนดผ่านโครงการนี้
  • Women’s Empowerment: ในวันสตรีสากล Mary Kay เข้าร่วม Women's Empowerment Principles (WEPs) ซึ่งเป็นชุดหลักการที่นำเสนอคำแนะนำแก่ธุรกิจเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมพลังของผู้หญิงในสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน ผู้หญิงมากกว่า 600,000 รายได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรม กิจกรรม และโปรแกรมที่นำเสนอโดย Women’s Entrepreneurship Accelerator ซึ่งเปิดตัวโดย Mary Kay ด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานของสหประชาชาติหกแห่งในปี 2019
  • การส่งเสริมสตรีใน STEM: ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผู้นำสตรี STEM รุ่นต่อไป ทาง Mary Kay ได้มอบทุน 29 ทุน รวมมูลค่าเกือบ 195,000 ดอลลาร์มาตั้งแต่ปี 2020

ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

  • เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี: วิสัยทัศน์ของ Mary Kay Ash เกี่ยวกับการยกระดับชีวิตของสตรียังคงดำเนินต่อไป Mary Kay ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจที่ครอบครัวเป็นเจ้าของและบริหารอยู่ได้เติบโตเป็นแบรนด์ระดับโลกด้วยพนักงานเกือบ 4,000 คน และที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay หลายล้านคนในตลาดมากกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีที่ Mary Kay ได้มอบโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้หญิงทั่วโลก บริษัทได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางหลากสีสันในโลกโดย Euromonitor International1
  • นวัตกรรมดิจิทัล: Mary Kay ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระผ่านเครื่องมือดิจิทัล รวมถึงแอปพลิเคชันความเป็นจริงเสริม (AR) และแคตตาล็อกแบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งช่วยให้พวกเขาเป็นเลิศในธุรกิจและตระหนักถึงความฝันของพวกเขา
  • การสนับสนุนเพื่อความเท่าเทียมทางเพศใน AI: Mary Kay บุกเบิกการวิจัยเพื่อขจัดอคติทางเพศในเทคโนโลยี AI โดยร่วมมือกับ Equal Rights Trust

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก การมีส่วนร่วม และผลกระทบของ Mary Kay สามารถดูรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

ที่ผ่านมา จากนี้และตลอดไป Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกแบบดั้งเดิม ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางที่มีสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราสำหรับคนรุ่นอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการทารุณกรรมในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน X (เดิมชื่อ Twitter)

“แหล่งที่มา Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care 2023 Edition, value sales at RSP, 2022 data”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/ 54098031/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom 
972.687.5332 or media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.

AV Access เปิดตัว eShare W80 ระบบประชุมไร้สายล้ำยุคที่งาน InfoComm Asia 2024 ในประเทศไทย

Logo

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–18 กรกฎาคม 2024

AV Access ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชัน Pro AV และ AV over IP ยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงการเข้าร่วมหนึ่งในงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดของภูมิภาคอย่างงาน InfoComm Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทยระหว่างวันที่ 17 ถึง 19 กรกฎาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

eShare W80 4K Wireless Conferencing System for Video Presentation & Collaboration, Dual HDMI out, Multiview, No Software Required (Photo: Business Wire)

ระบบประชุมไร้สาย eShare W80 ความละเอียด 4K สำหรับการนำเสนอและการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอ, เอาต์พุต Dual HDMI, การแสดงผลแบบหลายมุมมอง, ไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ (ภาพ: Business Wire)

AV Access จัดแสดงผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยล่าสุดที่บูธ J40 ซึ่งประกอบด้วยระบบประชุมไร้สาย eShare W80 ที่ทุกคนตั้งตารอ, Docking Station สำหรับสวิตช์ KVM ซีรีส์ iDock และโซลูชัน 4K HDMI over IP ซึ่งโซลูชันที่หลากหลายนี้เป็นสิ่งที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AV Access ในการมอบเทคโนโลยีภาพและเสียงขั้นสูงสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

การประชุมไร้สายที่ทำได้ง่ายเพียงคลิกเดียว

หนึ่งในไฮไลท์ของการแสดงผลิตภัณฑ์จาก AV Access คือระบบประชุมไร้สาย eShare W80 ซึ่งพลิกโฉมการแชร์เนื้อหาในที่ประชุม โดยผู้ใช้สามารถฉายภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตนไปที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ได้ง่ายๆ เพียงใช้การเชื่อมต่อ HDMI หรือเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน AirPlay, Miracast หรือดองเกิล eShare D20 eShare W80 แตกต่างจาก Barco Clickshare ตรงที่ eShare W80 เป็นโซลูชันแบบเสียบแล้วใช้งานได้ทันที (Plug-and-Play) อย่างแท้จริง คุณไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์หรือไดรเวอร์ และมั่นใจได้ว่าประสบการณ์ผู้ใช้จะราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ

ดองเกิล eShare D20 แบบ USB-C เป็นอุปกรณ์ BYOM (จัดประชุมด้วยอุปกรณ์ส่วนตัว) ที่มีความพิเศษ เพียงเชื่อมต่อกับแล็ปท็อปของคุณ กดปุ่มแคสต์ จากนั้นคุณก็แชร์หน้าจอแบบไร้สายได้ทันที และยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วง USB 3.0 แบบไร้สายโดยใช้ปุ่มการประชุมของดองเกิลเมื่อเชื่อมต่อกับ eShare W80 ได้อีกด้วย” Bill Liao, CTO ของ AV Access กล่าว

นอกจากนี้ eShare W80 ยังสามารถทำงานร่วมกับเว็บแคมซีรีส์ BizEye และวิดีโอบาร์/สปีกเกอร์โฟนซีรีส์ AnyCo ของ AV Access หรืออุปกรณ์ USB 3.0 บุคคลที่สามจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนในระบบ AV ที่มีอยู่แล้ว และในขณะเดียวกันก็ยกระดับขีดความสามารถในการประชุมด้วยเทคโนโลยีล่าสุด

คุณสมบัติขั้นสูงเพิ่มเติม: Dual HDMI และโหมดการแสดงผลแบบหลายมุมมอง

ระบบประชุมไร้สาย eShare W80 ที่มาพร้อมกับพอร์ตอินพุตและเอาต์พุตแบบ Dual HDMI ช่วยลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อกับพีซีหรือแล็ปท็อปในห้อง อีกทั้งรองรับการแสดงผลพร้อมกันบน 2 หน้าจอ ซึ่งคุณสมบัตินี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้มองเห็นเพื่อนร่วมงานที่ร่วมประชุมทางไกลได้อย่างชัดเจนขณะนำเสนอ นอกจากนี้ โหมดการแสดงผลแบบหลายมุมมองยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปรียบเทียบและวิเคราะห์ 2 เนื้อหาข้างๆ กัน ซึ่งช่วยยกระดับการร่วมกันอภิปรายให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น

“เราตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมในงาน InfoComm Asia 2024 และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของเรา” Bill กล่าว “ซีรีส์ eShare ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและใช้งานง่ายให้กับผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลก ผลิตภัณฑ์นี้คือทางเลือกนอกเหนือจาก Clickshare ที่เหมาะสำหรับใช้ในการนำเสนอและการประชุมแบบไร้สาย”

เกี่ยวกับ AV Access

AV Access คือผู้ผลิตระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์ Pro AV และ AV over IP ขั้นสูง ซึ่งประกอบด้วยตัวขยายสัญญาณ, ตัวแยกสัญญาณ, ตัวสลับ HDMI/KVM, สวิตช์ KVM โซลูชัน AV over IP, โซลูชันห้องประชุมไร้สาย ฯลฯ โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท AV Access ได้ทุ่มเทเพื่อมอบประสบการณ์ด้านภาพและเสียงที่ดีที่สุดแก่ผู้คนจำนวนมากด้วยผลิตภัณฑ์ AV ที่มีคุณภาพและผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดีในราคาที่สมเหตุสมผล AV Access จะไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมอื่นๆ ในแวดวงสมาร์ทโฮม องค์กร การศึกษา การค้าปลีก ความบันเทิง การดูแลสุขภาพ ฯลฯ การวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง ห่วงโซ่อุปทานที่ทรงประสิทธิภาพ และทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ทำให้ AV Access พร้อมจะเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ของคุณ! คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้โดยไปที่ www.avaccess.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54094940/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ
ชื่อบริษัท: Actions Global (US) Inc
บุคคลสำหรับติดต่อ: Shane Jiang
อีเมล: shane@avaccess.com
เว็บไซต์: https://www.avaccess.com/

แหล่งข้อมูล: AV Access