พิธีประดับไฟย่านตลาดนิชิ-ชินจูกุ แหล่งไฟประดับแห่งใหม่ในโตเกียว จัดขึ้นเพื่อตกแต่งย่านนิชิ-ชินจูกุยามค่ำคืนให้สว่างเจิดจ้า!

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 ธันวาคม 2024

“โปรเจกต์โตเกียวยามค่ำคืน” หรือ “TOKYO NIGHTTIME PROJECT” เปิดตัวแล้วในย่านนิชิ-ชินจูกุในเขตชินจูกุ กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความครึกครื้นให้กับการท่องเที่ยวยามค่ำคืน โปรเจกต์นี้ดำเนินการโดยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในย่านใกล้เคียงเพื่อเติมสีสันให้กับยามค่ำคืนในย่านนิชิ-ชินจูกุ ซึ่งเป็นย่านที่ผสานไว้ซึ่งประเพณีและนวัตกรรมใหม่ พร้อมทั้งยังมีการแสดงแสงสีและกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศอันรื่นเริงให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม

The Illuminations (Photo: Business Wire)

ไฟประดับ (รูปภาพ: Business Wire)

“ตลาดไฟประดับย่านนิชิ-ชินจูกุ” หรือ “Nishi-Shinjuku Illumination Market” เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2024 หลอดไฟ LED สีทองแชมเปญประมาณ 200,000 ดวงประดับถนนชูโอโดริ รวมถึงตึกศาลาว่าการกรุงโตเกียว โดยทอดยาวไปตามถนนถึง 200 เมตร เพื่อสร้างบรรยากาศยามค่ำคืนแสนสวย ซึ่งเป็นแหล่งไฟประดับแหล่งใหม่ในโตเกียว  

ในพิธีประดับไฟ นักกีฬายูโดอย่างฮิฟูมิ อาเบะและอูต้า อาเบะจาก Park24 ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญ และกดปุ่มเปิดไฟหลังนับถอยหลัง จากนั้นทั้งท้องถนนก็สว่างไสวขึ้นมาด้วยแสงไฟสีทองแชมเปญระยิบระยับ

ภาพรวม TOKYO NIGHTTIME PROJECT

  • ผู้สนับสนุน: คณะกรรมการบริหาร Tokyo Nighttime Project
  • ผู้ร่วมสนับสนุน: Tokyo Metropolitan Government
  • โปรแกรม:
    ตลาดไฟประดับย่านนิชิ-ชินจูกุ (Nishi-Shinjuku Illumination Market)
    งานนับถอยหลังวันสิ้นปี “Happy New Year Tokyo 2025”
  • วันที่: วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2024 ถึงวันจันทร์/วันหยุดราชการที่ 13 มกราคม 2025
  • เว็บไซต์ TOKYO NIGHTTIME PROJECT อย่างเป็นทางการ
    https://tokyo-nighttime-project.jp/en/
  • ภาพรวมตลาดไฟประดับย่านนิชิ-ชินจูกุ
    นอกเหนือจากไฟประดับแล้ว ยังมีรถขายอาหารและตลาดเข้าร่วมเพื่อขายอาหารและสินค้าที่แสดงถึงวัฒนธรรมยุคเอโดะ หากต้องการดูรายละเอียด โปรดไปที่เว็บไซต์ของงาน https://tokyo-nighttime-project.jp/en/market/
  • ภาพรวมงานนับถอยหลังวันสิ้นปี “Happy New Year Tokyo 2025”
    งาน “Happy New Year Tokyo 2025” จะจัดขึ้นในวันสิ้นปีเพื่อส่งท้ายปี ซึ่งเป็นงานนับถอยหลังให้หลาย ๆ คนเข้าร่วม รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในโตเกียวและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของกรุงโตเกียวและร่วมตั้งตารอปีใหม่ไปด้วยกัน
    ด้วยธีมที่ผสานรวมประเพณีและนวัตกรรมใหม่เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นจุดขายของกรุงโตเกียว จึงจะมีการฉายแสงสี การแสดงสดโดยมือกลองและดีเจชาวญี่ปุ่น รวมถึงทอล์กโชว์ของแขกผู้รับเชิญ นอกเหนือจากนี้ยังจะมีการฉายคำขอพรปีใหม่จากผู้ร่วมงานในรูปแบบเอมะ (แผ่นป้ายขอพร) แบบดิจิทัลอีกด้วย
    หากต้องการดูรายละเอียด โปรดไปที่เว็บไซต์ของงาน https://tokyo-nighttime-project.jp/en/countdown/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54160719/en
ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ
TOKYO NIGHTTIME PROJECT Public relations office
PR Consulting Dentsu Inc.
Murai honoka.murai@dentsuprc.co.jp
Ida saori.ida@dentsuprc.co.jp

แหล่งที่มา: Tokyo Metropolitan Government



Kura Sushi เตรียมนำเสนอเมนูตัวแทนจาก 70 ประเทศและภูมิภาค ที่เข้าร่วมงาน Osaka-Kansai Expo!

Logo

เปิดตัวเมนูพิเศษ 70 Expo ยังมีปลอกซูชิป้องกันเชื้อแบคทีเรีย

พร้อมดีไซน์เฉพาะงาน Expo จำหน่ายด้วย

โอซาก้า ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2024

Kura Sushi Inc. (สํานักงานใหญ่: เมืองซาไก จังหวัดโอซาก้า) หนึ่งในเครือร้านซูชิสายพานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมว่าบริษัทเตรียมนําเสนอเมนูใหม่ 70 รายการในร้านอาหารของบริษัทที่จะเปิดตัวในงาน “Osaka-Kansai Expo” ซึ่งจะเปิดในวันที่ 13 เมษายนปีหน้าที่เมืองยูเมะชิมะ โอซาก้า โดยมีอาหารจาก 70 ประเทศและภูมิภาคที่มีกําหนดเข้าร่วมงาน Expo

Antibacterial Sushi Covers with Expo-specific Designs (Photo: Business Wire)

ปลอกซูชิป้องกันเชื้อแบคทีเรียพร้อมดีไซน์เฉพาะงาน Expo (ภาพ: Business Wire)

บริษัทเป็นเครือร้านซูชิสายพานรายใหญ่เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ให้บริการซูชิบนสายพานในร้านอาหารทุกแห่งของบริษัท ภายใต้แนวคิด ” Revolving Belts Unite the World” บริษัทจะเปิดร้านอาหารในงาน Osaka-Kansai Expo จํานวน 338 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และสายพานยาวประมาณ 135 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท

ด้วยความตั้งใจที่จะนํารอยยิ้มมาสู่ใบหน้าของผู้เยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลกและมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สนุกสนานแก่พวกเขา “Hands・Hands Project” โครงการที่จะนําเสนอเมนูพิเศษ 70 Expo ที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศและภูมิภาคที่มีกําหนดเข้าร่วมงาน  Expo โดยเมนูนี้ได้รับการพัฒนาโดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้พัฒนาเมนูเหล่านี้โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างรสชาติที่แท้จริงของประเทศและภูมิภาค เมนู 24 รายการถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่หลังจากได้รับชิมและให้คําแนะนําจากเอกอัครราชทูตและบุคคลอื่น ๆ จากประเทศเหล่านี้ภายใต้ความร่วมมือกับสถานทูตแต่ละแห่ง

นอกจากนี้ ปลอกซูชิป้องกันเชื้อแบคทีเรีย “Mr. Freshness” ที่ใช้ในเมนูพิเศษนี้ยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ โดยมีส่วนเชื่อมต่อกันเป็นมือสีแดงและสีน้ำเงินสั่น ซึ่งเป็นสีประจำงาน Expo ด้วยการเสิร์ฟเมนูพิเศษเคียงคู่กับเมนูซูชิยอดนิยมของบริษัท ซูชิและอาหารจากประเทศและภูมิภาคต่างๆ จะไหลมารวมกันต่อหน้าลูกค้า นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารแล้ว แขกจะยังได้สัมผัสประสบการณ์ราวกับว่าพวกเขากําลังเยี่ยมชมศาลาที่สํารวจวัฒนธรรมการทําอาหารของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เพื่อเป็นการสร้างแรงผลักดันให้กับงาน Expo จะมีการนําเสนอเมนูพิเศษในงาน Expo ล่วงหน้าที่ร้านอาหารประมาณ 550 แห่งทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 (วันศุกร์) โดยแต่ละร้านจะนําเสนอหนึ่งรายการจากเมนู 70 รายการที่แตกต่างกัน ราวกับว่าแต่ละร้านเป็น “มินิพาวิลเลียน” ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของประเทศนั้นๆ เนื่องจากร้านค้าแต่ละแห่งในแต่ละพื้นที่จะนําเสนอเมนูที่แตกต่างกันจากประเทศหรือภูมิภาคที่แตกต่างกัน ลูกค้าจะสามารถเพลิดเพลินกับเมนูที่ร้าน Kura Sushi ในท้องถิ่นของตน หรือสามารถเพลิดเพลินกับทั้ง 70 รายการในเมนูพิเศษของ Expo โดยไปที่ร้าน Kura Sushi ต่างๆ ในญี่ปุ่น

Kaitenzushi (ร้านซูชิสายพาน) เป็นที่กล่าวขานกันทั่วญี่ปุ่นหลังจากได้รับความสนใจในงาน Osaka Expo ในปี 1970 นับตั้งแต่นั้นมา Kaitenzushi ได้ขยายขนาดตลาดอย่างต่อเนื่องพร้อมกับพัฒนาไปในรูปแบบต่างๆ ตลอดประวัติศาสตร์ 50 ปี และปัจจุบันเป็นหมวดหมู่ธุรกิจชั้นนําในวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมบริการอาหารของญี่ปุ่น โดยมียอดขายทะลุ 800 พันล้านเยน ในอนาคต บริษัทจะยังคงใช้จุดแข็งซึ่งเป็นสายพานต่อไป เพื่อมอบความเพลิดเพลินที่น่าจดจําให้กับลูกค้าในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งมีเพียง Kura Sushi เท่านั้นที่สามารถนําเสนอได้ ซึ่งจะเป็นการขยายรูปแบบธุรกิจซูชิแบบสายพาน ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่มีต้นกําเนิดในญี่ปุ่นไปทั่วโลก

คุณ Makoto Tanaka รองประธานบริหารของ Kura Sushi ได้จัดงานแถลงข่าวในวันงาน และกล่าวว่า “ทุกวันนี้โลกเต็มไปด้วยปัญหาสังคมต่างๆ มากมายที่ยากจะแก้ไข ได้ แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ เราหวังว่าร้านซูชิแบบสายพานซึ่งเชื่อมต่อกันด้วย “สายพานที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดสิ้นสุด” จะสามารถเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกที่มาเยี่ยมชมงาน Expo ให้มาสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สนุกสนานพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า เราหวังว่าผู้เยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงลูกค้าชาวญี่ปุ่น ตลอดจนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก จะเพลิดเพลินไปกับเมนูที่เราได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพยายามร่วมกันของฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อสร้างสรรค์รสชาติต้นตำรับของโลกขึ้นมาใหม่”

ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน Kura Sushi Inc. เปิดร้านอาหาร 547 แห่งในญี่ปุ่น 70 แห่งในสหรัฐอเมริกา 59 แห่งในไต้หวัน และ 3 แห่งในเซี่ยงไฮ้

ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเราได้ที่ https://www.kurasushi.co.jp/2025expo/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54165297/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามสื่อเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Kura Sushi, Inc.

E-MAIL: prhq_kurasushi@kura-corpo.co.jp

ที่มา: Kura Sushi, Inc.










โมดูลเข้ารหัส NVMe SSD ของ KIOXIA ผ่านการตรวจสอบ FIPS 140-3 ระดับ 2

Logo

โมดูลเข้ารหัสคอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับองค์กรซีรีส์ KIOXIA CM7 ตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยล่าสุดของโปรแกรมตรวจสอบโมดูลเข้ารหัสของ NIST

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 ธันวาคม 2024

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศในวันนี้ว่าโมดูลเข้ารหัสที่ใช้ใน SSD สำหรับองค์กร PCIe® 5.0 NVMe™ ซีรีส์ KIOXIA CM7 ได้รับการรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานการประมวลผลข้อมูลของรัฐบาลกลาง (FIPS) 140-3 ระดับ 2 สำหรับโมดูลเข้ารหัส

KIOXIA CM7 Series PCIe 5.0 NVMe Enterprise SSD (Photo: Business Wire)

KIOXIA CM7 Series PCIe 5.0 NVMe Enterprise SSD (รูปภาพ: Business Wire)

มาตรฐาน FIPS 140-3 กำหนดชุดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของโปรแกรมตรวจสอบโมดูลเข้ารหัสที่บริหารโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดความปลอดภัยสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางในการจัดหาอุปกรณ์ไอทีที่ผ่านการตรวจสอบ บริษัทและหน่วยงานของรัฐบาลกลางอาจต้องการหรืออาจจำเป็นต้องปรับใช้มาตรฐานของรัฐบาลที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่ง SSD ที่ได้รับการรับรองตามข้อกำหนด FIPS 140-3 จะต้องเป็นไปตามนั้น เมื่อเทียบกับข้อกำหนด FIPS 140-2 ก่อนหน้านี้ ข้อกำหนด 140-3 จะให้มาตรฐานที่สูงกว่าสำหรับ SSD รวมถึงวิธีการตรวจสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและแนวทางการใช้งานที่อัปเดต

Kioxia นำเทคโนโลยี PCIe 5.0 มาสู่แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์และที่เก็บข้อมูลด้วย SSD NVMe ซีรีส์ KIOXIA CM7 ซึ่งมุ่งเป้าไปที่แอปพลิเคชันและกรณีการใช้งานขององค์กร รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลประสิทธิภาพสูง ฐานข้อมูลการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์ และคลังข้อมูล ไดรฟ์ซีรีส์ KIOXIA CM7 นำประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยระดับองค์กรมาสู่เซิร์ฟเวอร์และที่เก็บข้อมูลของศูนย์ข้อมูล คุณสมบัติหลักของ SSD ซีรีส์ KIOXIA CM7 ประกอบด้วย:

• SSD NVMe ที่เข้ากันได้กับ PCIe 5.0 ในรูปแบบ 2.5 นิ้ว(1) และ E3.S

• รองรับพอร์ตคู่และพอร์ตเดี่ยว

• ความทนทานต่อการอ่านข้อมูลจำนวนมากและการใช้งานแบบผสมผสาน

• ความจุตั้งแต่ 1.6 เทราไบต์ (TB) ถึง 30.72 TB (15.36 TB ในรูปแบบ E3.S)

• ตัวเลือกด้านความปลอดภัย ได้แก่: การลบข้อมูลทันที (SIE) (2), ไดรฟ์เข้ารหัสด้วยตนเอง TCG Opal (SED) (3) และ SED ที่ใช้โมดูล FIPS 140-3 ระดับ 2

หมายเหตุ:

(1) “2.5 นิ้ว” หมายถึงรูปแบบของ SSD ไม่ได้ระบุถึงขนาดทางกายภาพของไดรฟ์

(2) รุ่นเสริม SIE ที่รองรับ Crypto Erase ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการเทคนิค (SCSI) ของ INCITS (คณะกรรมการมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างประเทศ)

(3) โมเดลเสริม SED รองรับ TCG Opal และ Ruby SSC แต่ไม่รองรับฟีเจอร์บางอย่างของ TCG Opal SSC

* คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation กำหนดให้เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์ และเทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุของหน่วยเก็บข้อมูลโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของหน่วยเก็บข้อมูลที่น้อยกว่า ความจุที่จัดเก็บได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์สื่อต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

* รุ่นเสริมด้านความปลอดภัยไม่มีจำหน่ายในทุกประเทศเนื่องจากข้อบังคับด้านการส่งออกและท้องถิ่น

* PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

* NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งมุ่งมั่นในการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและไดรฟ์โซลิดสเตต (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าที่ได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 โดย Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและสร้างคุณค่าจากหน่วยความจำให้กับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ ที่กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์และศูนย์ข้อมูลต่างๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54164556/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

การสอบถามข้อมูลลูกค้า:

Kioxia Group

สำนักงานขายทั่วโลก

https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

การสอบถามข้อมูลด้าน  สื่อ:

Kioxia Corporation

ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย

Satoshi Shindo

โทรศัพท์: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

NIQ, World Data Lab และ SPATE เปิดตัวรายงาน “Beauty Futures” – คู่มือการเดินทางของผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลก

Logo

รายงานฉบับสมบูรณ์ที่จะเปิดเผยถึงแนวโน้มการใช้จ่ายและความชอบด้านความงามของกลุ่มคนในช่วงอายุต่างๆ

• กลุ่มคนในรุ่นมิลเลนเนียลจะเป็นแรงผลักดันในการเติบโตสูงสุดอยู่ที่ 193 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะแซงหน้าคนรุ่น X ภายในปี 2034

• กลุ่มคนรุ่น X เป็นผู้นำการใช้จ่ายด้านความงามในปี 2024 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในทศวรรษหน้า

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–09 ธันวาคม 2024

NielsenIQ (NIQ) ร่วมมือกับ World Data Lab และ SPATE เพื่อเผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์สำหรับกลุ่มคนในช่วงอายุต่างๆ โดยมุ่งเน้นเฉพาะตลาดความงามในทศวรรษหน้า

รายงานดังกล่าวได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับความชอบของกลุ่มคนในช่วงอายุต่างๆ นิสัยการใช้จ่าย ค่านิยม ลำดับความสำคัญ แรงจูงใจ พฤติกรรมการซื้อ และอิทธิพลที่มีต่อแนวโน้มในอุตสาหกรรมความงามทั่วโลก รายงานดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของคนแต่ละรุ่นที่มีต่อการกำหนดความชอบและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในทศวรรษหน้า

โดยกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลจะเป็นผู้นำในเทรนด์นี้โดยขับเคลื่อนการใช้จ่ายด้านความงามทั่วโลกเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ที่ 193 พันเหรียญสหรัฐฯ โดยกลุ่มคนรุ่น Gen Z ตามมาเป็นอันดับสองที่ 158 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อุตสาหกรรมความงามทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนที่ 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยคาดการณ์การเติบโตอยู่ที่ 700 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2034 โดยภูมิภาคเอเชียจะเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนอยู่ที่ 310 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

แคลร์ มาร์ตี้ รองประธาน NIQ Beauty แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัยดังกล่าวว่า “ที่ NIQ เราตระหนักดีว่าการทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างวัยเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป นี่คือโอกาสสำหรับบริษัทต่างๆ ที่จะก้าวข้ามแนวทางแบบ “เหมารวม” และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับกลุ่มคนในแต่ละรุ่น ข้อมูลแนวโน้มผู้บริโภคและยอดขายของเราจะช่วยให้แบรนด์ความงามค้นพบความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบรับ เข้าใจคุณค่าของผู้บริโภค และนำทางไปสู่การค้าปลีก”

ข้อมูลสำคัญด้านความงามจากกลุ่มคนในรุ่นต่างๆ:

คนรุ่นมิลเลนเนียลจะครองอุตสาหกรรมความงามในช่วงทศวรรษหน้า:

• คนรุ่นมิลเลนเนียลที่เกิดระหว่างปี 1977 – 1995 จะเป็นผู้นำการเติบโตของตลาดความงามทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า และจะแซงหน้าคนรุ่น X ในฐานะผู้มีอิทธิพลในการใช้จ่ายด้านความงามในปี 2034 โดยคิดเป็น 24% ของการใช้จ่ายทั่วโลก

• การใช้จ่ายของกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมในปี 2024 จะแซงหน้าตลาดโดยรวมทั้งในสหรัฐอเมริกาและในภูมิภาคอื่นของโลก โดยคนรุ่นมิลเลนเนียลมากกว่าครึ่งหนึ่ง (56%) มักคิดถึงรูปลักษณ์ของตนเองเป็นส่วนใหญ่ และมักจะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนในกิจวัตรด้านความงาม

• การใช้จ่ายของกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลด้านบริการความงามจะเติบโตมากที่สุดภายในปี 2034 โดยภูมิภาคยุโรปจะเป็นผู้นำในเทรนด์นี้ โดยกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียล 57% ในยุโรปจะใช้จ่ายด้านความงามไปกับบริการเสริมสวย และมีเพียง 6% สำหรับการแต่งหน้า เมื่อเทียบกับกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลในอเมริกาเหนือที่มีสัดส่วนของการแต่งหน้าคิดเป็น 11% ของการใช้จ่ายทั้งหมด

• คนรุ่นมิลเลนเนียลได้รับอิทธิพลจากเทรนด์ TikTok โดยแฮชแท็ก #makeupover30 เป็นแฮชแท็ก TikTok อันดับหนึ่ง โดยเติบโตถึง 194.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการค้นหาเคล็ดลับและผลิตภัณฑ์เฉพาะตามความกังวลและความต้องการในวัยของพวกเขา ตัวอย่างเช่น การค้นหาบน TikTok ที่จะเน้นไปที่ความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้ไขมันวัวในการดูแลผิว โดยมียอดดูเฉลี่ย 14.1 ล้านครั้งต่อสัปดาห์

Gen X เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายด้านความงามมากที่สุด:

• Gen X ซึ่งเกิดระหว่างปี 1965-1980 เป็นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงสุดในการใช้จ่ายด้านความงามในปี 2024 ถึงปี 2034 โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150 พันล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยภูมิภาคอเมริกาเหนือและเอเชียแปซิฟิกจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับกลุ่ม Gen X มากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยมีชนชั้นกลางของประเทศจีนและคนรวยของประเทศอินเดียเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนหลัก

• Gen X มีส่วนร่วมอย่างมากในด้านความงาม โดยมีการเข้าถึงที่สูงกว่าประชากรทั้งหมดใน 80% ของหมวดหมู่ความงามที่ได้รับการวิเคราะห์ สกินแคร์เป็นหมวดหมู่ที่เติบโตเร็วที่สุดในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (26 พันล้านดอลลาร์)

• ความสะดวกสบายมาเป็นอันดับแรกในฐานะช่องทางที่คนรุ่น X เลือก และมีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้าในสถานที่แบบครบวงจร เช่น Amazon และ Hypermarket ต่างๆ

• ยอดดู TikTok ของคนรุ่น Gen X ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางเพิ่มขึ้นเป็น 53% โดย #over40makeup กลายเป็นแฮชแท็กยอดนิยม (6.9 ล้านครั้ง) ในปี 2024 โดยผลิตภัณฑ์ เช่น Guide Beauty Wand สำหรับผู้บริโภคที่ชอบโปรโมชั่นกำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้สร้างคอนเทนต์คนรุ่น X บน TikTok

“เราคาดการณ์ว่านี่เป็นครั้งแรกที่อุตสาหกรรมความงามทั่วโลกจะมีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ” วูล์ฟกัง เฟิงเลอร์ ซีอีโอของ World Data Lab กล่าว “ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความต้องการของผู้บริโภคในทุกวัยและทุกประเทศที่ต้องการใช้เครื่องสำอางและบริการความงาม”

“การทำความเข้าใจเทรนด์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Google Search ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการก้าวไปข้างหน้า เพราะจะเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ในความสนใจและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละรุ่น” Yarden Horwitz ผู้ก่อตั้งร่วมของ SPATE กล่าว

เนื่องจากคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z นั้นให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พวกเขาจึงพิจารณาถึงความยั่งยืนในผลิตภัณฑ์ความงามในแง่มุมต่างๆ คนรุ่นมิลเลนเนียลมีแนวโน้มที่จะเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยหรือไม่มีเลย (+3.2 คะแนน) ในขณะที่กลุ่มคนในรุ่น Gen Z จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางสังคมหรือสนับสนุนชุมชนที่มีความเสี่ยงหรือชนกลุ่มน้อย (+1.2 คะแนน)

รายงาน Beauty Futures ที่เป็นคู่มือการเดินทางของผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลกในช่วงอายุต่างๆ เป็นรายงานเรือธงของ NIQ ที่ให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผู้บริโภคของผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลก โดยรายงานจะครอบคลุมถึง:

– การคาดการณ์สำหรับอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า

– ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนพฤติกรรมการซื้อสำหรับทุกช่วงอายุ

– เทรนด์ความงามใหม่ๆ จาก Google และ TikTok

หากคุณต้องการสำเนา โปรดคลิกที่นี่

เกี่ยวกับ NIQ

NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชั้นนำของโลก ซึ่งมอบความเข้าใจที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคและเปิดเผยเส้นทางใหม่ๆ สู่การเติบโต โดย NIQ ได้รวมตัวกับ GfK ในปี 2023 โดยการนำผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองรายที่มีการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้มาอยู่รวมกัน ปัจจุบัน NIQ มีการดำเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP ด้วยการอ่านข้อมูลการค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ซึ่งได้นำเสนอด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัยของ ​​NIQ ผ่าน Full ViewTM

เกี่ยวกับ World Data Lab

World Data Lab ได้สร้างข้อมูลเฉพาะที่มีการคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อวัดและคาดการณ์แนวโน้มของผู้บริโภค การใช้จ่ายของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงทางประชากร และความคืบหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนจนถึงปี 2034 แนวทางวิทยาศาสตร์ข้อมูลขั้นสูงของเรา ซึ่งได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและเผยแพร่ใน Nature นั้นได้อบความแม่นยำ ความสดใหม่ และความสอดคล้องที่ไม่มีใครเทียบได้ในทุกกลุ่มประชากรใน 180 ประเทศและมากกว่า 6,000 เมือง

 เกี่ยวกับ SPATE

Spate เป็นแพลตฟอร์มวิจัยตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งวิเคราะห์สัญญาณการค้นหามากกว่า 20,000 ล้านสัญญาณและวิดีโอ TikTok มากกว่า 60 ล้านวิดีโอทั่วโลก โดยมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาพรวมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยข้อมูลของ Spate ทำให้แบรนด์ต่างๆ เข้าใจโลกแห่งความงามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดีขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการแต่งหน้าสำหรับผิวในวัยผู้ใหญ่บน Google Search และ TikTok

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ชื่อผลิตภัณฑ์และบริษัททั้งหมดเป็น trademarks™ หรือ registered® ของผู้ถือที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าเหล่านี้ไม่ได้หมายความถึงความเกี่ยวข้องหรือการรับรองจากผู้ถือเครื่องหมายการค้านั้นๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

Sweta Patra
sweta.patra@nielseniq.com

ที่มา: NielsenIQ

Xsolla เตรียมเปิดตัว Xsolla StarNest Academy และโปรแกรมการบ่มเพาะผู้มีความสามารถในบากู

Logo

ความร่วมมือในอาเซอร์ไบจานมีความมุ่งหมายในอันที่จะเสริมสร้างระบบนิเวศการพัฒนาด้านเกมที่เฟื่องฟูและส่งเสริมสนับสนุนผู้มีความสามารถในท้องถิ่นด้วยโปรแกรมใหม่ ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2025

บากู อาเซอร์ไบจาน–(BUSINESS WIRE)–09 ธันวาคม 2024

Xsolla บริษัทพาณิชย์ด้านวิดีโอเกมระดับโลก ได้ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับ StarNest และสำนักงานนวัตกรรมและการพัฒนาดิจิทัล (IDDA) ของอาเซอร์ไบจานในการจัดตั้ง Xsolla StarNest Academy และโปรแกรมบ่มเพาะผู้มีความสามารถ โดยได้เปิดตัวความร่วมมือเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ในงาน Gamesummit ฤดูหนาว ปี 2024 ซึ่งเป็นเทศกาลเกมที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคในกรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

(Graphic: Xsolla)

(กราฟฟิก: Xsolla)

งาน Gamesummit ฤดูหนาว ปี 2024 ได้เน้นให้เห็นถึงความเติบโตของอุตสาหกรรมเกมในอาเซอร์ไบจาน โดยจัดให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับแนวโน้ม แนวทางปฏิบัติทั่วโลก และการนำเสนอเกมที่ได้รับการพัฒนาระดับท้องถิ่น ในงานนี้ IDDA และ Xsolla ได้เผยแผนการส่งเสริมนักพัฒนา นักออกแบบเกม และสตูดิโอระดับท้องถิ่นด้วยโปรแกรมสุดทันสมัยด้านการฝึกอบรม การบ่มเพาะผู้มีความสามารถ และการสนับสนุนความเติบโต ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรด้านการเงินและเทคโนโลยี โดยความร่วมมือดังกล่าวนี้จะช่วยกำหนดบทบาทใหม่ให้แก่อาเซอร์ไบจานในอุตสาหกรรมเกมระดับโลกไปพร้อมกับการเสริมสร้างความสามารถพิเศษและนวัตกรรมระดับท้องถิ่น

“ความร่วมมือกันในครั้งนี้เปิดโอกาสเป็นอย่างมากสำหรับการดำเนินโครงการร่วมที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาภาคส่วนด้านเกมของอาเซอร์ไบจาน” เยฟเกนียา บิกมูร์ซีนา (Yevgeniya Bikmurzina) หัวหน้าแผนกระบบนิเวศนวัตกรรมของ IDDA กล่าว “สตูดิโอเกมของอาเซอร์ใบจานจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างชื่อเสียงอันโดดเด่นในตลาดโลกได้”

“การเป็นพันธมิตรระหว่างกันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Xsolla เนื่องจากเราร่วมมือกับผู้นำของอาเซอร์ไบจานในการปลดล็อกศักยภาพของภูมิภาค” รีทิส โยเซฟ ยาน (Rytis Joseph Jan) รองประธานอาวุโสฝ่ายการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลกของ Xsolla กล่าว “ด้วยการผนวกรวมความเชี่ยวชาญระดับโลกกับภาวะผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของพันธมิตรของเรา เรามุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนผู้มีความสามารถซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ในอาเซอร์ไบจานและขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมที่มีความหมายอันสร้างผลกระทบในระดับโลกได้”

การบ่มเพาะผู้มีความสามารถและการสนับสนุนความเติบโตโดย Xsolla ในอาเซอร์ไบจาน

การบ่มเพาะผู้มีความสามารถและการสนับสนุนความเติบโตโดย Xsolla จะเป็นการให้ความช่วยเหลือชุมชนการพัฒนาเกมของอาเซอร์ไบจานโดยการจัดหาเครื่องมือ การให้คำปรึกษา และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้การบ่มเพาะผู้มีความสามารถจะช่วยนักพัฒนาช่วงเริ่มต้นในการปรับปรุงแนวคิด รับความเชี่ยวชาญทางเทคนิค และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ส่วนการสนับสนุนความเติบโตนั้นจะช่วยสตูดิโอที่มีความมั่นคงแล้วในการขยายขนาดโครงการของตน นำเสนอช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุน การให้คำปรึกษา และเครือข่ายอุตสาหกรรมทั่วโลก โปรแกรมดังกล่าวนี้ล้วนมีเป้าหมายในการช่วยให้อาเซอร์ไบจานอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเกม โดยเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีความสามารถในระดับท้องถิ่นประสบความสำเร็จในระดับโลก

Xsolla StarNest Academy

Xsolla StarNest Academy จะจัดให้มีการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการพัฒนาเกมแก่เยาวชนจำนวน 90 คน นอกจากนี้ ยังจะมีการเปิดตัวโปรแกรมการบ่มเพาะผู้มีความสามารถในปี 2025 เพื่อให้การสนับสนุนสตูดิโอเกมระดับท้องถิ่น นำเสนอการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ตลอดจนเข้าถึงแหล่งทรัพยากรด้านการเงินและโอกาสในการแสดงเกมระดับโลก

StarNest ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมของอาเซอร์ไบจาน จะเป็นผู้นำที่พยายามจัดให้มีสถานที่ตั้ง Academy เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อรับประกันว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเติบโตและการเรียนรู้ โดย IDDA จะให้การกำกับดูแลเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้โครงการริเริ่มนี้สอดคล้องไปกับเป้าหมายระดับชาติในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลของอาเซอร์ไบจาน

สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค

Xsolla ยังกำลังพิจารณาตัวเลือกในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคสำหรับพื้นที่เอเชียกลางขึ้นในบากู เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นของบริษัทต่อชุมชนและนักพัฒนาเกมในภูมิภาคต่อไป ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่เป็นฮับระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาและการสนับสนุนชั้นนำสำหรับโซลูชันชั้นนำในอุตสาหกรรมอีกด้วย

การเป็นพันธมิตรกันระหว่าง Xsolla กับ StarNest ถือเป็นบทใหม่สำหรับภาคส่วนด้านเกมของอาเซอร์ไบจาน อันสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มีอยู่ร่วมกันในการทำให้ประเทศมีตำแหน่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเกมและนวัตกรรมดิจิทัลในภูมิภาค

ความร่วมมือกันครั้งสำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ช่วยเตรียมให้อาเซอร์ไบจานพร้อมเป็นฮับด้านนวัตกรรมเกมและการพัฒนาผู้มีความสามารถ โดยคุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.blog/azerbaijan

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ด้านวิดีโอเกมระดับโลกซึ่งมีชุดเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งและทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่เกมหลายพันรายในทุกระดับเงินทุนทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมทั่วโลกบนแพลตฟอร์มอันหลากหลาย ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านเกมเชิงพาณิชย์ พันธกิจของ Xsolla คือการช่วยแก้ไขปัญหาความซับซ้อนที่มีอยู่โดยปกติวิสัยของการจัดจำหน่าย การทำการตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก ทั้งนี้เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ทางภูมิศาสตร์มากขึ้น สร้างรายได้สูงขึ้น และสานสัมพันธ์กับเกมเมอร์ได้ทั่วโลก Xsolla มีสำนักงานใหญ่จดทะเบียนอยู่ที่ลอสแองเจลิส และมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com

เกี่ยวกับสำนักงานนวัตกรรมและการพัฒนาดิจิทัล (IDDA)

IDDA เป็นหน่วยงานรัฐของอาเซอร์ไบจาน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทูตดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูล นำเสนองานวิจัย การฝึกอบรม และการให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้สถาบันต่าง ๆ มีสถานะการปรากฏตัวในโลกดิจิทัลอย่างดียิ่งขึ้น โดย IDDA มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างยุทธศาสตร์ทางการทูตสมัยใหม่ผ่านเครื่องมือดิจิทัลและการวิเคราะห์ข้อมูล

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ idda.az

เกี่ยวกับ StarNest

StarNest เป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของอาเซอร์ใบจาน ให้บริการโซลูชันอินเทอร์เน็ตและการสร้างเครือข่าย รวมถึงบริการบรอดแบรนด์ การเชื่อมต่อแบบองค์กร และบริการสนับสนุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที StarNest เป็นบริษัทที่มีบทบาทเฉพาะในการสร้างความเติบโตทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลในอาเซอร์ไบจาน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ starnest.io

เกี่ยวกับ GameSummit

GameSummit เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในอาเซอร์ใบจานซึ่งมุ่งเน้นด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเกม โดยได้สร้างโอกาสสำหรับสตูดิโอเกมระดับท้องถิ่น ส่งเสริมนวัตกรรม และยกระดับความตระหนักเกี่ยวกับโอกาสทางอาชีพการงานด้านเกมและอีสปอร์ตผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น Gamesummit ฤดูร้อน และ Gamesummit ฤดูหนาว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gamesummit.ai

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/54163625/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ผู้ติดต่อด้านสื่อ
เดอร์ริค สเต็มบริดจ์ (Derrick Stembridge)
ผู้อำนวยการฝ่ายการประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

Material ได้รับรางวัล Splash Award สําหรับผลงานดีเด่นใน Drupal Website

Logo

 ผลงานที่ยอดเยี่ยมร่วมกับ INSEAD แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและมีอิทธิพลอันโดดเด่นต่อโซลูชันการมีส่วนร่วมแบบดิจิทัล –

ลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–10 ธันวาคม 2024

Material คือ บริษัทข้อมูลเชิงลึก การตลาด และเทคโนโลยีชั้นนํา มีความยินดีที่จะประกาศว่าบริษัทได้รับรางวัล Splash Award ในหมวด “การศึกษา” จากการทํางานร่วมกับ INSEAD – The Business School for the World® และรางวัลรองชนะเลิศในหมวด “องค์กร” จากการทํางานร่วมกับ Stuff Limited โดยรางวัล Splash Awards ครั้งแรกนี้ของ DrupalCon Singapore จัดขึ้นเพื่อยกย่องเว็บไซต์และประสบการณ์ดิจิทัลที่โดดเด่นที่จัดขึ้นด้วย Drupal โดยเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นเลิศทางเทคนิค และโซลูชันนวัตกรรมที่เอเจนซี่และนักพัฒนานํามาสู่อุตสาหกรรมรวมถึงความท้าทายที่หลากหลาย

สําหรับรางวัลในหมวด “การศึกษา” นั้น Material ได้ร่วมมือกับ INSEAD เพื่อยกระดับสถานะดิจิทัลโดยรวมของโรงเรียน ปรับปรุงการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยปรับเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและความสําเร็จด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Drupal ล่าสุด Material ช่วยให้ INSEAD เพิ่มอัตราการแปลงและการรักษาลูกค้า ปรับปรุงการทำงานของผู้ใช้งานและการใช้งานไซต์

“การได้รับรางวัล Splash Awards แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Material ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ําสมัยและนําเสนอแนวทางแบบบูรณาการด้วยโซลูชันที่ปรับขนาดได้และสร้างผลกระทบ” Anutosh Yadav รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีด้านบริการการตลาดและเทคโนโลยีกล่าว “เราภูมิใจกับการยอมรับนี้และความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมในการร่วมกันสร้างกับลูกค้า ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลส่วนบุคคลที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจสำหรับลูกค้าของเรา”

“เรายินดีที่ได้เห็นความร่วมมือของเรากับ Material ที่ได้รับการยอมรับ” Dov Campbell ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารดิจิทัลของ INSEAD กล่าว “ที่ INSEAD เรามุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นและมีส่วนร่วมสําหรับชุมชนคณาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่า และพันธมิตรต่างๆ ทั่วโลกของเรา ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เรายังคงกําหนดมาตรฐานใหม่ในการส่งมอบข้อเสนอด้านการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ”  

นี่เป็นปีที่สองติดต่อกันที่ Material ได้รับรางวัลจากการทํางานร่วมกับ INSEAD ในปี 2023 Material ได้รับรางวัล Acquia Engage Award ในหมวด “การบูรณาการสแต็กทางด้านเทคที่ส่งอิทธิพลมากที่สุด (Most Impactful Tech Stack Integration)” สําหรับประสบการณ์ดิจิทัลของ INSEAD ในปี 2024 Material ยังได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารอบสุดท้ายใน CX Asia Excellence Awards จากงานด้านเทคโนโลยีประสบการณ์ลูกค้าร่วมกับ INSEAD

Material ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในหมวด “องค์กร” ของ Splash Award โดยร่วมมือกับ Stuff Limited เพื่อส่งมอบระบบมัลติเทแนนท์ที่ทันสมัยซึ่งสามารถรองรับคำขอได้มากถึง 200 ล้านคำขอต่อวัน ช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานและลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาด ด้วยการใช้งาน Drupal Material ได้ช่วยให้ Stuff Limited ลดต้นทุนในด้านคลาวด์และการดำเนินงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

เกี่ยวกับ Material

Material เป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ระดับโลกที่ผสมผสานข้อมูลเชิงลึกของมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยเร่งการมีส่วนร่วมและการเติบโตให้กับแบรนด์และบริษัทนวัตกรรมให้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก เราออกแบบ + สร้างโมเดลธุรกิจและประสบการณ์ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและผู้คนที่พวกเขาให้บริการ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.materialplus.io

เกี่ยวกับ DrupalCon

DrupalCon เป็นกิจกรรมชั้นนําสําหรับชุมชน Drupal ที่รวมนักพัฒนา นักออกแบบ ผู้จัดการโครงการ และผู้นําธุรกิจจากทั่วโลก การประชุมนี้จัดโดย Drupal Association เปิดโอกาสให้ทํางานร่วมกัน คิดค้น และสํารวจความก้าวหน้าล่าสุดในการพัฒนาเว็บและประสบการณ์ดิจิทัล โดยมีวิทยากรหลัก เซสชันภาคปฏิบัติ พิธีมอบรางวัล Splash Awards และกิจกรรมเครือข่าย DrupalCon ทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการแบ่งปันความรู้และสร้างการเชื่อมต่อที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม Drupal ไปข้างหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

ผู้ติดต่อสื่อ

Casey Colesworthy, Material
casey.colesworthy@materialplus.io
208.720.0862

ที่มา: Material

Alpaca และ Derayah Financial ของซาอุดีอาระเบียประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งธุรกิจในตะวันออกกลางของ Alpaca และการเสนอขายหุ้นซาอุดีอาระเบียทั่วโลก

Logo

Alpaca เสริมสร้างรากฐานการหักบัญชีด้วยตนเองผ่านการเป็นสมาชิก DTCC และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง รวมถึงการซื้อขายออปชั่นและบัญชีเงินสดที่ให้ผลตอบแทนสูง

ซานมาเทโอ แคลิฟอร์เนีย

เชื่อมต่อกับสิ่งที่เป็นไปได้: Belden เปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์องค์กรใหม่

Logo

เอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นั้นสอดคล้องกับมรดกของบริษัท ในการเชื่อมโยงผู้คน ข้อมูล และแนวคิดเพื่อปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซนต์หลุยส์–(BUSINESS WIRE)–05 ธันวาคม 2024

Belden Inc. (NYSE: BDC) เปิดเผยเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรใหม่ที่เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไปสู่ผู้ให้บริการโซลูชันเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่ครอบคลุม โซลูชันเหล่านี้มีบทบาทสําคัญในการจัดการกับความท้าทายด้านระบบอัตโนมัติและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่างๆ และช่วยให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการพลาดการเชื่อมต่อในเครือข่ายและข้อมูลของตน การวางตําแหน่งแบรนด์ใหม่เน้นย้ำถึงวิวัฒนาการของ Belden ผ่านการส่งข้อความใหม่ โลโก้และเอกลักษณ์ทางภาพที่ได้รับการอัปเดต และเว็บไซต์ที่ออกแบบใหม่

“การสร้างการเชื่อมต่อเป็นจุดประสงค์ของเราตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1902” Ashish Chand ประธานและซีอีโอของ Belden กล่าว “การรีแบรนด์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ และเป็นก้าวสําคัญที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเรา”

ในโลกที่ต้องพึ่งพาข้อมูลมากขึ้น การเชื่อมต่อที่ Belden สร้างขึ้นจึงมีความสําคัญอย่างยิ่ง พวกเขาอนุญาตให้ระบบและเครือข่ายที่แตกต่างกันพูดคุยกันและผู้คนและเทคโนโลยีทํางานร่วมกันอย่างกลมกลืน การเชื่อมต่อเหล่านี้ช่วยให้ระบบและเครือข่ายที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารถึงกันได้ และช่วยให้ผู้คนและเทคโนโลยีทำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้การเชื่อมต่อยังเชื่อมโยงสิ่งที่เป็นอยู่และสิ่งที่สามารถเป็นได้ ช่วยปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และทำให้เกิดนวัตกรรมทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

“องค์กรต่างๆ ในปัจจุบันต้องการการไหลเวียนของข้อมูลที่เชื่อถือได้และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อให้อุปกรณ์การผลิตทำงานต่อไป การรักษาผู้ป่วย หรือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ” Chand กล่าว “แต่ความเสี่ยงจากการสูญเสียสัญญาณไปจนถึงภัยคุกคามด้านความปลอดภัยสามารถขัดขวางการไหลเวียนนี้ได้ และการเชื่อมต่อที่ขาดหายไปอาจทําให้องค์กรเสียเงิน เวลา ผลิตภาพ และโอกาส ที่ Belden เราสร้างการเชื่อมต่อที่ช่วยขับเคลื่อนข้อมูล เพื่อให้มีอนาคตที่ปลอดภัย ชาญฉลาดกว่า และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”

การอัปเดตแพลตฟอร์มแบรนด์องค์กรของ Belden ถือเป็นกระบวนการที่ครอบคลุม ผู้เข้าร่วมเกือบ 500 คนจากทั่วโลก ซึ่งเป็นทั้งพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของ Belden ให้ข้อมูลที่จําเป็นต่อการกําหนดวัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยของ Belden สัมผัสเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรใหม่ของ Belden ผ่าน  วิดีโอ นี้  และเข้าไปที่ belden.com

เกี่ยวกับ Belden

Belden Inc. นําเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบซึ่งปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาก่อนสําหรับลูกค้าของเรา ลูกค้าของพวกเขาและโลก เราพัฒนาแนวคิดและเทคโนโลยีที่ช่วยให้มีอนาคตปลอดภัย ชาญฉลาด และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ตลอดประวัติศาสตร์กว่า 120 ปีของเรา เราได้พัฒนาในฐานะบริษัท แต่เป้าหมายของเรายังคงอยู่ นั่นคือการสร้างการเชื่อมต่อ เราทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยการเชื่อมต่อผู้คน ข้อมูล และแนวคิดเข้าด้วยกัน เรามีสํานักงานใหญ่ในเซนต์หลุยส์ และมีศักยภาพในการผลิตในอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเราได้ที่ www.belden.com ติดตามเราได้ที่ Facebook, LinkedIn และ X/Twitter

Belden และโลโก้ Belden เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Belden Inc. หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและเขตอํานาจศาลอื่นๆ Belden และบุคคลอื่น ๆ อาจมีสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าในข้อกําหนดอื่นที่ใช้ในที่นี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Holly Keller

ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดองค์กร

+1.317.764.4042
holly.keller@belden.com

ที่มา: Belden Inc.

Kalyra ยกระดับประสบการณ์ด้านการดูแลผู้สูงอายุด้วยการผสานการทำงานกับ Boomi

Logo

Boomi ช่วยให้ผู้ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุปรับปรุงบริการดิจิทัล ยกระดับการดูแลผู้ป่วย และทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

 ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–04 ธันวาคม 2024

Boomi™ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผสานการทำงานและระบบอัตโนมัติแบบอัจฉริยะได้ประกาศ ณ วันนี้ว่า Kalyra มีการใช้ Boomi Enterprise Platform เพื่อปรับปรุงการดูแลลูกค้าด้วยข้อมูล เปิดตัวบริการดิจิทัลใหม่ๆ และเร่งการเตรียมความพร้อมของพนักงานและขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในวงกว้าง

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

การดำเนินงานมานานกว่า 130 ปีของ Kalyra ได้สั่งสมชื่อเสียงในการส่งมอบคุณค่าให้กับชุมชนในออสเตรเลียใต้ด้วยบริการดูแลผู้สูงอายุที่ครบถ้วน ตั้งแต่การดูแลในบ้านพักคนชรา การดูแลที่บ้าน การใช้ชีวิตหลังเกษียณ และการใช้ชีวิตที่ประหยัด โดยเมื่อไม่นานนี้ Kalyra ได้เริ่มต้นเส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ยากยิ่งเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเร่งทรัพยากรบุคคลโดยเชื่อมโยงระบบที่แยกส่วนและรวมศูนย์ข้อมูลสำหรับลูกค้าและพนักงาน “ความถูกต้องแม่นยำเป็นสิ่งที่ต้องมีความสมบูรณ์แบบสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส และสิ่งนี้เริ่มต้นด้วยระบบดิจิทัลที่รองรับพนักงานฝ่ายดูแลของเรา” Nicole Fishers ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายข้อมูลและบริการดิจิทัลของ Kalyra กล่าวว่า “แต่เห็นได้ชัดว่าประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา นอกเหนือจากการขยายธุรกิจเมื่อไม่นานนี้

ได้สร้างความยากลำบากต่อระบบนิเวศดิจิทัลของเราด้วยข้อมูลลูกค้าที่ซ้ำซ้อนและความไม่สอดคล้องกันที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ทำให้ลูกค้าของเราได้รับการดูแลช้าลง เราได้หันมาใช้ Boomi เพื่อไม่ให้ข้อมูลกระจุกอยู่ที่เดียว และปูทางไปสู่บริการสนับสนุนดิจิทัลยุคใหม่ของเรา”

Kalyra นำแพลตฟอร์มการรวมระบบในรูปแบบบริการ (iPaaS) ของ Boomi มาใช้เพื่อเชื่อมต่อระบบธุรกิจหลักผ่านรูปแบบฮับแอนด์สโป๊ก รวมถึง Elmo (ทรัพยากรบุคคล), AlayaCare (ระบบดูแลที่บ้าน), iCare (ระบบดูแลที่พักอาศัย), CarePage (ระบบประสบการณ์ลูกค้า) และ My Kalyra (แอปมือถือ)

ด้วยระบบข้อมูลการปฏิบัติงานที่ป้อนเข้าสู่แอป My Kalyra ทำให้องค์กรได้เปิดตัวบริการสนับสนุนดิจิทัลตามความต้องการสำหรับครอบครัว ซึ่งขณะนี้สามารถเข้าถึงการอัปเดตบริการแบบเรียลไทม์ได้ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ความสามารถในการปรับตารางการดูแลแบบทันที และมีความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน

Fishers กล่าวว่า “เราได้สร้างบันทึกข้อมูลอันล้ำค่าที่รับรองว่าทุกอย่างในแอปที่ติดต่อกับลูกค้าและระบบภายในของเรานั้นถูกต้องและเป็นแบบเรียลไทม์” พร้อมเสริมว่า “เจ้าหน้าที่ดูแลของเราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตามหาข้อมูลที่หายไปหรือล้าสมัยอีกแล้ว เพราะคุณสามารถเข้าถึงทุกอย่างที่ต้องการได้ทันที นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญทั้งในด้านประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า”

Kalyra ได้ใช้ Boomi DataHub เพื่อนำเสนอบันทึกข้อมูลอันล้ำค่าพร้อมประโยชน์ต่างๆ ที่จะขยายไปสู่การบริหารจัดการกำลังคนขององค์กรอีกด้วย

Fishers กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ การฝึกอบรมพนักงานใหม่มักประสบปัญหาจากกระบวนการที่ต้องทำด้วยตนเองที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ยากต่อการติดตามพนักงานใหม่และคุณสมบัติของบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรม โดยการรวมศูนย์ข้อมูลทรัพยากรจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล ส่งผลให้การฝึกอบรมพนักงานใหม่เร็วขึ้นและช่วยเหลือพนักงานได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนความสามารถของ Kalyra ในการดูแลพนักงานอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพสูง”

ตามที่ Fishers กล่าว สภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับ Boomi ยังทำให้ความพยายามในการรายงานและการกำกับดูแลของ Kalyra มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกรอบข้อมูลที่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อบังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น

เมื่อมองไปในอนาคต Kalyra กำลังเตรียมพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise มากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นของ AI และหุ่นยนต์ในการปรับปรุงบริการด้านสุขภาพ

Fishers กล่าวต่อว่า “นวัตกรรมประเภทนี้มีความสามารถในการทำให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยในสถานดูแลผู้ป่วยสามารถทำงานได้ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถมุ่งเน้นไปที่การโต้ตอบกับผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น โดยในขณะที่เรายังคงคิดค้นและพัฒนาบริการของเราต่อไป ซึ่ง Boomi ก็เป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยช่วยให้เราสร้างสภาพแวดล้อมข้อมูลที่สอดคล้องประสานงานกันและทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การดูแลที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี APJ ของ Boomi กล่าวว่า “ตั้งแต่แรกเริ่ม งานของเรากับ Kalyra เน้นไปที่การขับเคลื่อนประสิทธิภาพโดยไม่สูญเสียความรู้สึกของการสัมผัสแบบมนุษย์ การทำให้กระบวนการหลักของ Kalyra เป็นอัตโนมัติและผสานเข้าด้วยกัน ทำให้พนักงานขององค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่การให้การดูแลเอาใจใส่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าไว้วางใจได้มากขึ้น”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านการผสานการทำงานและการทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถทำงานอัตโนมัติและปรับกระบวนการที่สำคัญให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วขึ้น แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ระดับสูง จึงสามารถเชื่อมต่อระบบและจัดการการเข้า-ออกของข้อมูลได้อย่างราบรื่นด้วยการจัดการ API, การบูรณาการ, การจัดการข้อมูล, และการประสานงาน AI ในโซลูชันที่ครอบคลุมเพียงหนึ่งเดียว ด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 20,000 บริษัททั่วโลกและเครือข่ายพันธมิตรมากกว่า 800 รายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Boomi กำลังปฏิวัติวิธีที่องค์กรทุกขนาดจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com.

© 2024 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ “B” และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทจัดเก็บข้อมูลหรือบริษัทลิขสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ เครื่องหมายการค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54157508/en

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee
Head of Influencer Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

Thai Herald

Thai Herald