Aurora, PTT Station และ Royal Umbrella เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศคว้ารางวัล 2023 – 2024 World Branding Awards

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–8 ธันวาคม 2023

World Branding Awards ครั้งที่ 17 ยกย่องความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสำหรับกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 2023 – 2024 World Branding Awards มีแบรนด์เข้าร่วมมากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีไม่ถึง 200 แบรนด์ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นที่ต้นกำเนิดของรางวัลนี้ นั่นคือ พระราชวังเคนซิงตัน สหราชอาณาจักร โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 100 คนทั่วโลก และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะเลิศระดับโลกที่ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติในอุตสาหกรรม ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา), และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะเลิศจากประเทศไทย ได้แก่ Thai Life Insurance, PTT Station, M-150, Café Amazon, Royal Umbrella, Aurora, VITADAY, TrueOnline, Farmhouse, และ TOPS ผู้ชนะเลิศจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Mercadona (สเปน), Airland (ฮ่องกง), และ Getha (มาเลเซีย) และยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

มีเพียง 14 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย), HECOM (ฮ่องกง), และ VITADAY (ไทย) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปภายใต้ 3 ภูมิภาคขึ้นไปทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ในการคงการตอบรับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์จะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์และคงอยู่ตราบเท่านาน ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนสำหรับแบรนด์ผ่านการตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องรับประกันได้ว่า ผู้คนทุกเจนเนอเรชันจะยังให้การตอบรับแบรนด์และมีความสนใจในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” Mr Richard Rowles ประธานของ World Branding Forum กล่าว

ในปีนี้ มีผู้บริโภคเข้าร่วมในการเสนอชื่อทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละประเทศมีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award นี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะเลิศทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการจดทะเบียน รางวัลนี้เป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

นักวิจัยโรคมะเร็งชื่อดังระดับโลกจากสเปนและสหรัฐอเมริกา ผนึกกำลังเพื่อจัดการกับความต้องการและความท้าทายที่สำคัญในการวิจัยโรคมะเร็งในสตรี

Logo

จากสถิติพบว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ความก้าวหน้าในการวิจัยและการรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญต่อสุขภาพของผู้หญิง

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 ธันวาคม 2023

Mary Kay Inc.ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีขายตรงอันดับ 1 ของโลก และมูลนิธิที่บริษัทสนับสนุน ซึ่งรวมถึงมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundationในสหรัฐอเมริกา ยังคงให้การสนับสนุนอย่างมั่นคง เพื่อการวิจัยโรคมะเร็งของผู้หญิงผ่านการให้ทุนสนับสนุนแผนงานวิจัย และโครงการวิจัยต่างๆ การมอบทุนให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และการอำนวยความสะดวกในการทดลองทางคลินิก ทั้งหมดนี้เพื่อการค้นหาวิธีการรักษา

”The incidence of breast cancer in women is seeing an upward trend in the world, and today we can say that 1 in 3 women will be diagnosed with cancer in their lifetime,” said Dr. O’Shaughnessy (Courtesy of Joyce O'Shaughnessy, M.D.).

“อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่” ดร. O’Shaughnessy กล่าว (ได้รับความอนุเคราะห์จากแพทย์หญิง Joyce O'Shaughnessy)

เมื่อเร็วๆ นี้ Mary Kay ได้จัดการประชุมเสมือนจริงระหว่าง ดร. Joyce O'Shaughnessyเฉลิมฉลองประธานสตรีในการวิจัยมะเร็งเต้านมที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์และประธานการวิจัยมะเร็งเต้านมที่ U.S. Oncology ในดัลลัส รัฐเท็กซัส และ ดร. Eva Ciruelos ผู้ประสานงานหน่วยมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และ โรงพยาบาล HM และประธานกลุ่ม SOLTI ด้านการวิจัยมะเร็งเต้านมและมูลนิธิ FERO ที่ได้รับทุนการสนับสนุนจาก Mary Kay Spain ซึ่งประจำอยู่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ทั้งสองเป็นผู้นำทีมวิจัยของตนเองในประเทศบ้านเกิดของตน โดยมุ่งเน้นที่การสืบสวนรูปแบบมะเร็งที่หายากและลุกลามในสตรี ได้แก่ มะเร็งเต้านมระยะลุกลามชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ (TNBC)  แม้จะอยู่ห่างจากกันหลายพันไมล์ แต่ทั้งสองรู้จักกันมานาน – และร่วมมือกันเป็นเวลาหลายปีในการวิจัย TNBC เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาและการรักษาโรคร้ายแรงนี้

นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ 2 คนในสาขาของตน นั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับความสำคัญของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก โดยเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนสำหรับนักวิจัยทั่วโลกในการแบ่งปันการค้นพบและความก้าวหน้าเพื่อรวบรวมผลลัพธ์

“มันไม่ใช่เรื่องของการมีความคิดที่ดีที่สุด แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ผู้ป่วยแต่ละรายได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และนี่คือสิ่งที่ต้องซึมซาบในอุตสาหกรรมการแพทย์ คลินิก และเภสัชกรรม อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่2” ดร. O’Shaughnessy กล่าว

“หากไม่มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวินิจฉัยโรคที่เฉพาะเจาะจงได้” ดร.Ciruelos ให้ความเห็น “การติดตามการรักษาของผู้ป่วยแต่ละรายในลักษณะเฉพาะบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อนั้นเราจะสามารถระบุได้ว่าเหตุใดการรักษาแบบเดียวกันสำหรับผู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันจึงได้ผลสำหรับบางคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนอื่นๆ”

พวกเขายืนยันความผิดหวังกับความแตกต่าง และความไม่เท่าเทียมกัน ที่พวกเขาเห็นในการเข้าถึงการรักษา ยา และการรักษาในประเทศต่างๆ และเรียกร้องให้มีความเป็นเอกภาพในการเสนอการรักษาที่เท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยทุกคน โดยไม่คำนึงถึงที่อยู่อาศัยของพวกเขา นักวิจัยทั้งสองยังเห็นพ้องกันว่าการหาเวลาอุทิศตนให้กับการวิจัยโรคมะเร็งอย่างเต็มที่เป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องรับมือกับความท้าทายด้านเงินทุน และแสดงความขอบคุณต่อผู้สนับสนุน ซึ่งรวมถึงมูลนิธิ Mary Kay Ash และมูลนิธิ Fero ที่ทำให้งานช่วยชีวิตของพวกเขาเป็นไปได้

ดร. O'Shaughnessy กล่าวเสริมว่า “ในปี 1985 เรารู้สึกหงุดหงิดอย่างมากจากการไม่มีทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้หญิงที่เป็นมะเร็ง วันนี้เราเห็นความก้าวหน้าอย่างมากในเรื่องนี้ และฉันก็มองโลกในแง่ดีขึ้นต่อความสำเร็จของนักวิจัยรุ่นต่อไป”

ด้วยการให้ทุนสนับสนุนโครงการวิจัยมะเร็งโดยมูลนิธิ Mary Kay Ash ในสหรัฐอเมริกา และรางวัลมอบทุนของ Mary Kay Spain ให้กับมูลนิธิ FERO ในสเปน ทำให้ดร. O’Shaughnessy และ ดร. Ciruelos สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ Mary Kay เป็นแถวหน้าของการวิจัยโรคมะเร็งของผู้หญิง โดยสนับสนุนการวิจัยที่ก้าวล้ำซึ่งนำโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง Mary Kay มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือนักวิจัยทั่วโลก โดยสนับสนุนการวิจัยเชิงแปล (การวิจัยที่เชื่อมโยงการวิจัยในห้องปฏิบัติการกับผู้ป่วยโดยตรง) การทดลองทางคลินิกที่มุ่งปรับปรุงการตรวจหา การพยากรณ์โรค และการรักษาโรคมะเร็งในสตรี ตลอดจนองค์กรที่สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง เช่น มูลนิธิ FERO ในประเทศสเปน

ติดตามบทสนทนาเต็มๆ ของพวกเขาได้ที่ Mary Kay Global YouTube channel.

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากนั้น ตอนนี้ เสมอ Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay ได้เพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางตกแต่งสี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็ง และความรุนแรงในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบเราได้ที่  Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ X (เดิมชื่อว่าทวิตเตอร์)

1 “ที่มา บริษัท ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ฉบับปี 2023 ยอดขายมูลค่าที่ RSP ข้อมูลปี 2022”

2 สมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน https://www.cancer.org/cancer/types/breast-cancer/about/how-common-is-breast-cancer.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53867905/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.


เปิดตัว APO Productivity Databook 2023

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2023

Asian Productivity Organization (APO) เปิดตัว APO Productivity Databook 2023 ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ประจำปีที่รวบรวมสถิติและแนวโน้มความสามารถในการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างครอบคลุม โดยนำเสนอการวิเคราะห์โดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ผู้ถือหุ้นทำความเข้าใจภูมิทัศน์ปัจจุบันและตัดสินใจได้ตามข้อมูล วิธีการที่เคร่งครัดและมาตรฐานการรวบรวมข้อมูลของ Databook ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ถึงชื่อเสียงในฐานะแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ สำหรับทุกคนที่มีความสนใจในความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย

Example of data from the APO Productivity Databook 2023: Figure 5.13 Half-Century Total Factor Productivity index by Country, 1970-2021 (Graphic: Business Wire)

ตัวอย่างข้อมูลจาก APO Productivity Databook 2023: ภาพ 5.13 ดัชนีความสามารถในการผลิตปัจจัยรวมครึ่งศตวรรษตาประเทศ ปี 1970-2021 (กราฟิก: Business Wire)

APO Productivity Databook เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยสามารถช่วยเหลือผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางธุรกิจ และนักวิจัยในการวางแผนเศรษฐกิจ เปรียบเทียบประสิทธิภาพการผลิตในประเทศกับมาตรฐานระดับภูมิภาคและระดับโลก และระบุโอกาสและความท้าทายในการเติบโต

ไฮไลต์สำคัญของ APO Productivity Databook 2023

  • โปรไฟล์สมาชิก APO ยี่สิบเอ็ดโปรไฟล์และโปรไฟล์ระดับภูมิภาคห้าแห่ง พร้อมตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพการทำงาน
  • แนะนำวิธีการใหม่ เช่น การรวมมูลค่าของทรัพยากรแร่ธาตุและพลังงาน (MER) และประเมินปริมาณที่ดินและคุณภาพแรงงานที่ดีขึ้น
  • แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ: ตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2021 เศรษฐกิจของ Asia31 (สมาชิก APO 21 ราย และผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก 10 ราย) เติบโตทุกปีที่ 4% ในปี 2021 คิดเป็น 48% ของเศรษฐกิจโลก เทียบกับสหรัฐอเมริกา (16%) และ EU27 (14%) การคาดการณ์ในปี 2030 ระบุว่า ส่วนแบ่งเศรษฐกิจโลกของเอเชียเพิ่มขึ้นเป็น 53%
  • การวิเคราะห์เฉพาะภาคส่วน: แม้จะมีการกระจายภาคส่วน เกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง ยังคงครอบสัดส่วนในการจ้างงานในเอเชียในปี 2021 โดยคิดเป็นสัดส่วนของการจ้างงานถึง 30% ในขณะเดียวกัน การผลิตก็กลายเป็นภาคส่วนที่สำคัญ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของมูลค่าเพิ่มทั้งหมดใน 12 ประเทศในเอเชีย

APO Productivity Databook 2023 มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบดิจิทัลและฉบับพิมพ์ และสามารถเข้าดูและดาวน์โหลดได้ฟรีจากลิงก์ด้านล่าง

https://doi.org/10.61145/TRKP9496

จะมีการอัปเดต APO Productivity Database 2023 ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่แสดงข้อมูลการผลิตของ 31 ประเทศในเอเชีย และเกณฑ์มาตรฐานจากกลุ่มเศรษฐกิจหลายกลุ่มทั่วโลกในลิงก์ด้านล่างด้วยเช่นกัน

https://www.apo-tokyo.org/productivitydatabook/

เกี่ยวกับ APO

Asian Productivity Organization (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ และไม่เลือกปฏิบัติ มีการก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งแปดคน และปัจจุบัน APO ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย เตอร์กิเย และเวียดนาม

APO วางแผนในการกำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิกผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความคิด โครงการริเริ่มในการสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53867246/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อเพื่อขอรายละเอียด:
Digital Information Unit, APO: pr@apo-tokyo.org;
โทร: +81-3-3830-0411;
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org.

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization

การอภิปรายการค้าอย่างยั่งยืนแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมเพื่อมอบโซลูชันด้านการค้าในการประชุม COP28

Logo

– งานอภิปราย Sustainable Trade Forum จัดขึ้นโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของ UAE โดยเป็นพันธมิตรกับ Capital.com และ Vinfast

– งานจัดขึ้นพร้อมกันกับงาน Trade Day ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในการประชุม COP28

– การชุมนุมธุรกิจระดับโลกและผู้นำด้านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ สาธารณูปโภค และอาหาร

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ –(BUSINESS WIRE)–5 ธันวาคม 2023

ด้วยการเป็นพันธมิตรกันระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมกับบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับโลกอย่าง Capital.com และ VinFast ซึ่งเป็นผู้นำการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าของเวียดนาม ได้ร่วมกันจัดการอภิปราย Sustainable Trade Forum ที่การประชุม COP28 ใน Expo City ในดูไบ โดยองค์ประกอบหลักของ Trade Day ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในการประชุมของพันธมิตรนี้ ได้มีการรวมบริษัทระดับโลกและผู้นำด้านการลงทุนมาไว้ด้วยกันเพื่อร่วมแสดงทัศนคติของภาคเอกชนต่อการค้าระดับโลกและบทบาทในการวางแนวทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศมากขึ้น

HE Dr. Thani bin Ahmed Al Zeyoudi, UAE Minister of State for Foreign Trade (Photo: AETOSWire)

คุณ HE Dr. Thani bin Ahmed Al Zeyoudi รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ (รูปภาพ: AETOSWire)

คุณ HE Dr Thani bin Ahmed Al Zeyoudi รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เปิดงานอภิปรายนี้ ได้เน้นในการสนทนาถึงความสำคัญของการค้าต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก และบทบาทของภาคเอกชนในการมอบโซลูชันที่สามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญในระยะยาวได้ ในการอภิปรายยังกล่าวถึงหัวข้อ ‘การเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของกลุ่มบุคคลผู้มีส่วนในระบบห่วงโซ่อุปทาน โดยติดตามเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก’ และ ‘การสนับสนุนธุรกิจสีเขียว: การส่งเสริมระบบนิเวศธุรกิจรายใหม่ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และยังมีกล่าวถึงข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรมการขนส่ง ยานยนต์ สาธารณูปโภค และอาหาร  

คุณ HE Al Zeyoudi กล่าวว่า “แม้ผู้วางนโยบายและนักการเมืองจะสามารถวางโครงร่างได้ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการต้องนำโซลูชันที่มีขนาดเหมาะสมและเป็นจริงได้มาสู่ตลาด โดยการเชื่อมประสานระหว่างผู้วางนโยบายและผู้นำภาคเอกชน ในการอภิปราย Sustainability Trade Forum มุ่งเน้นอย่างชัดเจนไปที่ก้าวอันสำคัญสู่ระบบการค้าที่สะอาด อัจฉริยะ รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และสามารถเคลื่อนพวกเราให้เข้าใกล้เป้าหมายของ Paris Accords ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด”

ท่านรัฐมนตรียังกล่าวเสริมอีกว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พัฒนาสู่ World Trade Organization’s 13th Ministerial Conference (MC13) ซึ่งจะจัดขึ้นในอาบูดาบี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่ง Sustainable Trade Forum เป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับความคิดเห็นของกลุ่มคนส่วนใหญ่เกี่ยวกับวิธีการวางแนวทางระบบการค้าระดับโลกที่ทันสมัยที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และเท่าเทียม ทั้งยังเป็นวิธีการให้ประเทศสามารถเดินทางไปสู่เป้าหมายการจัดการด้านสภาพอากาศได้อีกด้วย

ทั้งนี้ในระหว่างการอภิปราย คุณ Le Thi Thu Thuy ซีอีโอระดับโลกของ Vinfast ยังได้เน้นย้ำถึงการมีบทบาทชั้นนำของยานยนต์ไฟฟ้าในการสร้างห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยกล่าวว่า “แน่นอนว่า การแทนที่ยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม ด้วยรถยนต์ EV จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ และยังส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและการใช้แหล่งพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หากเรามองไปในอนาคตข้างหน้า การผสานรวมของรถยนต์ EV กับห่วงโซ่คุณค่าของโลกจะทำให้มีกลยุทธ์อันทรงพลังในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นขึ้น”

ในส่วนนี้ Kypros Zoumidou, กลุ่มซีอีโอของ Capital.com ได้กล่าวว่า “การมุ่งมุ่นในโครงร่างธุรกิจใหม่ที่นำไปสู่ความยั่งยืนขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการในการที่จะเริ่มดำเนินการโครงการโดยเร็วตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น แต่ความเร็วและความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการสนับสนุนจากนักลงทุนและระบบนิเวศที่เข้มแข็ง ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีที่จะพลิกโฉมธุรกิจ เรายอมรับว่าการร่วมเป็นพันธมิตรที่ชาญฉลาดระหว่างรัฐบาลและภาคธุรกิจสามารถที่จะผลักดันความก้าวหน้านี้ได้จริง”

นอกเหนือจากซีอีโอของ Vinfast และ Capital.com แล้วในการอภิปรายยังได้มีการปราศรัยจากผู้แทนรัฐบาลสกอต ได้แก่ NYU Abu Dhabi, Ducab Group, Uber, Al Dahra Group, IBM Consulting, ADNOC, General Electric, Princeville Capital, Orbillion Bio, Inc., Wamda Group และ Change Foods

ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53866727/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Elisha Dessurne
edessurne@apcoworldwide.com

ที่มา: ระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

H2SITE ตั้งค่าให้ระบบสลายแอมโมเนียออนบอร์ดเครื่องแรกสร้างไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงควบคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง PEM

Logo

  • การขนส่งทางทะเลคิดเป็น 2% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก แอมโมเนียและเมทานอลเป็นตัวนำพาที่มีแนวโน้มสูงที่สุดในการลดการปล่อยคาร์บอน
  • H2SITE มีการผลิตไฮโดรเจนบริสุทธิ์จากแอมโมเนียออนบอร์ด ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การสลายแอมโมเนีย” โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนในตัว เมื่อเชื่อมต่อกับเซลล์เชื้อเพลิง PEM ไฮโดรเจนจะถูกใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าระบบเสริมสำหรับเรือ
  • หลังการพิสูจน์เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนบูรณาการสำหรับการใช้งานทั้งออนบอร์ดและบนบก H2SITE ยังคงขยายขอบเขตครอบคลุมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มระดับประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น

BILBAO,Spain–(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2023

H2SITE ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบเครื่องสลายแอมโมเนียเครื่องแรกในการผลิตไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงสำหรับการผลิตไฟฟ้าบนเรือ โดยใช้เซลล์เชื้อเพลิง PEM เครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนบูรณาการได้รับการติดตั้งและใช้งานบนเรือขนส่งสินค้า BERTHA B ซึ่งแล่นไปตามชายฝั่งอ่าวบิสเคย์

H2SITE HAS COMMISSIONED THE FIRST ON-BOARD AMMONIA CRACKING SYSTEM GENERATING HIGH-PURITY HYDROGEN COUPLED WITH PEM FUEL CELL.

H2SITE ตั้งค่าให้ระบบสลายแอมโมเนียออนบอร์ดเครื่องแรกสร้างไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงควบคู่กับเซลล์เชื้อเพลิง PEM

การขนส่งทางทะเลมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 2% ของโลก จึงมีการนำเสนอศักยภาพที่สำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการเปลี่ยนจากไฮโดรคาร์บอนเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสีเขียว เช่น

การสลายแอมโมเนียกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในฐานะตัวนำพาไฮโดรเจนที่มีศักยภาพสำหรับการใช้งานออนบอร์ด โดยสามารถใช้งานกับเครื่องยนต์ได้โดยตรง หรือสามารถสลายเป็นไฮโดรเจนและใช้ในเซลล์เชื้อเพลิง ก่อนที่จะใช้งานไฮโดรเจน จะต้องทำไฮโดรเจนให้บริสุทธิ์เสียก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีแอมโมเนียหลงเหลือ

เครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนของ H2SITE จะช่วยตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการเปลี่ยนรูปแอมโมเนียทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ก็มีการถ่ายส่งไฮโดรเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงไปยังเซลล์เชื้อเพลิงในขั้นตอนกระบวนการเดียว ในระหว่างการเดินเรือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ H2OCEAN เครื่องสลายของ H2SITE สามารถให้พลังงานขับเคลื่อนบริการเสริมของเรือได้เป็นที่สำเร็จ ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือกันของผู้ดำเนินการหลักที่มีส่วนในการลดระดับคาร์บอนทางทะเล เช่น Zumaia Offshore, Erhardt Offshore, Ajusa, และ TECNALIA พร้อมกับความร่วมมือกับ Enagas และ ABS

เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์แบบเมมเบรนที่เป็นนวัตกรรมของเราไม่เพียงแต่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเท่านั้น แต่ยังลดพื้นที่ในการติดตั้งอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการใช้งานภายในพื้นที่จำกัด เช่น บนเรือ . to Jose Medrano ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ H2SITE กล่าว “เรามุ่งเน้นในการออกแบบเพื่อลดการใช้แอมโมเนียลงให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักที่จะช่วยให้สามารถป้อนพลังงานเข้าแหล่งจ่ายพลังงานได้สูงขึ้นอย่างเพียงพอ

โครงการนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ H2SITE ในการลดการปล่อยคาร์บอนของการขนส่งทางทะเล

เกี่ยวกับ H2SITE:

H2SITE ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 และมีการพัฒนาเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะสำหรับเครื่องปฏิกรณ์และเครื่องแยก โดยอำนวยความสะดวกในการแปลงวัตถุดิบตั้งต้นต่างๆ ให้กลายเป็นไฮโดรเจน รวมถึงแอมโมเนีย เมทานอล หรือก๊าซสังเคราะห์ ตลอดจนการแยกไฮโดรเจนออกจากส่วนผสมของก๊าซที่มีความเข้มข้นต่ำสำหรับการใช้งานในถ้ำเกลือหรือแหล่งไฮโดรเจนทางธรณีวิทยา

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
Andrés Galnares, CEO de H2SITE: andres.galnares@h2site.eu

แหล่งข้อมูล: H2SITE

Elice ลงนามความร่วมมือพิเศษกับ Pluralsight ในเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B ระดับโลกอันดับ 1

Logo

เนื้อหาด้านการศึกษาไอทีระดับโลกซึ่งดำเนินการโดยบริษัทใน FORTUNE 500 เกือบ 70% พร้อมให้บริการแล้วในขณะนี้ในประเทศเกาหลีผ่าน Elice LXP

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2023

Elice Inc. (CEO Kim Jae-won) บริษัทแพลตฟอร์มการฝึกอบรมด้านการศึกษาได้ลงนามความร่วมมือพิเศษกับ Pluralsight ในเกาหลี ซึ่งเป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B อันดับ 1 สำหรับเนื้อหาด้านการศึกษา Pluralsight เป็นบริษัทด้านการศึกษาไอที B2B ระดับโลกที่นักพัฒนาทั่วโลกเข้าเรียนรู้ทักษะด้านไอที เช่น SW การเขียนโปรแกรม ระบบคลาวด์ เป็นต้น

ด้วยข้อตกลงนี้ Elice ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการเผยแพร่เนื้อหาด้านการศึกษาของ Pluralsight ในเกาหลี Elice จะดำเนินการแปลและปรับแต่งเนื้อหาด้านการศึกษาของ Pluralsight เป็นภาษาเกาหลี โดยใช้เทคโนโลยีและบริการ AI อันเป็นเอกลักษณ์โดยใช้ Elice LXP และ Elice Inc. จะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันกับ Pluralsight เพื่อขยายธุรกิจไปยังญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ อีกด้วย

เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Elice LXP ซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อการศึกษาได้ดึงดูดความสนใจของ Pluralsight เมื่อตัดสินใจร่วมลงนามความร่วมมือ แดชบอร์ด AI ของ Elice LXP สามารถคาดการณ์การจบหลักสูตรตามข้อมูล เช่น ผลการเรียนและรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคนจะสำเร็จการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดย Elice LXP มีอัตราการจบหลักสูตรโดยเฉลี่ยสูงกว่า 80% และมีจำนวนผู้เข้าเรียนมากกว่า 1 ล้านคน

Pluralsight มีการใช้เครือข่ายผู้สอนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เพื่อนำเสนอหลักสูตรที่ดีที่สุดในด้าน SW, ระบบคลาวด์, AI และระบบรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหา SW ขั้นสูง เช่น AWS, MS Azure, GCP เป็นต้น และหลักสูตรการรับรองความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและความปลอดภัยระดับโลกที่เข้าถึงยากในเกาหลี

Elice Inc. ได้เปิดตัวเนื้อหาด้านการศึกษาเกี่ยวกับระบบคลาวด์ ระบบรักษาความปลอดภัย การรับรอง เป็นต้น ใน Elcademy ซึ่งเป็นแบรนด์ด้านการศึกษาระบบ AI เชิงปฏิบัติจอง Elice ซึ่งสะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมล่าสุด

เกี่ยวกับ Elice Inc.

Elice Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี  2015 โดยเป็นบริษัทแพลตฟอร์ม AI Edtech ซึ่งใช้สภาพแวดล้อมการเขียนโค้ดเสมือนจริงสำหรับการศึกษา และให้บริการโซลูชันการฝึกอบรมแบบปรับแต่งตามความต้องการด้วย Elice LXP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการฝึกอบรมด้านการศึกษาแห่งแรกในเกาหลีที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อการศึกษา โดยมีการนำเสนอการฝึกอบรม DX แบบปรับแต่งได้สำหรับลูกค้า 1,100 ราย รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันสาธารณะ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Elice Inc.
Yang Eunyoung
eyyang@elicer.com

แหล่งข้อมูล: Elice Inc.

Abdulaziz Al-Gudaimi ผู้มากประสบการณ์จาก Aramco จะเข้าร่วม EIG ในตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาและประธานหน่วยปฏิบัติงานของ MENA

Logo

WASHINGTON–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2023

วันนี้ EIG สถาบันการลงทุนชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศว่า Abdulaziz Al-Gudaimi ได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาและประธานหน่วยปฏิบัติงาน Middle East & North Africa (หรือ “MENA”) ของ EIG โดย Al-Gudaimi อดีตรองประธานกรรมการบริหารของฝ่ายพัฒนาบรรษัทของ Saudi Aramco (หรือ “Aramco”) ผู้มีประสบการณ์กว่า 38 ปี ในตลาดพลังงาน จะมาเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์แก่ EIG ในกิจกรรมภาคการลงทุนและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

“เราตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับ Abdulaziz สู่บริษัทของเรา” R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าว “ความเชี่ยวชาญที่ลึกซึ้งและประสบการณ์ที่สั่งสมมานานใน MENA จะเป็นหลักสำคัญที่จะช่วย EIG ในการหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมทั่วทั้งภาคพลังงานสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และเป็นประโยชน์ต่อพอร์ตการลงทุนบริษัทของเราที่อยู่ท่ามกลางความท้าทายอันซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่ใช้คาร์บอนต่ำ”

“ผมได้รู้จักกับ Blair และทีม EIG จากความร่วมมือกับ Aramco และผมพร้อมมากที่จะสร้างผลงานสานต่อจากความสำเร็จของพวกเขาในภูมิภาค” Al-Gudaimi กล่าว “ขณะที่การเปลี่ยนผ่านพลังงานทวีความสำคัญอย่างต่อเนื่องและแผ้วถางเส้นทางสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า EIG จัดวางตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองอย่างดีในการหาโอกาสยกระดับความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงาน และสนับสนุนการงดใช้คาร์บอนของภาคพลังงานในภูมิภาค ผมเตรียมที่จะช่วยสร้างมูลค่าด้านในพอร์ตการลงทุนให้กับทั้งบริษัทและผู้ลงทุนด้วย”

Al-Gudaimi เคยดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาบรรษัทที่ Aramco ก่อนจะเกษียณจากตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2022 ครั้งยังดำรงตำแหน่งนี้ เขาได้ช่วย Aramco ให้เข้าถึงโอกาสครั้งใหญ่ในตลาดที่กำลังเติบโตและเทคโนโลยีด้วยการสร้างพอร์ตการลงทุนที่ดีและการจัดวางกลยุทธ์ ก่อนหน้านี้ Al-Gudaimi ผ่านการดำรงตำแหน่งในบทบาทผู้นำที่ Aramco มามากมาย ทั้งรองประธานอาวุโสของ Downstream และรองประธานของ Power Systems ปัจจุบัน Al-Gudaimi ทำงานในฐานะฝ่ายบริหารของ Vision Invest Holding และ Saudi Alfransi Bank รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของ Enterprises LLC, Arlanxeo, Saudi Aramco Total Refining และ Petrochemical Company, Aramco Trading Company รวมถึง Petro Rabigh ด้วย เขาสำเร็จการศึกษาด้วยวุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิตในสาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม และมหาบัณฑิตการจัดการด้านธุรกิจ

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นสถาบันการลงทุนชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่ดูแลจัดการทุนมูลค่ากว่า 23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 30 กันยายน 2023 EIG มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการลงทุนภาคเอกชนในพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ตลอดประวัติของบริษัท 41 ปี EIG ได้ลงทุนไปกว่า 45.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในภาคพลังงานผ่านโครงการมากกว่า 400 โครงการ หรือ บริษัทใน 42 ประเทศในหกภูมิภาค ลูกค้าของ EIG มีทั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน กองทุนการกุศล และมูลนิธิชั้นนำมากมาย รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่ใน Washington, D.C. รวมถึงสำนักงานอื่นที่ Houston, London, Sydney, Rio de Janeiro, Hong Kong และ Seoul

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

แหล่งข้อมูล: EIG

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53864962/en

Defense Derby จาก KRAFTON เปิดตัวอัปเดตใหม่สุดปัง ในเดือนธันวาคม พร้อมยูนิตและฟีเจอร์ใหม่

Logo

พบกับยูนิตใหม่อย่างมูนไนท์และอิมพ์ไฟ ฮีโร่ใหม่ “ฟิเนส” และเทศกาลคริสต์มาสในเกมมือถือแบบเรียลไทม์ PvP ยอดนิยม

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2023

RisingWings ครีเอทีฟสตูดิโอที่ KRAFTON, Inc. เปิดตัวอัปเดตหลักในเดือนธันวาคมสำหรับ Defense Derby ซึ่งเป็นเกมมือถือแนววางแผนต่อสู้เรียลไทม์ PvP ยอดนิยม

Defense Derby reveals new units and features through its December update (Graphic: KRAFTON)

Defense Derby เปิดตัวยูนิตและฟีเจอร์ใหม่ในอัปเดตเดือนธันวาคม (กราฟิก: KRAFTON)

อัปเดตใหม่นี้มีการเพิ่ม “มูนไนท์” ซึ่งเป็นยูนิตสายกายภาพจากเผ่าภูต สามารถโจมตีระยะประชิดได้อย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับสกิลเฉพาะตัวอย่าง 'ภาพซ้อนเงาลวง' ซึ่งจะเป็นการทับซ้อนพลังโจมตีได้อย่างไร้ขีดจำกัดในหนึ่งเวฟ มูนไนท์จะโดดเด่นเป็นอย่างมากเมื่อจับคู่กับยูนิตซึ่งสามารถบล็อกการเคลื่อนไหวและยืดระยะเวลาของแต่ละเวฟได้ โดยผู้เล่นจะสามารถสะสมการ์ดมูนไนท์ได้จากวิธีการต่างๆ ภายในเกมรวมถึงร้านค้ากิจกรรมอย่าง ร้านพรนำโชค กิจกรรมวงล้อลุ้นโชค สุ่มการ์ดและแพ็คเกจขั้นบันได พร้อมซีซั่นใหม่ “ราตรีและรุ่งอรุณ” และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวมูนไนท์ เราได้มีโหมดพิเศษ Derby Brawl – Moon Night Mirror Match ซึ่งผู้เล่นทุกคนจะเล่นด้วยเด็คเดียวกันรวมถึงมีมูนไนท์เป็น 1 ในเด็ค ซึ่งผู้เล่นสามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้จนถึงวันที่ 14 เดือนธันวาคม

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 100 ของ Defense Derby เรามีการเปิดตัว 3 ฮีโร่ใหม่ รวมถึงฟิเนสซึ่งสามารถเริ่มเล่นได้แล้ว ฟิเนสเป็นสายกายภาพจากเผ่าภูตที่มีความสามารถในการทำดาเมจเพิ่ม เมื่อโจมตีแบบปกติ ฟิเนสมีโอกาสที่จะโจมตีแบบชิ่งเพิ่มเติมและสร้างความดเสียหายต่อมอนสเตอร์ได้มากขึ้น การเคลื่อนไหวอันเป็นเอกลัษณ์ และสกิลวายุพิฆาตที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีชั่วคราว นอกเหนือจากนี้ ยังมีการเตรียมเปิดตัว “ลาน่า”  ฮีโร่เผ่ามนุษย์คนใหม่ในเดือนมกราคม

และในวันที่ 15 เดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เตรียมพบกับการเปิดตัวของอิมพ์ไฟ ยูนิตใหม่สายเวทย์จากเผ่าภูต ซึ่งสามารถดีบัฟมอนสเตอร์ได้ในระยะไกล และสามารถลดความเสียหายของมอนสเตอร์ที่มีต่อปราสาทได้ ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมกิจกรรม Derby Brawl – Fiery Imp Mirror Match ได้ตั้งแต่วันที่ 15 เดือนธันวาคม จนถึงวันที่ 28 เดือนธันวาคมนี้ พร้อมทดลองเล่นยูนิตใหม่ที่จะเปิดตัวนี้ด้วย

อัปเดตนี้ยังรวมถึงระบบสกินใหม่และกิจกรรมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคมเป็นต้นไป ผู้เล่นสามารถเลือกสกินให้กับฮีโร่และยูนิตได้แล้ว และเพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง เรามีกิจกรรมคริสต์มาสให้เข้าร่วมได้ตั้งแต่วันที่ 14 เดือนธันวาคม จนถึงวันที่ 31 เดือนธันวาคม โดยมีกิจกรรมและรางวัลมากมาย รวมถึงสกินปราสาทคริสต์มาสอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น อัปเดตครั้งที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายนของ Defense Derby ยังมีการปล่อยโหมด PvE ใหม่ นั่นคือ การเดินทางของฮีโร่ ซึ่งผู้เล่นสามารถเข้าร่วมการต่อสู้แบบ 1:1 กับฮีโร่ในแต่ละด่านได้ ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเหรียญแห่งเกียรติยศ และสามารถนำไปแลกยูนิตในร้านค้าเกียรติยศได้

สามารถเข้าดูอัปเดตล่าสุดของ Defense Derby ได้ที่ https://www.facebook.com/DefenseDerby.THAILAND และติดตามได้ทางช่องทางโซเชียลมีเดีย (YouTube | Discord)

การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53864550/en

ติดต่อ

KRAFTON
Jihyun Park
jihyun.park@krafton.com

แหล่งข้อมูล: KRAFTON, INC.

Mary Kay ขยายสู่ฮังการี การยกระดับความงามและการสร้างเสริมพลังในยุโรปกลาง

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2023

บริษัท Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นแบรนด์ความงามอันโดดเด่นและผู้สนับสนุนระดับโลกในการสร้างเสริมศักยภาพของผู้หญิงในระดับโลก รู้สึกตื่นตเต้นที่ได้ประกาศถึงการขยายุรกิจไปยังฮังการี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ถือเป็นการรุกครั้งล่าสุดของบริษัทในตลาดยุโรป การขยายธุรกิจนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการฉลองครบรอบ 60 ปีที่สำคัญของ Mary Kay โดยเน้นย้ำถึงมรดกที่ยืนยาวในการนำเสนอโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีใครเทียบได้และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางแบบมีสีคุณภาพสูง

With Hungary’s rich cultural tapestry, vibrant heritage, and dynamic economy, Mary Kay Inc. is set to introduce a range of initiatives aimed at bolstering the economic empowerment of Hungarian women. (Credit: Mary Kay Inc.)

ด้วยพรมวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของฮังการี มรดกอันมีชีวิตชีวา และเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง Mary Kay Inc. จึงเตรียมที่จะแนะนำโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ ที่มุ่งเป้าไปยังการส่งเสริมการเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของหญิงสาวชาวฮังการี (เครดิต: Mary Kay Inc. )

การดำเนินงานของ Mary Kay Hungary จะได้รับการดูแลจากสำนักงานของ Mary Kay ในสาธารณรัฐเช็ก ณ กรุงปราก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการขยายตัวครั้งยิ่งใหญ่นี้ จึงมีการจัดกิจกรรมทั้งในปรากและบูดาเปสต์ การขยายธุรกิจนี้ต่อยอดมาจากการได้รับรางวัลล่าสุดของแบรนด์ในการเป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของโลกในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสีโดยบริษัท Euromonitor International1

“การขยายธุรกิจไปยังฮังการีเป็นสิ่งหนึ่งที่เราคำนึงถึงมาโดยตลอด และเรารู้ว่าถึงเวลาที่จะแนะนำโอกาสในการทำงานที่ไม่มีใครเทียบได้และผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ในตลาดใหม่แห่งนี้มาถึงแล้ว” Tara Eustace ประธานของ Mary Kay ในภูมิภาคยุโรปกล่าว “ฉันมั่นใจว่าภายใต้การนำของ Edita Szaboova และตลาด Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกียที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของเรา เราจะสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ที่สดใสและมีความเป็นไปได้สำหรับผู้หญิงในฮังการี”

Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย แสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับการขยายตลาดใหม่

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบอำนาจให้กับเหล่าผู้ประกอบการหญิงที่มีความมุ่งมั่นในฮังการี ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของเราในการยกระดับชีวิตของผู้หญิง” Szaboova กล่าว “การเป็นผู้ประกอบการได้รับความเคารพและการสนับสนุนอย่างสูงในฮังการี และงานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจะเปิดรับโอกาสใหม่นี้ในการทำงาน เรียนรู้ และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนของตนเองได้”

ด้วยพรมวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของฮังการี มรดกอันมีชีวิตชีวา และเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง บริษัท Mary Kay Inc. พร้อมที่จะแนะนำโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของหญิงสาวชาวฮังการี โดยโครงการริเริ่มเหล่านี้ได้รวมถึงโปรแกรมการศึกษา การให้คำปรึกษา และการลงทุนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดติดตาม Mary Kay Hungary ออนไลน์ได้ที่ www.marykay.hu และเชื่อมต่อกันอยู่เสมอบน Instagram และ Facebook

About Mary Kay

Then. Now. Always. (ตั้งแต่ก่อนนั้น ตอนนี้และตลอดไป) Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกดั้งเดิม เธอได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของตัวเองในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลา 60 ปีที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางตกแต่งสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต การปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และส่งเสริมให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่  marykayglobal.com ค้นหาเกี่ยวกับเราใน Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ใน X (ชื่อเดิมคือ Twitter)

1 ” ที่มา Euromonitor International Limited; ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ฉบับปี 2023 ยอดขายมูลค่าที่ราคาปลีกผู้บริโภค (RSP) ข้อมูลปี 2022”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




Thai Herald

Thai Herald