ไทยประกันชีวิต, สถานี PTT, คิง เพาเวอร์, คาเฟ่ อเมซอน, Royal Umbrella, Aurora, VISTRA, TrueOnline, ฟาร์มเฮ้าส์, VITADAY, M-150 และ TOPS เป็นหนึ่งในผู้ชนะได้รับรางวัล World Branding Awards ประจำปี 2023 – 2024

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2023

งานประกาศรางวัล World Branding Awards ครั้งที่ 17 มีความยินดีประกาศความสำเร็จและผลประกอบการของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลกบางส่วน ในฐานะผู้ชนะระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก รางวัล World Branding Awards ประจำปี 2023 – 2024 มีแบรนด์มากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศน้อยกว่า 200 แบรนด์

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้มีการจัดขึ้นอีกครั้งที่พระราชวังเคนซิงตัน กรุงลอนดอน ได้ให้การต้อนรับแขกมากกว่า 100 คน และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะระดับโลกที่ได้รับยกย่องในความเป็นเลิศและมีการสร้างแบรนด์ที่ไร้ที่ติภายในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา) และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะได้รับรางวัลจากประเทศ ได้แก่ ไทยประกันชีวิต, สถานี PTT, คิง เพาเวอร์, คาเฟ่ อเมซอน, Royal Umbrella, Aurora, VISTRA, TrueOnline, ฟาร์มเฮ้าส์, VITADAY, M-150 และ TOPS ผู้ชนะระดับประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Airland (ฮ่องกง) และ Getha (มาเลเซีย) เป็นต้น

มีเพียง 14 แบรนด์ที่ได้รับเลือกให้เข้ารับรางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย) และ HECOM (ฮ่องกง) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นรายการโปรดจากผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปจากมากกว่า 3 พื้นที่ในภูมิภาคเชิงภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองสำหรับการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น เพื่อคงความตระหนักรู้ในฐานะแบรนด์ แบรนด์จะต้องสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเสถียร นั่นหมายถึงไม่เพียงเฉพาะการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนแบรนด์ผ่านทางการตลาดเท่านั้น แต่ยังรับประกันว่า แบรนด์จะมีความน่าสนใจสำหรับทุกคนทุกเจเนอเรชั่น” Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

มีผู้บริโภคมากกว่า 150,000 รายเข้าร่วมกระบวนการนำเสนอชื่อทั่วโลกในปีนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว แต่ละประเทศมีแบรนด์ที่ชนะได้รับรางวัลเพียง 5 แบรนด์เท่านั้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award ถือเป็นความสำเร็จอันน่าจดจำ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลพรีเมียร์ของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีการจดทะเบียน รางวัลนี้ยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/
Twitter: https://twitter.com/WorldBranding
Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/
LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

เส้นทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ไปยังสนามบินสิงคโปร์ชางงี (SIN) เป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดย OAG

Logo

เอเชียครองเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศทั่วโลก สนามบินลอนดอนฮีทโธร์วเป็นหนึ่งใน 5 สนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก

ข้อค้นพบที่สำคัญ:

  • เส้นทางจากสนามบินไคโร (CAI) ไปยังสนามบินเจดดาห์ (JED) เป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่พลุกพล่านเป็นอันดับ 2 ของโลก รองลงมาคือ เส้นทางจากสนามบินฮ่องกง (HKG) ไปยังสนามบินไทเป (TPE) เป็นอันดับ 3
  • เส้นทางจากสนามบินลอนดอนฮีทโธร์ว (LHR) ไปยังสนามบินนิวยอร์ก (JFK) เป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่พลุกพล่านอันดับ 8 ของโลก
  • เส้นทางจากสนามบินดูไบ (DXB) ไปยังสนามบินลอนดอนฮีทโธร์ว (LHR) และสนามบินลิสบอน (LIS) ไปยังสนามบินมาดริด (MAD) อยู่ในอันดับ 5 และอันดับ 10 สำหรับเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดใน EMEA

LONDON–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2023

วันนี้ OAG แพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก มีการเปิดเผยข้อมูลสำหรับเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลกประจำปี 2023 โดยการวิเคราะห์นี้มีการขับเคลื่อนโดยข้อมูลตารางเที่ยวบินสำหรับสายการบินทั่วโลกของ OAG และมีการแสดงภาพรวมประสิทธิภาพและแนวโน้มของเส้นทางการบินทั้งระหว่างประเทศและภายในประเทศ

อีกครั้งที่เอเชียแปซิฟิกมีเส้นทางการเดินทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลก โดยติดอันดับ 7 ใน 10 เส้นทางระหว่างประเทศระดับโลก และใน 9 เส้นทางภายในประเทศ เส้นทางระหว่างประเทศที่พลุกพล่านที่สุดในโลกคือ เส้นทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ไปยังสนามบินสิงคโปร์ชางงี (SIN) ด้วยจำนวนที่นั่ง 4.9 ล้านที่นั่ง เส้นทางทางสนามบินไคโร (CAI) ไปยังสนามบินเจดดาร์ (JED) อยู่ในอันดับ 2 ด้วยจำนวนที่นั่ง 4.8 ล้านที่นั่ง เพิ่มขึ้นจาก 3.4 ล้านที่นั่งในปี 2019

สมาบินลอนดอนฮีทโธร์ว (LHR) เป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลกอันดับ 4 ในปีนี้ด้วยจำนวนที่นั่ง 49,370,859 ที่นั่ง สนามบินนานาชาติ Atlanta Hartsfield-Jackson (ATL) อยู่ในอันดับ 1 และสนามบินนานาชาติดูไบ (DXB) อยู่ในอันดับ 2

สำหรับเส้นทางภายในประเทศที่พลุกพล่านที่สุด เส้นทางจากสนามบินปักกิ่ง (PEK) ไปยังสนามบินเซี่ยงไฮ้หงเฉียว (SHA) อยู่ในอันดับ 1 ในประเทศจีน และเส้นทางจากสนามบินโฮโนฮูลู (HNL) ไปยังสนามบินคาฮูลุย (OGG) เป็นเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในสหรัฐอเมริกา

“เอเชียยังคงมีเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลก เนื่องจากได้รับความนิยมมากในฐานะจุดท่องเที่ยวยอดนิยม” John Grant หัวหน้านักวิเคราะห์ของ OAG กล่าว “แม้ว่า จำนวนที่นั่งจะไม่เท่าระดับในปี 2019 สนามบินลอนดอนฮีทโธร์วยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการเดินทางทางอากาศทั่วโลก”

สามารถดูข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้จากข้อมูลการวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีการขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศมาตั้งแต่ปี 1929 โดยมีเครือข่ายอิสระที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในโลกสำหรับตารางเที่ยวบินและข้อมูลสถานะเที่ยวบินต่างๆ ในโลก OAG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหราชอาณาจักร และมีการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และลิทัวเนีย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter @OAG Aviation

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Chrissy Azevedo, Corporate Ink for OAG
pressoffice@oag.com

แหล่งข้อมูล: OAG

TSUBURAYA PRODUCTIONS จะเริ่มโรดโชว์ ULTRAMAN CARD GAME ในปี 2024

Logo

เกมแรกมีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2023

บริษัท Tsuburaya Productions จำกัด (สำนักงานใหญ่ในโตเกียว) ได้ประกาศในงาน Anime Festival Asia Singapore 2023 (AFA23) ว่าบริษัทจะโรดโชว์เพื่อจัดแสดงชุดต่างๆ ของ ULTRAMAN CARD GAME ที่กำลังจะออกสู่ตลาดทั่วโลกในปี 2024

Ultraman Card Game scheduled to launch in 2024. (Graphic: Business Wire)

การ์ดเกม Ultraman มีกำหนดเปิดตัวในปี 2024 (กราฟิก: Business Wire)

AFA23 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ถึง 26 พฤศจิกายน ได้รับเลือกให้เป็นงานแรกที่จะนำ ULTRAMAN CARD GAME มาสู่แฟนๆ และพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ผู้เข้าชมจะได้เพลิดเพลินกับบททดสอบและการแสดงสดบนเวทีเพื่อแนะนำเกม

“เกมนี้ออกแบบมาสำหรับคนทุกรุ่น ตั้งแต่แฟนๆ Ultraman ไปจนถึงผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับตัวละครและเรื่องราว” Takayuki Kawai รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Tsuburaya Productions กล่าว เขากล่าวเสริมว่า “เราหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับ ULTRAMAN CARD GAME กับครอบครัวและเพื่อนฝูง และนี่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และชื่นชอบผลงานของ Tsuburaya Productions ให้มากขึ้น”

โปรโมชั่นจะเริ่มในปี 2024 หลังจากเปิดตัวซึ่งมีกำหนดในช่วงฤดูร้อนปี 2024 การแข่งขันระดับท้องถิ่นและระดับโลกจะมีการวางแผนสำหรับผู้เล่นทั่วโลก ULTRAMAN CARD GAME มีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายละเอียดและการอัพเดตของเกมสามารถดูได้ที่:
https://www.facebook.com/ultramancardgame

ULTRAMAN CARD GAME คืออะไร

ULTRAMAN CARD GAME เป็นการ์ดเกมที่ผสมผสานการสร้างโลกของซีรีส์ Ultraman เข้ากับรูปแบบการเล่นและของสะสมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้

การ์ดได้รับการออกแบบด้วยงานศิลปะคุณภาพสูงเพื่อแสดงองค์ประกอบที่น่าดึงดูดของรูปลักษณ์ การเพิ่มพลัง ท่าพิเศษ และระบบประเภทของ Ultraman
ภายใต้ประโยชน์ของ Tsuburaya Productions เกม ULTRAMAN CARD GAME มีกำหนดการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับผลงาน บริการ และการถ่ายทอดสดที่เกี่ยวข้องกับ Ultraman ตลาดที่เปิดตัวครั้งแรกมีกำหนดคือญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน และบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความร่วมมือเป็นพิเศษ: Shanghai Character License Administrative Co.,Ltd. (SCLA), Zhejiang Kayou Animation Co., Ltd. (Kayou).

เกี่ยวกับบริษัท Tsuburaya Productions จำกัด

Tsuburaya Productions ก่อตั้งในปี 1963 โดย Eiji Tsuburaya หรือที่เรียกกันว่า “เทพเจ้าแห่งสเปเชียลเอฟเฟกต์” และได้สร้างภาพยนตร์สเปเชียลเอฟเฟกต์คนแสดงหลายเรื่อง ซึ่งซีรีส์ Ultraman มีชื่อเสียงที่สุด รวมถึง Ultra Q และ Ultraman ที่ออกอากาศทางทีวีของญี่ปุ่นในปี 1966 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Ultraman ได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าทีวีไปยังโรงภาพยนตร์ บริการสตรีมมิ่ง การแสดงสด สวนสนุก และมีจำหน่ายในรูปแบบสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลก
Tsuburaya Productions ฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2023

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53869667/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

ทีมงานประชาสัมพันธ์ Tsuburaya Productions
global_pr@tsuburaya-prod.co.jp 

แหล่งที่มา: บริษัท Tsuburaya Productions จำกัด




แบรนด์แซนด์วิชไข่ระดับพรีเมียม EGGDROP เตรียมเปิดร้านค้าทั่วโลกในฟิลิปปินส์

Logo

  • ร้าน EGGDROP 5 แห่งจะเปิดในสถานที่สำคัญๆ ในฟิลิปปินส์เริ่มตั้งแต่ปี 2024
  • Golden Hind แสวงหาพันธมิตรแฟรนไชส์หลักระดับโลกในฟิลิปปินส์และประเทศไทย

กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–21 ธันวาคม 2023

EGGDROP แบรนด์แซนด์วิชไข่เกาหลีระดับพรีเมียมของเกาหลี โดย Golden Hind Co., Ltd (ซีอีโอ Young-woo Noh) ประกาศเปิดร้านค้าระดับโลกแห่งที่สองในฟิลิปปินส์ รองจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย

การเข้าสู่ฟิลิปปินส์ของ EGGDROP เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงร้านค้า 10 สาขาในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศแรกของแบรนด์ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก บรรลุข้อตกลงสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจได้หลายแห่งเพื่อเปิดร้านค้า 5 แห่งในฟิลิปปินส์ EGGDROP จะเปิดตัวร้านค้า 2 แห่งในฟิลิปปินส์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ตามด้วยร้านค้าเพิ่มเติมอีก 3 แห่งในช่วงครึ่งหลังของปีในสถานที่สำคัญต่างๆ

Official Poster, EGGDROP Philippines (Photo: EGGDROP)

โปสเตอร์อย่างเป็นทางการจาก EGGDROP ฟิลิปปินส์ (รูปภาพ: EGGDROP)

การเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ของ EGGDROP เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายธุรกิจในต่างประเทศของ Golden Hind ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ได้รับประสบการณ์การกินแบบใหม่ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

เริ่มต้นด้วยร้านแรกในปี 2017 และเสร็จสิ้นการเปิดสาขาที่ 298 ในเกาหลีใต้ (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2023) EGGDROP มียอดขายที่เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะเวลาอันสั้น ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์อันน่าทึ่ง แนวคิด “อาหารจากไข่” ที่ดีต่อสุขภาพและอร่อย และการออกแบบอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถลงอินสตาแกรมได้

จากการเติบโตนี้ในเกาหลี EGGDROP จึงได้รับการสอบถามเกี่ยวกับแฟรนไชส์จากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินเดีย

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ประกาศการขยายธุรกิจในต่างประเทศครั้งที่สองของ EGGDROP” Youngwoo Noh ซีอีโอของ Golden Hind กล่าว “เราตั้งตารอที่จะมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานให้กับผู้บริโภคในฟิลิปปินส์” Mr. Noh. กล่าว “นอกเหนือจากประเทศไทยและฟิลิปปินส์แล้ว EGGDROP ยังกระตือรือร้นการแสวงหาพันธมิตรแฟรนไชส์หลัก ในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในระดับโลก”

EGGDROP
ไข่ทำให้ดีขึ้น EGGDROP
EGGDROP เป็นแบรนด์แซนด์วิชไข่ระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่ “อาหารสมบูรณ์” ซึ่งปรุงอาหารเพื่อสุขภาพโดยใช้ไข่คนที่ทำจากไข่เกรด 1 และวัตถุดิบสดใหม่

Golden Hind
Golden Hind เป็นบริษัทน้องใหม่และมีนวัตกรรมที่สนับสนุน “Food Venture” ในฐานะบริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ก่อตั้งในปี 2017 ในกรุงโซล ปัจจุบัน EGGDROP ถือเป็นธุรกิจชั้นนำและบ่มเพาะแบรนด์อื่นๆ มากมาย

EGGDROP อินสตาแกรม: http://instagram.com/eggdrop.official
EGGDROP ยูทูป: https://www.youtube.com/@eggdrop.official
EGGDROP แฟรนไชส์ทั่วโลก: https://eggdrop.co.kr/en/franchise/process.php
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://eggdrop.co.kr/en/

[EGGDROPTHAILAND Bangkok Flagship Store OPEN TH] บน EGGDROP YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53872930/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

Golden Hind
ทีมสื่อสาร
Hundo Lee
+82 1670-4809
anchor@goldenhind.co.kr

แหล่งที่มา: Golden Hind

เส้นทางการเสริมพลังของ Mary Kay ยังคงดำเนินต่อไป : แบรนด์เข้าร่วมหลักการเสริมพลังของผู้หญิงในเอเชียแปซิฟิก

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–21 ธันวาคม 2023

Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกสำหรับการเสริมสร้างพลังของผู้หญิง ได้ประกาศในวันผู้ประกอบการสตรี (Women's Entrepreneurship Day) ว่า บริษัทได้กลายเป็นผู้ลงนามอย่างเป็นทางการใน Women's Empowerment Principles (WEPs) แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเดือนมีนาคม 2019 ก้าวแรกของ Mary Kay Inc. ในการเดินทางของ WEP โดยกลายเป็นผู้ลงนามระดับโลกในระหว่างการประชุม WEPs ซึ่งจัดขึ้นนอกรอบของ Commission on Status of Women (CSW63)

“ที่ Mary Kay เราเป็นผู้นำโดยช่วยส่งเสริมผู้หญิงจากทุกสาขาอาชีพด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง การให้คำปรึกษา และการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเลือกที่นำไปสู่ชีวิตที่เติมเต็มและมีความหมายสำหรับตนเอง ครอบครัว และชุมชน” Wendy Wang ประธาน Mary Kay ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

ในขณะที่ Mary Kay ฉลองครบรอบ 60 ปี บริษัทได้เข้าร่วม WEP เพื่อแสดงตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้นำด้านผู้ประกอบการสตรีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสื่อความถึงโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีใครเทียบได้ พร้อมส่งเสริมสถานที่ทำงานที่สนับสนุน และตอบแทนชุมชนผ่านโครงการริ่เริ่มกิจกรรมเพื่อสังคมขององค์กร (CSR)

WEP จัดทำกรอบการทำงานแบบองค์รวมสำหรับบริษัทต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมพลังของผู้หญิงในสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน ทั้งยังขับเคลื่อนผลลัพธ์เชิงบวกสำหรับสังคมและธุรกิจ WEP เปิดตัวในปี 2010 โดย UN Women และ UN Global Compact WEP ได้รับแจ้งจากแรงงานระหว่างประเทศ และมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีพื้นฐานมาจากการยอมรับว่าธุรกิจต่างๆ มีส่วนได้ส่วนเสียและมีความรับผิดชอบต่อความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมอำนาจของสตรี

ในแถลงการณ์ Wendy Wang ประธาน Mary Kay ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า:

“จากการแสวงหาเส้นทาง WEP ระดับโลกที่ Mary Kay ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 ในวันนี้ ณ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทได้ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นสัญญาที่จะช่วยเร่งปิดช่องว่างระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน 'การเสริมพลังของผู้หญิง' เป็นมากกว่าความสำเร็จในอาชีพของผู้หญิง – มันต้องมีมุมมองแบบองค์รวม แผนงานไปสู่ความก้าวหน้าและผลกระทบที่วัดได้ เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงภาคเอกชน – และ WEP ก็กำลังทำเช่นนั้น ที่ Mary Kay เราเป็นผู้นำโดยช่วยส่งเสริมผู้หญิงจากทุกสาขาอาชีพด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง การให้คำปรึกษา และการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเลือกที่นำไปสู่ชีวิตที่เติมเต็มและมีความหมายสำหรับตนเอง ครอบครัว และชุมชน”

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของ WEP สำหรับ Mary Kay ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Mary Kay China เพิ่งเปิดตัวรายงาน Mary Kay China Empowering Women Impact Report ครั้งแรกในหัวข้อ “Thinking Like A Woman” (คิดเหมือนกับผู้หญิง) รายงานดังกล่าวได้ปฏิบัติตามหลักการที่ 7 ว่าด้วย “การวัดผลและการรายงาน” ” และหลักการที่ 6 ว่าด้วย “การริเริ่มและการสนับสนุนของชุมชน”

การดำเนินการของ WEP:

รายงานดังกล่าวเปิดเผยผลงานของ Mary Kay China และผลลัพธ์ในการเสริมพลังของผู้หญิงเพื่อให้บรรลุความสำเร็จผ่านแนวทางที่หลากหลาย ทั้งในการเป็นผู้นำ ตลาด สถานที่ทำงาน และงานชุมชน ส่วนรายงานฉบับต่อๆ ไปจะครอบคลุมถึงคำมั่นสัญญาและอิทธิพลของ Mary Kay ในประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ ความสำเร็จบางส่วนต่อไปนี้ ได้ครอบคลุมหลักการ WEPs ทั้ง 7 ประการซึ่งถูกเน้นย้ำในรายงาน:

ผู้นำมายาวนานและผู้สนับสนุนระดับโลกเพื่อการเสริมพลังสตรี

  • Mary Kay ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลายเป็นผู้ลงนาม WEPs
  • ใช้กลยุทธ์การพัฒนา “All For Her” เพื่อให้การสนับสนุนรอบด้านสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ

เพิ่มขีดความสามารถของสตรีผ่านธุรกิจ

  • ตั้งแต่ปี 2022 ถึงเดือนมีนาคม 2023 มีที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ 1,327,082 คนเข้าร่วมการฝึกอบรม

ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2022 Mary Kay ได้ลงทุนมากกว่า 80 ล้านหยวน (หยวนจีน) ในการเพิ่มศักยภาพทางดิจิทัลเพื่อพัฒนาเครื่องมือทางธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์สำหรับที่ปรึกษาด้านความงาม

สถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้หญิงในการทำงาน

  • ในปี 2022 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงในทีมผู้บริหารและพนักงานของ Mary Kay China ทั้งคู่อยู่ที่ 57% ในขณะที่ 64% ของพนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้หญิงด้วย
  • ในปี 2022 พนักงานของ Mary Kay China 93% ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการโปรเจ็ค แนวโน้มของตลาด และความเป็นผู้นำ โดยมีเซสชันการฝึกอบรมเฉลี่ย 1.6 ครั้งต่อคน เวลาการฝึกอบรม 6 ชั่วโมง และเงินลงทุนในการฝึกอบรม 1,500 หยวน

การให้กลับคืนสู่ชุมชน

  • ณ เดือนเมษายน 2023 ผู้หญิงทั้งหมด 257,117 คนได้รับประโยชน์จากโครงการ CSR ของ Mary Kay China
  • ในปี 2022 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay China และพนักงาน 1,267 คนได้บริจาคเงินในการให้บริการอาสาสมัครมากกว่า 9,000 ชั่วโมงในความสามารถที่หลากหลาย: ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครที่ไม่ใช่แพทย์ในศูนย์ศัลยกรรมปากแหว่งเพดานโหว่ ช่วยทำความสะอาดชุมชนของพวกเขา หรือจัดชั้นเรียนความงามฟรีเพื่อการกุศล

เกี่ยวกับ Mary Kay

Then. Now. Always. (ตั้งแต่ก่อนนั้น ตอนนี้และตลอดไป) Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกเดิม เธอได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของตัวเองในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลา 60 ปีที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางตกแต่งสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต การปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และส่งเสริมให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเกี่ยวกับเราใน  Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราใน X (ชื่อเดิมคือ Twitter)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53871013/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.



พันธมิตรความร่วมมือระหว่าง ADIO และ Gradiant ในโครงการรักษ์น้ำ

Logo

  • Gradiant บริษัทบำบัดน้ำและน้ำเสียที่ก่อตั้งโดย MIT ได้เข้าร่วมศูนย์รวมนักพัฒนานวัตกรรมของ Abu Dhabi ซึ่งเป็นหัวหอกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศระดับโลก
  • Gradiant ตัดสินใจเลือก Abu Dhabi เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ใน EMEA และร่วมมือกันกับ ADIO สำหรับ CleanTech และเป้าหมายด้านการรักษ์น้ำ
  • ข้อตกลงลงนามใน COP28 ระหว่างการประชุมด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จัดขึ้นโดยสหประชาชาติ

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–20 ธันวาคม 2023

สำนักงานการลงทุนอาบูดาบี (Abu Dhabi Investment Office ADIO) ประกาศในวันนี้ว่า Gradiant ยูนิคอร์นด้านโซลูชันน้ำและน้ำเสียที่ก่อตั้งโดย MIT ได้ตัดสินใจเลือกเมืองหลวงของ UAE เป็นที่ตั้งของสำหนักงานใหญ่และศูนย์นวัตกรรมระดับโลกแห่งใหม่ของ EMEA ADIO และ Gradiant มีการร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือใน COP28 ระหว่างการประชุมด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จัดขึ้นโดยสหประชาชาติ โดยบริษัทได้เข้าร่วมศูนย์รวมนักพัฒนานวัตกรรมของ Abu Dhabi ซึ่งเป็นหัวหอกในการพัฒนาและการจำหน่ายโซลูชันด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั่วโลก

The partnership between ADIO and Gradiant underscores their joint commitment to advancing water security and climate change solutions, marking a significant step in establishing Abu Dhabi as a pivotal center for global environmental innovation. (Graphic: Business Wire)

“ความร่วมมือระหว่าง ADIO และ Gradiant ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาความมั่นคงทางน้ำและโซลูชันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นก้าวสำคัญในการจัดตั้งให้ Abu Dhabi เป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก (กราฟิก: Business Wire)”

ADIO สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจใน Abu Dhabi โดยการดึงดูดบริษัทที่มีการพัฒนานวัตกรรมในภาคส่วนเศรษฐกิจที่มีการเติบโตสูง ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Emirate ในความร่วมมือกับ Gradiant ซึ่งมีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Abu Dhabi ก้าวสู่แนวหน้าของอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าของตลาดการบำบัดน้ำและน้ำเสียทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030

ADIO ให้การสนับสนุนการเติบโตของ Gradiant อย่างครอบคลุม และเชื่อมโยงกับระบบนิเวศของ Abu Dhabi รวมถึงโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Boston มีพนักงานทั่วโลกกว่า 900 คน ปัจจุบันมีความโดดเด่นในการรับมือกับความท้าทายด้านน้ำที่เพิ่มขึ้นของโลก ซึ่งเกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรม การเติบโตของประชากร และปริมาณน้ำที่ขาดแคลนมากขึ้น เทคโนโลยีของบริษัทช่วยส่งเสริมตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ ของโลก รวมถึงเซมิคอนดัคเตอร์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม พลังงานหมุนเวียน การกลั่นและเคมีภัณฑ์ และพลังงาน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามภารกิจที่สำคัญ และลดปริมาณการใช้น้ำ

Badr Al-Olama ผู้อำนวยการทั่วไปของ ADIO กล่าวว่า “การเพิ่มบริษัทมูลค่าพันล้านเหรียญสหรัฐที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภารภิจสำคัญระดับโลก ถือเป็นการส่งเสริมอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบนิเวศนวัตกรรมของ Emirate และความมุ่งมั่นใน net zero Gradiant ให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าทั่วทุกภาคส่วนหลัก โดยสอดคล้องกับลำดับความสำคัญทางเศรษฐกิจของ Abu Dhabi และการดำเนินธุรกิจใน Emirate จะเป็นตัวเร่งการเติยโตในหลายๆ ด้าน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านการรักษ์น้ำในวงกว้าง UAE มุ่งมั่นที่จะมีการนำน้ำหลังการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ ADIO มีความภูมิใจที่ได้สนับสนุนผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้ดำเนินการหลักระดับโลกอย่าง Gradiant”

Gradiant นำเสนอกระบวนการและโซลูชันดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมน้ำและน้ำเสีย และปัจจุบันมีสิทธิบัตรถึง 250 ฉบับโดยประมาณซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีต่างๆ บริษัทรวบรวมเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านน้ำที่สำคัญที่สุดของโลก โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีขื่อว่า SmartOps สำหรับการปรับเพิ่มประสิทธิภาพของโรงงานและการจัดการทรัพย์สินของระบบบำบัด โดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์

Prakash Govindan, COO ของ Gradiant กล่าว “ความร่วมมือของเรากับ ADIO ขยายความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาโซลูชันน้ำอย่างยั่งยืนทั่วภูมิภาค EMEA ในการต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านการพิสูจน์แล้วใน Singapore เราตั้งเป้าที่จะทำให้ Abu Dhabi และ UAE ก้าวสู่แถวหน้าด้านนวัตกรรมในเทคโนโลยีน้ำ แนวทางของเราสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เศรษฐกิจของ Abu Dhabi ในปี 2030 และเราทุ่มเทเพื่อยกระดับความเพียงพอของน้ำและพลังงานในภูมิภาคผ่านโซลูชันที่ล้ำสมัยของเรา”

ศูนย์นวัตกรรมระดับโลกของ Gradiant ใน Abu Dhabi จะพัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยีการบำบัดน้ำใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังมีการทำงานกับ Khalifa University, Masdar และสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของ Abu Dhabi ความร่วมมือกันนี้จะช่วยกระตุ้นและเสริมความก้าวล้ำในเทคโนโลยี RO Infinity และ Carrier Gas Extraction (CGE) ของ Gradiant และโซลูชันการบำบัดน้ำที่พัฒนาขึ้นใหม่อื่นๆ

ADIO มีส่วนร่วมในการพัฒนาโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนใน Abu Dhabi รวมถึงการร่วมมือกับ Siemens Energy AG ในการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเพื่อลูกค้าตะวันออกกลางใน Emirate ศูนย์นี้เป็นหนึ่งในสี่ศูนย์นวัตกรรมระดับโลกที่จะช่วยสนับสนุนการจำหน่ายโซลูชันเชิงนวัตกรรมเพื่อก้าวสู่ net zero ใน UAE และทั่วโลก

เกี่ยวกับ ADIO

สำนักงานการลงทุนอาบูดาบี (Abu Dhabi Investment Office — ADIO) ช่วยเอื้อให้นักลงทุนท้องถิ่น ภูมิภาค และนานาชาติประสบความสำเร็จและธุรกิจเติบโตในเมืองหลวงของ UAE ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรภาครัฐ นักลงทุนภาครัฐ และนักลงทุนระดับประเทศ ADIO เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของ Abu Dhabi ที่เสริมการเติบโตให้กับภาคเอกชน พันธมิตร และสามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นๆ ระดับโลกได้ โดยส่งเสริมโอกาสในการเติบโต มีการร่วมมือกันเชิงกลยุทธ์ และเปิดตลาดใหม่ๆ ทั่วภาคส่วนหลักตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน จนถึงอุตสาหกรรมและธุรกิจการเกษตร และยกระดับการลงทุนในประเทศทั้งความสามารถ นวัตกรรม และความยั่งยืน ด้วยเครือข่ายสำนักงานทั่วโลกที่กำลังเติบโต นักลงทุนสามารถติดต่อ ADIO ได้โดยสามารถไปที่สำนักงานใหญ่ใน Abu Dhabi หรือสำนักงานในต่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่ปักกิ่ง แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน นิวยอร์ก ปารีส ซานฟรานซิสโก โซล และเทลอาวีฟ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.investinabudhabi.gov.ae/

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการด้านโซลูชันระดับโลกเกี่ยวกับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง ด้วยชุดโซลูชันแบบครบวงจรเต็มรูปแบบที่แตกต่างและมีเอกสิทธิ์เต็มรูปแบบ ซึ่งดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำระดับแนวหน้า บริษัทให้บริการเพื่อการดำเนินงานที่สำคัญต่อภารกิจของลูกค้าในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ ของโลก รวมถึงน้ำมันและก๊าซ เซมิคอนดัคเตอร์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียมและแร่ธาตุสำคัญ และพลังงานหมุนเวียน โซลูชันนวัตกรรมของ Gradiant ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำและปล่อยน้ำเสีย เรียกคืนทรัพยากรอันมีค่า และเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำจืดได้ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Boston ก่อตั้งโดย MIT และมีพนักงานทั่วโลกกว่า 1000 คน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53867804/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Felix Wang
Gradiant, VP of Marketing
fwang@gradiant.com

แหล่งข้อมูล: Gradiant

แก้ไขและแทนที่: Aurora, PTT Station และ Royal Umbrella เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศคว้ารางวัล 2023 – 2024 World Branding Awards

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–15 ธันวาคม 2023

World Branding Awards ครั้งที่ 17 ยกย่องความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสำหรับกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 2023 – 2024 World Branding Awards มีแบรนด์เข้าร่วมมากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีไม่ถึง 200 แบรนด์ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นที่ต้นกำเนิดของรางวัลนี้ นั่นคือ พระราชวังเคนซิงตัน สหราชอาณาจักร โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 100 คนทั่วโลก และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะเลิศระดับโลกที่ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติในอุตสาหกรรม ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา), และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะเลิศจากประเทศไทย ได้แก่ Thai Life Insurance, PTT Station, King Power, M-150, Café Amazon, Royal Umbrella, Aurora, VITADAY, TrueOnline, Farmhouse, และ TOPS ผู้ชนะเลิศจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Mercadona (สเปน), Airland (ฮ่องกง), และ Getha (มาเลเซีย) และยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

มีเพียง 14 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย), HECOM (ฮ่องกง), และ VITADAY (ไทย) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปภายใต้ 3 ภูมิภาคขึ้นไปทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ในการคงการตอบรับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์จะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์และคงอยู่ตราบเท่านาน ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนสำหรับแบรนด์ผ่านการตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องรับประกันได้ว่า ผู้คนทุกเจนเนอเรชันจะยังให้การตอบรับแบรนด์และมีความสนใจในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” Mr Richard Rowles ประธานของ World Branding Forum กล่าว

ในปีนี้ มีผู้บริโภคเข้าร่วมในการเสนอชื่อทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละประเทศมีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award นี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะเลิศทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการจดทะเบียน รางวัลนี้เป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

Beeworks Games: เปิดตัวเกมมือถือ “Mushroom Garden Prime” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

แอป Mushroom Farming Simulation ขยายความนิยมไปทั่วโลก

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–15 ธันวาคม 2023

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวเกมในเกาหลีใต้ Beeworks Games ซึ่งเป็นนักพัฒนาเกมมือถือจากญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่า จะให้บริการแอป “Mushroom Garden Prime” ในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยสามารถดาวน์โหลด “Mushroom Garden Prime” ได้จาก Google Play/Apple App Store

“Mushroom Garden Prime” พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วใน Google Play และ App Store (กราฟิก: Business Wire)

“Mushroom Garden Prime” คืออะไร

“Mushroom Garden Prime” เป็นการจำลองการเพาะปลูก โดยมีตัวละครเด่นแสนพิลึกสุดน่ารักอย่าง “Funghi” เพียงแค่แตะหนึ่งครั้งเพื่อเพิ่มอาหารเข้าไปในท่อนไม้ และรอให้ Funghi โต เมื่อ Funghi โตเต็มทั่วท่อนไม้แล้ว ก็จะสามารถทำการเก็บเกี่ยวได้ซึ่งทำได้ง่าย ๆ โดยการเลื่อนปัดที่หน้าจอ “เราออกแบบแอปมาให้สนุกและเล่นได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ทุกวัย” Kristofer Chan จาก Beeworks Games กล่าว “การเล่นใช้เวลาเพียงแค่สองถึงสามวินาที และคุณสามารถปิดแอปไว้จนกว่าคุณจะรู้สึกอยากทำการเก็บเกี่ยว Funghi”

การเก็บเกี่ยว Funghi จะทำให้คุณสามารถอัปเกรดอุปกรณ์เพาะปลูกของคุณได้ และสามารถปลูก Funghi ชนิดใหม่ได้ โดยมีความสนุกมากมายให้คุณได้เพลิดเพลิน ทั้งมีท่อนไม้ที่แตกต่างกันกว่า 16 แบบให้เลือกและ Funghi มากกว่า 300 ชนิดให้ค้นหา

นอกจากการเพาะปลูกแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ Funghi ไว้จัดแสดง Funghi ที่คุณได้เก็บรวบรวมมาจากแหล่งธรรมชาติ คุณยังจะสามารถได้รับวอลเปเปอร์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครสำหรับโทรศัพท์ของคุณ โดยการทำภารกิจต่าง ๆ มากมายที่อยู่ในเกมให้สำเร็จ

URL สำหรับ App Store

รายละเอียดของแอป

ชื่อ: Mushroom Garden Prime
ประเภท: แบบจำลองการเพาะปลูก
การรองรับ: Android 5.0/iOS 10.0 หรือใหม่กว่า
ประเทศที่มีให้บริการ: สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า
ราคา: ฟรี (มีการซื้อภายในแอป)
นักพัฒนา: Beeworks Games

เกี่ยวกับซีรีย์ชุด “Mushroom Garden”

เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 เกมจำลองการเพาะปลูกเห็ดพร้อมกับตัวละคร Funghi สุดน่ารัก มียอดสะสมสำหรับการดาวน์โหลดมากกว่า 55 ล้านครั้งทั่วโลก ซีรีย์ชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงโดยเฉพาะในญี่ปุ่น ซึ่งมีสินค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

“Mushroom Garden Prime” แสดงการกลับเข้าสู่เวทีระดับโลกของซีรีย์นี้ และประสบความสำเร็จแล้วในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา

เกี่ยวกับ Beeworks Games

Beeworks Games ให้ความสำคัญกับความคิดแนวใหม่ โดยมอบประสบการณ์อันเพลินเพลินที่ไม่เหมือนใครผ่านเกม ภารกิจของพวกเขาคือการสร้างเกมและตัวละครอันเป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับทุกวัย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53868799/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Beeworks Co., Ltd.
Kristofer Chan
kchan@beeworks.co.jp
+81-3-6859-0697
https://beeworksgames.com/en/

ที่มา: Beeworks Co., Ltd.


foodpanda จับมือกับ Qwikcilver จาก Pine Labs เปิดตัวบัตรของขวัญ

Logo

ประเทศสิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–14 ธันวาคม 2023

Qwikcilver จาก Pine Labs ผู้ให้บริการชั้นนำด้านบัตรของขวัญแบบครบวงจร และโซลูชั่นที่มีมูลค่าสะสมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย กับ foodpanda เครือข่ายจัดส่งอาหารและของชำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย (นอกประเทศจีน) ได้ร่วมมือกันเปิดตัวบัตรของขวัญ foodpanda –โซลูชั่นที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งช่วยให้ลูกค้า foodpanda สามารถแลกและซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย

ฟีเจอร์บัตรของขวัญใหม่จะพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรของ foodpanda เป็นครั้งแรกภายใต้ 'foodpanda สำหรับธุรกิจ' ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับองค์กรโดยเฉพาะของบริษัท การบูรณาการบัตรของขวัญทำให้กระบวนการบริหารจัดการสำหรับลูกค้าองค์กรของ foodpanda ง่ายขึ้น เนื่องจากทำให้พวกเขาซื้อและแบ่งปันบัตรของขวัญกับพนักงานได้อย่างง่ายดายผ่านทางพอร์ทัลของ foodpanda สำหรับธุรกิจ ทำให้พวกเขาสามารถติดตามการซื้อและการใช้จ่ายก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดาย

สำหรับพนักงาน บัตรของขวัญยังให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากบัตรกำนัล บัตรของขวัญช่วยให้ลูกค้าสามารถเก็บยอดคงเหลือที่ไม่ได้ใช้เพื่อใช้ในภายหลัง บัตรของขวัญยังสามารถใช้ได้กับคำสั่งซื้อหลายรายการ ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นในการแลกบัตรของขวัญในบริการต่างๆ ของ foodpanda รวมถึงการซื้อของชำบน pandamart และการขายปลีกสินค้าพิเศษบนร้านค้าของ foodpanda บัตรของขวัญที่ขับเคลื่อนโดย Pine Labs Qwikcilver ปัจจุบันมีวางจำหน่ายในประเทศไทยและสิงคโปร์ และจะเปิดตัวในตลาดทั้งหมด 11 แห่งที่ foodpanda ดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะจำหน่ายบัตรของขวัญให้กับลูกค้าทุกคน (รวมถึงลูกค้าที่ไม่ใช่องค์กรด้วย)

Abhishek Ahuja ผู้อำนวยการฝ่าย Fintechของ foodpanda กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “เนื่องจากการทำงานที่ยืดหยุ่นกลายเป็นบรรทัดฐาน เราจึงต้องการให้บริษัทต่างๆ สามารถมอบสิทธิประโยชน์แก่พนักงานของตนได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อร่วมมือกับ Qwikcilver จาก Pine Labs แล้ว ขณะนี้เราสามารถเสนอวิธีที่เป็นมิตรกับผู้ใช้แก่บริษัทต่างๆ โดยพวกเขาสามารถแสดงความขอบคุณต่อพนักงานผ่านบัตรของขวัญ โดยไม่ต้องมีภาระในการจัดการและการชำระเงินเพิ่มเติม”

“ด้วยการปรากฏตัวในกว่า 400 เมือง foodpanda จึงเป็นชื่อที่ทำให้นึกถึงพื้นที่จัดส่งอาหารและร้านขายของชำออนไลน์ สำหรับแบรนด์ Qwikcilver จาก Pine Labs ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัท foodpanda ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และขับเคลื่อนโครงการบัตรของขวัญและบัตรกำนัลใน 11 ประเทศ APAC และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในอนาคตระหว่างทั้งสองหน่วยงาน” Dheeraj Chowdhry กล่าว, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ – ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Pine Labs

“ปัจจุบันแพลตฟอร์มบัตรของขวัญของเราขับเคลื่อนธุรกิจข้ามชาติทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กหลายแห่งในอุตสาหกรรมแนวตั้งและภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย จากลูกค้าเหล่านี้ เราสังเกตเห็นว่าการใช้บัตรของขวัญหรือบัตรกำนัลเป็นรูปแบบธุรกิจที่ดี โดยให้ผลประโยชน์ทางการเงินที่น่าดึงดูด ด้วยการทำธุรกรรมผ่านบัตรใบเดียว พันธมิตรแบรนด์ของเราจะมีลูกค้าสองราย ได้แก่ ผู้ส่งและผู้รับ นอกจากนี้เรายังสังเกตเห็นว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อมากกว่ามูลค่าบัตร ส่งผลให้ยอดขายและขนาดตะกร้าเพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา” Dheeraj Chowdhry กล่าวเสริม

เกี่ยวกับ foodpanda

foodpanda เป็นแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ชั้นนำในเอเชียที่มุ่งนำเสนออาหาร ของชำ และอื่นๆ อีกมากมายแก่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน foodpanda กำลังเป็นหัวหอกในการเติบโตของการค้าด่วน (q-commerce) ทั่วภูมิภาค ด้วยเครือข่ายพันธมิตรผู้ค้าปลีก รวมถึงร้านค้าบนคลาวด์ของ pandamart เพื่อมอบทางเลือกตามความต้องการที่มากกว่าบริการจัดส่งอาหารนับล้านรายการ foodpanda ดำเนินธุรกิจในกว่า 400 เมืองใน 11 ตลาดในเอเชีย – สิงคโปร์ ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย ปากีสถาน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ foodpanda เป็นบริษัทในเครือของ Delivery Hero ผู้นำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมบริการส่งอาหาร หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.foodpanda.com

เกี่ยวกับ Pine Labs

Pine Labs เป็นแพลตฟอร์มการค้าขายแบบหลายช่องทางชั้นนำ ที่ดำเนินงานทั่วทั้งอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Pine Labs ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการชำระเงินดิจิทัล และมุ่งเน้นไปที่การทำให้ง่ายขึ้นที่ส่วนหน้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจจำนวนมากยอมรับผลิตภัณฑ์ Fintech ในวงกว้าง

ในการชำระเงินแบบดิจิทัล ซอฟต์แวร์การชำระเงินออนไลน์บนคลาวด์ Plural ของเรา แสดงถึงปลายทางการชำระเงินแบบครบวงจรในช่องทางต่างๆ

ธุรกิจการออกบัตรเครดิตของเราขับเคลื่อนโดย Qwikcilver – Qwikcilver นำเสนอโซลูชันบริการเทคโนโลยีแบบครบวงจรที่ล้ำสมัย เต็มรูปแบบในการจัดการธุรกรรมแบบชำระเงินล่วงหน้า บัตรของขวัญ และพื้นที่การขาย/การจัดจำหน่าย โดยมีสถานะที่แข็งแกร่งในหลากหลายประเทศ และการให้บริการไลฟ์สดกับแบรนด์ชั้นนำและลูกค้ารายใหญ่จากอุตสาหกรรมค้าปลีก การบริการ และสายการบิน ทั่วทั้งภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ต่อไปนี้: เอเชียใต้ – อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกไกล – สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา – ดูไบ อาบูดาบี แอฟริกาใต้ ยุโรป – ลักเซมเบิร์กและสาธารณรัฐเช็ก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบัน

ในแอปสำหรับผู้บริโภค Fave เป็นแพลตฟอร์ม fintech สำหรับผู้บริโภครุ่นต่อไป โดยให้การชำระเงินและการออมที่ชาญฉลาด ในขณะเดียวกันก็เสริมศักยภาพให้กับร้านค้าด้วยโซลูชันความภักดี เพื่อเติบโตและมีส่วนร่วมกับลูกค้าในรูปแบบใหม่ทั้งหมด

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.pinelabs.com และ www.qwikcilver.com.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

ช่องทางการติดต่อ

สำหรับ Pine Labs

Swati Chauhan
Ruder Finn Asia
chauhans@ruderfinn.com
+91- 8505947705

สำหรับ foodpanda

Katrina Khoe
foodpanda
Katrina.khoe@foodpanda.com
+65 9726 9199

ที่มา: Pine Labs

Thai Herald

Thai Herald