โตชิบาเปิดตัว Power MOSFETs พร้อมไดโอดความเร็วสูงที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยจ่ายกำลัง

Logo

สมาชิกใหม่ในซีรีส์ DTMOSVI รุ่นล่าสุดซึ่งใช้โครงสร้างแบบ Super Junction

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น –(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2024

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เพิ่ม DTMOSVI(HSD) ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์ Power MOSFETs ที่มีไดโอดความเร็วสูงและเหมาะสำหรับหน่วยจ่ายกำลังกลุ่ม Switching Power Supply รวมถึงศูนย์ข้อมูลและเครื่องกรองไฟฟ้า PV ในรุ่นล่าสุดของซีรีส์[1] DTMOSVI ซึ่งใช้โครงสร้างแบบ Super Junction โดยสองผลิตภัณฑ์แรกสุดอย่าง Power MOSFETs 650V N-channel ในแพ็กเกจ TO-247 อย่าง “TK042N65Z5” และ “TK095N65Z5” จะเริ่มจัดส่งในวันนี้

Toshiba: DTMOSVI(HSD), power MOSFETs with high-speed diodes that help to improve efficiency of power supplies. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: DTMOSVI(HSD) Power MOSFETs พร้อมไดโอดความเร็วสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยจ่ายกำลัง (ภาพ: Business Wire)

บรรดาผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะใช้ไดโอดความเร็วสูงเพื่อปรับปรุงการฟื้นตัวของไดโอด[2] ในแง่ของคุณสมบัติต่างๆ ที่สำคัญสำหรับการใช้งานในวงจรบริดจ์และวงจรอินเวอร์เตอร์ เมื่อเทียบกับ DTMOSVI แบบมาตรฐาน ทรานซิสเตอร์รุ่นใหม่ใช้เวลาในการฟื้นตัว (trr) น้อยลงถึง 65% และประจุฟื้นตัว (Qrr) น้อยลง 88% (สภาวะแวดล้อมการวัดผล: -dIDR/dt= 100A/μs)

กระบวนการ DTMOSVI(HSD) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติในการฟื้นตัวของซีรีส์ DTMOSIV ที่ใช้ไดโอดความเร็วสูง (DTMOSIV(HSD)) ของโตชิบา โดยมีกระแสคัตออฟที่ขั้วเดรนต่ำลงที่อุณหภูมิสูง ส่วน Figure of Merit “Drain-Source On-resistance × Gate-Drain Charge” ก็ต่ำลงเช่นกัน  กระแสคัตออฟที่ขั้วเดรนที่อุณหภูมิต่ำของ TK042N65Z5 ต่ำลงประมาณ 90%[3] ส่วน Drain-Source On-resistance × Gate-Drain Charge ต่ำลง 72% เมื่อเทียบกับ TK62N60W5 รุ่นปัจจุบันของโตชิบา[4] [5] ตัวเลขที่ดีขึ้นนะจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานของอุปกรณ์และปรับปรุงประสิทธิภาพ โดย TK042N65Z5 มีประสิทธิภาพของหน่วยจ่ายกำลังดีกว่า TK62N60W5 รุ่นปัจจุบันสูงสุด 0.4% ดังที่วัดได้ในวงจร LLC 1.5kW[6]

สามารถดูงานออกแบบอ้างอิง “หน่วยจ่ายกำลังเซิร์ฟเวอร์ 1.6kW (รุ่นอัปเกรด)” ที่ใช้ TK095N65Z5 ได้แล้ววันนี้บนเว็บไซต์ของโตชิบา นอกจากนี้ โตชิบายังมีเครื่องมือให้ใช้สนับสนุนการออกแบบวงจรสำหรับ Switching Power Supply ด้วย นอกจากรุ่น G0 SPICE ที่ยืนยันการทำงานของวงจรได้ในเวลาอันสั้นแล้ว ยังมีรุ่น G2 SPICE ที่จำลองคุณสมบัติชั่วครู่ได้อย่างแม่นยำพร้อมให้ใช้งานเช่นกัน

โตชิบามีแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ DTMOSVI(HSD) ด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์ต่างๆ ในแพ็กเกจ TO-220 และ TO-220SIS แบบ Through-hole และแพ็กเกจ TOLL และ DFN แบบ 8×8 Surface-mount

บริษัทจะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ DTMOSVI ต่อไป นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ 650V และ 600V ที่เปิดตัวไปแล้ว และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีไดโอดความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Switching Power Supply ส่งผลให้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

หมายเหตุ:
[1] ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2024 ตามการสำรวจของโตชิบา
[2] การดำเนินการสวิตชิ่งซึ่งตัวไดโอดของ MOSFET จะเปลี่ยนจากไบแอสตรงไปเป็นไบแอสแบบย้อนกลับ
[3] วัดค่าโดยโตชิบา ค่าที่ได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ TK042N65Z5 คือ 0.2mA (สภาวะแวดล้อมการทดสอบ: VDS=650V, VGS=0V, Ta=150°C)
ค่าที่ได้จากผลิตภัณฑ์เดิม TK62N60W5 คือ 1.9mA (สภาวะแวดล้อมการทดสอบ: VDS=600V, VGS=0V, Ta=150°C)
[4] ซีรีส์ DTMOSIV(HSD) 600V
[5] วัดค่าโดยโตชิบา
สภาวะแวดล้อมการทดสอบ:
TK62N60W5
• RDS(ON): ID=30.9A, VGS=10V, Ta=25°C
• Qgd: VDD=400V, VGS=10V, ID=61.8A, Ta=25°C
TK042N65Z5
• RDS(ON): ID=27.5A, VGS=10V, Ta=25°C
• Qgd: VDD=400V, VGS=10V, ID=55A, Ta=25°C
[6] วัดค่าโดยโตชิบา
สภาวะแวดล้อมการทดสอบ: Vin=380V, Vout=54V, Ta=25°C

การใช้งาน

อุปกรณ์อุตสาหกรรม

  • Switching Power Supply (เซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์สื่อสาร เป็นต้น)
  • สถานีชาร์จ EV
  • เครื่องกรองไฟฟ้า PV
  • ระบบสำรองไฟฟ้า

 คุณสมบัติ

  • MOSFETs ที่มีไดโอดความเร็วสูงในซีรีส์ DTMOSVI รุ่นล่าสุด
  • เวลาฟื้นตัวเนื่องจากไดโอดความเร็วสูง:
    TK042N65Z5 trr=160ns (ปกติ)
    TK095N65Z5 trr=115ns (ปกติ)
  • สวิตชิงได้ด้วยความเร็วสูงเนื่องจากมี Gate-Drain Charge ต่ำ:
    TK042N65Z5 Qgd=35nC (ปกติ)
    TK095N65Z5 Qgd=17nC (ปกติ)

ข้อมูลจำเพาะสำคัญ

(Ta=25°C เว้นแต่ระบุเป็นอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TK042N65Z5

TK095N65Z5

แพ็กเกจ

ชื่อ

TO-247

ขนาด (มม.)

ปกติ

15.94×20.95, t=5.02

สัมบูรณ์

สูงสุด

ระดับ

Drain-Source Voltage VDSS (V)

650

Drain Current (DC) ID (A)

55

29

Drain-Source On-resistance RDS(ON) (Ω) 

VGS=10 V

สูงสุด

0.042

0.095

Gate charge รวม Qg (nC)

ปกติ

105

50

Gate-Drain charge Qgd (nC)

ปกติ

35

17

ความจุไฟฟ้าขาเข้า Ciss (pF)

ปกติ

6280

2880

ความต้านทางความร้อน Channel-to-case Rth(ch-c) (°C/W)

สูงสุด

0.347

0.543

เวลาฟื้นตัว  trr (ns)

ปกติ

160

115

ซีรีส์ปัจจุบันของโตชิบา (DTMOSIV) หมายเลขชิ้นส่วน

TK62N60W5[7]

TK35N65W5,

TK31N60W5[7]

หมายเหตุ:
[7] VDSS=600V

คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TK042N65Z5
TK095N65Z5

คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOSFETs ของโตชิบา
MOSFETs

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชั่นเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมที่สั่งสมมากว่าครึ่งศตวรรษในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน, ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ
พนักงานของบริษัทนับ 21,500 คนทั่วโลกต่างร่วมกันมุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างคุณค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีเกือบ 8 แสนล้านเยน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) บริษัท Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53899054/en

ข้อมูลติดต่อ

สอบถามข้อมูลลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์กำลัง
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Dept.
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation


การโรมมิ่งข้อมูลโดยไม่ต้องกังวล ในทุกแอป: eSIM Innovator 1GLOBAL มอบบริการโรมมิ่งของตัวเองให้กับกลุ่มเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (FinTech)

Logo

  • ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการผสานรวม API การสื่อสารเคลื่อนที่อันเป็นเอกลักษณ์ของ 1GLOBAL จากบริษัทด้านการเดินทางและการเงิน
  • แพ็คเกจข้อมูลทั่วโลกที่ไม่มีค่าบริการโรมมิ่งถูกนำเสนอให้กับลูกค้าชาวยุโรปหลายล้านคนในเร็วๆ นี้
  • กลุ่มเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (FinTech) กลายเป็นกลุ่มแรกในภาคส่วนที่บูรณาการเทคโนโลยี 1GLOBAL เข้ากับแอปธนาคาร

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–23 กุมภาพันธ์ 2024

อุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้บริการที่เป็นนวัตกรรมของ 1GLOBAL ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้าชาวยุโรปมากกว่า 30 ล้านรายจะหลีกเลี่ยงการเสียค่าบริการโรมมิ่งในกว่า 160 ประเทศในเร็วๆ นี้ได้

Data Roaming Without Worries, Now in Every App: eSIM Innovator 1GLOBAL gives FinTech its Own Roaming Service. (Graphic: Business Wire)

โรมมิ่งข้อมูลได้โดยไม่ต้องกังวล พร้อมแล้ววันนี้ในทุกแอป: eSIM Innovator 1GLOBAL มอบบริการโรมมิ่งของตัวเองให้กับกลุ่มเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (FinTech) (กราฟฟิก: Business Wire)

ด้วยการบูรณาการ 1GLOBAL API อย่างสมบูรณ์ ทำให้เทคโนโลยีทางด้านการเงิน(fintech) Revolut ระดับโลกช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเครือข่ายมือถือราคาประหยัดทั่วโลกของ 1GLOBAL ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานแล้ว SIM แบบฝัง (eSIM) จะถูกสร้างขึ้นสำหรับอุปกรณ์มือถือ

ผู้ใช้สามารถติดตั้ง eSIM ได้ภายในหนึ่งนาทีโดยไม่ต้องออกจากแอป Revolut”  คุณ Hakan Koç ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ 1GLOBAL กล่าว “นี่คือเหตุผลที่ผู้เล่นจากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเดินทาง ประกันภัย เทคโนโลยีทางด้านการเงิน(fintech) สายการบิน โลจิสติกส์ VIP และอื่นๆ ต่างมาหาเราเพื่อเพิ่มขอบเขตบริการที่พวกเขานำเสนอโดยการบูรณาการการเชื่อมต่อของเรา

แทนที่จะต้องได้รับซิมจริงเพื่อเข้าถึงเครือข่ายท้องถิ่นเมื่อมาถึง ลูกค้าที่ใช้แอปที่รวมเทคโนโลยีของ 1GLOBAL นั้นเพียงแค่ตั้งค่า eSIM บนอุปกรณ์ของตน ซึ่งจะทำให้พวกเขาควบคุมการเชื่อมต่อได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการแสดงปริมาณการใช้ข้อมูลอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถใช้แอปเพื่อซื้อแผนบริการข้อมูลได้แม้ว่าแผนบริการจะหมดไปแล้วก็ตาม

ที่ Revolut เรารู้ว่าลูกค้าของเรายังคงเชื่อมต่อกับบริการของ Revolut อยู่เสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณข้อมูลที่ได้รับ Revolut eSIMs ซึ่งพัฒนาร่วมกับ 1Global เป็นเทคโนโลยีที่สะดวกสบายและมอบคุณค่าที่ยอดเยี่ยมซึ่งปรับให้เหมาะกับผู้ชมทั่วโลกของเราคุณ David Tirado รองประธานฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Revolut แสดงความคิดเห็น

บริษัทใดก็ตามสามารถรวมเทคโนโลยี 1GLOBAL เข้ากับข้อเสนอของลูกค้าผ่านชุด API ได้ เป็นผลให้ลูกค้าอยู่ในแอปนั้นได้นานขึ้น มีการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ สร้างมูลค่าให้กับลูกค้า และความภักดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้น

ในกรณีของ Revolut การบูรณาการเทคโนโลยี 1GLOBAL อย่างเต็มรูปแบบได้ถูกสร้างขึ้นในแอปของตัวเองและภายใต้แบรนด์ของตัวเอง อีกทางเลือกหนึ่ง บริษัทต่างๆ สามารถนำเสนอการเชื่อมต่อ 1GLOBAL ในฐานะบุคคลที่สามหรือบริษัทในเครือผ่านการอ้างอิง (เช่น รหัส QR) ที่แนะนำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ eSIM และ 1GLOBAL ของตนได้
 

ในฐานะผู้ริเริ่มเทคโนโลยีโทรคมนาคม เราได้สร้างเครือข่ายโทรคมนาคมระดับโลกของเราเอง และสามารถออก eSIM และ International Mobile Subscriber Identity (IMSI) ได้”  Koç.อธิบาย “สิ่งนี้ทำให้เราแตกต่างจากผู้จำหน่ายที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของตนเองและทำเพียงขายแพ็คเกจข้อมูลต่อเท่านั้น

แพลตฟอร์ม 1GLOBAL ช่วยให้ผู้ให้บริการแอปสามารถนำเสนอการเชื่อมต่อทั่วโลกแก่ผู้ใช้ ซึ่งสนับสนุนโดยผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนบนมือถือ (MVNO) เก้าราย พันธมิตรโรมมิ่งที่ได้รับการสนับสนุนระหว่างประเทศห้าราย และการเชื่อมต่อระหว่างกันมากกว่า 150 รายการ การเชื่อมต่อ 'ไฮเปอร์สเกล' ประเภทนี้ซึ่งมีเส้นทาง 2,000 เส้นทางไปยังผู้ให้บริการมือถือ 350 ราย ครอบคลุม 2G ถึง 5G และ LPWAN จะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมของ 1GLOBAL

เกี่ยวกับ 1GLOBAL

1GLOBAL ให้การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือที่รวดเร็วและปลอดภัยในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก เทคโนโลยี eSIM ของพวกเขาผสานรวมเข้ากับแอป Revolut ที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น และสามารถติดตั้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่รองรับ eSIM ได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที

1GLOBAL ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดยเป็นสตาร์ทอัพใหม่ของ Hakan Koç ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอร่วมของ AUTO1 Group 1GLOBAL ได้เข้าซื้อกลุ่มสินทรัพย์โทรคมนาคมที่ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งรวมถึงเครือข่ายมือถือระดับโลกที่ได้รับการรับรองจาก GSMA ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน และมีศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาในลิสบอน ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 400 คนใน 12 ประเทศ และได้รับสถานะ MVNO ที่ได้รับการควบคุมโดยสมบูรณ์ใน 9 ประเทศ

www.1global.com

เกี่ยวกับ Revolut

Revolut คือเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (FinTech) ระดับโลกที่ช่วยให้ผู้คนได้รับเงินมากขึ้น ในปี 2015 Revolut ได้เปิดตัวในสหราชอาณาจักรโดยให้บริการด้านการโอนเงินและแลกเปลี่ยน ปัจจุบัน ลูกค้ามากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลกใช้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของ Revolut หลายสิบรายการเพื่อทำธุรกรรมมากกว่าครึ่งพันล้านรายการต่อเดือน

ทั้งบัญชีส่วนบุคคลและบัญชีธุรกิจของเรา เราให้ลูกค้าควบคุมการเงินของตนได้มากขึ้น และเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกได้อย่างราบรื่น

www.revolut.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53900064/en

ติดต่อ

Ingmar Remus & Thomas Klimmek
1GLOBAL@siccmamedia.de

ที่มา: 1GLOBAL

การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับนานาชาติด้านวัสดุขั้นสูงครั้งที่ 15th ที่ Ras Al Khaimah

Logo

ผู้เข้าร่วมประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์วัสดุขั้นสูงที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 200 คน

RAS AL KHAIMAH, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2024

วันนี้ การประชุมเชิงปฏิบัติการระดับนานาชาติด้านวัสดุขั้นสูง (IWAM) ครั้งที่ 15th จัดขึ้นโดยศูนย์ Ras Al Khaimah สำหรับวัสดุขั้นสูง (RAKCAM) ที่ Mövenpick Resort บนเกาะ Al Marjan

HH Saud bin Saqr attends the opening of the 15th #IWAMRasAlKhaimah and takes part in a fireside discussion that highlights Ras Al Khaimah’s commitment to scientific progress and innovation. #Science (Photo: AETOSWire)

HH Saud bin Saqr เข้าร่วมพิธีเปิดงาน #IWAMRasAlKhaimah ครั้งที่ 15 และเข้าร่วมในการอภิปรายโต๊ะกลมที่เน้นย้ำความมุ่งมั่นของ Ras Al Khaimah ในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม #Science (ภาพถ่าย: AETOSWire)

IWAM ครั้งที่ 15 รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาที่มีชื่อเสียงกว่า 200 คนจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยกย่องระดับนานาชาติ และผู้เข้าร่วมกว่า 100 คนจากมหาวิทยาลัยใน UAE เพื่อเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการที่วัสดุขั้นสูงจะสามารถกำหนดอนาคตได้อย่างไร งานนี้มีการจัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนจากชีค Saud bin Saqr Al Qasimi สมาชิกสภาสูงสุดของ UAE และผู้ปกครองเมือง Ras Al Khaimah ซึ่งเข้าร่วมในการอภิปรายโต๊ะกลมเกี่ยวกับความสำคัญของวัสดุขั้นสูงในการช่วยแก้ไขปัญหาที่มีความท้าทายยิ่งของโลกด้วยเช่นกัน

วัสดุขั้นสูงนี้สามารถพบได้ในโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบพลังงาน รวมถึงโลหะ เซรามิก และโพลีเมอร์ ซึ่งอาจเป็นวัสดุใหม่หรือผ่านการปรับปรุงให้ดีกว่าสภาพเดิม นวัตกรรมในวัสดุขั้นสูงเหล่านี้มีศักยภาพในการปฏิวัติอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมถึงการบินและอวกาศ การขนส่ง การก่อสร้างและการดูแลสุขภาพ โดยช่วยให้ภาคส่วนเหล่านี้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการใช้พลังงานได้

IWAM ยินดีต้อนรับนักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุขั้นสูงที่มีชื่อเสียงจากสถาบันต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ และสถาบัน Max Planck รวมถึงศาสตราจารย์ Andre Geim จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ผู้ชนะเลิศได้รับรางวัลโนเบล

โดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของ IWAM ที่นำเยาวชนเข้ามีส่วนร่วมในด้านวิทยาศาสตร์ นักเรียนนักศึกษากว่า 500 คนจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยใน Ras Al Khaimah ได้เข้าร่วมในโครงการ ‘Innovation and Sustainability Challenge’ โดยร่วมสร้างโซลูชันนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก จะมีการประกาศผลผู้ชนะการแข่งขันสำหรับความท้าทายในครั้งนี้และรวมถึงรางวัล Sheikh Saud International Prize สาขาวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุอันทรงเกียรติประจำปี (โดยจะได้รับรางวัลมูลค่า 100,000 เหรียญสหรัฐ) ในปลายสัปดาห์นี้

Sir Anthony Cheetham ประธานของศูนย์ Ras Al Khaimah สำหรับวัสดุขั้นสูง ให้ความเห็นว่า “ชีค Saud ทรงอุทิศตนเพื่อใช้ประโยชน์จากการศึกษาและวิทยาศาสตร์เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมที่มีส่วนช่วยในการพัฒนามนุษยชาติ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสาขาวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น IWAM มีบทบาทสำคัญในวิสัยทัศน์นี้ โดยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับ Ras Al Khaimah และเมืองอื่นๆ รวมทั้งช่วยสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป”

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IWAM ได้ที่นี่

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53897910/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Steven McCombe
Media@rakmediaoffice.ae

แหล่งข้อมูล: Ras Al Khaimah Government Media Office

สตาร์ทอัปกับความท้าทายในการช่วยพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนสำหรับการผลักดันคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ของอุตสาหกรรมทั่วโลก

Logo

ลอนดอน –(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2024

โครงการนานาชาติบุกเบิกที่นำสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีมาพบกับผู้ผลิตชั้นนำในการดักจับคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์  (Net Zero) นั้นเริ่มต้นขึ้นแล้ว

Innovandi Open Challenge 2024 บริหารงานโดย Global Cement and Concrete Association (GCCA) หน่วยงานระดับนานาชาติชั้นนำของอุตสาหกรรมซึ่งมุ่งเน้นไปที่การช่วยให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบรรลุเป้าหมายบรรลุเป้าหมายคอนกรีตที่มีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในที่สุด

การสมัครกำลังได้รับความสนใจจากสตาร์ทอัปทั่วโลก ที่สนใจในการทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาการติดตามการใช้และการจัดเก็บคาร์บอน สำหรับซีเมนต์และคอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ มีการแสวงหาเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรม ซึ่งรวมถึงกระบวนการที่ถูกรวบรวมและการใช้และการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปลายท่อ และช่วยป้องกันไม่ให้คาร์บอนถูกปล่อยออกไปที่ชั้นบรรยากาศ

นี่จะเป็น Innovandi Open Challenge ครั้งที่สามและสร้างขึ้นมาจากความสำเร็จของปีก่อนๆ ชาเลนจ์ครั้งแรกในปี 2022 ก็มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน และมีสตาร์ทอัปสองรายได้ไปถึงขั้นตอนนำร่องแล้ว สตาร์ทอัป 15 รายที่ได้รับเลือกใน Innovandi Challenge ครั้งที่ 2 เมื่อปีที่แล้ว ที่จะทำงานในการพัฒนาคอนกรีตที่มีคาร์บอนต่ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับผู้ผลิตในการจัดตั้งพันธมิตร

Claude Loréa ผู้อำนวยการ GCCA’s Cement, Innovation and ESG กล่าวว่า “อุตสาหกรรมของเรามีพันธะในการบรรลุคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์และการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนเป็นส่วนสำคัญของงานนั้น โครงการ Innovandi Opem Challenge ขั้นนำระดับโลกของเราได้มีความคืบหน้าที่สำคัญทั้งที่เพิ่งผ่านไปได้สองปี ด้วยความร่วมมือกันของเหล่าสตาร์ทอัปและบริษัทสมาชิกของเรา เราเฝ้ารอที่จะดูว่าผู้สมัครปีนี้จะนำพาอะไรมา เพื่อสร้างผลงานอันแพร่หลายที่กำลังดำเนินอยู่ทั่วโลก”

สมาชิก GCCA ทั้งหมดที่คิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำลังการผลิตซีเมนต์ทั่วโลกนอกประเทศจีน และผู้ผลิตจีนชั้นนำจำนวนหนึ่ง มีความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ด้วยกลยุทธ์  Concrete Future 2050 Net Zero ของ GCCA อุตสาหกรรมระดับโลกแห่งแรกที่กำหนดแผนที่มีรายละเอียดชัดเจน นอกจากนี้ GCCA ยังเพิ่งลงนามสัญญาใหม่ในการทำงานร่วมกันเกี่ยวกับการลดคาร์บอนกับ China Cement Association (CCA)

การพัฒนาเทคโลยีใหม่เป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และเทคโนโลยีการจับและกักเก็บคาร์บอนคาดว่าจะคิดเป็นประมาณ 36% ของการลดการปล่อยก๊าซทั้งหมดภายในปี 2050

โรงงานซีเมนต์ระดับอุตสาหกรรมแห่งแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนมีกำหนดจะแล้วเสร็จด้วยเครื่องจักรที่ไซต์งาน Heidelberg Materials ในเมืองเบรวิค ประเทศนอร์เวย์ ภายในปี 2024 ด้วยการคาดการณ์ว่าจะมีโรงงานเปิดเพิ่มอีกหลายแห่งภายในปี 2030

Thomas Guillot ผู้บริหารระดับสูงของ GCCA กล่าวว่า “เรารู้อยู่แล้วว่าเทคโนโลยีของ CCUS ใช้งานได้ ด้วยโครงการนำร่องและโครงการอื่นๆ ที่กำลังดำเนินการทั่วโลก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูว่ามีนวัตกรรมอื่นอะไรบ้างที่นอกเหนืออุตสาหกรรมของเรา ที่อาจช่วยเร่งภารกิจคาร์บอนเป็นศูนย์ของเรา

“เราสนับสนุนการสมัครจากสตาร์ทอัปตัวโลกให้เข้าร่วมในการต่อสู่อันเร่งด่วนเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อน ถ้าคุณเป็นสตาร์ทอัปจากออสเตรียไปจนถึงออสเตรเลีย จากบราซิลไปจนถึงบังกลาเทศ ที่มีแนวคิดนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา CCUS ให้ดียิ่งขึ้น ถ้าแบบนั้นคุณก็ควรสมัคร”

Jonathan Cool ซีอีโอแห่ง Ultra High Materials บริษัทสตาร์ทอัปแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมเมื่อปีที่แล้ว ได้สนับสนุนให้บริษัทอื่นๆ มาสมัคร “การสนับสนุน คำแนะนำ การเปิดรับสมาชิก GCCA และการอำนวยความสะดวกในโอกาสในการทำงานร่วมกันกับ GCCA เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และส่งผลที่มีประโยชน์แก่พวกเราทุกคน ถ้ามีโอกาสให้ทำทั้งหมดอีกครั้ง เราก็คงจะทำแน่นอน”

สตาร์ทอัปที่สนใจในการสมัคร Innovandi Open Challenge ครั้งที่ 3 สามารถคลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ระยะเวลาสมัครสิ้นสุด 15 เมษายน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

รายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอสัมภาษณ์ ให้ติดต่อ:
Simon Thomson, Head of Media, GCCA simon.thomson@gccassociation.org / +44 7380 972282

ที่มา: Global Cement and Concrete Association

Norths Collective มีการปรับแต่งประสบการณ์เฉพาะตัวสำหรับสมาชิกกว่า 61,000 ราย และเร่งการขยายตัวด้วย Boomi

Logo

กลุ่มฝ่ายต้อนรับและการออกกำลังกายแบบไดนามิกใน NSW มีการใช้ Boomi เพื่อเชื่อมต่อสภาพแวดล้อมดิจิทัลและสร้างรากฐานสำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ

SYDNEY–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2024

Boomi™ ผู้นำด้านการบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ มีการประกาศในวันนี้ว่า Norths Collective มีการใช้ แพลตฟอร์ม Boomi เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวสำหรับสมาชิก ส่งเสริมการดำเนินงานในแต่ละวัน และเร่งการขยายตัวโดยการควบรวมอุตสาหกรรม

Norths Collective Personalizes 61,000 Members’ Experiences, Expedites Expansion With Boomi (Graphic: Business Wire)

Norths Collective มีการปรับแต่งประสบการณ์เฉพาะตัวสำหรับสมาชิกกว่า 61,000 ราย และเร่งการขยายตัวด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

Norths Collective คือกลุ่มสถานบริการแปดแห่งและศูนย์ออกกำลังกายอีกสองแห่งที่สมาชิกเป็นเจ้าของ โดยตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทางเหนือของ Sydney และทางตอนเหนือของ New South Wales ในฐานะธุรกิจที่แสวงหาผลกำไร ผลกำไรของ Norths Collective จะได้รับการคืนกลับไปสู่สมาชิกและชุมชน โดยบริการดิจิทัล Norths Collective มีการใช้แพลตฟอร์มบูรณาการของ Boomi ในฐานะบริการ (iPaaS) เพื่อช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยอนุญาตให้สามารถเชื่อมต่อระบบที่แยกจากกัน รวมศูนย์ข้อมูลการปฏิบัติงานและข้อมูลสมาชิกที่ศูนย์กลาง และปรับปรุงการตัดสินใจทางธุรกิจ

ปีนี้จะเป็น ‘ปีแห่งการเพิ่มประสิทธิภาพการบูรณาการ’ สำหรับ Norths เพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติด้านการวิเคราะห์ธุรกิจที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้ากว่า 61,000 ทั่วทั้งฐานสมาชิกที่มีอยู่ โดยจะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงวิธีการบริหารสถานที่ของเรา ตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการปรับการมีส่วนร่วมให้เหมาะกับความต้องการของสมาชิก และทำให้การเข้าถึงสถานที่และศูนย์ออกกำลังกายของเราได้อย่างง่ายดายเท่าที่เป็นไปได้” Robert Lopez ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายแบรนด์เพื่อสร้างประสบการณ์ของลูกค้าและนวัตกรรมที่ Norths Collective กล่าว “การบรรลุเป้าหมายทั้งหมดนี้เริ่มต้นและสิ้นสุดด้วยการบูรณาการของเรา  Boomi เป็นตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของเรา ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำเสนอมุมมองแบบ 360 องศา ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น และขับเคลื่อนการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น”

Boomi ช่วยเสริมให้ Norths Collective สามารถบูรณาการ Salesforce เข้ากับแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับสถานที่ให้บริการและร้านอาหาร ฟิตเนสเซ็นเตอร์ การจองตั๋วและอีเว้นท์ต่างๆ จุดขาย และที่สำคัญที่สุดคือ โปรแกรมการเป็นสมาชิก และแอปมือถือรุ่นใหม่ ล่าสุด Norths Collective มีการบูรณาการ Tableau เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การวิเคราะห์ธุรกิจ และวางแผนที่จะรวมทรัพยากรบุคคล (HR) และบัญชีรายชื่อ ฝ่ายการเงินและการบัญชี ระบบซัพพลายเออร์ การจัดการความเสี่ยงขององค์กร (ERM) ระบบโทรศัพท์ และโซเชียลมีเดียในอนาคตอันใกล้นี้

ก่อนที่จะมี Boomi Norths Collective มีการจัดการการบูรณาการแบบจุดต่อจุดจำนวนมากด้วยตัวเอง แม้ว่าหลายระบบจะมีการดำเนินการอย่างเป็นอิสระต่อกันอย่างสมบูรณ์ก็ตาม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความสามารถของบริษัทในการเข้าถึงพฤติกรรมของสมาชิก และทำให้การนำเสนอบริการใหม่ๆ ได้ช้าลง

สภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับ Boomi ของ Norths Collective สร้างข้อได้เปรียบหลายประการ ปัจจุบันนี้ อีเมลทุกฉบับที่ส่งถึงสมาชิกจะได้รับการปรับแต่งเฉพาะสำหรับแต่ละสมาชิก ส่งผลให้มีการคลิกเพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซนต์ ด้วยการเปิดเผยข้อมูลที่สมบูรณ์ ช่วยให้ Norths Collective สามารถพัฒนาและแบ่งปันนโยบายการปรับเปลี่ยนเฉพาะตัวบุคคลอย่างมีจริยธรรมแก่ชุมชน พร้อมรายละเอียดวิธีการที่องค์กรใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรม ในแผนงานอนาคต สถานที่จัดงานของ Norths Collective จะช่วยให้ผู้จัดการตามระดับขั้นสามารถมองเห็นภาพการจัดสรรพนักงานด้วยธุรกรรมแบบเรียลไทม์ เพื่อให้แน่ใจว่า มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ Boomi จะให้การสนับสนุนความมุ่งมั่นของ Norths Collective ในการผสานรวม Apple Pay และ Google Pay เข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถปรับเสริมและปรับปรุงการสมัครสมาชิกได้อย่างง่ายดาย โดยมีขั้นตอนการชำระเงินที่รวดเร็วและง่ายดาย

Boomi ยังมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของ Norths Collective โดยการเร่งดำเนินการเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ อย่างรวดเร็วหลังการควบรวมกิจการ ดังที่กล่าวมา Norths Collective มีการวางแผนการควบรวมกิจการเพิ่มเติมในปีต่อๆ ไป โดยที่สมาชิกใหม่ที่ควบรวมเข้าด้วยกันจะสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์แบบเดียวกันกับสมาชิกที่มีอยู่อย่างรวดเร็ว

“ความสามารถในการขยายขนาดของเราได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ เราใช้เวลา 10 สัปดาห์ในการเปิดใช้สถานที่ใหม่และรวมเข้าในภูมิทัศน์ดิจิทัลของเรา” Lopez กล่าว “ปัจจุบันนี้ เราสามารถลดระยะเวลาลงได้เหลือสามสัปดาห์ – นั่นหมายถึง เราลดระยะเวลาในการเปิดตัวสู่ตลาดถึง 70 เปอร์เซนต์ Boomi ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อระบบที่แยกจากกันก่อนหน้านี้เข้ากับ Salesforce ได้แบบเรียลไทม์ ดังนั้น จึงไม่ต้องแยกข้อมูลออกจากกันอีกต่อไป และด้วยการบูรณาการแบบเรียลไทม์นี้ สมาชิกใหม่ก็สามารถเข้าถึงแอปของเราได้ในทันทีที่เข้าร่วม”

Nathan Gower ผู้อำนวยการของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ Boomi กล่าว “ประสบการณ์ของลูกค้าสามารถสร้างหรือทำลายธุรกิจของเราได้ คุณภาพในทุกการปฏิสัมพันธ์ ไม่ว่าจะต่อหน้า ผ่านแอป หรือออนไลน์ ล้วนเป็นตัวกำหนดแนวโน้มในการกลับมาอีกครั้งของผู้บริโภค Norths Collective มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับประสบการณ์ของลูกค้าว่าควรเป็นเช่นไร ด้วยการเชื่อมต่อ Boomi เข้ากับระบบดิจิทัลทั้งหมด กลุ่มสมาชิกจึงมีความเข้าใจอย่างแท้จริงในความต้องการของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน เพื่อให้แน่ใจว่า การเข้าใช้งานแต่ละครั้งของลูกค้าจะได้รับความประทับใจในเชิงบวก”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจด้วยการบูรณาการและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์และบริการชั้นนำ (SaaS) ระดับโลก Boomi เฉลิมฉลองในวาระที่มีลูกค้าทั่วโลกกว่า 20,000 คนและมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก 800 ราย องค์กรต่างๆ หันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในการเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชัน ข้อมูล และผู้คน เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2024 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’, และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทในเครือ หรือบริษัทสาขา สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53893507/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee
Head of Influencer Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi, Inc.

Cessna Skycourier ของ Textron Aviation ได้รับเลือกจาก Hinterland Aviation สําหรับการขยายฝูงบิน ปฏิวัติการเชื่อมต่อระดับภูมิภาคในออสเตรเลีย

Logo

เมืองวิชิทอ รัฐแคนซัส–(BUSINESS WIRE)–19 กุมภาพันธ์ 2024

วันนี้ Textron Aviation ได้ประกาศข้อตกลงซื้อเครื่องบินโดยสาร Cessna SkyCourier ลำแรกในออสเตรเลีย ให้กับสายการบินระดับภูมิภาค Hinterland Aviation เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะส่งมอบในปี 2026 จะเพิ่มเข้าในฝูงบิน Cessna Grand Caravans ที่กว้างขวางของ Hinterland เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้นและเพิ่มที่นั่งผู้โดยสาร การขยายฝูงบินนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชุมชนห่างไกล ตลอดจนภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจในรัฐควีนส์แลนด์

Cessna SkyCourier (Photo: Business Wire)

Cessna SkyCourier (ภาพ: Business Wire)

Cessna SkyCourier ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Textron Aviation Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Textron Inc. (NYSE:TXT)

“ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของ SkyCourier ทําให้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่เชื่อถือได้สําหรับลูกค้าทั่วโลก” Lannie O'Bannion รองประธานอาวุโสฝ่ายขายและปฏิบัติการการบินทั่วโลกกล่าว “ด้วยความสามารถในการบรรทุก บิน ขนถ่าย และทําซ้ำ — พร้อมด้วยต้นทุนการดําเนินงานที่ต่ำและความยืดหยุ่นในห้องโดยสารสูงสุด — SkyCourier เป็นผู้เปลี่ยนเกมในการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค คําสั่งซื้อนี้ไม่เพียงแต่แสดงความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ของ SkyCourier ทั่วโลก แต่ยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Textron Aviation ในการนําเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมการบิน”

Cessna SkyCourier ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ความน่าเชื่อถือที่ไม่เปลี่ยนแปลง และการบํารุงรักษาที่คุ้มค่า ด้วยความสามารถในการควบคุมโดยนักบินคนเดียว และความสามารถในการบรรทุกสินค้าได้มาก SkyCourier จึงเป็นโซลูชั่นที่ดีที่สุดสําหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศ ผู้โดยสาร และภารกิจพิเศษ เครื่องบินสามารถปรับตัวได้สูง และสามารถปรับการกําหนดค่าได้อย่างง่ายดายเพื่อให้ภารกิจต่างๆ สําเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุนที่สําคัญ

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศคําสั่งซื้อ Cessna SkyCourier ใหม่ของเรา เครื่องบินลํานี้จะเป็นส่วนเสริมอันทรงคุณค่าสําหรับฝูงบินของเรา ช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่สําหรับผู้โดยสาร 19 คน และสามารถเข้าถึงรันเวย์ระยะไกลได้” Andrew Clair ซีอีโอของ Hinterland Aviation กล่าว “SkyCourier จะทําหน้าที่เป็นเครื่องมือสําคัญในการช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโต และเราจะภูมิใจที่ได้เป็นลูกค้าสายการบินรายแรกในออสเตรเลียที่ใช้งานเครื่องบินลํานี้”

เกี่ยวกับ Cessna SkyCourier

Cessna SkyCourier เครื่องยนต์เทอร์โบพร็อป 2 เครื่องยนต์ ปีกสูง นําเสนอการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพและต้นทุนการดําเนินงานที่ต่ำกว่า สําหรับการขนส่งทางอากาศ ผู้โดยสาร และผู้ปฏิบัติภารกิจพิเศษ มีให้เลือกทั้งแบบขนส่งสินค้าและรุ่นผู้โดยสาร รุ่นผู้โดยสาร 19 คนประกอบด้วยประตูลูกเรือและผู้โดยสาร เพื่อการขึ้นเครื่องที่ราบรื่น รวมถึงหน้าต่างห้องโดยสารขนาดใหญ่สําหรับรับแสงธรรมชาติและทิวทัศน์ การกําหนดค่าทั้งสองแบบมีการเติมเชื้อเพลิงด้วยแรงดันจุดเดียวเพื่อให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

รุ่นบรรทุกสินค้ามีประตูขนาดใหญ่และห้องโดยสารพื้นราบที่มีขนาดเพื่อรองรับตู้ขนส่งสินค้า LD3 ได้ถึงสามตู้ โดยสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 6,000 ปอนด์

เครื่องบินลํานี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบพร็อป Pratt & Whitney PT6A-65SC สองเครื่องติดปีก และมี McCauley Propeller C779 ซึ่งเป็นใบพัดอะลูมิเนียมสี่ใบขนาด 110 นิ้วสําหรับงานหนักและเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นใบพัดชนิดความเร็วรอบคงที่พร้อมระยะพิชท์ที่พลิกกลับได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องบินในขณะที่บรรทุกสิ่งของจำนวนมหาศาล SkyCourier ทํางานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์การบิน Garmin G1000 NXi และมีความเร็วในการบินไปเรื่อยๆ สูงสุดมากกว่า 200 ktas SkyCourier มีพิสัยบินสูงสุด 900 ไมล์ทะเล

เกี่ยวกับ Textron Aviation

เราเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางของการบิน เป็นเวลากว่า 95 ปีที่ Textron Aviation Inc. ซึ่งเป็น บริษัทในเครือ Textron Inc. ได้เพิ่มศักยภาพให้กับผู้มีความสามารถโดยรวมของเราในแบรนด์ Beechcraft, Cessna และ Hawker เพื่อออกแบบและมอบประสบการณ์การบินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีทุกอย่างตั้งแต่เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เทอร์โบพร็อป และลูกสูบมรรถนะสูง ไปจนถึงภารกิจพิเศษ ผู้ฝึกสอนทางทหาร และผลิตภัณฑ์ด้านการป้องกัน Textron Aviation มีกลุ่มผลิตภัณฑ์การบินที่หลากหลายและครอบคลุมมากที่สุดในโลก และมีพนักงานที่ผลิตเครื่องบินการบินทั่วไปมากกว่าครึ่งหนึ่งทั่วโลก ลูกค้าในกว่า 170 ประเทศไว้วางใจในประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความเก่งกาจที่เป็นตํานานของเรา พร้อมด้วยเครือข่ายการบริการลูกค้าทั่วโลกที่เชื่อถือได้ของเรา สําหรับเที่ยวบินราคาประหยัดและยืดหยุ่น สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.txtav.com | www.defense.txtav.com | www.scorpionjet.com

เกี่ยวกับ Textron Inc.

Textron Inc. เป็นบริษัทที่มีอุตสาหกรรมหลากหลายซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของธุรกิจเครื่องบิน การป้องกันอุตสาหกรรม และการเงิน เพื่อมอบโซลูชั่นและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่แก่ลูกค้า Textron เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากแบรนด์ที่ทรงพลัง เช่น Bell, Cessna, Beechcraft, Pipstrel, Jacobsen, Kautex, Lycoming, E-Z-GO, Arctic Cat, Textron Systems และ TRU Simulation + Training สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: www.textron.com

ข้อความบางอย่างในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อาจคาดการณ์รายได้ หรืออธิบายกลยุทธ์ เป้าหมาย แนวโน้ม หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่อิงประวัติศาสตร์ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้กล่าวถึง ณ วันที่จัดทำเท่านั้น และเราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงข้อความดังกล่าว ข้อความเหล่านี้อยู่ภายใต้ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทําให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงของเราแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญ จากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่แสดงหรือบอกเป็นนัย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงกําหนดการส่งมอบเครื่องบิน หรือการยกเลิก หรือการเลื่อนคําสั่งซื้อ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53897724/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Lauren Loughran
+1.316.213.1325
Lloughran@txtav.com
txtav.com

ที่มา: Textron Aviation

Cessna Grand Caravan EX Amphibian ขยายพื้นที่ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการจัดส่งภายในมาเลเซีย

Logo

WICHITA, Kan.–(BUSINESS WIRE)–18 กุมภาพันธ์ 2024

Textron Aviation ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการจัดส่งเครื่องบินพร็อพสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก Cessna Grand Caravan EX Amphibian ให้กับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซีย Ikhasas Sdn Bhd ผ่าน Oriental Sky Sdn Bhd ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยมีการบริหารเครื่องบินและการดำเนินงานโดย Systematic Aviation Services (SAS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าเหมาลำในท้องถิ่น โดยจะมีการใช้เครื่องบินนี้ในการขนส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์และรีสอร์ทริมน้ำแห่งใหม่บนเกาะ Perhentian นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีบ โดยจะเป็นการดำเนินงานด้วยเครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกครั้งแรกของประเทศในประวัติการณ์ หลังจากได้รับการอนุมัติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งมาเลเซียให้เริ่มดำเนินงานภายในประเทศได้ในปี 2024 นี้

Oriental Sky’s Grand Caravan EX Amphibian (Photo: Business Wire)

Grand Caravan EX Amphibian สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกของ Oriental Sky (ภาพถ่าย: Business Wire)

Cessna Grand Caravan EX Amphibian ได้รับการออกแบบและผลิตโดย Textron Aviation Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Textron Inc. (NYSE:TXT)

Ir. Tan Chee Kian กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท Ikhasas กล่าวว่า “เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเป็นวิธีการเดินทางไปยังหมู่เกาะ Perhentian ที่สะดวกที่สุด ปัจจุบัน ใช้เวลาเดินทางบนถนน 6 ชั่วโมง ตามด้วยการนั่งเรือเฟอร์รรี่ข้ามฟากจากท่าเรือใน Kuala Besut อีกหนึ่งชั่วโมง โดยเครื่องบินโดยสาร 11 ที่นั่งของเรานี้ จะช่วยให้ผู้โดยสารประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น เนื่องจากจะมีการขนส่งผู้โดยสารจากกัวลาลัมเปอร์ไปยังหมู่เกาะใกล้กับรีสอร์ทริมชายหาดได้โดยตรง ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถรักษาสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์และป่าธรรมชาติของเกาะ โดยไม่มีการโค่นต้นไม้เพื่อสร้างสนามบินในพื้นที่ดังกล่าว”

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Grand Caravan EX Amphibian ได้รับการคัดเลือก ความคล่องตัวและเศรษฐกิจพร้อมการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมทำให้ Ikhasas กลายเป็นพันธมิตรที่สมบูรณ์แบบเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยห้องโดยสารที่สะดวกสบาย หน้าต่างบานใหญ่สำหรับเที่ยวชมรอบๆ และลอยตัวอยู่ ทำให้สามารถขึ้นและลงได้ทุกที่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับภารกิจของพวกเขา” Tony Jones รองประธานฝ่ายขายระหว่างประเทศ (เอเชียแปซิฟิก) กล่าว “มาเลเซียยังเป็นตลาดที่สำคัญของ Textron Aviation โดยผลิตภัณ์ของเราเป็นผู้นำฐานการติดตั้ง และคิดเป็นจำนวนกว่า 40% ของเครื่องบินการบินทั่วไปของประเทศ ลูกค้าของเราในมาเลซียใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในการดำเนินงานที่หลากหลาย รวมถึงการขนส่งผู้โดยสารระดับ VIP การท่องเที่ยว และภารกิจพิเศษอื่นๆ เช่น รถพยาบาลทางอากศ และการดิ่งพสุธา”

เกี่ยวกับ Cessna Grand Caravan EX 
แพลตฟอร์ม Cessna Caravan มีการจัดส่งเครื่องบินกว่า 3,000 ลำที่ผ่านการรับรองใน 100 ประเทศ โดยมีชั่วโมงบินเกือบ 24 ล้านชั่วโมงทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องบิน Caravans มีบทบาทหลักในภารกิจต่างๆ ทั้งการฝึกบินไปจนถึงเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นทั้งสายการบินโดยสารไปจนถึงการขนส่งผู้โดยสารระดับ VIP การขนส่งสินค้า และภารกิจด้านมนุษยธรรม เครื่องบิน Grand Caravan EX เป็นที่รู้จักกันในด้านประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และมีความสามารถมากในกลุ่มสายการบินระดับภูมิภาค ผู้ดำเนินการเช่าเหมาลำ ผู้ขนส่งสินค้า และผู้ปฏิบัติงานภารกิจพิเศษทั่วโลก เครื่องบินลำนี้มีกำลัง 867 แรงม้า และอัตราการไต่ระดับอยู่ที่ 1,275 ฟุตต่อนาที

ความเป็นไปได้ของภารกิจพิเศษที่ไม่มีที่สิ้นสุด 
เมื่อลูกค้าภาครัฐ การทหาร และเชิงพาณิชย์มีความต้องการโซลูชันทางอากาศสำหรับภารกิจสำคัญ ทุกคนจะมาที่ Textron Aviation โซลูชันทางการบินของบริษัทมีสมรรถนะสูงและมีคุณสมบัติที่จำเป็นและรองรับความต้องการสำหรับความท้าทายเฉพาะตัวใยการปฏิบัติการภารกิจพิเศษ ด้วยคุณภาพที่เหนือชั้น ความคล่องตัว และต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ ผลิตภัณฑ์ของ Textron Aviation จึงได้รับเลือกสำหรับรถพยาบาลทางอากศ ISR การขนส่งด้านสาธารณูปโภค การสำรวจทางอากาศ การตรวจสอบเที่ยวบิน การฝึกอบรม และการปฏิบัติการพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Textron Aviation 
เราสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางทางอากาศ เป็นเวลากว่า 95 ปี ที่ Textron Aviation ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้เชี่ยวชาญของเราสำหรับแบรนด์ Beechcraft, Cessna และ Hawker โดยมีการออกแบบและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องบินไอพ่น เทอร์โบพร็อพ และลูกสูบสมรรถนะสูง ไปจนถึงภารกิจพิเศษ การฝึกอบรมทางการทหาร และผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกัน Textron Aviation มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการบินที่ครอบคลุมและหลากหลายมากที่สุดในโลก และมีกำลังในการผลิตเครื่องบินโดยทั่วไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องบินทั่วโลก ลูกค้าในกว่า 170 ประเทศไว้วางใจในประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความคล่องตัวที่เป็นตำนานของเรา พร้อมด้วยเครือข่ายการบริการลูกค้าระดับโลกที่เชื่อถือได้ เพื่อรองรับเที่ยวบินราคาประหยัด มีประสิทธิผล และมีความยืดหยุ่น

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.txtav.com defense.txtav.com scorpion.txtav.com

เกี่ยวกับ Textron 
Textron เป็นบริษัทที่รอบรับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกสำหรับธุรกิจเครื่องบิน ระบบการป้องกัน อุตสาหกรรม และการเงิน เพื่อโซลูชันและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่แก่ลูกค้า Textron เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Bell, Cessna, Beechcraft, Pipistrel, Jacobsen, Kautex, Lycoming, E-Z-GO, Arctic Cat และ Textron Systems สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.textron.com

ข้อความบางส่วนในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอาจเป็นการคาดการณ์รายได้หรืออธิบายถึงกลยุทธ์ของโครงการ เป้าหมาย แนวโน้ม หรืออื่นๆ ที่ไม่อิงประวัติศาสตร์ ข้อความเหล่านี้อ้างอิงเฉพาะวันที่ที่รายงานเท่านั้น และเราไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่คาดการณ์ใดๆ ข้อคามนี้อาจเปลี่ยนแปลงตามความเสี่ยงที่อาจมีหรืออาจไม่ได้คาดการณ์ไว้ รวมถึงความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงของเราเกิดความแตกต่างเป็นอย่างมากจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่แสดงไว้หรือเป็นนัย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในตารางการส่งมอบเครื่องบินหรือการยกเลิกหรือการเลื่อนคำสั่งซื้อ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53897660/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Doug Scott
+1.316.347.0116
dscott2@txtav.com
txtav.com

แหล่งข้อมูล: Textron Aviation

Celigo และ Netizen นําเสนอโซลูชันการบูรณาการ ที่ได้รับการปรับปรุงทั่วทั้ง APAC

Logo

เรดวูดซิตี้ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2024

Celigo, ผู้นําในภาค Integration Platform as a Service (iPaaS) ประกาศความสําเร็จอย่างต่อเนื่องในเอเชียแปซิฟิก (APAC) ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Netizen ซึ่งเป็น SAP Platinum Partner ระดับแนวหน้า ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้สัญญาว่าจะช่วยยกระดับสถานะทางการตลาดของ Celigo ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการบูรณาการแพลตฟอร์มขั้นสูงของ Celigo ไว้ในวาระการปฏิรูปเทคโนโลยีทางธุรกิจ (BTX) ของ Netizen ความร่วมมือดังกล่าวได้ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการดําเนินงานและนวัตกรรมสําหรับผู้ใช้ SAP ทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Celigo ซึ่งระบบบูรณาการสอดคล้องกับระบบปฏิบัติการ SAP ของเราอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการรวมระบบเหล่านี้ เราสามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างมูลค่าทางธุรกิจในโดเมนต่างๆ ได้โดยไม่มีข้อจํากัดในการเชื่อมต่อข้อมูล” Seree Satukijchai ซีอีโอของ Netizen กล่าว

ความร่วมมือซึ่งได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้วได้ช่วยให้ Netizen ปรับปรุงกระบวนการภายในและปรับปรุงบริการที่มอบให้กับลูกค้า Celigo มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ Netizen ขยายส่วนแบ่งการตลาด ปรับปรุงความคิดริเริ่มในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนปรับแต่งกลยุทธ์การขายและการตลาด

นอกจากนี้ Netizen ยังสามารถเปลี่ยนทรัพยากรไปสู่กิจกรรมสร้างรายได้ที่ขับเคลื่อนการเติบโต แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการบูรณาการภายใน แต่ตอนนี้พวกเขาใช้ประโยชน์จากความสามารถแบบบูรณาการของ Celigo เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของตนได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนแปลงนี้ทําให้ Netizen สามารถเริ่มต้นการเดินทาง Business Technology Transformation (BTX) ที่แท้จริงได้

“ด้วยข้อจํากัดที่น้อยลง เราสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่สําคัญของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของเรา ขณะนี้ทีมงานของเรามีอิสระในการใช้ความเชี่ยวชาญของพวกเขากับความคิดริเริ่มที่ไม่เพียง แต่สนับสนุนธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังขยายการให้บริการของเราด้วย ความร่วมมือของ Celigo ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการดําเนินงานในแต่ละวันของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราปรับขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเรา”

ลูกค้าของ Netizen ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้ Celigo ผ่านโซลูชัน “HoneyConn” ที่พัฒนาร่วมกัน การบูรณาการ Celigo เข้ากับการดําเนินงานของพวกเขาได้ลดเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาน ลดจํานวนบุคลากรที่ต้องการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน ลดข้อผิดพลาดในการบูรณาการข้อมูล และเพิ่มมูลค่าให้กับงานของพวกเขา

หนึ่งในลูกค้าดังกล่าวคือ Do Day Dream PLC ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามรายใหญ่ Netizen ประสบความสําเร็จในการใช้ HoneyConn เพื่อเชื่อมต่อระบบบันทึกข้อมูล POS กับ SAP เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมของพวกเขาจะอัปเดตแบบเรียลไทม์ หัวหน้าฝ่ายการจัดจําหน่ายทางกายภาพและ MIS &IT ของ Do Day Dream ให้ความเห็นว่า “HoneyConn (Celigo) เป็นเครื่องมือที่ทําให้งานยากเป็นเรื่องง่าย”

ในปีหน้า Netizen และ Celigo วางแผนที่จะขยายโครงการ HoneyConn ผ่านโซลูชัน HoneyConn Out of the Box ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการบูรณาการ HoneyConn เข้ากับระบบอีคอมเมิร์ซต่างๆ โซลูชันนี้จะใช้ได้กับลูกค้าทั่วเอเชีย รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Shopee และ Lazada เพื่อรองรับแนวโน้มการเติบโตของการขายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

“ด้วยการเป็นพันธมิตรและความร่วมมือของเรา เราสามารถปรับปรุงการบูรณาการข้อมูลสําหรับลูกค้า SAP ทําให้พวกเขาสามารถเชื่อมต่อ SAP กับการทํางานของระบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย” George Polyzos รองประธาน APAC ของ Celigo กล่าว “เราภูมิใจกับงานที่เราทําสําเร็จกับ Netizen จนถึงตอนนี้ และตั้งตารอที่จะนํานวัตกรรมใหม่ๆ  มาปรับปรุงระบบอัตโนมัติทางธุรกิจสู่ตลาด APAC “

เมื่อมองไปข้างหน้า Netizen มีแผนระยะยาวสําหรับระบบอัตโนมัติ รวมถึงการสอน Celigo ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้าย การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) สําหรับเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ และขยายโครงการริเริ่มด้านระบบอัตโนมัติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น

Netizen ยังคงสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชันที่รวมระบบ SAP เข้ากับระบบปฏิบัติการต่างๆ เพื่อรองรับการขยายและการเติบโตของธุรกิจ การเป็นพันธมิตรกับ Celigo เป็นส่วนสําคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่กำลังดำเนินอยู่นี้

“ตลอดการเป็นพันธมิตรของเรา การสนับสนุนของ Celigo ยังคงไม่มีอะไรพิเศษเลย” Seree Satukijchai ให้ความเห็น “พวกเขาให้วิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็ว และให้ความช่วยเหลือเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นในการดําเนินงานของเรา และรับประกันความต่อเนื่องที่ราบรื่นของกระบวนการทางธุรกิจของเรา การสนับสนุนของพวกเขาได้กลายเป็นรากฐานที่สําคัญที่ขาดไม่ได้ของความสําเร็จที่ครอบคลุมของเรา”

เกี่ยวกับ Celigo

Celigo เป็นแพลตฟอร์มบูรณาการชั้นนําที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในฐานะบริการ (iPaaS) ที่ Celigo เราเข้าใจตลาดที่กําลังพัฒนาและเชื่อว่าทุกคนในองค์กรของคุณควรเข้าถึงการบูรณาการได้ แพลตฟอร์มของเราสร้างขึ้นสําหรับทั้งผู้ใช้สายงานธุรกิจและทีมงานด้านเทคนิค ส่งเสริมระบบอัตโนมัติในทุกระดับของธุรกิจ และทำให้เกิดการเติบโตและนวัตกรรมในวงกว้าง สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.celigo.com ติดตามเราได้ที่ LinkedIn,  X,  Facebook และ Instagram

เกี่ยวกับ Netizen

Netizen เป็น SAP Platinum Partner ชั้นนําที่ให้คําปรึกษาและนำระบบ SAP มาใช้มานานกว่า 20 ปี บริษัทให้ความสำคัญกับ Business Technology Transformation (BTX) บูรณาการเทคโนโลยีเพื่อรองรับการดําเนินงานของลูกค้าในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.netizen.co.th

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

สื่อ
Alex Miller
fama PR for Celigo
Celigo@famapr.com

ที่มา: Celigo

การออกแบบเพื่อเท่าเทียม: แบบจําลองสําหรับการจัดการความเสี่ยงที่เลือกปฏิบัติของ AI

Logo

Mary Kay สนับสนุนมาตรฐานทางกฎหมายชุดใหม่เกี่ยวกับการออกแบบเพื่อเท่าเทียมที่บุกเบิกโดย Equal Rights Trust

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)--16 กุมภาพันธ์ 2024

ตั้งแต่ปี 2021 Mary Kay Inc. ได้ร่วมมือกับ Equal Rights Trust (ERT) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีภารกิจในการพัฒนาความเท่าเทียมกันผ่านกฎหมายทั่วโลก ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ Mary Kay Inc. ได้สนับสนุนการวิจัยใหม่ ที่มุ่งเน้นไปที่การทําความเข้าใจ และจัดการกับผลกระทบที่เลือกปฏิบัติของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผลกระทบต่อความเท่าเทียมทางเพศ และการพัฒนา “แนวทางการออกแบบเพื่อเท่าเทียม” ใหม่

“Our collaboration with Equal Rights Trust underscores our dedication to ensuring that technological advancements, especially in AI, champion gender equality. The impact of the Principles on Equality by Design in Algorithmic Decision-Making has already been transformative for key stakeholders in AI and echoes our commitment to helping create an inclusive digital economy where women entrepreneurs can excel without bias or barriers,” said Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

“ความร่วมมือของเรากับ Equal Rights Trust ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างความมั่นใจว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน AI สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ผลกระทบของหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักใน AI และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ครอบคลุม ซึ่งผู้ประกอบการสตรีสามารถเป็นเลิศได้โดยปราศจากอคติหรืออุปสรรค” Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ความคิดริเริ่มนี้จบลงด้วยการเปิดตัวมาตรฐานทางกฎหมายชุดใหม่ – หลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึม – พัฒนาโดย Equal Rights Trust และได้รับการรับรองโดยกลุ่มองค์กรความเสมอภาคระหว่างประเทศชั้นนํา หลักการนี้อธิบายอย่างละเอียดว่าเหตุใดรัฐบาลและภาคธุรกิจของประเทศต่างๆ จึงต้องนําแนวทางดังกล่าวมาใช้ และให้คําแนะนําโดยละเอียดสําหรับการนําไปปฏิบัติ

Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust เพิ่งเผยแพร่บทความที่เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกันก็เตือนเกี่ยวกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ และภัยคุกคามที่เลือกปฏิบัติที่ระบบอัลกอริทึมที่ไม่ได้รับการควบคุมอาจก่อให้เกิด

  • อ่านบทความของ Jim Fitzgerald เรื่อง การออกแบบเพื่อเท่าเทียม: แบบจำลองสำหรับการจัดการความเสี่ยงที่เลือกปฏิบัติของ AI ที่นี่

คําแถลงจาก Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust และ Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. มีดังต่อไปนี้:

  •      “ในช่วงสามปีที่ผ่านมา Mary Kay ได้สนับสนุนการวิจัย การวิเคราะห์ และการให้คําปรึกษาของเราเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติด้วยอัลกอริทึม และช่วยให้เราสามารถพัฒนาหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียม Jim Fitzgerald ผู้อํานวยการ Equal Rights Trust กล่าว  “ตอนนี้ Mary Kay กําลังทํางานร่วมกับเราในขณะที่เราก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป: ความพยายามร่วมกันในการพัฒนาแนวทางปฏิบัติสําหรับธุรกิจ เกี่ยวกับวิธีการนําการออกแบบเพื่อเท่าเทียมมาใช้ ในการทําเช่นนั้น มันกําลังก้าวไปอีกขั้นในการเดินทางซึ่งเริ่มต้นด้วยนโยบายความเท่าเทียมภายในและการไม่เลือกปฏิบัติที่แข็งแกร่ง ย้ายไปที่การทำงานร่วมกันและสนับสนุนเราและผู้มีบทบาทอื่นๆ ในสาขานี้ และตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ และนําร่องแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ในการเดินทางครั้งนี้ Mary Kay กําลังช่วยสร้างแบบจําลองว่าธุรกิจต่างๆ สามารถมีบทบาทเชิงรุกในการพัฒนาแนวทางที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติและพัฒนาความเท่าเทียมกันได้”
  •      “ที่ Mary Kay เราตระหนักถึงผลกระทบอันลึกซึ้งที่ AI มีต่อการกําหนดอนาคตของธุรกิจและสังคม” Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว “ความร่วมมือของเรากับ Equal Rights Trust ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างความมั่นใจว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน AI สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ผลกระทบของหลักการว่าด้วยการออกแบบเพื่อเท่าเทียมในการตัดสินใจด้วยอัลกอริทึมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักใน AI  และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ครอบคลุม ซึ่งผู้ประกอบการสตรีสามารถเป็นเลิศได้โดยปราศจากอคติหรืออุปสรรค ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจที่ยั่งยืนของเรา ในการส่งเสริมผู้หญิงเป็นผู้นำ และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในทุกด้าน”

เกี่ยวกับ Equal Rights Trust

Equal Rights Trust เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศที่เป็นอิสระ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติและรับรองว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ องค์กรจึงทํางานร่วมกับเพื่อให้การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ที่อยู่ในแนวหน้าในการต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถผลักดันให้มีการพัฒนา การยอมรับ และการบังคับใช้กฎหมายความเท่าเทียมกัน และใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ปี 2007 Trust ได้สนับสนุนนักเคลื่อนไหวด้านความเท่าเทียมในกว่า 50 ประเทศ ขณะเดียวกันก็พัฒนาฉันทามติในระดับสากล เกี่ยวกับความต้องการและเนื้อหาของกฎหมายความเท่าเทียมที่ครอบคลุม เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ equalrightstrust.org

เกี่ยวกับ Mary Kay

ตั้งแต่นั้นมา  เดี๋ยวนี้  เสมอ  Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่สามารถทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการยกระดับชีวิตของผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลก ที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงในการกําหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คําปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสําอางตกแต่งสี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราสําหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการล่วงละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทําตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ X (เดิมชื่อ Twitter)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53896783/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc




Thai Herald

Thai Herald