โตชิบาเปิดตัวหน่วยควบคุม LDO ที่มีอัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อมสูง เสียงรบกวนต่ำ พร้อมการป้องกันไฟเลี้ยงระบบเพิ่มขึ้น

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–30 ต.ค. 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("โตชิบา") ได้เปิดตัว "TCR3RM Series" ของตัวควบคุม LDO 32 ตัวที่นำการปรับปรุงการป้องกันไฟเลี้ยงระบบมาสู่สายไฟ DC สำหรับอุปกรณ์พกพาเช่นสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่  การจัดส่งผลิตภัณฑ์รุ่นแรกในซีรีส์เริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยรุ่นอื่นๆ จะตามมาภายหลัง

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201029005516/en//

Toshiba: TCR3RM Series of 32 LDO regulators that bring enhanced power stabilization to DC power lines for mobile devices (Photo: Business Wire) โตชิบา: TCR3RM ซีรีส์ของตัวควบคุม LDO 32 ตัวที่นำระบบป้องกันการสั่นไหวของพลังงานที่เพิ่มขึ้นมาสู่สายไฟ DC สำหรับอุปกรณ์มือถือ (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ชุด TCR3RM ใหม่รวมวงจรช่องว่างระหว่างแถบกับวงจรกรองสัญญาณความถี่ต่ำที่ให้เฉพาะกระแสความถี่ที่ต่ำมากผ่าน และมีเสียงรบกวนต่ำ ตัวขยายสัญญาณเชิงดำเนินการความเร็วสูง เพื่อให้ได้มาซึ่งอัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อมสูง[1]และแรงดันสัญญาณรบกวนขาออกต่ำในระดับที่เป็นชั้นนำของอุตสาหกรรม[2]

ผลิตภัณฑ์ 32 รายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์มีกระแสเอาต์พุตสูงสุด 300mA และแรงดันเอาต์พุตตั้งแต่ 0.9V ถึง 4.5V  ลูกค้าสามารถเลือกแรงดันไฟฟ้าขาออกได้ตามการใช้งาน

แพคเกจนี้เป็นแพ็คเกจ DFN4C ขนาดกะทัดรัดเพียง 1มม.x1มม. เหมาะสำหรับการใช้งานกล้อง เสียง และสำหรับวงจร RF ของสายจ่ายไฟในอุปกรณ์พกพาที่ต้องการการติดตั้งที่มีความหนาแน่นสูงเช่นสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่

ในตัวควบคุม LDO ทั่วไป เมื่อความถี่ของสัญญาณรบกวนบนแรงดันไฟฟ้าอินพุตสูงกว่า 1kHz อัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อมจะลดลงประมาณ 20dB สำหรับความถี่ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 เท่า  สำหรับเสียงรบกวนที่เกิน 100kHz จะลดลงประมาณ 40dB สำหรับการเพิ่มขึ้นทุกๆ 10 ครั้ง เป็นผลให้ตัวควบคุม LDO อาจไม่เพียงพอที่จะกำจัดสัญญาณรบกวนที่เกิน 100kHz ที่เกิดจากวงจรตัวแปลง DC-DC หรือวงจรที่คล้ายกัน

ผลิตภัณฑ์ใหม่นำเสนออัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อมที่เพียงพอและคุณสมบัติแรงดันไฟฟ้าของสัญญาณรบกวนเอาท์พุต แม้ว่าจะมีความถี่เสียง 100kHz หรือสูงกว่า  สิ่งนี้มีส่วนช่วยในการรักษาเสถียรภาพของสายจ่ายไฟ รวมถึงความแม่นยำของแรงดันไฟฟ้าขาออกสูง

การใช้งาน

อุปกรณ์มือถืออุปกรณ์

  • สมาร์ทโฟน
  • อุปกรณ์สวมใส่
  • ระบบเสียง
  • วงจร RF ฯลฯ

คุณสมบัติ

  • อัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อมสูง:
    R.R.=100dB (typ.) @f=1kHz, VOUT=2.8V
    R.R.=68dB (typ.) @f=100kHz, VOUT=2.8V
  • แรงดันสัญญาณรบกวนขาออกต่ำ: VNO=5μVrms (typ.) @10Hz≤f≤100kHz
  • กระแสสงบต่ำ: IB(ON)=7μA (typ.) @IOUT=0mA
  • แพ็คเกจ DFN4C ที่บางและกะทัดรัด: 1.0×1.0mm, t=0.38mm (typ.)

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TCR3RMxxA[3]

แพ็คเกจ

ชื่อ

DFN4C

ขนาด (mm)

@Ta= 25°C

1.0×1.0, t=0.38

ช่วงการทำงาน

(@Ta= -40 to 85°C)

กระแสไฟขาออก IOUT (mA)

300

แรงดันขาออก VOUT (V)

0.9 ถึง 4.5

แรงดันขาเข้า VIN (V)

1.8 ถึง 5.5

ลักษณะทางไฟฟ้า

(เว้นแต่จะระบุอย่างอื่น

ระบุไว้เป็น @Tj= 25°C)

แรงดันไฟฟ้าขาออก

VOUT min/max (mV)

@VOUT<1.8V, Tj= -40 ถึง 85°C

-36/36

แรงดันไฟฟ้าขาออก

VOUT min/max (%)

@VOUT≥1.8V, Tj= -40 to 85°C

-2/2

กระแสสงบ

IB(ON) typ. (μA)

@IOUT= 0mA[4]

7

อัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อม

R.R. typ. (dB)

@f=1kHz, Ta=25°C

100

@f=10kHz, Ta=25°C

93

@f=100kHz, Ta=25°C

68

@f=1MHz, Ta=25°C

68

@f=2MHz, Ta=25°C

67

แรงดันสัญญาณรบกวนเอาต์พุต

VNO typ (μVrms)

@IOUT= 10mA, Ta= 25 ° C

5

แรงดันของสัญญาณรบกวนขาออก

VDO typ. (mV)

@IOUT=10mA, Ta=25°C

130

โหลดตอบสนองชั่วขณะ

⊿VOUT typ (mV)

@IOUT= 1mA → 300mA

-30

@IOUT= 300mA → 1mA

30

อัตราสูงสุดของการเปลี่ยนแปลงของเอาต์พุต

VOUTSR typ. (mV/μs)

@VOUT= 2.8V

4

ตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมสินค้า

ซื้อออนไลน์

หมายเหตุ:

[1] อัตราการกําจัดแรงดันกระเพื่อม (R.R. : Ripple rejection Ratio) เท่ากับอัตราส่วนพลังงานอุปทานการปฏิเสธ (PSRR: Power Supply Rejection Ratio) ที่ระบุไว้ในผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรายอื่น

[2] ในบรรดาหน่วยควบคุม LDO ที่มีเอาต์พุตสูงสุด 300 mA จากการสำรวจของ Toshiba ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2563

[3] ผลิตภัณฑ์ 32 ราย ตัวเลขแสดงแรงดันขาออกจะเป็น "xx"

[4] ยกเว้นการควบคุมการดึงกระแส (ICT)

ติดตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

TCR3RM Series

https://toshiba.semicon-storage.com/list/index.php?f%5B%5D=9%7CTCR3RM&p=&h=&sort=3,asc&code=param_610&region=apc&lang=en&cc=&scroll_x=0&scroll_y=0

ติดตาม ลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยควบคุม LDO ของ Toshiba

วงจรรักษาระดับแรงดันตกครอมต่ำ (LDO Regulators)

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/power-management-ics/low-dropout-regulators-ldo-regulators.html

เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้งานของ ผลิตภัณฑ์ใหม่จากตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ ไปที่:

TCR3RMxxA

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCR3RM.html

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า

ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์สัญญาณขนาดเล็ก

โทร : +81-3-3457-3411

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ผสมผสานความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาแห่งประสบการณ์  นับตั้งแต่กลายเป็นบริษัทอิสระในเดือนกรกฎาคม 2560 บริษัท ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์ทั่วไปและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSI และ HDD

พนักงาน 24,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  บริษัทตั้งตารอที่จะสร้างยอดขายต่อปีได้ทะลุ 750 พันล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201029005516/en/

สอบถามข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน:

Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department (ฝ่ายการตลาดดิจิทอล)
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร : +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Forex Leverage | ฟอเร็กซ์ เลเวอเรจ 101 – ที่คุณควรรู้

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF FOREX LEVERAGE)–29 ตุลาคม 2563

เลเวอเรจ (Leverage) ในตลาดเงินตราต่างประเทศ (Forex: Foreign Exchange) นั้นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นได้ทั้งฝันร้าย หรือ ฝันที่กลายเป็นจริง อธิบายง่ายๆ Leverage คือ เงินลงทุนที่เทรดเดอร์ (Trader) กู้ยืมมาจากโบรกเกอร์ เป็นเงินกู้ที่ไม่มีดอกเบี้ยเงินกู้ อาจมีเพียงค่าธรรมเนียมจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น

เลเวอเรจ ในการซื้อขายฟอเร็กซ์มักคำนวณเป็นอัตราส่วนระหว่างเงินฝากจริงของเทรดเดอร์กับจำนวนเงินที่สามารถลงทุนสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น อัตราส่วน: หนึ่งต่อแปด 1:8  (เลเวอเรจแปดเท่า) หมายถึง ฝากเงินในบัญชีเทรด $10,000 สามารถลงทุนซื้อขายได้สูงสุดถึง $80,000

เลเวอเลจ จำเป็นหรือไม่
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะเลือกโบรกเกอร์ที่มีเลเวอเรจให้ เพราะเลเวอเรจนั้นมอบสิทธิประโยชน์ได้มากมาย หากใช้ให้เป็นอย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบ  นอกจากนั้นการจะเป็นเทรดเดอร์ได้ คุณจำเป็นต้องมีบัญชีเงินลงทุนเริ่มที่ $100,000 ในการทำกำไร ซึ่งนั้นทำให้คุณจำเป็นต้องเลือกใช้กลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่งดังต่อไปนี้

ทางเลือกแรก คือ เปิดบัญชีแล้วทำรายการฝากด้วยเงินสดส่วนตัว $100,000 หรือทางเลือกที่สอง แค่เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ให้เลเวอเรจสูงห้าเท่า แล้วทำรายการฝากเพียงแค่ $2,000 ซึ่งจะช่วยคุณในฐานะที่เป็นเทรดเดอร์ประหยัดเงินสดไปถึง $80,000 ที่คุณสามารถนำเงินสดที่เหลือนี้ไปใช้ลงทุนรูปแบบอื่นได้อีก เช่น การลงทุนในหุ้นปันผล ที่ช่วยสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

โดยทั่วไปแล้ว เลเวอเรจ สามารถเริ่มที่หนึ่งเท่าของยอดเงินฝากเริ่มต้น หรืออาจสูงสุดที่ 1,000 เท่า หรือ มากกว่านั้นก็เป็นได้สำหรับเทรดเดอร์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์  สำหรับนักลงทุนเทรดเดอร์มือใหม่ ควรเลือกเลเวอเรจที่สูงไม่เกิน 20 เท่า ยังถือว่ามีความปลอดภัยอยู่  แต่ถ้าเลเวอเรจสูงเกินกว่า 20 เท่าขึ้นไป นับว่าค่อนข้างมีความเสี่ยงสูงในการลงทุน ยิ่งเลวเอเรจสูงมากเท่าใด ความเสี่ยงก็สูงขึ้นทวีคูณตามไปด้วยเช่นกัน

เลเวอเรจ: ตัวอย่างการใช้

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของ เลเวอเรจ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่พอมีประสบการณ์การเทรดมาบ้างแล้ว สมมติว่าโบรกเกอร์ให้เลเวอเรจที่ 50 เท่า เทรดเดอร์ฝากเงินเข้าบัญชีเทรดที่ $5,000 เท่ากับว่า เทรดเดอร์สามารถมีกำลังลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนในตลาดเงินตราต่างประเทศได้มากถึง $250,000

หากคุณคาดการณ์เอาไว้ว่า สกุลเงิน EUR ค่าเงินกำลังจะขึ้น คุณก็สามารถเลือกซื้ออัตราแลกเปลี่ยนคู่สกุล EUR ต่อ USD

ก่อนอื่นลองมาทำความเข้าใจกับบัญชีที่ยัง ไม่เลือกใช้เลเวอเรจ เป็นตัวช่วยกันก่อน   ถ้าเทรดเดอร์ลงทุน $5,000 ในตลาดเงินตราต่างประเทศคู่สกุลเงิน EUR/USD ที่อัตรา 1.1805  ซึ่งมักมีอัตราขยับตัวขึ้นไปที่ 100 ปิ๊ป (pips) ต่อวัน สมมติว่าครั้งนี้ค่าเงินขึ้นเป็น 1.1905 พอดี

กรณีนี้เทรดเดอร์เลือกเทรดถูกฝั่ง และรับรายได้ทันทีจากการเทรดครั้งนี้ไป $50 นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับการดำรงชีวิตด้วยการเทรดฟอเร็กซ์เป็นอาชีพเพียงอย่างเดียว

ต่อมาในกรณีที่ เลือกใช้เลเวอเลจ 50 เท่า เป็นตัวช่วย รายได้ของคุณก็จะทวีคณูขึ้นไปอีก 50 เท่าเช่นกัน  ฉะนั้นแทนที่จะทำกำไรแค่ $50 จากการเทรด กำไรก็จะเพิ่มไป 50 เท่า จาก $50 เป็น $2,500 และนี่ก็เป็นกำไรพื้นฐานจริงๆ ที่สามารถทำได้ต่อการเทรดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งสามารถทำเงินได้มากถึง $130,000 ต่อปี

 imgแล้วทำไมถึงไม่อยากใช้ เลเวอเรจ

เมื่อข้างต้นเราได้อธิบายว่า เลเวอเรจ คืออะไร และใช้เป็นตัวช่วยในการเทรดได้อย่างไรมาแล้ว การทำความเข้าใจเกี่ยวกับด้านลบ หรือ ของเสียของ เลเวอเรจ นั้นก็มีความสำคัญที่ควรต้องทราบไว้เช่นกัน เลเวอเรจ ยิ่งช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้นเท่าไหร่  ก็สามารถทำให้เสียได้มากขึ้นตามอัตราส่วนดังกล่าวเช่นกัน

ลองจินตนาการดูว่า หากผลลัพธ์ออกตรงข้ามกับตัวอย่างด้านบน ผลเสียที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และถึงขั้นอาจทำให้ยอดเงินฝากในบัญชีเทรดของคุณเป็นศูนย์ได้ในทันที

ดังนั้นในบัญชีที่ ไม่เลือกใช้เลเวอเรจ หากการลงทุน $5,000 ในคู่สกุลเงิน EUR/USD ที่เสีย 100 ปิ๊ป จะทำกับเสีย $50  ส่วนบัญชีเทรดที่เลือกใช้เลเวอเรจช่วย 50 เท่า หากเสียก็จะเสียถึง $2,500

เท่ากับว่าคุณจะเสียเงินทุนที่ฝากไปครึ่งหนึ่ง  เมื่อเสียเยอะ ยอดกำลังการซื้อขายครั้งต่อไปของเทรดเดอร์ก็จะลดลงตามไปด้วยจาก $250,000 เหลือเพียง $125,000 ตามอัตรายอดเงินฝากคงเหลือเหลือจริงที่ลดลงมาครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน

แล้วถ้าเกิดคู่สกุลเงิน EUR/USD เกิดขยับตัวลงไปถึง 150 ปิ๊ป หรือ 200 ปิ๊ป จะเป็นอย่างไร  ฉะนั้นเทรดเดอร์พึ่งควรระวังว่าการเทรดเพียงครั้งเดียวก็เป็นความเสี่ยงกับยอดเงินในบัญชีเทรดของคุณ

โบรกเกอร์เองก็เปรียบเสมือนมีระบบคอยช่วยจัดการบริการความเสี่ยงโดยอัติโนมัติ  ช่วยปล่อยขายเมื่อยอดคงเหลือในบัญชีของเทรดเดอร์อยู่ในอาการน่าเป็นห่วง  ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ว่า ทุกๆ เงินลงทุน $1 จากเทรดเดอร์ โบรกเกอร์จะช่วยดันกำลังลงทุนเพิ่มไปอีก 50 เท่าจากยอดเริ่มต้น

บทสรุป: โบรกเกอร์เลิฟ…เลเวอเรจ

โบรกเกอร์ชอบเสนอเลเวอเรจให้เทรดเดอร์อยู่แล้วเป็นปกติ เพราะพวกเขาจะได้รับรับค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นด้วยเช่นกันในการเทรดแต่ละครั้ง  แน่นอนว่าโบรกเกอร์เหล่านี้ต้องการผูกสัมพันธ์ระยะยาวกับเทรดเดอร์ที่ทำกำไรให้พวกเขา เพราะใครๆก็อยากได้กำไรและทำเงินเยอะๆ มากกว่าการเสียเงินในการเทรดฟอเร็กซ์ทั้งนั้น

แม้ว่าโบรกเกอร์เองก็อยากจะยื่นเลเวอเลจให้กับเทรดเดอร์ทุกคนในอัตรามากเท่าที่จะมากได้ แต่ในแท้ที่สุดแล้วค่าเลเวอเรจที่สูงที่สุด มักถูกเสนอให้กับเทรดเดอร์ที่สามารถทำกำไรและมีความรับผิดชอบเท่านั้น  เทรดเดอร์ที่ขาดประสบการณ์ และชอบเสี่ยงมากเกินไปไม่ส่งผลดีให้กับตัวโบรกเกอร์เอง หลายครั้งที่มักก่อปัญหาให้โบรกเกอร์อีกด้วย

เครดิต: ADVFN NEWS
อ้างอิงและแปลจาก: Forex Leverage 101: Everything You Need To Know

—————————————-

ข้อความปฎิเสธความรับผิดชอบ

Thai Business News ไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการเงินและไม่แนะนำหรือต่อต้านการซื้อขายสกุลเงินหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ และไม่ได้แนะนำโบรกเกอร์ใดๆ โดยเฉพาะการซื้อขายตราสารดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ในกรณีของการสูญเสียตราสารที่มีเลเวอเรจอาจเกินมูลค่าของเงินลงทุนเดิม

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบนมาร์จิ้นนั้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนในบางราย ผลการดำเนินการในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต  โดยระดับของ leverage อาจทำอันตรายกับสถานะทางการเงินของท่าน ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินนั้น ท่านควรพิจารณาจุดมุ่งหมายการลงทุนของท่าน, ระดับของประสบการณ์และการยอมรับความเสี่ยง โดยมีความเป็นไปได้ที่ท่านจะสูญเสียเงินทุนเริ่มต้นเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ดังนั้นท่านจึงไม่ควรนำเงินส่วนที่ท่านคิดว่าไม่สามารถจะสูญเสียได้มาลงทุน ท่านควรจะคำนึงถึงทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระดับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินและหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินหากท่านมีข้อสงสัยใดๆ

Cummins เปิดตัวชุดควบคุมระบบดิจิทัลหลักสำหรับระบบควบคุมแบบครบวงจรสองรุ่น

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–29 ตุลาคม 2563

Cummins (NYSE:CMI) เปิดตัวชุดควบคุมระบบดิจิทัล (Digital Master Control -DMC) ใหม่สองรุ่นได้แก่ รุ่น DMC2000 และ 6000 เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมการขนานระบบไฟฟ้าชุด PowerCommand®  ผลิตภัณฑ์ชุดควบคุมรุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของตลาด และรองรับการกำหนดค่าที่ซับซ้อน หลากหลาย เพื่อการออกแบบที่หลากหลายรูปแบบ ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าเป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน เพื่อช่วยลดระยะเวลาจัดส่งและสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในราคาที่เหมาะสม

Cummins launched two new Digital Master Controls (DMC), DMC2000 and 6000 to their suite of PowerCommand® power system paralleling products. The new DMC products are paralleling systems designed to directly interface with Cummins Power Generation PowerCommand generator sets and switchgear and ATS to deliver a truly integrated power control solution. This integrated power system solution seamlessly provides reliability and dependability when our customers need it most whether they be in critical applications like hospitals, airports, data centers, telecommunications or high-tech manufacturing facilities. (Graphic: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ DMC รุ่นใหม่ เป็นระบบขนานที่ออกแบบมาเพื่อให้เชื่อมประสานกับชุดกำเนิดไฟฟ้า PowerCommand ของ Cummins โดยตรง รวมถึงสวิตช์เกียร์และ ATS เพื่อส่งมอบโซลูชันควบคุมไฟฟ้าที่ครบวงจรอย่างแท้จริง โระบบไฟฟ้าแบบครบวงจรนี้มีทั้งความแม่นยำ เที่ยงตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้ามีความ สำคัญมากที่สุดเพื่อที่จะเป็นการใช้กับอุปกรณ์ที่สำคัญในโรงพยาบาล สนามบิน ศูนย์ข้อมูล สถานีโทรคมนาคม หรือโรงงานผลิตที่มีเทคโนโลยีสูง (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ DMC ใหม่ของ Cummins เป็นระบบขนานที่ออกแบบมาเพื่อให้เชื่อมประสานกับชุดกำเนิดไฟฟ้า PowerCommand ของ Cummins โดยตรง รวมถึงสวิตช์เกียร์และ ATS เพื่อส่งมอบโซลูชันควบคุมไฟฟ้าที่ครบวงจรอย่างแท้จริง รูปแบบระบบไฟฟ้าแบบครบวงจรที่มีทั้งความแม่นยำ เที่ยงตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้ามีความ สำคัญมากที่สุดเพื่อที่จะไม่ว่าจะเป็นการใช้กับอุปกรณ์ที่สำคัญในโรงพยาบาล สนามบิน ศูนย์ข้อมูล สถานีโทรคมนาคม หรือโรงงานผลิตที่มีเทคโนโลยีสูง

ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งรุ่น DMC2000 และ DMC6000 จะเข้ามาเติมเต็มรุ่น DMC8000 ที่มีอยู่แล้วให้สมบูรณ์ด้วยรูปแบบของควบคุมแบบครบวงจรที่ตรงกับความต้องการของตลาดซึ่งมีการออกแบบสถานที่หลากหลายรูปแบบ ขณะที่ผลิตภัณฑ์รุ่น DMC8000 ที่ให้ลูกค้าสามารถกำหนดการออกแบบได้เองโดยมีคุณสมบัติที่ตรงกับข้อกำหนด

ผลิตภัณฑ์รุ่น DMC2000 และ DMC6000 เป็นรุ่นที่มีการออกแบบและกำหนดรูปแบบการใช้งานไว้ล่วงหน้า รวมทั้งสามารถขยายขีดความสามารถเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นขยายขอบเขตการใช้งานของผลิตภัณฑ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า Cummins  ที่ ให้ครอบคลุมที่สุด

 “การเพิ่มผลิตภัณฑ์รุ่น DMC2000 และ DMC6000 ในไลน์ผลิตภัณฑ์ชุดควบคุมระบบไฟฟ้าเข้ามาเสริมผลิตภัณฑ์รุ่น DMC8000 ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ทำให้เราสามารถรองรับอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าได้หลากหลาย สำหรับลูกค้าที่มีระบบไฟฟ้าที่ไม่ซับซ้อน ผลิตภัณฑ์รุ่น DMC2000 และ DMC6000 มาพร้อมกับช่วงเวลาการทำงานที่สั้นลงและราคาที่คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับรุ่น DMC8000 ที่เราให้ลูกค้าออกแบบเอง” Wissam Balshe ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจระบบและชุดควบคุมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของ Cummins กล่าว

ผลิตภัณฑ์ใหม่มาพร้อมความยืดหยุ่นด้านการออกแบบที่ครอบคลุม ระบบควบคุมย่อย ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่กว่า 1,200 ชุด ซึ่งผ่านการวิเคราะห์ ทดสอบ และปรับแก้เพื่อให้ได้ระบบควบคุมไฟฟ้าที่สมบูรณ์ “เราได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ชุดต้นแบบโรงงานอย่างเข้มข้นเพื่อให้การตอบสนองของ DMC มีความครบถ้วนและเข้มงวด ทั้งนี้ เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด ความยืดหยุ่น และการทำงานของระบบที่ต่อเนื่องเมื่อเกิดเหตุขัดข้องในทุกสถานการณ์” Balshe กล่าวเสริม

 “ความรู้ด้านการตลาดและความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของเรา รวมถึงประสบการณ์ด้านโซลูชันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่เราสะสมมากว่า 100 ปี ถูกนำมาบูรณาการในการออกแบบซอฟต์แวร์ DMC ในทุก ๆ ระดับ” Gino Butera หัวหน้าฝ่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและรองประธานฝ่ายธุรกิจระบบไฟฟ้าของ Cummins กล่าว

ชุดควบคุม PowerCommand มีให้เลือกหลากหลายการใช้งาน สำหรับใช้กับระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์ข้อมูล อาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล โรงบำบัดน้ำเสีย ระบบขนส่ง สถานีท่อส่งและอื่น ๆ อีกมากมาย!

ผลิตภัณฑ์ PowerCommand มียจัดจำหน่ายผ่านทางช่องทางของ Cummins ที่มีตัวแทนจำหน่ายในกว่า 600 แห่งในกว่า 190 ประเทศ ซึ่งตัวแทนจำหน่ายของ Cummins จะคอยให้บริการลูกค้าทั่วโลกและให้การรับประกันว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ด้านงานขายไปจนถึง ส่งมอบสินค้าและบริการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดควบคุมดิจิทัลหลักของ Cummins โปรดดูที่ https://www.cummins.com/generators/related-products/paralleling-systems

เกี่ยวกับ Cummins Inc.

Cummins Inc. ซึ่งเป็นผู้นำด้านพลังงานระดับโลก เป็นองค์กรธุรกิจที่ครบวงจร ในการออกแบบ ผลิต จัดจำหน่าย และให้การบริการเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงระบบเชื้อเพลิง การควบคุม การจัดการอากาศ ระบบกรอง การลดการปล่อยไอเสียและระบบการกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ระบบส่งกำลังสำหรับเครื่องยนต์ระบบดีเซล ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้าและไฮบริด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุปกรณ์กรอง อุปกรณ์บำรุงหลังการซ่อมแซม เทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบเชื้อเพลิง ระบบควบคุม ระบบจัดการอากาศ ระบบเกียร์อัตโนมัติ ระบบกำเนิดไฟฟ้า แบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้ากำลัง เครื่องกำเนิดไฮโดรเจน และผลิตภัณฑ์เซลล์เชื้อเพลิง Cummins ซึ่งก่อตังสำนักงานใหญ่ขึ้นในโคลัมบัส รัฐอินเดียนาของสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2462 นั้น มีพนักงานราว 61,600 คนที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนโลกให้มีความรุ่งเรืองยิ่งขึ้นผ่านนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อองค์กรที่บริษัทมุ่งเน้นในสามด้าน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างชุมชนที่แข็งแรง ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และโอกาสที่เท่าเทียม Cummins ให้บริการลูกค้าทางออนไลน์ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของบริษัทและตัวแทนจำหน่ายอิสระ รวมถึงดีลเลอร์หลายพันแห่งทั่วโลก และทำรายได้ราว 2.3 พันล้านดอลลาร์จากยอดขาย 23.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโลกด้วยวิธีของ  Cummins ผ่านข่าวประชาสัมพันธ์และข้อมูลอื่น ๆ ทางออนไลน์ได้ที่ https://www.cummins.com/always-on

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รับชมภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52307855/en

ติดต่อ:

Cummins Inc.
HyunKyung Jung
+82-10-2665-9208
hellene.jung@cummins.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


NTT Com ได้รับรางวัล“ Operator Award: Embracing Cloud” จาก Network Transformation Awards ระหว่างงาน Layer123 World Congress 2563

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–28 ต.ค. 2563

NTT Communications Corporation (NTT Com) ซึ่งเป็นโซลูชัน ICT และธุรกิจการสื่อสารระหว่างประเทศภายใน NTT Group (TOKYO: 9432) ประกาศในวันนี้ว่า โครงการริเริ่มบนคลาวด์ล่าสุดซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟสำหรับแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นใหม่เช่น AI, IoT และ 5G ได้รับรางวัล Operator Award: Embracing Cloud หรือ รางวัลผู้ดำเนินการยอดเยี่ยมสาขาการนำระบบคลาวด์มาใช้ จากโครงการ Network Transformation Awards 20201 ที่ Layer1232 World Congress ประจำปี 2563.

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201027006300/en/

Operator Award: Embracing Cloud (Graphic: Business Wire)

Operator Award: Embracing Cloud รางวัลผู้ดำเนินการยอดเยี่ยมสาขาการนำระบบคลาวด์มาใช้ (กราฟิก: Business Wire)

NTT Com ได้รับรางวัลสำหรับความคิดริเริ่มต่าง ๆ รวมถึงแพลตฟอร์ม Edge-Computing ซึ่งจะให้เวลาแฝงต่ำ ต้นทุนต่ำ และการรับประกันความเป็นส่วนตัวที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI, IoT และ 5G ทั้งนี้ แพลตฟอร์มตัวนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะช่วยเร่ง 5G ในท้องถิ่นและการพัฒนาระบบนิเวศ AIoT (การผสมผสานของ AI และ IoT) สำหรับการใช้งานขั้นสูง เช่น โรงงานอัจฉริยะ

รางวัล Network Transformation Awards เป็นรางวัลที่ยกย่องเทคโนโลยีที่โดดเด่นของปีปัจจุบัน และความเป็นผู้นำทางความคิดในหมู่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ขายที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงเครือข่าย รางวัล Operator Award: Embracing Cloud มอบให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และโครงการริเริ่มระบบคลาวด์ขั้นสูง ผู้ชนะจะได้รับการคัดเลือกผ่านกระบวนการตัดสินที่เข้มงวดและแบบครบองค์รวมโดยนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก

ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีคลาวด์และ WAN ระบบ ICT ขององค์กรกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปสู่ ICT แบบไฮบริด ซึ่งรวมถึงไฮบริดคลาวด์และ  Hybrid WAN นอกจากนี้การใช้งาน IoT และ AI ที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ในยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง และการควบคุมระยะไกลของเครื่องจักรอุตสาหกรรมจะต้องใช้ฟังก์ชันชั้นสูงมากขึ้นสำหรับการประมวลผลข้อมูลความเร็วสูงใกล้กับสถานที่ที่มีการใช้ข้อมูลจริง ๆ

เพื่อรองรับสภาพแวดล้อม ICT แบบไฮบริดดังกล่าว NTT Com ยังเตรียมเปิดตัว VxF Platform ซึ่งจะรองรับฟังก์ชันสำหรับการควบคุมการจราจรและความปลอดภัย นอกจากนี้ NTT Com ยังได้เปิดตัวบริการ Flexible InterConnect สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างกันในปี 2563 นอกจากนี้ NTT Com กำลังพัฒนาตำแหน่ง edge ที่มีน้ำหนักเบาสำหรับการปรับใช้ที่สถานที่ของลูกค้า เพื่อประมวลผลข้อมูลในเครื่อง จัดรูปแบบข้อมูล และทำการอนุมาน AI อนึ่ง ด้วยความคิดริเริ่มดังกล่าว NTT Com กำลังดำเนินการเพื่อมอบการประมวลผลที่มีความล่าช้าลดลง ต้นทุนต่ำ และการรับประกันความเป็นส่วนตัวแบบ edge computing

ในอนาคต NTT Com จะยังคงช่วยให้ลูกค้าบรรลุการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายสำหรับ ICT แบบไฮบริด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลของ NTT Com ได้ ที่นี่

1 ดูรายละเอียดได้ที่ https://congress.layer123.com/event/c7ecb486-321f-4812-a554-4cfbd529a159/websitePage:f413b5ce-3881-49ca-adf5-270b96bf8b78

2 Layer123 เป็นสมาคมอุตสาหกรรมที่อุทิศตนเพื่อแบ่งปันเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายล่าสุดและวิเคราะห์แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ดูรายละเอียดได้ที่  https://www.layer123.com/about-us

เกี่ยวกับ NTT Communications

NTT Communications ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายด้านเทคโนโลยีของโลกโดยช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เอาชนะความซับซ้อนและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมด้านไอซีทีของพวกเขาด้วยโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีการจัดการโซลูชั่นเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกของเรารวมถึงเครือข่ายชั้นนำระดับอุตสาหกรรมเครือข่ายสาธารณะและเอกชนระดับชั้น 1 ทั่วโลก ซึ่งมีมากกว่า 190 ประเทศ /ภูมิภาคและครอบคลุมมากกว่า 500,000 ตารางเมตรของศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดของโลก ทีมบริการระดับมืออาชีพระดับโลกของเราให้บริการคำปรึกษาและการสถาปัตยกรรมเพื่อความยืดหยุ่นและความปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จของธุรกิจของคุณ ความสามารถระดับโลกของเราเมื่อรวมกับ NTT Ltd. , NTT Data และ NTT DOCOMO เราคือ NTT Group ในโลกเทคโนโลยีไม่มีที่ใดเปรียบได้

www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201027006300/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Yuichiro Wada, Wenyu Shen

Technology, Innovation Center

NTT Communications

mgr-nwcore-td@ntt.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

หน่วยงานทางทะเลของ Starr เปิดตัวโปรแกรมควบคุมการสูญเสียระบบการจัดการอาคารเทอร์มินัล

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนสวไร์)–27 ต.ค. 2563

Starr Marine บริษัทย่อยของบริษัทประกันภัย Starr Insurance Companies ได้เปิดตัวโปรแกรมการประเมินระบบการจัดการอาคารเทอร์มินัล Terminal Management System (TMS) Assessment Program ที่ครอบคลุมซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าของ Starr สามารถค้นหาและลดความเสี่ยงสำหรับการปฏิบัติการอาคารเทอร์มินัลทางทะเลทุกขนาด

โปรแกรม TMS นี้ ซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เป็นเครื่องมือกรรมสิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อวัดการดำเนินงานของเทอร์มินัลเทียบกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม  ทีมบริการควบคุมการสูญเสียทางทะเลของ Starr ได้ทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารของอาคารเทอร์มินัลเพื่อทำการประเมินและทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติงาน การบำรุงรักษา และความปลอดภัยในสถานที่โดยใช้หน่วยงานสำรวจทางทะเลอิสระ

การประเมินจะให้คะแนนมาตรฐานและคำแนะนำโดยละเอียดแก่ลูกค้าเพื่อปรับปรุงการจัดการความเสี่ยงและแผนการควบคุมการสูญเสียสำหรับการดำเนินงาน

“ความพยายามของเราในการพัฒนาเครื่องมือ TMS เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการสูญเสียในท่าเรือจำนวนมากเมื่อเร็วๆ นี้” Matthew Davis รองประธานอาวุโสและหัวหน้าของ Starr Marine กล่าว “อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เช่นนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าแนวทางการควบคุมการสูญเสียของ Starr เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานกับลูกค้าเพื่อป้องกันการสูญเสียก่อนที่จะเกิดขึ้น”

เกี่ยวกับ Starr Insurance Companies

Starr Insurance Companies (หรือ Starr) เป็นชื่อทางการตลาดของบริษัทประกันภัยและความช่วยเหลือด้านการเดินทางและบริษัทย่อยของ Starr International Company, Inc. และสำหรับธุรกิจการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทย่อย  Starr เป็นองค์กรด้านการประกันภัยและการลงทุนชั้นนำที่มีอยู่ในหกทวีป  โดยการทำงานผ่านบริษัทประกันภัยที่ตนดำเนินงาน Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันทรัพย์สิน ผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุ และสุขภาพ ตลอดจนความคุ้มครองพิเศษที่หลากหลาย รวมถึงการประกันภัยการบิน ทางทะเล พลังงาน และการประกันอุบัติเหตุส่วนเกิน  บริษัทประกันภัยในเครือของ Starr มีภูมิลำเนาอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และมอลตาต่างมีคะแนน AM Best อยู่ที่ “A” (ดีเยี่ยม) สมาคมของ Starr's Lloyd มีคะแนน Standard & Poor’s อยู่ที่ “A +” (แข็งแกร่ง)

เยี่ยมชมเราได้ที่ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราที่ LinkedIn และ Twitter

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201027005221/en/

ติดต่อ:

Charlie Armstrong
Vice President, Marketing (รองประธานฝ่ายการตลาด)

charlie.armstrong@starrcompanies.com, 646.758.8308

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โคนามีประกาศเปิดตัว eFootball PES 2021 Mobile พร้อมกันทั่วโลก

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF KONAMI)–28 ตุลาคม 2563

imgการอัปเดตบนมือถือที่ทุกคนรอคอยตอนนี้สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งทางระบบ iOS  และระบบ Android

บริษัทโคนามิ ดิจิตอล เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ประกาศในวันนี้ว่า eFootball PES 2021 Mobile พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android แล้ว

App downloadhttps://www.konami.com/wepes/mobile/en/

เทรลเลอร์เปิดตัวhttps://youtu.be/SwwC5rhNM6o

ภาคล่าสุดในซีรีส์ PES Mobile ซึ่งมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 300 ล้านครั้งในฤดูร้อนนี้มีคุณสมบัติมากมายและใบอนุญาตที่ประกาศไปแล้วสำหรับ อีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ ซีซัน 2021บนพีซีและคอนโซล

eFootball PES 2021 Mobile มีข้อมูลผู้เล่นและทีมจากฤดูกาลล่าสุดและนำเสนอการเล่นฟุตบอลบนมือถือที่คมชัดและตอบสนองตามประสบการณ์คอนโซลที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "เกมกีฬายอดเยี่ยม" ของ E3 2019 ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับกิจกรรมโหมด Matchday ใหม่ การอัปเดตข้อมูลสู่ผู้เล่น สโมสรและลีก และอื่น ๆ อีกมากมาย

PES 2021 Mobile มีสโมสรที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากฟุตบอลชั้นนำในยุโรป รวมถึงสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อาร์เซนอล ยูเวนตุส เอฟซีบาเยิร์น และพันธมิตรรายใหม่ เอเอส โรมา

จะมีส่วนเพิ่มเติมใหม่ใน 'Iconic Moment Series' ที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้หวนระลึกและสร้างช่วงเวลาที่วิเศษยิ่งขึ้นจากอาชีพของซูเปอร์สตาร์ฟุตบอลในปัจจุบันและในอดีต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รอนัลดีนโย, การ์เลส ปูยอล และ ดีโก จะได้รับการเปิดตัวในนามตำนานของ Iconic Moment  ผู้เล่นยังสามารถใช้ชีวิตในจินตนาการของฟุตบอลได้ด้วยการเซ็นชื่อ ผู้เล่นในตำนานต่างๆให้กับ myClub squad รวมถึง เดวิด เบคแฮม, ฟรานเชสโก ทอตตี้, ดิเอโก มาราโดนา, สตีเวน เจอราร์ด, กาบริเอล บาติสตูตา, เฟอร์นันโด ตอเรส และ คาร์ล รุมเมนิกเกอ

ข้อมูลจากการแข่งขันจริงที่กำลังเล่นอยู่ทั่วโลกจะถูกรวบรวมเป็นประจำทุกสัปดาห์และนำไปใช้ในเกมผ่านคุณสมบัติ Live Update เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แท้จริงยิ่งขึ้น การอัปเดตเหล่านี้ส่งผลต่อเกมในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดอันดับสภาพผู้เล่นและรายชื่อทีม

ผู้ใช้ PES Mobile ปัจจุบันควรเข้าชมเว็บไซต์หลักเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกส่งต่อและคำถามอื่น ๆ ที่พบบ่อย https://www.konami.com/wepes/mobile/c/information/2021/en/#details

eFootball PES 2021 Mobile พร้อมให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับอุปกรณ์ iOS ( App Store ) และ Android ( Google Play )

ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ eFootball PES 2021 Mobile และข้อมูลอื่น ๆ ได้ตามช่องทางต่อไปนี้

-ENDS-

EDITOR’S NOTES:

Game assets, including imagery and videos, can be found here: https://www.konami-assets.com/

About Konami Group

Konami Group was established in 1973, starting as an amusement machine manufacturer for arcades. Over the years, the company has grown to include different business units across various markets. Currently, KONAMI HOLDINGS CORPORATION includes the Digital Entertainment, Amusement, Gaming & Systems, and Sports Businesses. The company went public on the Osaka Securities Exchange in 1984, the Tokyo Stock Exchange in 1988, and the London Stock Exchange in 1999. For more information, visit: www.konami.com/en.

About Konami Digital Entertainment

Konami Digital Entertainment, which is the core company of Konami Group, develops entertaining content for mobile, console and card games. The company is known for global franchises such as PES, Metal Gear, Silent Hill, Castlevania, and Contra, as well as the Yu-Gi-Oh! Trading Card Game series. www.konami.com/games/corporate/en/

MEDIA CONTACT:

Konami Digital Entertainment Limited.

Jacky Zhao/Communication Head/Marketing Manager

Email: zj.05580@konami.com

TEL:+852-21518416  

ชุดข้อมูลล่าสุดเวอร์ชั่น 2.0 ของ อีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ ซีซัน 2021 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF KONAMI)–28 ตุลาคม 2563

imgเป็นการอัปเดตใหญ่ครั้งแรกหลังจากที่เกมนี้เปิดตัวไป มีการอัปเดตใบหน้าผู้เล่นมากกว่า 150 คน และชุดอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดกว่า 200 ชุด และยังมีการเพิ่มสตีเวน เจอร์ราร์ดในตำแหน่งผู้จัดการลีกอีกด้วย

บริษัทโคนามิ ดิจิตอล เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดประกาศว่าชุดข้อมูลเวอร์ชั่น 2.0 ของอีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ ซีซัน 2021 (PES 2021) พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วสำหรับเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น ®4 เอ็กซ์บอกซ์ วัน และพีซี สตีม

ตัวอย่างเทรลเลอร์เปิดตัวชุดข้อมูล 2.0https://www.youtube.com/watch?v=tL5nanL7R5s

ชุดข้อมูล 2.0 นี้มีความใหม่ล่าสุดทั้งลีก สโมสร และข้อมูลผู้เล่นจากหลากหลายประเทศเช่นจีน อิตาลี สเปน ตุรกี เบลเยี่ยม บราซิล ลั สวิตเซอร์แลนด์

หน้าตาของผู้เล่นกว่า 150 คนได้รับการสร้างหรืออัปเดตใหม่เพื่อเป็นส่วนประกอบในชุดข้อมูลล่าสุดนี้ จากสโมสรที่เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึง อันซู ฟาติ จากเอฟซี บาร์เซโลนา, คริสเตียโน โรนัลโด จากยูเวนตุส, วิลเลียม ซาลิบา จากอาร์เซนอล, อัลบิอาน อาเยติ จากเชลติก เอฟซี และฟรังซิสกู ตริงเกา จากเอฟซี บาร์เซโลนา

นอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่า 200 ทีมที่ได้รับการอัปเดตอุปกรณ์จริงชุดล่าสุด เบลเยี่ยม อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และ โปรตุเกสเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 24 ทีมที่ได้รับการอัปเดตชุดเสื้อผ้า อาร์เซนอล, เอฟซี บาร์เซโลนา, เซลติก เอฟซี, ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเอเอส โรมา ก็จะทำให้ทุกคนหันกลับมามองด้วยอุปกรณ์อัปเดตใหม่ชุดที่ 3

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ 2021 ก็จะเริ่มปล่อย Iconic Moment Series ใหม่ ๆ ในแคมเปญ myClub และจะมีเพิ่มอีกในเดือนต่อ ๆ ไป

  • 22 ตุลาคม – รอนัลดีนโย (Iconic Match:  08/03/2005)
  • 22 ตุลาคม – การ์เลส ปูยอล (Iconic Match: 19/01/2012)
  • 22 ตุลาคม – ดีโค (Iconic Match: 07/01/2006)
  • 29 ตุลาคม – ปาทริก วีเยรา (Iconic Match: 15/05/2004)
  • 29 ตุลาคม – โซล แคมป์เบลล์ (Iconic Match: 04/05/2002)
  • 29 ตุลาคม – ชิลเบร์ตู ซิลวา (Iconic Match: 11/08/2002)

และท้ายที่สุด ชุดข้อมูล 2.0 จะมีสิ่งเหล่านี้เพิ่มเข้าไปในเกม

  • สตีเวน เจอร์ราร์ด นักฟุตบอลในตำนาน จากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรนเจอร์ส เอฟซี ตอนนี้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้จัดการลีก
  • ภาพ "Full Celebration 3" ของผู้เล่นบางคนจาก Iconic Moment Series โดยการกดปุ่ม L3 อินเกม หลังจากที่ยิงประตูได้
  • รองเท้าบู๊ตใหม่ 14 แบบจากอดิดาส ไนกี้ พูมา อัมโบร มิซูโน และ โจมา

เกี่ยวกับอีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ 2021 ซีซั่นอัปเดต

เริ่มต้นจากการเป็นเกมแบบสแตนด์อโลน อีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ 2021 ซีซั่นอัปเดต (PES 2021) พร้อมด้วยคุณสมบัติและวิธีการเล่นที่ได้รับคำชมจาก PES 2020 ที่ได้รับรางวัลเกมกีฬายอดเยี่ยม ณ งาน E3 2019 และรางวัลอื่น ๆ  นอกเหนือจากข้อมูลผู้เล่นและข้อมูลสโมสรล่าสุดสำหรับฤดูกาลใหม่แล้ว เกมนี้ยังมีโหมดพิเศษเฉพาะ UEFA EURO 2020 ™และเนื้อหาล่วงหน้าของทัวร์นาเมนต์ในชีวิตจริงที่กำหนดตารางเวลาใหม

Standard Edition ประจำปีนี้มีดีไซน์หน้าปกพิเศษเป็นประวัติกาลคือการรวมทูต eFootball PES 4 คนของฤดูกาลนี้นั่นคือ ไลโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน โรนัลโด และ อัลฟอนโซ เดวีส์ PES 2021 Standard Edition วางขายทั้งแบบรูปเล่มและแบบดิจิตอลสามารถซื้อได้ทาง SRP ในราคา USD$ 25.49

มีบทสัมภาษณ์ของทูตทั้ง 4 ใน Club Editions ใหม่ล่าสุดของ อีฟุตบอล โปรอีโวลูชันซอกเกอร์ ซีซัน 2021 อัปเดทที่มีขายเฉพาะในรูปแบบดิจิตอลทาง SRP  ในราคา USD$ 29.74 Club Edition ทั้งหมด 5 บันทึก รวมถึงผู้เล่น 1 คนจาก Iconic Moment Series, myClub squad เต็มรูปแบบและอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้ใช้ PES 2020 หรือ PES 2020 LITE ปัจจุบันจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลด 20% สำหรับ Club Edition ใด ๆ หากซื้อผ่านเกมนั้น ๆ จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2020

สำหรับข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ PES 2021 กรุณาติดตาม

"e-Football" and "eFootball logo" are registered trademarks or trademarks of Konami Digital Entertainment Co., Ltd. in Japan and other countries or regions.

-ENDS-

EDITOR’S NOTES:

Game assets, including imagery and videos, can be found here: https://assets.konami.com/

About Konami Group

Konami Group was established in 1973, starting as an amusement machine manufacturer for arcades. Over the years, the company has grown to include different business units across various markets. Currently, KONAMI HOLDINGS CORPORATION includes the Digital Entertainment, Amusement, Gaming & Systems, and Sports Businesses. The company went public on the Osaka Securities Exchange in 1984, the Tokyo Stock Exchange in 1988, and the London Stock Exchange in 1999. For more information, visit: www.konami.com/en.

About Konami Digital Entertainment

Konami Digital Entertainment, which is the core company of Konami Group, develops entertaining content for mobile, console and card games. The company is known for global franchises such as PES, Metal Gear, Silent Hill, Castlevania, and Contra, as well as the Yu-Gi-Oh! Trading Card Game series. www.konami.com/games/corporate/en/

MEDIA CONTACT:

Konami Digital Entertainment Limited.

Jacky Zhao/Communication Head/Marketing Manager

Email: zj.05580@konami.com

TEL:+852-21518416  

การท่องเที่ยวฮ่องกง ประกาศระเบียบมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–27 ตุลาคม 2563

ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเมืองแรก ๆ ของโลกที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยประชาชนและองค์กรธุรกิจต่างร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการดูแลควบคุมด้านสุขอนามัยที่ถือว่าเป็นหนึ่งในมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้ดำเนินมาตรการคุมเข้มด้านสุขอนามัยเป็นพิเศษ พร้อมใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทำความสะอาดพื้นที่ให้บริการเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการในแต่ละวัน

เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงได้ประกาศระเบียบมาตรฐานด้านสุขอนามัย ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงาน Hong Kong Quality Assurance Agency (HKQAA) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพชั้นนำของฮ่องกง

ระเบียบหลักเกณฑ์นี้ ประกอบด้วยแนวทางมาตรฐานด้านสุขอนามัยและมาตรการควบคุมป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวมีความรู้ความเข้าใจและนำไปใช้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางมายังฮ่องกงได้อย่างถูกต้องเมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางได้อีกครั้ง

ดร.วาย เค แปง (Dr YK Pang) ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภูมิทัศน์ของแวดวงการท่องเที่ยวก้าวเข้าสู่ยุค New Normal โดยนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับระบบสาธารณสุขและความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง องค์กรท่องเที่ยวระดับนานาชาติต่าง ๆ จึงได้กำหนดแนวทางนโยบายด้านสุขอนามัยและมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 อย่างชัดเจน รวมถึงออกหลักเกณฑ์มาตรฐานด้านสุขอนามัยสำหรับทุกอุตสาหกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่าอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในฮ่องกงตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก”

“ผมรู้สึกยินดีที่ธุรกิจและห้างร้านกว่า 1,800 ราย ได้แสดงความสนใจตอบรับระเบียบหลักเกณฑ์ดังกล่าว เมื่อการท่องเที่ยวฮ่องกงได้ปรึกษาพูดคุยร่วมกับธุรกิจการท่องเที่ยวต่าง ๆ การท่องเที่ยวฮ่องกงพร้อมเดินหน้าส่งเสริมมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้รับความร่วมมือจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มกำลัง เพื่อชูภาพลักษณ์ฮ่องกงในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีคุณภาพด้านสุขอนามัยและปลอดภัย ตลอดจนสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนฮ่องกง”

การกำหนดใช้ระเบียบมาตรฐานด้านสุขอนามัยนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก บริษัทรถโค้ช สถานที่ท่องเที่ยว บริษัทท่องเที่ยว ฯลฯ โดยธุรกิจและร้านค้าที่เข้าร่วมจะต้องปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มด้านสุขอนามัยและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หลังได้รับการประเมิน สำนักงาน HKQAA จะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจและร้านค้าที่ผ่านการประเมินบนเว็บไซต์ https://hkhygiene.hkqaa.org ธุรกิจและร้านค้าที่ผ่านการประเมินสามารถโชว์ตราสัญลักษณ์เพื่อแสดงว่าพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบมาตรฐานด้านสุขอนามัยดังกล่าว สำนักงาน HKQAA จะสุ่มลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ให้บริการตามมาตรฐานและเกณฑ์การประเมินคุณภาพต่อไป

นายซี เอส โฮ (Ir C S Ho) ประธานสำนักงาน HKQAA กล่าวว่า “ในระหว่างการพัฒนาระเบียบมาตรฐานดังกล่าว สำนักงาน HKQAA ได้อ้างถึงแนวทางนโยบายของศูนย์ดูแลป้องกันสุขภาพ (Centre for Health Protection) และกรมสุขอนามัยด้านอาหารและสิ่งแวดล้อม เราต้องการส่งเสริมแนวทางมาตรการด้านสุขอนามัยและการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ดีที่สุดให้แก่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และเล็งเห็นถึงความพยายามขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการรับรองและประเมินจากหน่วยงานภายนอกผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นของผู้คนทั้งในด้านการบริโภคและการเดินทาง”  

“ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้มีโอกาสทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวฮ่องกง เพื่อประสานความร่วมมือกันในการพัฒนาต่อยอดหลักเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญทั่วทั้งอุตสาหกรรม รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมใหม่ด้านสุขอนามัยที่มีคุณภาพมาตรฐานท่ามกลางยุค New Normal นี้”

การท่องเที่ยวฮ่องกงทำงานร่วมกับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวสู่ฮ่องกงอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษมากมายแก่แขกทุกท่านที่มาเยือน

ภาพประกอบที่ 1

img

ฮ่องกงเป็นหนึ่งในเมืองแรก ๆ ของโลกที่ยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรธุรกิจต่างร่วมมือร่วมใจกันส่งเสริมและปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ

ภาพประกอบที่ 2

img

หลังได้รับการประเมิน ธุรกิจและร้านค้าที่ผ่านการประเมินสามารถโชว์ตราสัญลักษณ์เพื่อแสดงว่าพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบมาตรฐานด้านสุขอนามัยและการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

หากสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

คุณวันดี เลิศสุพงศ์กิจ หรือคุณกมลพิชญ์ พรมบาง

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวฮ่องกงสำหรับสื่อมวลชน

แฟรนคอม เอเชีย

02 233 4329 ต่อ 17 หรือ pr@francomasia.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Toshiba ประกาศอัปเดตรุ่น HDD ระดับความจุองค์กรขนาด 4TB 6TB และ 8TB

Logo

ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ MG08-D ส่งมอบความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้กับเวิร์กโหลดสำหรับการใช้งานระดับองค์กรและธุรกิจที่สำคัญ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)– 27 ต.ค. 2563

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เปิดตัว Toshiba MG08-D Series HDD ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่สำคัญทางธุรกิจที่หลากหลาย เช่น อีเมลและการจัดการทรัพยากรของลูกค้า หรือ CRM (Customer Resource Management) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับระบบธุรกิจอัจฉริยะ เซิร์ฟเวอร์ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก การจัดเก็บข้อมูลและการเก็บข้อมูลที่เป็นไปตามข้อกำหนด

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005947/en/

Toshiba: MG08-D Series HDDs designed for a wide variety of business-critical applications. (Photo: Business Wire)

Toshiba: HDD ซีรี่ส์  MG08-D  ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่สำคัญทางธุรกิจที่หลากหลาย (ภาพ: Business Wire)

การออกแบบกลไกแอร์ หรือ air mechanical design รุ่นที่ 7 ของ Toshiba ให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้นและใช้ส่วนประกอบที่น้อยลงทำให้ให้ต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้า ซีรีส์ใหม่นี้มีแบบรุ่น 4TB, 6TB และ 8TB และมีทั้งทั้งสำหรับอินเทอร์เฟซ SATA และ SAS อนึ่ง รุ่น 4TB1 ใหม่มีให้เลือกในรุ่นเซกเตอร์ 512e 4Kn และ 512n ส่วน รุ่น 6TB และ 8TB มีจำหน่ายในรุ่นเซกเตอร์ 512e และ 4Kn ทำให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบพลักแอนด์เพลย์สำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้รุ่น 4TB ก่อนหน้า

“MG08-D ซีรีส์ ตัวใหม่ของ Toshiba มอบระดับความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่สูงขึ้นอีกระดับ ให้กับเซิร์ฟเวอร์และแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรและธุรกิจที่สำคัญ” Shuji Takaoka ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation กล่าว “การออกแบบกลไกทั่วไปรุ่นที่ 7 ของ Toshiba ใช้เทคโนโลยี Conventional Magnetic Recording เพื่อมอบความอเนกประสงค์แบบพลักแอนด์เพลย์ที่เข้ากันได้กับแอพพลิเคชั่นและสภาพแวดล้อมระบบปฏิบัติการที่หลากหลายที่สุด”

MG08-D ซีรี่ส์มีคุณสมบัติมาตรฐานอุตสาหกรรมมากมายรวมถึงประสิทธิภาพ ระดับ 7200rpm ฟอร์มแฟคเตอร์ขนาด 3.5 นิ้ว2 ตัวเลือกอินเทอร์เฟซ SATA 6Gbit/s หรือ 12Gbit/s SAS Interface3 หรือแบบ workload4 ที่ให้ 550TB ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่น 4-6-8TB ในปัจจุบันของโตชิบา ผลิตภัณฑ์รุ่น 4TB ใหม่ได้รับประโยชน์ที่หลากหลายที่สุดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรุ่น MG08 ตัวอย่างเช่น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า5 4TB ใหม่ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดอย่างต่อเนื่องที่ดีขึ้นประมาณ 23% ที่ 243MiB/s และเพิ่มขนาดแคชบัฟเฟอร์เป็นสองเท่าเป็น 256MiB นอกจากนี้ยังปรับปรุงข้อกำหนดความน่าเชื่อถือที่คำนวณได้จาก 1.4 ล้านชั่วโมง MTTF (AFR 0.63%) เป็น 2.0 ล้านชั่วโมง MTTF (AFR 0.43%)6และลดการใช้พลังงานขณะที่ไม่ได้ใช้งานลงเหลือ 4.07W นอกจากนี้ยังรองรับ MTTF 2.0 ล้านชั่วโมงสำหรับ MG08-D Series ใหม่ รุ่น 6TB และ 8TB ด้วย

ผลิตภัณฑ์ Toshiba MG08-D Series 4TB, 6TB และ 8TB คาดว่าจะวางจำหน่ายทั่วไปในไตรมาสแรกของปี 2564

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/storage/product/data-center-enterprise/enterprise-capacity/articles/mg08-d-series.html

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล HDD ทั้งหมดของ Toshiba โปรดไปที่:

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/storage.html

1 คำจำกัดความของความจุ: หนึ่งเทราไบต์ (TB) = หนึ่งล้านล้านไบต์ แต่ความจุของพื้นที่จัดเก็บจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการทำงานและการจัดรูปแบบ ความจุที่ใช้ได้ (รวมถึงตัวอย่างของไฟล์มีเดียต่าง ๆ ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่าซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการและ /หรือแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าหรือเนื้อหาสื่อ ความจุจริงในรูปแบบฟอร์แม็ตอาจแตกต่างกันออกไป

2 "3.5 นิ้ว" หมายถึงฟอร์มแฟคเตอร์ HDD ไม่ได้ระบุขนาดทางกายภาพของไดรฟ์

3 ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์โฮสต์เงื่อนไขการอ่านและเขียน ตลอดจนถึงขนาดไฟล์

4 ปริมาณงาน หรือ workload คือการวัดข้อมูลตลอดทั้งปีจากจำนวนข้อมูลที่เขียนอ่าน หรือตรวจสอบโดยคำสั่งจากระบบโฮสต์

5 เปรียบเทียบกับ MG08ADA400E (SATA 512e) ใหม่และ MG04ACA400E (SATA 512e) รุ่นก่อนหน้า

6 MTTF  หรือ Mean Time to Failure (เวลาเฉลี่ยที่จะล้มเหลว) และ AFR หรือ Annualized Failure Rate (อัตราความล้มเหลวต่อปี) หมายถึงการใช้พลังงาน 8760 ชม. / ปีต่อชั่วโมง (24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์) การถ่ายโอนข้อมูลรวมสูงสุด 550TB / ปีและอุณหภูมิพื้นผิว HDA เฉลี่ยที่ 40 °C หรือต่ำกว่า การใช้งานในกรณีที่อุณหภูมิพื้นผิว HDA สูงกว่า 40 ° C อาจทำให้ความสามารถของผลิตภัณฑ์ลดลงและลดระยะเวลาการรับประกันสินค้า

สอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์:

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Storage Products Division

https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่ประกาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation รวมความแข็งแกร่งของบริษัทใหม่เข้ากับภูมิปัญญาและประสบการณ์ โดยนับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวจากบริษัทโตชิบาในเดือนกรกฎาคม 2560 เราได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในบริษัทอุปกรณ์ทั่วไปชั้นนำและนำเสนอโซลูชันที่โดดเด่นให้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนทางธุรกิจในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกตัวระบบ LSI และ HDD

พนักงานของเราจำนวน 24,000 คน ทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างสรรค์มูลค่าและตลาดใหม่ ๆ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างยอดขายรายปีให้สูงกว่าในปัจจุบัน หรือ เจ็ดแสนห้าหมื่นล้านเยน (6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อเอื้อให้เกิดอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005947/en/

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

โทร: +81-3-3457-4963

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay แต่งตั้ง Wendy Wang ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

แบรนด์ความงามระดับโลกและผู้สนับสนุนการเสริมสร้างพลังของสตรี ประกาศบทบาทความเป็นผู้นำครั้งใหม่เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–27 ตุลาคม 2563

Mary Kay Inc. องค์กรชั้นนำผู้สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถและการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความเป็นผู้นำของผู้หญิงทั่วโลกด้วยการแต่งตั้ง Wendy Wang ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขาย (Chief Commercial Officer) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอดดิสัน ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่ here: https://www.businesswire.com/news/home/20201026005152/en/

The appointment of Wang is the latest in Mary Kay Inc.’s decades-long commitment to empowering women to serve in leadership positions. (Photo: Mary Kay Inc.)

การประกาศแต่งตั้ง Wang ครั้งนี้นับเป็นครั้งล่าสุดของการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของ Mary Kay Inc. ที่จะเสริมสร้างพลังให้กับสตรีผ่านการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับผู้นำ (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการประกาศแต่งตั้ง Wendy Wang ให้รับตำแหน่งผู้นำระดับสูงในครั้งนี้” KK Chua ประธาน Mary Kay ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ความมุ่งมั่นที่จะได้เห็นผู้หญิงทั่วทั้งเอเชียมีชีวิตที่ดีขึ้นรวมถึงความเชี่ยวชาญของเธอจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเดินหน้าพันธกิจอันแน่วแน่ของเราในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงในเอเชียแปซิฟิก Wendy เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นผู้ที่มีความเฉียบแหลมทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในระดับโลก รวมถึงมีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ในการนำอุตสาหกรรมความงามซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะแบรนด์ความงามระดับโลกที่มุ่งมั่นต่อการเสริมสร้างพลังให้กับสตรี เราตระหนักว่าการมีผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำระดับสูงเป็นพลังขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั่วโลกที่ต่อเนื่องของเรา”

Wang ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่สูงสุดด้านการขาย จะเป็นผู้กำหนดและขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของภูมิภาคเพื่อให้เกิดความสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของบริษัท รวมถึงจะเป็นผู้นำทีมระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนงานขาย การตลาด เทคโนโลยีธุรกิจ รวมถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ของสำนักงานสาขาย่อนในเอเชียแปซิฟิก Wang เริ่มงานกับ Mary Kay ประเทศจีนเมื่อปี 2545 ในตำแหน่งที่ปรึกษาในแผนกกฎหมายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระหว่างดำรงตำแหน่งรองประธานและรองที่ปรึกษาทั่วไป ซึ่งเป็นตำแหน่งล่าสุดของเธอ Wang เป็นผู้ดูแลทีมบุคลากรด้านกฎหมายที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านกฎหมายทั้งหมดของ Mary Kay ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ เธอยังสวมบทผู้นำการพัฒนาและยกระดับโครงการต่อต้านการทุจริตทั่วโลกของ Mary Kay อย่างต่อเนื่อง และยังดำรงตำแหน่งหัวหน้างานบริหารความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ของบริษัทอีกด้วย

“ฉันตื่นเต้นอย่างมากที่ได้สานต่อการสนับสนุนสตรีในเอเชียแปซิฟิกรวมถึงครอบครัวของพวกเธอ” Wang กล่าว “การได้ทำงานให้กับบริษัทที่มุ่งมั่นยกระดับชีวิตของผู้หญิงเป็นเอกสิทธิ์อันยอดเยี่ยมสำหรับฉัน และฉันจะทุ่มเททุกความพยายามเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้ให้กับเหล่าที่ปรึกษาอิสระด้านความงาม พวกเรามุ่งเน้นอย่างมากกับการมอบโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่สุด ซึ่งต่อยอดขึ้นจากค่านิยมที่ Mary Kay ยึดถือเป็นรากฐานในวัฒนธรรมองค์กรและพันธกิจของเรา กว่าหลายสิบปีที่บริษัทของเราเข้าไปมีบทบาทในการก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ที่ยึดถือกันมาเพื่อช่วยให้สตรีบรรลุศักยภาพสูงสุดทั้งด้านธุรกิจและชีวิตส่วนตัว และฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำให้พันธกิจนี้เดินหน้าต่อไป”

การประกาศแต่งตั้ง Wang ครั้งนี้นับเป็นครั้งล่าสุดของการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของ Mary Kay Inc. ที่จะเสริมสร้างพลังให้กับสตรีผ่านการดำรงตำแหน่งระดับผู้นำในสำนักงานทั่วโลก Mary Kay เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง และค่านิยมนี้สะท้อนให้เห็นผ่านข้อมูลความหลากหลายทางเพศของพนักงานที่ Mary Kay ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค (ข้อมูลเมื่อกันยายน 2563) ดังนี้

  • 61% ของพนักงาน Mary Kay ทั่วโลกเป็นเพศหญิง
  • 59% ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยการขึ้นไปเป็นเพศหญิง
  • 51% ของรองประธานฝ่ายต่าง ๆ ในระดับโลกเป็นเพศหญิง
  • 50% ของทีมผู้บริหารระดับโลกของ Mary Kay เป็นเพศหญิง

เช่นเดียวกัน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำในทุกระดับส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เมื่อเดือนสิงหาคมของปี 2562 ที่ผ่านมา Katherine Weng ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ในประเทศจีน ซึ่งนั้นทำให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Mary Kay เป็นผู้หญิงทั้งหมดแบบ 100% โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศของพนักงาน Mary Kay ในเอเชียแปซิฟิกที่สำคัญ ๆ (ข้อมูลเมื่อกันยายน 2563) ดังนี้

  • 57% ของพนักงาน Mary Kay ในเอเชียแปซิฟิกเป็นเพศหญิง
  • 69% ของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้างานระดับภูมิภาค (ตั้งแต่ผู้อำนวยการขึ้นไป) เป็นเพศหญิง
  • 100% ของตำแหน่งผู้นำในตลาดเอเชียแปซิฟิกเป็นเพศหญิง

ในฐานะผู้สนับสนุนการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิงทั่วโลกและเพื่อเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 57 บริษัทจึงได้ประกาศเปิดตัวแคมเปญ Mary Kay Pink Power ในเอเชียแปซิฟิก และด้วยตระหนักถึงความท้าทายจากการระบาดของโรค แคมเปญนี้จึงจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างพลังและความเป็นผู้นำของสตรีในระดับองค์กรทั้งภายในและภายนอกบริษัทผ่านที่ปรึกษาอิสระด้านความงามของ Mary Kay และครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อให้กำลังใจ ส่งต่อพลัง และพากันก้าวสู่ศักยภาพสูงสุดของตัวเอง ในเวลาไม่กี่เดือนนับจากนี้ แคมเปญนี้จะเริ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ก่อตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทอย่าง Mary Kay Ash และการนำเสนอเรื่องราวการเสริมพลังของผู้นำสตรีจากทุกภูมิหลังและทุกช่วงชีวิตผ่านแฮชแท็ก #MKPinkPower

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 57 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201026005152/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thai Herald

Thai Herald