Category Archives: Technology

โครงการ Beyond2020 ติดตั้งระบบแสงสว่างให้กับค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดของโลกในบังกลาเทศ

Logo

การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้ช่วยยกระดับความปลอดภัยและปูทางไปสู่การทำกิจกรรมทางชุมชนในยามค่ำคืนที่มากขึ้น

อาบูดาบี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–04 พฤษภาคม 2564

Beyond2020 โครงการด้านมนุษยธรรมที่สนับสนุนโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศว่าได้ติดตั้งระบบไฟพลังงานแสงอาทิตย์ที่จำเป็นให้กับค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลองโรฮิงญาในเมืองค็อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ เพื่อมอบแสงสว่างให้กับผู้คน 4,500 ชีวิต การติดตั้งระบบไฟในบังกลาเทศ ซึ่งต้องการยกระดับความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ผู้คนในการทำกิจกรรมทางสังคมและชุมชนในยามค่ำคืนครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นระยะที่สองของโครงการ ‘20by2020’ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘Beyond2020’ เพื่อทำหน้าที่เป็นเวทีหลักในการมอบความช่วยเหลือทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210504005849/en/

Beneficiaries receive solar solutions by Beyond2020 – (Photo: AETOSWire)

ผู้รับความช่วยเหลือด้านพลังงานแสงอาทิตย์จากโครงการ Beyond2020 – (รูปภาพ: AETOSWire)

โครงการ Beyond2020 ซึ่งก้าวข้ามอุปสรรคทางด้าน ‘วัยที่แตกต่าง’, ‘พรมแดน’ และ ‘ขีดจำกัด’ คอยจัดหาโซลูชันที่จำเป็นซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้กับผู้รับความช่วยเหลือมากมายทั่วโลก โดยที่ผ่านมาได้จัดหาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ดีและส่งเสริมการเติบโตซึ่งสามารถเข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้าและมีความยั่งยืน

Electricians Without Borders องค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำจากฝรั่งเศส และผู้คว้ารางวัล Zayed Sustainability Prize ในหมวด ‘พลังงาน’ ของปี 2563 ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวในนามของ Beyond2020 ณ ค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยอดีตผู้คว้ารางวัลรายนี้ใช้ประสบการณ์ที่ช่วยให้ชนะรางวัลจากโครง ‘Light for the Rohingyas’ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากว่าช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนหลายพันจากการใช้พลังงานหมุนเวียนและการให้คำปรึกษาด้านการประกอบการ

โครงการ Beyond2020 ซึ่งเป็นการต่อยอดงานของ ชีค ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน ผู้ล่วงลับ ด้วยการสนับสนุนงานด้านมนุษยธรรมของบิดาผู้รวมประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้บริจาคเทคโนโลยีและโซลูชันที่มีความยั่งยืนให้กับชุมชนที่มีความเปราะบางไปแล้วในทั้งหมด 9 ประเทศ โซลูชันหรือเทคโนโลยีแต่ละชิ้นได้เข้าไปมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงชุมชนอีกมากมายทั่วโลก และได้รับการยกย่องโดยเลือกให้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายหรือผู้คว้ารางวัลชนะเลิศของ Zayed Sustainability Prize

ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่ขั้นสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ผู้อำนวยการโครงการ Zayed Sustainability Prize กล่าวว่า “การเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนเปราะบางและเร่งสร้างความก้าวหน้าในระดับโลกไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ยังคงเป็นหลักในการเดินหน้าของโครงการ Beyond2020 โครงการ Beyond2020 และพันธมิตรมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือชุมชนที่ขาดแคลนในบังกลาเทศ และสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรมขององค์กรไม่แสงหากำไรต่าง ๆ ในการบรรเทาความทุกยากที่ชุมชนต้องเผชิญ”

ฯพณฯ ดร. สุลต่าน อาเหม็ด อัล จาเบอร์ กล่าวเสริมว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมุมมองด้านมนุษยธรรมแบบองค์รวม เสริมแกร่งด้วยผู้นำที่ชาญฉลาดซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน รวมถึงการริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายช่วยเหลืองานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก พวกเรามีความยินดีที่ได้แนะนำโซลูชันด้านแสงสว่างที่สำคัญเหล่านี้โดยโครงการ Beyond2020 ซึ่งจะนำมาซึ่งการดำรงชีวิตที่ง่ายขึ้นของคนในชุมชนรวมถึงมีความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับกิจกรรมของชุมชนที่มีการขยายตัว เราจะเดินหน้าขยายความช่วยเหลือและการเข้าถึงโซลูชันที่มีความยั่งยืนและล้ำสมัยของผู้เข้ารอบสุดท้ายและผู้ได้รับรางวัล Zayed Sustainability Prize ให้กับชุมชนในวงกว้างทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก”

ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความอุตสาหะ และการขยายตัวของโครงการ Beyond2020 ยังคงมีความสำคัญอย่างต่อเนื่องในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคครั้งใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความพยายามในการทำงานร่วมกันอย่างรวดเร็วของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในชุมชนที่มีความยั่งยืนทั่วโลก

นายโยฮันเนส ฟาน เดอร์ คลาว ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งประจำอยู่ในบังกลาเทศ กล่าวว่า “โครงการ Beyond2020 กำลังพาการเข้าถึงวิธีแก้ปัญหาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนไปสู่ทิศทางใหม่ สำหรับในบังกลาเทศ การบริจาคครั้งนี้จะนำความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมาสู่การใช้ชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่มีความเปราะบางอย่างแท้จริง แสงสว่างในยามค่ำคืนช่วยเพิ่มความปลอดภัยและมีผลกระทบทางสำคัญที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้คนที่มีความทุพลภาพ ผู้หญิง และเด็กหญิง การใช้เทคโนโลยีที่มีความยั่งยืน เช่น โซลูชันด้านพลังงานหมุนเวียนที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในบังกลาเทศให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ”

Electricians Without Borders สนับสนุนความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติทางด้านโครงการพลังงานหมุนเวียนให้กับชุมชนที่ไม่มีระบบสาธารณูปโภคโดยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับครัวเรือน 240 ชุด และมอบตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ 640 ชิ้นให้กับค่ายผู้ลี้ภัย พร้อมสอนให้ผู้ที่อาศัยในค่ายเรียนรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมอุปกรณ์ให้กับครัวเรือน การส่งมอบความช่วยเหลือในบังกลาเทศของโครงการ Beyond2020 ครอบคลุมผู้ลี้ภัยทั้งหมด โดยมุ่งเน้นกลุ่มคนที่มีความพิการ สตรีมีครรภ์ และเด็กผู้หญิง

สำหรับระยะแรกของโครงการ มีการส่งมอบความช่วยเหลือไปทั้งหมดแปดครั้งจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นความช่วยเหลือทางด้านพลังงาน สุขภาพ น้ำและอาหารในเนปาล แทนซาเนีย ยูกันดา จอร์แดน อียิปต์ กัมพูชา มาดากัสการ์ และอินโดนีเซีย และนอกจากบังกลาเทศแล้ว ยังมีอีก 11 ประเทศที่จะได้รับความช่วยเหลือจากโครงการในระยะที่สอง

โครงการ Beyond2020 เป็นความร่วมมือของเหล่าพันธมิตรทั้งจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจากนานาชาติชั้นนำที่กำลังขยายการเติบโต ซึ่งรวมถึง Abu Dhabi Global Market, Abu Dhabi Fund for Development, Mubadala Petroleum, กระทรวงขันติธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ (Ministry of Tolerance and Coexistence), Masdar และ BNP Paribas

เกี่ยวกับรางวัล Zayed Sustainability Prize

การมอบรางวัล Zayed Sustainability Prize ริเริ่มขึ้นจากความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปี 2551 เพื่อเป็นเกียรติแด่สิ่งที่บิดาผู้รวมประเทศ ชีค ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน ผู้ล่วงลับ สร้างเอาไว้ โดยรางวัล Zayed Sustainability Prize เป็นการมอบรางวัลรายการแรก ๆ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เป็นเชิดชูความพยามในการแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนและมนุษยธรรมทั่วโลก

รางวัล Zayed Sustainability Prize มอบให้กับผู้บุกเบิกและนักสร้างสรรค์นวัตกรรมทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นในการเร่งหาทางออกด้านความยั่งยืนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง

ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา มีการมอบรางวัลให้กับผู้ชนะไปแล้ว 86 ราย คนเหล่านั้นได้ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกทั้งในทางตรงและทางอ้อมให้กับผู้คนกว่า 335 ล้านชีวิตทั่วโลก การมอบรางวัล Zayed Sustainability Prize แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ดังนี้ สุขภาพ อาหาร พลังงาน น้ำ และโรงเรียนมัธยมโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://zayedsustainabilityprize.com/en/ หรือเยี่ยมชมสื่อโซเชียลของเราได้ที่ TwitterFacebookInstagramYouTube

*ที่มา: AETOSWire

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210504005849/en/

ติดต่อ:

Medhat Juma
Hill+Knowlton Strategies
โทร: +971 561399482
Medhat.Juma@hkstrategies.com

Erika Spagakou
Hill+Knowlton Strategies
โทร: +971 551398765
Erika.Spagakou@hkstrategies.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Smiths Medical และ Ivenix จับมือปฏิวัติการจัดการระบบการให้ยาด้วยชุดโซลูชั่นการให้ยาที่ครอบคลุมเป็นครั้งแรกในตลาดการดูแลสุขภาพของสหรัฐอเมริกา

Logo

หนุนโดยการลงทุนเชิงกลยุทธ์จาก Smiths Medical การเป็นหุ้นส่วนทางการค้าจะนำเสนอระบบการให้ยาที่ดีที่สุดซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของผู้ป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพทางคลินิก

มินนีแอโพลิส และ บอสตัน–(บิสิเนสไวร์)–04 พ.ค. 2564

Smiths Medical ผู้นำด้านอุปกรณ์การแพทย์ระดับโลกประกาศในวันนี้ว่าได้ร่วมมือกับ Ivenix, Inc. เพื่อวางตำแหน่งให้เป็นสองบริษัทเป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกาที่นำเสนอชุดโซลูชันการจัดการการให้ยาที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการดูแลสุขภาพ  ความร่วมมือระยะยาว ซึ่งรวมถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์จาก Smiths Medical เป็นการรวมตัวกันของนักนวัตกรรมสองรายภายใต้เป้าหมายร่วมกันในการปฏิวัติการจัดการยาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของผู้ป่วยและตอบสนองความต้องการของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพในปัจจุบันและอนาคต

Ivenix ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อุทิศตนเพื่อขจัดความเสี่ยงของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการให้ยา ได้พัฒนาปั๊มให้ยาขนาดใหญ่ตัวแรกที่ตั้งจากพื้นดินเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปั๊มให้ยาล่าสุดขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นประจำกับปั๊ม  การดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วยและประสิทธิภาพทางคลินิกเป็นองค์ประกอบสำคัญของการจัดการยาช่วยที่สามารถชีวิตผู้คนได้    วันนี้ข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการให้ยาคิดเป็นมากกว่า 50% ของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการให้ยา 1.5 ล้านครั้งที่รายงานต่อ FDA ทุกปี1  และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการให้ยาทำให้ระบบการดูแลสุขภาพเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 2 พันล้านเหรียญต่อปี2

กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมของ Smiths Medical ในด้านระบบการให้ยาชั้นนำของตลาด CADD®-Solis และ Medfusion® ประกอบด้วยเข็มฉีดยาและเครื่องสูบสำหรับผู้ป่วยที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยผู้ใหญ่ขั้นวิกฤตและทารกแรกเกิด ห้องผ่าตัด และการจัดการความเจ็บปวดทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน  ด้วยการเพิ่มระบบการให้ยา Ivenix ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา Smiths Medical จะเร่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์การให้ยาในปริมาณมากซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์

“ในฐานะนักวิจัยที่มุ่งเน้นปั๊มจ่ายยาอัจฉริยะในปริมาณมาก ฉันตระหนักดีถึงปัญหาด้านความปลอดภัยและการใช้งานที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน” Karen K. Giuliano, Ph.D. , RN, FAAN, MBA, รองศาสตราจารย์และผู้อำนวยการร่วมของศูนย์นวัตกรรมการพยาบาลวิศวกรรมที่มหาวิทยาลัย Massachusetts Amherst กล่าว “นวัตกรรมในปั๊มจ่ายยาอัจฉริยะนั้นควรจะมีมานานแล้วและฉันยินดีที่ได้เห็นทางเลือกใหม่สำหรับแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยเฉียบพลันเพื่อพิจารณาการจัดส่งของเหลวและยาช่วยชีวิตอย่างปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วยที่สำคัญมากเหล่านี้”

“ความร่วมมือระยะยาวระหว่าง Smiths Medical และ Ivenix จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเรากำลังนำเสนอโซลูชันการจัดการการให้ยารุ่นใหม่ให้กับโรงพยาบาลทั่วสหรัฐอเมริกาและตอบสนองความมุ่งมั่นของเราในการช่วยเชื่อมโยงผู้ป่วยเข้ากับการบำบัดที่ช่วยชีวิตและข้อมูลเชิงลึกให้กับผู้ให้บริการ” JehanZeb กล่าว Noor, Smiths Medical CEO “การลงทุนของเราใน Ivenix จะช่วยกระตุ้นการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็นในการสร้างทรัพยากรที่สำคัญนี้ต่อไปและมอบโซลูชันแบบองค์รวมสำหรับโรงพยาบาลและระบบสุขภาพ”

Ivenix Infusion System ประกอบด้วยปั๊มให้ยาปริมาณมาก พร้อมชุดการบริหารเครื่องมือจัดการการและการวิเคราะห์เพื่อแจ้งการดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพ  ระบบได้รับการอนุญาต 510(k) ในปี 2562 และสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดส่งยาโดยการทบทวนความปลอดภัย ความเรียบง่าย และความสามารถในการทำงานร่วมกัน  ระบบมีศูนย์กลางอยู่ที่ทั้งผู้ป่วยและแพทย์และได้รับการออกแบบมาเพื่อลดข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการฉีดยาและลดต้นทุนทั้งหมดในการเป็นเจ้าของ

“ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้เราสามารถเร่งการเข้าถึงเชิงพาณิชย์ของแพลตฟอร์มการให้ยาของเรา โดยเราร่วมกันจัดหาโซลูชั่นการให้ยาระดับแนวหน้าเพื่อมอบมาตรฐานสูงสุดของการดูแลรักษาด้วยการให้ยาที่ปลอดภัยและครบวงจร” Jorgen B. Hansen ซีอีโอของ Ivenix กล่าว

 Smiths Medical จะเปิดตัว Ivenix infusion System ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาในช่วงฤดูร้อนปี 2564

เกี่ยวกับ Smiths Medical

ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์เฉพาะทางสำหรับตลาดทั่วโลกที่มุ่งเน้นการจัดส่งยา การดูแลที่สำคัญ และกลุ่มตลาดอุปกรณ์ความปลอดภัย  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.smiths-medical.com

เกี่ยวกับ Ivenix

Ivenix, Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีวิสัยทัศน์ในการกำจัดอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการฉีดยา  บริษัทก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะเปลี่ยนการจัดส่งยา  Ivenix ออกแบบระบบการให้ยาตั้งแต่พื้นฐานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการให้ยาและนำเทคโนโลยีการฉีดเข้าสู่ยุคดิจิทัล  Ivenix Infusion System ประกอบด้วยปั๊มขนาดใหญ่ที่รองรับโดยระบบการจัดการการฉีดที่แข็งแกร่งซึ่งออกแบบมาเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านความเรียบง่าย ความชาญฉลาด และความน่าเชื่อถือ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม ivenix.com  Ivenix Infusion System ได้รับการอนุมัติโดย FDA

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. รายงานของ FDA โดยมีข้อมูลในไฟล์
  2. ODPHP. Health Care Quality and Patient Safety: Adverse Drug Events. 2017

อ่านที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210504005275/en/

สำหรับ Smiths Medical:
Bob Josephson
Robert.Josephson@fticonsulting.com  
203-914-2372

สำหรับ Ivenix:
Caroline Curran
caroline.curran@metiscomm.com 
910-409-4126

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Bloom Energy แต่งตั้ง Benjamin Gaszynski เป็นผู้นำการพัฒนาธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย –(BUSINESS WIRE)–28 เมษายน 2564

Bloom Energy ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นพลังงานแบบกระจาย ในวันนี้ประกาศแต่งตั้ง Benjamin Gaszynski เป็นทีมผู้นำระดับนานาชาติเพื่อเสริมสร้างความพยายามในการขยายตัวของบริษัท ยกระดับตำแหน่งทางการแข่งขันและสนับสนุนการปรับใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการใช้เชื้อเพลิงยืดหยุ่นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเริ่มต้นมุ่งเน้นไปที่ประเทศไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย

ผู้นำธุรกิจระหว่างประเทศที่ใช้เวลา 15 ปีในภาคน้ำมันและก๊าซ พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม ประวัติของ Gaszynski มีประสบการณ์มากมายในการพัฒนา การจัดการและการเติบโตอย่างรวดเร็วของหน่วยธุรกิจพลังงานมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ทั่วเอเชียและตะวันออกกลางในองค์กรต่างๆ เช่น Ortec Group และ AIS Bardot

Gaszynski จะรายงานตรงต่อ Azeez Mohammed รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ Bloom Energy

 “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Benjamin สู่ Bloom” Azeez Mohammed กล่าว “เขานำประสบการณ์มากมายตลอดจนมุมมองและความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มความยืดหยุ่นและกำหนดเส้นทางสู่อนาคตที่ไม่มีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์”

เซลล์เชื้อเพลิงที่ไม่เผาไหม้และเชื้อเพลิงยืดหยุ่นของ Bloom Energy ใช้ก๊าซชีวภาพและไฮโดรเจนนอกเหนือจากก๊าซธรรมชาติเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าทรัพยากรที่ใช้การเผาไหม้แบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้เทคโนโลยีของ Bloom ยังสามารถใช้ในการสร้างไฮโดรเจนซึ่งได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งที่จำเป็นสำหรับการลดคาร์บอนอย่างสมบูรณ์ของเศรษฐกิจพลังงาน

เกี่ยวกับ Bloom Energy

ภารกิจของ Bloom Energy คือการสร้างพลังงานที่สะอาดและเชื่อถือได้ในราคาที่เหมาะสมสำหรับทุกคนในโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Bloom Energy Server มอบพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดตลอดเวลา เชื่อถือได้และยืดหยุ่นสูง คุ้มค่าและเหมาะสำหรับการใช้งานไมโครกริด ลูกค้าของ Bloom รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 100 และผู้นำด้านการผลิต ศูนย์ข้อมูล การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก การศึกษา ระดับอุดมศึกษา สาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bloomenergy.com

ข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าตามความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน คำแถลงเหล่านี้ไม่ควรถือเป็นการรับประกันผลลัพธ์และไม่ควรถือเป็นการบ่งชี้กิจกรรมในอนาคตหรือผลการดำเนินงานในอนาคต เหตุการณ์หรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่อธิบายไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เนื่องจากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการตามรายละเอียดในเอกสารที่ยื่นต่อ SEC เป็นระยะของ Bloom

Bloom ไม่มีภาระผูกพันในการแก้ไขหรืออัปเดตข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

ติดต่อ:

Jennifer Duffourg
Bloom Energy
Jennifer.Duffourg@bloomenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Cyber Intelligence House และ INTERPOL ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือช่วยสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์

Logo

ภายใต้ 'ข้อตกลงความร่วมมือ' นี้ Cyber Intelligence House จะให้บริการการป้องกันข้อมูลและช่วยเหลือในการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–27 เมษายน 2564

ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือนี้ หน่วยข่าวกรองทางไซเบอร์ หรือ Cyber Intelligence House (CIH) จะรับผิดชอบจัดหาทรัพยากรและบริการที่ช่วยสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมสินทรัพย์เสมือน (VA) และช่วยต่อสู้ รวมทั้งตรวจตราเว็บไซต์มืดให้แก่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL) ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่ได้เดินนำหน้าอาชญากรทั่วโลกไปหนึ่งก้าว Mikko Niemela ซีอีโอ แห่ง Cyber Intelligence House เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ พร้อมกล่าวว่า “ความร่วมมือกับ INTERPOL จะมอบโอกาสที่ดีเยี่ยมให้เราได้ศึกษาเกี่ยวกับการสืบสวนระดับแนวหน้า ช่วยให้เรายกระดับการบริการที่ก้าวล้ำกว่าเดิม”

Cyber Intelligence House (CIH) จะรับผิดชอบในการจัดหาเทคโนโลยีและบริการแก่ INTERPOL เพื่อช่วยเร่งดำเนินการการสืบสวนและการวิเคราะห์อาชญากรรมให้เร็วขึ้น ความร่วมมือนี้ยังมีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพในการสืบสวนอาชญากรรมของ INTERPOL “ความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่ายนี้จะช่วยให้ CIH พัฒนาเครื่องมือตามคำแนะนำของ INTERPOL”, Mikko Niemela ซีอีโอแห่ง Cyber Intelligence House กล่าวเสริม

INTERPOL เป็นองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อป้องกันอาชญากรรมในระดับสากล ปัจจุบัน มีประเทศสมาชิกจำนวน 194 ประเทศ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ INTERPOL ได้มุ่งหน้าทำการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์จำนวนมาก ตั้งแต่การระบุการโจรกรรมไปจนถึงการปล้นสกุลเงินดิจิทัล ในเดือนพฤศจิกายน 2563 INTERPOL ได้สร้าง The Cybercrime Knowledge Exchange (CKE) ให้ง่ายกว่าเดิมสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย องค์กรระหว่างประเทศ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

Cyber Intelligence House เป็นบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยในการสืบหา Darkweb, Deepweb และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จากการออกแบบเพื่อการบังคับใช้กฎมาย แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้สืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์เข้าถึงขุมทรัพย์หลักฐานขนาดใหญ่จากแหล่งข้อมูลที่ถูกซ่อนเร้นปิดปัง เช่น ตลาดเว็บมืด แพลตฟอร์มที่รั่วไหล และฟอรั่มพูดคุยที่ยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แบบเรียลไทม์และย้อนกลับไปหลายปี

Mikko Niemela ซีอีโอ แห่ง Cyber Intelligence House กล่าวอีกว่า “เราไม่เพียงแค่ช่วยเร่งการสืบสวนให้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้โอกาสศึกษาเกี่ยวกับการสืบสวนระดับแนวหน้าอีกด้วย

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราหวังว่าจะได้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์และพัฒนาทรัพยากรเพื่อช่วยป้องกันอาชญากรรมนั้น”

เกี่ยวกับ Cyber Intelligence House

Cyber Intelligence House เป็นบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ บริษัทช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถตรวจหาและจัดการตอบโต้กับภัยคุมคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว CIH ทำงานร่วมกับลูกค้าจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ CIH ที่ https://cyberintelligencehouse.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210426005725/en/

ติดต่อ:

Mikko S Niemelä, ซีอีโอ
+65 8869 0998
mikko@cyberintelligencehouse.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

หน่วยที่ปรึกษาของ Munich Re เพิ่มขีดความสามารถด้านราคาด้วย Akur8 ในความร่วมมือระดับโลก

Logo

ปารีส–(บิสิเนสไวร์)–20 เม.ย. 2564

Akur8 มีความยินดีที่จะประกาศข้อตกลงความร่วมมือระดับโลกกับ Munich Re เพื่อเพิ่มความสามารถในการกำหนดราคาของ Munich Re เรื่องสำหรับหน่วยที่ปรึกษาระดับโลกด้วยข้อตกลงนี้ Munich Re จะสามารถเข้าถึงโซลูชันการสร้างแบบจำลองที่ล้ำสมัยและ Akur8 จะเสริมสร้างตัวตนโดยการได้ร่วมมือกับหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัย การประกันภัยต่อ และผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยชั้นนำของโลก  ความร่วมมือแบบไม่ผูกขาดนี้มีผลทั่วโลกโดยมีผู้ใช้ในหลายพื้นที่ของ Munich Re.  ลูกค้าของ Munich Re ทั้งหมดจะได้รับประโยชน์จากแนวทางร่วมกันและใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ของ Akur8 พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มกระบวนการกำหนดราคาของบริษัทประกันโดยการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงและความต้องการโดยอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และปัญญาประดิษฐ์ที่โปร่งใส  ประโยชน์หลักสำหรับบริษัทประกันได้แก่ การลดเวลาในการสร้างแบบจำลองซึ่งจะช่วยเร่งเวลาในการทำตลาด เพิ่มพลังในการคาดการณ์ และก็รักษาความโปร่งใสและการควบคุมแบบจำลองที่สร้างขึ้นอย่างเต็มที่

หน่วยงานที่ปรึกษาระดับโลกของ Munich Re กำลังผลักดันการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดราคาประกันผ่านการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งมาพร้อมกับการถ่ายโอนความเสี่ยง  การดำเนินงานทั่วโลกโดยเฉพาะของผู้เชี่ยวชาญด้านการกำหนดราคาประกันภัยหลายรายได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การกำหนดราคา โดยลูกค้าทั้งหมดของ Munich Re สามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านความสัมพันธ์ด้านการประกันภัยต่อ  Akur8 จะเพิ่มขีดความสามารถในการกำหนดราคา นำมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และความซับซ้อนในการกำหนดราคาให้กับลูกค้าด้วยเครื่องมือกำหนดราคาที่ใช้ประโยชน์จาก AI อย่างโปร่งใส  ทีม Munich Re จะใช้ Akur8 สำหรับข้อเสนอราคาประกันแบบ end-to-end

Akur8 รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับความร่วมมือครั้งนี้กับ Munich Re ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลกในด้านการให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการประกันภัยต่อและการประกันภัยหลัก  ความร่วมมือนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องและความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ของ Akur8 สำหรับผู้เล่นหลายประเภท ตั้งแต่ผู้ให้บริการประกันภัยหลัก ผู้รับประกันภัยต่อ ไปจนถึงผู้ให้บริการโซลูชันไปจนถึงบริษัทที่ปรึกษา” Samuel Falmagne ซีอีโอของ Akur8 กล่าว

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับ Munich Re แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาของเราซึ่งครอบคลุมไปทั่วโลก  ความเชี่ยวชาญและจุดแข็งที่รวมกันของเราจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทของเราสามารถนำมาซึ่งมูลค่าเพิ่มที่สำคัญได้” Brune de Linares หัวหน้าฝ่ายขายของ Akur8 กล่าว

Akur8 เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจสำหรับการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงและความต้องการซึ่งแสดงถึงการก้าวกระโดดอย่างแท้จริงในแง่ของความซับซ้อนด้านราคาในอุตสาหกรรมประกันภัย  เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของ Akur8 จะช่วยให้เราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าในโครงการให้คำปรึกษาต่างๆ ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการให้คำปรึกษาขนาดใหญ่ของเรา โดยทำงานร่วมกันในพื้นที่ทำงานของลูกค้าโดยเฉพาะการปรับปรุงการคาดการณ์ของแบบจำลองเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงอัตราส่วนการสูญเสียที่สำคัญในที่สุด” Joachim Mathe หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาระดับโลก ที่ Munich Re

“จุดแข็งของ Akur8 คือการเปลี่ยนไปใช้พลังงานในการทำนายทำให้เกิดสิ่งที่เราเรียกว่า “คลื่นลูกที่สาม” ของการกำหนดราคาประกัน โดยสามารถควบคุมกระบวนการนี้อย่างเต็มที่ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ใช้เวลากับการทำความเข้าใจปัญหาและนำไปใช้  วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมไม่ใช่ในงานการสร้างแบบจำลองซ้ำๆ ที่น่าเบื่อหน่าย ความเป็นมืออาชีพ ข้อมูล และการดำเนินงานของทีม Akur8 ตลอดกระบวนการล้วนเป็นตัวกำหนดปัจจัยในการเลือกของเราซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกระบวนการคัดเลือกในเชิงลึกซึ่งมีการตรวจสอบคุณค่าและจุดแข็งของผู้เล่นแต่ละรายอย่างละเอียด” Massimo Cavadini หัวหน้านักสถิติการให้คำปรึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มิวนิคกล่าวว่า

เกี่ยวกับ Munich Re

Munich Re เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการประกันภัยต่อ ประกันภัยหลัก และผลิตภัณฑ์ความเสี่ยงชั้นนำของโลก  กลุ่มบริษัทประกอบด้วยส่วนธุรกิจประกันภัยต่อและ ERGO รวมถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์ MEAG.  Munich Re มีการดำเนินงานทั่วโลกและดำเนินธุรกิจประกันภัยในทุกสายงาน  นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2423 Munich Re เป็นที่รู้จักในด้านความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและฐานะทางการเงินที่ดี  บริษัทให้ความคุ้มครองทางการเงินแก่ลูกค้าเมื่อต้องเผชิญกับความเสียหายในระดับพิเศษ ตั้งแต่แผ่นดินไหวในซานฟรานซิสโกปี 1906 จนถึงฤดูไต้ฝุ่นแปซิฟิกปี 2019.  Munich Re มีความแข็งแกร่งทางนวัตกรรมที่โดดเด่นซึ่งช่วยให้สามารถครอบคลุมความเสี่ยงพิเศษเช่นการยิงจรวด พลังงานหมุนเวียน หรือการโจมตีทางไซเบอร์  บริษัทกำลังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมประกันภัยและในการดำเนินการดังกล่าวได้ขยายขีดความสามารถในการประเมินความเสี่ยงและบริการต่างๆ ที่นำเสนอ  ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบตามความต้องการและความใกล้ชิดกับลูกค้าทำให้ Munich Re เป็นหนึ่งในพันธมิตรด้านความเสี่ยงที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจสถาบันและบุคคลทั่วไป

เกี่ยวกับ Akur8

Akur8 กำลังปฏิวัติการกำหนดราคาประกันด้วย AI ที่โปร่งใส  Akur8 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การกำหนดราคาประกันโดยใช้ AI ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งทำให้การสร้างแบบจำลองสำหรับบริษัทประกันภัยโดยอัตโนมัติ โดยรักษาความโปร่งใสและการควบคุมแบบจำลองที่สร้างขึ้นตามที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำหนด  Akur8 เป็นผลิตภัณฑ์เดียวในตลาดที่ปรับใช้กับ Machine Learning และ Actuarial world ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับราคาตามมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าได้

1 https://www.munichre.com/th/solutions/reinsurance-property-casualty/global-consulting.html

ติดต่อ:

สำหรับ Munich Re

Dr. Massimo Cavadini (mcavadini@munichre.com , Global Head of Actuarial Consulting & Data Analytics)

ดร. Davide Burlon (dburlon@munichre.com , Global Akur8 Product Owner)

สำหรับ Akur8

Felix d'Alançon (felix.dalancon@akur8-tech.com , Global Partnerships)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผสมผสานระดับสากลและภูมิภาคมากที่สุดในอาเซียนที่แพร่หลายไปยังประเทศสมาชิกทั้งหมดกล่าวโดยศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–20 เมษายน 2564

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E) มีลักษณะแยกส่วนในระดับสากล แต่มีเครือข่ายการผลิตที่ผสมผสานกันอย่างดีพร้อมด้วยแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าที่โมดูลาร์สูงและกว้างขวางทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศในอาเซียนเข้าร่วมแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าใน E&E ได้อย่างง่ายดายตามการศึกษาของศูนย์อาเซียน – ญี่ปุ่น โดยตั้งชื่อว่า Global Value Chains in ASEAN: Electronics ซึ่งออกในเดือนมีนาคม 2564 เป็นรายงานฉบับที่ 14 ของ ASEAN Global Value Chain (GVCs) ฉบับที่ 14 โดย AJC

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210419006002/en/

Report “Global Value Chains in ASEAN: Electronics” is available for download on AJC website (Graphic: Business Wire)

รายงาน “Global Value Chains in ASEAN: Electronics” สามารถดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ AJC (กราฟิก: Business Wire)

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เป็นศูนย์กลางสำคัญของ E&Eproduction ซึ่งมีส่วนสนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในภูมิภาคประมาณ 268 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการจ้างคนงานมากกว่า 2.4 ล้านคน และคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกทั้งหมดของอาเซียนที่ใหญ่ที่สุด (ร้อยละ 27)

โดยรวมแล้วอุตสาหกรรม E&E ในอาเซียนพึ่งพาปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยีจากต่างประเทศมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ โดย 53% ของการส่งออก E&E มาจากมูลค่าเพิ่มจากต่างประเทศ (FVA) หรือปัจจัยการผลิตจากต่างประเทศที่รวมเข้ากับการส่งออก E&E ของอาเซียน อย่างไรก็ตามมูลค่าเพิ่มในการส่งออกแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะตำแหน่งของแต่ละประเทศในแนวคิดห่วงโซ่คุณค่า E&E

การค้าระหว่างภูมิภาคระหว่างประเทศในอาเซียนเป็นผู้ส่งออก E&E รายใหญ่ที่สุดของอาเซียนในแง่ของ FVA ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสี่ของ FVA ทั้งหมด (43.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2560 และในขณะที่รวม FVA เข้าที่สร้างโดยจีนและญี่ปุ่นถือเป็นมากกว่าหนึ่งในสามของ FVA ทั้งหมด

ในช่วงปี 2533-2560 การมีส่วนร่วมของ GVC ของอาเซียนในอุปกรณ์ E&E ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 74 เป็นร้อยละ 70 ในขณะที่การมีส่วนร่วมแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาค (RVC) เพิ่มขึ้นสองเท่าจากร้อยละ 9 เป็นร้อยละ 18 แนวโน้มที่ขัดแย้งกันนี้อธิบายได้จากกำลังการผลิตระดับภูมิภาคที่สูงขึ้นและเครือข่ายการผลิตระดับภูมิภาคที่มีชื่อเสียง

ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่แตกต่างกัน อาเซียนจึงกลายเป็นศูนย์กลางที่น่าสนใจและสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม E&E โดยภูมิภาคนี้เป็นเจ้าของงานการผลิต E&E ที่หลากหลายตามแนวคิดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่กิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานมากและเรียบง่าย เช่น การประกอบและการทดสอบไปจนถึงงานที่ต้องใช้เงินทุนมาก เช่น การออกแบบส่วนประกอบและการวิจัยและพัฒนา

หากต้องการรับชมและดาวน์โหลดรายงานโปรดไปที่เว็บไซต์ AJC ด้านล่าง
https://www.asean.or.jp/en/centre-wide-info/gvc_database_paper13/

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210419006002/en/

ติดต่อ:

ASEAN-Japan Centre (AJC) PR Unit
Tomoko Miyauchi (MS)
URL: https://www.asean.or.jp/en/
TEL: +81-3-5402-8118
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp

iCloudModel มุ่งปฏิวัติการถ่ายภาพสำหรับวงการอีคอมเมิร์ซแฟชั่น

Logo

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนสไวร์)–16 เม.ย. 2564

iCloudModel เป็นโมเดลการจัดการแรกของโลกที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างโซลูชันสำเร็จรูปสำหรับนักออกแบบแฟชั่นและแบรนด์จีนเพื่อสร้างภาพที่สมจริงและมีคุณภาพสูงสำหรับอีคอมเมิร์ซแฟชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210416005142/en/

จีนมีผู้ใช้มือถือมากที่สุดและมีกิจกรรมอีคอมเมิร์ซมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก  ตาม Digital Market Outlook กลุ่มแฟชั่นเครื่องแต่งกายอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะทำรายได้ 169 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 เป็น 256 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567

ความร่วมมือของ iCloudModel (ICM) และ Mad Street Den (MSD) เกิดขึ้นเมื่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกือบทั้งหมด  การแพร่ระบาดทำให้เกิดการหยุดชะงักในการเคลื่อนย้ายนางแบบระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น  ด้วยเทคโนโลยีนี้เราถ่ายทำนางแบบต่างประเทศในสถานที่ของพวกเขาโดยไม่ต้องนำนางแบบเข้ามาในประเทศจีน  ลูกค้าถ่ายภาพเสื้อผ้าของตนเองบนหุ่นแบบได้ตลอดเวลา   การถ่ายภาพสามารถทำได้เร็วถึง 24 ชั่วโมงและเสียค่าใช้จ่าย 25% ของการถ่ายทำแบบดั้งเดิม” David Lim ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ICM กล่าว

“เทคโนโลยี Generative Adversarial Networks นี้สามารถเข้าใจลักษณะสื้อผ้า แสดงภาพบนแบบจำลอง โดยสามารถแสดงแบบจำลองดิจิทัลเสมือนจริงที่สร้างจาก AI  โมเดลแต่ละแบบในไลบรารีเป็นแบบจำลองที่พอดีจริง โดยแปลงเป็นดิจิทัลสำหรับโลกเสมือนจริง รวมถึงมีการวัดรูปร่างและท่าทาง  การใช้ปัญญาประดิษฐ์เทคโนโลยีนี้จะปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับภาพของนางแบบโดยคำนึงถึงรูปร่างที่เป็นธรรมชาติการบิดและการหมุนของตำแหน่งของร่างกาย” Dr. Costa Colbert หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์กล่าว

“แฟชั่นที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีเป็นเทรนด์มาช่วงหนึ่งแล้ว  ปัญญาประดิษฐ์และแบบจำลองเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยม  ผมมั่นใจว่าโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะปฏิวัติธุรกิจการจัดการโมเดลสำหรับการผลิตอีคอมเมิร์ซแฟชั่น” Dejan Markovic ประธาน Elite North America กล่าว

เกี่ยวกับ iCloudModel ICM

การถือกำเนิดของ ICM เกิดขึ้นจากการวิจัยตลาดอย่างรอบคอบ รวมกับประสบการณ์ 20 ปีในธุรกิจโมเดลและความปรารถนาที่จะนำสิ่งที่เป็นนวัตกรรมและเปลี่ยนแปลงในการผลิตแฟชั่นอีคอมเมิร์ซ

ICM นำโดยผู้มีวิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์และผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมรุ่นใหม่  ICM ใช้โมเดลที่แข็งแกร่งทั่วโลกในการพัฒนาทั้งไฮแฟชั่นและโมเดลเชิงพาณิชย์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าในประเทศจีน โดยมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ และการอุทิศตนเพื่อแฟชั่นในปัจจุบันและอนาคต

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210416005142/en/

สื่อ
Li Yinglan ying@icloudmodel.com 
+86 138 161 20632
www.icloudmodel.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Row Hillstone Networks ได้รับการยกย่องจาก Gartner ให้เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเลือกในสาขาไฟร์วอลล์เน็ตเวิร์ค (Network Firewalls) ปี 2564 เป็นปีที่สองติดต่อกัน

Logo

อ้างอิงจากคำติชมและการให้คะแนนจากผู้เชี่ยวชาญผู้ใช้ปลายทางที่มีประสบการณ์ในการซื้อ การใช้งาน และ/หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ

ซานตา คลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–15 เม.ย. 2564

Hillstone Networks ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและการจัดการความเสี่ยงขององค์กรรู้สึกตื่นเต้นที่จะแบ่งปันข่าวดีจากการถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าเลือก  หรือ Customers’ Choice ณ เดือนเมษายน ปี 2564 ใน 2021 Gartner Peer Insights ‘Voice of the Customer’: Network Firewalls ในสาขาไฟร์วอลล์เครือข่ายโดยรวม โดยได้คะแนน 4.8 จาก 5 ดาว Gartner กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในตลาดนี้ต้องสามารถรองรับการใช้งานไฟร์วอลล์แบบองค์กรเดียว ตลอดจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และ/หรือ ที่ซับซ้อนมากขึ้น”

“ความปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาหลักขององค์กร งานของเราคือการรับฟังลูกค้าและสร้างผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการ” Tim Liu, ซีทีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าว “ภารกิจของเราตั้งแต่วันแรกคือการให้บริการลูกค้าของเราและนำเสนอแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่ชาญฉลาดที่สุด คล่องตัวที่สุด และแข็งแกร่งที่สุดในราคาที่ประหยัด การได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานและลูกค้าของเราในรายงาน Gartner Peer Insights ด้วยคะแนนสูงถึง 4.8 / 5 ในอุตสาหกรรมเป็นปีที่สองติดต่อกัน จึงถือเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับเรา เราในฐานะบริษัท จะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและเพื่อต่อกรกับภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ การโจมตีองค์กรก็พัฒนาตามไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ในการละเมิดตามมา ภายในปีที่ผ่านมาองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการทำงานจากระยะไกลและความจำเป็นในการมีอุปกรณ์จำนวนมากที่เข้าถึงทรัพยากร ความคล่องตัวที่ครอบคลุมทั่วถึงของ Hillstone Networks และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเหมือนในการช่วยให้บริษัทต่าง ๆ อยู่เหนือเทรนด์ พร้อม ๆ ไปกับการพัฒนาต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญสำหรับปี 2564 ทั้งนี้ Hillstone Networks ให้บริการโซลูชั่นที่ราคาไม่แพงแก่ลูกค้าทั่วโลก 20,000 ราย สามารถป้องกันการโจมตีภายในเครือข่าย การตรวจจับติดตาม และบรรเทาการคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจกำลังเกิดขึ้นอยู่

Gartner, Peer Insights ” Voice of the Customer หรือ เสียงของลูกค้า” : ไฟร์วอลล์เครือข่าย, Peers, 9 เมษายน 2564

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:

Gartner Peer Insights Customers 'Choice เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของบทวิจารณ์การให้คะแนนและข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางแต่ละคนโดยใช้วิธีการการจัดทำเป็นเอกสาร เอกสารนี้ไม่ได้แสดงถึงมุมมองของ Gartner หรือเป็นการรับรองใด ๆ โดย Gartner หรือบริษัทในเครือ แต่อย่างใด

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันด้านความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยงของ Hillstone Networks ช่วยให้องค์กรและผู้ให้บริการสามารถมองเห็นข้อมูลอัจฉริยะและการป้องกันเพื่อดูเข้าใจและดำเนินการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์หลายขั้นตอน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ www.hillstonenet.com .

ติดต่อ:

Zeyao Hu

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด

inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

RubrYc Therapeutics ประกาศความร่วมมือด้านการวิจัยและข้อตกลงตัวเลือกใบอนุญาตกับ Zai Labs

Logo

ซาน คาร์ลอส, แคลิฟอร์เนีย.–(BUSINESS WIRE)–14 เม.ย. 2564

RubrYc Therapeutics, Inc. ซึ่งเป็น บริษัทด้านชีวบำบัดพรีคลินิกที่พัฒนาวิธีการรักษาแบบ epitope selective ได้ประกาศในวันนี้ว่า ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและข้อตกลงเรื่องใบอนุญาตกับ Zai Labs, Inc. สำหรับการใช้แพลตฟอร์ม Meso-scale Engineered Molecules (MEMs) เพื่อระบุแอนติบอดีโมโนโคลนอลที่มีฟังก์ชันทางชีวภาพที่ได้รับการพัฒนาแล้วสำหรับเป้าหมายด้านเนื้องอกวิทยาที่ไม่เปิดเผย

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง RubrYc และ Zai Labs จะร่วมมือกันเพื่อระบุหาผู้ที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์โดยใช้ RubrYc’s Discovery Engine ซึ่งใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของเครื่องมือและข้อมูลโครงสร้างเพื่อระบุแอนติบอดีที่เชื่อมโยงกับ subdominant epitopes และที่แสดงกิจกรรมที่แตกต่างออกไป ทั้งนี้เมื่อได้ใช้ใบอนุญาตแล้ว Zai Labs จะมีสิทธิ์ทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนาและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของการร่วมมือด้านการวิจัยนี้

RubrYc Therapeutics, Inc. จะได้รับการชำระเงินล่วงหน้าและมีสิทธิ์ได้รับการบอกกล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในการวิจัยการพัฒนาและการค้าในอนาคตสำหรับผู้สมัครแต่ละราย พร้อมกับค่าลิขสิทธิ์จากยอดขายสุทธิทั่วโลกของแต่ละผลิตภัณฑ์  ทั้งนี้จะไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขทางการเงินของข้อตกลง

ดร. Isaac Bright ซีอีโอกล่าวว่า“ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ Zai Labs ได้เลือก RubrYc Discovery Engine ให้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการระบุการบำบัดทางชีวภาพกับเป้าหมายด้านเนื้องอกวิทยาที่ท้าทาย เราหวังว่าจะร่วมมือกับ Zai Labs เพื่อเร่งการวิจัยของพวกเขาโดยการระบุแอนติบอดีแบบเอพิโทพีจำเพาะ (epitope-specific antibodies) ด้วยการใช้โหมดที่แตกต่างกัน ความเชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาของ Zai Labs ช่วยเติมเต็มความสนใจของเราในการนำเสนอการบำบัดแบบใหม่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา ให้แก่ผู้ป่วยที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ”

เกี่ยวกับ RubrYc Therapeutics, Inc.

RubrYc Therapeutics, Inc. เป็น บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้โซลูชันการเรียนรู้ด้วยเครื่องและการคำนวณทางชีววิทยาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเอง เพื่อค้นหาแอนติบอดีแบบ epitope-selective mono and bispecific  โดยมีแรงบันดาลใจจากความก้าวหน้าล่าสุดในการสังเคราะห์ไลบรารีโมเลกุลการคัดกรองและการคำนวณแบบขนานอย่างหนาแน่น RubrYc Therapeutics, Inc. ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี MEMs Discovery Engine เพื่อระบุแอนติบอดีจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วด้วยคุณสมบัติการจับที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกับเป้าหมายที่ยากและที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว อนึ่ง RubrYc แยกตัวออกจาก HealthTell, Inc. ในปี 2561 เพื่อพัฒนาการค้นพบทางชีวบำบัดและร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทยาชั้นนำที่แบ่งปันภารกิจของเราในการขยายทางเลือกในการรักษาและปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง อนึ่ง RubrYc ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึง Third Point Ventures, Paladin Capital Group, Vital Venture Capital และ Hayan Health Networks บริษัทตั้งอยู่ในซานคาร์ลอส แคลิฟอร์เนีย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.rubryc.com.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210413006012/en/

ติดต่อ:

Isaac J. Bright, MD

ซีอีโอ

RubrYc Therapeutics, Inc.

info@rubryc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LintonPharm ประกาศว่าได้รับอนุญาตจาก China Health Authority (NMPA) เพื่อดำเนินการทดลองระยะที่ 1/2 เพื่อประเมิน Catumaxomab สำหรับการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะแบบไม่รุกล้ำกล้ามเนื้อ

Logo

กวางโจว จีน–(บิสิเนสไวร์)–13 เม.ย. 2564

LintonPharm Co. , Ltd. บริษัทยาชีววัตถุทางคลินิกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนที่มุ่งเน้นการพัฒนา T cell ของแอนติบอดีชนิด bispecific สำหรับภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งได้ประกาศว่าหน่วยงานด้านสุขภาพของจีน National Medical Products Administration (NMPA) อนุญาตให้ทางบริษัทดำเนินการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1/2 (clinicaltrials.gov: NCT04799847) เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ catumaxomab ในผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะชนิดแบบไม่รุกล้ำกล้ามเนื้อ (NMIBC) ซึ่งเกิดเนื้องอกเนื่องจากวัคซีน Bacillus Calmette-Guerin (BCG) ล้มเหลว  นับว่าเป็นโปรแกรมทางคลินิกที่สองของ LintonPharm ที่ประเมิน catumaxomab  ในเดือนกรกฎาคม 2563 บริษัทได้ประกาศว่าได้รับอนุญาตในการทำการทดลองระยะที่ 3 ในมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลามซึ่งคัดกรองผู้ป่วยรายแรกในเดือนตุลาคม 2563

เมื่อเร็วๆ นี้ Lindis Biotech ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ LintonPharm ได้เริ่มการทดลองระยะที่ 1 กับ catumaxomab ในผู้ป่วย NMIBC ในเยอรมนี (clinicaltrials.gov: NCT04819399) และรายงานข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมซึ่งสนับสนุนการดำเนินการทดลองระยะที่ 1/2 ในประเทศจีน

“การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับเพื่อดำเนินการไปข้างหน้าด้วยโปรแกรมทางคลินิกของเราที่ประเมิน catumaxomab ในมะเร็งกระเพาะปัสสาวะถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ LintonPharm และสนับสนุนเป้าหมายของเราในการสำรวจศักยภาพของการบำบัดโรคมะเร็งต่างๆ” Robert Li, Ph.D. , DABT ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ LintonPharm  “ผู้ป่วยที่มีความล้มเหลวของ NMIBC BCG มีอัตราการมีเนื้องอกซ้ำของในอัตราสูงและมักต้องเผชิญกับการผ่าตัดตลอดชีวิตซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ  จึงจำเป็นต้องมีทางเลือกใหม่ในการรักษาและเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการศึกษานี้ทำให้เราเข้าใกล้การช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้มากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง”

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับ 10 ทั่วโลก ในปี 2563 ได้มีการวินิจฉัยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะใน 573,278 ผู้ป่วยทั่วโลกและประมาณ 1.8 ล้านคนได้อยู่กับโรคมะเร็งนี้เป็นเวลาถึงห้าปี [1]  NMIBC เป็นมะเร็งที่พบในเนื้อเยื่อด้านในของกระเพาะปัสสาวะและนับเป็นประมาณร้อยละ 75 ของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะทั้งหมด[2]  การผ่าตัดเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ (TURBT) เป็นมาตรฐานปัจจุบันของการรักษา NMIBC  การกำเริบของโรคเกิดขึ้นบ่อยครั้งหลังจาก TURBT (ได้ถึงร้อยละ 70 ในห้าปี) และเป็นผลให้ผู้ป่วยมักจะได้รับการผ่าตัดหลายครั้ง[2]  BCG มักถูกใช้เป็นการรักษาเสริมหลัง TURBT อย่างไรก็ตามผู้ป่วยจำนวนมากมีการกำเริบของเนื้องอกซึ่งจะเรียกว่าเป็นความล้มเหลวของ BCG [3]  โดยปกติจะมีการใช้ Radical cystectomy (RC) หลังจากความล้มเหลวของ BCG แต่แพทย์และผู้ป่วยจำนวนมากละเว้นจาก RC เพื่อรักษาการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ

เกี่ยวกับ Catumaxomab

Catumaxomab ได้รับการอนมัติจาก European Medicines Agency ในปี 2552 สำหรับการรักษาโรคท้องบวม  โรคแอนติบอดีชนิด bispecific นี้จับกับไกลโคโปรตีนชนิดทรานส์เมมเบรนบนเซลล์เนื้องอก ซึ่งเป็นโมเลกุลยึดเกาะของเซลล์เยื่อบุผิว (EpCAM) – และ CD3 บนเซลล์ T และยังคัดเลือกเซลล์เสริมภูมิคุ้มกันผ่านการจับ FcγR. Catumaxomab ทำลายเซลล์เนื้องอกโดยกระตุ้น T cell และเซลล์เสริมที่เป็นสื่อกลางในการเกิด cytotoxicity และมีศักยภาพในการก่อให้เกิดผลของวัคซีนในระยะยาวซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้วในสัตว์ทดลอง

เมื่อเร็วๆ นี้ catumaxomab ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศจีน ไต้หวัน และ เกาหลีใต้ให้ทำการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ระดับโลกสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลาม

เกี่ยวกับ LintonPharm

LintonPharm Co. , Ltd. เป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัยทางคลินิกซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรม T cell ที่มีส่วนร่วมของแอนติบอดี bispecific โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนมะเร็งร้ายให้เป็นโรคที่สามารถจัดการได้และอาจรักษาให้หายได้  LintonPharm โดยร่วมกับ Lindis Biotech กำลังพัฒนา catumaxomab เพื่อใช้ในโรคมะเร็งในวงกว้างทั่วโลก  นอกจากนี้ LintonPharm กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มแอนติบอดี bispecific รุ่นต่อไปเพื่อให้เกิดการผลิตและการออกแบบยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับแต่งการออกแบบของแต่ละโมเลกุล  โครงการในปัจจุบันได้แก่การพัฒนาแนวทางการรักษามะเร็งเม็ดเลือดและเนื้องอกที่เป็นของแข็ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.lintonpharm.com/

[1]. World Health Organization (WHO). Globocan 2020. Global Cancer Observatory. Accessed January 7, 2021. https://gco.iarc.fr/

[2]. Kamat AM, Hahn NM, Efstathiou JA, et al. (2016) Bladder cancer. Lancet 2016. 388: 2796-810. http://dx.doi.org/10.1016/S0140-6736(16)30512-8

[3]. Kikuchi E, Hayakawa N, Futumoto K, Shigeta K, Matsumoto K. (2020) Bacillus Calmette–Guerin-unresponsive non-muscle-invasive bladder cancer: Its definition and future therapeutic strategies. International Journal of Urology. 27, 108-116. doi:10.1111/iju.14153

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210413005114/en/

สื่อ:
สื่อจากสหรัฐอเมริกา
Tara Cooper
The Grace Communication Group
tara@gracegroup.us

สื่อใน APAC:
Mia He
LintonPharm
jingyi.he@lintonpharm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย