Category Archives: Technology

นักวิจัย NTHU พัฒนาเครื่องตรวจละลายลิ่มเลือดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(บิสิเนส ไวร์)–24 ก.ย. 2564

เนื่องจากการฉีดวัคซีน COVID-19 ทำให้เกิดปัญหาลิ่มเลือดอุดตัน ดร. Chih-Kuang Yeh ศาสตราจารย์พิเศษประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้นำทีมวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องตรวจละลายลิ่มเลือดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเครื่องแรกของโลก และยังสามารถรักษาลิ่มเลือดอุดตันอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ในปี 2564 นอกจากนี้ สิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปยังได้รับอนุมัติ โดยระหว่างนี้ก็ได้มีการยื่นคำขอเพิ่มเติมกับที่อื่น ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005015/en/

(Photo: National Tsing Hua University)

(ภาพ: National Tsing Hua University)

อุปกรณ์นี้ได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันทั่วไป 2 อย่างที่เรียกว่า pulmonary embolism หรือ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด(PE) และ deep vein thrombosis หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลก 10 ล้านรายต่อปี DVT เป็นสาเหตุหลักของ PE และ PE อาจทำให้หัวใจล้มเหลวและมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 65 ศาสตราจารย์ Yeh อธิบายว่าทางเลือกในการรักษาในปัจจุบันรวมไปถึงสายสวนสำหรับนำส่งยาและอุปกรณ์ตัดลิ่มเลือด แต่วิธีเหล่านี้ไม่ได้ผลเพียงพอหรืออาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตกเลือดได้ นี่เป็นเหตุผลที่กระตุ้นให้เขาค้นคว้าเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ทีมงานของ Yeh ซึ่งทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม ได้พัฒนาอุปกรณ์อัลตราโซนิกขนาด 0.2 มม. ซึ่งสามารถสร้างกระแสน้ำวนแบบอัลตราโซนิกคล้ายพายุทอร์นาโด และสร้างกระแสน้ำวนรอบก้อนเลือดที่รุนแรง จึงเป็นการเพิ่มการเจาะของยาละลายลิ่มเลือด และส่งผลให้มีการสลายลิ่มเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ทำให้ลิ่มเลือดลดขนาดลงเหลือเพียง 0.001 ซม.

“ผมเคยเห็นลิ่มเลือดที่ยาวกว่า 40 ซม. การใช้เพียงยาเพื่อละลาย ก็ช้าเกินไป” Yeh อธิบาย “มันเหมือนกับการซักเสื้อผ้า การแช่ผ้าในผงซักฟอกอย่างเดียวไม่พอ การกวนด้วยเครื่องซักผ้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำความสะอาดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว”

Yeh กล่าวว่าการศึกษาในสัตว์ทดลองได้แสดงผลการหดตัวของลิ่มเลือดอุดตันร้อยละ 60 ในสมองของหนูหลังจากใช้ กระแสน้ำวนอัลตราโซนิกเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการรักษาที่รวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น คุณสมบัติป้อนกลับของอัลตราซาวนด์ยังสามารถใช้สำหรับการติดตามการรักษาแบบเรียลไทม์

Yeh เสริมว่าทีมของเขากำลังทำงานเกี่ยวกับการใช้กระแสน้ำวนอัลตราโซนิกสำหรับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ไม่ลุกลามซึ่งมีศักยภาพในการรักษาเส้นเลือดอุดตันในสมอง นอกจากนี้ เมื่อใช้รวมกับ microbubbles เพื่อควบคุมการปลดปล่อยยาก็ทำให้สามารถใช้รักษาความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสันและโรคลมชักได้

เมื่อใคร่ครวญถึงวิธีที่เขาสนใจกระแสน้ำวนแบบอัลตราโซนิกเป็นครั้งแรก Yeh นึกย้อนถึงการเดินทางกับครอบครัวที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเลเมื่อสิบปีก่อน เขายืนอยู่ข้างนิทรรศการ waterspout ตอนที่เขาเกิดความคิดที่ว่าคลื่นอัลตราโซนิกสามารถทำสิ่งที่คล้ายกันและอาจเป็นประโยชน์สำหรับการใช้งานทางการแพทย์บางอย่างได้

ทีมของ Yeh มีชื่อว่า VorteSonic ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกระแสน้ำวนและคลื่นเสียง สมาชิกในทีมหลัก ได้แก่ นักศึกษาปริญญาเอก  Wei-Chen Lo และ Zong-Han Hsieh ผู้รับผิดชอบเครื่องแปลงสัญญาณอัลตราโซนิกและระบบการขับเคลื่อน และ ดร.Chun-Yen Lai ที่จะนำทีมต่อหลังจากกลายมาเป็นสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัย Dr. Lai มีประสบการณ์ทั้งในด้านวิชาการและอุตสาหกรรม และเคยไปเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์เชิงนวัตกรรมที่ Stanford University ในสหรัฐอเมริกาด้วย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005015/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

NTHU

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รัฐบาลเกาหลีสนับสนุน SMEs ด้าน ICT อย่างแข็งขันสำหรับการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อเอาชนะสถานการณ์ COVID-19

Logo

– งานส่งออกบนแพลตฟอร์มธุรกิจ ICT ออนไลน์ระดับโลกถูกจัดขึ้น เพื่อพัฒนาเส้นทางการตลาด

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–23 ก.ย. 2564

กระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลี (MSIT, รัฐมนตรี: Hyesook Lim) และสมาคมส่งเสริม ICT แห่งเกาหลี (KAIT, ประธาน: Jung Ho Park) ได้จัดงาน World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลี (SMEs) ในอุตสาหกรรม ICT ที่ประสบปัญหาในการพัฒนาเส้นทางการตลาดเนื่องจากการยืดเยื้อของ COVID-19

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005372/en/

The Ministry of Science and ICT of Korea and the Korea Association for ICT Promotion held the World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting to support overseas market entry of Korean small and medium enterprises in the ICT industry experiencing difficulties in marketing route development due to the prolongation of COVID-19. The meeting was held online and offline concurrently using the WOW platform and at the venue in COEX. Over 80 Korean ICT SMEs and 62 buyers from 29 countries attended the business meeting held on September 15 and 16. Through the meeting, not only was export consulting to a scale of USD 57 million carried out, but also some companies concluded MOUs. Targeting businesses that are highly likely to win orders, the second export fair is planned. (Photo: Business Wire)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีและสมาคมส่งเสริมไอซีทีของเกาหลีได้จัดงาน World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลีในอุตสาหกรรมไอซีทีที่ประสบปัญหาในการพัฒนาเส้นทางการตลาดเนื่องจาก การยืดเยื้อของ COVID-19 ทั้งนี้ การประชุมจัดขึ้นทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์โดยใช้แพลตฟอร์ม WOW และที่สถานที่จัดงานใน COEX โดย SME ด้าน ICT ของเกาหลีกว่า 80 รายและผู้ซื้อ 62 รายจาก 29 ประเทศเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 และ 16 กันยายน ผ่านการประชุมนี้ ไม่เพียงแต่จะมีการให้คำปรึกษาด้านการส่งออกในระดับ 57 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทบางแห่งที่ลงนามบันทึกความเข้าใจด้วย  อนึ่ง กำลังมีการวางแผนงานส่งออกครั้งที่สอง โดยมีเป้าหมายไปที่ธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เกิดคำสั่งซื้อ  (ภาพ: Business Wire)

SME ด้าน ICT ของเกาหลีกว่า 80 รายและผู้ซื้อ 62 รายจาก 29 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา บราซิล เบลเยียม จีน และเวียดนาม ได้เข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่จัดขึ้นในวันที่ 15 และ 16 กันยายนโดยใช้แพลตฟอร์ม WOW โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อช่วยให้ธุรกิจ ICT ในประเทศเข้าสู่ตลาดต่างประเทศและขยายการส่งออกในช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากการระบาดของ COVID-19

การประชุมจัดขึ้นทางออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกันที่สถานที่จัดงานใน COEX สำหรับบริษัทที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ ก็จัดให้มีบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ในรูปแบบของการประชุมทางวิดีโอแบบสามทางกับผู้ซื้อและล่าม

เพื่อให้ประสบความสำเร็จในสัญญาการส่งออกของบริษัทที่เข้าร่วม ได้มีการสำรวจความต้องการล่วงหน้าสำหรับการจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อ นอกจากนี้ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของรูปแบบไร้สัมผัสของงานนี้ สมุดรายชื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เข้าร่วมจึงถูกผลิตและแจกจ่ายให้กับผู้ซื้อเพื่อให้ข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับบริษัท นอกจากนี้ SMEs ที่เข้าร่วมยังได้รับโอกาสในการได้รับบริการด้านการค้าและที่ปรึกษาด้าน IR อย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน

ในงานดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะมีการให้คำปรึกษาบริษัทด้านการส่งออกในระดับ 57 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทบางแห่งที่ลงนามบันทึกความเข้าใจด้วย ตัวอย่างเช่น More Dream Inc. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ กับ MAIZA Tech ของมาเลเซียเพื่อส่งออกเทคโนโลยีแป้นพิมพ์หลายภาษาสำหรับสมาร์ทโฟน ส่วนบริษัทอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง Hurien และ HelloFactory ยังอยู่ในกระบวนการอภิปรายเชิงบวกเพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจกับผู้ซื้อในต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ของ KAIT กล่าวว่า “เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ บรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญผ่านการติดตามและติดตามผลการจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าส่งออกครั้งที่สองในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้ได้รับคำสั่งซื้อ”

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005372/en/

ติดต่อ:

สมาคมส่งเสริมไอซีทีเกาหลี

Jungeun Park

+82-2-580-0545

ECOMICE

Hyuni Lee

+82-2-6000-4277

hilee@ecomice.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gupshup เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์ม RCS ชั้นนำ Dotgo

Logo

การเข้าซื้อกิจการผลักดันให้ Gupshup ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลกใน RCS (Rich Communications Services)  เสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มการส่งข้อความสนทนาบน IP

Dotgo จะช่วย Gupshup เร่งการเติบโตในแอฟริกา

ซานฟรานซิสโก และ เบิร์กลีย์ ไฮท์ส นิวเจอร์ซีย์–(บิสิเนส ไวร์)–23 ก.ย. 2564

Gupshup ผู้นำด้านการส่งข้อความสนทนาประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้เข้าซื้อกิจการเจอร์ซีย์ Dotgo โดย Dotgo เป็นผู้นำอุตสาหกรรมระดับโลกในการส่งข้อความทางธุรกิจของ RCS (RBM) ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัล เช่น RichOTP®, RichSMS™, Bot Store® และ MaaP (การส่งข้อความเป็นแพลตฟอร์ม) ที่ส่งเสริมการเติบโตของการส่งข้อความธุรกิจแบบ RCS. Dotgo เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของ Google, Mavenir, Synchronoss, Vodafone และ Orange จัดการ RBM ในหลายตลาด และดำเนินการ RBM Hub ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการเชื่อมต่อทั่วโลกกับผู้ใช้ RCS ทั่วโลก  Dotgo อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการช่วยให้แบรนด์ผสานรวมกับ API ที่เรียบง่าย โดย RCS มอบการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขาย การสนับสนุน บริการ หรือกระบวนการทางธุรกิจอื่นๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005293/en/

Dotgo ซึ่งขับเคลื่อนโดยทีมผู้ก่อตั้งที่มีประวัตินวัตกรรมเทคโนโลยีอันยาวนาน เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากกลุ่มที่ 6 ของ IIT Startups accelerator.  Dotgo เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2564 เนื่องจาก RCS ได้รับการสนับสนุนในอเมริกาเหนือ ยุโรป อินเดีย บราซิล และไนจีเรีย  MaaP ของ Dotgo ซึ่งนำเสนอร่วมกับแพลตฟอร์ม Google Jibe และผสานรวมไว้ล่วงหน้า ได้รับเลือกให้ใช้งานการส่งข้อความทางธุรกิจ RCS กับผู้ให้บริการมือถือหลายราย  Dotgo เป็นผู้สนับสนุนชั้นนำของ Mobile Ecosystem Forum และ GSMA ในการกำหนดมาตรฐานและกระบวนการสำหรับการส่งข้อความทางธุรกิจของ RCS

Dotgo จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มการส่งข้อความสนทนาของ Gupshup ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้  Gupshup ยังวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และสถานะที่แข็งแกร่งของ Dotgo ในแอฟริกาเพื่อขยายกิจการที่นั่น

“ประสบการณ์การสนทนากลายเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า และช่องทางการส่งข้อความ RCS เป็นตัวเปิดใช้งานที่สำคัญ” Beerud Sheth ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Gupshup กล่าว “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Dotgo แรงดึงดูดทางตลาด และความเป็นผู้นำทางความคิดในระบบนิเวศ RCS นั้นน่าประทับใจอย่างแท้จริง  เมื่อร่วมกัน เราจะสามารถนำเสนอโซลูชันการส่งข้อความสนทนาที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ธุรกิจและนักพัฒนา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับพวกเขาเข้าสู่ครอบครัว Gupshup”

Inderpal Singh Mumick ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Dotgo กล่าวว่า “การรับส่งข้อความทางธุรกิจของ RCS ถูกกำหนดให้เปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้าของตน  เราก่อตั้ง Dotgo เพื่อสร้าง API ที่ทำให้แบรนด์และผู้เล่นรายอื่นๆ ในระบบนิเวศนำ RCS มาใช้ได้ง่าย ในขณะเดียวกันก็ดูแลและซ่อนความซับซ้อนของแบ็กเอนด์ลูกค้าของเราทั้งหมด  ด้วยการเพิ่ม RCS ทำให้ Gupshup เป็นบริษัทรับส่งข้อความ IP ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้เราเร่งภารกิจของเราให้เร็วขึ้น”

Johanna Kollar หัวหน้าพันธมิตรด้านผลิตภัณฑ์การสื่อสารของ Google กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีกับ Dotgo และ Gupshup สำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้ เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Dotgo และประทับใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการเป็นอย่างมาก เราตั้งตารอที่จะเติบโตความสัมพันธ์ของเราในขณะที่ทีม Dotgo กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Gupshup”

“สมาชิกในทีม Dotgo เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการตระหนักถึงศักยภาพของ RCS ในช่วงที่มีการยอมรับเพียงเล็กน้อย  เราขอแสดงความยินดีกับพวกเขาในการสร้างผลิตภัณฑ์ชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่ RCS กำลังจะเริ่มขึ้น การเดิมพันของพวกเขาได้รับการพิสูจน์แล้ว และการรวมเข้ากับบริษัทที่ยอดเยี่ยมอย่าง Gupshup จะสร้างข้อเสนอด้านมูลค่าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในตลาด” Naren Gupta กรรมการผู้จัดการ Nexus Venture Partners กล่าว

RCS จะเป็นช่องทางการรับส่งข้อความหลักในแพลตฟอร์ม Conversational Messaging ของ Gupshup โดยจะเสริมช่องทางการรับส่งข้อความอื่นๆ อีก 30 ช่องทางสำหรับลูกค้าผ่าน Single API ของ Gupshup สำหรับการส่งข้อความ RCS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน 5G ใน SMS รุ่นใหม่ที่รวมรูปภาพ เสียง วิดีโอ และการมีอยู่ รวมกับการรักษาความปลอดภัยและการเข้ารหัสที่ดียิ่งขึ้น  ข้อความ RCS จะถูกส่งไปยังแอปการรับส่งข้อความดั้งเดิม เช่น Google Business Messages และ Samsung Messages บนโทรศัพท์ Android RCS Business Messaging ใช้คุณสมบัติเชิงโต้ตอบที่หลากหลายของ RCS เพื่อเปิดใช้งานการส่งข้อความทางธุรกิจที่มีตราสินค้าและปลอดภัย  RCS พร้อมใช้งานทั่วโลกโดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 600 ล้านคนต่อเดือน รวมถึงผู้ใช้สมาร์ทโฟนของอินเดียประมาณ 20%

เกี่ยวกับ Dotgo

Dotgo® ผู้นำระดับโลกใน RCS กำลังสร้าง API และแพลตฟอร์มคลาวด์ที่จำเป็นในโลกที่ทุกธุรกิจต้องมีตัวตนอยู่ภายในแอพส่งข้อความ เช่นเดียวกับที่พวกเขามีเว็บไซต์และแอพในสมาร์ทโฟน  API และบริการของ Dotgo ช่วยให้แบรนด์และนักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์การสนทนาที่เสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและช่วยให้ผู้ให้บริการอุปกรณ์เคลื่อนที่เปิดตัว จัดการ และสร้างรายได้จากการส่งข้อความทางธุรกิจของ RCS Dotgo เป็นผู้ให้บริการ  Dotgo Bot Store® ซึ่งเป็นไดเรกทอรีแรกและใหญ่ที่สุดในโลกของบอท RCS และ WhatsApp, Dotgo MaaP, RichOTP®, RichSMS™ และ RBM Hub Dotgo เป็นพันธมิตรของ Google ผู้ให้บริการโซลูชัน WhatsApp Business และเป็นสมาชิกของฟอรัมระบบนิเวศมือถือ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.dotgo.com.  Bot Store, Dotgo และ RichOTP เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dotgo Systems Inc. ในสหรัฐอเมริกาและเขตอำนาจศาลอื่นๆ

เกี่ยวกับ Gupshup

Gupshup ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้ดีขึ้นผ่านการส่งข้อความสนทนา  Gupshup เป็นแพลตฟอร์มการส่งข้อความเชิงสนทนาชั้นนำ ซึ่งรองรับข้อความมากกว่า 6 พันล้านข้อความต่อเดือน ในแนวดิ่งของธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กหลายพันแห่งในตลาดเกิดใหม่ใช้ Gupshup เพื่อสร้างประสบการณ์การสนทนาในด้านการตลาด การขาย และการสนับสนุน  แพลตฟอร์มระดับผู้ให้บริการของ Gupshup มี API การส่งข้อความเดียวสำหรับช่องสัญญาณมากกว่า 30 ช่อง ชุดเครื่องมือสร้างประสบการณ์การสนทนาที่หลากหลายสำหรับกรณีการใช้งานใดๆ และเครือข่ายของพันธมิตรทางการตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ผ่านช่องทางการส่งข้อความ ผู้ผลิตอุปกรณ์ ISV และผู้ให้บริการ  ด้วย Gupshup ธุรกิจต่างๆ ได้ทำให้การสนทนาเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า  Gupshup มีให้บริการในอินเดีย ลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา เยี่ยมชม www.gupshup.ioสนทนา กับบอท Gupshup

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005293/en/

ติดต่อสื่อ
Richard Laermer
RLM PR | gupshup@rlmpr.com | (212) 741-5106 x 216

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดตัวสเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดรเวอร์ 40V/2.0A พร้อมเซ็นเซอร์วัดกระแสไฟแบบไร้ตัวต้านทาน

Logo

– ลดส่วนประกอบภายนอกและมีส่วนทำให้แผงวงจรประหยัดพื้นที่

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–22 กันยายน 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เพิ่ม “TB67S539FTG” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ IC ของสเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดรเวอร์ที่รองรับการควบคุมกระแสไฟคงที่ สำหรับระบบอัตโนมัติในสำนักงาน อุปกรณ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ไดรเวอร์ใหม่นี้ดำเนินการควบคุมมอเตอร์กระแสคงที่โดยไม่มีตัวต้านทานกระแสไฟ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210921005534/en/

Toshiba: TB67S539FTG, a 40V/2.0A stepping motor driver with resistorless current sensing. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: สเต็ปปิ้งมอเตอร์ไดรเวอร์ 40V/2.0A พร้อมเซ็นเซอร์วัดกระแสไฟแบบไร้ตัวต้านทาน (กราฟิก: Business Wire)

TB67S539FTG ได้รวมเอาอุปกรณ์ DMOSFET ล่าสุดของโตชิบา[1] ซึ่งช่วยให้ทราบพิกัดแรงดันไฟเอาต์พุตของมอเตอร์ที่ 40V และอัตรากระแสไฟเอาต์พุตของมอเตอร์ที่ 2.0A[2] การใช้ตัวตรวจจับกระแสไฟสำหรับการควบคุมมอเตอร์กระแสไฟคงที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวต้านทานวัดกระแสไฟภายนอก วงจร H-bridge สำหรับการควบคุมมอเตอร์มีการกำหนดค่า Nch/Nch และวงจรอัดประจุในตัวสำหรับการควบคุมระยะเอาต์พุต นอกจากนี้ ไดรเวอร์ใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเก็บประจุภายนอกซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เพื่อขับเกทบน H-bridge เนื่องจากมีการรวมไว้ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่บนแผงวงจรพิมพ์

TB67S539FTG รองรับการจ่ายไฟแบบมอเตอร์ 4.5V ถึง 34V และสามารถใช้กับแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย 24V และในแอพพลิเคชั่นที่มีไดร์เวอร์ 12V รวมถึงกล้องวงจรปิดและโปรเจ็กเตอร์

TB67S539FTG ใช้แพ็กเกจ QFN32 ขนาดกะทัดรัดเพื่อลดการกระจายความร้อนระหว่างการใช้งาน ค่าความต้านทานสถานะออนที่ต่ำ (บน + ล่าง) ระหว่างการระบายทรานซิสเตอร์เอาต์พุตและแหล่งจ่าย 0.8Ω (typ.) ช่วยลดการสร้างความร้อน

หมายเหตุ:

[1] ณ กันยายน 2564

[2] กระแสไฟของมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนจริงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งานและปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิแวดล้อมและแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ

แอปพลิเคชัน

– ระบบสำนักงานอัตโนมัติ อุปกรณ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

คุณสมบัติ

– ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวต้านทานวัดกระแสไฟ

– ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเก็บประจุภายนอกสำหรับวงจรอัดประจุ

– ใช้พลังงานต่ำใน sleep mode: IM1=1μA (สูงสุด) @sleep mode

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น, @Ta=25°C)

หมายเลขส่วน

TB67S539FTG

ช่วงการทำงาน

แหล่งจ่ายไฟมอเตอร์

VM (V)

@Ta=-20 ถึง 85°C

4.5 ถึง 34

ค่าพิกัดสูงสุด

แรงดันไฟเอาต์พุตของมอเตอร์ VOUT (V)

40

กระแสไฟเอาต์พุตของมอเตอร์ IOUT (A)

2.0

มอเตอร์ที่รองรับ

สเต็ปปิ้งมอเตอร์แบบไบโพลาร์

ระหว่างทรานซิสเตอร์เอาต์พุต

ค่าความต้านทานสถานะออนขาเดรนและซอร์ส

(บน + ล่าง) RON(D-S) typ. (Ω)

@VM=24V,

Tj=25°C,

IOUT=2.0A

0.8

การใช้พลังงาน IM1 สูงสุด (μA)

@sleep mode

1

ฟังก์ชั่นความปลอดภัย

การตรวจจับกระแสเกิน,

ระบบ thermal shutdown,

under voltage lockout

แพ็กเกจ

ชื่อ

QFN32

ขนาด (มม.)

5.0×5.0

ตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมสินค้า

Buy Online

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TB67S539FTG

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดรเวอร์มอเตอร์ IC ของโตชิบา
Motor Driver ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ กรุณาเยี่ยมชมได้ที่:
TB67S539FTG
Buy Online

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210921005534/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Tel: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การรักษาด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดีของ Celltrion สำหรับ COVID-19 regdanvimab (CT-P59) กลายเป็นการรักษาโควิดที่ได้รับอนุญาตครั้งแรกที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลี (MFDS)

Logo

  • การอนุมัตินี้นับเป็นครั้งแรกที่การรักษาโมโนโคลนอลแอนติบอดีสำหรับโควิดได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบในการรักษาผู้ป่วยโควิด
  • การอนุมัติรวมถึงการขยายถึงผู้ป่วยที่สามารถรักษาด้วย regdanvimab (CT-P59) สำหรับ COVID-19 และลดเวลา ระยะเวลาสำหรับการบริหารการรักษา
  • Celltrion ยังคงหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเพื่อให้บริการ regdanvimab (CT-P59) แก่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดในอินชอน

ประเทศเกาหลีใต้–(บิสิเนส ไวร์)–18 ก.ย. 2564

Celltrion Group ประกาศว่ากระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลี (MFDS) ได้อนุมัติ regdanvimab (CT-P59) ซึ่งเป็นโมโนโคลนัลแอนติบอดีสำหรับรักษา COVID-19 สำหรับการใช้งานระยะยาวในผู้ป่วยสูงอายุอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือที่ โรคประจำตัวอย่างน้อย 1 อย่าง (โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดเรื้อรัง เบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคตับเรื้อรัง และผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน) ที่มีอาการโควิด 19 แบบไม่รุนแรงของ COVID-19 และผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีอาการของ COVID-19 ในระดับปานกลาง  นับเป็นครั้งแรกที่การรักษาโมโนโคลนอลแอนติบอดีสำหรับโควิด-19 ได้รับการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 จาก MFDS ของเกาหลี

ในเดือนกุมภาพันธ์ MFDS ของเกาหลีได้รับใบอนุญาตการเผยแพร่แบบมีเงื่อนไข (CMA) สำหรับการใช้งานฉุกเฉินของ regdanvimab (CT-P59) และอนุญาตให้ใช้ CT-P59 ในผู้ป่วยผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไป หรือมีเงื่อนไขทางการแพทย์อย่างน้อยหนึ่งรายการ (โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง) ที่มีอาการ COVID-19 ไม่รุนแรงและผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีอาการของ COVID-19 ปานกลาง

เวลาในการให้ยา regdanvimab ที่แนะนำ (CT-P59) ซึ่งเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือดดำเพียงครั้งเดียว (IV) ที่ 40 มก./กก. ลดลงจาก 90 นาทีเป็น 60 นาที

Celltrion ประสบความสำเร็จในการลงทะเบียนผู้ป่วยมากกว่า 1,315 คนในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ทั่วโลก ซึ่งประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ regdanvimab (CT-P59) ใน 13 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา สเปน และโรมาเนีย  ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า regdanvimab (CT-P59) ลดความเสี่ยงของการรักษาในโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 หรือการเสียชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ 72% สำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก้าวไปสู่ ​​COVID-19 ที่รุนแรงและ 70% สำหรับผู้ป่วยทุกราย  นอกจากนี้ ข้อมูลก่อนการรักษาทางคลินิกสำหรับ regdanvimab (CT-P59) แสดงให้เห็นฤทธิ์การทำลายสายพันธ์ุเดลต้า (B.1.617.2 ที่ค้นพบครั้งแรกในอินเดีย) โดยผลลัพธ์แสดงอัตราการรอดชีวิต 100% ด้วยการกำจัดไวรัสจากสัตว์ทั้งหมดที่ได้รับการบำบัด ปริมาณของ CT-P59

“ข้อมูลทางคลินิกล่าสุดได้ช่วยปรับปรุงความเข้าใจของบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับบทบาทที่เป็นไปได้ของ regdanvimab ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการ COVID-19 เล็กน้อยถึงปานกลาง Dr. HoUng Kim, Ph.D. กล่าว หัวหน้าแผนกการแพทย์และการตลาด ที่ Celltrion Healthcare กล่าว “Regdanvimab เป็นแนวทางการรักษาโควิด-19 รุ่นแรกในประเภทของตน ดังนั้นควรประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน  นอกจากการตอบรับเชิงบวกอย่างต่อเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญและแพทย์แล้ว เรายังได้รับการสนับสนุนโดยการตัดสินใจของหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อยืนยันว่าการรักษานี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ กลุ่ม Celltrion ยังคงสื่อสารอย่างขยันขันแข็งกับหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ทั่วโลก”

ณ เดือนกันยายน 2564 ผู้ป่วยมากกว่า 14,857 รายได้รับการรักษาด้วย regdanvimab (CT-P59) ในโรงพยาบาล 107 แห่งในสาธารณรัฐเกาหลี

สิ้นสุด –

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Celltrion Healthcare

Celltrion Healthcare มุ่งมั่นที่จะนำเสนอยาที่เป็นนวัตกรรมและราคาไม่แพง เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาขั้นสูงของผู้ป่วย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทผลิตขึ้นที่โรงงานเพาะเลี้ยงเซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ทันสมัย ​​โดยออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับ US FDA cGMP และแนวทาง EU GMP Celltrion Healthcare พยายามนำเสนอโซลูชั่นคุณภาพสูงที่คุ้มค่าผ่านเครือข่ายทั่วโลกที่ครอบคลุมกว่า 110 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม: https://www.celltrionhealthcare.com

เกี่ยวกับ regdanvimab (CT-P59)

CT-P59 ถูกระบุว่าเป็นการรักษาที่มีศักยภาพสำหรับ COVID-19 ผ่านการคัดกรองผู้สมัครแอนติบอดีและเลือกผู้ที่แสดงศักยภาพสูงสุดในทำลายไวรัส SARS-CoV-2 เป็นกลางการทดลองในหลอดทดลองและในร่างกาย ก่อนการรักษาทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า CT-P59 จับกับ SARS-CoV-2 RBD อย่างแน่นหนา และทำให้สามารถทำลายสายพันธุ์เดิมและสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์อัลฟ่า (B.1.1.7 ซึ่งค้นพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร) ). ในการการทดลองจำลองในร่างกาย  CT-P59 ช่วยลดปริมาณไวรัสของ SARS-CoV-2 และการอักเสบในปอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์จากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 และ 2 ของ CT-P59 ทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย ความทนทาน ผลต้านไวรัส และประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่มีอาการของ COVID-19 ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง1 Celltrion เพิ่งเริ่มพัฒนาค็อกเทลแอนติบอดีที่เป็นกลางด้วย CT-P59 เพื่อต่อต้าน SARS-CoV-2 สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อมูลบางอย่างที่กำหนดไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในอนาคตและผลการดำเนินงานทางการเงินของเรา และเหตุการณ์หรือการพัฒนาในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับ Celltrion/Celltrion Healthcare ซึ่งอาจประกอบขึ้นเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อความเหล่านี้อาจระบุได้ด้วยคำต่างๆ เช่น “เตรียมจะ”, “หวังว่าจะ”, “ที่จะมาถึง”, “วางแผน”, “มีจุดมุ่งหมาย”, “ที่จะเปิดตัว”, “กำลังเตรียมการ, “เมื่อได้รับ”, “อาจ” , “โดยมุ่งหมาย”, “น่าจะ”, “เมื่อระบุ”, “จะ”, “กำลังดำเนินการ”, “ครบกำหนด”, “พร้อมใช้งาน”, “มีศักยภาพที่จะ”, หรือคำที่คล้ายคลึงหรือคำตรงข้ามๆ

นอกจากนี้ ตัวแทนของเราอาจทำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าด้วยวาจา  ข้อความดังกล่าวอิงตามความคาดหวังในปัจจุบันและสมมติฐานบางประการของฝ่ายบริหารของ Celltrion/Celltrion Healthcare ซึ่งหลายข้ออยู่เหนือการควบคุม

ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าจัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้มีโอกาสเป็นนักลงทุนมีโอกาสที่จะเข้าใจความเชื่อและความคิดเห็นของผู้บริหารในส่วนที่เกี่ยวกับอนาคต เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ความเชื่อและความคิดเห็นดังกล่าวเป็นปัจจัยหนึ่งในการประเมินการลงทุน ข้อความเหล่านี้ไม่ได้รับประกันประสิทธิภาพในอนาคตและไม่ควรวางใจเกินควร

ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลการดำเนินงานและผลประกอบการที่แท้จริงในอนาคตแตกต่างไปอย่างมากจากการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคตหรือผลลัพธ์ที่แสดงหรือบอกเป็นนัยโดยข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าว

แม้ว่าข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในการนำเสนอนี้จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้บริหารของ Celltrion/Celltrion Healthcare เชื่อว่าเป็นสมมติฐานที่สมเหตุสมผล แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความถูกต้อง เนื่องจากผลลัพธ์ที่แท้จริงและเหตุการณ์ในอนาคตอาจแตกต่างไปอย่างมากจาก ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว  Celltrion/Celltrion Healthcare ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า หากสถานการณ์หรือการประมาณการหรือความคิดเห็นของฝ่ายบริหารควรเปลี่ยนแปลง ยกเว้นตามที่กฎหมายหลักทรัพย์กำหนด ผู้อ่านไม่ควรเชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเกินควร

อ้างอิง


1 Celltrion Data on file

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210918005026/en/

ติดต่อ:

Holly Barber
hbarber@hanovercomms.com 
+44 (0) 7759 301620

Donna Curran
dcurran@hanovercomms.com 
+44 (0) 7984 550312

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Unicommerce ขยายพอร์ตโฟลิโอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเรียกลูกค้าใหม่ 10 ราย

Logo

เปิดใช้งานแบรนด์ค้าปลีกด้วยการจัดการคำสั่งซื้อ การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า และโซลูชันการทำการตลาดในรูปแบบ Omnichannel

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 กันยายน 2564

การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซของ Unicommerce มุ่งเน้นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีซัพพลายเชนในการให้บริการทางด้านซอฟต์แวร์ หรือ SaaS กำลังขยายฐานลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง Unicommerce ได้เข้าร่วมงานมากกว่า 10 บริษัท ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากับลูกค้าทั่วทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ Unicommerce จะช่วยให้บริษัทเหล่านี้มีการจัดการคำสั่งซื้อ การจัดการสินค้าคงคลัง และการจัดการคลังสินค้า แบรนด์ชั้นนำบางส่วนที่ Unicommerce กำลังทำงานให้ในตลาดเหล่านี้ ได้แก่ Edamama, Payo Asia และอีกมากมาย

ในปีที่ผ่านมา Unicommerce ได้สร้างเครือข่ายและเตรียมผลิตภัณฑ์ให้พร้อมสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทได้รวมแพลตฟอร์มเข้ากับตลาดกลาง ผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ เช่น Lazada, Shopee, NinjaVan, Fleet.ph, XDE เป็นต้น Unicommerce ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเนื่องจากมีการบูรณาการที่มีอยู่แล้วกว่า 150 รายการ ทำให้เป็น โซลูชัน Plug-and-play สำหรับผู้ค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-tailers และสิ่งนี้ช่วยให้ Unicommerce ได้เรียกลูกค้าที่ทำงานร่วมกับผู้เล่นที่โดดเด่นคนอื่น ๆ

Unicommerce ทำงานร่วมกับแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียและดำเนินการแล้ว 20% ของจำนวนอีคอมเมิร์ซของอินเดีย บริษัทมีความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นที่การเรียกลูกค้าอย่างรวดเร็วในสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนแรงงานในประเทศเหล่านี้ และวางแผนที่จะบรรลุการเติบโตของธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 400% ในปีปฏิทินปัจจุบัน

Mr. Kapil Makhija ซีอีโอของ Unicommerce กล่าวถึงการขยายธุรกิจว่า “การเดินทางของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มต้นในเดือนธันวาคม 2563 เราใช้เวลาหกเดือนแรกในการสำรวจอย่างครอบคลุมเพื่อทำความเข้าใจจุดอ่อนทางธุรกิจของผู้ค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาค และเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อรองรับบริษัทต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามั่นใจว่าการเรียนรู้ของเราจะช่วยเราในแผนการขยายธุรกิจเชิงรุก ทีมงานของเราทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มลูกค้าในหลายภาคส่วนและหลายขนาด ด้วยสถิติความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วของเราในอินเดีย-ตลาดบ้านเกิดของเรา แบรนด์ต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังแสดงความสนใจอย่างมากที่จะเป็นพันธมิตรกับ Unicommerce ในเส้นทางอีคอมเมิร์ซของพวกเขา”

Unicommerce อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการจัดหาโซลูชันคลาวด์เทคโนโลยีซัพพลายเชนอีคอมเมิร์ซ เพื่อช่วยให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมทุกขนาดสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้ทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 15,000 รายทั่วอินเดีย ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดำเนินการธุรกรรมมากกว่า 1 ล้านรายการทุกวัน คิดเป็นมูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด หรือ GMV 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210916005540/en/

ติดต่อ:

Kinshuk Sindhwani
Kinshuk.sindhwani@unicommerce.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia เปิดตัวการจัดเก็บข้อมูล PCIe® 4.0 Storage Class Memory SSDs

Logo

KIOXIA FL6 Series รุ่นใหม่ใช้ประโยชน์จาก XL-FLASH ของ Kioxia เพื่อปิดช่องว่าง หรือ Bridge Gap ระหว่างชิปแบบ DRAM และ SSD ที่ใช้ TLC เร่งความเร็วแอปพลิเคชันที่ละเอียดอ่อน

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2564

การจัดเก็บข้อมูล Storage Class Memory (SCM) ที่มีเวลาแฝงต่ำและความทนทานสูงกำลังจะมาในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล KIOXIA NVMe™ SSD ซึ่ง Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ กำลังสุ่มตัวอย่าง KIOXIA FL6 Series enterprise NVMe SCM SSDs ในระดับองค์กร โดยนำเสนอโซลูชัน SCM ของ Kioxia, XL-FLASH, dual-port และ PCIe® 4.0-compliant KIOXIA FL6 Series SSDs เชื่อมช่องว่างระหว่างไดรฟ์ที่ใช้ชิปแบบ DRAM และ TLC ทำให้เหมาะสำหรับกรณีการใช้งานที่ไวต่อเวลาแฝง เช่น แคชเลเยอร์ การจัดลำดับชั้น และการบันทึกการเขียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่:https://www.businesswire.com/news/home/20210913005922/en/

PCIe(R) 4.0-compliant Storage Class Memory (SCM) SSD: KIOXIA FL6 Series (Photo: Business Wire)ระบบจัดเก็บข้อมูล PCIe(R) 4.0-compliant Storage Class Memory (SCM) SSD: KIOXIA FL6 Series (ภาพ: Business Wire)

อิงจากเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D BiCS FLASH™ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia พร้อม SLC ความจุ 1 บิตต่อเซลล์ ทำให้ XL-FLASH มีเวลาแฝงที่ต่ำและประสิทธิภาพสูงสำหรับศูนย์ข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร แม้ว่าโซลูชันหน่วยความจำแบบระเหย เช่น ชิปแบบDRAM จะให้ความเร็วในการเข้าถึงที่จำเป็นสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ แต่ก็มีต้นทุนสูง SCM แก้ไขปัญหานี้ด้วยการจัดหาหน่วยความจำแฟลชแบบไม่ลบเลือนที่มีความหนาแน่นสูงและคุ้มค่า

KIOXIA FL6 Series ทำงานได้ดีกับปริมาณงานที่มีรอดำเนินการต่ำ แต่จุดแข็งที่แท้จริงนั้นถูกเปิดเผยเมื่อปริมาณงานมีความต้องการและผสมกันมากขึ้น ในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ไดรฟ์ KIOXIA FL6 มอบคุณภาพการบริการที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญสำหรับแอปพลิเคชันที่ไวต่อเวลาแฝงที่หลากหลาย

จุดเด่นของ KIOXIA FL6 Series

  • สอดคล้องกับข้อกำหนด PCIe 4.0 และ NVMe 1.4; พร้อมสำหรับการใช้งาน NVMe-oF™
  • Native dual-port เพื่อความพร้อมใช้งานและความยืดหยุ่นสูง
  • ความทนทานและความจุ 60 DWPD จาก 800 GB ถึง 3.2 TB
  • ความน่าเชื่อถือในระดับองค์กร MTBF 2.5 ล้านชั่วโมง
  • ตัวเลือกการรักษาความปลอดภัย SED และ FIPS 140-2[1]

KIOXIA FL6 Series กำลังสุ่มตัวอย่างไปยังคู่ค้าและลูกค้าในอุตสาหกรรมที่สำคัญ

หมายเหตุ

[1] ความพร้อมใช้งานของตัวเลือกความปลอดภัย/การเข้ารหัสอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

* คำจำกัดความของความจุ: Kioxia กำหนดเมกะไบต์ (MB) เป็น 1,000,000 ไบต์ หนึ่งกิกะไบต์ (GB) เป็น 1,000,000,000 ไบต์และหนึ่งเทราไบต์ (TB) เป็น 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์รายงานความจุของพื้นที่จัดเก็บโดยใช้กำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 230 = 1,073,741,824 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของพื้นที่จัดเก็บที่น้อยลง ความจุที่ใช้งานได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

*PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

*NVMe และ NVMe-oF เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Kioxia ได้แยกออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 2530 โดยบริษัทถือเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันและบริการหน่วยความจำที่ล้ำสมัยซึ่งเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนและขยายขอบเขตทางสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D แบบใหม่ของ Kioxia หรือที่เรียกว่า BiCS FLASH ™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Kioxia Corporation
ฝ่ายส่งเสริมการขาย
โทร: +81-3-6478-2427
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210913005922/en/

สื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่::
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
Tel: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ITT แต่งตั้ง Bartek Makowiecki เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ และนำการควบรวมกิจการทั้งหมด

Logo

ไวท์เพลนส์ นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–13 ก.ย. 2564

13 กันยายน 2564 ITT Inc. (NYSE: ITT) แต่งตั้ง Bartek Makowiecki เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ โดยรายงานต่อ Luca Savi ประธานและซีอีโอของ ITT Inc.  ในบทบาทนี้ Makowiecki จะขับเคลื่อนกลยุทธ์และการควบรวมกิจการ (M&A) ทั่ว ITT ทั้งหมด

Makowiecki เข้าร่วม ITT จาก Ingredion ซึ่งล่าสุดเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ทั่วโลก ฝ่ายควบรวมกิจการ และการบุกเบิกธุรกิจขณะอยู่ที่ Ingredion  เขาได้สร้างฟังก์ชันกลยุทธ์ระดับโลก ขยายแพลตฟอร์มการเติบโตของบริษัท และสร้างโครงการร่วมทุนขององค์กรใหม่เพื่อปรับใช้เงินทุนกับการลงทุนในระยะเริ่มต้น  ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Ingredion นั้น Makowiecki ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ในด้านกลยุทธ์ระดับโลก และบทบาทการควบรวมกิจการ รวมถึงการมอบหมายงานระหว่างประเทศที่ Owens Corning Corporation และ Parker-Hannifin Corporation

“Bartek เป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จโดยมีประวัติที่พิสูจน์แล้วในการควบรวมกิจการและการจัดการพอร์ตโฟลิโอ  ประสบการณ์ของเขาเป็นประโยชน์อย่างมากต่อ ITT ขณะที่เราพยายามเร่งกลยุทธ์การปรับใช้เงินทุนของเรา” Luca Savi ซีอีโอและประธานของ ITT กล่าว “Bartek มีพรสวรรค์เฉพาะตัวและเป็นผู้นำที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ระยะยาวของเราและเพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นที่เหนือกว่าต่อไป”

Makowiecki สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง และศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาธุรกิจระหว่างประเทศและการเงินจาก Regents University ในสหราชอาณาจักร เขาจะประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ ITT ในไวท์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก

เกี่ยวกับ ITT

ITT เป็นผู้ผลิตหลากหลายชั้นนำเกี่ยวกับส่วนประกอบที่สำคัญทางวิศวกรรมขั้นสูงและโซลูชันเทคโนโลยีที่ปรับแต่งได้สำหรับตลาดพลังงาน การขนส่ง และอุตสาหกรรม  ด้วยมรดกแห่งนวัตกรรม ITT ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อส่งมอบโซลูชั่นที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมหลักที่สนับสนุนวิถีชีวิตสมัยใหม่ของเรา ITT  มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไวท์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก โดยมีพนักงานในกว่า 35 ประเทศและจำหน่ายในประมาณ 125 ประเทศ  บริษัทสร้างรายได้ปี 2563 มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.itt.com

ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210913005008/en/

นักลงทุนติดต่อ
Mark Macaluso
+1 914-641-2064
mark.macaluso@itt.com

ITT ออกเอกสารรายงานความยั่งยืนปี 2564 เดินหน้าดำเนินการตามลำดับความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

Logo

ไวท์เพลนส์ นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–2 ก.ย. 2564

9 กันยายน 2564– ITT Inc. (NYSE: ITT) ได้เปิดตัว เอกสารรายงานความยั่งยืนปี 2564 ฉบับที่ 2 เพื่อสนับสนุนรายงาน Sustainability ITT 2019 ซึ่งเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ของบริษัทเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)  เอกสารสนับสนุนนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ ITT ในปี 2563 ในการบูรณาการการดูแลสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคมเชิงบวกในการดำเนินงาน ทีมงาน และชุมชนทั้งหมด  ลำดับความสำคัญ ได้แก่ สุขภาพและความปลอดภัย ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมตัวของพนักงาน และรอยเท้าทางสิ่งแวดล้อม เป็นต้น  ไฮไลท์สำคัญจาก 2563 รวมถึง:

  • ก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลดลงร้อยละ 25
  • การส่งขยะไปยังหลุมฝังกลบลดลงร้อยละ 23
  • อุบัติเหตุในสถานที่ทำงานลดลงร้อยละ 25
  • ขายธุรกิจเกี่ยวกับแร่ใยหิน

“เรายังคงมั่งมุ่นที่จะบูรณาการเป้าหมาย ESG เข้ากับการดำเนินการรายวันของเรา และยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงาน ธุรกิจ และการเงินของเรา” Luca Savi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกล่าว “ในปีที่ท้าทายเป็นพิเศษสำหรับทุกคนปีนี้ ทีมงานของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นให้ ITT นำพาโลกนี้สู่การเป็นสถานที่ที่ดีขึ้นสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด  แม้ว่าผมจะพอใจกับความก้าวหน้าของเราจนถึงตอนนี้ แต่ก็ยังมีสิ่งที่เราต้องทำอีกมากบนเส้นทางสู่การเป็น ITT ที่ยั่งยืนมากขึ้น”

รายงาน Sustainability ITT 2021 Supplement ครอบคลุมการริเริ่มและข้อมูลอื่นๆ ในช่วงสามปีโดยเน้นที่ผลลัพธ์ในปี 2563 รวมถึงหน่วยวัดในปี 2563 สำหรับสถานที่ ITT ทั่วโลกทั้งหมด  แนวทางและกรอบการวัดผลหลายประการ รวมถึงแนวทางที่จัดทำโดยคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีเพื่อความยั่งยืน (SASB) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) ได้แจ้งขอบเขตของรายงานนี้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาระผูกพัน ITT เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและเป็นธรรมมากขึ้น โปรดดูรายงาน Sustainability ITT 2019

เกี่ยวกับ ITT

ITT เป็นผู้ผลิตหลากหลายชั้นนำเกี่ยวกับส่วนประกอบที่สำคัญทางวิศวกรรมขั้นสูงและโซลูชันเทคโนโลยีที่ปรับแต่งได้สำหรับตลาดพลังงาน การขนส่ง และอุตสาหกรรม  ด้วยมรดกแห่งนวัตกรรม ITT ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อส่งมอบโซลูชั่นที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมหลักที่สนับสนุนวิถีชีวิตสมัยใหม่ของเรา ITT  มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไวท์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก โดยมีพนักงานในกว่า 35 ประเทศและจำหน่ายในประมาณ 125 ประเทศ  บริษัทสร้างรายได้ปี 2563 มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.itt.com

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ในรายงานนี้ “ITT” “เรา” “ของเรา” และ “พวกเรา” หมายถึง ITT Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในรัฐอินเดียนาและบริษัทในเครือทั้งหมด ยกเว้นจะระบุไว้เป็นอย่างอื่นหรือตามที่บริบทกำหนดเป็นอย่างอื่น  นอกจากนี้ รายงานนี้ประกอบด้วย “แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้รับการปกป้องจากความรับผิดชอบด้านกฎหมายตามกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995  แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต แต่เป็นเพียงความเชื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตตามความคาดหวังในปัจจุบัน  การประมาณการ สมมติฐาน และการคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของเรา ผลประกอบการทางการเงินในอนาคต และอุตสาหกรรมที่เราดำเนินการ และการพัฒนาด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และเศรษฐกิจอื่นๆ  ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การอ้างอิงถึงแนวทาง แผนกลยุทธ์ในอนาคต และข้อความอื่นๆ ที่อธิบายกลยุทธ์ทางธุรกิจ แนวโน้ม วัตถุประสงค์ แผนการ ความตั้งใจหรือเป้าหมาย และการอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินงานหรือผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต .

เราใช้คำเช่น “คาดการณ์” “ประมาณการ” “คาดหวัง” “สร้างแผนการ” “ตั้งใจ” “วางแผน” “เชื่อว่า” “ตั้งเป้าหมาย” “ในอนาคต” “อาจ” “จะ” ” ได้” “ควร” “มีศักยภาพ” “ดำเนินต่อไป” “แนวทาง” และสำนวนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเพื่อระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าว  ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้ามีความไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดการณ์ได้ในระดับหนึ่งและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ทราบและไม่ทราบ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากข้อความที่แสดงออกหรือโดยนัย หรืออนุมานอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าว

ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ เราแสดงความคาดหวังหรือความเชื่อเกี่ยวกับผลลัพธ์หรือเหตุการณ์ในอนาคต  ความคาดหวังหรือความเชื่อดังกล่าวขึ้นอยู่กับแผนปัจจุบันและความคาดหวังของฝ่ายบริหารของเรา ซึ่งแสดงออกด้วยความสุจริตใจและเชื่อว่ามีพื้นฐานที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าความคาดหวังหรือความเชื่อจะเกิดขึ้น หรือผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้จะบรรลุหรือบรรลุผลสำเร็จ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์หรือเหตุการณ์จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้นั้นรวมอยู่ในส่วนปัจจัยเสี่ยงของรายงานประจำปีของเราในแบบฟอร์ม 10-K, รายงานรายไตรมาสในแบบฟอร์ม 10-Q และเอกสารอื่นๆ ที่ยื่นเป็นครั้งคราว กับสำนักงาน Securities and Exchange Commission

แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในรายงานนี้กล่าวถึง ณ วันที่ในที่นี้เท่านั้น เราไม่รับภาระผูกพัน (และปฏิเสธภาระผูกพันใดๆ) ในการจำเป็นต้องปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือด้วยวาจา อันเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออย่างอื่น

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210909005090/en/

ติดต่อ:

Mark Macaluso
+1 914-641-2064
mark.macaluso@itt.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัวไมโครคอนโทรลเลอร์กลุ่ม M4G รุ่นใหม่ Arm® Cortex®-M4 ในคลาสขั้นสูงตระกูล TXZ+TM สำหรับการประมวลผลข้อมูลความเร็วสูง

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–08 กันยายน 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เริ่มการผลิตอุปกรณ์ชนิดใหม่ 20 ประเภทในกลุ่ม M4G สำหรับการประมวลผลข้อมูลความเร็วสูงในฐานะผลิตภัณฑ์ใหม่ในคลาสขั้นสูงตระกูล TXZ+TM ที่ผ่านกระบวนการผลิตขนาด 40 นาโนเมตร ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สร้างจาก Arm Cortex-M4 core พร้อม FPU ทำงานที่ความเร็วสูงสุดถึง 200MHz โดยผสานรวมหน่วยความจำแบบแฟลชรหัสขนาดสูงสุด 2MB และหน่วยแฟลชข้อมูลขนาดสูงสุด 32KB ที่เขียนซ้ำได้ถึง 100K ครั้งต่อรอบ และมีตัวเลือกการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้ อุปกรณ์กลุ่ม M4G จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์สำนักงาน อาคาร และระบบอัตโนมัติในโรงงาน

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาในรูปแบบมัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210907005393/en/

Toshiba: Arm Cortex-M4 Microcontrollers for Motor Control (Graphic: Business Wire)

Toshiba: ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arm Cortex-M4 สำหรับการควบคุมมอเตอร์ (กราฟิก: Business Wire)

ไมโครคอนโทรลเลอร์ในกลุ่ม M4G มีฟังก์ชันการสื่อสารที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งผสานอยู่ในอินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบอนุกรมที่รองรับ SPI Quad/Octal อินเทอร์เฟซเสียง (I2S) อินเทอร์เฟซบัสภายนอก นอกเหนือจาก UART, FUART, TSPI และ I2C นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังมี DMAC จำนวน 3 ยูนิตในตัวและโครงสร้างเมทริกซ์บัส ซึ่งช่วยปรับปรุงปริมาณงานการสื่อสารอย่างมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทั่วไปของ Toshiba

อุปกรณ์เหล่านี้รองรับการใช้งานเพื่อตรวจจับที่หลากหลายด้วยตัวแปลง AD 12 บิตที่มีความแม่นยำและความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้สามารถตั้งค่าเวลาสำหรับช่องสัญญาณอินพุต AD แต่ละช่องด้วยจำนวนสูงสุดถึง 24 ช่อง

ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเองที่รวมอยู่ในอุปกรณ์สำหรับ ROM, RAM, ADC และ Clock ช่วยให้ลูกค้าได้รับการรับรองความปลอดภัยในการใช้งาน IEC60730 คลาส B อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ใช้กระแสไฟต่ำและมีฟังก์ชันการใช้งานสูง พร้อมการทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์จากกลุ่ม M4G(1) ตระกูล TXZTM ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

เอกสารกำกับโปรมแกรม ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัวอย่างพร้อมตัวอย่างการใช้งานจริง และซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ที่ควบคุมอินเทอร์เฟซสำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงแต่ละชนิด สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของ Toshiba บอร์ดประเมินผลและสภาพแวดล้อมการพัฒนาจัดทำขึ้นจากการร่วมมือกับพันธมิตรในระบบนิเวศทั่วโลกของ Arm

คุณสมบัติที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ใหม่

  • Arm Cortex-M4 core ประสิทธิภาพสูง พร้อม FPU ทำงานที่ความถี่สูงสุด 200MHz
  • ฟังก์ชันการควบคุมมอเตอร์และอินเทอร์เฟซการสื่อสาร
  • ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเองสำหรับความปลอดภัยในการทำงาน IEC60730 คลาส B

การใช้งาน

การประมวลผลข้อมูลความเร็วสูงสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อุตสาหกรรม MFP (เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน) อุปกรณ์ภาพและเสียง อุปกรณ์สื่อสารสำหรับระบบอัตโนมัติในอาคารและโรงงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบบ IoT เป็นต้น

ข้อมูลจำเพาะ

กลุ่มผลิตภัณฑ์

M4G group

CPU core

Arm Cortex-M4
‒ memory protection unit (MPU)

‒ floating-point unit (FPU)

ความถี่การใช้งานสูงสุด

200MHz

Oscillator ภายใน

10MHz (+/-1%)

หน่วยความจำ

ภายใน

แฟลช (รหัส)

512KB/1024KB/1536KB/2048KB

(เขียนข้อรหัสซ้ำได้ถึง 100,000 ครั้ง)

แฟลช (ข้อมูล)

32KB (เขียนข้อมูลซ้ำได้ถึง 100,000 ครั้ง)

RAM

192KB/256KB และสำรอง RAM 2KB

พอร์ต I/O 

91 ถึง 155

สัญญาณอินเตอร์รัพท์จากภายนอก

12 ถึง 16

อินเตอร์เฟสบัสภายนอก

ความกว้าง 8/16 บิต (บัสแยก/มัลติเพล็กซ์)

ตัวควบคุม DMA (DMAC)

DMAC มัลติฟังก์ชัน1 ยูนิต

DMAC ความเร็วสูง 2 ยูนิต

ฟังก์ชันจับเวลา

T32A

ตัวจับเวลา 32 บิต: 16

(สามารถใช้เป็นตัวจับเวลา 16 บิต: 32)

LTTMR

ตัวจับเวลาระยะยาว: 1 ช่อง

RTC

นาฬิกาเรียลไทม์: 1 ช่อง

ฟังก์ชันการสื่อสาร

UART

การสื่อสารแบบอนุกรมแบบอะซิงโครนัส: 3 ถึง 6 ช่อง

FUART

ตัวรับส่งสัญญาณแบบอะซิงโครนัสสากลเต็มรูปแบบ: 1 ถึง 2 ช่อง

I2C

3 ถึง 5 ช่อง

TSPI

อินเทอร์เฟซอุปกรณ์ต่อพ่วงแบบอนุกรม: 5 ถึง 9 ช่อง

TSSI

อินเทอร์เฟซอนุกรมแบบซิงโครนัส: 1 ถึง 2 ช่อง

SMIF

อินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบอนุกรม: 1 ช่อง

CEC

1 ช่อง

ฟังก์ชันอนาล็อก

ตัวแปลง AD 12 บิต

16 ถึง 24 ช่องเข้าสัญญาณ

ตัวแปลงดิจิตอลเป็นอนาล็อก 8 บิต

2 ช่อง

อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ

ตัวควบคุมมอเตอร์ (A-PMD)

1 ช่อง

RMC

ตัวประมวลผลสัญญาณรีโมตคอนโทรลล่วงหน้า: 1 ถึง 2 ช่อง

ISD

วงจรตรวจจับ Interval Sensor: 1 ถึง 3 ยูนิต

I2S

2 ช่อง

FIR

การคำนวณวงจร FIR: 1 ช่อง

ฟังก์ชันระบบ

WDT

1 ช่อง

LVD

วงจรตรวจจับกระแสไฟฟ้า: 1 ช่อง

OFD

เครื่องตรวจจับความถี่การสั่น: 1 ช่อง

ฟังก์ชัน On-chip debug 

Serial Wire /JTAG

แรงดันไฟฟ้าใช้งาน

2.7 ถึง 3.6V, จ่ายไฟจากแหล่งเดียว

แพ็คเกจ / ขา

LQFP176 (พ20มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.4มม.)
VFBGA177 (13มม. x 13มม. ระยะพิชต์ 0.8มม.)
LQFP144 (20มม. x 20มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)
VFBGA145 (12มม. x 12มม. ระยะพิชต์ 0.8มม.)
LQFP100 (14มม. x 14มม. ระยะพิชต์ 0.5มม.)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
M4G Group

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไมโครคอนโทรลเลอร์ของ Toshiba ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Microcontrollers

* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือทั่วโลก

* TXZ+™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ MCU และอุปกรณ์ดิจิทัล
โทร: +81-3-3457-2913
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาด้านบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูล ณ ปัจจุบันในวันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (TDSC) ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวมรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 22,000 คนจากทั่วโลกของTDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 7.1 แสนล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก

ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210907005393/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย