Category Archives: Technology

ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการขึ้นระบบด้วยแพลตฟอร์มของ Everbridge Public Warning ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของการเปิดตัวระบบแจ้งเตือนสำหรับพลเมืองในชาติรุ่นต่อไปของรัฐบาลออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ

Logo

  • Everbridge ขับเคลื่อนระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินของออสเตรเลีย โดยให้การแจ้งเตือนทั่วทั้งพลเมืองเพื่อแจ้งและปกป้องผู้อยู่อาศัยในทวีปจำนวน 34 ล้านคนและผู้มาเยือนประจำปี (เมื่อมีการเปิดพรมแดนอีกครั้ง)
  • การปรับใช้ขึ้นระบบแจ้งเตือนระดับชาติของออสเตรเลียช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำของ Everbridge ในด้านโซลูชันการเตือนภัยสาธารณะ ด้วยสัญญาที่ครอบคลุมทั่วประเทศและทั่วทั้งภูมิภาคอเมริกา (Americas) ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) เอเชียแปซิฟิก (APAC) ซึ่งสามารถเข้าถึงพลเมืองและผู้เดินทางกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–05 ตุลาคม 2564

Everbridge, Inc. (NASDAQ: EVBG) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการเหตุวิกฤต (CEM) และโซลูชันการแจ้งเตือนภัยสาธารณะระดับชาติ ยืนยันในวันนี้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดตัวระบบ การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ในรูปแบบใหม่สำหรับพลเมืองอย่างเป็นทางการ ซึ่งขับเคลื่อนโดย Everbridge

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211004005968/en/

Australia Successfully Goes Live With Everbridge Public Warning Platform Countrywide (Graphic: Business Wire)

ออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการขึ้นระบบด้วยแพลตฟอร์มของ Everbridge Public Warning ทั่วประเทศ (กราฟิก: Business Wire)

ขณะนี้รัฐและเขตการปกครองพิเศษของออสเตรเลียทั้งหมดได้ใช้งานได้บนระบบ Everbridge Public Warning ตามมาด้วยระยะเวลาการปรับใช้โครงการที่ครอบคลุม Everbridge จะเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลออสเตรเลียในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับระบบการแจ้งเตือนระดับชาติและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเตือนภัยสาธารณะที่งาน Australian Disaster Resilience Conference และงาน AFAC21 Virtual Conference & Exhibition

บ้านเรือนของผู้อยู่อาศัยมากกว่า 25 ล้านคน และผู้มาเยือนกว่า 9 ล้านคนต่อปี (เมื่อมีการเปิดพรมแดนใหม่อีกครั้ง) ออสเตรเลียได้เปิดตัวระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินครั้งแรกในปี 2552 เพื่อรับมือกับไฟป่าที่ร้ายแรงหลายครั้ง ด้วยความต้องการที่จะปรับปรุงบริการให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ออสเตรเลียได้เลือกแพลตฟอร์มแจ้งเตือนภัยสาธารณะแบบการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ หรือ software-as-a-service (SaaS) ของผู้นำด้านการตลาด Everbridge เพื่อให้แต่ละรัฐและเขตปกครองพิเศษและหน่วยงานระดับภูมิภาคของตนใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเพื่อแจ้งเตือนพลเมืองในท้องถิ่นของตนและผู้มาเยือน การสนับสนุนการสื่อสารในการตอบกลับครั้งแรก และวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการสื่อสารเมื่อเกิดภัยพิบัติสำหรับกิจกรรมบรรเทาผลกระทบที่ตามมาภายหลัง

“ระบบนี้เป็นช่องทางสำหรับบริการเหตุฉุกเฉินเพื่อเตือนชุมชนของเราเกี่ยวกับภัยคุกคามที่กำลังรอดำเนินการ และเรายินดีที่เงินทุน Commonwealth funding ช่วยบรรเทาความเสี่ยงซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวออสเตรเลียทุกคน” รัฐมนตรีกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินและวุฒิสมาชิก Hon Bridget McKenzie กล่าวในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ

Joe Buffone ผู้อำนวยการทั่วไปของการจัดการเหตุฉุกเฉินของออสเตรเลีย หรือ Emergency Management Australia กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินถูกนำไปใช้เพื่อรับมือกับไฟป่าในฤดูร้อนปี 2552 และยังคงมีบทบาทสำคัญในการรักษาชุมชนในออสเตรเลียให้ปลอดภัย”

หลังจากการทดสอบเป็นเวลา 2 ปี ทั่วทั้งรัฐและเขตการปกครองพิเศษของออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียประสบความสำเร็จในการใช้ระบบเตือนภัยสำหรับพลเมืองในรุ่นต่อไป เพื่อให้ตำรวจ นักดับเพลิง และการบริการฉุกเฉิน สามารถแจ้งเตือนชุมชนถึงเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นหรือที่เกิดขึ้นจริงได้ ในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤติ อย่างเช่น ไฟป่า น้ำท่วม พายุไซโคลน ความร้อนจัด หรือการโจมตีของผู้ก่อการร้าย บริการฉุกเฉินของออสเตรเลียจะส่งข้อความตามสถานที่ไปยังโทรศัพท์มือถือและข้อความเสียงไปยังโทรศัพท์บ้านภายในพื้นที่เป้าหมายทางภูมิศาสตร์ที่แม่นยำ ขณะที่บูรณาการเข้ากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนออสเตรเลียในการพัฒนาระบบเตือนภัยระดับชาติ” Steve Foster รองประธานออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และโอเชียเนียของ Everbridge กล่าว “ด้วยการไม่ต้องเลือกใช้หรือดาวน์โหลดแอป แพลตฟอร์มแจ้งเตือนภัยสาธารณะของ Everbridge จะส่งการแจ้งเตือนฉุกเฉินไปยังพลเมืองที่มีความเสี่ยงในระดับทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในออสเตรเลียและผู้มาเยือนปลอดภัยเมื่อพรมแดนกลับมาเปิดอีกครั้ง ทำให้ปลอดภัยในระหว่างเกิดเหตุไฟป่าและเหตุวิกฤตอื่น ๆ ทุกประเทศสามารถได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยนี้ซึ่งเข้าถึงทุกคนได้ในยามวิกฤต”

การใช้ระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินของออสเตรเลียขยายจุดยืนของ Everbridge ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันแจ้งเตือนภัยสาธารณะทั่วทั้งพลเมืองที่ใช้โดยเทศบาล เขตปกครอง เมือง รัฐ และประเทศต่าง ๆ กว่า 1,500 แห่งในทั่วทุกภูมิภาคที่สำคัญของโลก รวมถึงยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกลาง แอฟริกา และอเมริกา

แพลตฟอร์มของ Everbridge ซึ่งรวมเอาการส่งข้อมูลแบบ Cell Broadcast, SMS ตามตำแหน่ง, เทคโนโลยีการแจ้งเตือนหลายช่องทางตามที่อยู่และตามกลุ่ม – ให้ความสามารถในการจัดการเหตุวิกฤตในภัยคุกคามที่หลากหลาย รวมถึงภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย การโจมตีทางอินเทอร์เน็ต และเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยอื่น ๆ

ระบบ Everbridge Public Warning นั้นตรงและเกินความต้องการของหน่วยงานสาธารณะที่กำลังมองหาโซลูชันการแจ้งเตือนภัยขั้นสูงเพื่อปกป้องพลเมืองและผู้มาเยือน ในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างเต็มที่ บริษัทเพิ่งประกาศสิทธิบัตรใหม่สำหรับงานปฏิวัติในการเปิดใช้งานความสามารถในการแจ้งเตือนพลเมืองมัลติมีเดียแบบครบวงจร หรือ end-to-end สิทธิบัตรซึ่งเป็นหนึ่งในมากกว่า 160 รายการ ทั่วทั้งโซลูชั่นของชุดแจ้งเตือนพลเมืองของผู้นำด้านการตลาดของ Everbridge โดยเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการส่งการแจ้งเตือนผ่านการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี 5G การส่งข้อมูลแบบ cell broadcast และมัลติมีเดีย Everbridge ยังคงเป็นผู้นำในการบูรณาการเทคโนโลยี 5G สำหรับระบบแจ้งเตือนภัยสาธารณะ

เกี่ยวกับ Everbridge

Everbridge, Inc.. (NASDAQ: EVBG) คือบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่ให้บริการแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ระดับองค์กรซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติและรับมือได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ระหว่างเกิดเหตุการณ์ที่เป็นภัยคุกคามความปลอดภัยสาธารณะ เช่น เหตุการณ์กราดยิง การโจมตีของผู้ก่อการร้าย หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ รวมถึงเหตุวิกฤตทางธุรกิจอย่างระบบไอทีล่มและการโจมตีทางไซเบอร์ หรือเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น การเรียกคืนผลิตภัณฑ์หรือเหตุที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน ลูกค้าทั่วโลกกว่า 5,800 รายต่างต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มสำหรับจัดการเหตุวิกฤตของบริษัท เพื่อรวบรวมและประเมินข้อมูลที่เป็นภัยคุกคามอย่างรวดเร็วและด้วยวิธีการที่น่าเชื่อถือ ระบุตำแหน่งของผู้ตกอยู่ในความเสี่ยง และอุปกรณ์ตอบรับสามารถช่วยเหลือ เริ่มกระบวนการสื่อสารที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าโดยอัตโนมัติผ่านการส่งที่มีความปลอดภัยไปยังอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ กว่า 100 แบบ และติดตามความคืบหน้าในการเริ่มแผนรับมือ Everbridge ให้บริการในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ทั้งหมด 8 ใน 10 เมือง ธนาคารเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ 9 ใน 10 แห่ง สนามบินที่มีความหนาแน่นที่สุดในอเมริกาเหนือ 47 ใน 50 แห่ง บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดทั้งหมด 9 ใน 10 แห่ง บริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ระดับโลก 8 ใน 10 แห่ง ผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ 9 ใน 10 แห่ง และบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก 7 ใน 10 แห่ง สำนักงานของ Everbridge ตั้งอยู่ในบอสตัน และมีสำนักงานเพิ่มเติมใน 25 เมืองทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.everbridge.com

การแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วย “ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต” ตามความหมายใน  “บทบัญญัติการจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ” ภายใต้กฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 รวมถึงแต่ไม่จำกัดข้อความในลักษณะที่เป็นการคาดการณ์โอกาสและแนวโน้มการเติบโตของระบบสื่อสารที่สำคัญและแอปพลิเคชันเพื่อความปลอดภัยขององค์กร ธุรกิจในภาพรวม โอกาสทางการตลาด ความคาดหวังต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ เป้าหมายในการรักษาสถานะผู้นำทางการตลาดและเป้าหมายในการขยายตลาดซึ่งเราแข่งขันเพื่อให้ได้ลูกค้า และผลกระทบที่คาดการณ์ต่อผลลัพธ์ทางการเงิน ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้จัดทำขึ้นในวันที่เอกสารนี้ถูกเผยแพร่และตั้งอยู่บน ความคาดหวัง การประมาณการ การคาดการณ์ และการคาดคะเน รวมถึงความเชื่อและสมมติฐานของฝ่ายบริหารที่เป็นปัจจุบัน ณ ขณะนั้น เมื่อมีการใช้คำว่า “เชื่อ” “คาดการณ์” “ประมาณการ” “ควรจะ” “เชื่อว่า” “ตั้งเป้า” “วางแผน” “เป้าหมาย” “เป็นไปได้” “คาดเดา” “อาจ” “จะ” “อาจจะ” “มุ่งหมาย” คำที่มีความหมายเหมือนกัน หรือคำเหล่านี้ที่มีความหมายในเชิงลบ และคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน ให้ถือว่าเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เหนือการควบคุมของเรา ผลลัพธ์ที่แท้จริงของเราอาจแตกต่างออกไปอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ความสามารถของผลิตภัณฑ์และบริการของเราในการดำเนินการตามที่ตั้งใจไว้และตอบสนองลูกค้าของเราได้ตามที่คาดหวัง ความสามารถของเราในการควบรวมกับธุรกิจและสินทรัพย์ที่เราอาจเข้าซื้อได้สำเร็จ ความสามารถในการดึงดูดลูกค้ารายใหม่และรักษาและเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มีในปัจจุบัน ความสามารถของเราในการเพิ่มยอดขายของแอปพลิเคชัน Mass Notification และ/หรือ ความสามารถในการเพิ่มยอดขายของแอปพลิเคชันอื่น ๆ ของเรา การพัฒนาในตลาดสำหรับระบบสื่อสารที่สำคัญตามเป้าหมายและเกี่ยวข้องกับบริบทหรือสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การประเมินโอกาสทางการตลาดและการคาดการณ์การเติบโตของตลาดของเราอาจไม่ถูกต้อง ผลประกอบการของเราที่ผ่านมาไม่ได้ทำกำไรอย่างต่อเนื่องและเราอาจไม่สามารถรักษาระดับผลกำไรได้ในอนาคต วงจรการขายที่ยาวนานและไม่สามารถคาดเดาได้ของลูกค้ารายใหม่ ลักษณะธุรกิจของเราทำให้เรามีความเสี่ยง ความสามารถของเราในการดึงดูด ควบรวม และรักษาพนักงานที่มีความสามารถเอาไว้ ความสามารถของเราในการรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรจัดจำหน่ายและพันธมิตรทางเทคโนโลยีได้สำเร็จ ความสามารถในการจัดการการเติบโตของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถของเราในการรับมือกับความกดดันทางการแข่งขัน ความรับผิดที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุได้ ความสามารถของเราในการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (“SEC”) รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง รายงานประจำปีของเราในฟอร์ม 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ยื่นต่อ SEC เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้แสดงให้เห็นทัศนะของบริษัท ณ วันที่เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์นี้ บริษัทไม่มีภาระผูกพันและไม่ขอรับผิดชอบในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนี้ แม้ว่าจะมีข้อมูลใหม่หรือเกิดเหตุการณ์ในอนาคตหรือไม่ก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นทัศนะของบริษัทหลังจากวันที่เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์นี้แล้ว

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Everbridge เป็นเครื่องหมายการค้าของ Everbridge, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ชื่อผลิตภัณฑ์หรือชื่อบริษัทอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211004005968/en/

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:
Kathryn Van Kuyk
Media-Wize
kathryn@media-wize.com
0414 726 958

Jim Gatta
Everbridge
jim.gatta@everbridge.com
+1 215-290-3799

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Watts Water Technologies Inc. แต่งตั้ง Monica Barry เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

Logo

นอร์ธแอนโดเวอร์ แมสซาชูเซตส์–(BUSINESS WIRE)–4 ต.ค. 2564

Watts Water Technologies, Inc. (NYSE: WTS) ประกาศแต่งตั้ง Monica Barry เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล

คุณ Monica Barry ย้ายมาที่ Watts จาก Colfax Corporation ซึ่งเธอเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การบริหารคน พัฒนาองค์กร และหุ้นส่วนธุรกิจ HR ขององค์กร (Talent Management, Organizational Development and Corporate HR Business) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ถึงกันยายน 2564 โดยก่อนที่จะร่วมงานกับ Colfax คุณ Barry ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายความสามารถของคนระดับโลก การเรียนรู้ การพัฒนา และความครอบคลุม (Global Talent, Learning & Development and Inclusion) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 ถึงมกราคม 2563 และในตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ภาคสุขภาพ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 ถึงตุลาคม 2558 ที่ Johnson Matthey, PLC. นอกจากนี้ Monica Barry ยังดำรงตำแหน่งบริหารทรัพยากรบุคคลกับ The Campbell Soup Company และ FMC Corporation อนึ่ง Monica Barry สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโลโยลาในรัฐแมริแลนด์

คุณแบร์รี่จะรับตำแหน่งต่อจาก Kenneth R. Lepage ในฐานะผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลทั่วโลกของบริษัท โดย คุณ Lepage จะยังคงดำรงตำแหน่งปัจจุบันในฐานะที่ปรึกษาทั่วไปและบทบาทที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของบริษัท

“ผมเชื่อว่าความสามารถและประสบการณ์ของ Monica จะทำให้เธอมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะช่วยเป็นผู้นำในการริเริ่มเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องของเราทั่วโลก” Robert J. Pagano, Jr. ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว “ Monica นำประสบการณ์ที่กว้างขวางและลึกซึ้งมาสู่เราในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์การพัฒนาผู้มีความสามารถระดับโลก ประสิทธิผลและความหลากหลายขององค์กร ความเสมอภาคและความทั่วถึง (diversity, equity and inclusion หรือ DEI) ผมตื่นเต้นที่ Monica เข้าร่วมทีมผู้นำระดับโลกของเรา และเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับเธอเพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคลของเรา และสร้างวัฒนธรรมที่มีประสิทธิภาพสูงต่อไป”

Watts Water Technologies, Inc. เป็นผู้ผลิตระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา การดำเนินงานผ่านกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ระบบประปา ระบบทำความร้อน และคุณภาพน้ำที่กว้างขวางที่สุดในโลก บริษัทและแบรนด์ Watts Water นำเสนอโซลูชันระบบประปา ระบบทำความร้อน และคุณภาพน้ำสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย และอุตสาหกรรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wattswater.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211004005524/en/

ติดต่อ:

Watts Water Technologies, Inc.

Timothy M. MacPhee

เหรัญญิกและรองประธานฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

โทร: 978-689-6201

แฟ็กซ์: 978-794-0353

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Black & Veatch Management Consulting ได้รับเลือกให้ช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าของ SCG International ในประเทศไทย

Logo

การศึกษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐฯ จะทำหน้าที่เป็นแม่แบบในการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในวงกว้างในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โอเวอร์แลนด์พาร์ค แคนซัส–(BUSINESS WIRE)–5 ตุลาคม 2564

Black & Veatch ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการลดก๊าซคาร์บอนและโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งไร้มลพิษ ประกาศว่าบริษัทได้รับการคัดเลือกเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าสำหรับยานยนต์แก่ SCG International Corp โครงการนี้มีความพยายามที่จะเป็นต้นแบบในการนำยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานมาใช้ทั่วประเทศไทยและตลาดอื่น ๆ ที่ SCG ให้บริการในวงกว้างขึ้น

สำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) มอบเงินช่วยเหลือแก่ SCG International เพื่อศึกษาแนวทางที่ดีที่สุดในการเร่งรัดการนำยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งานในสถานที่ตั้งของธุรกิจหลายร้อยแห่งของเครือ SCG รวมถึงธุรกิจซีเมนต์ Black & Veatch จะเป็นพันธมิตรที่สำคัญของโครงการนี้ โดยจะวางแผนกลยุทธ์ในการลดก๊าซคาร์บอนรถขนส่งสินค้าของ SCG

เงินสนับสนุนดังกล่าวครอบคลุมไปถึงการออกแบบโครงการนำร่องในสถานที่ดำเนินงาน 3 แห่งที่ SCG International จะทดสอบความเป็นไปได้ของการพัฒนาระบบไฟฟ้าสำหรับรถขนส่งสินค้า  รวมไปถึงรถบรรทุกคอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งบริษัทมียานพาหนะเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมาก เงินสนับสนุนนี้ยังใช้เพื่อการสำรวจการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพฯ อีกด้วย

Deepa Poduval หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ Black & Veatch กล่าวว่า “หลังจากช่วยเหลือองค์กรหลายแห่งในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว Black & Veatch ก็ได้โอกาสมอบความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงแก่ SCG International เพื่อช่วยให้แนะแนวทางการลดก๊าซคาร์บอนในอนาคต”

Poduval กล่าวเพิ่มเติมว่า “การดำเนินงานสนับสนุนด้านเงินทุนของ USTDA เพื่อช่วยหาแนวทางในการพัฒนารถขนส่งสินค้าแบบไร้มลพิษถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นต้นแบบการนำยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ทั่วประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อปรับปรุงชีวิตและสุขภาพของผู้คนภายในภูมิภาค

Abhijit Datta กรรมการผู้จัดการของ SCG International กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการยกระดับการปฏิบัติงานตามเป้าหมายของเครือเอสซีจี โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2593

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมขอขอบคุณ USTDA และ Black & Veatch ด้วยใจจริงที่ให้การสนับสนุน แนะแนวทาง และดำเนินงานเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นได้ เราหวังว่าจะมีความร่วมมือที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคต”

โครงการนี้ช่วยให้เป้าหมายด้าน Global Partnership for Climate-Smart Infrastructure ของ USTDA รุดหน้า ซึ่งเป็นการเชื่อมอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เข้ากับโครงการด้านการพัฒนาพลังงานสะอาดและการขนส่งที่สำคัญ ๆ ในตลาดเกิดใหม่

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:

  • ดาวน์โหลด ebook ของ Black & Veatch เรื่อง “Electric Fleets: 8 Steps to Medium- and Heavy-Duty Fleet Electrification” คลิกที่นี่
  • ชมการไลฟ์ผ่าน LinkedIn ในเดือนมกราคม 2564 หัวข้อ “The Electric Fleet Power Play” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งและพลังงานสะอาดของ Black & Veatch ได้ตอบคำถามผู้ชมเกี่ยวกับการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า คลิกที่นี่

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่พนักงานร่วมเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติผลงานด้านนวัตกรรมมากกว่า 100 ปีในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2458 เป็นต้นมา เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยจัดการกับความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือของทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงาน เท่ากับ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางสื่อสังคม

เกี่ยวกับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA)

สำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) ช่วยให้เกิดการสร้างงานในบริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ผ่านการส่งออกสินค้าและบริการให้แก่โครงการด้านการพัฒนาที่สำคัญ ๆ ในเขตเศรษฐกิจเกิดใหม่ USTDA เชื่อมโยงธุรกิจของสหรัฐฯ กับโอกาสการส่งออกโดยให้เงินสนับสนุนกิจกรรมการเตรียมการดำเนินงานในโครงการและการสร้างความเป็นหุ้นส่วน ซึ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศภาคี

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210927005890/en/

ติดต่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
สายด่วน 24 ชั่วโมงสำหรับสื่อ | +1 855-999-5991

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Jetcraft ขยายธุรกิจในเอเชียด้วยสำนักงานแห่งใหม่ในสิงคโปร์

Logo

ลอนดอน–LONDON–(BUSINESS WIRE)–04 ตุลาคม 2564

Jetcraft ผู้นำระดับโลกด้านการขายและการเข้าซื้อกิจการ business jet หรือ เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ประกาศเปิดสำนักงานในสิงคโปร์ เพื่อรองรับการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วทั้งภูมิภาค

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211003005018/en/

Tim Yue, sales director, Jetcraft Asia (left), will lead Jetcraft’s new Singapore office, with the oversight of David Dixon, president, Jetcraft Asia (right). (Photo: Business Wire)

Tim Yue ผู้อำนวยการฝ่ายขาย Jetcraft Asia (ซ้าย) จะเป็นผู้นำสำนักงานแห่งใหม่ในสิงคโปร์ของ Jetcraft ด้วยการกำกับดูแลของ David Dixon ประธาน Jetcraft Asia (ขวา) (ภาพ: Business Wire)

สำนักงานดังกล่าวจะนำโดย Tim Yue ซึ่งปัจจุบันอยู่ในฮ่องกง และมีประสบการณ์ด้านธุรกิจการบินมากว่าทศวรรษ Tim จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ David Dixon ประธาน Jetcraft Asia ซึ่งจะดูแลกิจกรรมทั้งหมดในภูมิภาค

David Dixon กล่าวว่า: “เอเชียยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ Jetcraft ดังนั้นการขยายธุรกิจของเราไปยังสิงคโปร์จึงเป็นขั้นตอนที่สมเหตุสมผล โดยเป็นการพิสูจน์เพิ่มเติมถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของเราในการให้บริการฐานลูกค้าทั่วโลกและการเข้าถึงตลาดที่ไม่มีใครเทียบได้

“เราได้เห็นการเติบโตที่สำคัญของสิงคโปร์ในด้านธุรกิจการบินและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการบำรุงรักษาหลายแห่งที่ Seletar Aerospace Park ประกอบกับบทบาทของภูมิภาคในภาคบริการทางการเงิน ทำให้สิงคโปร์เป็นทำเลที่เหมาะสมที่สุด มูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจการบินทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเราได้รับการสนับสนุนโดยผู้ซื้อครั้งแรกที่มีนัยสำคัญที่เข้ามาในอุตสาหกรรมของเรา ถึงแม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้จะเป็นไปในลักษณะที่ไม่คาดคิดก็ตาม”

Jetcraft มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรได้ก่อตั้งธุรกิจในเอเชียขึ้นเป็นครั้งแรกในฮ่องกงในปี 2555 ตามด้วยการเปิดสาขาเพิ่มเติมในโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย Jetcraft จะสรรหาทีมงานท้องถิ่นในสิงคโปร์ รวมทั้งการย้ายพนักงานที่มีอยู่อีกด้วย

จบ

เกี่ยวกับ Jetcraft

Jetcraft เป็นผู้นำด้านการขายเครื่องบินระหว่างประเทศ กลยุทธ์การตลาดและการเป็นเจ้าของ บริหารจัดการและบำรุงรักษาสำนักงานภูมิภาคกว่า 20 แห่งทั่วโลก ความสำเร็จที่เหนือชั้นของบริษัทตลอดเกือบ 60 ปีในธุรกิจการบินทำให้บริษัทมีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมด้วยฐานลูกค้าที่ยอดเยี่ยม เครือข่ายการเชื่อมต่อที่กว้างขวาง และสินค้าคงคลังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.jetcraft.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211003005018/en/

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ 8020 Communications
Anna Price
อีเมล: jetcraft@8020comms.com
โทรศัพท์: +44 (0)1483 447380

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการศึกษาทางการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยชิงหวา

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–02 ตุลาคม 2564

แผนการของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาในการจัดตั้งหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการแพทย์ได้รับการอนุมัติในการประชุมระดับรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้นที่กระทรวงศึกษาธิการเมื่อเร็ว ๆ นี้ ขั้นตอนการสรรหาและรับสมัครของมหาวิทยาลัยจะเริ่มในปลายปี 2564 และนักเรียนชั้นปีแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะลงทะเบียนในเดือนกันยายน 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211001005043/en/

College of Life Science dean Kao Ruey-Ho (left) and Department of Medical Science chair Chen Linyi (right) prepare for the post-baccalaureate program in medicine. (Photo: National Tsing Hua University)

Kao Ruey-Ho (ซ้าย) คณบดีวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์ และ Chen Linyi (ขวา) หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ กำลังเตรียมหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการแพทย์ (รูปภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา)

Hocheng Hong อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวากล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวามีรากฐานที่แข็งแกร่งในการวิจัยข้ามสาขาด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิศวกรรมชีวภาพ วัสดุศาสตร์ และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยที่มหาวิทยาลัยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการฝึกอบรมแพทย์ให้มีความเชี่ยวชาญมากกว่าหนึ่งอย่าง ดังนั้น หลักสูตรใหม่นี้จึงแสดงให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของการศึกษาด้านการแพทย์ในไต้หวัน

Hocheng อธิการบดี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวามีจำนวนคณาจารย์ เงินทุน และโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอสำหรับหลักสูตรใหม่ นอกจากคณาจารย์ที่มีอยู่จำนวน 180 คน ซึ่งสอนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องแล้ว หลักสูตรนี้ยังได้คัดเลือกอาจารย์ประจำเพิ่มเติมอีก 71 คน และนักวิทยาศาสตร์แพทย์อีก 87 คนจากศูนย์การแพทย์ชั้นนำทั่วไต้หวัน นอกจากนี้ สำนักงานชั่วคราวของหลักสูตรนี้ได้ระดมเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันเพื่อการศึกษาทางการแพทย์อีกด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการกำลังทบทวนแผนต่อเนื่องในการจัดตั้งโรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอนและศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยในโครงการ Taoyuan Aerotropolis ซึ่งเป็นผังเมืองที่มุ่งสร้างพื้นที่อุตสาหกรรมถัดจากท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน

หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการแพทย์เป็นหลักสูตร 4 ปี เปิดรับผู้สำเร็จการศึกษาจากทุกสาขาวิชา นักศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะต้องทำงานในสถานพยาบาลสาธารณะเป็นเวลา 6 ปี และจะมีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมขั้นสูงอีก 2 ปีในศูนย์การแพทย์

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาจะใช้ประสบการณ์ที่กว้างขวางในการสรรหานักศึกษา เพื่อรับเฉพาะผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวดในการรับเข้าเรียน ซึ่งกระบวนการคัดเลือกนักศึกษาผ่านนวัตกรรมจะเปิดเส้นทางใหม่สำหรับการศึกษาด้านการแพทย์ในไต้หวันได้

หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการแพทย์จะเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์และการแพทย์ในอนาคต (ปัจจุบันคือวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์) Kao Ruey-Ho คณบดีวิทยาลัยชีววิทยาศาสตร์ และอดีตผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ Tzu Chi กล่าวว่า ผู้สมัครที่สมัครโดยตรงกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาจะได้รับการประเมินผ่านคะแนนการทดสอบ ใบรับรองผลการเรียน และการสัมภาษณ์ เพื่อคัดเลือกนักศึกษาที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ รวมไปถึงความหลงใหลในการแพทย์และสาธารณประโยชน์

นักศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลักสูตรจะต้องเรียนหลายกระบวนวิชาที่ออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่ชนบท เช่น การฝึกเวชศาสตร์ชุมชน และใช้ประโยชน์จากการวินิจฉัยด้วย AI และเทคโนโลยีการแพทย์ทางไกล นักศึกษาจะได้เข้าร่วมสัมมนาเรื่องการเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่นและการอุทิศตนด้านสาธารณสุข ซึ่งจะสอนโดยผู้ที่ได้รับรางวัล Medical Contribution Award

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211001005043/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ประกาศแผนการติดตั้งหนึ่งในระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ Rayong Works ของ UACJ (ประเทศไทย)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)– 29 ก.ย. 2564

UACJ Corporation (สำนักงานใหญ่: Chiyoda-ku, Tokyo โดยมี Miyuki Ishihara เป็นประธานและผู้แทนผู้อำนวยการ) (TOKYO:5741) ประกาศในวันนี้ว่าระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนชั้นดาดฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก1 จะได้รับการติดตั้งที่ Rayong Works ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ดำเนินการโดยเจ้าของเองทั้งหมด บริษัทย่อย UACJ (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม  2564 กับ Kansai Energy Solutions (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Kansai Electric Power Co., Inc. ( สำนักงานใหญ่: Kita-ku, Osaka; ประธาน: Takashi Morimoto)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210929005439/en/

Image of the solar panels to be installed (Photo: Business Wire)

ภาพแผงโซลาร์เซลล์ที่จะติดตั้ง (Photo: Business Wire)

ตามข้อตกลงนี้ Kansai Energy Solutions (Thailand) จะติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ประมาณ 40,000 แผงโดยมีกำลังการผลิตรวม 18 เมกะวัตต์ บนหลังคาของ Rayong Works โดย UACJ (ประเทศไทย) จะใช้ไฟฟ้าทั้งหมดที่สร้างขึ้นจากระบบเป็นเวลามากกว่า 20 ปี  โดย UACJ (ประเทศไทย) คาดหวังจากการใช้ระบบนี้ว่าจะลดการปล่อย CO2 จากงานระยองประมาณ 14,000 ตันต่อปี2 เทียบเท่ากับประมาณร้อยละ 6 ของการปล่อย CO2 ประจำปีของโรงงาน

UACJ Group ถือว่าความพยายามในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภารกิจที่สำคัญในวิสัยทัศน์การจัดการระยะยาว UACJ Vision 2030 โดย UACJ Group วางแผนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนเชิงรุกในการทำให้โลกมีความยั่งยืนมากขึ้น พร้อม ๆ ไปกับการลดภาระด้านสิ่งแวดล้อม

หมายเหตุ:

1. จากผลการวิจัยของ Kansai Electric Power เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2564

2. คำนวณโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์การปล่อย CO2 ของรัฐบาลไทย: 0.566 กิโลกรัม CO2 ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง

รายละเอียดของแผนระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์

ความจุรวม: 18 เมกะวัตต์

การผลิตไฟฟ้าโดยประมาณ: ประมาณ 25,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี

การลด CO2 โดยประมาณ: ประมาณการปล่อย CO2 14,000 ตันต่อปี

พื้นที่บนชั้นดาดฟ้าที่แผงโซลาร์เซลล์ปกคลุมมีขนาด ประมาณ 87,000 ตารางเมตร

ภาพรวมบริษัท

ชื่อบริษัท: UACJ Corporation

ก่อตั้ง: ตุลาคม 2556 (ผ่านการควบรวมกิจการของ Furukawa-Sky Aluminium Corporation และ Sumitomo Light Metal Industries Co., Ltd.)

ตัวแทน: ประธานและตัวแทนกรรมการ Miyuki Ishihara

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: 1-7-2 Otemachi, Chiyoda-ku, โตเกียว, ญี่ปุ่น

ธุรกิจหลัก: ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นรีด หล่อ หลอม และกลึงด้วยความแม่นยำที่ทำจากอะลูมิเนียมและโลหะนอกกลุ่มเหล็กอื่น ๆ รวมทั้งโลหะผสม

ชื่อบริษัท: UACJ (Thailand) Co., Ltd.

ก่อตั้ง: กุมภาพันธ์ 2553

ตัวแทน: ประธาน Hironori Tsuchiya

ที่อยู่โรงงานระยอง: นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ 7/352 หมู่ที่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง 21140 ประเทศไทย

ธุรกิจหลัก: ผลิตและจำหน่ายอะลูมิเนียมแผ่นรีดสำหรับบรรจุกระป๋อง เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนในรถยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ชื่อบริษัท: Kansai Electric Power Co., Inc.

ก่อตั้ง: พฤษภาคม 2494

ตัวแทน: ประธานทาคาชิ โมริโมโตะ

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: 3-6-16 Nakanoshima, Kita-ku, Osaka-shi, โอซากา ญี่ปุ่น

ธุรกิจหลัก: การจัดหาไฟฟ้า ความร้อนและก๊าซ การให้บริการโทรคมนาคม

ชื่อบริษัท: Kansai Energy Solutions (Thailand) Co., Ltd.

ก่อตั้ง: สิงหาคม 2561

ตัวแทน: กรรมการผู้จัดการ Katsuhisa Yamamoto

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: 25 ซอยชิดลม ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย

ธุรกิจหลัก: ออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง และบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และความร้อน ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และความร้อน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210929005439/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Hirofumi Aso

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

UACJ Corporation

โทร: +81-3-6202-3771

อีเมล: aso-hirofumi@uacj.co.jp


Fluence ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน

Logo

อาร์ลิงตัน เวอร์จิเนีย–(BUSINESS WIRE)–28 กันยายน 2564

Fluence ผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์และบริการจัดเก็บพลังงาน และแอปพลิเคชันดิจิทัลสำหรับพลังงานหมุนเวียนและการจัดเก็บพลังงาน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ในแบบฟอร์ม S-1 ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) เพื่อทำการเสนอขายหุ้นสามัญ Class A แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก Fluence Energy, Inc. ได้ยื่นขอจดทะเบียนหุ้นสามัญ Class A ใน Nasdaq Global Select Market ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “FLNC” โดยจำนวนหุ้นกู้และช่วงราคาที่จะเสนอขายยังไม่มีการกำหนด

J.P. Morgan Securities LLC, Morgan Stanley & Co. LLC, Barclays Capital Inc., and BofA Securities จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลัก ขณะที่ Global Markets Inc., Credit Suisse Securities (USA) LLC, UBS Securities, LLC, Evercore Group L.L.C., HSBC Securities (USA) Inc. และ RBC Capital Markets, LLC จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม และ Nomura Securities International, Inc., Robert W. Baird & Co. Incorporated, Raymond James & Associates, Inc., Seaport Global Securities LLC, Penserra Securities LLC และ Siebert Williams Shank & Co., LLC จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญดังกล่าว

การเสนอขายครั้งนี้จะดำเนินการผ่านหนังสือชี้ชวนเท่านั้น สามารถขอรับสำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นต้นในการเสนอขายได้จาก JP Morgan Securities LLC โดยส่งถึงแผนก Broadridge Financial Solutions ที่อยู่ 1155 Long Island Avenue, Edgewood, NY 11717 โทรศัพท์ 866-803-9204 หรืออีเมล prospectus-eq_fi@jpmorganchase.com; Morgan Stanley & Co. LLC โดยส่งถึงแผนกหนังสือชี้ชวน ที่อยู่ 180 Varick Street, 2nd Floor, New York, NY 10014; Barclays Capital Inc. โดยส่งถึงแผนก Broadridge Financial Solutions ที่อยู่ 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York 11717 หรืออีเมล barclaysprospectus@broadridge.com หรือโทร (888) 603-5847 และ BofA Securities ที่อยู่ NC1-004-03-43, 200 North College Street, 3rd floor, Charlotte NC 28255-0001 โดยส่งถึงแผนกหนังสือชี้ชวน หรืออีเมล dg.prospectus_requests@bofa.com

แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้มีการยื่นให้แก่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ หลักทรัพย์เหล่านี้ห้ามขายหรือเสนอซื้อก่อนที่แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์จะมีผลบังคับใช้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในเขตอำนาจศาลใด ๆ ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายหลักทรัพย์เหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก่อนที่จะมีการจดทะเบียนหรือการพิจารณาคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Fluence

Fluence ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Siemens และ AES คือผู้นำตลาดระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์และบริการจัดเก็บพลังงาน และแอปพลิเคชันดิจิทัลสำหรับพลังงานหมุนเวียนและการจัดเก็บพลังงาน เรามีการจัดเก็บพลังงานมากกว่า 3.4 กิกะวัตต์สำหรับใช้งานหรือทำสัญญาในตลาด 29 แห่งทั่วโลก และมากกว่า 4.5 กิกะวัตต์สำหรับพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจัดเก็บที่พัฒนาหรือทำสัญญาในออสเตรเลียและแคลิฟอร์เนีย บริษัทกำลังช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในการขับเคลื่อนโครงข่ายไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นและอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และแพลตฟอร์ม Fluence IQ ที่ปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยี AI

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210928005673/en/

สื่อ
Edelman for Fluence
Julia Fisher
FluenceMedia@edelman.com

นักลงทุน
Samuel Chong
samuel.chong@fluenceenergy.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสำหรับการปฏิวัติการวัดแบบ Omnichannel หรือแบบทุกช่องทาง

Logo

NielsenIQ ได้ลงนามในข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการที่สำคัญสองฉบับเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูชัน แบบทุกช่องทาง

ชิคาโก้–(BUSINESS WIRE)–28 ก.ย. 2564

NielsenIQ ผู้นำอุตสาหกรรมด้านการวัดผลและการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก ประกาศข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการที่สำคัญสองฉบับในวันนี้ ได้แก่ การเข้าซื้อ Data Impact และ Rakuten Intelligence การเข้าซื้อกิจการเหล่านี้จะผลักดันมูลค่าที่สำคัญให้กับโซลูชันอีคอมเมิร์ซและการวัดผลแบบทุกช่องทางของ NielsenIQ และช่วยให้บริษัทสามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีกด้วยมุมมองที่ครอบคลุมของตลาดออนไลน์ ตั้งแต่การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการขาย

วันนี้ ยอดขายอีคอมเมิร์ซคิดเป็นร้อยละ 12 ของยอดขาย CPG ในสหรัฐอเมริกา และสูงถึงร้อยละ 30 ของยอดขายในตลาดโลก และคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 15 ของ CAGR  จนถึงปี 2568 นอกจากนี้ ด้วยการเติบโตและการมีส่วนแบ่งที่สำคัญจากผู้ค้าปลีกที่เน้นไปในทางออนไลน์ จึงทำให้การทำความเข้าใจตลาดโดยรวมมีความสำคัญมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การวัดผลอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันมีการแบ่งแยกแตกส่วนเป็นอย่างมาก โดยมีหลายข้อเสนอที่แตกต่างกันซึ่งไม่อนุญาตให้มีมุมมองแบบบูรณาการที่สอดคล้องกันกับมุมมองของตลาดทั้งหมด

การเข้าซื้อกิจการและชุดโซลูชันการวัดผลแบบทุกช่องทางเหล่านี้ทำให้ NielsenIQ สามารถนำเสนอมุมมองที่กลมกลืน ละเอียด และสอดคล้องกันในช่องทางต่าง ๆ แก่ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิต ช่วยให้พวกเขาสามารถคาดการณ์แนวโน้ม ทำความเข้าใจ และตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคได้เร็วขึ้น

“การวัดอีคอมเมิร์ซเป็นสิ่งจำเป็นเชิงกลยุทธ์อันดับต้นๆ สำหรับ NielsenIQ” Natalie Williams หัวหน้าฝ่ายผู้นำด้านผลิตภัณฑ์การวัดในอเมริกาเหนือของ NielsenIQ กล่าว “โดยการทำงานร่วมกัน เราสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราวัดยอดขายอีคอมเมิร์ซและความรวดเร็วของเส้นทางของนักช้อปที่วิวัฒนาการโดยการมอบข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้ด้วยเครื่องที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าของเราทั่วโลก”

ข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการ Data Impact ซึ่งเป็นผู้เล่นในด้านข่าวกรองอีคอมเมิร์ซชั้นนำใน 40 ตลาดส่วนใหญ่ทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา จะทำให้บริการ omnichannel ของ NielsenIQ มีประสิทธิภาพสูงสุด การรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันของ Data Impact – ซึ่งให้มุมมองแบบละเอียดของแบนเนอร์และข้อมูลเชิงลึกอีคอมเมิร์ซระดับร้านค้า ร่วมกับรอยเท้าการวัดค้าปลีกที่ไม่มีใครเทียบได้ของ NielsenIQ จะช่วยให้ NielsenIQ สามารถปรับขนาดผลิตภัณฑ์ของ Data Impact ได้ทั่วโลก และที่สำคัญที่สุด จะวางตำแหน่ง NielsenIQ ให้เป็นผู้นำในอนาคตของการวัดและการดำเนินการจากทุกช่องทาง

“การรวมเทคโนโลยีของเราเข้ากับข้อเสนอเฉพาะของ Data Impact ช่วยให้เราสามารถนำเสนอผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกที่ครอบคลุมอย่างไม่มีใครเทียบได้ พร้อมรายละเอียดที่จำเป็นในการตัดสินใจแบบทุกช่องทางให้สำเร็จ” Jim Peck ประธานกรรมการบริหารและ CEO ของ NielsenIQ กล่าว

การเข้าซื้อกิจการ Rakuten Intelligence ซึ่งเกิดขึ้นสามปีหลังจากการลงนามในข้อตกลงพิเศษเพื่อรวมแผงการจัดซื้ออีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของ Rakuten Intelligence ในสหรัฐอเมริกา เข้ากับข้อมูลการขายปลีกของ NielsenIQ จะทำให้ NielsenIQ สามารถส่งมอบการอ่านออนไลน์และออฟไลน์ที่ผสานรวมให้กับลำดับชั้นลูกค้าที่กำหนดได้เอง ภายใต้แพลตฟอร์ม Connect บนคลาวด์ของเรา ผลิตภัณฑ์ Omnisales ที่เพิ่งเปิดตัวของ NielsenIQ เป็นการบูรณาการครั้งแรกที่ได้มาจากการซื้อกิจการครั้งนี้

“เราภูมิใจที่ได้ต้อนรับแชมเปี้ยนทั้งสองนี้เข้าสู่ครอบครัว NielsenIQ ทีนี้เราจะสามารถให้ตัวเลขตัวเดียวสำหรับการวัดยอดขายออนไลน์ผ่านข้อมูลหลายแหล่งได้ ซึ่งเป็น ความจริงที่ตลาดต้องการ และเราจะนำเสนอคำแนะนำการดำเนินการอีคอมเมิร์ซด้วยการดำเนินการที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยขนาดและความละเอียดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภูมิทัศน์ของโอกาสจึงไร้ขีดจำกัด” Clément Colin หัวหน้าฝ่ายการวัดผลอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ NielsenIQ กล่าว

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำในการนำเสนอมุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก NielsenIQ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ก้าวล้ำและขับเคลื่อนด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจสำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลก

การใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน NielsenIQ ช่วยให้ลูกค้ามีมุมมองเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแพลตฟอร์มการค้าปลีกทั้งหมด ปรัชญาเปิดของเราในการรวมข้อมูลช่วยให้ชุดข้อมูลผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์แบบ

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 90 ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม NielsenIQ.com

เกี่ยวกับ Data Impact

Data Impact เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ทันสมัยในโซลูชันการวิเคราะห์แบบทุกช่องทาง บริษัทใช้ข้อมูลที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นและอัลกอริธึม AI เพื่อนำเสนอโซลูชันต่างๆ แก่ลูกค้า รวมถึงการวิเคราะห์ตามตำแหน่ง การประเมินการขายและการแชร์ การตรวจสอบสื่อ การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และอื่น ๆ

โซลูชัน Data Impact ถูกใช้งานแล้วมากกว่า 150 บริษัทในกว่า 40 ประเทศ Data Impact เปิดตัวในปี 2559 เป็นโซลูชันเดียวที่ให้ผู้ผลิต FMCG เห็นภาพที่แม่นยำของการแจกจ่าย แบบทุกช่องทางของพวกเขาและความสามารถในการระบุสิ่งที่ขับเคลื่อนการดำเนินการที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น

เกี่ยวกับ Rakuten Intelligence

Rakuten Intelligence เป็นส่วนหนึ่งของ Rakuten Advertising ซึ่งเชื่อมโยงเอเจนซี่ แบรนด์ และผู้เผยแพร่ชั้นนำกับผู้บริโภคที่กระตือรือร้นและมีส่วนร่วมเอาไว้ทั่วโลก ด้วยการเข้าถึงสื่อและผู้ชมที่หลากหลายของ Rakuten รวมกับเครือข่ายประสิทธิภาพที่ได้รับรางวัลและการวิจัยผู้บริโภคที่เป็นกรรมสิทธิ์ จึงทำให้ Rakuten Advertising สามารถสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมในการเข้าถึงลูกค้าใหม่และรักษาความภักดีที่ยาวนาน

รากฐานของเทคโนโลยีขั้นสูง ข้อมูล และบริการเชิงกลยุทธ์ทำให้ Rakuten Advertising นำเสนอชุดโซลูชั่นการตลาดและการโฆษณาที่แตกต่างไปจากเดิม พร้อม ๆ ไปกับการผลักดันอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง Rakuten Advertising  เป็นแผนกหนึ่งของ Rakuten Inc. ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเมืองซานมาเทโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานอยู่ทั่ว EMEA, APAC, LATAM และอเมริกาเหนือ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.rakutenadvertising.com.

สื่อสัมพันธ์:

(สำหรับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ)

FERNANDA PAREDES, fernanda.paredes@nielseniq.com, +1-917-291-1196

GILLIAN MOSHER, gillian.mosher@nielseniq.com, +1-647-282-9714

(ฝรั่งเศส) SEBASTIEN MONARD, sebastien.monard@nielseniq.com, +33-6-85-32-94-61

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เริ่มจัดส่งตัวอย่างพรีไดรเวอร์ IC สำหรับมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านในยานยนต์ซึ่งรองรับความปลอดภัยในการใช้งาน

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–28 กันยายน 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เริ่มจัดส่งตัวอย่างทดสอบของรุ่น “TB9083FTG” ซึ่งเป็นพรีไดรเวอร์ IC สำหรับการใช้งานในยานยนต์ โดยรวมถึงมอเตอร์ไร้แปรงถ่านสำหรับระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าและเบรกไฟฟ้า Toshiba จะจัดส่งตัวอย่างขั้นสุดท้ายในเดือนมกราคม 2565 และจะเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือนธันวาคม 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005866/en/

Toshiba: a pre-driver IC

Toshiba: พรีไดรเวอร์ IC รุ่น “TB9083FTG” สำหรับการใช้งานยานยนต์รวมถึงมอเตอร์ไร้แปรงสำหรับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าและเบรกไฟฟ้า (กราฟิก: Business Wire)

TB9083FTG เป็นพรีไดรเวอร์สามเฟสที่ควบคุมและขับเคลื่อนเพาเวอร์ MOSFET แบบ N-channel ภายนอกสำหรับการขับมอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านสามเฟส รองรับ ASIL-D[1] ความปลอดภัยในการใช้งาน[2] และสอดคล้องกับ ISO 26262 ฉบับที่ 2 ช่วยให้สามารถใช้กับระบบยานยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง

IC รุ่นใหม่นี้มีพรีไดรเวอร์สามช่องสัญญาณในตัวสำหรับเซฟตี้รีเลย์ที่ควบคุมและขับเคลื่อนรีเลย์สำหรับมอเตอร์และแหล่งจ่ายไฟ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบภายนอกและช่วยลดจำนวนชิ้นส่วน

TB9083FTG อยู่ในแพ็คเกจ P-VQFN48-0707-0.50-005 ขนาดเล็ก (7.0 มม. x 7.0 มม. (typ.)) พร้อมโครงสร้างแบบ wettable flank [3] เนื่องจากความจำเป็นในการออกแบบให้มีการสำรองทำให้มีข้อจำกัดเกี่ยวกับพื้นที่บอร์ดของหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ การใช้แพ็คเกจขนาดเล็กนี้จึงช่วยลดพื้นที่การติดตั้งทั้งหมด

หมายเหตุ:

[1] ASIL (ระดับความสมบูรณ์ของความปลอดภัยในยานยนต์): ระดับความปลอดภัยในยานยนต์สูงสุดที่ควบคุมในมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ISO 26262

[2] มาตรฐานการทำงานตามความปลอดภัยพยายามลดความเสี่ยงที่เกิดจากความล้มเหลวของระบบ การรับรอง ISO 26262 ยอมรับว่าการดำเนินการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทสำหรับระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) เพื่อการใช้งานในรถยนต์ตรงตามเกณฑ์ที่เข้มงวดที่ระบุไว้ในมาตรฐาน และจัดหาวิธีการอิสระในการประเมินความสามารถของซัพพลายเออร์ที่มีศักยภาพให้กับบุคคลที่สาม

[3] รูปร่างของ side leads ของบรรจุภัณฑ์

แอปพลิเคชัน

อุปกรณ์ยานยนต์

– พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เบรคไฟฟ้า ปั้มชนิดต่าง ๆ ฯลฯ

คุณสมบัติ

– รองรับความปลอดภัยในการใช้งาน

– พัฒนาตามมาตรฐาน ISO 26262 ฉบับที่ 2

– คู่มือความปลอดภัยและรายงานการวิเคราะห์ความปลอดภัย

– ฟังก์ชันสำรองในตัว ABIST[4] และ LBIST[5]

– อินเทอร์เฟซ SPI[6] พร้อมการตรวจสอบ CRC[7] 

– พรีไดรเวอร์สามเฟส

ควบคุมและขับเคลื่อนเพาเวอร์ MOSFET สามเฟส (Nch x 6 ชิ้น) มีวางจำหน่าย

สามารถตั้งค่าความถี่ในการส่งข้อมูล PWM Choppingได้ถึง 20kHz

– พรีไดรเวอร์สามช่องในตัวสำหรับเซฟตี้รีเลย์

สามารถควบคุม / ขับเคลือนรีเลย์สามตัวสำหรับแต่ละเฟสของมอเตอร์ อีกนัยหนึ่ง หนึ่งช่องควบคุม / ขับเคลื่อนรีเลย์สามตัวสำหรับมอเตอร์แบบ collective และอีกสองช่องควบคุม / ขับเคลื่อนรีเลย์สำหรับแหล่งจ่ายไฟ

– แอมพลิฟายเออร์ในตัวสำหรับการตรวจจับกระแสไฟของมอเตอร์

สำหรับการขยายแรงดันไฟฟ้าที่สร้างขึ้นในตัวต้านทานแบบ shunt 3 เฟส

ตั้งค่า gain ได้ 6 แบบ

– แพคเกจเล็ก

โครงสร้างแบบ wettable flank ขนาดเล็กติดพื้นผิว แพคเกจ P-VQFN48-0707-0.50-005 พร้อม E-pad[8]

หมายเหตุ:

[4] ABIST (การทดสอบตัวเองในตัวแบบอะนาล็อก)

[5] LBIST (การทดสอบตัวเองในตัวแบบลอจิก)

[6] SPI (การสื่อสารอนุกรมแบบ SPI)

[7] CRC (การตรวจสอบข้อผิดพลาด CRC)

[8] E-pad (แผ่นสัมผัส): กรอบโลหะที่ด้านหลังของบรรจุภัณฑ์

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขส่วน

TB9083FTG

มอเตอร์ที่รองรับ

มอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านสามเฟส

หน้าที่หลัก

การสื่อสาร SPI, แอมพลิฟายเออร์ตรวจจับกระแส,

พรีไดรเวอร์สามช่องสำหรับเซฟตี้รีเลย์ ฟังก์ชัน clamping MOSFET VGS ภายนอก  

ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเอง

ABIST, LBIST

การตรวจจับข้อผิดพลาด

การตรวจจับแรงดันตก, การตรวจจับแรงดันไฟเกิน,

การตรวจจับ MOSFET VGS/VDS ภายนอก,

การตรวจจับอุณหภูมิเกิน

ช่วงแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งาน

VB=4.5V ถึง 28V

VCC=3.0V ถึง 5.5V

แหล่งจ่ายไฟภายนอก

2 แหล่งจ่ายไฟ (VB, VCC)

อุณหภูมิในการทำงาน

Ta=-40℃ ถึง 150℃

Tj=-40℃ ถึง 175℃

แพคเกจ

ชื่อ

P-VQFN48-0707-0.50-005

ขนาด typ. (มม.)

7.0 × 7.0

ความน่าเชื่อถือ

ผ่านการรับรองมาตรฐาน AEC-Q100

ข้อเสนอตัวอย่างสุดท้าย

มกราคม 2565

การผลิตจำนวนมาก

ธันวาคม 2565

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดรเวอร์มอเตอร์ ICs แบบไร้แปรงถ่านของ Toshiba รวมถึงพรีไดรเวอร์ ICs
 
Automotive Brushless Motor Driver ICs

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

System Devices Marketing Dept. III
Automotive Marketing Group II
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005866/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Tel: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TEPCO Power Grid Inc.: ลงนามข้อตกลงในโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite Du Laos

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–24 ก.ย. 2564

เมื่อวันที่ 22 กันยายน TEPCO Power Grid, Inc. (ประธานและกรรมการผู้จัดการ: Yoshinori Kaneko) ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับสามบริษัท ได้แก่ Tokyo Electric Power Services Co., Ltd. (ประธาน: Yasuhiro Kubo) และ World Business Associates Co., Ltd. (ประธาน: Jun Sugiura) โดยลงนามในข้อตกลงกับ Japan International Cooperation Agency (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “JICA”) เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

ในปี 2563 รัฐบาลลาวได้ตัดสินใจยุบแผนกส่งไฟฟ้าของ Electricite Du Laos (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL”) และก่อตั้ง Electricite Du Laos Transmission Company, Ltd. (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL-T” ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการระบบส่งไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกประเทศลาว  โดยร่วมกับการก่อตั้ง EDL-T การขายแผนกส่งไฟฟ้าแรงสูง และการสร้างกลยุทธ์ของบริษัทและแผนธุรกิจในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจใหม่นี้ได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วน เนื่องจากมีการเจรจาสัญญาขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน จัดการการส่งที่ฝากไว้ตามข้อตกลงการส่ง และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจัดจำหน่าย

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจัดการกับประเด็นต่างๆ เช่น การสร้างและดำเนินการตามแผนการจัดหาเงินทุน/การลงทุนเพื่อบริหารจัดการอุปทานภายในประเทศและการแลกเปลี่ยนพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเหมาะสมที่สุดภายในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ และการสร้างโครงสร้างเพื่อฝึกอบรม ทรัพยากรมนุษย์ที่จำเป็นในการทำงานเหล่านี้ให้สำเร็จ

แต่ละบริษัทในกิจการร่วมค้าจะใช้จุดแข็งของตน เช่น การให้คำปรึกษาและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และประสบการณ์การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น เพื่อช่วย EDL เสริมสร้างโครงสร้างการจัดการและความสามารถเพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เผชิญได้ด้วยตนเอง

TEPCO Group จะยังคงร่วมมือในฐานะ “ที่ปรึกษานโยบายด้านพลังงานของลาว” ของ JICA (2020~) และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JICA “เพื่อการปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าผ่านการอัพเกรดรหัสกริดและเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบบังคับใช้กฎหมาย” (2021~) ในขณะที่เรามีส่วนร่วม การพัฒนาภาคพลังงานของลาว

ข่าวประชาสัมพันธ์: https://www.tepco.co.jp/en/hd/newsroom/press/archives/2021/20210922_02.html

สรุปโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

1. ระยะเวลา/อาณาเขตที่บังคับใช้

  • กันยายน 2564 ~ มีนาคม 2567 (เบื้องต้น)
  • ลาว

2. ผู้ทำสัญญา

  • JICA

3. วัตถุประสงค์

  • เสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติงานและการจัดการของ EDL โดยสร้างกลยุทธ์องค์กรที่เหมาะสมและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เสริมสร้างความสามารถในการจัดการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนา และให้การสนับสนุนที่จำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ความสามารถในการวางแผนจึงสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคพลังงานของลาว

4. รายละเอียดโครงการ

  • ให้การสนับสนุนการสร้างแผนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ
  • สนับสนุนการสร้างกลยุทธ์องค์กรและแผนที่เกี่ยวข้อง
  • สนับสนุนการเสริมสร้างระบบการตรวจสอบภายใน กลไกการเปิดเผยข้อมูล และระบบการกำกับดูแล
  • สนับสนุนการทำแผนพัฒนาแผนก
  • สนับสนุน ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
  • สนับสนุนการสร้างแผนการจัดการและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  • ฝึกอบรมผู้สอน
  • สนับสนุนสำหรับการสร้างแผนทางการเงินและอัตราค่าไฟฟ้า

อ่านเวอร์ชันที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005204/en/

ติดต่อสอบถามได้ที่:

Kazuki Hashi
Secretary and Risk Management Office (สำนักงานเลขานุการและบริหารความเสี่ยง), TEPCO Power Grid, Inc.
pgkouhou@tepco.co.jp / +81-3-6373-1111

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย