Category Archives: Lifestyle

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีเปิดตัวแคมเปญ ‘Come Play with Korea K-VIBE FESTA’ แคมเปญระดับโลกใหม่ที่ใช้เมตาเวิร์ส

Logo

– ประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่ที่จะพาไปเยือนสถานที่ที่ได้รับความนิยมในเกาหลีผ่านโลกเสมือนจริง

– เผยแพร่เสน่ห์ของประเทศเกาหลีไปทั่วโลกด้วย K-Travelog, K-VIBE in ZEPETO และ K-VIBE CONCERT

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2564

กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (รัฐมนตรี Hee Hwang) และ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (ประธาน Young-bae Ahn) เปิดตัวแคมเปญใหม่ 'Come Play with Korea, K-VIBE FESTA' โดยใช้แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สกับเทคโนโลยีความเป็นจริงขยาย (extended reality หรือ XR) เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบใหม่ก่อนที่จะได้เดินทางมาเยือนด้วยตัวเอง ซึ่งเกาหลีได้รับความสนใจขึ้นมากหลังเปิดตัวซีรีส์ “Feel the Rhythm of Korea” ไปเมื่อปีที่แล้วพร้อมบทเพลงอย่าง “Tiger is Coming Down”

A new campaign 'Come Play with Korea, K-VIBE Festa' using the metaverse platform on an extended reality (XR) to provide a new traveling experience to Korea is launched. As part of the campaign, Korea Tourism Organization introduces Korea's diverse attractions with 'K-Travelog', the Korean virtual travel experience platform, and provides the 'K-VIBE in ZEPETO' program that connects 3D avatars to Korea’s representative tourist destination Gyeongju. In addition, a 'K-VIBE Concert' with top K-pop artists will be held with Korean local attractions (K-Local) implemented on XR in the background, to display the charms of Korea. (Graphic: Business Wire)

แคมเปญใหม่ที่ชื่อ 'Come Play with Korea, K-VIBE FESTA' โดยใช้แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สกับเทคโนโลยี XR เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีในรูปแบบใหม่ได้รับการเปิดตัว โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีได้แนะนำความน่าสนใจของประเทศเกาหลีที่หลากหลายผ่าน 'K-Travelog', แพลตฟอร์มประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบเสมือน และโปรแกรม 'K-VIBE in ZEPETO' ที่จะพาอวทาร์แบบสามมิติมาเยือนจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเมืองตัวแทนของเกาหลีอย่างคยองจู นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม 'K-VIBE CONCERT' ที่จะได้พบกับศิลปินเคป๊อปของเกาหลีโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวของเกาหลี (K-Local) ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยี XR เป็นฉากหลังเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเกาหลี (กราฟิก: Business Wire)

สำหรับแคมเปญใหม่นี้ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) จะใช้เทคโนโลยีเมตาเวิร์สในการแนะนำเอกลักษณ์และเสน่ห์ของแต่ละภูมิภาคให้กับผู้ใช้ที่อยู่ทั่วโลก

นอกจากนั้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลียังจะแนะนำความน่าสนใจของประเทศเกาหลีที่หลากหลายผ่าน 'K-Travelog', แพลตฟอร์มประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบเสมือน และโปรแกรม 'K-VIBE in ZEPETO' ที่จะพาอวทาร์แบบสามมิติมาเยือนจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นเมืองตัวแทนของเกาหลีอย่างคยองจู รวมถึงกิจกรรม 'K-VIBE CONCERT' ที่จะได้พบกับศิลปินเคป๊อปแถวหน้าของเกาหลีโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวของเกาหลี (K-Local) ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยี XR เป็นฉากหลังเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเกาหลี

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะใช้ K-Travelog เพื่อมอบโอกาสที่จะได้สัมผัสประเทศเกาหลีโดยตรงและยังให้สามารถกำหนดแผนการเดินทางได้เอง นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจและร้านอาหารหลายแห่งในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งในปูซาน อันดง คยองจู แทกู ยางยาง โซล และอีกมากมายโดยสามารถเลือกชมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (www.kvibefesta.com) ซึ่งเปิดตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถออกแบบและวางแผนการเดินทางในฝันครั้งใหม่ในการมาเยือนประเทศเกาหลี

ไม่เพียงเท่านั้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะนำรูปภาพของผู้เข้าร่วมแคมเปญมาสร้างสรรค์เป็นวิดีโอท่องเที่ยวเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับพวกเขาต่อไป ในวิดีโอ ผู้เข้าร่วมจะรู้สึกราวกับว่าได้มาเยือนเกาหลีจริง ๆ และยังมีโอกาสที่จะได้รับ 'K-Random Box' ซึ่งภายในกล่องประกอบไปด้วยสิ่งของที่ผลิตขึ้นมาพิเศษในจำนวนจำกัด โดยมีทั้งของที่ระลึกที่สื่อถึงวัฒนธรรมเกาหลีและของที่ระลึกจากศิลปินเคป๊อป และในหน้าแคมเปญจะมีการจัดกิจกรรม 'Fan Letter Event' ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกศิลปินและสถานที่ในเกาหลีที่ต้องการไปเยือนพร้อมกับศิลปินได้ด้วย

สำหรับกิจกรรม K-VIBE in ZEPETO ซึ่งเชื่อมกับ ZEPETO แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเกาหลี องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีได้จำลองเมืองคยองจู ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกแห่งอาณาจักรชิลลาอันน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมา โดยผู้ใช้จะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างถนนฮวังริดังอิลและหมู่บ้านบุกชอนฮันอก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น หอดูดาวชอมซองแด สุสานชอนมาชง และศาลาโพซอกจอง พร้อมกับมีการแสดงรายชื่อสถานที่ในท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมอย่างร้าน Hwangnam Bakery และ Yangji Dabang เพื่อสนับสนุนเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้

ในส่วนของกิจกรรม K-VIBE CONCERT ซึ่งจะจัดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี XR ที่เป็นเทคโนโลยีหลักของเมตาเวิร์สนั้น จะแสดงความงดงามของประเทศเกาหลีในที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อชวนผู้ใช้จากทั่วโลกดำดิ่งไปในเสน่ห์อันน่าหลงใหลของประเทศเกาหลี คอนเสิร์ตซึ่งเตรียมจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้จะเผยแพร่ผ่านการสตรีมสดแบบเรียลไทม์จากสตูดิโอเป็นเวลาราว 80 นาที เพื่อให้ได้ชมศิลปินเคป๊อปไปพร้อมสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ เกาหลีอย่างอาคารลอตเต้ ย่านอินซาดง และหาดเซิร์ฟยางยาง

Choongsub Oh ผู้อำนวยการฝ่าย Brand Marketing ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า “เมตาเวิร์สคือระบบนิเวศใหม่ที่ทำให้เส้นแบ่งเขตแดนหายไปและทำให้ฝันและประสบการณ์ของทุกคนกลายเป็นจริง ด้วยแคมเปญเมตาเวิร์สนี้ เราจะสามารถมอบโอกาสให้กับผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีและความฝันที่จะได้มาเยือนเกาหลีในรูปแบบใหม่ และยังมอบโอกาสให้ประเทศของเราได้อวดความเป็นผู้นำในตลาดเมตาเวิร์สอีกด้วย”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูภาพ/แกลเลอรี่สื่อมัลติมีเดียที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/52528824/en

ติดต่อ:

Korea Tourism Organization

Brand Marketing Team

Choongsub Oh

+82-33-738-3331

ocs@knto.or.kr

Kichan Nam

+82-33-738-3335

yuki4@knto.or.kr 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นที่จอนจู เมืองแห่งรสชาติ

Logo

จอนจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2564

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิซึ่งเปิดในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

A festival where participants can learn Kimchi making in Jeonju, the city of taste, 2021 Jeonju Kimchi Culture Festival is held online and across Jeonju city from November 2 to 30. The festival offers various programs including Kimchi making, Kimchi sharing, Kimchi culture tour, and other specialized programs. (Photo: Business Wire)

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งเมืองจอนจู ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน เทศกาลนำเสนอโปรแกรมที่หลากหลาย รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ (ภาพ: Business Wire)

เมืองจอนจูประกาศว่างานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 ที่จัดงานโดยศูนย์ Jeonju Food Integrated Support Center จะมีขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งบริเวณเมืองรวมถึงสนามกีฬา Jeonju Stadium ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน

เทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival จัดขึ้นเป็นครั้งที่สามของปีนี้ ซึ่งจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆ ในเวลาที่แตกต่างกันโดยคำนึงถึงสถานการณ์ของโควิด-19 แม้ว่าเทศกาลปีที่แล้วได้จัดให้มีโปรแกรมที่มอบประสบการณ์การทำกิมจิ (กิมจัง หรือ Kimjang) ให้เป็นงาน Drive-Thru เท่านั้น แต่ในปีนี้จะจัดขึ้นทั้งแบบ Drive-Thru และจัดงานนอกสถานที่อีกด้วย

งานเทศกาลนี้นำเสนอทั้งหมด 12 โปรแกรม รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ

Kimjang experience ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักที่จะจัดขึ้นเป็นงาน Drive-Thru ในวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 450 ครอบครัว ในวันที่ 20 และ 21 จำนวน 150 ครอบครัว แบ่งเป็นกลุ่มละ 25 ครอบครัวต่อการเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การทำกิมจิที่สนามกีฬา Jeonju Stadium นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์ Kimjang experience สำหรับครอบครัวหลากหลายทางวัฒนธรรมและนักเรียนต่างชาติ ซึ่งจัดขึ้นให้ที่ศูนย์ Jeonju Kimchi Cultural Center และมหาวิทยาลัยในแต่ละแห่ง

ในวันที่ 19 และ 20 จะมีการจัดกิจกรรมแบ่งปันกิมจิ องค์กรและกลุ่มต่าง ๆ ในจอนจูจะมอบกิมจิให้กับชั้นเรียนที่ถูกละเลยไป โปรแกรมนี้ยังรวมกิจกรรม 'การแบ่งปันกิมจิด้วยเรื่องราว หรือ Kimchi Sharing with Story' ที่ผู้เข้าร่วมสามารถส่งกิมจิไปยังคนที่พวกเขาต้องการแสดงความขอบคุณหรือเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ

Two-day Kimchi culture tour ประกอบด้วยโปรแกรม 'นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์กิมจัง หรือ Kimjang Experience for Tourists' ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การทำกิมจิไปพร้อม ๆ กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้ง 'โรงเรียนกิมจิที่แสนอร่อย หรือ Delicious Kimchi School' และโปรแกรมการทำกิมจิสุดพิเศษ 1 กิโลกรัม โดยผู้เข้าร่วมสามารถลองทำกิมจิหลากหลายชนิดที่ใช้ผลิตผลจากฟาร์มท้องถิ่นของจอนจู

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น การประกวดกิมจิกำหนดไว้ที่ 20 ครอบครัว สัมผัสประสบการณ์การนวดข้าว และโซนภาพถ่าย

ผักกะหล่ำปลีที่ใช้ในช่วงเทศกาลจะจัดหามาจากบ้านไร่ทั่วจอนจูและนำไปหมักเกลือที่โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP ส่วนเครื่องปรุงต่าง ๆ อย่างเช่น พริกแดงและหัวไชเท้า จะใช้เฉพาะที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยสำหรับสินค้าเกษตรเท่านั้น หลังจากเสร็จสิ้นงานเทศกาลผักกะหล่ำปลีและเครื่องปรุงรสที่เหลือจะวางขายที่ตลาด Kimchi Street Farmers’ Market ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 25-27 พฤศจิกายนในร้าน Jeonju Food store

เจ้าหน้าที่ศูนย์ Jeonju Agricultural Technology Center กล่าวว่า “ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความเป็นเลิศของกิมจิที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ได้รับการตรวจสอบยืนยันทั่วโลก เราได้เตรียมเทศกาลนี้เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำกิมจิแบบดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางด้านวัฒนธรรมที่ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก (UNESCO Intangible Cultural Heritage of Humanity)”

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

ติดต่อ:

JEONJU CITY
Inuk Hwang
+82-63-281-2226
inuk0614@korea.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานแนวโน้มทั่วโลกจาก Hilton เผยโรคระบาดได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนและความสนใจของนักท่องเที่ยวในปี 2565 ในรูปแบบต่าง ๆ ที่คาดไม่ถึง

Logo

มีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวในปี 2565 จะนิยมเดินทางท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง เดินทางเพื่อพบปะสังสรรค์ ประสบการณ์แบบไร้สัมผัส การเรียนรู้และทดลองทำอาหาร การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และอื่น ๆ

ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–8 พฤศจิกายน 2564

การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด วันนี้ Hilton ได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเผยว่าการระบาดของโรคได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน อย่างไร ผ่านรายงานหัวข้อ “รายงานจาก Hilton หัวข้อ นักท่องเที่ยวในปี 2565 กับเทรนด์เกิดใหม่และนิยามใหม่ของนักท่องเที่ยว” หรือ “The 2022 Traveler: Emerging Trends and the Redefined Traveler, a Report from Hilton” โดยจะเจาะลึกถึงความจริงที่สำคัญว่า ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และสิ่งนั้นก็เปลี่ยนแปลงผู้คนอย่างรุนแรงในช่วง 2 ปี

ในฐานะบริษัทที่ต้อนรับแขกผู้เข้าพัก 3 พันล้านคนในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีที่ผ่านมา Hilton ได้นำเสนอในรายงานว่าโรงแรมมีการพัฒนาไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยจัดการกับความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น:

  • ฟิตเนส: วิธีการของแอปพลิเคชันออกกำลังกายและกิจวัตรการออกกำลังกายใหม่ ๆ ได้เปลี่ยนแนวทางของผู้คนในการออกกำลังกายในสถานที่ไหน เมื่อไร และอย่างไร
  • สปา: การให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นนั้นทำให้สปาและประสบการณ์ด้านโรงแรมแบบองค์รวมพัฒนาขึ้นได้อย่างไร
  • อาหารและเครื่องดื่ม: เทรนด์การอบขนมที่บ้านทำให้ความต้องการในการเรียนรู้และทดลองทำอาหารเพิ่มมากขึ้น เช่น ความต้องการเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำไปจนถึงไม่มีแอลกอฮอล์
  • ความยั่งยืน: การล็อคดาวน์ 18 เดือนทำให้เกิดความสนใจใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืน ตั้งแต่การจัดหาอาหารไปจนถึงการลดของเสียได้อย่างไร
  • การออกแบบ: การพัฒนาสิ่งของ DIY งานอดิเรกปลูกต้นไม้ และการทำงานจากลานบ้านกำลังเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อการออกแบบของโรงแรมได้อย่างไร
  • สิ่งอำนวยความสะดวก: การเพิ่มจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงในช่วงการระบาดใหญ่นั้นทำให้การท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงและการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง สิทธิพิเศษ และอื่น ๆ ของโรงแรมได้รับความสนใจมากขึ้นได้อย่างไร
  • ความภักดี: การเพิ่มขึ้นของโปรแกรมสมาชิกในทุกภาคส่วนนำไปสู่การออกแบบเฉพาะบุคคลและผลประโยชน์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าได้อย่างไร

“คริส นาสเซตตาประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hilton กล่าวว่า “โลกและอุตสาหกรรมการบริการได้ผ่านอะไรมามากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และตามที่เราได้เปิดเผยในรายงานนี้ ความต้องการและความสนใจของนักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ที่ Hilton เราทุ่มเทอย่างมากในการมอบประสบการณ์ที่แขกของเรากำลังมองหาผ่านทุกสิ่งที่เราเผชิญมา ขณะที่เรามองไปยังอนาคตอยู่นั้น ฉันมองเห็นสิ่งดี ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า การท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะทำให้แนวโน้มนั้นเกิดขึ้น”

รายงานนี้เน้นย้ำถึงแนวโน้มและทิศทางการท่องเที่ยวและพฤติกรรมที่น่าสนใจมากมายที่นำไปสู่นวัตกรรมทั้งในและนอกโรงแรม ขณะที่เทรนด์แต่ละอย่างจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกและการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอยู่นั้น หัวข้อที่สอดคล้องกัน 4 หัวข้อก็ปรากฎขึ้น โดยสรุปถึงนักท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากโรคระบาดดังนี้:

  • ผู้คนได้พบกับความมีประสิทธิภาพต่าง ๆ ท่ามกลางความวุ่นวาย และจะมองหาประสิทธิภาพนี้ในการท่องเที่ยว: ผู้คนได้นำเอาประสิทธิภาพต่าง ๆ มาปรับใช้ในหลาย ๆ ด้านของชีวิต และจะมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่คล้ายคลึงกันในการท่องเที่ยว เช่น การเช็คอินและเช็คเอาต์แบบไร้สัมผัส และดิจิทัลคีย์
  • การมุ่งเน้นด้านสุขภาพโดยรวมจะครอบคลุมมากกว่าโรงยิม: ด้วยสถานที่ทำงานที่ปรับโฉมใหม่ บวกกับกิจวัตรและพฤติกรรมใหม่ ๆ นักท่องเที่ยวจะจำกัดบริเวณและสร้างความสมดุลในตารางการเดินทางของพวกเขามากขึ้น
  • นักท่องเที่ยวมีความสนใจเรื่องใหม่และเรื่องเดิมที่มีอยู่ และจะมีรสนิยมและความชอบที่ละเอียดลออกว่าเดิม: งานอดิเรกที่เพิ่มมาใหม่ทำให้นักท่องเที่ยวปี 2565 มีข้อมูลมากขึ้น ซับซ้อนยิ่งขึ้น และในบางกรณีมีความแข็งแรงของสุขภาพมากขึ้นด้วย
  • ความรู้สึกใส่ใจรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น และคาดหวังว่าจะแข็งแกร่งขึ้น: การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้แยกครอบครัวและเพื่อนฝูงออกจากกัน ซึ่งทำให้การเดินทางเพื่อพบกันอีกครั้งและการเดินทางเพื่อพบปะสังสรรค์มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ในปี 2565 นอกเหนือจากแวดวงที่เกี่ยวข้องแล้ว มีการคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจะใส่ใจต่อความยั่งยืนและชุมชนมากขึ้น และยังคงรักษาความภักดีต่อแบรนด์ บริษัท และองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา

ดร. เคท คัมมินส์นักจิตวิทยาคลินิกที่ตระหนักว่าการท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี กล่าวว่า “ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการตระหนักถึงผลกระทบด้านจิตวิทยาที่โรคระบาดนี้ได้สร้างไว้ และจะยังคงสร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในอีกหลายปีข้างหน้า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนไป แต่ประโยชน์ของการท่องเที่ยวยังคงอยู่เหมือนเดิม ทั้งด้านสุขภาพทางอารมณ์และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และหลังจาก 2 ปีที่หนักหนาสาหัสผ่านไป นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องการ”

อเล็กซานดร้า จาริทส์รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารแบรนด์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Hilton  กล่าวว่า “จากข้อจำกัดด้านการเดินทางที่ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงในตลาดเอเชียแปซิฟิกบางแห่ง ปี 2565 จึงดูมีแนวโน้มที่ดีสำหรับภูมิภาคนี้ แม้จะมีการระบาดใหญ่ของโรค แต่เรายังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและนำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาในเอเชียแปซิฟิก และเราตั้งตารอที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในอนาคตอันใกล้และพร้อมส่งต่อแสงสว่างและความอบอุ่นของการเดินทางและการต้อนรับอย่างมีไมตรีจิต แขกของเราคือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำที่ Hilton และการมีความเข้าใจถึงการปรับตัวของนักท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการมอบประสบการณ์พิเศษที่แขกของเราใฝ่หามาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา”

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมและรายงานฉบับเต็มได้ที่ Newsroom.Hilton.com/TrendsReport หรือวางแผนการท่องเที่ยวปี 2565 ได้ที่ Hilton.com

###

เกี่ยวกับ Hilton
Hilton (NYSE: HLT) บริษัทด้านการบริการชั้นนำระดับโลก ที่มีแบรนด์โรงแรมระดับโลกภายใต้การบริหารของบริษัทถึง 18 แบรนด์ มากกว่า 6,700 แห่งและมีห้องพักกว่า 1 ล้านห้อง ใน 122 ประเทศและเขตการปกครอง Hilton มุ่งมั่นทำตามวิสัยทัศน์เริ่มต้นที่จะนำพาชีวิตชีวาและความอบอุ่นแห่งการบริการมาสู่โลกใบนี้ โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 3 พันล้านคนตลอดระยะเวลากว่า 100 ปี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของโลกปี 2564 และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมระดับโลก ปี 2563 จาก Dow Jones Sustainability Indices และในปี 2563 โปรแกรม Hilton CleanStay ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อ และนำไปใช้ในโรงแรมฮิลตันทั่วโลก ตลอดจนการบริหารโปรแกรมสมาชิก Hilton Honors ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับรางวัลมากมาย มีสมาชิกกว่า 123 ล้านคนสำรองห้องพักผ่านช่องทางของ Hilton โดยตรง เพื่อการเข้าพักและประสบการณ์ในรูปแบบพิเศษที่หาซื้อไม่ได้ แขกที่เข้าพักสามารถใช้แอปพลิเคชัน Hilton Honors บนโทรศัพท์มือถือเพื่อจองที่พัก เลือกห้องพัก เช็คอิน ปลดล็อกประตูด้วยดิจิทัลคีย์ และเช็คเอาท์ ทั้งหมดนี้ทำได้จากสมาร์ทโฟนของตน ติดตามข้อมูลของฮิลตันได้ที่ newsroom.hilton.com หรือติดตามผ่านFacebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52510996/en

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
Daphne Tan
Hilton – Asia Pacific
Daphne.Tan@Hilton.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hyatt เข้าซื้อ Apple Leisure Group สำเร็จ พร้อมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกด้านการพักผ่อนและการเดินทางอันหรูหราแบบครบวงจร

Logo

ก้าวสู่จุดที่พร้อมช่วงชิงความต้องการต่อการเดินทางเพื่อพักผ่อนที่มีสูงและกำลังเติบโต ด้วยข้อเสนอแบบครบวงจรและพอร์ตโฟลิโออันหลากหลายที่กำลังขยายมากขึ้น

ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะขายสินทรัพย์เพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นสุดปี 2567 ขณะที่การขายสินทรัพย์รอบปัจจุบันนั้นดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–02 พฤศจิกายน 2564

วันนี้ Hyatt Hotels Corporation (NYSE: H) ประกาศว่า Hyatt ได้ดำเนินการเข้าซื้อ Apple Leisure Group® (ALG) กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการรีสอร์ตหรู การท่องเที่ยว และการบริการจากบริษัทในเครือของทั้ง KKR และ KSL Capital Partners, LLC สำเร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้มีการประกาศไปก่อนหน้านี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211102005724/en/

Dreams Las Mareas Resort and Spa (Photo: Business Wire)

Dreams Las Mareas Resort and Spa (ภาพ: Business Wire)

Hyatt พร้อมขยายอาณาจักรรีสอร์ตทั่วโลกเป็นสองเท่าผ่านธุรกิจภายใต้แบรนด์ AMR™ Collection ของ ALG ที่เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งประกอบไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ตราว 100 แห่งใน 10 ประเทศ รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ อีก 24 รายการที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ Hyatt กลายเป็นหนึ่งในเครือรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ของ Hyatt ในเมือง เช่น อากาปุลโก กือราเซา หมู่เกาะคะแนรี เกาะมินอร์กา และเกาะเซนต์มาร์ติน การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Hyatt เป็นเจ้าของอสังหาในตลาดยุโรปเพิ่มเติมอีก 11 แห่งและขยายธุรกิจในยุโรปไปถึง 60% ซึ่งช่วยเสริมแกร่งให้กับศักยภาพในการเติบโตของ Hyatt ในภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อความต้องการในการเดินทางเพื่อการพักผ่อนทั่วโลก

ไม่เพียงเท่านั้น Hyatt ยังนำเสนอตัวเลือกและประสบการณ์ที่มากยิ่งขึ้นให้กับแขกและฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดบน และยกระดับประสบการณ์การเดินทางเพื่อการพักผ่อนแบบครบวงจรในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

  • Unlimited Vacation Club® by AMR™ Collection คลับแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกที่ให้สมาชิกจะได้เพลิดเพลินกับอัตราค่าบริการที่พึงพอใจและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ณ ที่พักในเครือ AMR™ Collection ที่ร่วมรายการ
  • ALG Vacations® หนึ่งในผู้ให้บริการแพ็คเกจท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ ซึ่งให้บริการในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคริบเบียน
  • Amstar บริษัทชั้นนำด้านการจัดการบริการที่จุดหมายปลายทาง
  • Trisept Solutions® แพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่มีความเฉพาะไม่เหมือนใคร

Hyatt อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบที่โปรแกรม World of Hyatt® และ Unlimited Vacation Club® ของ ALG จะสามารถมอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้นให้กับฐานสมาชิกของแต่ละแบรนด์ โดย Hyatt มีแผนที่จะรวม AMR™ Collection เข้ากับโปรแกรม World of Hyatt ในปี 2565 นี้ เพื่อให้สมาชิกสามารถสะสมและแลกคะแนนจาก World of Hyatt ณ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ที่มีกว่า 100 แห่งได้

Mark Hoplamazian ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hyatt กล่าวว่า “การเข้าซื้อ ALG ของ Hyatt เป็นเหตุการณ์ที่จะกำหนดทิศทางแบรนด์ในประวัติศาสตร์กว่า 60 ปีของเรา และเป็นการต่อยอดความเป็นผู้นำทางด้านการบริการที่เราสานต่อจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจของ Hyatt และ ALG มีความลงตัวกันอย่างมากและเรายังยึดมั่นอย่างลึกซึ้งในการมอบประสบการณ์ที่เน้นเรื่องการใส่ใส่ดูแลเพื่อร่วมงานและแขกเหมือนกัน หลังเข้าสู่อุตสาหกรรมที่พักหรูแบบครบวงจรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นครั้งแรกในปี 2556 เราได้ก้าวมาสู่จุดที่มีความพร้อมในการช่วงชิงความต้องการต่อการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่มีอย่างมากและกำลังเพิ่มขึ้น และขยายบริการระดับโลกที่เรามีอยู่ให้กับนักเดินทางกลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างครอบคลุม เราตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับทีม ALG สู่ครอบครัว Hyatt และตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกันเพื่อทะยานสู่การเติบโตในระดับใหม่และสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้น เจ้าของ ลูกค้า แขกผู้เข้าพัก สมาชิก และเพื่อนร่วมงานของเรา”

Alejandro Reynal ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน Apple Leisure Group กล่าวว่า “วันนี้คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่สำหรับ ALG ซึ่งเราจะนำความภักดีของลูกค้าและชื่อเสียงอันแข็งแกร่งที่เราสะสมมาจากแบรนด์และบริการด้านการเดินทางระดับหรูมาต่อยอดต่อไปหลังจากที่เราได้เข้าไปส่วนหนึ่งกับ Hyatt แล้วในตอนนี้ เราเชื่ออย่างมากว่าเราสามารถประสบความสำเร็จได้มากขึ้นร่วมกัน และตื่นเต้นกับโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นของเรา รวมถึงสมาชิกทีม ALG ที่ตื่นเต้นกับการได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรระดับโลกที่ใหญ่ขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญจาก Hyatt ที่จะเข้ามาเสริม เราหวังที่จะเร่งขยายธุรกิจของเราให้เติบโตจากการต้อนรับนักเดินทางที่มากขึ้นและช่วยเปลี่ยนความฝันในการเดินทางพักผ่อนให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม”

ธุรกิจของ ALG จะยังคงดำเนินการภายใต้การนำของ Alejandro Reynal และทีมบริหารปัจจุบันของ ALG โดย ALG จะดำเนินการในรูปแบบของธุรกิจอิสระภายใต้ Hyatt ทั้งนี้ คุณ Reynal ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารของ Hyatt และรายงานตรงต่อคุณ Hoplamazian

ในเดือนกันยายน 2564 ทาง Hyatt ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้ประกาศไปในปี 2563 ส่งผลให้มีรายได้รวมที่รับรู้เพิ่มขึ้นกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่ได้มีการประกาศกลยุทธ์ในการเข้าครอบครอบสินทรัพย์ไปในปี 2560 ด้วยกำไร EBITDA ที่รวมกันมากกว่า 17 เท่า Hyatt ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มรายได้อีก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมภายในสิ้นปี 2567

ที่ปรึกษา
สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้มี BDT & Company, LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Hyatt และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย PJT Partners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ ALG และ Simpson Thacher & Bartlett LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย Credit Suisse และ Deutsche Bank Securities Inc. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ KKR และ KSL Capital Partners

ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ใช้คำว่า “Hyatt” เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงถึง Hyatt Hotels Corporation และ/หรือบริษัทในเครือหนึ่งแห่งหรือมากกว่า

เกี่ยวกับ Hyatt Hotels Corporation
Hyatt Hotels Corporation ซี่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในชิคาโก เป็นบริษัทด้านการบริการชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์ระดับพรีเมียมในเครือถึง 20 แบรนด์ เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโรงแรมกว่า 1,000 แห่งในพอร์ตโฟลิโอและอสังหาแบบครบวงจรใน 68 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก บริษัทมีเจตนารมณ์ในการให้ความใส่ใจต่อผู้อื่น ให้ข้อมูลที่พร้อมที่สุดสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตซึ่งมุ่งมั่นที่จะดึงดูดใจให้ผู้มากฝีมือของอุตสาหกรรมนี้เข้ามาร่วมงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและแขกผู้มาพัก ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยที่พัฒนา เป็นเจ้าของ ดำเนินงาน บริหาร ดูแลแฟรนไชส์ จดทะเบียน หรือให้บริการแก่โรงแรม รีสอร์ต ห้องพักระดับหรู และผู้ที่มีธุรกิจที่พักเพื่อการพักผ่อน ภายใต้ชื่อดังนี้ Park Hyatt®, Miraval®, Grand Hyatt®, Alila®, Andaz®, The Unbound Collection by Hyatt®, Destination by Hyatt™, Hyatt Regency®, Hyatt®, Hyatt Ziva™, Hyatt Zilara™, Thompson Hotels®, Hyatt Centric®, Caption by Hyatt, JdV by Hyatt™, Hyatt House®, Hyatt Place®, tommie™, UrCove และ Hyatt Residence Club® รวมทั้งโปรแกรม World of Hyatt® ที่มอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์อันเหนือระดับให้แก่สมาชิกผู้มีอุปการะคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.hyatt.com

เกี่ยวกับ Apple Leisure Group®
Apple Leisure Group® (ALG) เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ต การท่องเที่ยว และการบริการชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือซึ่งมีโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างและให้บริการนักเดินทางในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในเครือ ALG ได้มอบประสบการณ์ที่มีค่าให้กับนักเดินทางและผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการรีสอร์ตและพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีในพอร์ตโฟลิโออย่างมีกลยุทธ์ โดยแบรนด์เหล่านั้นประกอบด้วย: AMResorts LP หรือบริษัทในเครืออย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งให้บริการครบทั้งด้านการขาย การตลาด และการบริหารจัดการแบรนด์กับแบรนด์รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว และ 4 ดาว ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว ได้แก่ Secrets® Resorts & Spas, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas, Zoëtry® Wellness & Spa Resorts, Alua® Hotels & Resorts และ Sunscape® Resorts & Spas รวมถึง ALG Vacations® หนึ่งในผู้จำหน่ายแพ็คเกจท่องเที่ยววันหยุดรายใหญ่ที่สุดและผู้ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากสหรัฐอเมริกาไปยังเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน รวมถึงแบรนด์ที่มีความมั่นคงอย่าง Apple Vacations®, Funjet Vacations®, Travel Impressions®, CheapCaribbean.com®, BeachBound®, Blue Sky Tours®, Southwest Vacations® และ United Vacations® รวมถึงโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกอย่าง Unlimited Vacation Club® และบริการจัดการจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในตลาดโดย Amstar DMC รวมถึงผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Trisept Solutions® ซึ่งเชื่อมโยงตัวแทนท่องเที่ยวมากกว่า 88,000 แห่งเข้ากับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดเด่นของ Apple Leisure Group® โปรดดูที่ www.appleleisuregroup.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า
แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลในอดีต ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้ความหมายของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ. 2538 แถลงการณ์เหล่านี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ Apple Leisure Group® ของบริษัท รวมถึงผลประโยชน์ทางการเงินและการดำเนินการที่คาดซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อดังกล่าว ผลประโยชน์สำหรับแขกผู้เข้าพักและผู้ประกอบการที่จะได้จากการเข้าซื้อครั้งนี้ จำนวนและระยะเวลาในการขายสินทรัพย์ในอนาคตและยอดขายที่คาดการณ์ว่าจะได้จากการขายสินทรัพย์นั้น การเติบโตที่คาดการณ์ของการเดินทางแบบหรูหราทั่วโลกและสัดส่วนรายได้จากค่าห้องพักทั้งหมดของบริษัท รายได้รวมจากค่าธรรมเนียมในอนาคตของบริษัท สิทธิประโยชน์และมูลค่าเพิ่มที่คาดการณ์จากโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิกและข้อเสนอสำหรับสมาชิกโดย Apple Leisure Group แผน กลยุทธ์ ภาพรวม ผลประกอบการ ประมาณการ ข้อเสนอทางการเงิน โอกาสหรือเหตุการณ์ในอนาคตของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งยากที่จะคาดการณ์ ดังนั้น ผลการดำเนินการ ผลประกอบการ หรือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งโดยตรงและโดยนัย ในบางกรณี คุณสามารถระบุแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าโดยการใช้คำศัพท์เช่น “อาจ” “อาจจะ” “คาดว่า” “ตั้งใจว่า” “วางแผน” “มุ่งหา” “คาดการณ์” “เชื่อว่า” “ประมาณว่า” “พยากรณ์ว่า” “มีแนวโน้ม” “เดินหน้า” “เป็นไปได้ว่า” “จะ” และหรือคำหรือวลีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน หรือคำที่มีความหมายในเชิงลบของคำหรือวลีที่คล้ายกันเหล่านี้ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ตั้งอยู่บนการคาดการณ์และสมมติฐานต่าง ๆ ซึ่งแม้จะผ่านการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลโดยบริษัทและผู้บริหารของเราแล้วแต่ก็มีความไม่แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ผลที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์ในปัจจุบันประกอบด้วยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ในการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group® รวมถึงการเป็นหนี้ที่ไม่ได้มาจากการกู้ยืมเพิ่มเติม ความสามารถของบริษัทในการบูรณาการกับพนักงานและการดำเนินการของ Apple Leisure Group ได้สำเร็จ ความสามารถในการรับรู้ผลประโยชน์ที่คาดและการทำงานร่วมกันของการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group® ตามที่เสนออย่างรวดเร็วหรือในระดับที่คาดหวัง ระยะเวลาของการเกิดโรคระบาดโควิด-19 และความรวดเร็วในการฟื้นตัวหลังสิ้นสุดโรคระบาด การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธุ์ของโควิด -19 ผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงความต้องการต่อการท่องเที่ยว ที่พักระยะสั้นและธุรกิจกลุ่ม และระดับความมั่นใจของผู้บริโภค ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ สายพันธ์ุของโควิด-19 และผลกระทบจากการรับมือของรัฐบาล ธุรกิจ และบุคคลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ข้อจำกัดและการห้ามเดินทาง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงระยะเวลาและความรุนแรงของผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่ออัตราการว่างงานและการใช้จ่ายตามดุลยพินิจของผู้บริโภค การกระจายของวัคซีนโควิด-19 และการยอมรับวัคซีนนั้นของประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ความสามารถของเจ้าของที่เป็นบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ หรือพันธมิตรธุรกิจบริการในการรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ุของโควิด-19 ได้สำเร็จ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวมในตลาดทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ อัตราและระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้อจำกัดและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อตลาดในกลุ่มที่พักระดับหรู รีสอร์ต และที่พักแบบครบวงจร ระดับการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ การพักผ่อน และภาคส่วนทั้งหมด รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภค อัตราการเข้าพักและอัตราเฉลี่ยต่อวันที่ลดลง การคาดการณ์การสำรองที่พักในอนาคตที่ทำได้อย่างจำกัด การสูญเสียบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญ เงื่อนไขทางการเมืองและภูมิศาสตร์การเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองหรือที่เกี่ยวกับพลเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านการค้า การมุ่งร้าย หรือความหวาดกลัวต่อการมุ่งร้าย รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคตซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทาง อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุทอร์นาโด เฮอร์ริเคน น้ำท่วม ไฟป่า การรั่วไหลของน้ำมัน เหตุการณ์เกี่ยวกับนิวเคลียร์ การเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อทั่วโลก เช่น การระบาดของโควิด-19 หรือความหวาดกลัวต่อการระบาดของโรค ความสามารถของเราในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินการในระดับที่คาดหวังได้สำเร็จของโรงแรมที่มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือมีการรับรองเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลที่สาม ผลกระทบจากการปรับโฉมและพัฒนาโรงแรมใหม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผนจัดสรรเงินทุนของเรา โครงการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายเงินปันผล รวมถึงการลดลง การยกเลิก หรือการระงับกิจกรรมซื้อหุ้นคืนหรือการจ่ายเงินปันผล ลักษณะตามฤดูกาลและวัฏจักรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริการ การเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนท่องเที่ยวทางอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงในรสนิยมและความชอบของลูกค้าของเรา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและสหภาพแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงาน เงื่อนไขทางการเงินและความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของทรัพย์สินประเภทบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ และพันธมิตรกิจการบริการ การไร้ความสามารถที่อาจเกิดขึ้นของผู้ประกอบการบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ หรือพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาในการเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน หรือดำเนินการตามแผนเพื่อการเติบโต ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการและการจัดการที่อาจเกิดขึ้นและการขายและการเปิดตัวแนวคิดแบรนด์ใหม่ ระยะเวลาในการเข้าซื้อกิจการและการขายและความสามารถของเราในการรวมการเข้าซื้อกิจการที่เสร็จสมบูรณ์เข้ากับการดำเนินงานที่มีอยู่ ความล้มเหลวในการทำธุรกรรมที่เสนอให้สำเร็จ (รวมถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดหรือได้รับการอนุมัติที่จำเป็น) ความสามารถของเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจการจัดการและแฟรนไชส์ ไปพร้อมกับการลดสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของเราภายในกรอบเวลาเป้าหมายและตามมูลค่าที่คาดหวัง การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์ของเรา การยุติข้อตกลงการจัดการหรือแฟรนไชส์ของเราโดยไม่คาดคิด การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง รัฐ ท้องถิ่น หรือต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการปรับโครงสร้างสกุลเงิน การที่แบรนด์หรือนวัตกรรมใหม่ไม่ได้รับการยอมรับ ความผันผวนทั่วไปของตลาดทุนและความสามารถของเราในการเข้าถึงตลาดดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในอุตสาหกรรมของเรา รวมถึงที่เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมและตลาดที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ความสามารถของเราในการขยายโปรแกรม World of Hyatt และข้อเสนอสำหรับสมาชิกจาก Apple Leisure Group ได้สำเร็จ เหตุการณ์ทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของกระบวนการทางกฎหมายหรือทางปกครอง และการละเมิดกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานประจำปีของเราซึ่งอยู่ในส่วนของ Form 10-K และรายงานประจำไตรมาสในส่วนของ Form 10-Q ซึ่งสามารถขอรับได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ไม่ควรเชื่อมั่นเกินควรในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ ซึ่งจัดทำขึ้นในวันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้ เราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงข้อความในแถลงการณ์นี้ตามผลที่เกิดขึ้นจริง ข้อมูลใหม่ หรือเหตุการณ์ในอนาคต การเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ยกเว้นในขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้ หากเราได้ทำการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ไม่ควรมีการอนุมานว่าเราจะแก้ไขเพิ่มเติมในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้หรือในอนาคต

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211102005724/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
Franziska Weber
+1 312 780 6106
franziska.weber@hyatt.com

ข้อมูลติดต่อสำหรับนักลงทุน:
Noah Hoppe
+1 312 780 5991
noah.hoppe@hyatt.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


เทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival 2021 โชว์รูมสำหรับมุมมองการทำอาหารใหม่ ๆ

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–20 ตุลาคม 2564

เทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวฮ่องกง เป็นงานมหกรรมอาหารประจำปีของฮ่องกงมาช้านานแล้ว ในปีนี้เทศกาลกำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากการฟื้นตัวของเมือง โดยมาพร้อมกับการเฉลิมฉลองสุดตื่นเต้นตลอดเดือนพฤศจิกายน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมผ่านทางดิจิทัลและกำหนดการที่จัดขึ้นในสถานที่จริง เทศกาลนี้จะทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจให้แก่นักชิมอาหารทั่วโลกว่าฮ่องกงจะยังคงเป็นสถานที่รับประทานอาหารอันดับต้น ๆ ในยุคหลังโควิด

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211019006256/en/

Cocktail lovers and green lifestyle enthusiasts should not miss the “Sustainable Cocktail” online masterclass hosted by Agung Prabowo of Penicillin bar, winner of Asia's 50 Best Sustainable Bar Award for 2021. (Photo: Business Wire)

ผู้ชื่นชอบค็อกเทลและผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์รักษ์โลกไม่ควรพลาดมาสเตอร์คลาสออนไลน์หัวข้อ “Sustainable Cocktail” ที่จัดโดย Agung Prabowo จากบาร์ Penicillin ผู้ชนะรางวัล Asia's 50 Best Sustainable Bar Award ประจำปี 2564 (ภาพ: Business Wire)

การชะงักงันที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ไม่ได้ขวางกั้นความทะเยอทะยานในการเดินหน้าเพื่อความสำเร็จของฮ่องกง แม้จะมีความไม่แน่นอน แต่ก็มีร้านอาหารเปิดใหม่มากมายในปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายและความมีชีวิตชีวาให้กับวงการอาหารและเครื่องดื่ม

ด้วยธีม “โชว์รูมสำหรับมุมมองการทำอาหารใหม่ ๆ” เทศกาลในปีนี้จะนำเสนอประสบการณ์สดใหม่มากมาย ซึ่งประกอบไปด้วยการยกระดับนวัตกรรมสำหรับอาหารจีน การจัดมาสเตอร์คลาสออนไลน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ และรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยเน้นย้ำถึงความฉลาดปราดเปรื่องที่ประณีตสร้างสรรค์กลุ่มเฉพาะใหม่ในวงการอาหารของฮ่องกง

ยุคใหม่ของบาร์เทนเดอร์

ผู้ชื่นชอบค็อกเทลและผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์รักษ์โลกไม่ควรพลาด “Sustainable Cocktail” มาสเตอร์คลาสออนไลน์ที่จัดโดย Agung Prabowo จากบาร์ Penicillin ผู้ชนะรางวัล Asia's 50 Best Sustainable Bar Award ประจำปี 2564 รางวัลนี้ยกย่องความคิดสร้างสรรค์และความพยายามของ Prabowo และหุ้นส่วนของเขาในการลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของบาร์ ตัวอย่าง เช่น เปลือกมันฝรั่งจะนำมาสร้างสรรค์ให้เป็นอาหารว่างแบบแท่ง และส่วนเกินของขนมปังและชีสจะนำไปผสมลงในเหล้าสปิริตชนิดใหม่

ประสบการณ์ใหม่ในการทำอาหารจีน

สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ “Chinese Omakase by Masterchefs” ซึ่งเป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนระดับภัตตาคารแบบนอกกรอบและขับเคลื่อนด้วยแนวคิด แนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโอมากาเสะสไตล์ดั้งเดิม โดยแนวทางของอาหารจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเชฟ ให้เชฟมีอิสระในการสร้างสรรค์ และมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ เชฟระดับปรมาจารย์ 18 คนจากร้านอาหารจีนชื่อดังทั่วฮ่องกงจะเป็นผู้นำโครงการและแสดงความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและนวัตกรรม ตัวอย่างเช่น เชฟ Chan Yan Tak จากร้านอาหาร Lung King Heen ระดับ 3 ดาวมิชลิน จะพานักชิมไปชิมอาหารรสชาติที่หลากหลาย ขณะที่ Chef Jayson Tang จากร้านอาหาร Man Ho ระดับ 1 ดาวมิชลินได้สร้างสรรค์เมนูนวัตกรรมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันบนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน โลหะ และน้ำ

พลังใหม่ที่เขย่าวงการรับประทานอาหารในฮ่องกง

รายชื่อนักทำอาหารดาวรุ่งมาแรงจะเป็นจุดเด่นในการรณรงค์เพื่อแสดงการยอมรับพรสวรรค์การนำเทรนด์ในฮ่องกง เชฟ Sandy Keung เป็นหนึ่งในผู้เล่นหญิงเพียงไม่กี่คนในอุตสาหกรรมเนื้อย่าง (siu mei) โดยมีแบรนด์ของเธอเองอย่าง Good BBQ ซึ่งเนื้อย่างมักจะถูกผูกขาดให้ดำเนินการโดยเชฟผู้ชาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival 2021 โปรดเข้าไปที่ www.discoverhongkong.com/winedinefestival

เข้าชมภาพได้ที่: https://assetlibrary.hktb.com/assetbank-hktb/action/browseItems?categoryId=660&categoryTypeId=2&cachedCriteria=1

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211019006256/en/

ติดต่อ:

Ms Candice Leung
อีเมล: candice.leung@hktb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



ไลฟ์สตรีม Tokushima International Consumer’s Forum 2021 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2564

Logo

โทคุชิมะ ญี่ปุ่น–(บิสิเนสไวร์)–08 ต.ค. 2564

ฝ่ายนโยบายผู้บริโภคของจังหวัดโทคุชิมะกำลังส่งเสริมความคิดริเริ่มสำหรับการบริหารผู้บริโภคและการศึกษาโดยร่วมมือกับสำนักงานใหญ่เชิงกลยุทธ์ของหน่วยงานผู้บริโภคพรมแดนด้านนโยบายผู้บริโภคซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จัดตั้งขึ้นในจังหวัดโทคุชิมะให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนานโยบายระดับชาติ และการดำเนินงานระหว่างประเทศในการบริหารผู้บริโภค

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211007005054/en/

“Awa-Odori”, the one of the most famous “Bon-Odori”, originated in Tokushima prefecture and has the 400-year history. (Photo: Business Wire)

“Awa-Odori” หนึ่งใน “Bon-Odori” ที่มีชื่อเสียงที่สุด มีต้นกำเนิดในจังหวัดโทคุชิมะและมีประวัติยาวนาน 400 ปี (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

Tokushima International Consumer's Forum 2021 ซึ่งจัดโดยรัฐบาลจังหวัดโทคุชิมะ นำเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกิจการผู้บริโภคแห่งประเทศญี่ปุ่นและผู้เชี่ยวชาญในประเด็นผู้บริโภคจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศอาเซียนมาหารือเกี่ยวกับปัญหาผู้บริโภคและ โซลูชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการสร้างสังคมที่ยั่งยืนภายใต้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ และความก้าวหน้าของสังคมดิจิทัล

ฟอรัมจะไฟล์สตรีมบนเว็บไซต์ที่แสดงด้านล่าง  เราหวังว่าฟอรัมนี้จะอำนวยความสะดวกในการอภิปรายเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าและสนับสนุนนโยบายผู้บริโภคระหว่างประเทศ และช่วยปรับปรุงชีวิตของผู้คนในฐานะผู้บริโภคทั่วโลก

  1. หัวข้อหลัก
    “เส้นทางสู่การแก้ปัญหาใหม่ที่ผู้บริโภคต้องเผชิญ” ในขณะที่เรามุ่งหวังให้เกิดสังคมที่ยั่งยืน
    – มองไปสู่สังคมดิจิทัลหลังยุค COVID-19 –
  2. วันที่และเวลา (เวลาญี่ปุ่น)
    26 ตุลาคม (วันอังคาร) 2564 เวลา 10:00-16:40 น. (ถ่ายทอดสด)
  3. ตาราง (เวลาญี่ปุ่น)
  • เวลา 10:00-10:10 น. พิธีเปิด
  • เวลา 10:10–11:30 น. คำปราศรัย
    โดยผู้นำชั้นนำของโลกเกี่ยวกับการบริโภคอย่างมีจริยธรรมจากสหราชอาณาจักร , ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์
  • เวลา 11:40–12:50 น. เซสชั่น 1
    เซสชั่นโดยวิทยากร
  • เวลา 14:00–15:10 น. เซสชั่น 2
    เซสชั่นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลระดับชาติและระดับท้องถิ่นของประเทศอาเซียนและญี่ปุ่น
  • เวลา 15:20–16:30 น. เซสชั่น 3
    เซสชั่นการศึกษาผู้บริโภคเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศอาเซียนและจังหวัดโทคุชิมะ
  • เวลา 16:30–16:40 น. ปิด

*สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Tokushima International Consumer's Forum 2021 ที่แสดงด้านล่าง

Tokushima International Consumer's Forum 2021

https://www.pref.tokushima.lg.jp/en/world.consumer.forum/2021/

ข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดโทคุชิมะ (ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี)

https://discovertokushima.net/en/

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211007005054/en/

ติดต่อ

Consumer Policy Division, Consumer Development and Safety Bureau,
Crisis Management and Environment Department
Tokushima Prefectural Government
TEL: +81-88-621-2499
Aya Miyamoto
Email: miyamoto_aya_2@pref.tokushima.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

จังหวัดชุงชองเหนือ หรือ ชุงชองบุกโด จัดงาน ‘The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021’ ทางออนไลน์และในสถานที่จัดพร้อมกัน

Logo

– งานเอ็กซ์โปจัดรายการที่หลากหลายภายใต้หัวข้อ 'K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World'

ชองจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–8 ตุลาคม 2564

งาน 'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021' ที่จัดขึ้นโดยเมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ และจัดงานโดยมูลนิธิ Osong Bio Promotion Foundation ซึ่งจะมีขึ้นเป็นเวลาห้าวันตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 23 ตุลาคม บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (http://www.osongbeautyexpo.kr) และบริเวณสถานีรถไฟ Osong station ในจังหวัดชุงชองเหนือ ประเทศเกาหลีใต้

'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021,' hosted by Chungcheongbuk-do and Cheongju and organized by the Osong Bio Promotion Foundation, will take place from October 19th to 23rd on its official website and around the Osong station in Chungcheongbuk-do, South Korea. Under the theme of ‘K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World,’ the Business and Product Promotion Pavilions for Business to Business (B2B) will be open as ‘Online Exhibition,’ with ‘Offline Market Hall’ for Business to Consumer (B2C). Especially for B2C, online sales via NAVER Smartstore exhibitions and live commerce will also be conducted. Other various programs, such as ‘video export counseling services,’ ‘e-Conferences,’ and ‘online and offline events and experience’ will be provided. (Graphic: Business Wire)

งาน 'The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021' ที่จัดขึ้นโดยเมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ และจัดงานโดยมูลนิธิ Osong Bio Promotion Foundation ซึ่งจะมีขึ้นเป็นเวลาห้าวันตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 23 ตุลาคมบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ภายใต้หัวข้อ ‘K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World,’  ซุ้มนิทรรศการด้านการส่งเสริมทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจการค้าขายระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) จะเปิดเป็น ‘นิทรรศการออนไลน์,’ กับ ‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์’ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบ B2C การขายออนไลน์ผ่านงานแสดงสินค้า NAVER Smartstore และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สดจะดำเนินการอีกด้วย โปรแกรมที่หลากหลายอื่น ๆ อย่างเช่น ‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ และ ‘กิจกรรมและประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์’ (กราฟิก: Business Wire)

งานเอ็กซ์โปจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ของจังหวัดชุงชองเหนือ และเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางรุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ในปีนี้ภายใต้หัวข้อ 'K-beauty, from Osong in Chungcheongbuk-do to the World' ซุ้มนิทรรศการด้านการส่งเสริมทางธุรกิจและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจที่ดำเนินกิจการค้าขายระหว่างหน่วยงานภาคธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) จะเปิดเป็น ‘งานแสดงสินค้าออนไลน์,’ กับ ‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์’ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) งานเอ็กซ์โปมีกิจกรรมที่หลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบ B2C อย่างเช่น การขายออนไลน์ผ่านงานแสดงสิค้า NAVER Smartstore และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สด

‘งานแสดงสินค้าออนไลน์,’ ซุ้มนิทรรศการด้านส่งเสริมการขายสำหรับองค์กรและผลิตภัณฑ์ที่เน้นที่ธุรกิจแบบ B2B ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมและผลิตภัณฑ์ที่แสดงซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่เครื่องสำอางแต่ละประเภท ดำเนินการด้วยทีมตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในการนำเสนอความคิดเห็นของผู้ใช้

‘ออฟไลน์มาร์เก็ตฮอลล์,’ ที่เน้นด้วยธุรกิจแบบ B2C ซึ่งจัดตั้งขึ้นที่สถานีรถไฟ Osong station จะขายสินค้าที่แสดงในราคาที่เหมาะสม และจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทางออนไลน์ผ่าน Smartstore ตลาดออนไลน์ของ NAVER และการค้าพาณิชย์แบบไลฟ์สด

นอกจากนี้งานเอ็กซ์โปยังมีโปรแกรมที่หลากหลาย อย่างเช่น ‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ และ ‘กิจกรรมและประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์’

‘การบริการให้คำปรึกษาด้านการเผยแพร่วิดีโอ,’ เมื่อปีที่แล้วให้บริการเฉพาะในระหว่างงาน สำหรับปีนี้จะให้บริการออนไลน์เป็นเวลาสี่สัปดาห์โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน

โดยผ่าน ‘การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์,’ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางในประเทศและต่างประเทศจะนำเสนอวิดีโอบรรยายเกี่ยวกับข้อมูลความงามครั้งล่าสุด: ‘แนวโน้มการผลิตเครื่องสำอางปี 2564,’ ‘การเปลี่ยนแปลงนโยบายเครื่องสำอางในจีน,’ และ ‘แนวโน้มความงามของผู้บริโภคทั่วโลก’

“ในปีนี้เราได้เตรียมโปรแกรมที่หลากหลาย อย่างเช่น กิจกรรมและประสบการณ์ที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์” เจ้าหน้าที่จากจังหวัดกล่าวเสริมว่า “เราคาดหวังว่าผู้มาเยือนจะซื้อสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม และผู้ซื้อจากต่างประเทศได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเครื่องสำอางในท้องถิ่นผ่านงานเอ็กซ์โปนี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52499701/en

ติดต่อ:

The Cosmetics & Beauty Expo Osong Korea 2021
KO JEONG SUK
+82-43-220-4552
wjdtnr31@korea.kr

“การท่องเที่ยวฮ่องกง” จับมือ “ซีเจ อีเอ็นเอ็ม” ปลุกกระแสเที่ยวฮ่องกงด้วยวัฒนธรรม “เคป็อป”

Logo

imgimg

การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้ลงนามข้อตกลงสามปีกับ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม (CJ ENM) หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเอเชีย ลงนามข้อตกลงสามปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 เพื่อสร้างมุมมองใหม่ต่อฮ่องกงในฐานะสถานที่น่าท่องเที่ยวผ่านซีรีส์ และรายการวาไรตี้เกาหลี และยังเป็นครั้งแรกที่องค์กรด้านการท่องเที่ยวได้ร่วมวางแผนกลยุทธ์ควบคู่กับบริษัทด้านความบันเทิงอย่างซีเจ อีเอ็นเอ็ม ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตซีรีส์และวาไรตี้ที่ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามในระดับโลกอย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมได้นึกถึงฉากที่ชื่นชอบจากซีรีส์เกาลี และรายการวาไรตี้ต่างๆ ในบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นในฮ่องกง และยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมื่อสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อีกครั้งด้วย

การท่องเที่ยวฮ่องกง และบริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหารายการมากมายที่ผลิตโดย ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 โดยจะนำเสนอภาพของไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมฮ่องกงอันเป็นเอกลักษณ์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ในปัจจุบัน คอนเทนต์อันโด่งดังที่ทางซีเจ อีเอ็นเอ็มผลิตขึ้นนั้น ถ่ายทอดไปแล้วกว่า 200 ประเทศ และมีการรับชมทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับซีเจ อีเอ็นเอ็มอีกด้วย

เมื่อการจำกัดการเดินทางสิ้นสุดลง ภาพบรรยากาศของฮ่องกงก็จะได้รับการถ่ายทอดออกไปในฐานะฉากหลังของละครและรายการวาไรตี้หลายประเภทที่ผลิตโดยบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่เคยฝากผลงานการผลิตซีรีส์สุดฮิตและได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั่วโลก อย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West

หุ้นส่วนทั้งสองจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อก่อให้เกิดความกลมกลืนของผลงาน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำด้านสถานที่และมุมมองทางวัฒนธรรมของฮ่องกงที่จะปรากฏในแต่ละรายการ ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงติดอันดับลิสต์สถานที่น่าท่องเที่ยวของคอซีรีส์เกาหลีอย่างแน่นอน

ดร. วายเค แปง ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง ผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจออนไลน์ ระหว่าง นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง และ นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวว่า “การท่องเที่ยวฮ่องกงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นองค์กรด้านการท่องเที่ยวแรกที่มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ลักษณะนี้กับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป้าหมายของเราคือการสอดแทรกฮ่องกงในเนื้อหาซีรีส์และรายการวาไรตี้เกาหลีชื่อดัง ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง เราคาดการณ์ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่อโรคระบาดนี้สิ้นสุดลง ดังนั้น การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงออกตัวก่อนด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่ทรงอิทธิพลในด้านสื่อ เพื่อให้ฮ่องกงยังคงอยู่ในสายตาและความสนใจของผู้ชมทั่วโลกอยู่เสมอ”

นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณาและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวปิดท้ายว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวฮ่องกง และหยิบยกเสน่ห์ และความน่าตื่นตาตื่นใจของฮ่องกง ออกสู่สายตาของผู้ชมผ่านซีรีส์และรายการวาไรตี้ที่เป็นที่นิยมของเรา และด้วยคอนเทนต์ระดับพรี
เมียมของซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งยอดการรับชมและอิทธิพลในระดับโลก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายผลงานสู่ตลาดนานาชาติผ่านกลยุทธ์การร่วมมือจากทั่วโลก”

###

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับท่านสื่อมวลชน

เกี่ยวกับการท่องเที่ยวฮ่องกง

การท่องเที่ยวฮ่องกง (The Hong Kong Tourism Board: HKTB) เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งโดยภาครัฐบาล มีสำนักงาน 15 แห่งทั่วโลก และมีสำงานตัวแทนใน 7 ภูมิภาค โดยมีภารกิจหลักเพื่อขยายผลผลิตทางเศษฐกิจและสังคมของฮ่องกงจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และร่วมกันผลักดันให้ฮ่องกงเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายการท่องเที่ยวระดับโลก การท่องเที่ยวฮ่องกงทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐบาล ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และพันธมิตร เพื่อประชาสัมพันธ์ฮ่องกงออกสู่สายตานานาชาติ รวมถึงขยายรูปแบบของบริการดีๆ ในฮ่องกงให้มีความหลากหลาย ยกระดับมาตรฐานการบริการ และส่งเสริมประสบการณ์ของผู้ที่มาเยี่ยมเยือน

ติดตามข่าวสาร discoverhongkong.com Facebook: www.facebook.com/hk.discoverhongkong/

Instagram: www.instagram.com/discoverhongkong/ 3

เกี่ยวกับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม จำกัด

บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป็นบริษัทผู้นำทางด้านบันเทิงและไลฟ์สไตล์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี ตั้งแต่ปี 2538 โดยบริษัทเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่หลายหลากในอุตสาหกรรมบันเทิงตั้งแต่ คอนเทนต์ในสื่อ, ดนตรี, ภาพยนตร์, ศิลปะการแสดง รวมไปถึงอนิเมชั่น ซึ่งผลิตผลงานชั้นนำออกสู่หลากหลายแพลตฟอร์ม ซีเจ อีเอ็นเอ็มได้สร้างสรรค์ ดำเนินการผลิต รวมถึงจัดจำหน่าย รายการชื่อดังที่ได้รับกระแสตอบรับดีในระดับโลก รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลคานส์อย่าง ชนชั้นปรสิต(Parasite) และ ชนะรางวัล โทนี่ อวอร์ด สาขาละครเพลงอย่าง จับหัวใจมาใส่เกือก(Kinky Boots) รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ทุบสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีอย่าง ยีซุนชิน ขุนพลคลื่นคำราม(Roaring Currents), ภารกิจทอดไก่ ซุ่มจับเจ้าพ่อ(Extreme Job), กี่หมื่นวัน…ไม่ลืมคำสัญญาพ่อ(Ode to My Father) รวมไปถึง ซีรีส์และรายการโทรทัศน์ที่ทุกคนต่างติดตามอย่าง ปักหมุดรักฉุกเฉิน(Crash Landing On You), สุภาพบุรุษตะวันฉาย(Mr. Sunshine), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ(Guardian: The Lonely and Great God), ป๋าซ่าพาซิ่ง(Grandpas over Flowers), นักร้องซ่อนแอบ(I Can See Your Voice) และอื่นๆ อีกมากมาย และเพื่อที่จะนำเสนอประสบการณ์แห่งวัฒนธรรมเกาหลีในระดับนานาชาติ  ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ยังภูมิใจนำเสนอ KCON/KCON:TACT มหกรรมที่รวบรวมวัฒนธรรมเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเทศกาลการเฉลิมฉลอง Hallyu รวมถึง เอ็มเน็ต เอเชี่ยน มิวสิค อวอร์ด (MAMA) งานประกาศรางวัลด้านดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังมีสำนักงานระดับภูมิภาคในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ปัจจุบันซีเจ อีเอ็นเอ็ม มีพนักงานมากกว่า 3,600 คน

ลิงก์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์ภาพขนาดใหญ่

https://hktb.filecamp.com/s/2021_MOU_signing_between_HK/fo

###

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


การวิจัยของ OAG ระบุว่า เกือบ 3 ใน 4 ของผู้เดินทางในสหรัฐฯ สนับสนุนการใช้วัคซีนพาสปอร์ต

Logo

70% ของผู้เดินทางทั้งหมดสนับสนุนวัคซีนพาสปอร์ตระหว่างประเทศ โดย 56% ของผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะไม่รับการฉีดวัคซีนแม้จะมีการบังคับใช้เพื่อเดินทาง

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2564

จากการสำรวจของ OAG กับผู้เดินทางชาวอเมริกันมากกว่า 1,800 คนในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม พบว่านักเดินทางกำลังจะได้เดินทางทางอากาศอีกครั้ง แต่การเดินทางทางอากาศในอนาคตอันใกล้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ความสามารถในการรองรับผู้เดินทางภายในประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 81% ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความต้องการอันแรงกล้าของผู้บริโภค โดย 70% ของผู้บริโภคที่สำรวจโดย OAG ได้จองเที่ยวบินล่วงหน้าไว้แล้ว

ขณะที่ผู้เดินทางที่ปรารถนาเดินทางด้วยเครื่องบินมีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้น สายพันธุ์เดลต้า อัตราการแพร่เชื้อของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และความต้องการในการฉีดวัคซีนนั้นมีผลอย่างมากต่อสถานการณ์ระยะใกล้และระยะกลาง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่สำรวจโดย OAG รายงานว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม OAG พบว่ามีเพียง 15% ของผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนที่วางแผนจะรับการฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางครั้งต่อไป

สายการบินและจุดหมายปลายทางหลายแห่งกำลังพิจารณาออกกฎให้นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและกับป้องกันการแพร่เชื้อ โดย 68% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดกล่าวว่าพวกเขาสนใจหรือต้องการวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางในประเทศ และ 70% เชื่อว่าควรบังคับใช้วัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ที่น่าตกใจคือ  56% ของผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนกล่าวว่าพวกเขายังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แม้ว่าสายการบิน สนามบิน หรือจุดหมายปลายทางมีการคับใช้สำหรับการเดินทางก็ตาม

Mayur Patel หัวหน้า OAG ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ข้อบังคับการฉีดวัคซีนเป็นดาบสองคม สายการบิน รัฐบาล และจุดหมายปลายทางหลายแห่งกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะออกข้อบังคับให้ฉีดวัคซีนก่อนบินหรือเข้าพื้นที่ได้ และผู้เดินทางส่วนใหญ่ก็สนับสนุนการใช้วัคซีนพาสปอร์ต แม้จะเป็นการเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับไฟที่ร้อนจัดก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องของตลาดการเดินทางทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับจำนวนการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้นและอัตราการแพร่เชื้อที่ลดลง”

ประเด็นอื่น ๆ จากการวิจัยของ OAG ประกอบด้วย:

  • ความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ยังคงทำให้นักเดินทางบางส่วนต้องชะลอการเดินทาง จาก 30% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ยังไม่ได้จองเที่ยวบิน จำนวน 40% กำลังรอให้อัตราการฉีดวัคซีนและข้อบังคับดีขึ้น และ 30% กำลังรอการบังคับใช้วัคซีนพาสปอร์ต
  • แนวโน้มการเดินทางเพื่อธุรกิจยังคงไม่ชัดเจน มีเพียง 62% ของผู้เดินทางเพื่อธุรกิจกล่าวว่าบริษัทกำลังวางแผนเดินทางทางอากาศในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 38% กล่าวว่าบริษัทยังไม่มีแผนการ (20%) หรือยังไม่ได้ระบุแผน (18%)
  • มีการคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในวันหยุดจะกลับมา ฤดูกาลการท่องเที่ยวในวันหยุดปี 2564 จะคึกคักกว่าปี 2563 มาก จากผู้เดินทาง 38% ที่สำรวจโดย OAG ที่กล่าวว่าพวกเขามักจะบินในช่วงวันหยุด ในกลุ่มนี้จะมีเพียง 40% เท่านั้นที่ทำเช่นเดียวกันในปี 2563 โดยในปีนี้ กลุ่มที่ตั้งใจจะบินเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวถึง 85% การรองรับผู้เดินทางที่วางแผนไว้สำหรับสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้มีการจองที่ตั๋วในประเทศเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
  • พฤติกรรมการจองตั๋วเครื่องบินยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ นักท่องเที่ยวเกือบครึ่งที่ทำแบบสำรวจยังคงจองตั๋วล่วงหน้าอย่างกระชั้นชิด (ระหว่าง 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนล่วงหน้า) และอีกครึ่งหนึ่งจะจองระหว่าง 2-6 เดือนหรือนานกว่านั้น โดย 80% คาดว่าราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า

สำหรับข้อมูลเชิงลึกจากการสำรวจฉบับเต็ม ดูได้จากรายงานที่นี่ https://www.oag.com/us-traveler-survey เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OAG ได้ที่ https://www.oag.com/

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางชั้นนำระดับโลกที่เสริมสร้างการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศตั้งแต่ ปี 2472 OAG มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร มีการดำเนินงานทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ลิทัวเนีย และจีน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดูที่: www.oag.com และสามารถติดตามเราทาง Twitter ได้ที่ @OAG Aviation

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210913005030/en/

ติดต่อ:

Chrissy Azevedo 
Corporate Ink ตัวแทนของ OAG 
pressoffice@oag.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. เผยแพร่รายงานสรุปกลยุทธ์ความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2563-64 โดยเน้นที่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลกและผลกระทบทางสังคมจนถึงปี 2573

Logo

ในหัวข้อ “Enriching Lives Today for A Sustainable Tomorrow” รายงานสรุปฉบับแรกที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–13 กันยายน 2564

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ในวันนี้ได้เผยแพร่กลยุทธ์ความยั่งยืนในหัวข้อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow และรายงานสรุปกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2563-64

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210913005253/en/

Enriching Lives Today For A Sustainable Tomorrow logo (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ Enriching Lives Today For A Sustainable Tomorrow (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

“มันเป็นเรื่องที่มากกว่าคำว่าเรา—และมันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและการดูแลส่วนบุคคลกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเมื่อบริษัทต่าง ๆ พัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานที่โปร่งใส และผลิตภัณฑ์ที่สะอาดและมีจริยธรรม Mary Kay เชื่อและสนับสนุนในวิวัฒนาการนี้”

Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ขยายวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ไปสู่ปี 2573 และปีต่อ ๆ ไป โดยสร้างภาพลักษณ์ว่าอะไรที่ดี “หน้าตาเป็นอย่างไร” สำหรับ Mary Kay ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ ลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโลกใบนี้ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow ได้รับการพัฒนาร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของ Mary Kay และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ทำให้ Mary Kay เป็นส่วนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า

“ในขณะที่มีการริเริ่มที่มีความหมายเกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรม—และในตัวของ Mary Kay—ยังมีงานอีกมากในการค้นหาแนวทางแก้ไขระยะยาวสำหรับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจและสังคมที่รออยู่ข้างหน้า” Gibbins กล่าวเสริม “เป็นเวลาเกือบ 60 ปีที่ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างชีวิตของผู้หญิง พัฒนาด้านสุขภาพผิว และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนทั่วโลก เราตื่นเต้นมากที่ได้ก้าวต่อไปที่สำคัญในการเดินทางของเรา”

จุดเด่นของรายงานความยั่งยืนประกอบด้วย:

  • Mary Kay ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow แนวทางแบบองค์รวมของเราครอบคลุมสามเสาหลักของความยั่งยืน—เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม—ผ่านห้าเสาหลัก ขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น 15 ประการเพื่อส่งมอบทศวรรษแห่งการดำเนินการที่ยั่งยืน
  • Mary Kay จะมีส่วนร่วมใน 15 จาก 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่กำหนดโดยสหประชาชาติ และได้ดำเนินการตามลำดับความสำคัญและภาระผูกพันในบริบทของการมอบอำนาจชั้นนำระดับโลก ซึ่งรวมถึง: หลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ หลักการสร้างเสริมอำนาจสตรีเจ็ดประการ CEO Water Mandate, and the Sustainable Ocean Principles หรือ หลักการฟื้นฟูมหาสมุทรอย่างยั่งยืน
  • เป้าหมายความมุ่งมั่นที่สำคัญเพื่อให้บรรลุภายในปี 2573:
    • ลดปริมาณ 30%: ความเข้มของพลาสติก คาร์บอน (ขอบเขต 1 และ 2) และการใช้น้ำ
    • ส่งเสริมผู้หญิงจำนวน 5 ล้านคนทั่วโลกผ่านการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการ
    • ให้การสนับสนุนผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศและในครอบครัวมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก

จุดเด่นที่สำคัญ:

ในปี 2563 และครึ่งแรกของปี 2564 Mary Kay ยังคงสานต่อมรดกแห่งความยั่งยืนและการสนับสนุน ด้านล่างนี้คือจุดเด่นที่สำคัญบางส่วน

ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • 100% ของผู้อำนวยการที่อยู่ในสหรัฐฯ และตำแหน่งสูงกว่านั้นสำเร็จการฝึกอบรมภาคบังคับเรื่องความมีอคติโดยไม่รู้ตัว
  • ความหลากหลายทางเพศในสถานที่ทำงาน: 54% ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง 61% ของพนักงานทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง และ 54% ของรองประธานระดับโลกขึ้นไปเป็นผู้หญิง 59% ของกรรมการขึ้นไปเป็นผู้หญิง (มีนาคม 2564)
  • ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและรายงานข้อมูลความหลากหลายเพื่อแจ้งห่วงโซ่อุปทานปัจจุบันของเราที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกเป็นเจ้าของ: ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 (ข้อมูลห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น): 12% ของผู้ซัพพลายเออร์ทางอ้อมของ Mary Kay เป็นผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึกที่เป็นเจ้าของ; 5% ของซัพพลายเออร์โดยตรงของ Mary Kay เป็นผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย หรือทหารผ่านศึก
  • ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับโลกของเรา ปัจจุบันเรานำเสนอรองพื้นมากกว่า 80 ชนิด—ในเฉดสีและฟินิชที่หลากหลาย—เพื่อให้เข้ากับสเปกตรัมที่สวยงามของโทนสีผิวได้ดีที่สุด
  • 77% ของศิลปินที่มีส่วนร่วมในแคมเปญการตลาดทั่วโลกของเราเป็นธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ (ช่างภาพ ผู้อำนวยการ นักออกแบบ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม โปรดิวเซอร์ ฯลฯ)

การดูแลผลิตภัณฑ์

  • เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มผู้ผลักดันบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมความงาม หรือSustainable Packaging Initiative for Cosmetics (SPICE) ภารกิจของ SPICE คือการขับเคลื่อนอนาคตของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนสำหรับเครื่องสำอางให้มีความก้าวหน้าที่สำคัญในสามด้านหลัก: กำหนดนโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และให้ความโปร่งใสในผู้บริโภค
  • เข้าร่วมมูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation ในฐานะสมาชิกของเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

การผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ

  • สำนักงานใหญ่ระดับโลก โรงงานผลิตทั่วโลก และการจัดจำหน่ายทั่วโลกและระบบการจัดเก็บและดึงข้อมูลอัตโนมัติ (ASRS) ของ Mary Kay ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์
  • การวิเคราะห์พื้นฐานโดยละเอียดเริ่มต้นขึ้นในปี 2562 และดำเนินต่อไปในปี 2563 เพื่อกำหนดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเรา จากระยะแรกของการวิเคราะห์ เป้าหมายของการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (GHG) 30% สำหรับขอบเขต 1 และ 2 ได้ถูกนำมาใช้เป็นเป้าหมายด้านความยั่งยืน ในปี 2564 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจกสำหรับขอบเขตที่ 3 ได้เริ่มต้นขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเป้าหมายภายในไตรมาสแรกของปี 2565
  • สมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการริเริ่มระดับโลกสองโครงการร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation: Evergreen Alliance และ Time for Trees Initiative; และเป็นสมาชิกของ Trillion Tree Initiative
  • เป็นผู้ลงนามในสาเหตุสำคัญสองประการในการปกป้องน่านน้ำของโลก: โครงการ CEO Water Mandate และหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนของ United Nations Global Compact

การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง

  • กลายเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาของกลุ่มพันธมิตรปฏิบัติการในแนวร่วมปฏิบัติด้านความเท่าเทียมรุ่นที่สี่: ความรุนแรงบนฐานของเพศสภาพ; ความยุติธรรมและสิทธิทางเศรษฐกิจ; ปฏิบัติการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ; และเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ (ปี 2564-2569)
  • เปิดตัว Women's Entrepreneurship Accelerator ในปี 2562 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกเพื่อนำผู้ประกอบการผ่านการศึกษาและส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีผ่านเส้นทางสู่การสร้างเสริมพลัง 4 เส้นทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการเป็นผู้ประกอบการสำหรับผู้หญิงทุกคนในทุกที่
  • สนับสนุนข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Global Compact ในการพัฒนาชุดเครื่องมือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สำหรับหลักการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงตั้งแต่ องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women ไปจนถึงการเป็นสมาชิก SMEs จำนวน 6,000 ราย และการใช้งานทั่วไปสำหรับบริษัททั่วโลกเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมกันของผู้หญิง

ผลกระทบทางสังคมระดับโลกและชุมชนท้องถิ่น

  • มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มีโครงการวิจัยด้านมะเร็งและการทดลองทางคลินิกเกือบ 40 โครงการ และนักวิจัยที่อยู่ในขั้นตอนของโครงการ 42% ของโครงการวิจัยมะเร็งที่เป็นนวัตกรรมใหม่นำโดยผู้หญิง และในขณะที่ 100 เปอร์เซ็นต์ของการทดลองทางคลินิกนำโดยผู้หญิง
  • Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation สนับสนุนองค์กร 667 แห่งที่มุ่งมั่นทำงานช่วยชีวิตขององค์กรที่สนับสนุนการขจัดความรุนแรงบนฐานเพศสภาพและให้ทุนแก่สถานพักพิงสตรีที่ให้บริการความช่วยเหลือที่สำคัญ โดยเข้าถึงผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกว่า 2 ล้านคนผ่านโครงการที่ไม่ซ้ำกัน 786 โครงการ ในกว่า 138 ประเทศ
  • ตั้งแต่ปี 2551 โครงการ Pink Changing Lives ทั่วโลกของ Mary Kay ได้ก่อให้เกิดโปรแกรมสร้างพลังอำนาจส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่าหกล้านคนและครอบครัวของพวกเขาด้วยการเป็นพันธมิตรกับองค์กรกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก โดยบริจาคเงินกว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 มีการบริจาคมากกว่า 775,000 ดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก

เติมเต็มชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ภาพรวม 5 เสาหลักและพันธสัญญา 15 ข้อ
ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • คนของเรา: ปลูกฝังการมีส่วนร่วมของพนักงาน หรือ EMPLOYEE ENGAGEMENT โดยดำเนินชีวิตตามค่านิยมของบริษัทและหล่อเลี้ยงวัฒนธรรมองค์กรของเรา
  • ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมเข้าด้วยกัน: ทำความเข้าใจผ่านความรู้ หรือ KNOWLEDGE เรียกร้องให้ดำเนินการ หรือ ACTION  รับรองการเปลี่ยนแปลง หรือ CHANGE ที่ยั่งยืนและยาวนาน
  • ความโปร่งใสและการสนับสนุน: นำไปสู่ความโปร่งใส หรือ TRANSPARENCY และการช่วยเหลือผ่านผู้สนับสนุนสัมพันธ์ หรือ ADVOCACY

การดูแลผลิตภัณฑ์

  • พลาสติกและบรรจุภัณฑ์: ลด หรือ REDUCE ความเข้มของพลาสติกลง 30%
  • การรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน: 90% ของบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ทำจากการใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก หรือ RECYCLED CONTENT
  • การจัดหาที่ยั่งยืน: ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเราให้เหลือน้อยที่สุด หรือ MINIMIZE สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก และส่งเสริมผลประโยชน์ของชุมชน

การผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ

  • คาร์บอน: ลด หรือ REDUCE คาร์บอน (ขอบเขต 1 และ 2) 30%
  • น้ำ: ลด หรือ REDUCE การใช้น้ำ 30%
  • ของเสียจากการปฏิบัติงาน: เบี่ยงเบน หรือ DIVERT 60% ของของเสียจากการปฏิบัติงานจากการฝังกลบ

การเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิง

  • ความเท่าเทียมกัน: พัฒนา หรือ DEVELOP วาระนโยบาย 10 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสตรี
  • การเสริมสร้างพลังอำนาจทางเศรษฐกิจ: เพิ่มพลังอำนาจ หรือ EMPOWER ให้ผู้หญิง 5 ล้านคนทั่วโลก
  • การศึกษา: เข้าถึง หรือ ACCESS การศึกษาสำหรับเด็กหญิงและสตรี 250,000 คนทั่วโลก

ผลกระทบทางสังคม

  • การวิจัยโรคมะเร็ง: กองทุน หรือ FUND รวมกว่า 400,000 ชั่วโมงในการวิจัย
  • ความรุนแรงตามเพศสภาพ: สนับสนุน หรือ SUPPORT ผู้หญิงกว่า 10 ล้านคนทั่วโลกด้วยบริการความช่วยเหลือ
  • การสนับสนุนชุมชนและผลกระทบทางสังคมทั่วโลก: ร่วมมือกัน หรือ COLLABORATE เพื่อการเปลี่ยนแปลงกับองค์กรกว่า 500 แห่ง

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210913005253/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com