Category Archives: Food & Beverage

Cookies แบรนด์กัญชาระดับสากลขยายขอบเขตทั่วโลกด้วยร้านขายยาแห่งแรกของเอเชียในประเทศไทย

Logo

ร่วมมือกับผู้นำอุตสาหกรรม Natura, Golden Triangle Health และ Great Earth International นำ Cookies เข้าสู่ตลาดกัญชาแบบไดนามิกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2023

Cookies แบรนด์กัญชาระดับสากลประกาศเข้าสู่ตลาดกัญชาของประเทศไทยด้วยการเปิดตัวร้านขายยาแห่งแรกในภูมิภาคเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคม ตั้งอยู่ในศูนย์กลางอาหาร ดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ที่โด่งดังไปทั่วโลก การเปิดตัว Cookies Thailand ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของแบรนด์เมื่อเข้าสู่ประเทศที่ 6 และกลายเป็นหน้าร้าน Cookies แห่งที่ 58 จากทั่วโลก

“ความจริงที่ว่าการมาเอเชียครั้งแรกคือการได้เปิดร้าน Cookies นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผมเคยจินตนาการไว้และมันพิเศษจริง ๆ” กล่าวโดย Berner ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Cookies “ร้านนี้สวยงามและเรารู้สึกขอบคุณพันธมิตรของเราในประเทศไทยที่ช่วยทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครอย่างน่าเหลือเชื่อ เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง และการเปิดร้าน Cookies โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศไทย ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณ ผมหวังว่ากรุงเทพฯ จะพร้อมสำหรับเมนูพิเศษของเมล็ดพันธุ์กัญชาคุณภาพสูง ผมแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดประตูสู่ทวีปใหม่ในวันเสาร์ที่ 21/1/23!”

เพื่อเป็นเกียรติแก่วัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร้านขายยาขนาด 500 ตารางฟุตจะมีบรรยากาศที่จัดแต่งอย่างสวยงามด้วยภาพวาดฝาผนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไทย โดยมีคำอวยพรจากพระสงฆ์ ในฐานะที่เป็นร้านขายยาแห่งแรกในเอเชียที่ใช้เครื่องรูดบัตรเครดิต สายพันธุ์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Cookies จะวางจำหน่ายพร้อมกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับสุดพิเศษของ Cookies SF รวมถึงสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นที่มีเฉพาะในประเทศไทย

“Cookies Thailand พัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับความสัมพันธ์ของผมกับ Berner ที่มีมานานกว่า 20 ปี” กล่าวโดย Josh Schmidt รองประธานของ Natura และผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์อาหารแคลิฟอร์เนีย Dee Thai “ขับเคลื่อนด้วยความตั้งใจที่ถูกกาละเทศะ ในขณะเดียวกันก็ให้เกียรติวัฒนธรรมและค่านิยมของไทย Cookies Thailand นำมิตรภาพของเรามาสู่วงกว้าง ผูกมัดความรักทั้งสองของผม นั่นก็คือ กัญชาและประเทศไทย”

เพื่อเป็นการฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ Cookies จะจัดพิธีตัดริบบิ้นในวันเสาร์ที่ 21 มกราคม เวลา 11.00 น. ร่วมกับ Berner และเหล่าแขกผู้มีชื่อเสียง ตามด้วยการพบปะและทักทายกับ Berner งานนี้จะมีโอกาสให้ถ่ายรูปกับรถตุ๊กตุ๊กที่มีแบรนด์ Cookies ที่หน้าร้านสำหรับผู้มาเยี่ยมชม

ผู้เข้าชมที่สนใจเข้า Cookies Thailand ต้องมีอายุอย่างน้อย 20 ปี พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางที่ยังใช้ได้ และต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ตามกฎหมายท้องถิ่น หากต้องการเข้าร่วมงานเปิดตัว โปรดตอบรับคำเชิญที่นี่

Cookies Thailand ตั้งอยู่ที่ 51/2 ซอยร่วมฤดี ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ cookies.co

เกี่ยวกับ Cookies

Cookies ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยแร็ปเปอร์เจ้าของบิลบอร์ดชาร์ตและผู้ประกอบการ Berner และ Bay Area ผู้เพาะพันธุ์และผู้เพาะปลูก Jai เป็นบริษัทกัญชาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก Cookies ให้ความสำคัญกับพลังของพืชและมุ่งเน้นไปที่การสร้างพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงพืช บริษัทนำเสนอกลุ่มพันธุ์กัญชาที่เป็นกรรมสิทธิ์มากกว่า 70 สายพันธุ์และผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 รายการ Cookies ยังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อทำให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากเกินไปจากสงครามยาเสพติดนั้นดีขึ้นผ่านโครงการสนับสนุนและสร้างความเท่าเทียมทางสังคม บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโก โดยเปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกในปี 2018 ในลอสแอนเจลิส และหลังจากนั้นได้ขยายร้านค้าปลีกเป็น 58 แห่งใน 18 ตลาดใน 6 ประเทศ Cookies ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ร้อนแรงที่สุดของอเมริกาในปี 2021 โดย AdAge ซึ่งเป็นแบรนด์กัญชาแบรนด์แรกที่ได้รับรางวัลนี้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cookies โปรดไปที่ cookies.co และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cookies CBD ได้ที่ shop.cookies.co

ติดต่อ

Martha N. Marshall
Grasslands: A Journalism-Minded Agency
martha@mygrasslands.com
703-474-1420

แหล่งที่มา: Cookies

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Westrock Coffee เข้าร่วมงานมหกรรมระดับโลกสำหรับธุรกิจการบริการด้านอาหารและงานบริการของ FHA-HoReCa

Logo

LITTLE ROCK, Ark.–(BUSINESS WIRE)–25 ตุลาคม 2022

บริษัท Westrock Coffee (Nasdaq: WEST) (“Westrock Coffee,” หรือ “บริษัท”) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทจะเข้าร่วมงานมหกรรมระดับโลกสำหรับธุรกิจการบริการด้านอาหารและงานบริการของ FHA-HoReCa โดยงานนี้จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึงวันที่ 28 ตุลาคม พร้อมผู้ให้บริการด้านอาหารและงานบริการชั้นนำจากทั่วโลก

“ในขณะที่เรายังคงขยายธุรกิจไปนอกอเมริกาเหนืออย่างต่อเนื่อง Westrock Coffee มีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานมหกรรมระดับโลกของ FHA-HoReCa” กล่าวโดย Kyle Newkirk รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรมและข้อมูลเชิงลึกระดับโลก “ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมที่มีธุรกิจระดับโลกในตลาดบริการด้านอาหารและงานบริการ เราตั้งตารอที่จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและมุ่งเน้นผู้บริโภคที่หลากหลาย พร้อมผสมผสานและตอบสนองแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคและตลาดธุรกิจ”

ในงานมหกรรมของ FHA-HoReCa ทาง Westrock Coffee จะมีการแสดงโซลูชันเครื่องดื่มที่หลากหลายมากมาย ได้แก่

  • เครื่องดื่มให้ความสดชื่นผสมชาดำ
  • เครื่องดื่มให้พลังงานผสมกาแฟ
  • เครื่องดื่มกาแฟผสมชา
  • เครื่องดื่มสารสกัดไนโตร
  • เครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD)

สามารถพบกับตัวแทนของ Westrock Coffee ได้ที่บูธแสดงสินค้าของ Westrock Coffee ชั้น 2F 4-01 ตลอดงานแสดงสินค้า

บริษัทเพิ่งก่อสร้างโรงงานใหม่ขนาด 90,000 ฟุตเสร็จสิ้นในเมืองโจโฮร์บะฮ์รู ประเทศมาเลเซีย โรงงานแห่งใหม่นี้อยู่ห่างจากศูนย์กลางนานาชาติของประเทศสิงคโปร์เพียง 30 นาที เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถและปริมาณในการคั่ว บรรจุภัณฑ์ และคลังสินค้าจัดเก็บกาแฟและสารสกัดทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและ MENA

Westrock Coffee เป็นผู้จัดหารายใหญ่และเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในธุรกิจการค้าปลีก, ธุรกิจอาหารและร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อและศูนย์การท่องเที่ยว, CPG, อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมงานบริการ พร้อมโซลูชันด้านกาแฟ ชา และเครื่องดื่มสารสกัด ลูกค้าประกอบด้วยร้านอาหารแบบบริการด่วน (QSR) 13 ร้านจากร้านชั้นนำ 25 ร้าน และร้านสะดวกซื้อ 13 ร้านจากร้านชั้นนำ 25 ร้านในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน บริษัทให้บริการกาแฟกว่า 20 ล้านแก้วทั่วโลกในแต่ละวัน และเป็นผู้จัดหากาแฟและชาตามสั่ง/ออกแบบเฉพาะแต่ละบริษัทรายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

เกี่ยวกับบริษัท Westrock Coffee

บริษัท Westrock Coffee เป็นผู้นำเสนอโซลูชันด้านกาแฟ ชา รสชาติต่างๆ สารสกัด และส่วนผสมชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมจัดหากาแฟ บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการคั่ว บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายให้ร้านค้าปลีก, ธุรกิจอาหารและร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อและศูนย์การท่องเที่ยว, CPG, อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมงานบริการทั่วโลก ด้วยสำนักงานใน 10 ประเทศ บริษัทพร้อมจัดหากาแฟและชาจาก 35 ประเทศต้นทาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชม WestrockCoffee.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย:
ICR สำหรับ Westrock Coffee: WestrockPR@icrinc.com

แหล่งข้อมูล: บริษัท Westrock Coffee

เพิ่มหมวดสาเกญี่ปุ่นใน “ASI Bootcamp in Malaysia 2022”

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–04 ตุลาคม 2565

Association de la Sommellerie Internationale (ASI) ได้จัดสัมมนา “ASI Bootcamp in Malaysia 2022” ตลอดสามวันที่ “DoubleTree by Hilton Kuala Lumpur” ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 14 กันยายน เพื่อให้ความรู้แก่ซอมเมลิเยร์รุ่นเยาว์ที่จะเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20221002005097/en/

ASI Bootcamp (Photo: Business Wire)

ASI Bootcamp (ภาพ: Business Wire)

Japan Sake and Shochu Makers Association (JSS) ได้สรุปความร่วมมือกับ ASI ในปีนี้ JSS ได้จัด Sake Masterclass ที่เกี่ยวข้องกับเหล้าสาเกห้าชนิดเพื่อแสดงความมหัศจรรย์ของเหล้าสาเกแก่ซอมเมลิเยร์รุ่นเยาว์ในแคมป์ โดย JSS ยังให้โอกาสในการลิ้มรสสาเก 12 ชนิดที่โต๊ะชิม

ASI Bootcamp เป็นโปรแกรมด้านการศึกษาที่พัฒนาและส่งเสริมโดย ASI โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่สองที่จัดขึ้นหลังจากงานเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว งานสามวันคุณภาพสูงและเข้มข้นนี้ประกอบด้วย 27 เซสชันของมาสเตอร์คลาส เวิร์กช็อป และการลิ้มรสสำหรับซอมเมลิเยร์รุ่นเยาว์ 47 คนที่ได้รับการคัดเลือกจาก 22 ประเทศทั่วโลก

ความนิยมของสาเกทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และซอมเมลิเยร์ที่เข้าร่วมหลายคนต่างก็ตั้งตารอที่จะแนะนำหมวดสาเก มาสเตอร์คลาสความยาว 40 นาทีในหัวข้อ “Sake -Ingredients, techniques, styles” ได้จัดขึ้นเพื่อดูแลเรื่องนี้ โดยครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น รายละเอียดที่จำเป็น ความแตกต่างพื้นฐานระหว่างไวน์และสาเก บทบาทของโคจิ (ข้าวมอลต์) อูมามิ และความแตกต่างในวิธีการจับคู่สาเกกับอาหารที่เฉพาะเจาะจง

ผู้เข้าร่วมมีคำถามมากมาย และมาสเตอร์คลาสยังได้รับความสนใจจากผู้สอนคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดแสดงความสนใจอย่างมากในขอบเขตศักยภาพของสาเกที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

ซอมเมลิเยร์จำเป็นต้องมีความรู้กว้างขวางในด้านเครื่องดื่มและไวน์โดยเฉพาะ การรวมหมวดหมู่สาเกไว้ในบูตแคมป์แบบเข้มข้นตลอดสามวันนี้จะช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ถึงสาเกได้อย่างมากและส่งผลดีต่อพลังของแบรนด์

JSS จะยังคงดำเนินกิจกรรมร่วมกับ ASI และสมาคมซอมเมลิเยร์อื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างเอกลักษณ์ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก

ลิงก์ SNS ของ Japan Sake and Shochu Makers Association มีดังต่อไปนี้
FB: https://www.facebook.com/japansakeshochu
IG: https://www.instagram.com/japansakeshochu_en/
YouTube: https://www.youtube.com/user/JapanSakeOfficial
Twitter: https://twitter.com/jss_sake_en

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20221002005097/en/

ติดต่อ:

Japan sake PR Secretariat
Contact person: Satoru Suzuki
Mail: Japansake@jk-soken.co.jp
FAX: 81-3-5441-2587

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mom’s Touch ขยายตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดสู่ระดับโลกโดยใช้กลยุทธ์ความสำเร็จที่ทำให้ร้านขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลี แซงหน้าแบรนด์ระดับโลกรายใหญ่

Logo

แบรนด์เบอร์เกอร์และไก่ของเกาหลีได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าในตลาดภายในประเทศที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

เบอร์เกอร์สะโพกไก่พร้อมก้อนเนื้อสะโพกไก่ที่อัดแน่นด้วยผักจะมอบรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านวิธีการ 'ปรุงตามสั่ง'

ปัจจุบันได้เปิดสาขาในตลาดสหรัฐอเมริกาโดยใช้ความรู้ความชำนาญในการครองตลาดเกาหลี ที่ถ่ายทอด DNA แห่งความสำเร็จสู่ตลาดระดับโลก

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 กรกฎาคม 2565

แฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชุมชนทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าในช่วงแรกจะได้รับการคิดค้นขึ้นในประเทศเยอรมนี แต่ก็เป็นที่ยอมรับมานานแล้วว่าเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณสำหรับคนอเมริกัน โดยทั่วไปแล้ว แบรนด์แฮมเบอร์เกอร์ระดับโลกในปัจจุบันส่วนใหญ่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงมีการส่งออกแฮมเบอร์เกอร์ยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ กลับไปยังสหรัฐฯ มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นที่สนใจมาก และหนึ่งในแบรนด์เหล่านี้คือ 'Mom's Touch' ที่มาจากเกาหลี

Mom’s Touch แบรนด์แฮมเบอร์เกอร์และไก่สัญชาติเกาหลี กำลังขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังตลาดต่างประเทศอย่างเต็มกำลังผ่านการส่งออกผลิตภัณฑ์กลับไปยังตลาดสหรัฐฯ

ในประเทศเกาหลี Mom’s Touch เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยผลิตภัณฑ์ “เบอร์เกอร์สะโพกไก่” ที่มาพร้อมกับคุณภาพยอดเยี่ยมและความคุ้มค่า ได้รับความนิยมจากเจเนอเรชั่น MZ (การจับคู่กันระหว่าง Millennials กับ Z) ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกับแบรนด์ระดับโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mom’s Touch ได้รับการบันทึกว่ามีจำนวนร้านค้ามากที่สุดในเกาหลีจากการเพิ่มพลังของแบรนด์ผ่านการจัดการคุณภาพ และวางตำแหน่งตัวเองเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแฟรนไชส์

'เบอร์เกอร์สะโพกไก่' เอาใจผู้บริโภคในอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์

เบอร์เกอร์สะโพกไก่จะมอบความลงตัวระหว่างเนื้อไก่ฉ่ำ ๆ จากส่วนขาทั้งหมดที่ปรุงรสเผ็ดและผักกาดหอม หัวหอม และซอสสดใหม่ในปริมาณที่พอเหมาะ เบอร์เกอร์สะโพกไก่ได้สร้างความประทับใจด้านรสชาติให้แก่ผู้บริโภคตั้งแต่เด็กจนถึงวัยกลางคน จนได้ยืนอยู่ในตำแหน่งเบอร์เกอร์ไก่ยอดนิยมในเกาหลีโดยมียอดขาย 390 ล้านชิ้นนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2548

การอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเทียบได้ท่ามกลางแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง Mom's Touch ประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่สหรัฐอเมริกาในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์และไก่

จากข้อสรุปของสัญญาแฟรนไชส์ตัวแทนกับพันธมิตรท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา Mom's Touch ได้เปิดร้านสาขาแรกในลอสแอนเจลิสเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2564 ด้วยการจัดรายการเมนูโดยคำนึงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น เมนูตามสั่งและการเลือกส่วนต่าง ๆ ของไก่ที่ชื่นชอบ Mom's Touch ได้เพิ่มรายรับถึง 120,000 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม และ 150,000 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม ปี 2564 ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 120,000 ดอลลาร์ต่อเดือนในปี 2564

นอกจากนี้ Mom's Touch ยังประสบความสำเร็จในการรักษาตำแหน่งในลอสแอนเจลิส เนื่องจากร้านได้รับการประเมินว่าเป็นร้านอาหารที่ต้องไปเยือนจากสื่อท้องถิ่นที่ทรงอิทธิพล เช่น Los Angeles Times และ Eater LA โดยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้านักชิมในถิ่นกำเนิดของไก่และแฮมเบอร์เกอร์ ที่ซึ่งเบอร์เกอร์ไก่ (แซนด์วิชไก่) ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทรนด์ขนาดใหญ่ที่มีรสชาติและบริการที่แตกต่างตามความรู้ความชำนาญเฉพาะตัว

จากประสบการณ์ทางธุรกิจของร้านแรก Mom's Touch ได้เปิดร้านที่สองซึ่งเป็นไดรฟ์ทรูในลองบีช โดยกลยุทธ์ในการเลือกของบริษัทจะพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ยอดขายในร้านแบบไดรฟ์ทรูคิดเป็นประมาณ 70% ของยอดขายทั้งหมดในอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ดของสหรัฐฯ บริษัทมีแผนจะเปิดร้านสาขาที่สามในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาทั้งหมด 100 แห่งในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2568

Mom’s Touch แฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์และไก่ของเกาหลี ครองอันดับ 1 ในเกาหลี แซงหน้าแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่

เมื่อสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2565 แบรนด์ Mom’s Touch ครองอันดับ 1 ในเกาหลีในด้านจำนวนร้านค้าโดยบริหารจัดการร้านแฟรนไชส์ทั้งหมด 1,354 แห่ง ด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการดำเนินงาน แบรนด์สัญชาติเกาหลีนี้จึงอยู่ในจุดที่ไม่มีใครเทียบได้ในตลาดแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดในเกาหลี ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่และแบรนด์ระดับโลกกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้าน Mom's Touch จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของผู้บริโภคโดยใช้วิธีการ 'ปรุงตามสั่ง' ซึ่งอาหารทั้งหมดจะปรุงหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ ไม่ว่าจะสั่งเมื่อไร ลูกค้าก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอันกรุบกรอบและชุ่มฉ่ำของแต่ละเมนูได้แบบไม่ซ้ำใคร เหมือนปรุงเสร็จเมื่อสักครู่นี้เอง

ซึ่งแตกต่างจากเบอร์เกอร์อื่น ๆ ที่ใช้ก้อนเนื้อไก่บดและแช่แข็ง ขณะที่เบอร์เกอร์สะโพกไก่ไร้กระดูกจะมาแบบสดและแช่เย็น ซึ่งได้รับการประเมินด้านรสชาติและคุณภาพในระดับสูง ปัจจัยในการเติบโตอีกประการของแบรนด์คือขนาดที่ใหญ่โต ซึ่งเห็นแล้วชวนมองและมาพร้อมกับผักสดอัดแน่นเพื่อเพิ่มความอิ่มหนำ เช่น ผักกาดและมะเขือเทศ ที่อยู่บนก้อนเนื้อไก่ ทำให้ชายหนุ่มในช่วงอายุ 10-29 ปีติดใจ กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของแฮมเบอร์เกอร์ได้สำเร็จ

Mom’s Touch ตอกย้ำความสามารถในการแข่งขันด้วยการจัดการคุณภาพและสุขอนามัยผ่านการขยายระบบคลังอาหาร ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และความก้าวหน้าของกระบวนการ M-QMS ที่จัดการคุณภาพและสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์ในเชิงรุกในทุกขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงการขาย

Mom's Touch ยังสร้างสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจแฟรนไชส์ด้วยการมอบความคุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ผู้รับสัมปทานแฟรนไชส์ทั่วไปต้องการเงินลงทุนเริ่มแรกสูงมาก แต่ Mom's Touch ยังคงเป็นแบรนด์แฟรนไชส์อันเป็นที่ต้องการของผู้รับสัมปทานแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพ เพราะใช้เงินลงทุนในขั้นตอนแรกอย่างสมเหตุสมผลและสร้างผลกำไรที่มั่นคงได้

ผู้รับสัมปทานแฟรนไชส์จะได้รับผลประโยชน์ด้านเงินลงทุนเริ่มต้นที่ลดลงและคงที่ผ่านการตั้งร้านค้าขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีพื้นที่ประมาณ 83 ~ 100 ตร.ม. ริมถนนหรือตรอกในเขตธุรกิจหลัก ๆ หรือสถานที่เชิงกลยุทธ์บนชั้นสองของศูนย์การค้าต่าง ๆ นอกจากนี้ Mom's Touch ยังเสนอนโยบายที่เป็นมิตรกับเจ้าของร้าน เช่น การไม่เรียกเก็บค่าส่วนต่างสำหรับการตกแต่งภายในร้าน หรือค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ หรือค่าฝึกอบรม

และจากความต้องการด้านการบริการจัดส่งที่เพิ่มขึ้นหลังจากการระบาดของโรค โมเดลธุรกิจที่คุ้มค่าของ Mom's Touch จึงกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น

เร่งขยายสู่ตลาดโลกโดยใช้ ‘DNA ที่ประสบความสำเร็จของ Mom's Touch'

หลังจากยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครเทียบได้ท่ามกลางแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก Mom's Touch จะรุกเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนในปีนี้ โดยต่อยอดความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์

ในการเข้าร่วมตลาดบริการอาหารในประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mom's Touch ได้ทำสัญญาแฟรนไชส์แบบตัวแทนกับ Mom's Touch Thailand Co., Ltd. เจ้าของคือ RS Group ซึ่งเป็นบริษัทบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะทำหน้าที่เป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการของบริษัท

จากการใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลักในการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากบริการส่งอาหารเติบโตอย่างรวดเร็ว Mom's Touch จึงตั้งเป้าที่จะยกระดับชื่อเสียงแบรนด์ไปยังระดับโลกด้วยความสามารถในการแข่งขันเบอร์เกอร์ไก่ที่แตกต่าง ซึ่งครองตลาดในเกาหลี

การมุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบไก่ Mom’s Touch จะนำเสนอ 'เบอร์เกอร์สะโพกไก่' โดยมีก้อนสะโพกไก่ทอดชิ้นหนาเป็นเมนูหลัก และจะร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวเมนูท้องถิ่นที่หลากหลายและเหมาะสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่น ได้แก่ แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ และ เครื่องเคียง

Mom's Touch จะเปิดร้านสาขาแรกในไทยเร็ว ๆ นี้ด้วยแฟรนไชส์แบบตัวแทน เพื่อตอบรับผู้บริโภคในท้องถิ่น และตั้งใจที่จะเปิดร้าน 6 แห่งภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและการรับรู้ในตลาดท้องถิ่นด้วยการทดสอบเมนูและบริการที่ปรับให้เหมาะสม นอกจากนี้บริษัทยังกำลังหารือเกี่ยวกับสัญญาแฟรนไชส์แบบตัวแทนกับพันธมิตรในหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนและตะวันออกกลางอีกด้วย

ผู้จัดการของ Mom’s Touch กล่าวว่า “เราก้าวขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมอาหารด้วยเบอร์เกอร์สะโพกไก่ ซึ่งเป็นราชาในตลาดเบอร์เกอร์ไก่ของเกาหลีและเป็นตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มเปลี่ยนตามเทรนด์ตลอดเวลา เราตั้งเป้าที่จะแสดงศักยภาพของ 'K-Burger' หรือเบอร์เกอร์เกาหลี โดยส่งต่อ DNA ความสำเร็จของเราไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์ด้วยพลังของผลิตภัณฑ์และความรู้ความชำนาญในการดำเนินงานแฟรนไชส์ของเรา”

ติดต่อ:

MOM'S TOUCH&Co. 
Subin Yun 
+82 2 6933 7175 
subinyun3@momstouch.co.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

HappyFresh พลิกโฉมความสามารถของคลังสินค้าให้เป็นดิจิทัลด้วย Blue Yonder

Logo

บริษัทขายของชำออนไลน์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขับเคลื่อนโดย WMS ของ Blue Yonder

จาการ์ตา อินโดนีเซีย และสก็อตต์เดล รัฐแอริโซนา–(บิสิเนสไวร์)–16 พฤษภาคม 2565

พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยหลายคนเลือกที่จะจัดส่งแทน  เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการ HappyFresh ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านร้านขายของชำออนไลน์ได้เปลี่ยนการดำเนินงานคลังสินค้าด้วยระบบดิจิทัลด้วยระบบการจัดการคลับสินค้า warehouse management system (WMS) ของ Blue Yonder

HappyFresh ตั้งเป้าที่จะทำให้การช็อปปิ้งสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการส่งมอบทั้งของชำและของสดรอบเมืองในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง บริษัทมีกองขนส่งสินค้าของตนเองและพนักงานเลือกของชำจากศูนย์ที่อยู่ใกล้เคียงที่อยู่จัดส่งของลูกค้า  HappyFresh มีพนักงาน 544 คนทั่วประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

HappyFresh กำลังมองหาการเร่งการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมทางดิจิทัลโดยปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในเชิงรุก ซึ่งรวมถึงระยะเวลาในการจัดส่งที่ยืดหยุ่น การจัดการคำสั่งซื้อที่กำหนดเอง และการตอบสนองแบบเรียลไทม์ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสังคมมากขึ้น หุ้นส่วนการดำเนินงานของเราคือ Super Globalindo Viktoria (SGV) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม eGrocery ที่นำประสบการณ์ เทคนิค การดำเนินงาน นวัตกรรม และการบูรณาการมาสู่การใช้งานด้วยทรัพยากรทีมในท้องถิ่นและบริการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

HappyFresh เปิดตัว WMS ของ Blue Yonder ที่ศูนย์ร้านค้าแห่งแรกในปี 2564 และได้เริ่มเปิดตัวที่ศูนย์ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  HappyFresh จะเปิดตัวศูนย์เพิ่มเติมในปี 2022 รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าเพื่อรองรับศูนย์ในอินโดนีเซีย

ด้วย Blue Yonder นั้น HappyFresh สามารถ:

  • วัดผลอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพรายการสั่งซื้อ ประหยัดเวลาสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดและกระบวนการปฏิบัติตามเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามกรอบเวลาการจัดส่งหนึ่งชั่วโมง
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับสินค้าสำหรับผู้ปฏิบัติงานโดยปรับขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมเพื่อขจัดเวลาที่เสียไปและขั้นตอนที่ไม่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
  • ลดเวลาการเดินทางระหว่างงานโดให้ผู้ปฏิบัติงานเริ่มงานครั้งถัดไปเมื่อการมอบหมายงานก่อนหน้านี้สิ้นสุดลง แทนที่จะเดินกลับไปที่เริ่มต้น

“การสร้างกลยุทธ์ในการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้กลายเป็นจุดสนใจที่สำคัญมากขึ้นสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความต้องการในการจัดส่งภายในหนึ่งชั่วโมง  นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันและความท้าทายในการจ้างงานได้เพิ่มความจำเป็นในการปรับปรุงรายการสั่งซื้อในการรับสินค้า  Blue Yonder WMS ช่วยให้เราสามารถเรียกใช้วิธีการรับสินค้าที่หลากหลาย เช่นการรับสินค้าชิ้นด้วยและการรับสินค้าตามโซน ซึ่งช่วยให้เราเพิ่มความเร็วในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประสิทธิผลสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้” Mesut Keleş รองประธานอาวุโสฝ่ายซัพพลาย HappyFresh กล่าว

WMS ของ Blue Yonder ช่วยให้ HappyFresh จัดการการดำเนินการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดตารางและการรายงานแรงงานที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและการดำเนินงานสิ่งอำนวยความสะดวกให้สูงสุด ตลอดจนความสามารถในการวางแผนและดำเนินการตามกระบวนการจัดการคลังสินค้าขายปลีก ทำให้พนักงานคลังสินค้าสามารถมองเห็นสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น

“WMS ของเราทำให้ HappyFresh ได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อการขยายส่วนแบ่งการตลาดโดยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้พวกเขามีกำลังซื้อที่ดีขึ้นกับซัพพลายเออร์เนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อที่มากขึ้นจะทำให้ราคาดีขึ้น  นอกจากนี้ การปรับปรุงกระบวนการคัดเลือกพนักงานยังช่วยรักษาและดึงดูดผู้มีความสามารถที่ต้องการเพื่อให้เติบโต” Antonio Boccalandro ประธาน Blue Yonder ของ APAC กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

Blue Yonder เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกในห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลและการปฏิบัติตามการค้าแบบ Omni-channel  แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบ end-to-end ของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์สามารถคาดการณ์ เปลี่ยนแปลง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างราบรื่น  ด้วย Blue Yonder คุณสามารถทำการตัดสินใจทางธุรกิจที่ทำกำไรได้โดยอัตโนมัติและให้ผลกำไรมากขึ้น ซึ่งให้การเติบโตที่มากขึ้นและประสบการณ์ของลูกค้า  Blue Yonder – เติมเต็มศักยภาพของคุณ blueyonder.com

“Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างถึงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ “Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าและ หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220515005030/en/

ติดต่อ:

Marina Renneke, APR, Corporate Communications Director (ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร)

Tel: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SōRSE Technology เข้าสู่ตลาด CBD ของประเทศไทยด้วยการเป็นพันธมิตรพิเศษกับ Hempagoda

Logo

  • อิมัลชันที่ละลายน้ำได้ของ SōRSE Technology ที่ผลิตขึ้นสินค้าบรรจุภัณฑ์ของผู้บริโภคมีวางจำหน่ายในประเทศไทยผ่าน Hempagoda
  • SōRSE จะเป็นเทคโนโลยีอิมัลชัน cannabinoid และกัญชงที่ละลายน้ำได้จากสหรัฐฯตัวแรกของประเทศไทย
  • ความร่วมมือของ SōRSE/Hempogoda เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ผลิตชาวไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีคุณภาพสูง และรสชาติที่ยอดเยี่ยมที่ขับเคลื่อนโดย SōRSE
  • แบรนด์ในปัจจุบันที่ขับเคลื่อนโดย SōRSE สามารถจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนในประเทศไทยโดยร่วมมือกับ Hempagoda

ซีแอตเทิล–(บิสิเนสไวร์)–05 เม.ย. 2565

SōRSE Technology Corporation บริษัทเทคโนโลยีอิมัลชันชั้นนำที่ละลายน้ำได้สำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ประกาศว่าบริษัทได้เข้าสู่ตลาดกัญชงและกัญชาในประเทศไทย  ปัจจุบัน SōRSE ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ในตลาดกว่า 100 รายการ  SōRSE ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Hempagoda เพื่อให้แพลตฟอร์ม SōRSE Technology พร้อมใช้งานในตลาดไทย  ในปี 2562 ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ออกกฎหมายกัญชาสำหรับใช้ทางการแพทย์และการวิจัย เช่นเดียวกับกัญชงเพื่อการผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ  ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ประเทศไทยออกกฎหมายให้ใช้กัญชงและ CBD ในอาหารและเครื่องสำอาง และเมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลได้นำกัญชงและกัญชาออกจากรายการสารควบคุม  ขั้นตอนเหล่านี้ได้สร้างโอกาสสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ผสมกัญชงและกัญชาในปี 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220405005298/en/

SōRSE VP of International Markets, Tim O'Neill; Hempagoda CEO, Vaughn Graham; SōRSE CEO, Howard Lee; and SōRSE EVP of Research & Technical Business Development, Michael Flemmens, at Cannabis Business Asia 2022. (Photo: Business Wire)

SōRSE VP of International Markets, Tim O'Neill; Hempagoda CEO, Vaughn Graham; SōRSE CEO, Howard Lee; และ SōRSE EVP of Research & Technical Business Development, Michael Flemmens, ที่ Cannabis Business Asia 2022. (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา SōRSE ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกในออสเตรเลีย แคนาดา สหภาพยุโรป ละตินอเมริกา สหราชอาณาจักร เอเชีย และแอฟริกาใต้  ข้อตกลงนี้ถือเป็นการที่ SōRSE ได้เข้าสู่ตลาดประเทศไทยและตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  อิมัลชันจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน 12,000 ตารางเมตรของ Hempagoda ในกรุงเทพฯ

Vaughn Graham ซีอีโอของ Hempagoda ให้ความเห็นว่า: “เนื่องจากประเทศไทยออกกฎหมายให้ใช้กัญชงและ CBD ในอาหารและเครื่องสำอาง จึงได้รับความสนใจมากมายจากทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสำหรับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสมกัญชา  เราเคยเห็นชาสมุนไพรพื้นฐานและผลิตภัณฑ์ 'ตลาดเริ่มต้น' อื่นๆ ในตลาดไทยมาแล้ว  ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ SōRSE เรากำลังเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตชาวไทยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครที่น่าตื่นเต้นและรสชาติที่ยอดเยี่ยมที่ขับเคลื่อนโดย SōRSE”

โซลูชันที่ละลายน้ำได้ของ SōRSE เปิดตัวที่ Cannabis Business Asia 2022 เมื่อวันที่ 23 และ 24 มีนาคมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานชั้นนำด้านการพัฒนาตลาดกัญชงและกัญชาทางการแพทย์ในเอเชีย  Tim O'Neill รองประธานฝ่ายตลาดต่างประเทศของ SōRSE และ Vaughn Graham ซีอีโอของ Hempagoda ได้นำเสนอในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีนาคมในหัวข้อ “วิธีการรวม Cannabinoids เข้ากับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคปลายทาง”

Howard Lee ซีอีโอของ SōRSE ให้ความเห็นว่า “การเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับทั้งบริษัทและพันธมิตรของเราในการขยายเข้าสู่ตลาดระดับภูมิภาคสำหรับผลิตภัณฑ์ผสมกัญชงและกัญชา ประเทศไทยกำลังปูทางให้ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียได้พิจารณาถึงประโยชน์ของการมีผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชาสำหรับผู้บริโภค  เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเป็นบริษัทอเมริกันแห่งแรกที่มีสินค้าออกสู่ตลาดไทย โดยเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานหนักทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติดีและปลอดภัย”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดในประเทศไทย ติดต่อ SōRSE ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ SōRSE Technology

SōRSE Technology เป็นเทคโนโลยีอิมัลชันที่ละลายน้ำได้ชั้นนำสำหรับการผสมส่วนผสมที่มีประโยชน์ในเครื่องดื่ม อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์สำอาง  SōRSE ออกแบบมาเพื่อสร้างส่วนผสมที่ทำงานจากน้ำมันที่ละลายน้ำได้เพื่อการผสานที่เรียบง่ายและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยังให้ประสบการณ์ที่สม่ำเสมอ ปลอดภัย และสนุกสนานแก่ผู้บริโภค  ด้วยทีม R&D และทีมปฏิบัติการกว่า 30 คน SōRSE เป็นผู้ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ชั้นนำมากกว่า 100 รายการ รวมถึง Cann, Jones Soda, Mad Tasty, Aprch และ Major.  SōRSE Technology มีจำหน่ายในอเมริกาเหนือ แอฟริกาใต้ อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป และเอเชีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ www.sorsetech.com

เกี่ยวกับ HEMPAGODA

บริษัท Hempagoda ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นธุรกิจกัญชาแบบบูรณาการในแนวตั้ง  กิจกรรมทางธุรกิจ ได้แก่ การเพาะปลูก สกัด การผลิตส่วนผสม CPG ที่มีมูลค่าเพิ่ม และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่น่าตื่นเต้น ตลอดจนการขายและการจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ  การเพาะปลูกรวมถึงสัญญาการทำฟาร์มร่วมกับเกษตรกรชาวไทย ตลอดจนพื้นที่ปลูกและผลิตในที่ร่มขนาด 12,000 ตารางเมตรในกรุงเทพฯ  ผลิตภัณฑ์โดย Hempagoda ที่จะวางจำหน่ายในปี 2565 ได้แก่

  • เครื่องดื่ม อาหาร และยาทาที่ผสมกัญชาและรูปแบบอื่นๆ
  • แป้ง
  • ชีวมวล
  • สารสกัดคุณภาพสูง
  • อิมัลชันที่ละลายน้ำได้ของ SōRSE

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ www.hempagoda.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220405005298/en/

ติดต่อ:

SōRSE Technology
Tim O'Neill
VP of International Markets
Tim@sorsetech.com

Hempagoda
Vaughn Graham
CEO และผู้ก่อตั้ง Hempagoda
vaughn@hempagoda.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Texas Chicken™ Malaysia ได้รับรางวัล Silver Putra Brand Award เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

Logo

แบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วภาคภูมิใจในการยอมรับจากผู้บริโภคด้านบริการคุณภาพสูงที่ไม่สิ้นสุด

แอตแลนตา–(บิสิเนสไวร์)–30 มี.ค. 2565

Texas Chicken™ หนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารขายไก่จานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความภูมิใจที่จะประกาศว่า Texas Chicken (Malaysia) SDN BHD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Envictus International Holdings Limited ได้รับรางวัล Silver Award ในมาเลเซีย ในหมวด “ร้านอาหารและฟาสต์ฟู้ด” ในงาน ประกาศรางวัล Putra Brand Awards ซึ่งเป็นองค์กรอุตสาหกรรมที่ยกย่องแบรนด์สำหรับความมุ่งมั่นอันยอดเยี่ยมของลูกค้า เป็นปีที่สองติดต่อกัน หรือที่เรียกว่า “รางวัล People's Choice”  ผู้ชนะจะถูกกำหนดโดยผู้บริโภคชาวมาเลเซียที่โหวตให้แบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบผ่านการสำรวจออนไลน์  การได้รับการยอมรับอันทรงเกียรตินี้เป็นแรงผลักดันที่ดีให้กับแบรนด์ในขณะที่พยายามยกระดับประสบการณ์ร้านอาหารที่ให้บริการรวดเร็วและเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญที่ 100 ของ Texas Chicken™ ก่อนสิ้นปี 2022 และวันครบรอบ 10 ปีในมาเลเซียที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220323005007/en/

โดยก้าวไปข้างหน้าในช่วงการฟื้นตัวทั่วโลก Texas Chicken™ ได้รับคำชมอย่างกระตือรือร้นจากผู้บริโภคสำหรับบริการที่สม่ำเสมอและไม่มีใครเทียบได้  อาหารคุณภาพเสิร์ฟในร้านอาหาร 85 แห่งทั่วมาเลเซีย ความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันสิ้นสุดในการจัดหาอาหารรสชาติเยี่ยมและประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างรวดเร็วในบรรยากาศสบาย ๆ และเพื่อได้รับการชื่นชมจากแขกที่มาใช้บริการบ่อยๆ เช่น Tender Strips®  ปิ้งมือและห่อขนมปัง  ไก่ดั้งเดิมและรสเผ็ดที่สดและกรอบ Mexicana Burger and Wrap บิสกิตเนยน้ำผึ้งที่ทำจากมือและเครื่องเคียงที่อร่อยมากมาย

“ถือเป็นเกียรติอย่างเหลือเชื่อสำหรับ Texas Chicken™ ที่จะได้รับรางวัล Silver Putra Brand Award และเราขอยกย่อง Envictus ในความมุ่งมั่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” Russ Sumrall รองประธานอาวุโสฝ่ายการพัฒนายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าว “ในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วโลก เราจะยังคงรับฟังลูกค้าของเราและมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ทั้งที่นี่และทั่วโลก”

ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการเติบโตและเพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้บริโภคต่อไป แบรนด์จึงได้ริเริ่มโครงการริเริ่มหลายอย่าง เช่น การเพิ่มจำนวนร้านอาหารที่ขับรถรับออเดอร์ได้ ขยายบริการจัดส่งอาหาร และเสนอข้อเสนอพิเศษตลอดจนการเพิ่มนวัตกรรมในเมนู เช่น Fire Dragon Burger ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากและรวบรวมกระแสโซเชียลและทำลายประมาณการยอดขายเบื้องต้น

“ในฐานะแบรนด์ที่ค่อนข้างใหม่ในกลุ่มร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูงในมาเลเซีย การได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารชั้นนำในประเทศถือเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่ออย่างแท้จริง สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่ารสชาติเท็กซัสในตำนานนั้นโดนใจผู้บริโภคในท้องถิ่น เนื่องจากพวกเขาได้ให้คะแนนความเชื่อมั่นแก่เรา” Dato' Jaya Tan ประธานกรรมการบริหารของ Envictus กล่าว “เราน้อมรับความท้าทายในการสร้างความตื่นเต้นสำหรับแขกที่กระหายความหลากหลายและประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่พึ่งพามรดกอันล้ำลึกของแบรนด์ Texas Chicken ซึ่งบ่งบอกถึงบริการแท้จริงและรสชาติที่เข้มข้น”

Texas Chicken™ แห่งแรกของมาเลเซีย เปิดตัวในปี 2013 และแบรนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะนำรสชาติเท็กซัสในตำนานมาสู่สถานที่ใหม่ๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มอบโอกาสในการเติบโตในสายงานและอาชีพ Sumrall กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจ Texas Chicken ของเราในมาเลเซียเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมสำหรับแบรนด์ของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการขยาย Texas Chicken ไปยังจีน ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอีกมากมาย!”

เกี่ยวกับ Church's Texas Chicken® / Texas Chicken™

ก่อตั้งขึ้นใน San Antonio, TX ในปี 1952 โดย George W. Church, Church's Chicken พร้อมด้วยแบรนด์ในเครือของ Texas Chicken และ Church’s Texas Chicken นอกสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารไก่จานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก  แบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านไก่ออริจินัลและสไปซี่ที่ปรุงสดใหม่ตลอดทั้งวันและขนมปังสองชั้น Tender Strips® แซนวิช บิสกิตเนยน้ำผึ้งที่ทำขึ้นเองและอบสดใหม่ และสไตล์โฮมเมดคลาสสิก ทั้งหมดในราคาที่คุ้มค่า  Church’s Chicken, Texas Chicken และ Church’s Texas Chicken มีสถานที่ตั้งมากกว่า 1,500 แห่งใน 26 ประเทศและตลาดทั่วโลกและยอดขายทั้งระบบมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์  สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ  Texas Chicken® หรือ Church’s Texas Chicken โปรดไปที่ churchstexaschicken.com และ texaschicken.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220323005007/en/

สื่อ:
Marie Espinel
+1 917-846-9456
mespinel@lakpr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Wayback Burgers เปิดให้บริการในญี่ปุ่น

Logo

เปิดตัวการขยายธุรกิจในเอเชียด้วยเมนูเนื้อสัตว์และมังสวิรัติ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 มีนาคม 2565

หนึ่งในแฟรนไชส์เบอร์เกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกากำลังเริ่มขยายสู่เอเชียด้วยการเปิดร้านอาหารในโอโมเตะซันโดะ ประเทศญี่ปุ่น Wayback Burgers Japan วางแผนที่จะเปิดร้านอาหาร 60 แห่งในอีก 20 ปีข้างหน้า และยังมีทางเลือกในการพัฒนาสำหรับอินเดีย จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220310006041/en/

Next Meats Burger (Photo: Business Wire)

Next Meats Burger (ภาพ: Business Wire)

Koichi Ishizuka ผู้บริหารของ WBBA และ NXMH กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะแนะนำ Wayback Burgers ให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่น สถานที่ตั้งแรกของเราในโอโมเตะซันโดะจะเป็นร้านอาหารสัญลักษณ์ของแบรนด์ ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นแต่ในเอเชียที่เราวางแผนที่จะขยายธุรกิจต่อไป เมือเราแปลตรงตามชื่อ Wayback Burgers จะหมายถึงการย้อนเวลากลับไปตอนแฮมเบอร์เกอร์ถูกทำด้วยมือ ซึ่งแฮมเบอร์เกอร์ของเราทำจากเนื้อวัวบดสด 100% จากนั้นกดและย่างตามที่ลูกค้าสั่ง นอกจากนี้เรายังภูมิใจที่สามารถนำเสนอรายการอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์แสนอร่อยผ่านข้อตกลงของเรากับ Next Meats”

Wayback Burgers ยังมีแซนวิชไก่ สลัดสด และเครื่องเคียงที่หลากหลาย รวมทั้งมิลค์เชคเข้มข้นที่ทำด้วยมือโดยใช้นมสดและดิปไอศกรีมด้วยมือเท่านั้น ร้านอาหารโตเกียวตั้งอยู่ในย่านพิเศษของโอโมเตะซันโดะ มีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่กว้างขวางและมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมสำหรับผู้รับประทานอาหาร

Wayback Burgers ได้เปิดตัวผ่านข้อตกลงกับ WB Burgers Asia, Inc. (WBBA) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของ WB Burgers Japan Co., Ltd. ด้วยข้อตกลงกับ Next Meats Co. (NXMH) บริษัทในโตเกียวที่อุทิศตนเพื่อสร้างสรรค์ทางเลือกที่แสนอร่อยและน่าดึงดูดสำหรับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ซึ่งที่ Wayback Burgers Omotesando จะรวมถึงอาหารปลอดเนื้อสัตว์ที่เย้ายวนและสร้างสรรค์ที่ลูกค้ามังสวิรัติประเภทเวจจี้และวีแกนสามารถเพลิดเพลินได้

ปัจจุบัน Wayback Burgers เปิดดำเนินการใน 34 รัฐในสหรัฐอเมริกา และมีมากกว่า 166 แห่งทั้งในและต่างประเทศได้แก่ บรูไน โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย ปากีสถาน เนเธอร์แลนด์และแมนิโทบา แคนาดา และไอร์แลนด์ ทั้งนี้ Wayback Burgers วางแผนที่จะเปิดใน 38 จังหวัด/ประเทศ ผ่านข้อตกลงแฟรนไชส์ระหว่างประเทศที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งรวมถึงตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาใต้ บังกลาเทศ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เยอรมนี และแคนาดา นอกจากนี้ยังมีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาแฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา โดยผลรายงานยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2564 แม้จะมีการระบาดของโควิด-19

waybackburgers.com
www.wb-burgers.jp

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220310006041/en/

ติดต่อ:

สอบถามสื่อ:
Zanete Zujeva
Custom Media
Project Manager
wayback@custom-media.com

สอบถามแฟรนไชส์ต่างประเทศ:
Mitsuru Anthony Ueno
Wayback Burgers Japan
Chief Operating Officer
aueno@waybackintl.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


GOOD Meat ได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์ไก่ตัวใหม่ในสิงคโปร์ โดยบริษัทวางแผนการผลิตขนาดใหญ่ขึ้น

Logo

บริษัทจะนำเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์อกไก่ในสัปดาห์หน้า

สิงคโปร์–(บิสิเนสไวร์)–16 ธ.ค. 2564

Eat Just, Inc. บริษัทที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีและยั่งยืนมากขึ้นได้ประกาศว่าแผนก GOOD Meat ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบให้จำหน่ายเนื้อไก่เพาะพันธุ์ใหม่ในประเทศสิงคโปร์  จะมีการนำเสนออกไก่รูปแบบใหม่นี้ที่ JW Marriott Singapore South Beach ในสัปดาห์หน้า โดยกลุ่มคนหนุ่มสาวจาก Camp Asia’s Super Chef Camp จะนั่งรับประทานอาหารค่ำกับไก่นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211215006131/en/

GOOD Meat Chicken Breast & Greens (Photo: Eat Just, Inc.)

อกไก่ GOOD Meat และผัก (ภาพ: Eat Just, Inc.)

การรับรองล่าสุดโดย Singapore Food Agency (SFA) เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของของ GOOD Meat เป็น การเปิดตัวเนื้อสัตว์แท้คุณภาพสูงครั้งแรกในโลกซึ่งผลิตขึ้นโดยตรงจากเซลล์สัตว์และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นของประเทศในการใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาที่ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม  การสนับสนุนภาคส่วนเนื้อสัตว์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ “30 By 30” ของสิงคโปร์เพื่อสร้างความสามารถในการอุปทาน 30 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทางโภชนาการในท้องถิ่นอย่างยั่งยืนภายในปี 2573

GOOD Meat ยังคงลงทุนในอนาคตของสิงคโปร์ด้วยการออกแบบและระบบการผลิตที่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเนื้อสัตว์เพาะพันธุ์ได้อย่างสำคัญ โดยมีเป้าหมายที่จะให้อุปกรณ์ติดตั้งและใช้งานได้ในอีกสองปีข้างหน้า  บริษัทจะยังคงจ้างวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และอื่นๆ ในท้องถิ่นเพื่อดำเนินการโรงงานและขับเคลื่อนธุรกิจ

“โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากมายในปีที่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิม: สิงคโปร์ยังคงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารระดับโลกที่ชาญฉลาดและยั่งยืนมากขึ้น  เราภูมิใจที่จะเฉลิมฉลองการครบรอบหนึ่งปีของเราในการขายเนื้อสัตว์เพาะพันธุ์ครั้งแรกด้วยการประกาศกฎระเบียบและผลิตภัณฑ์ที่สำคัญซึ่งเกิดขึ้นอีกครั้งในสิงคโปร์” Josh Tetrick ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Eat Just กล่าว

GOOD Meat กำลังจัดเตรียมโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคในการซื้อเมนูไก่เพาะพันธุ์ที่ศูนย์หาบเร่ที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในปี 2565 โดยที่แรกจะเป็นร้าน Loo's Hainanese Curry Rice ซึ่งเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวมากว่า 74 ปี  โซนแผงลอยหาบเร่เป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงของสังคมพหุวัฒนธรรมของสิงคโปร์ และการดำรงชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการตกต่ำของธุรกิจในช่วงการระบาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมพ่อค้าหาบเร่และชุมชน GOOD Meat จะบริจาคเงินเพื่อสิ่งนี้ผ่านศูนย์อาสาสมัคร National Volunteer and Philanthropy Centre (NVPC)

GOOD Meat ยังได้ประกาศเมื่อวันพุธว่า José Andrés เชฟผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านมนุษยธรรมได้เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร และให้คำมั่นว่าจะให้บริการไก่ที่เพาะพันธุ์ของบริษัทที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเขาในสหรัฐอเมริกาหลังการตรวจสอบกฎระเบียบที่นั่น  Andrés ซึ่ง ThinkFoodGroup ดำเนินธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 30 แห่งในสหรัฐอเมริกา จะให้คำปรึกษาด้านการทำอาหารแก่ทีมเชฟและนักวิทยาศาสตร์ของบริษัทขณะที่พวกเขาทำงานเพื่อปรับปรุงรสชาติ เนื้อสัมผัส และความเก่งกาจของผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งจะวางจำหน่ายในสิงคโปร์และทั่วโลกในที่สุด

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211215006131/en/

ติดต่อ:

Andrew Noyes
press@goodmeat.co

Upcycle Communications
goodmeat@upcyclecomms.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นที่จอนจู เมืองแห่งรสชาติ

Logo

จอนจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2564

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิซึ่งเปิดในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

A festival where participants can learn Kimchi making in Jeonju, the city of taste, 2021 Jeonju Kimchi Culture Festival is held online and across Jeonju city from November 2 to 30. The festival offers various programs including Kimchi making, Kimchi sharing, Kimchi culture tour, and other specialized programs. (Photo: Business Wire)

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งเมืองจอนจู ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน เทศกาลนำเสนอโปรแกรมที่หลากหลาย รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ (ภาพ: Business Wire)

เมืองจอนจูประกาศว่างานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 ที่จัดงานโดยศูนย์ Jeonju Food Integrated Support Center จะมีขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งบริเวณเมืองรวมถึงสนามกีฬา Jeonju Stadium ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน

เทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival จัดขึ้นเป็นครั้งที่สามของปีนี้ ซึ่งจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆ ในเวลาที่แตกต่างกันโดยคำนึงถึงสถานการณ์ของโควิด-19 แม้ว่าเทศกาลปีที่แล้วได้จัดให้มีโปรแกรมที่มอบประสบการณ์การทำกิมจิ (กิมจัง หรือ Kimjang) ให้เป็นงาน Drive-Thru เท่านั้น แต่ในปีนี้จะจัดขึ้นทั้งแบบ Drive-Thru และจัดงานนอกสถานที่อีกด้วย

งานเทศกาลนี้นำเสนอทั้งหมด 12 โปรแกรม รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ

Kimjang experience ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักที่จะจัดขึ้นเป็นงาน Drive-Thru ในวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 450 ครอบครัว ในวันที่ 20 และ 21 จำนวน 150 ครอบครัว แบ่งเป็นกลุ่มละ 25 ครอบครัวต่อการเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การทำกิมจิที่สนามกีฬา Jeonju Stadium นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์ Kimjang experience สำหรับครอบครัวหลากหลายทางวัฒนธรรมและนักเรียนต่างชาติ ซึ่งจัดขึ้นให้ที่ศูนย์ Jeonju Kimchi Cultural Center และมหาวิทยาลัยในแต่ละแห่ง

ในวันที่ 19 และ 20 จะมีการจัดกิจกรรมแบ่งปันกิมจิ องค์กรและกลุ่มต่าง ๆ ในจอนจูจะมอบกิมจิให้กับชั้นเรียนที่ถูกละเลยไป โปรแกรมนี้ยังรวมกิจกรรม 'การแบ่งปันกิมจิด้วยเรื่องราว หรือ Kimchi Sharing with Story' ที่ผู้เข้าร่วมสามารถส่งกิมจิไปยังคนที่พวกเขาต้องการแสดงความขอบคุณหรือเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ

Two-day Kimchi culture tour ประกอบด้วยโปรแกรม 'นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์กิมจัง หรือ Kimjang Experience for Tourists' ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การทำกิมจิไปพร้อม ๆ กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้ง 'โรงเรียนกิมจิที่แสนอร่อย หรือ Delicious Kimchi School' และโปรแกรมการทำกิมจิสุดพิเศษ 1 กิโลกรัม โดยผู้เข้าร่วมสามารถลองทำกิมจิหลากหลายชนิดที่ใช้ผลิตผลจากฟาร์มท้องถิ่นของจอนจู

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น การประกวดกิมจิกำหนดไว้ที่ 20 ครอบครัว สัมผัสประสบการณ์การนวดข้าว และโซนภาพถ่าย

ผักกะหล่ำปลีที่ใช้ในช่วงเทศกาลจะจัดหามาจากบ้านไร่ทั่วจอนจูและนำไปหมักเกลือที่โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP ส่วนเครื่องปรุงต่าง ๆ อย่างเช่น พริกแดงและหัวไชเท้า จะใช้เฉพาะที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยสำหรับสินค้าเกษตรเท่านั้น หลังจากเสร็จสิ้นงานเทศกาลผักกะหล่ำปลีและเครื่องปรุงรสที่เหลือจะวางขายที่ตลาด Kimchi Street Farmers’ Market ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 25-27 พฤศจิกายนในร้าน Jeonju Food store

เจ้าหน้าที่ศูนย์ Jeonju Agricultural Technology Center กล่าวว่า “ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความเป็นเลิศของกิมจิที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ได้รับการตรวจสอบยืนยันทั่วโลก เราได้เตรียมเทศกาลนี้เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำกิมจิแบบดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางด้านวัฒนธรรมที่ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก (UNESCO Intangible Cultural Heritage of Humanity)”

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

ติดต่อ:

JEONJU CITY
Inuk Hwang
+82-63-281-2226
inuk0614@korea.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย