Category Archives: Fashion

Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Alegra O’Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

Logo

อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–25 มีนาคม 2564

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้ง Alegra O'Hare เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เมษายน 2564 โดยบทบาทและหน้าที่ของ O'Hare จะพัฒนาและดำเนินกลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค TOMMY HILFIGER ในรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไป

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

Alegra O’Hare, Chief Marketing Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Alegra O’Hare ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tommy Hilfiger Global (ภาพ: Business Wire)

 “การแต่งตั้งของ Alegra ถือเป็นก้าวต่อไปที่สำคัญในยุคใหม่ของ TOMMY HILFIGER” Avery Baker ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้าของ Tommy Hilfiger Global กล่าว “เธอจะเป็นแรงผลักดันในการนำวิสัยทัศน์ใหม่ของแบรนด์เราให้ดูมีชีวิตชีวาผ่านการสร้างสรรค์ระดับโลก กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการตลาดแบบบูรณการทุกช่องให้รวมเป็นหนึ่งเดียว การเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่พิสูจน์แล้วของเธอที่จะช่วยในการเติบโตที่มีความเกี่ยวข้องและธุรกิจกับผู้บริโภคทั่วโลกจะเป็นทรัพย์สินที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเรา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ Alegra ได้เข้าร่วมทีมของเราเพื่อเป็นผู้นำในการสร้างแฟนๆ ของ Tommy ในรุ่นต่อไป”

 “TOMMY HILFIGER เป็นแบรนด์ที่ก้าวนำหน้ามาโดยตลอด และฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับทีมท่ามกลางภูมิทัศน์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก” O’Hare กล่าว “เมื่อร่วมมือกันแล้วเราจะพบกับความเป็นจริงใหม่ ๆ เหล่านี้ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่น่าดึงดูดและน่าประหลาดใจให้กับผู้บริโภคและพัฒนาตำแหน่งของเราในฐานะนักการตลาดระดับโลกด้วยการผลักดันขอบเขตทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์”

ด้วยประสบการณ์ด้านการตลาดกว่า 25 ปีของ O’Hare เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ผู้บริโภคระดับโลกเช่น adidas, Bang & Olufsen, Champion, Lee และ Wrangler และล่าสุดเธอดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ GAP ซึ่งเธอเป็นผู้นำทีมการตลาดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคในทุกช่องทางติดต่อของแบรนด์รวมถึงการสื่อสาร การค้าปลีก ดิจิทัล โซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์ ผ่านการตลาดดิจิทัลเป็นอันดับแรกและการค้าปลีกทุกช่องทาง ก่อนหน้านี้ O’Hare เป็นผู้นำด้านการตลาดให้กับแบรนด์ Adidas Originals โดยเธอรับผิดชอบแคมเปญของแบรนด์ทั้งหมด การร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Pharrell Williams, Alexander Wang และ Childish Gambino และการกระตุ้นการสื่อสารการตลาดทั้งหมดทั่วโลก

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกด้วยเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ความคิดริเริ่มทางการตลาดของบริษัทมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนฟุตพริ้นท์ของ TOMMY HILFIGER โดยผ่านการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการรับรู้แบรนด์ทั่วโลกและกลยุทธ์ที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางซึ่งสร้างและรักษาฐานแฟน ๆ ที่เหนียวแน่น ปัจจุบันการนำออกแสดงของแบรนด์อยู่ในระดับสูงสุดตลอดเวลาอันเป็นผลมาจากคอลเลกชันที่โดดเด่น แคมเปญ การเป็นพันธมิตรและการกระตุ้นผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER  และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของTOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Calvin KleinTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True&Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายสู่ผู้บริโภคภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์เป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่าย ซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ ทั้งหมดนี่คือพลังของเรา และนี่คือพลังของ PVH

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

รับชมเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210325005086/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger:
Virginia Ritchie
Vice President, Global Communications
E-mail: virginia.ritchie@tommy.com
Tel: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive และ Nicole Chavez สไตลิสต์คนดังประกาศเรื่องการประชุมสุดยอด Digital Winter Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะเป็นการรวมตัวกันของผู้นำในอุตสาหกรรมสไตล์และความงาม เพื่อพูดคุยเรื่องแฟชั่น ความงาม และการเป็นผู้ประกอบการ

ซีแอตเติล และ ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–24 ก.พ. 2564

Glamhive ประกาศการประชุมออนไลน์ครั้งที่ 4 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 การประชุมสุดยอด Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit (การประชุมสุดยอดสไตล์ฤดูหนาวด้านความงามออนไลน์)  จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำตั้งแต่ Cindy Eckert สไตลิสต์ของ Kristen Bell ที่กลายมาเป็นเป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยเหล่าผู้นำด้านนวัตกรรมจะพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม การเป็นผู้ประกอบการและอื่น ๆ ซึ่ง Stephanie Sprangers และ Nicole Chavez จะร่วมเป็นเจ้าภาพในงานนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005275/en/

The Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit will bring together top fashion and beauty leaders (Graphic: Mary Kay Inc.)

งานประชุม Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำมาไว้ด้วยกัน (กราฟฟิค: Mary Kay Inc. )

“ฉันชอบที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสุดยอดด้านสไตล์และความงามของ Glamhive โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ การประชุมสุดยอดจะก่อให้เกิดความรู้สึกของความกลมเกลียวเป็นชุมชน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่ขาดไปในโลกของนักทำงานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ฉันยังได้ทำความรู้จักสร้างคอนเนคชันกับศิลปินคนอื่น ๆ เรื่อยมา” Nicole Chavez สไตลิสต์คนดังกล่าว Nicole เป็นหนึ่งในสไตลิสต์ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในปัจจุบัน ลูกค้าของเธอรวมถึงดาราระดับ A-List อาทิเช่น Kristen Bell, Rachel Bilson, Jessica Simpson, Ellie Bamber, Scarlett Johansson, Catherine Zeta-Jones และอื่น ๆ อีกมากมาย ผลงานของเธอได้รับการนำเสนอในสิ่งพิมพ์หลายฉบับรวมถึง W, InStyle และ Harper's Bazaar

“วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการให้สร้างประโยชน์จากการทำงานร่วมกับสไตลิสต์ส่วนตัวที่มีให้กับทุกคนทุกที่ ส่วนงานดิจิทัลต่าง ๆ ของเราก็ถือเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม สิ่งดี ๆ ที่เกิดจากวิกฤตปีที่ผ่านมาก็คือการที่เราสามารถนำการประชุมสุดยอดด้านสไตล์ของเราไปสู่โลกดิจิทัล ซึ่งจะทำให้ทุกคนในทุก ๆ ที่สามารถพบปะและเรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุดในธุรกิจได้” Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Glamhive ซึ่งเป็นบริการจัดแต่งสไตล์ส่วนตัวออนไลน์ที่นำเสนอสไตลิสต์ส่วนตัวและช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับคัดเลือกโดยตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรมให้กับทุกคน โดย Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทซึ่งช่วยให้สไตลิสต์สามารถแนะแนวทางให้แก่ลูกค้าผ่านประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมแบบออนไลน์ได้ 100% ทำให้ผู้คนสามารถทำงานกับสไตลิสต์ได้ทุกที่ในโลก

ตั๋วสำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันจะทำให้คนเข้าถึงวิทยากรกว่า 60 ท่าน ด้านล่างนี้แสดงภาพรวมของหัวข้อบางส่วนที่วิทยากรระดับ All-Star นี้จะได้พูดถึง

ภาพรวมของหัวข้อ:

ประกอบด้วยสองแทร็ก และ 22 เซ็กเมนท์ ภาพรวม:

  • สไตล์สำหรับพรมแดง: สร้างช่วงเวลาแบบไอคอน
  • แนวโน้มปี 2021: สไตล์หลังโควิด
  • การเอาชนะเกมสไตล์วินเทจ คือ อาวุธลับของคุณ
  • คู่มือสไตลิสต์: จะสร้างสไตล์ทีดีที่สุดในชีวิตได้อย่างไร
  • Beauty Boss Babe: บทสัมภาษณ์กับ Jamie Kern Lima
  • สุดยอดคำแนะนำสำหรับผม “แบบง่าย ๆ “
  • เข้าสังคมกันเถอะ: เทรนด์ความงาม Instagram และ TikTok ที่ดีที่สุด
  • โหราศาสตร์แห่งแฟชั่น กับ Susan Miller
  • มากกว่าที่ตาเห็น: เสื้อผ้าของคุณบอกอะไรเกี่ยวกับคุณ
  • ROI ของสไตล์: การแต่งตัวให้ดีสร้างความคุ้มค่าแค่ไหน
  • ฉันสร้างสิ่งนี้ได้อย่างไร: ขอคำแนะนำที่ดีจากผู้หญิงที่ก้าวสู่จุดสูงสุด

วิทยากร:

วิทยากร ได้แก่ สไตลิสต์คนดัง ช่างแต่งหน้า ผู้สร้างอิมเมจที่ทำงานกับบุคคลชื่อดังในฮอลลีวูดและอีกมากมาย รวมถึง

Angelina Jolie, Serena Williams, Mandy Moore, Sarah Jessica Parker, Kristen Bell, Khloe Kardashian, Robert Downey Jr., Keanu Reeves, Sharon Stone, Miranda Lambert, Julianne Moore และอีกมากมาย

สไตลิสต์คนดัง:

Nicole Chavez, Jill + Jordan, Jeanne Yang, Jennifer Rade, Tara Swennen, Janelle Miller, Lindsey Dupuis, Tiffany Gifford, Kesha McLoud, และ Sonia Young.

ช่างแต่งหน้า + ช่างทำผมที่มีชื่อเสียง:

Tommy Buckett, Todd Harris, Diana Madison, Danny Moon, AJ Crimson และ Helen Reavey.

ผู้ประกอบ การนักออกแบบ และผู้นำทางธุรกิจ:

Claire Sulmers (Fashion Bomb Daily), Hillary Kerr (WhoWhatWear), Tara Rudes Dann (L'Agence), Steven Dann (Designer), Cindy Eckert (The Pink Ceiling Fund), Helen Ravey (Act+Acre), Cassandra Cadwell (Violet Grey), Michelle Waugh (Designer), Clarissa Egana (Port De Bras), Amy Rosoff Davis (Celebrity Trainer), Jamie Kern Lima (IT Cosmetics).

โมเดอเรเตอร์:

Brian Underwood (O Magazine), Brooke Jaffe (Penske Media), Pandora Amoratis (Daily Mail), Andrea Lavanthal (PEOPLE), Robin Nazzaro (O Magazine), Alexis Bennett (Vogue) and Kibwe Chase-Marshall (The Kelly Initiative).

ตั๋วเข้าร่วมการประชุมตลอดทั้งวันราคา 149 ดอลลาร์ ผู้สนับสนุนการนำเสนอของ Glamhive Digital Winter Style and Beauty Summit ได้แก่ Mary Kay Inc. และ Mary Kay Global Design Studio

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.glamhive.com/upcoming.

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดย Stephanie Sprangers ผู้ประกอบการในปี 2560 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การตกแต่งเสริมสไตล์เข้าถึงปัจเจกชน และยังมีหลักการว่า ความเชื่อมั่นที่มาพร้อมกับความเย้ายวนใจไม่ควรเป็นเฉพาะของคนรวยและคนดังเท่านั้น

ประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมออนไลน์ช่วยให้ทุกคนที่สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อ WiFi ได้พบกับสไตลิสต์ที่จะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อสร้างเวอร์ชันที่ดีที่สุดของพวกเขา แพลตฟอร์ม Glamhive เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ไร้รอยต่อสำหรับสไตลิสต์ เพื่อช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจของพวกเขาได้บนโลกออนไลน์ 100%

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 57 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005275/en/

Stephanie Sprangers, ผู้ก่อตั้ง + ซีอีโอ, Glamhive

stephanie@glamhive.com

+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย






ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ เชิญชวนผู้ประกอบการด้านสังคมสมัครร่วมกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์

Logo

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งที่สามนี้ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะที่เป็นคนผิวดำ ชนพื้นเมือง และชาวผิวสี (BIPOC) สมัครเข้าร่วม รวมถึงเชิญชวนให้ผู้บริโภคลงทะเบียนเพื่อร่วมตัดสินผลงานที่ส่งเข้ามา

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–06 มกราคม 2564

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ซึ่งมี พีวีเอช คอร์ป [NYSE: PVH] เป็นเจ้าของ มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงการเปิดรับสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ครั้งที่สาม ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ไปจนถึง 8 มีนาคม 2564 กิจกรรมระดับโลกนี้มีเป้าหมายสนับสนุนผู้เริ่มต้นธุรกิจและธุรกิจที่กำลังขยายในการพัฒนาโซลูชันที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนเชิงบวกในวงการแฟชั่น โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นในปี 2561 กิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ได้มอบรางวัลแด่ผู้ประกอบการที่ยืนหยัดในความเชื่อและมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภายในชุมชนของตนไปแล้วกว่า 350,000 ยูโร สำหรับปีที่สามของกิจกรรมซึ่งเกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ  ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ที่ว่า Waste Nothing and Welcome All นี้ ทางโครงการมุ่งมั่นที่จะขยายขนาดและสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นคนผิวดำ ชนพื้นเมือง และชาวผิวสี (BIPOC) ที่ทำงานเพื่อยกระดับชุมชนของตนให้ก้าวหน้า รวมถึงก่อร่างอนาคตที่เท่าเทียมยิ่งขึ้นสำหรับคนทุกกลุ่มให้กับวงการแฟชันที่ โดยมีการเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินผลงานที่ส่งเข้ามาด้วย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210105006033/en/

“กิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ มุ่งเน้นความสนใจไปยังผู้ประกอบการที่ทุ่มทั้งหัวใจและวิญญาณให้กับการสร้างผลกระทบทางสังคมในเชิงบวกในอุตสาหกรรมของเรา” ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ กล่าว “สำหรับปีนี้ เราต้องการแสดงให้เห็นถึงมุมมอง แนวคิด และชุมชนที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่ม BIPOC เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นทั่วทั้งวงการแฟชั่น และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สานต่อพันธกิจในเรื่องความเท่าเทียมที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่มของเราผ่านกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ธุรกิจที่สนใจสามารถส่งข้อเสนอโครงการที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างห่วงโซ่คุณค่าในวงการแฟชันที่มีความเท่าเทียมมากขึ้นสำหรับคนทุกกลุ่ม ผู้สมัครจะถูกคัดเลือกให้ผ่านเข้ารอบหกคนสุดท้าย ซึ่งจะได้รับเชิญให้ร่วมพัฒนาแผนโครงการของตนทางออนไลน์ โดยจะได้รับการสนับสนุนจาก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ และทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องจากภายนอก หลังจากได้รับการฝึกอบรมจากโค้ชผู้มากประสบการณ์แล้ว ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะต้องนำเสนอแนวคิดสุดท้ายของตนต่อคณะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ชมที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยตัดสินในรอบตัดสินของกิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2565

เพื่อเป็นการต่อยอดความมุ่งมั่นในเรื่องความเท่าเทียมสำหรับคนทุกกลุ่ม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ได้เพิ่มคำเชิญสำหรับผู้บริโภคที่จะเข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินและช่วยคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายสำหรับกิจกรรมปีนี้ กรรมการที่เป็นตัวแทนจากผู้บริโภคจะได้รับมอบหมายให้คัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายให้เหลือเพียง 50 คนจากทั้งหมด 200 คน โดยแต่ละคนจะได้รับผลงานจากผู้สมัครอย่างน้อยสี่คนเพื่อทำการตัดสินผ่านเว็บเฉพาะกิจของแบรนด์ ผู้บริโภคที่ต้องร่วมเป็นกรรมการตัดสินสามารถสมัครได้ที่ https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/ ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์

ในปีนี้ มีการเพิ่มรางวัลขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยผู้ชนะจะได้รับทั้งเงินรางวัลและความรู้สำหรับต่อยอดไอเดียธุรกิจของตน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • บรรดาผู้ชนะจะได้รับรางวัลรวม 200,000 ยูโร รวมถึงโอกาสคว้าเงินรางวัลเพิ่มเติมถึง 15,000 ยูโร ในกรณีที่เป็นผู้ชนะ “การโหวตผลงานที่ชื่นชอบจากผู้ชม”
  • คำปรึกษาตลอดเวลาหนึ่งปีจาก ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ และผู้เชี่ยวชาญภายนอก
  • พื้นที่ในโครงการผู้ประกอบการเพื่อสังคม (ISEP) ของ INSEAD
  • คำปรึกษาตลอดเวลาหนึ่งปีจาก INSEAD

“แม้อุตสาหกรรมแฟชันกำลังเดินหน้าสู่การยอมรับความหลากหลายและความเท่าเทียมสำหรับคนทุกกลุ่ม แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่รอให้เราลงมือทำ” Martijn Hagman ซีอีโอประจำ Tommy Hilfiger Global กล่าว “เราจะใช้กิจกรรม ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ ต่อยอดความมุ่งมั่นของเราต่อเรื่องบทบาทที่เท่าเทียมและความหลากหลาย และช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่พวกเราปรารถนาและต้องการเห็นมากที่สุด”

พันธกิจของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ คือการเป็นบริษัทแฟชันที่ลดการสร้างขยะและเปิดรับผู้คนทุกกลุ่ม และบริษัทเครื่องแต่งกายไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่สร้างความยั่งยืนผ่านกระบวนการผลิตสินค้า การดำเนินธุรกิจ และการสร้างสัมพันธ์กับชุมชนและผู้มีส่วนได้เสีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเส้นทางสู่ความยั่งยืนของ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ซั่งสนับสนุนโดยกลุยทธ์ Forward Fashion ของพีวีเอช สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ แฟชั่น ฟรอนเทียร์ ชาเลนจ์ รวมถึงวิธีสมัคร สามรถดูได้ที่นี้: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/

ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ที่ติดตามแบรนด์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาผ่านสื่อสังคมโดยใช้แฮชแท็ก #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

# # #

เกี่ยวกับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์

ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ พีวีเอชคอร์ป

พีวีเอช เป็นผู้กำหนดมาตรฐานให้กับสไตล์ ในฐานะหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราสนับสนุนแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นให้เดินหน้า ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Calvin KleinTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในที่มีความเป็นดิจิทัลสูงอย่าง True&Co. เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้ และแบรนด์ตนเป็นเจ้าของและได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายซึ่งมีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ พีวีเอช มีพนักงานกว่า 40,000 คนในกว่า 40 ประเทศ และมีรายรับต่อปีราว 9.9 พันล้านดอลลาร์ฯ ทั้งหมดนี่คือพลังของ พีวีเอช

ติดตามเราได้ที่ FacebookInstagramTwitter และ LinkedIn

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210105006033/en/

ข้อมูลติดต่อ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์
Baptiste Blanc
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารสากล
อีเมล: baptiste.Blanc@tommy.com
โทร: +31 62904 2334

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tommy Hilfiger แต่งตั้ง Avery Baker เป็นประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้า

Logo

อัมสเตอร์ดัม, เนเธอแลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 พฤศจิกายน 2563

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นกิจการของ PVH Corp. [NYSE: PVH] มีความยินดีอย่างยิ่งในการประกาศแต่งตั้ง Avery Baker เป็นประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้า โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ในตำแหน่งใหม่ที่ได้รับนี้ Baker มีบทบาทความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ การตลาด และประสบการณ์การใช้สินค้าทุกประเภท ทุกภูมิภาค และทุกช่องทาง

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201119005356/en/

Avery Baker, President and Chief Brand Officer, Tommy Hilfiger Global (Photo: Business Wire)

Avery Baker ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้า Tommy Hilfiger Global (รูปภาพ: Business Wire)

นับตั้งแต่ร่วมงานกับ Tommy Hilfiger ในปี 2541 เป็นต้นมา Baker มีบทบาทหน้าที่หลากหลายในสำนักงานของบริษัททั่วโลก รวมถึงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินค้า ในช่วงกลางปี 2562 Baker ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น และปัจจุบันเธอก็ย้ายกลับสู่อ้อมกอดขององค์กรอีกครั้งเพื่อช่วยวางแผนอนาคตของบริษัทและแบรนด์ที่เธอเป็นห่วงเป็นใยมาก ในช่วงที่ Baker ดำรงตำแหน่งในบริษัท เธอมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ TOMMY HILFIGER ให้เป็นหนึ่งในแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอมีประวัติผลงานในการพัฒนาและวางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและเพิ่มมูลค่าการลงทุน

Martijn Hagman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าวว่า “Avery Baker มีความรู้ลึกซึ้งในสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดและดีเอ็นเอของแบรนด์ TOMMY HILFIGER ด้วยผลงานการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่ลูกค้าที่ช่วยขับเคลื่อนทั้งแบรนด์และธุรกิจ พันธะสัญญาการสร้างแบรนด์ในฝันและการตลาดระดับโลกยังเป็นหัวใจแห่งวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นแบรนด์ระดับโลกและเดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย เรารู้สึกตื่นเต้นที่มีโอกาสต้อนรับ Avery Baker เข้าสู่ครอบครัว Tommy Hilfiger อีกครั้ง เพื่อนำพาแบรนด์เดินหน้าในพื้นที่บริเวณนี้ และเพิ่มศักยภาพไปไกลระดับโลกอย่างเต็มกำลัง”

Avery Baker กล่าวว่า “ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ แบรนด์ต่าง ๆ มีโอกาสและความรับผิดชอบในการสร้างความแตกต่างแก่ชีวิตของผู้บริโภค ฉันเชื่อว่า Tommy Hilfiger สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลในฐานะบริษัทที่ได้รับความรักจากการกระทำของเรามากพอ ๆ กับผลิตภัณฑ์อันโดดเด่นที่เราออกแบบ ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาทำงานร่วมกับ Tommy, Martijn และทีมผู้บริหารของเราในยุโรป เอเชียแปซิฟิค และอเมริกาอีกครั้ง เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในแต่ละภูมิภาค และปรับเปลี่ยนบริษัทจากภายในสู่ภายนอก ตั้งแต่วัฒนธรรมองค์กรไปยังผู้บริโภค เพื่อเป็นบริษัททันสมัยแห่งปี 2563”

Baker ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินค้าในปี 2557 และได้บริหารจัดการธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างสรรค์แบรนด์เพื่อส่งต่อวิสัยทัศน์ใหม่ มีการผลักดันการผสมผสานของวัฒนธรรมป๊อบ แฟชั่น เทคโนโลยี และความบันเทิงเข้าด้วยกัน เธอได้ขับเคลื่อนโครงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น TOMMYNOW ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ใหญ่และประสบความสำเร็จที่สุดด้วยแฟชั่นโชว์แบบ “See Now, Buy now” หรือดูเสร็จซื้อเลย และนำสินค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 90 ยี่ห้อ TOMMY JEANS กลับมา โครงการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสืบสานมรดกให้เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคใหม่ ในช่วงที่เธอดำรงตำแหน่ง พันธมิตรทางธุรกิจชื่อดังและเหล่าผู้มีรสนิยมทรงอิทธิพล เช่น Lewis Hamilton, Zendaya, Gigi Hadid, KITH และ Vetements ได้ช่วยสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและขยายความน่าสนใจของแบรนด์ไปยังแฟน ๆ รุ่นใหม่อีกด้วย

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำ มีชื่อเสียงและอัตลักษณ์อันเป็นที่รู้จักทั่วโลก โครงการด้านการตลาดของบริษัทได้ช่วยเพิ่มฟุตพริ้นท์ของ TOMMY HILFIGER ผ่านการเติบโตที่สอดคล้องกันระหว่างการรับรู้แบรนด์และกลยุทธ์การเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางระดับโลกที่ช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าและรักษากลุ่มแฟน ๆ ที่ภักดีไว้ ปัจจุบัน ชื่อเสียงของแบรนด์ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะคอลเล็กชั่นที่โดดเด่น แคมเปญ พันธมิตรทางธุรกิจ และกิจกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกแก่ลูกค้า

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

Tommy Hilfiger ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชั่นเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์ ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เราเป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้ามาโดยตลอด ผลงานที่โดดเด่นของเราประกอบด้วย CALVIN KLEINTOMMY HILFIGERVan HeusenIZOD, ARROW, Warner’sOlga และ Geoffrey Beene ตลอดไปจนถึงแบรนด์ชุดชั้นใน True&Co. ที่มีความเป็นดิจิทัลสูง เราทำการตลาดสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เหล่านี้และเป็นที่รู้จักในระดับประเทศและต่างประเทศ และเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ของตนเอง PVH มีพนักงานมากกว่า 40,000 คนในกว่า 40 ประเทศ และมีรายรับต่อปีเกือบ 9,900 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งหมดนี้คือพลังของเรา พลังของ PVH

ติดตามเราได้ที่ FacebookInstagramTwitter และ LinkedIn

แถลงการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 (SAFE HARBOR STATEMENT UNDER THE PRIVATE SECURITIES LITIGATION REFORM ACT OF 1995): แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจในอนาคตของ บริษัท ของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องกฎหมายหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995  นักลงทุนพึงระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ด้วยความแม่นยำและบางส่วนอาจคาดการณ์ไม่ถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดแค่ (i) แผนกลยุทธ์ วัตถุประสงค์ ความคาดหวัง และความตั้งใจของบริษัทที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามดุลยพินิจของ บริษัท ; (ii) บริษัท อาจได้รับการพิจารณาว่าได้รับการยกระดับอย่างสูงและใช้กระแสเงินสดเป็นส่วนสำคัญในการบริหารหนี้สินอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทอาจไม่มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ บริษัทตั้งใจหรือที่เคยมีการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา; (iii) ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่น ๆ ที่ระบุเป็นครั้งคราวในเอกสารที่ บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บริษัทไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะไม่ว่าจะเป็นผลสืบเนื่องจากการรับข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่น ๆ

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201119005356/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger
Dana Perlman
เหรัญญิกและรองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์
(212) 381-3502 office
(917) 579 1374 cell
investorrelations@pvh.com

Virginia Ritchie
รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรการตลาด
virginia.ritchie@tommy.com
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Florasis ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางจากประเทศจีน เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2563

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแต่งหน้าแบบจีนและแบรนด์เครื่องสำอางจีนเริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทย ในบรรดาแบรนด์เครื่องสำอางยอดนิยมของประเทศจีน แบรนด์ Florasis มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

เมื่อเร็ว ๆ นี้  ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Florasis  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection" เปิดตัวบนจอขนาดใหญ่ MBK ในกรุงเทพฯ  หลังจากนี้  China Beauty ฮอตมาก  ผลิตภัณฑ์ชุดนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Florasis,  Jiaqi Li ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวแฟชั่นชื่อดังในประเทศจีนและช่างเครื่องเงินแม้วจีน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของการแต่งหน้าแบบจีนและความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน

ผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับแวดวงความงามจะพบแน่นอน   ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ได้จุดประกายการพูดคุยกันบ่อยครั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลเช่น Instagram และ YouTube ตั้งแต่เดือนตุลาคม ชาวเน็ตหลายคนกล่าวว่า "ว้าว! ฉันอยากรู้ว่าจะซื้อได้ที่ไหน"  "ผลิตภัณฑ์ของ Florasis มีคุณภาพสูงเหมือนนำมาจากวังโดยตรง"  พวกเขาแสดงความรักต่อ Florasis โดยไม่ลังเล

แบรนด์เครื่องสำอาง Florasis ก่อตั้งขึ้นในปี 2560  ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีพันธกิจในการสืบทอดและส่งเสริมสุนทรียภาพแบบตะวันออก  ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน คาดว่ายอดขายทั้งปีในปี 2563 จะเกิน 500 ล้านดอลล่าร์ 

ตามที่เรารู้กันดีว่า  ผลิตภัณฑ์ ชุด "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มชาวหนึ่งที่เป็นชนกลุ่มน้อย-ชาวแม้ว คนสัญชาติแม้วเป็นคนที่มีความสามารถในการทำเครื่องประดับเงินและงานปัก  เครื่องประดับเงินและงานปักต้องใช้หลายกระบวนการ  และสามารถทำได้ด้วยมือเท่านั้น  ด้วยการพัฒนาในยุคอุตสาหกรรม   ฝีมือเครื่องประดับเงินแม้วก็ยังประสบปัญหาเรื่องมรดก  ดังนั้น Florasis จึงทำเครื่องประดับเงินแม้วบนเครื่องสำอางด้วย เพื่อให้คนอื่น ๆ รู้ว่าประเทศจีนมีเครื่องประดับเงินชาติพันธุ์ที่สวยงามเช่นนี้ 

ดูที่ผลิตภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของ Florasis เราสามารถพบได้อย่างง่ายว่า Florasis ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แต่งหน้ามากมายที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศจีน Florasis ได้ทำซ้ำงานฝีมือจีนโบราณจำนวนมาก   แสดงให้เห็นถึงสุนทรียภาพและระดับการผลิตของจีนด้วยเครื่องสำอาง  ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของ  Florasis แตกต่างกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยอดนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก  ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยสร้างความสดชื่นเกี่ยวกับเครื่องสำอางจีน

ชุด  "Chinese Miao Ethnic Minority Silver Limited Collection"  ของ Florasis ได้เปิดตัวบนหน้าจอขนาดใหญ่ MBK ที่กรุงเทพฯในครั้งนี้  แสดงให้เห็นถึงความงดงามของวัฒนธรรมประจำชาติจีน  ความงามของชาติก็คือความงามของโลก  ในความหลากหลายทางสุนทรียภาพในปัจจุบันนี้ ความสวยงามแห่งชาติสามารถกระตุ้นอารมณ์สะท้อนของผู้คนทั่วโลกได้มากขึ้น ทำให้บุคคลรู้สึกถึงเสน่ห์และอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive และ Jennifer Rade สไตลิสต์ของคนดัง Jennifer Rade ประกาศการประชุมสุดยอดด้านสไตล์และความงามแบบดิจิทัลสำหรับฤดูใบไม้ร่วง หรือ Digital Fall Style and Beauty Summit

Logo

การประชุมจะนำผู้นำในอุตสาหกรรมด้านสไตล์และความงามมารวมกัน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่น ความงาม และสุขภาพ

ซีแอตเทิล และลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–6 พ.ย. 2563

Glamhive ประกาศการประชุมออนไลน์ครั้งที่สามที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน การประชุม Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามระดับแนวหน้าตั้งแต่สไตลิสต์ของ Sarah Jessica Parker ไปจนถึงช่างทำผมของ Kim Kardashian โดย ผู้นำด้านนวัตกรรมจะพูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่น สุขภาพ ความงามและอีกหลากหลายประเด็น โดย Stephanie Sprangers และ Jennifer Rade จะเป็นพิธรกรจัดงานร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit will bring together top fashion and beauty leaders (Graphic: Mary Kay Inc.)

The Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit จะรวบรวมผู้นำแฟชั่นและความงามชั้นนำ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

"ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด Glamhive LIVE Fall Style and Beauty กับ Stephanie เรารวบรวมเอาสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ดีไซเนอร์ และผู้ประกอบการที่น่าทึ่งที่สุดในโลกมาไว้ที่นี่ เพื่อแบ่งปันทุกสิ่งที่เราเรียนรู้ ตั้งแต่วิธีเริ่มต้นไปจนถึงกลเม็ดเคล็ดลับในการมีสไตล์ส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม "Jennifer Rade สไตลิสต์คนดังและนักออกแบบเครื่องแต่งกายกล่าว Jennifer เป็นหนึ่งในสไตลิสต์ที่มีงานเยอะที่สุดในปัจจุบัน ลูกค้าของเธอมีตั้งแต่ดารา A-List อย่าง Angelina Jolie, Abbie Cornish, Cher และ Jenna Fischer ไปจนถึงนักดนตรี Lady A, Pink, Marilyn Manson, Dave Matthews, Amy Winehouse, Motley Crue และ Tina Turner ผลงานของเธอได้รับการนำเสนอในสิ่งพิมพ์หลายฉบับเช่น W, Vanity Fair, Marie Claire, GQ, Esquire และ Harper's Bazaar

"วิสัยทัศน์ของ Glamhive คือการจัดแต่งทรงผมให้กับทุกคน ทุกที่ และงานดิจิทัลของเราเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมในปีนี้ ทำให้เราสามารถนำกิจกรรมของเราไปสู่ทุกคนได้ทุกที่เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและความงามหรือที่ทำงานในอุตสาหกรรมสามารถเรียนรู้จากผู้ที่มีความสามารถเยี่ยมยอดที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ได้ "Stephanie Sprangers ผู้ก่อตั้ง Glamhive กล่าว โดย Sprangers เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Glamhive ซึ่งเป็นบริการจัดแต่งทรงผมส่วนตัวออนไลน์ที่นำเสนอสไตลิสต์ส่วนตัวและช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญจากการคัดเลือกโดยตรงจากฮอลลีวูดและอินสตาแกรม ส่งตรงให้กับทุกคน อนึ่ง Glamhive ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งช่วยให้สไตลิสต์สามารถทำให้ลูกค้าพบกับประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมออนไลน์ได้ 100% ทำให้ผู้คนสามารถทำงานร่วมกับกับสไตลิสต์ได้ทุกที่ในโลก

กิจกรรมที่ต้องมีตั๋วสำหรับการเข้าร่วมงานนี้ จะเป็นกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยจะมี 22 กลุ่ม (segments) พร้อมกับวิทยากร 50 คน ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมของหัวข้อบางส่วนที่จะจะมีการอภิปรายโดยกลุ่มวิทยากรระดับ All-Star ณ งาน

หัวข้อ

  • Zoom Style: สไตล์ที่ยอดเยี่ยม (และสวมใส่สบาย)
  • การกลายมาเป็นแฟชั่นสไตลิสต์
  • Foundations First (การลงรองพื้นเป็นอันดับหนึ่ง)
  • สภาพแวดล้อมในบ้านของคุณส่งผลต่ออารมณ์และสะท้อนสไตล์ของคุณอย่างไร
  • How to Build the Wardrobe of Your Dreams
  • 360 Style — การผสมผสานระหว่างทรงผมการแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้า
  • การเป็นผู้ประกอบการ – ความกล้าที่จะก้าวไปเพื่อความฝันของคุณ
  • อนาคตของการเดินพรมแดง
  • สาวฝรั่งเศสสุดชิคและความหลงใหลของเราต่อ Emily in Paris
  • Shape Matters — รักตัวเองและรูปร่างของคุณ
  • Style Your Health –  เพิ่มพลังงานและภูมิคุ้มกันของคุณ
  • Skincare Basics:  การฝึกสอนลูกค้าเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
  • Iconic Style + วิธีสร้างความแตกต่างแบบมีสไตล์ของคุณ

วิทยากร:

วิทยากร ได้แก่ สไตลิสต์ของคนดัง ช่างแต่งหน้า ผู้สร้างอิเมจที่ทำงานกับคนดังในฮอลลีวูดและอื่น ๆ ได้แก่ :

Angelina Jolie, Mandy Moore, Sarah Jessica Parker, Kristen Bell, Khloe Kardashian, Robert Downey Jr, Keanu Reeves, Dwayne Johnson, Donald Glover, Sharon Stone, Serena Williams, Miranda Lambert, Julianne Moore, Liv Tyler, และอื่น ๆ

สไตลิสต์ของคนดัง:

Jennifer Rade, Ilaria Urbinati, Erin Walsh, Nicole Chavez, Jeanne Yang, Janelle Miller, Lindsey Dupuis, Tiffany Gifford, Sonia Young, Rachel Wirkus, Kesha McCloud

เมคอัพอาร์ติสต์คนดัง + แฮร์สไตลิสต์:

Danesa Myricks, Andrew Fitzsimons, Daniel Martin, Colleen, Runne, Quinn Murphy, Sheridan Ward, Simedar Jackson และ  Mia Santiago

ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และผู้นำทางธุรกิจ

Cindy Eckhert (The Pink Ceiling Fund), Jonathan Sposato (ผู้ก่อตั้ง PicMonkey), Carrie Colbert (Curated Capital), Summer Holl (ประธาน Elyse Walker), Christian Juul Nielsen (Herve Leger | Aknvas), Lucy Aylen (Never Fully Dressed), Dr. Shrereene Idress, Dr. Avanti Kumar Singh

โมเดอเรเตอร์:

Brian Underwood (O the Oprah Magazine), Brooke Jaffe (อดีตผู้อำนวยการฝ่ายแฟชั่น Bloomingdales), Jack Eustace, Nicole Young (E! News), Kibwe Chase Marshall, ผู้ร่วมก่อตั้ง, The Kelly Initiative), Jezlan Moyet

ตั๋วเข้าร่วมการประชุมมีราคา 99 เหรียญ สำหรับการร่วมงานตลอดทั้งวันและยังรวมเพลย์ลิสต์ที่ She-J Nikki Pennie จัดทำขึ้นเป็นพิเศษด้วย ผู้สนับสนุนการนำเสนองาน Glamhive Digital Fall Style and Beauty Summit ได้แก่ Mary Kay และ Mary Kay Global Design Studio ส่วนผู้สนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่ NuBra USA, LEO, AKNVAS, NYDJ และอีกมากมาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.glamhive.com/upcoming.

เกี่ยวกับ Glamhive

Glamhive ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการ Stephanie Sprangers ในปี 2560 โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การเสริมภาพลักษณ์และสไตล์ส่วนบุคคลเป็นเรื่องของคนทั่วไป และความเชื่อมั่นที่มาพร้อมกับความงามเย้ายวนใจ (glamour) ไม่ควรเป็นเฉพาะของคนรวยและคนดัง

ประสบการณ์การจัดสไตล์แบบออนไลน์ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับสไตลิสต์ผ่าน WiFi โดยสไตลิสต์จะให้การสนับสนุนแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง สำหรับสไตลิสต์แล้วมันเป็นแพลตฟอร์มแบบคบวงจรที่ไร้รอยต่อเพื่อช่วยให้พวกเขาขยายเครือข่ายและธุรกิจได้เกือบ 100% แบบโลกออนไลน์

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201106005072/en/

ติดต่อ:

Stephanie Sprangers, ผู้ก่อตั้ง + CEO, Glamhive

stephanie@glamhive.com

+1.206.851.0446

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Tommy Hilfiger เร่งการเดินทางสู่ความยั่งยืนด้วยโครงการ “สร้างขึ้นให้ได้”

Logo

ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ที่จะ 'ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน' โปรแกรมเพื่อความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ที่มีชื่อว่า Make it Possible (สร้างขึ้นให้ได้) กำหนดเป้าหมาย 24 ประการและมุ่งสู่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายภายในปี 2573

  • Tommy Hilfiger เข้าใกล้ความยั่งยืนทั้งจากมุมมองด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมโดย Make it Possible มุ่งเน้นไปที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายตามลำดับ
  • ภารกิจของ Make it Possible คือการสร้างแฟชั่นที่ ‘Wastes Nothing and Welcomes All.’ (ไม่สร้างขยะและต้อนรับทุกคน)
  • โครงการนี้มี 24 เป้าหมายใน 4 เสาหลักภายในปี 2573
  • www.sustainability.tommy.com
  • #TommyHilfiger

AMSTERDAM–(อัมสเตอร์ดัม)–31 ส.ค. 2563

Tommy Hilfiger บริษัทของ PVH Corp. [NYSE: PVH] ประกาศโครงการ Make it Possible แนวทางเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างสรรค์แฟชั่นที่ 'Wastes Nothing and Welcomes All'  ด้วย Make it Possible, Tommy Hilfiger มุ่งสู่ 24 เป้าหมายซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบหมุนเวียนและการต้อนรับทุกฝ่ายโดยสรุปไว้ในสี่เสาหลักภายในปี 2030:

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

  • ระบบหมุนเวียนอย่างรอบด้าน: สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีระบบหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ที่ยั่งยืน
     
  • สร้างขึ้นเพื่อชีวิต: การดำเนินงานที่คำนึงถึงขอบเขตของโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน มลพิษทางน้ำจืดและเคมี จากสิ่งที่เราซื้อถึงที่ที่เราขาย
     
  • ต้อนรับทุกฝ่าย: เป็นแบรนด์ที่เหมาะสมสำหรับแฟน TOMMY ทุกคน โดยต้อนรับทุกฝ่ายและเข้าถึงได้เสมอ
     
  • โอกาสสำหรับทุกคน: สร้างการเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกันอย่างไม่มีอุปสรรคต่อความสำเร็จที่ Tommy Hilfiger
     

โครงการของ Tommy Hilfiger ขับเคลื่อนโดยของบริษัทแม่ PVH Corp ที่มีกลยุทธ์ Forward Fashion ซึ่งเป็นชุดลำดับความสำคัญ 15 ประการที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบด้านลบให้เป็นศูนย์ เพิ่มผลกระทบเชิงบวกถึง 100% และปรับปรุงชีวิตกว่า 1 ล้านคนในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

“ผมเปิดร้านแห่งแรกของผม People's Place ในปี 1969 ในบ้านเกิดของผมที่ Elmira เพื่อให้ผู้คนจากทุกพื้นฐานได้มารวมตัวกันและแบ่งปันประสบการณ์วัฒนธรรมร่วมสมัยที่น่าตื่นเต้น” Tommy Hilfiger กล่าว “ในขณะที่แบรนด์ของเรามีการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงผลักดันจากจิตวิญญาณการต้อนรับทุกฝ่ายนี้ เราจึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม  ด้วยโครงการ Make it Possible เราจะก้าวไปอีกขั้นด้วยความมุ่งมั่นของเรา  เรากำลังดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเราด้วยทั้งองค์กรที่มุ่งเน้นและจะบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้”

“ในช่วงวิกฤตด้านสุขภาพ มนุษย์ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เรามีความรับผิดชอบร่วมกันในการค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมที่จะส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวกันและสร้างอนาคตที่เป็นระบบหมุนเวียนมากขึ้น” Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าว “เป็นธรรมชาติของเราที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงแม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด  ด้วยเหตุนี้เราจึงประกาศโครงการ Make it Possible ที่เป็นความทะเยอทะยานของเราโดยสรุปเป้าหมาย 24 ประการภายในปี 2573  Tommy Hilfiger มีประวัติยาวนานนับหลายสิบปีในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงการบุกเบิกกระบวนการผลิตยีนส์ที่มีผลกระทบต่ำ การสนับสนุนการดูแลน้ำ และการสร้างคอลเลกชันที่ต้อนรับทุกฝ่ายมากขึ้น  Make it Possible คือวิธีหนึ่งที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยั่งยืนยึ่งขึ้น”

Make it Possible ถือเป็นก้าวล่าสุดในการเดินทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger  ความสำเร็จที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดตัว Tommy Hilfiger Adaptive ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้การแต่งกายง่ายขึ้นสำหรับผู้ใหญ่และเด็กที่มีความพิการและ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพและสเกลอัพที่พัฒนาโซลูชันที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความยั่งยืนในแฟชั่น  เมื่อไม่นานมานี้ Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวโครงการ People's Place เพื่อพัฒนาตัวแทนของชุมชนคนผิวดำ คนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์  ในปัจจุบันนักออกแบบ Tommy Hilfiger มากกว่า 80% ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับกลยุทธ์การออกแบบระบบหมุนเวียนและในปี 2019 ผ้าฝ้าย 72% ที่ใช้ทั่วโลกมาจากแหล่งที่ยั่งยืน  นอกจากนี้ผ้ายีนส์กว่า 2 ล้านชิ้นยังได้รับการออกแบบให้ลดแรงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำและพลังงานที่ใช้ตามฤดูกาล  แต่ละคอลเลกชั่นคอลเลกชั่นของ TOMMY HILFIGER มีสไตล์ที่ยั่งยืนมากขึ้นในคอลเลกชั่นโดยเห็นได้จากรูปแบบที่ยั่งยืนมากขึ้น 50% สำหรับฤดูใบไม้ผลิปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าจากฤดูใบไม้ผลิปี 2563

โดยตระหนักว่าไม่มีบริษัทใดสามารถเปลี่ยนแนวความยั่งยืนได้เพียงลำพัง Tommy Hilfiger ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ PVH Corp. ได้เข้าร่วมพันธมิตรในอุตสาหกรรมโดยการลงนาม The Fashion Pact ในเดือนสิงหาคม 2562 รวมทั้งเข้าร่วมโครงการ Ellen MacArthur Foundation Make Fashion Circular และ Jeans Redesign  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Tommy Hilfiger ได้ร่วมมือกับ WWF เพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านน้ำในสถานที่ตั้งของห่วงโซ่อุปทานเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงด้านน้ำสำหรับซัพพลายเออร์และนิคมอุตสาหกรรมในลุ่มแม่น้ำไท่หูของจีนและทำหน้าที่เป็นพันธมิตรผู้ก่อตั้งโครงการดูแลแหล่งน้ำใหม่ในเวียดนามในลุ่มน้ำโขง

ตลอดการเดินทาง Tommy Hilfiger จะแบ่งปันความคืบหน้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Make it Possible และภาพรวมความสำเร็จทั้งหมด ไปที่: sustainability.tommy.com

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

ด้วยผลงานแบรนด์ที่มี TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS, Tommy Hilfiger เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์พรีเมี่ยมที่ได้รับการยอมรับที่สุดของโลก โดยมุ่งเน้นที่การออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาสำหรับผู้ชาย เครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสำหรับผู้หญิง เสื้อผ้าเด็ก คอลเลกชันเดนิม ชุดชั้นใน (รวมทั้งเสื้อคลุม ชุดนอน และชุดใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ  Tommy Hilfiger ได้รับลิขสิทธิ์ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่ครบครันเช่นแว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังขนาดเล็ก ของใช้ในบ้าน และกระเป๋าเดินทาง  กลุ่มผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนส์และรองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เครื่องประดับและน้ำหอม Tommy Hilfiger    สินค้าภายใต้แบรนด์TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS วางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกผ่านทางเครือข่ายร้านค้าที่กว้างขวางของ Tommy Hilfiger และ TOMMY JEANS ร้านปลีกชั้นนำพิเศษและห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกออนไลน์และ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก  เรานำแบรนด์ที่ขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้า โดยแบรนด์ของเราประกอบด้วย CALVIN KLEIN, TOMMY HILFIGER, Van Heusen, IZOD, ARROW, Warner's, Olga และ Geoffrey Beene แบรนด์ตลอดจนแบรนด์เน้นดิจิทัล True&Co.  เราจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายภายใต้แบรนด์โด่งดังที่เหล่านี้ทั้งในและต่างประเทศ  PVH มีผู้ร่วมงานกว่า 40,000 คนที่ดำเนินงานในกว่า 40 ประเทศและมีรายได้ 9.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี  นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200830005002/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger
Baptiste Blanc
Sr. Director, Communications and Earned Media (ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการสื่อสาร)
Baptiste.Blanc@tommy.com
+31 62904 2334