Category Archives: General News

Black & Veatch พัฒนาการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศอินโดนีเซีย

Logo

Augustus Global Investment ร่วมมือกับ Black & Veatch สำหรับกรณีศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิคและทางเศรษฐกิจในการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเขตจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย

JAKARTA, Indonesia–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2023

Black & Veatch ผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันพื้นฐานที่สำคัญ ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับ Augustus Global Investment (AGI) ในการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศอินโดนีเซีย

โครงการนี้มุ่งมั่นในการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้อิเล็กโตรไลเซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังานทดแทน

Black & Veatch จัดสร้างโรงงานและวิเคราะห์เทคโนโลยี ประมาณการต้นทุนตามลำดับความสำคัญสำหรับการผลิตและกักเก็บไฮโดรเจน การศึกษาพบว่า โครงการนี้มีความเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิคและทางเศรษฐกิจ และมีศักยภาพที่จะมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในประเทศอินโดนีเซีย

Narsingh Chaudhary ประธานบริษัท Black & Veatch ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินเดีย กล่าวว่า “ด้วยพลังงานมหาศาลและทรัพยากรหมุนเวียนในประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงพลังงานความร้อนใต้ดิน โครงการนี้มีศักยภาพอย่างมากที่จะเป็นตัวเร่งในการเศรษฐกิจสำหรับไฮโดรเจนในระยะยาวสำหรับประเทศอินโดนีเซียในทศวรรษหน้า”

และเขาได้กล่าวเสริมว่า “Black & Veatch อยู่ในระดับแนวหน้าของห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างโรงงานผลิตและกักเก็บไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดแห่งของโลกแบบครบวงจรในปัจจุบันนี้ และเรายินดีที่จะนำความเชี่ยวชาญระดับโลกของเรามาสู่ภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงการเหล่านี้”

จะมีการสร้างโรงงานผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Arun Lhokseumawe Special Economic Zone (SEZ) ในเขตจังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีบ โรงงานแห่งนี้คาดว่า จะสามารถผลิตไฮโดรเจนได้ถึง 98.5 ตันต่อวัน (TPD) และมีกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ (MW)

Fadi Krikor, CEO ของ AGI เป็นบริษัทการลงทุนในเยอรมนีที่มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน กล่าวว่า “Augustus มองเห็นโอกาสทั่วโลกสำหรับการลงทุนระยะยาวในโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของประเทศไปสู่พลังงานสะอาดในอนาคต”

การพัฒนาโรงงานผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคาดว่าจะมีมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนหนึ่งของความพยายามในประเทศอินโดนีเซียเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางในระดับคาร์บอน รวมถึงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญา โดยเน้นไปที่พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และพลังงานความร้อนใต้ดิน รวมถึงไฮโดรเจน

Black & Veatch มีส่วนร่วมในการสร้างกำลังการผลิตอิเล็กโตรไลซิส 245 MW โดยมีการผลิตไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า รวมถึงในฐานะผู้ให้บริการด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้าง (EPC) สำหรับโรงงาน Advanced Clean Energy Storage ในเมืองเดลต้า รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตและกักเก็บไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ในงาน Enlit Asia 2023 Chaudhary จะนำเสนอแผนงานเพื่อให้บรรลุระดับการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในระบบพลังงานอนาคตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ติดต่อ Black & Veatch หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

หมายเหตุจากบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทให้บริการด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในด้านนวัตกรรมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปี 1915 เราได้ช่วยลูกค้าของเราในการปรับปรุงชีวิตของผู้คนทั่วโลก โดยมุ่งเน้นความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
24-HOUR MEDIA EMAIL | Media@bv.com

แหล่งข้อมูล: Black & Veatch

โครงการเร่งปลูกป่า (Accelerator) ที่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพของ Terraformation ได้รับการสนับสนุนขยายการบุกเบิกสำหรับเฟสแรก และได้รับการยืนยันอีกสองเฟส

Logo

  • เฟสแรกในเอเชียแปซิฟิกเปิดตัวสี่โครงการทั่วฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ซึ่งครอบคลุมการฝึกอบรมด้านป่าไม้สำหรับโครงการ The Nature Conservancy Asia ในนิวซีแลนด์และอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน
  • เฟสถัดไปในโครงการเร่งปลูกป่า (Accelerator) ของ Terraformation ต่อเนื่องไปจนถึงเฟสที่ 2 โดยได้รับเงินสนับสนุน 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการพัฒนาโครงการคาร์บอนเต็มรูปแบบ

WAIMEA, Hawaii–(BUSINESS WIRE)–9 พฤศจิกายน 2023

Terraformation บริษัทป่าไม้ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นโดย Yishan Wong  อดีต CEO ของ Reddit ประกาศความคืบหน้าของเฟสแรกจากโครงการ Seed to Carbon Forest Accelerator เข้าสู่เฟสที่ 2 ซึ่งช่วยให้ทีมป่าไม้สามารถเริ่มต้นโครงการนำร่องได้ และมีการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น สถานอนุบาลพืชพันธุ์ และธนาคารเมล็ดพันธุ์ โครงการ Accelerator ของ Terraformation เป็นโครงการแรกของโลกที่มุ่งเน้นความหลากหลายทางชีวภาพ และได้รับทุนสนับสนุนโครงการคาร์บอนสำหรับผู้ปลูกป่าทั่วโลก โดยเสริมเงินทุนในส่วนที่สำคัญ เทคโนโลยี และทักษะที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟูชุมชนพื้นเมืองที่มีความหลากหลาย

Terraformation’s biodiversity-focused forest accelerator gains momentum as the first cohort scales its operations and two more cohorts confirmed (Photo: Business Wire)

โครงการเร่งปลูกป่า (Accelerator) ที่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพของ Terraformation ได้รับการสนับสนุนการบุกเบิกสำหรับเฟสแรก และได้รับการยืนยันอีกสองโครงการ (ภาพถ่าย: Business Wire)

หลังจากเสร็จสิ้นเฟสแรกของโครงการ Accelerator แล้ว รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อประเมินศักยภาพของโครงการที่จะเติบโตเป็นโครงการคาร์บอนเต็มรูปแบบ รวมถึงการฝึกอบรมการดำเนินธุรกิจ ความหลากหลายทางชีวภาพ ตลาดคาร์บอน และป่าไม้ ขณะนี้ ทีมงานได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมให้เข้าสู่เฟสที่ 2 เป็นระยะเวลาสูงสุดสองปี ในระหว่างเฟสนี้ ทีมงานป่าจะมีการยื่นเอกสารการออกแบบโครงการ (PDD) กับสำนักทะเบียนคาร์บอน และเตรียมการสำหรับการขยายตลาดคาร์บอน นอกเหนือจากการติดตามข้อมูลระดับคาร์บอน และผลกระทบทางสังคมสำหรับโครงการฟื้นฟูป่าชุมชนพื้นเมือง โดย Terraformation จะทำงานร่วมกับทีมงานป่าไม้ เพื่อสร้างแหล่งรายได้ในอนาคต เช่น เครดิตคาร์บอนที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพระดับสูง และโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนอื่นๆ ในระหว่างที่พวกเขาก้าวเข้าสู่เฟสสุดท้ายของโครงการ Accelerator

ความคืบหน้าของทั้งสามโครงการที่ดำเนินเข้าสู่เฟสที่ 2 ของโครงการ Accelerator มีดังนี้:

  • การแก้ไขปัญหาน้ำทะเลโครงการฟื้นฟูป่าชายเลนในกานานี้ จะเป็นการฟื้นฟูป่าชายเลนกว่า 2,000 เฮกตาร์ในพื้นที่ชุ่มน้ำ Ramsar ที่มีความเสื่อมโทรมลง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดน้ำท่วมและการพังทลายของหน้าดิน ในขณะเดียวกัน ก็สร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืนในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงฟื้นฟู เกษตรกรรม และการเลี้ยงผึ้ง โครงการนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของผืนดินและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย
  • Fundación Grupo Argosโครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างเจ้าของผืนดินเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลางในโคลอมเบีย เพื่อฟื้นฟูป่าดิบเขตร้อนพื้นที่ 1,150 เฮกตาร์ โดยมุ่งเน้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพและการดักจับคาร์บอน พัฒนากิจกรรมวนเกษตรเพื่อปรับปรุงความเชื่อมโยงระหว่างป่าที่มีอยู่ และยกระดับการจัดการลุ่มน้ำในชุมชนท้องถิ่น
  • Eco2Libriumโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูสายพันธุ์พื้นเมือง 45 สายพันธุ์ด้วยกัน (รวมถึงหลายสายพันธุ์ที่หายาก ถูกทำลาย และเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองเฉพาะ) ในป่า Kakamega – ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่มากที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาตะวันออก และเป็นสายพันธุ์ที่หายากในป่าดงดิบ Guineo-Congolian ประโยชน์ของโครงการนี้ช่วยให้สามารถสร้างงานได้มากกว่า 500 ตำแหน่ง โดยเน้นที่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ และโครงการการศึกษาในท้องถิ่น

สองกลุ่มโครงการใหม่ที่เปิดตัวเข้าสู่เฟส 1

Terraformation ยังมีการเปิดตัวสองกลุ่มโครงการใหม่ที่เข้าสู่เฟส 1 โดยมีฐานตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกลุ่มโครงการ 2 นี้ประกอบด้วยหกโครงการที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูป่าพื้นที่เกือบ 23,000 เฮกตาร์ทั่วทั้งป่าชายเลน พื้นที่แห้งแล้ง และป่าพรุ กลุ่มโครงการ 3 กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ของ Terraformation กำลังเข้าเยี่ยมชมสถานที่เพื่อพบกับทีมงานในแอฟริกาตะวันตกและตะวันออก และยังมีอีกกลุ่มโครงการปลูกป่าพื้นเมืองที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในละตินอเมริกาซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวในต้นปีหน้า โดยจะเปิดให้ส่งใบสมัครได้ภายในวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ปี 2023 นี้

การเข้าร่วมการฝึกอบรมยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทีมงานป่าไม้ยังต้องเผชิญ ด้วยเหตุนี้ Terraformation จึงนำร่องความร่วมมือกับ The Nature Conservancy Asia-Pacific ในการจัดหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพและการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกป่าเฉพาะทางสำหรับโครงการป่าไม้และทีมงานท้องถิ่นในนิวซีแลนด์และอินโดนีเซีย

โครงการ Seed to Carbon Forest แห่งแรกของ Terraformation มีการเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของทีมงานปลูกป่าใหม่หลายพันทีม เพื่อการดักจับคาร์บอนในวงกว้างและจำกัดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โครงการ Accelerator จะมอบเงินทุนขั้นต้นที่จำเป็นให้แก่ทีมงานป่าไม้ จัดการฝึกอบรมในการฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นเมืองที่มีความยืดหยุ่น และชุดเครื่องมือเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของโครงการ ในระหว่างขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของโครงการฟื้นฟูป่าไม้ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ

Yishan Wong ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Terraformation กล่าว: “เราจำเป็นที่จะต้องมีทีมงานป่าไม้ใหม่ให้ทันท่วงทีเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับเครดิตคาร์บอนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพคุณภาพสูง โดยการสร้างแหล่งเครดิตใหม่ที่มีความโปร่งใสสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบัน เรากำลังดำเนินการเพื่อสร้างความไว้วางใจในตลาดโดยดำเนินการตรวจสอบคุณภาพควบคู่กับการเน้นเสริมผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ในพื้นที่ เพื่อให้มีโครงการที่มีความสมบูรณ์ซึ่งเน้นความสำคัญที่ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งให้ประโยชน์อย่างแท้จริง และสร้างสภาพภูมิอากาศที่เท่าเทียมกันสำหรับชุมชนท้องถิ่น

ความร่วมมือใหม่ๆ พร้อมนำเสนอทรัพยากรและการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้น

โครงการ Accelerator ได้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในวงกว้างเมื่อ Terraformation บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้รับการยอมรับในฐานะพันธมิตรทางด้านเทคนิคโดย AFR100 ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มจากสหภาพแอฟริกา สถาบันทรัพยากรโลก รัฐบาลเยอรมนี และธนาคารโลก เพื่อฟื้นฟูป่าที่ถูกทำลายและเสื่อมโทรมเป็นพื้นที่ 100 ล้านเฮกตาร์ทั่วแอฟริกาภายในปี 2030

Terraformation ยังมีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Forest Stewardship Council (FSC) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับนานาชาติ โดยมีผู้ดำเนินการหลายฝ่าย ที่ส่งเสริมการรับผิดชอบจัดการป่าไม้ของโลก โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มผู้จัดการป่าของ FSC และผู้ให้ทุนสนับสนุนโอกาสใหม่ๆ ผ่านโครงการ Accelerator ของ Terraformation

Terraformation และ Restor ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการทำแผนที่เชิงพื้นที่แบบเปิดสำหรับบุคคลทั่วไปและองค์กรต่างๆ สามารถทำงานร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการพื้นฟูป่าไม้ของโลกเพื่อรักษาเสถียรภาพของสภาพภูมิอากาศ ฟื้นฟูระบบนิเวศ และสร้างชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง และร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานในการเข้าถึงเงินทุนสนับสนุนด้านป่าไม้ และเป็นชุมชนออนไลน์เพื่อการฟื้นฟูและอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุด ทีมงานป่าไม้บนแพลตฟอร์มระดับโลกของ Restor สามารถใช้โปรไฟล์ของโครงการที่มีอยู่เพื่อเริ่มขั้นตอนการสมัครสำหรับโครงการ Seed to Carbon Forest Accelerator ของ Terraformation ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นแล้วในวันนี้ การผสานข้อมูลที่ล้ำสมัยและเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันของ Restor บวกกับผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ของ Terraformation จะช่วยให้โครงการฟื้นฟูป่าต่อๆ ไปจะได้รับการเสริมศักยภาพให้สูงขึ้น”

Tom Elliot, CEO ของ Restor กล่าว: “การฟื้นฟูเป็นการสร้างสภาวะให้ผู้คนและธรรมชาติเจริญเติบโตไปคู่กัน เรามีความภูมิใจในการนำเสนอโครงการ Seed to Carbon Forest Accelerator ของ Terraformation สู่ชุมชนเพื่อการฟื้นฟู โดยการผสานเครื่องมือที่ล้ำสมัยและโปร่งใสของ Restor บวกกับผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ของ Terraformation จะช่วยให้เราสามารถสร้างโอกาสสำหรับโครงการต่อๆ ไปของเรา และสร้างผลตอบรับในวงกว้างยิ่งขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Seb Leman/Ella Hatfield
Headland Consultancy
SLeman@headlandconsultancy.com
ehatfield@headlandconsultancy.com

Angela Jo Tu
Head of PR & Brand, Terraformation
angela@terraformation.com

แหล่งข้อมูล: Terraformation

ไวท์เปเปอร์ฉบับใหม่ของมูลนิธิ Tholos Foundation แสดงทางเลือกนิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลดอัตราการสูบบุหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด

Logo

WASHINGTON–(BUSINESS WIRE)–8 พฤศจิกายน 2023

มูลนิธิ Tholos Foundation ร่วมมือกับ Pacific Alliance Institute ในญี่ปุ่น และองค์กรที่ปรึกษา Scantech Strategy Advisors ในสวีเดน เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับนโยบาย Safer Nicotine Works เกี่ยวกับวิธีการที่ สวีเดนและญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการสูบบุหรี่ลง โดยการแนะนำ ผลิตภัณฑ์นิโคตินทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

Safer Nicotine Works วิเคราะห์ผลกระทบของนิโคตินในช่องปากและยาสูบแบบให้ความร้อนต่ออัตราการสูบบุหรี่ในสวีเดนและญี่ปุ่น จากผลงาน Vaping Works ซึ่งศึกษาประสบการณ์การสูบไอควันจากสี่ประเทศ และพบว่า ประเทศต่างๆ ที่หันมาใช้การสูบไอควัน เช่น (สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส แคนาดา และนิวซีแลนด์) พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ลดลงถึงสองเท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

ในญี่ปุ่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนสามารถลดอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายลงได้ต่ำกว่า 30% ตั้งแต่ครั้งแรกอย่างน่าทึ่ง

ในสวีเดน ซึ่งมีอัตราการสูบบุหรี่ 5.6% 1 พร้อมกลายเป็นประเทศ ‘ปลอดบุหรี่’ ภายในปีนี้ อัตราการสูบบุหรี่ที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นผลจากผลิตภัณฑ์นิโคตินที่เพิ่มขึ้นในปี 2019

ผลการวิจัยของมูลนิธิ Tholos Foundation ระบุว่า ผู้บริโภคในทั้งสองประเทศเป็นผู้นำไปสู่ทางเลือกการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น บทบาทสำคัญของผู้กำหนดนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่า ทางเลือกเหล่านี้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ โดยมีข้อมูลยืนยันว่า นิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นนี้ช่วยให้สามารถเลิกการสูบบุหรี่ได้เป็นอย่างมาก ด้วยผลิตภัณฑ์นิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น การสูบไอควัน ยาสูบแบบให้ความร้อน ถุงนิโคติน และสนัส อัตราการสูบบุหรี่จึงลดลงได้อย่างรวดเร็ว

Lorenzo Montanari รองประธานมูลนิธิ Tholos Foundation แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้นพบนี้ว่า:

นิโคตินที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นนี้ สามารถช่วยชีวิตผู้คนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง ประสบการณ์ในสวีเดนและญี่ปุ่น รวมถึงสหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ และฝรั่งเศส พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อผู้คนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น พวกเขาจะเลือกผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ เรามีอุปกรณ์ที่ช่วยเราในการต่อสู้กับอัตราการสูบบุหรี่ที่สูงขึ้นอย่างอันตราย ซึ่งรัฐบาลทั่วโลกจะต้องสนับสนุนพลเมืองของตนให้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีกว่า

ความสำเร็จในสวีเดนและญี่ปุ่นที่สามารถลดอัตราการสูบบุหรี่ให้น้อยลงได้นั้น เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การควบคุมยาสูบอย่างครอบคลุม โดยมีการควบคุมผลิตภัณฑ์นิโคตินทางเลือก เน้นความสำคัญที่สุขภาพของประชาชน ประสบการณ์ในสวีเดนและญี่ปุ่นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศต่างๆ ที่มุ่งลดอัตราการสูบบุหรี่และสนับสนุนทางเลือกอื่นที่ไม่ต้องสูบบุหรี่ โดยการทำให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นิโคตินทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และการดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างเหมาะสม ประเทศต่างๆ จึงสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสาธารณสุขและแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ได้อย่างมีนัยสำคัญ

สามารถดูลิงก์รายงานฉบับเต็มได้ที่นี่ https://tholosfoundation.org/wp-content/uploads/2023/10/Tholos-Safer-Nicotine-Works.pdf.

1 การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบและนิโคตินสำหรับผู้ใหญ่ — สำนักงานสาธารณสุขแห่งสวีเดน (folkhalsomyndigheten.se)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53758339/en

ติดต่อ

Lorenzo Montanari
อีเมล: lmontanari@tholosfoundation.org

แหล่งข้อมูล: Tholos Foundation


Mary Kay Ash Foundation℠ เฉลิมฉลองห้าปีสำหรับการสร้างอนาคตในการวิจัยโรคมะเร็ง โดยร่วมมือกับ UT Southwestern Medical Center

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–7 พฤศจิกายน 2023

The Mary Kay Ash Foundation℠ ผู้นำและผู้สนับสนุนการค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มีผลต่อสุขภาพของผู้หญิงมานานหลายทศวรรษ และ UT Southwestern Medical Center ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การแพทย์เชิงวิชาการชั้นนำของประเทศในเมือง Dallas, Texas ร่วมเฉลิมฉลองห้าปีแห่งความสำเร็จในการทำงานร่วมมือกันในโครงการ International Postdoctoral Scholars in Cancer Research Fellowship ซึ่งทุนนี้จัดขึ้นที่ Harold C. Simmons Comprehensive Cancer Center ที่ UT Southwestern Medical Center โดยเป็นโครงการปริญญาเอกสองปีที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation

International Postdoctoral Scholars in Cancer Research, Class of 2023. Back Row: Dongqi Xie, Ph.D. (left), Principal Investigator Jerry Shay, Ph.D. (middle), Pedro Nogueira, Ph.D. (right); Front Row: Debora Andrade Silva, Ph.D. (left), Hong-Yi Liu, Ph.D. (middle), and Maria Del Chica Parrado, Ph.D. (right). (Photo: Mary Kay Inc.)

ทุนระดับปริญญาเอกระดับนานาชาติในการวิจัยโรคมะเร็ง ชั้นปี 2023 แถวหลัง: Dongqi Xie, Ph.D. (ซ้าย), Principal Investigator Jerry Shay, Ph.D. (กลาง), Pedro Nogueira, Ph.D. (ขวา); แถวหน้า: Debora Andrade Silva, Ph.D. (ซ้าย), Hong-Yi Liu, Ph.D. (กลาง) และ Maria Del Chica Parrado, Ph.D. (ขวา) (ภาพถ่าย: Mary Kay Inc.)

โปรแกรมนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับสมัครนักวิจัยจากประเทศต่างๆ ที่โดดเด่นในสาขาของตน แบ่งปันประสบการณ์อันล้ำค่า ให้คำปรึกษา และมอบทุนตอบแทนเพื่อสนับสนุนการแสวงหาความรู้ต่อไปในประเทศบ้านเกิด โดยนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอด

จนถึงปัจจุบัน โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการสรรหานักวิจัยระดับปริญญาเอกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง 13 คนจากบราซิล จีน เยอรมนี เม็กซิโก สิงคโปร์ สเปน และโปรตุเกส โดยเจ็ดคนในจำนวนนี้ประสบความสำเร็จในโครงการนี้ อีกหกคนยังคงดำเนินโครงการวิจัยของตนเองใน Dallas ต่อไป และทุกคนล้วนได้รับความสนับสนุนในการตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่โดดเด่น

“เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation และ UT Southwestern Medical Center ได้ร่วมมือกันในความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มีผลต่อสุขภาพของผู้หญิงตลอดมา” Michael Lunceford ประธานคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation กล่าว “ความร่วมมือของเรายังคงนำนวัตกรรมที่สำคัญมาสู่แนวหน้าเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง โดยขจัดอุปสรรคและสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลข้ามพรมแดนและทั่วโลก การค้นพบนี้จะได้รับการแบ่งปันในระดับโลกและช่วยเหลือผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก”

ภายใต้คำแนะนำด้านความเชี่ยวชาญจาก Dr. Jerry Shay ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาเซลล์และโดดเด่นด้านผู้สูงอายุในสาขา Geriatrics ที่ UT Southwestern Medical Center ของ The Southland Financial Corporation โดยโปรแกรมนี้ดึงดูดและคัดเลือกผู้สมัครที่มีความโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจที่จะได้บุคคลที่มีคุณสมบัติสูงจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลายมาเข้าร่วม ในความพยายามเพื่อสรรหาบุคคลากรล่าสุด นักวิชาการที่โดดเด่นสองคนจะได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการคือ Debora Andrade Silva, Ph.D. จาก University of Sao Paulo ในบราซิล และ Quan Wang, Ph.D. จาก Shanghai Jiao Tong University ในจีน

“เราขอขอบคุณการลงทุนอย่างต่อเนื่องของมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ใน UT Southwestern Medical Center และอนาคตของการวิจัยโรคมะเร็ง ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิ เราสามารถดึงดูดผู้สมัครระดับแนวหน้าจากประเทศต่างๆ นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยของเราในการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และสร้างสรรค์ความก้าวหน้าด้านการวิจัยเป็นอย่างมาก” Dr. Jerry Shay กล่าว “ทุนระดับปริญญาเอกระดับโลกเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถด้านการวิจัยโรคมะเร็งที่หลากหลายมีโอกาสดำเนินการวิจัยโรคมะเร็งด้วยระบบที่ล้ำสมัยที่ศูนย์มะเร็ง UT Southwestern Simmons Cancer Center และในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา”

มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มีความภูมิใจในการสานต่อมรดกอันยาวนาน เพื่อสร้างสรรค์ให้โลกเป็นสถานทีที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากขึ้นสำหรับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขา

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53709537/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

The Mary Kay Ash Foundation
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Ash Foundation

หกทศวรรษแห่งการอุทิศตน: Mary Kay เผยแพร่รายงานเชิงลึกเกี่ยวกับด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญ

Logo

รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023’ เน้นย้ำผลกระทบที่มีต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของ Global Beauty Brand ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร เผยแพร่ “รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023” โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของแบรนด์ ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีชองแบรนด์นี้ Mary Kay มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับโลกกับผู้ถือหุ้นหลัก และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ เพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าในด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ

Mary Kay details its unwavering commitment to enriching lives and ensuring a sustainable future for all in its latest report. (Asset Source: Mary Kay Inc.)

Mary Kay เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนในรายงานล่าสุด (แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.)

“ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงคำคำหนึ่งสำหรับพวกเรา – แต่มีการสานต่อเป็นโครงสร้างที่สำคัญว่า เรามีจุดยืนอย่างไรในฐานะแบรนด์” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “ในขณะที่เราเฉลิมฉลองความสำเร็จของเราในปีนี้ เรายังคงมีความแน่วแน่ในภารกิจของเรา เรามุ่งมั่นที่จะมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อให้มั่นใจว่า Mary Kay ไม่เพียงเพิ่มพลังให้แก่ผู้หญิง แต่ยังมีการปกป้องบ้านที่เราอยู่ร่วมกันอีกด้วย”

ในโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว Mary Kay เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง โดยสนับสนุนพลังของผู้หญิง ในขณะเดียวกัน มีความตระหนักถึงการขับเคลื่อนที่ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการกำหนดเศรษฐกิจโลก และผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน รายงานประจำปี 2023 เน้นย้ำถึงโครงการริเริ่มทั่วโลกที่ขับเคลื่อนโดยผู้หญิง:

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

  • ทรัพยากรพื้นฐานและมีค่า: น้ำ
  • พลังของผู้หญิงในการอนุรักษ์
  • แกนนำผู้หญิงในการฟื้นฟูมหาสมุทร

ความยั่งยืนทางสังคม

  • การพลิกโฉมหน้าวิทยาศาสตร์ระดับโลก
  • ปลดปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการสตรีอย่างเต็มที่
  • ป้องกันอย่างทรงพลัง
  • เป็นผู้นำในการวิจัยโรคมะเร็งในสตรี

ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

  • ความหลากหลายและไม่แบ่งแยก: ผู้ขับเคลื่อนหลักในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
  • เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการสตรีกว่าล้านคนทั่วโลก
  • เป็นผู้บุกเบิกการวิจัยความเท่าเทียมทางเพศในอัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์

รายงานเป็นไปตาม รายงานความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2020-2022 ของ Mary Kay ซึ่งครอบคลุมเสาหลักสามประการของความยั่งยืน ได้แก่ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay คลิก ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากอดีต สู่ปัจจุบัน และตลอดไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ก้าวข้ามกำแพงวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามตามความฝันของเธอในเท็กซัส เมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอีสระหลายล้านคน ในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่การเปิดโอกาสของ Mary Kay ได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราให้แก่คนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนได้ทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53711947/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

Simon Thailand ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–31 ตุลาคม 2023

Simon Thailand กลุ่มอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับระบบแสงสว่าง ระบบควบคุมแสงสวาง การเชื่อมต่อและอุปกรณ์ไฟฟ้ เฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพ เมื่อวันที่ 26 เดือนตุลาคม ปี 2023

  Mr. Sergio Vives ประธาน Simon Group และ Mr. Esteban Bretcha, CEO ของ Simon Group ต่างกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์และคุณค่าองค์กรของ Simon และอวยพรให้แก่อนาคตที่สดใสสำหรับพันธมิตรผู้ค้าปลีกในประเทศไทย พร้อมกับสมาชิกคณะกรรมการ Mr Nicolás de Trincheria, Mr Ricard Aubert และ Mr Rafel Serra รวมถึง Mr. Jack Zhu ประธานบริษัท Simon Asia Pacific ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดด้วยเช่นกัน พร้อมกันนั้น Mr. Derek Dai ผู้อำนวยการ Simon Asia-Pacific และผู้จัดการMs Shanshan Weiตัวแทนจำหน่ายช่องทางร้านค้าปลีกของSimon Thailand ได้ร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย Simon group เป็นคณะกรรมการรับรอง Certifiedให้กับบริษัท วินเทอร์สวีท จำกัดอย่างเป็นทางการในฐานะผู้จัดจำหน่ายช่องทางค้าปลีกและมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้ค้าปลีก 7 รายสำหรับผลงานในปี 2023 ด้วยเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ เช่น สวิตช์และเต้ารับ โซลูชันระบบแสงสว่างและโซลูชันบ้านอัจฉริยะ เพื่อให้ลูกค้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับ Simon อย่างละเอียดมากขึ้น และเพื่อสร้างเสริมความมั่นใจในการร่วมมือกับ Simon มีการประชุมโดยรวมตัวแทนจำหน่าย มากก่วา200 รายจากทั่วประเทศซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และได้รับคำสั่งซื้อใหม่เป็นจำนวนมากภายในงาน

นี่เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Simon ในประเทศไทย แผนการในอนาคตของ Simon Group ในประเทศไทยจะมุ่งเน้นไปที่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในประเทศไทย บริษัทยังคงเปิดรับความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย และพร้อมในการลงทุนตามความจำเป็น เพื่อสนับสนุนพันธมิตรและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่เสมอ

เกี่ยวกับ SIMON

Simon Electric ก่อตั้งขึ้นในปี 1916 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันเทคโนโลยีสำหรับระบบแสงสว่าง ระบบควบคุมแสงสวาง การเชื่อมต่อและอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับสัญญาโครงการ (ระบบค้าปลีก โรงแรม สถานที่ทำงาน) และโครงการที่อยู่อาศัย Simon คงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการออกแบบและนวัตกรรมในทุกสาขา จึงทำให้ได้รับ National Design Award จากกระทรวงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และความสามารถในการแข่งขันในโอกาสครบรอบ 100 ปี บริษัทมีการดำเนินงานในกว่า 120 ประเทศ ทีมงาน Simon Group ประกอบด้วยบุคลากรกว่า 4,000 คนทั่วโลก โดยมีโรงงานอยู่ใน 15 ประเทศ โดย 10 แห่งในนั้นเป็นศูนย์การผลิต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

info@simon-apac.com

แหล่งข้อมูล: Simon Electric

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53712665/en

Starr Insurance ประณามความโหดร้ายเหตุโจมตีอิสราเอล

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–20 ตุลาคม 2023

Maurice R. Greenberg ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starr Insurance ออกแถลงการณ์ต่อไปนี้เกี่ยวกับการโจมตีอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้

“Starr Insurance ประณามอย่างชัดเจนถึงการกระทำอันโหดร้ายที่กลุ่มฮามาสกระทำต่อชาวอิสราเอลผู้บริสุทธิ์เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 รวมถึงการจับกุมตัวประกันอย่างต่อเนื่อง

“ตลอดประวัติศาสตร์การบริหารความเสี่ยงระดับโลกที่มีมายาวนานกว่าศตวรรษ เราได้ประสบความรุนแรงอันป่าเถื่อนมาแล้ว แต่น้อยมากที่จะไม่เคารพความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์เช่นนี้ เราต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายเช่นนี้ด้วยสายตาอันเฉียบคม จะต้องไม่สับสนการกระทำของฮามาสกับความปรารถนาอันชอบธรรมของกลุ่มอารยะเพื่อเสรีภาพ พวกเขาเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

“Starr ยืนหยัดเคียงข้างรัฐอิสราเอลในการดำเนินการตามสิทธิและหน้าที่ในการปกป้องพลเมืองของตน นอกจากนี้เรายังยืนหยัดในการสนับสนุนประชาชนในตะวันออกกลางทั้งหมดที่แสวงหาเสรีภาพและโอกาสที่ปราศจากความรุนแรง การถือทิฐิ และการไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”

เกี่ยวกับ Starr Insurance

Starr Insurance (หรือ Starr) เป็นชื่อทางการตลาดของบริษัทประกันภัยการดำเนินงานและให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทาง และบริษัทในเครือของ Starr International Company, Inc. และสำหรับธุรกิจการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทในเครือ Starr เป็นองค์กรประกันภัยและการลงทุนชั้นนำที่มีการดำเนินงานในหกทวีป Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันวินาศภัย อุบัติเหตุและสุขภาพ ตลอดจนความคุ้มครองพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น การบิน ทางทะเล พลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน ผ่านบริษัทประกันภัยที่ดำเนินงานของบริษัท บริษัทในเครือของบริษัทประกันภัยของ Starr ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง มอลตา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ต่างก็ครองอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A” (ยอดเยี่ยม) จาก A.M. Best องค์กร Lloyd ของ Starr ครองอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” (แข็งแกร่ง) จาก Standard & Poor

เยี่ยมชมเราได้ที่ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราบน LinkedIn และ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Charlie Armstrong 
รองประธานฝ่ายการตลาด 
charlie.armstrong@starrcompanies.com, 646.758.8308

ที่มา: Starr Insurance

83% ของบริษัทในเอเชียแปซิฟิกมองว่าการเติบโต ความคล่องตัว และประสบการณ์เป็นเสาหลักแห่งความสำเร็จ: การศึกษาด้านทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

Logo

การศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก HR Evolution Perspective 2023: Empower and Evolve ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของ Darwinbox และ People Matters

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2023

HR Evolution Perspectives 2023 เปิดเผยว่า CXO ทั่วเอเชียแปซิฟิกในปัจจุบันคาดหวังการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรสูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่ 83% ของ CXO ทั่วภูมิภาคกล่าวว่าพวกเขาคาดหวังการเติบโตของรายได้ในปีต่อๆ ไป 70% คาดการณ์ว่าจะมีการควบรวมกิจการเพิ่มขึ้น ในขณะที่อีก 80% ระบุว่าการขยายตัวตามธรรมชาติจะยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเติบโตและความสามารถในการทำกำไร

HR Evolution Perspectives 2023, a Darwinbox and People Matters’ initiative explores changing HR trends in Asia (Graphic: Business Wire)

HR Evolution Perspectives 2023 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของ Darwinbox และ People Matters สำรวจแนวโน้มด้าน HR ที่เปลี่ยนแปลงไปในเอเชีย (ภาพ: Business Wire)

รายงานสำคัญของ Darwinbox และ People Matters เป็นรายงานการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยรวบรวมคำตอบจากผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลกว่า 1,200 คน, CXO 350 คน และพนักงานประมาณ 1,500 คน โดยรวบรวมความคิดเห็นของทั้งนายจ้างและลูกจ้างเพื่อแสดงลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์

“Empower and Evolve (การเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนา) เป็นประเด็นสำคัญสำหรับรายงานสำคัญนี้ เนื่องจากโลกแห่งการทำงานมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การศึกษาครั้งนี้จึงช่วยยึดโยงกลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคลกับข้อมูลเชิงลึกเชิงปริมาณและช่วยอธิบายอย่างละเอียดว่าผู้นำที่มีความสามารถจะสร้างแนวปฏิบัติด้านทรัพยากรบุคคลที่พร้อมสำหรับอนาคตเพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตและบรรลุเป้าหมายการเติบโตได้อย่างไร” Ester Martinez ซีอีโอและบรรณาธิการบริหาร People Matters กล่าว

ข้อค้นพบที่สำคัญบางประการจากรายงาน ได้แก่:

  • 83% ของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มการเติบโตในเชิงบวก 81% ระบุว่าการมีกำไรมากขึ้นเป็นไปได้ 69% ของ CXOs ทั่วภูมิภาคตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนพนักงาน ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับกลุ่มนี้คือสถานที่ตั้งและภาคส่วนที่มีต้นทุนสูงบางแห่ง เช่น โทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี
  • 63% ของ CXO ทั่วเอเชียแปซิฟิกเน้นย้ำถึงการพัฒนาขีดความสามารถว่าเป็นความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญที่สุด แต่มีเพียง 27% เท่านั้นที่รู้สึกว่าตนเตรียมพร้อมเพียงพอที่จะจัดการกับข้อกังวลนี้
  • พนักงานต้องการผู้นำที่ดีและมีความสามารถมากขึ้น 52% ของพนักงานที่ตอบแบบสำรวจทั่วเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่าความเป็นผู้นำที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น
  • 68% ของ CXO กล่าวว่าการบูรณาการการจัดการผู้มีความสามารถที่ดีขึ้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก อีก 55% กล่าวว่าการรวมเทคโนโลยี HR เข้าด้วยกันเป็นสิ่งจำเป็นในเวลานี้
  • 68% ของ CXO ต้องการให้ประสบการณ์ของพนักงานเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญของเส้นทางการเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรบุคคล 63% ต้องการปรับปรุงคุณภาพบริการด้านทรัพยากรบุคคล และ 59% ต้องการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้จัดการและพนักงานแนวหน้า

“ปฏิเสธไม่ได้ว่า CXO มีมุมมองทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกอย่างมาก และคาดการณ์ได้อย่างถูกต้องว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาความท้าทายด้านความสามารถที่สำคัญ ดังนั้นจึงจะเน้นไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคลมากขึ้น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องปรับตัวให้เข้ากับช่วงเวลาที่พนักงานมีความคาดหวังสูงขึ้น แนวโน้มทางดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแรงกดดันจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทำงานร่วมกันที่ทุกคนเท่าเทียมกัน รายงานฉบับนี้อธิบายเกี่ยวกับความท้าทายเหล่านี้ และเรียกร้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลคว้าโอกาสในการเปลี่ยนแปลงองค์กรของตน ที่ขับเคลื่อนโดยบทบาทการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี” Vikrant Khanna หัวหน้าระดับโลกฝ่ายการจัดการคุณค่า ที่ปรึกษาและโซลูชันของ Darwinbox ที่เป็นผู้ร่วมเขียนรายงานการวิจัยกล่าว

ตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความท้าทายที่แตกต่างกันสำหรับผู้นำทั่วเอเชียแปซิฟิก รายงานพบว่าผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลต้องการมุ่งเน้นไปที่ความคล่องตัวและประสบการณ์ของพนักงานเป็นสองเสาหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้ดีขึ้นและบรรลุการเติบโต

“จุดมุ่งเน้นของกลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคลกำลังมุ่งเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์ของพนักงาน การเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานและผู้จัดการระดับแนวหน้าให้เป็นผู้นำ เน้นฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง และได้เห็นการบูรณาการเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าแนวคิดใหม่นั้นมีรากฐานมาจากแนวทาง “การมองจากมุมมองของลูกค้าเป็นหลัก” Darwinbox เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าแม้การระบุและการนำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพนั้นเป็นเพียงระยะเริ่มต้น แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อองค์กรต่างๆ นำเทคโนโลยีไปใช้อย่างต่อเนื่องและใช้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นเราจึงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับฐานลูกค้าของเรา รับฟังความต้องการของพวกเขาอย่างตั้งใจ และนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้พวกเขาก้าวนำหน้าผู้อื่น” Vikrant Khanna กล่าวเสริม

นี่เป็นเพียงภาพรวมของรายงาน HR Evolution Perspectives 2023 รายงานฉบับเต็มจะเจาะลึกถึงแนวโน้มเหล่านี้ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53584938/en

รายชื่อติดต่อ

Vikrant Khanna, vikraant.khanna@darwinbox.com

ที่มา: People Matters

GMAT™ Focus Edition เตรียมส่งมอบการทดสอบในเดือนหน้า แทนที่เวอร์ชันปัจจุบันในเดือนกุมภาพันธ์

Logo

GMAT Focus เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับผู้สมัครที่ต้องการศึกษาในโรงเรียนธุรกิจแล้ว

เรสตัน, เวอร์จิเนีย–(BUSINESS WIRE http://www.businesswire.com)–17 ตุลาคม 2023

The Graduate Management Admission Council™ (GMAC) ซึ่งเป็นสมาคมระดับโลกที่เป็นตัวแทนของโรงเรียนธุรกิจชั้นนำ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบ GMAT™ Focus Edition ที่จะเริ่มในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 GMAT Focus Edition ที่ได้รับการอัปเดตจะเข้ามาแทนที่การสอบ GMAT™ เวอร์ชันปัจจุบันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 และกลายเป็น GMAT เวอร์ชันเดียวสำหรับผู้สมัครที่ต้องการศึกษาต่อในโรงเรียนธุรกิจในฝัน

GMAT ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำด้านการศึกษาและการรับเข้าศึกษาในโรงเรียนธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษามาเป็นเวลา 7 ทศวรรษ โดยได้รับการยอมรับจากโปรแกรมมากกว่า 7,700 โปรแกรมและโรงเรียนธุรกิจ 2,400 แห่งทั่วโลก การทดสอบได้รับการออกแบบใหม่พร้อมประสบการณ์การทำข้อสอบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นเพื่อรองรับและสนับสนุนผู้สมัครมากขึ้นในเส้นทางสู่โรงเรียนธุรกิจ

“เราขอขอบคุณโรงเรียนธุรกิจ ผู้สรรหาบุคลากร และผู้สมัครที่มีศักยภาพทั่วโลกที่ให้ความร่วมมือกับเราอย่างใกล้ชิดในการออกแบบการทดสอบ GMAT ใหม่นี้ เป้าหมายที่เราเห็นความสำคัญร่วมกันคือเพื่อให้แน่ใจว่า GMAT Focus Edition ประเมินชุดทักษะที่เกี่ยวข้องและเป็นที่ต้องการมากที่สุด เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การแก้ปัญหา และการให้เหตุผลเชิงวิพากษ์ และเพื่อช่วยให้ผู้สมัครแต่ละคนทำการทดสอบได้อย่างเต็มที่โดยให้สิทธิ์พวกเขาในการเลือกการทดสอบและการส่งคะแนนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น” จอย โจนส์ ซีอีโอของ GMAC กล่าว

“นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1954 GMAT ได้กลายเป็นมาตรฐานทองคำในการสอบเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาทางธุรกิจ โรงเรียนธุรกิจชั้นนำทั่วโลกยอมรับหลักสูตรนี้มากกว่าทางเลือกอื่น เนื่องจากเป็นการประเมินเดียวที่ออกแบบมาสำหรับหลักสูตรธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษาในปัจจุบัน และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถประเมินผู้สมัครที่ต้องการเข้าศึกษาโรงเรียนธุรกิจได้อย่างน่าเชื่อถือและคาดการณ์ความสำเร็จในห้องเรียนได้” Themin Suwardy รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาขั้นวิชาชีพระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ และประธานคณะกรรมการบริหาร GMAC คนใหม่ กล่าว “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นโรงเรียนต่างๆ ได้รับประโยชน์จาก GMAT Focus Edition เช่นมหาวิทยาลัยของผม โดยการดึงดูดกลุ่มผู้สมัครหลากหลายคนจากทั่วโลก”

เกี่ยวกับ GMAC

Graduate Management Admission Council (GMAC) เป็นสมาคมที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจของโรงเรียนธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษาชั้นนำทั่วโลก GMAC เป็นเจ้าของและจัดการดูแลการทดสอบ Graduate Management Admission Test™ (GMAT™) ซึ่งเป็นการประเมินเพื่อเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาทางธุรกิจที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด BusinessBecause และ GMAC Tours เป็นบริษัทในเครือของ GMAC ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่มีสำนักงานตั้งอยู่ที่จีน อินเดีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.gmac.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Teresa Hsu
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสัมพันธ์
โทรศัพท์มือถือ: 202-390-4180
thsu@gmac.com

ที่มา: The Graduate Management Admission Council

Medisca ดำเนินการขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อปกป้องเทคโนโลยีซึ่งเป็นนวัตกรรมของบริษัท

Logo

Medisca ยื่นฟ้อง FlackTek ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร

PLATTSBURGH, N.Y.–(BUSINESS WIRE)–13 ตุลาคม 2023

Medisca ได้ดำเนินการอีกหนึ่งก้าวเพื่อปกป้องการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ (R&D) ที่ดำเนินการไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นเครื่องผสม Medisca MAZ® ชั้นนำของอุตสาหกรรม โดยเครื่องผสม Medisca MAZ นี้มอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ มีความสม่ำเสมอ และมีคุณภาพสูงสำหรับการผสมสูตรหลายร้อยสูตร และได้รับการคุ้มครองโดยสิทธิบัตรทั่วโลก

ในขณะที่ Medisca ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญเพื่อแจ้งให้อุตสาหกรรมทราบเกี่ยวกับพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตรของตน บริษัทบางแห่งยังคงมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์อันมีค่าของตนและเพื่อสร้างความมั่นใจในการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม เมื่อเดือนที่แล้ว Medisca จึงมีการยื่นฟ้อง Fagron B.V., HiperScan GmbH และ Gako Deutschland GmbH ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรทางยุโรปของ Medisca German หมายเลข 3,538,071 คดีดังกล่าวได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงที่ Munich และเป็นคำร้องเพื่อบรรเทาทุกข์ เป็นคำสั่งห้าม และเยียวยาทางการเงิน

ในวันนี้ ความพยายามเพื่อบังคับใช้ของ Medisca ได้ขยายเข้าไปในสหรัฐอเมริกา โดยมีการยื่นฟ้องคดีละเมิดสิทธิบัตรที่ศาลแขวงของ South Carolina เพื่อให้ดำเนินคดีกับ FlackTek ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca ในสหรัฐอเมริกา หมายเลข 10,420,705, 10,765,600, 11,090,224, 11,096,864, 10,231,903 และ 10,993,876 เช่นเดียวกับการดำเนินการยื่นฟ้องคดีที่เยอรมันก่อนหน้านี้ คำร้องในสหรัฐอเมริกาฉบับนี้เป็นคำร้องเพื่อบรรเทาทุกข์ เป็นคำสั่งห้าม และเยียวยาทางการเงิน นอกจากนี้ ยังรวมถึงข้อกล่าวหาในการที่ PCCA ใช้และจำหน่าย SpeedMixer ของ FlackTek และส่วนผสมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของ Medisca

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจในการแข่งขันอย่างยุติธรรมในตลาดระดับโลก ซึ่งมีการเคารพในนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา” Panagiota Danopoulos รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมระดับโลกของ Medisca กล่าว “ดังนั้น นอกเหนือจากการฟ้องร้องล่าสุดของเราในเยอรมนีแล้ว เรายังมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่า สิทธิบัตรของเราจะได้รับการรับรองทั่วโลก”

Medisca หวังว่าการยื่นฟ้องในวันนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจให้คู่แข่งทั้งหมดทราบถึงความสำคัญของการเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของ Medisca อุตสาหกรรมส่วนผสม (เช่น ยา และกัญชา) ต้องอาศัยคุณภาพและประสิทธิภาพที่นำเสนอโดยเครื่องผสม Medisca MAZ กลยุทธ์ด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาที่ Medisca ดำเนินการมาอย่างเนื่อง จะเป็นตัวรับประกันว่า บริษัทส่วนผสมทั้งหมดจะได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่พวกเขาสมควรได้รับ

เกี่ยวกับ Medisca:

Medisca เป็นองค์กรระดับโลกที่มีสำนักงานอยู่ทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งมีส่วนสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพ โดยใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีและแข็งแกร่ง จึงสามารถนำเสนอโซลูชันที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยความมุ่งมั่นในด้านคุณภาพและนวัตกรรมที่แน่วแน่ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี และด้วยพื้นฐานที่ดีในการจัดหาส่วนผสมทางเภสัชกรรม จึงเสริมให้ Medisca เป็นบริษัทแบบธุรกิจต่อธุรกิจ ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม โดยมอบคุณค่า ความสม่ำเสมอ การตอบสนอง และความภักดี ในฐานะพันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพ Medisca ทุ่มเทอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อปรับปรุงชีวิตให้ครอบคลุมความต้องการของผู้คนมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.medisca.com และติดตามเราได้ที่ LinkedInFacebookTwitter และ YouTube

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Adam Pinsky
Director of Communications
apinsky@medisca.com
1-800-932-1039

แหล่งข้อมูล: Medisca