Category Archives: General News

HanesBrands ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2564

Logo

การสมัครครั้งแรกกับ Ethisphere ทำให้บริษัทได้อยู่ในรายชื่อ 135 บริษัททั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม

วินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนา–(บิสิเนสไวร์)–23 ก.พ.2564

HanesBrands (NYSE: HBI) ผู้นำด้านการตลาดที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2563 โดย Ethisphere ผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานของธุรกิจที่มีจริยธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

HanesBrands เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องแต่งกายเพียงสองรายที่ได้รับการยอมรับจาก 135 บริษัทใน 22 ประเทศและ 47 อุตสาหกรรม  กระบวนการประเมินของ Ethisphere ประกอบด้วยคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม การปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมด้านจริยธรรม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความหลากหลาย และการริเริ่มเพื่อสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่ง ในปีนี้ Ethisphere ยังได้ประเมินว่าความสามารถของผู้สมัครในการปรับตัวและตอบสนองต่อการระบาดด้านสุขภาพทั่วโลก ความปลอดภัย ความเสมอภาคและการไม่แบ่งแยก และความยุติธรรมในสังคม

“เรามีความมุ่งมั่นอย่างมากในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและเราภูมิใจมากที่ได้รับการยอมรับจาก Ethisphere” ซีอีโอก Steve Bratspies ล่าว “รางวัลนี้เป็นผลมาจากพนักงาน 61,000 คนทั่วโลกที่มุ่งมั่นที่ดำเนินธุรกิจของเราในทางที่ถูกต้อง  ผู้บริโภครับรู้ได้ว่าเมื่อเขาเลือกเครื่องแต่งกายของเราพวกเขากำลังเลือกบริษัทที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อความยั่งยืน”

HBI มีความมุ่งมั่นมายาวนานในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม  เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศเป็นปีที่สองโดย Barron's และได้รับคะแนนระดับผู้นำ A หลังจากสองปีที่ได้รับคะแนน A- ในรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ CDP 2020  HBI ยังเป็นบริษัทเครื่องแต่งกายเพียงแห่งเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล Energy Star Sustained Excellence จากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา

ในเดือนตุลาคมปี 2563 HBI ได้ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั่วโลกสำหรับปี 2573 ซึ่งรวมถึงความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมที่อิงวิทยาศาสตร์ เป้าหมายในการปรับปรุงชีวิตของผู้คนอย่างน้อย 10 ล้านคน และการใช้พลาสติกและวัตถุดิบที่ยั่งยืนในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์  เป้าหมายดังกล่าวเปิดตัวผ่านเว็บไซต์ด้านความยั่งยืนใหม่ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของบริษัทและการรายงานเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่สำคัญ รวมถึงความหลากหลาย เกณฑ์มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน และการประเมินความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน

“ในขณะที่เรารับมือกับความท้าทายที่ยากลำบากในปี 2563 เราได้เห็นบริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้นำเหนือสถาบันอื่นๆ ในการได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นในจริยธรรมและความซื่อสัตย์” Timothy Erblich CEO ของ Ethisphere กล่าว “บริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ในการมอบคุณค่าสูงสุดและการส่งผลดีต่อชุมชนที่พวกเขาให้บริการ  ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ HanesBrands ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดของโลกและความมุ่งมั่นที่จะHanesBrand รับผิดชอบ

สถาบัน Ethisphere Institute

Ethisphere® Institute เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรมขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ  Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับปรุงลักษณะขององค์กร วัดผล และปรับปรุงวัฒนธรรมของตน  Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโครงการยกย่องบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกและมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethisphere ได้ที่: https://ethisphere.com

HanesBrands

HanesBrands ซึ่งตั้งอยู่ในวินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนาเป็นผู้ขายชุดชั้นในและเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียแปซิฟิกชั้นนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม  บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เครื่องแต่งกายได้แก่ Hanes, Champion, Bonds, Maidenform, DIM, Bali, Playtex, Bras N Things, Nur Die/Nur Der, Alternative, L’eggs, JMS/Just My Size, Lovable, Wonderbra, Berlei และ Gear for Sports  บริษัทจำหน่ายเสื้อยืด ยกทรง กางเกงชั้นใน ชุดชั้นใน ถุงเท้า ชุดชั้นใน และชุดแอคทีฟที่ผลิตในห่วงโซ่ทุนต่ำระดับโลก บริษัทอยู่ใน Fortune 500 และเป็นสมาชิกของดัชนีหุ้น S&P 500 (NYSE:HBI) Hanes มีพนักงานประมาณ 61,000 คนในกว่า 40 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.Hanes.com/corporate และห้องแถลงข่าวที่ https://newsroom.hanesbrands.com/ เชื่อมต่อกับบริษัทผ่านโซเชียลมีเดีย: Twitter (@hanesbrands), Facebook (www.facebook.com/hanesbrandsinc), Instagram (@hanesbrands) และ LinkedIn (@Hanesbrandsinc)

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

ติดต่อ:

Carole Crosslin
(336) 671-3704
carole.crosslin@hanes.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ (Online Symposium) โดย JETRO – สังคมแห่งอนาคตหลังจากความคาดหวังจากการระบาดใหญ่สำหรับงานเอ็กซ์โป 2568 และศักยภาพของภูมิภาคคันไซ โอซาก้า

Logo

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2564

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และสมาคมญี่ปุ่น เพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 จะมีการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเรื่อง “Future Society after the Pandemic, EXPO 2025 และ the Potential of the Osaka Kansai Region” ในวันที่ 3 มีนาคม 2564 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ยังกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญระดับโลก ในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจะร่วมหารือกันว่า งาน  EXPO 2025 Osaka Kansai สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

ในส่วนแรกการประชุมสัมมนาร่วมทบทวนบทบาทและความสำคัญของงาน EXPO 2025 Osaka Kansai นอกเหนือจากการคาดการณ์ในอนาคตอันใกล้หลังจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนที่สองจะเน้นไปที่ระบบนิเวศและฟังก์ชันนวัตกรรมของภูมิภาคคันไซ

รายละเอียดของงาน

วันที่: วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 14:00-16:30 น. ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น (JST)
สถานที่: ออน์ไลน์ (การไลฟ์สตรีมมิ่งผ่าน Zoom)
ภาษา: ญี่ปุ่น อังกฤษ (การล่ามแบบพูดพร้อม)
ผู้จัดงาน: องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568
ผู้ร่วมจัดงาน: สำนักงานเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมคันไซ
การลงทะเบียน: จากเว็บไซต์ (https://www.jetro.go.jp/en/events/20210303.html)

วาระการประชุม:

[กล่าวเปิดงาน]

Hiroyuki Ishige เลขาธิการ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานนิทรรศการโลกปี 2568 (Secretary-General, Japan Association for the 2025 World Exposition)

Nobuhiko Sasaki ประธานกรรมการและประธานบริหาร JETRO (Chairman and CEO, JETRO)

[คำปราศรัย]

“อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ – ความร่วมมือคือทางออก” 

Richard Baldwin ศาสตราจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา Graduate เจนีวา (Professor of International Economics, Graduate Institute, Geneva)
“สังคมแห่งอนาคต และงานเอ็กซ์โป 2568 โอซาก้า คันไซ” (“Future Society and EXPO 2025 Osaka Kansai”)

Hiroshi Ishiguro ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า และ ATR Intelligent Robotics and Communication Laboratories

[การนำเสนอและการอภิปราย]

งานนำเสนอ 1 เรื่อง: “นวัตกรรมและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)”

Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

งานนำเสนอ 2: “แบบจำลอง Living Laboratory เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน” 

Matt van Leeuwen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม บริษัท SUNWAY Group (Chief Innovation Officer, SUNWAY group)

การอภิปราย: “ ในฐานะแพลตฟอร์มนวัตกรรมแบบเปิด ภูมิภาคคันไซจะร่วมมือกับสังคมโลก และมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างไร 

ผู้ร่วมอภิปราย:

-Yasuo Kitaoka ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงาน Co-creation มหาวิทยาลัยโอซาก้า (Executive Assistant to the Director, Co-creation Bureau, Osaka University) ผู้อำนวยการแผนกนวัตกรรม (Director, Innovation Division)

-Yoshimasa Sakai ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 (Director-General of Public Relations Strategy Bureau, Japan Association for the 2025 World Exposition)

-Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

-Chikara Takagishi  ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายบริหารเมือง บริษัท Hankyu Hanshin Properties Corp. (Senior General Manager of Urban Management Division, Hankyu Hanshin Properties Corp.)

-Shogoro Fujiki ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท Biome Inc. (Founder & CEO, Biome Inc.)

[กล่าวปิดงาน]

Takeshi Yonemura ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมคันไซ (Director-General, Kansai Bureau of Economy Trade and Industry)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

ติดต่อ:

JETRO Osaka
Toyokazu Fukuyama
อีเมล์: osc@jetro.go.jp
โทร: +81-6-4705-8604 (9:00-17:00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เข้าซื้อบริษัทนายหน้าภายใต้กลุ่ม CXA หลังจากการเข้าซื้อนี้ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม กลายมาเป็นนายหน้าผลประโยชน์พนักงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 กุมภาพันธ์ 2564

บริษัทนายหน้าประกันภัยระดับโลก บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ได้มีการขยายการลงทุนในเอเชียแปซิฟิกด้วยการเข้าซื้อบริษัทนายหน้าในกลุ่ม CXA  ซึ่งมีการดำเนินงานในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยกลุ่ม  CXA เป็นบริษัทอินชัวร์เทคที่ออกจากธุรกิจดังกล่าวเพื่อพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ SaaS ขององค์กรบนระบบคลาวด์ ข้อตกลงการเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564

ที่ผ่านมาธุรกิจอินชัวร์เทคของ CXA นั้นได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานดังนี้ ธนาคาร HSBC บริษัท Singtel Innov8 หน่วยงานด้านการลงทุนของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์หรือ EDBI และ B Capital Group บริษัทร่วมลงทุนของผู้ร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊ค อย่าง Eduardo Saverin

การเข้าซื้อบริษัทนายหน้ากลุ่ม CXA ในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์นี้เป็นการลงทุนครั้งสำคัญ สำหรับบริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ที่ต้องการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก การซื้อกิจการในครั้งนี้ทำให้บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นและไม่ซับซ้อน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั่วโลกได้อย่างเต็มรูปแบบ

คุณนีล เรย์มอนด์ ซีอีโอของบริษัท แปซิฟิคไพร์ม พอใจกับการลงทุนครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “กลุ่ม CXA มีความเชี่ยวชาญที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการใช้เทคโนโลยีพลิกโฉมรูปแบบการดูแลผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งผมเชื่อว่าการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้เราเป็นนายหน้าผู้จัดหาผลประโยชน์พนักงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง หลังจากที่ได้มีการการควบรวมกิจการของ Aon-WTW และ Mercer-JLT การซื้อกิจการครั้งนี้จะขับเคลื่อนเราไปสู่เป้าหมายระยะยาวในการเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ดูแลผลประโยชน์ของพนักงานระดับโลก”

คุณโรซาริน เชาวน์ คู ซีอีโอของกลุ่ม  CXA กล่าวว่า “เรามั่นใจที่จะให้บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สานต่อธุรกิจอินชัวร์เทคในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ เพราะเรามีความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเช่นเดียวกัน”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เป็นผู้สร้างธุรกิจอินชัวร์เทคของตัวเองขึ้นมาทั้งหมด โดยพนักงาน 15% จากทั้งหมด 600 คนเป็นพนักงานด้านไอที การดำเนินธุรกิจอินชัวร์เทคมีส่วนอย่างมากต่อการเติบโตของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่บริษัทจะได้รับในการเข้าซื้อกลุ่ม CXA นั้น จะเข้ามาเติมเต็มเทคโนโลยีที่ใช้ภายในของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ได้อย่างมาก และจะช่วยให้ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สามารถนำเสนอทางเลือกที่สนับสนุนต่อความต้องการของลูกค้าผลประโยชน์พนักงานโดยมีความยืดหยุ่นให้กับลูกค้าของบริษักไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญหรือธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลประโยชน์พนักงานและเทคโนโลยีการจ่ายผลตอบแทนของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ที่มีอยู่แล้วให้ดีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคลทั่วโลกลดความซับซ้อนในการบริหารแผนงานภายในองค์กร และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ระบบมีไว้ให้ รวมถึงการจัดการผลตอบแทนพนักงานได้ทั้งหมด

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม

บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการประกันภัยองค์กรและผลประโยชน์ของพนักงาน โดยมีสำนักงานมากถึง10 แห่งทั่วโลก บริษัทมีวิธีเฉพาะในการเป็นตัวกลางเจรจาผลประโยชน์พนักงานและสร้างเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนลูกค้า สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แปซิฟิค ไพร์ม ได้ที่: https://www.pacificprime.com/corporate.

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท CXA Group

CXA Group เป็นแพลตฟอร์มคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจรในเอเชีย บริษัทเริ่มธุรกิจอินชัวร์เทคโดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ บริษัทมมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพ ความมั่งคั่ง และเป็นตัวเลือกด้านสุขภาพที่ดีกว่าให้กับบุคคลทั่วไป สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CXA ได้ที่ https://www.cxagroup.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้ มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210208005303/en/

ติดต่อ:

Stephen Ho, ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด – Pacific Prime และ Kwiksure,

+852 3589 0508

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

IWBI ก้าวข้ามอีกขั้นของความสำเร็จครั้งสำคัญในการยกระดับการพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต

Logo

โครงการในกว่า 80 ประเทศยื่นรับการประเมินจาก WELL คิดเป็นพื้นที่กว่า 1.5 พันล้านตารางฟุต

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–01 กุมภาพันธ์ 2564

International WELL Building Institute (IWBI) หน่วยงานระดับโลกด้านการใช้อาคารและชุมชนเพื่อการพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนภายใน ประกาศในวันนี้ว่าขณะนี้มีโครงการที่เข้ารับการประเมินภายใต้ระบบ WELL แล้วคิดเป็นพื้นที่กว่า 1.5 พันล้านตารางฟุตในประเทศต่าง ๆ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก ก้าวแห่งความสำเร็จนี่คือเครื่องพิสูจน์ถึงการเร่งนำระบบประเมินนี้ไปใช้ทั่วโลกและการเติบโตอย่างมากในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งในเวลานั้นมีโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านการประเมิน WELL คิดเป็นพื้นที่กว่า 500 ล้านตารางฟุตในเกือบ 60 ประเทศ

ในเดือนมิถุนายน 2563 IWBI ได้เปิดตัวระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL จากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นของสมาชิก 600 คนจากทีมที่ดูแลงานด้านโควิด-19 ของ IWBI ระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL ซึ่งต่อยอดจากมาตรฐานอาคาร เป็นระบบประเมินจากหลักฐานและรับรองโดยหน่วยงานภายนอกที่สามารถใช้ได้กับอาคารทั้งเก่าและใหม่รวมถึงประเภทของพื้นที่ซึ่งให้ความสำคัญกับนโยบายเชิงปฏิบัติการ เกณฑ์วิธีด้านการบำรุงรักษา แผนฉุกเฉิน และกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดลำดับความสำคัญในเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับพนักงาน แขกผู้มาเยือน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ และสามารถกลับมาดำเนินงานได้ในช่วงที่เกิดระบาดของโรค

อาคารสถานที่กว่า 8,500 แห่งได้ยื่นขอรับการประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL ในขณะนี้ รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นสนามกีฬา Yankee Stadium และตึก Empire State องค์กรด้านการเงินระดับโลกอย่าง JPMorgan Chase บริษัทบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำอย่าง Aimbridge Hospitality องค์กรด้านโทรคมนาคมอย่าง T-Mobile ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง Brookfield Properties and Kilroy Realty รวมถึงองค์กรด้านการดูแลสุขภาพ เช่น Life Time และอื่น ๆ อีกมากมาย

“การระบาดของโรคทำให้บทสนทนาเรื่องสุขภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และบทบาทของ IWBI ในเรื่องการช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบจากไวรัส รวมถึงการให้ความสนับสนุนด้านความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้คนนั้นไม่เคยชัดเจนกว่านี้มาก่อน” Paul Scialla, ผู้ก่อตั้ง IWBI และซีอีโอของ Delos ซึ่งเป็นบริษัทแม่ กล่าว

“อัตราการนำระบบประเมินไปใช้นั้นน่าทึ่งมาก โดยในแต่ละวันมีอาคารสถานที่ต่าง ๆ ยื่นขอรับการประเมินจาก WELL คิดเป็นพื้นที่เฉลี่ยถึง 2 ล้านตารางฟุต” Rachel Hodgdon, ประธานและซีอีโอของ IWBI กล่าว “สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากชุมชนที่มุ่งมั่นทุ่มเทของเราจากทั่วโลก ได้แก่ WELL APs และ WELL Faculty รวมถึงสมาชิก ลูกค้า และที่ปรึกษาของเรา”

WELL APs และ WELL Faculty เป็นชุมชนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำความรู้เกี่ยวกับ WELL มาถ่ายทอดในกลุ่มเพื่อนร่วมงานและลูกค้าทั่วโลก โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนหรือผ่านการรับรองจาก WELL AP แล้วกว่า 16,000 ราย ซึ่งช่วยให้ IWBI รับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

“นี่คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ตลอดเวลาหกปีนับตั้งแต่ WELL เปิดตัวในครั้งแรก” Hodgdon เสริม “โรคระบาดได้เข้ามาทำให้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่ก็ยังนำมาซึ่งโอกาสในการสานต่อการเติบโตของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซึ่งมีศักยภาพในการทำสิ่งดี ๆ อีกมากมาย แต่ละก้าวความสำเร็จเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความต้องการของอาคารสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับหนึง และเราไม่สามารถรอที่จะแบ่งปันสิ่งที่เรามีได้อีกต่อไป”

เกี่ยวกับ International WELL Building Institute

International WELL Building Institute (IWBI) เป็นอัตถบริษัทเอกชนและองค์กรชั้นนำระดับโลกที่มุ่งเน้นในเรื่องการเตรียมความพร้อมของอาคารสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมด้านสุขภาพทั่วโลกให้ก้าวหน้า IWBI ขับเคลื่อนชุมชนของตนผ่านการบริหารมาตรฐานอาคาร WELL Building Standard และระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL Health-Safety Rating การบริหารจัดการการรับรอง WELL AP การสรรหางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแหล่งความรู้ และการสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตในทุกสถานที่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WELL สามารถดูได้ที่นี่

International WELL Building Institute pbc เป็นบริษัทในเครือของ Delos และ International WELL Building Institute, IWBI, WELL Building Standard, WELL v2, WELL Certified, WELL AP, WELL Portfolio, WELL Portfolio Score, The WELL Conference, We Are WELL, WELL Community Standard, WELL Health-Safety Rating, WELL Health-Safety Rated, WELL Health-Equity, WELL และอื่น ๆ รวมถึงโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายรับรองของ International WELL Building Institute ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210201005203/en/

ติดต่อ:

Jamie Matos
media@wellcertified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ITOCHU ประกาศข้อความถึงโลกด้วย 21 ภาษา อวยพรให้ผู้คนทั่วโลกมีความสุข

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2564

ITOCHU Corporation (สำนักงานใหญ่ Minato-ku, Tokyo; Yoshihisa Suzuki, President & COO; ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ITOCHU”) แสดงภาพที่ฉายบนผนังสำนักงานใหญ่โตเกียวเป็นเวลาสามวัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 มกราคม จนถึงวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 (การแสดงสดได้ถ่ายทอดลงบน YouTube อีกด้วย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210109005017/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่สร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่ชะลอตัวจากสถานการณ์นี้ ITOCHU ซึ่งเป็นบริษัทที่คอยสนับสนุนการใช้ชีวิตของผู้คนกำลังส่งข้อความถึงโลกด้วย 21 ภาษา เพื่อสะท้อนถึงปี 2564 ด้วยความหวังที่จะแสดงความปรารถนาร่วมกันสำหรับปีใหม่ที่สดใสและสมหวังให้กับผู้คนให้มากที่สุดทั่วโลก

โครงร่างของการแสดงการฉายภาพ:

เวลาและวันที่: วันเสาร์ที่ 9 มกราคม ถึงวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564

18.00 น. ถึง 18.40 น. (JST) : เนื้อหาต้นฉบับของ ITOCHU (ใน 21 ภาษา)  

18.40 น. ถึง 20.00 น. (JST) : ข้อความสาธารณะเกี่ยวกับภัยพิบัติโควิด-19 (ใน 4 ภาษา)

สถานที่: ภาพจะถูกฉายบนผนังทางด้านสวน ITOCHU (ทางด้าน Gaien Icho Namiki) ของสำนักงานใหญ่โตเกียว ITOCHU

URL การถ่ายทอดสด: วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม – https://youtu.be/dE2jTMoCQfk

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม – https://youtu.be/-sNQFeiM0z4

การแสดงการฉายภาพจะถ่ายทอดสดบนเว็บไซด์ดังต่อไปนี้

ช่อง YouTube อย่างเป็นทางการ
https://youtu.be/ZzcEM2nPAkA

ข้อมูลรูปภาพอย่างเป็นทางการ URL:
https://drive.google.com/drive/folders/1qY7IM7U1Y71i91bF-Am43FAQWV-dqX8F

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210109005017/en/

ติดต่อ:

ITOCHU Corporation
Media & Public Relations Department
Corporate Communications Division
HIROMICHI AKASHI
+81-3-3497-7270

 
 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




Egon Zehnder ชี้ให้เห็นความก้าวหน้าที่เชื่องช้าและไม่มากพอในรายงานผลการสำรวจความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารทั่วโลกของ กระตุ้นให้มีการเร่งลงมือเพื่อผลที่ชัดเจน

Logo

  • ตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร 23.3% ในปัจจุบันเป็นของผู้หญิง เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 20.4% ในปี 2561
  • จำนวนผู้อำนวยการที่เป็นคนผิวสีคิดเป็นเพียง 4.1% ของผู้อำนวยการในสหรัฐฯ ในบริษัทระดับ Russell 3000 ในสหราชอาณาจักร 37% ของบริษัทระดับ FTSE 100 ไม่พบว่ามีผู้อำนวยการที่ไม่ใช่คนผิวขาว
  • มีผู้ที่เป็นชาว LGBTQ+ อย่างเปิดเผยเพียง 24 คนที่ได้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารที่มีมากกว่า 5,000+ ตำแหน่งในบริษัทระดับ Fortune 500
  • การแต่งตั้งสมาชิกคณะกรรมการบริหารใหม่คิดเป็นเพียง 13.5% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 11.4% ในปี 2561 จากจำนวนดังกล่าว มี 30% ที่เป็นผู้หญิง เพิ่มขึ้นจาก 27%

ลอนดอน & นิวยอร์ก & ซูริก–(BUSINESS WIRE)–05 ธันวาคม 2563

วันนี้ Egon Zehnder บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ได้เผยแพร่รายงานผลการสำรวจความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารทั่วโลกประจำปี 2563 (2020 Global Board Diversity Tracker) โดยตลอด 16 ปีที่ผ่านมา Egon Zehnder จะสำรวจความหลากหลายทางเพศและความเป็นนานาชาติของคณะกรรมการบริหารทั่วโลกทุก ๆ สองปี

รายงานในปีนี้ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท 1,685 แห่งใน 44 ประเทศ ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 48 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนให้เกิดผลที่จับต้องได้ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Egon Zehnder ได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมหัวข้ออื่น ๆ ในด้านความหลากหลาย โดยนำเสนอกรณีศึกษาร่วมกับผู้อำนวยการ (director) ผู้บริหารระดับสูง (chief executive) และประธาน (chair) ต่าง ๆ เพื่อหารือถึงการยอมรับในความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ รสนิยมทางเพศ และมุมมองต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกันในห้องประชุมคณะกรรมการบริหาร

ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความชัดเจน ถึงแม้ทั่วโลกจะมีความก้าวหน้าในเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่อัตราการเปลี่ยนแปลงนั้นยังถือว่าเล็กน้อย แม้ความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกจะได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งจุดประกายให้เกิดการพูดคุยและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมนั้นยังเป็นเรื่องท้าทาย

อีกหนึ่งภาระเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากความจำเป็นในการเพิ่มอัตราการขยายความหลากหลาย คือ การออกข้อบังคับให้มีการปรับวิธีคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการบริหาร ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากสมาชิกใหม่ บริษัทต่าง ๆ จะต้องเพิ่มการลงมือทำเพื่อสร้างผลลัพธ์ร่วมกันแทนที่การเพิ่มหรือส่งต่อตำแหน่งเพียงอย่างเดียว

เวลานี้ ความสนใจในเรื่องความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารที่เพิ่มขึ้นช้า ๆ แต่คงที่ รวมกับการเคลื่อนไหวทางสังคมอันทรงพลังที่เกิดขึ้นในปีนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะลงมือปฏิบัติ วันนี้ เหล่าผู้นำมีทั้งความสนใจ ความสอดคล้อง และการดำเนินการ ซึ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อให้เกิดความหลากหลายที่มากขึ้นในคณะกรรมการบริหารของพวกเขารวมถึงองค์กรทั้งองค์กร “ข่าวเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการเสนอข้อกำหนดคณะกรรมการบริหารใหม่ของ Nasdaq เป็นสัญญาณที่เป็นรูปธรรมของการพูดคุยถึงเรื่องนี้ที่มากขึ้น” Pamela Warren ประธานร่วมแห่งสภาสากลว่าด้วยความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมภายในบริษัท กล่าว “การรับรู้ถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงมีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความไม่พอใจต่อการไม่ลงมือดำเนินการใด ๆ ที่สูงขึ้น”

Jill Ader ประธานแห่ง Egon Zehnder กล่าวว่า “ปัจจุบัน เราเห็นถึงความสนใจและการรับรู้ว่าเราต้องการให้คณะกรรมการบริหารมีความหลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ดี ความหลากหลายนั้นไม่จำกัดเฉพาะในเรื่องเพศเท่านั้น ในตอนนี้การก้าวข้ามการวัดผลด้าน D&I แบบเดิม ๆ จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญการสร้างทีมที่เป็นตัวแทนของผู้คนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน สมาชิกในคณะกรรมการบริหารมีอำนาจที่จะเปลี่ยนระบบปกครองให้ทันสมัยจากก้าวอันกล้าหาญเพียงไม่กี่ก้าว การเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่แค่เอื้อม”

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

ขณะที่ความก้าวหน้ามุ่งไปทางด้านความหลากหลายทางเพศ ช่วงเวลาไม่กี่ปีนับจากนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลดล็อกพลังแห่งความคิดที่หลากหลาย:

  • ปีนี้ 89% ของบริษัทขนาดใหญ่มีผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคนในคณะกรรมการบริหารเพิ่มขึ้นจาก 85% ในปี 2561 และประเทศต่าง ๆ 18 ประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 13 ประเทศในปี 2561 มีผู้หญิงโดยเฉลี่ย 3 คนขึ้นไปอยู่ในคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด
  • ในการศึกษาของเรา มี 25 ประเทศ รวมถึงจีน บราซิล เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทขนาดใหญ่ยังไม่มีผู้หญิงอยู่ในคณะกรรมการบริหาร
  • 8 ใน 18 ประเทศที่มีผู้หญิงโดยเฉลี่ยสามคนขึ้นไปในคณะกรรมการบริหาร มีโควตาหรือข้อบังคับที่กำหนดให้จ้างผู้หญิง สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่ได้เพิ่มโควตานี้เข้าไป

ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างมากที่คณะกรรมการบริหารจะขยายคุณค่าของความหลากหลายให้ครอบคลุมกว่าเฉพาะเรื่องเพศหรือกลุ่มชาติพันธุ์ใดชาติพันธุ์หนึ่ง:

  • ปัจจุบัน ขณะที่มีการมุ่งเน้นไปที่ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และเชื้อชาติ ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสม แต่ในสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้อำนวยการที่เป็นคนผิวดำคิดเป็นเพียง 4.1% ของผู้อำนวยการทั้งหมดในบริษัทระดับ Russell 3000
  • ในสหราชอาณาจักร Parker Review Committee ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งเป้าหมายให้บริษัทในกลุ่ม FTSE 100 มีผู้อำนวยการที่ไม่ใช่คนขาวอย่างน้อยหนึ่งคนภายในปี 2564 และบริษัทในกลุ่ม FTSE 250 จะต้องดำเนินการเช่นเดียวกันภายในปี 2567 ในช่วงต้นปี 2563 พบว่า 37% ของบริษัทในกลุ่ม FTSE 100 ที่รายงานผลไม่มีตัวแทนดังกล่าวในคณะกรรมการบริหารของพวกเขา และมีเพียง 54% ของบริษัทในกลุ่ม FTSE 250 ที่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
  • ใน 70 ประเทศ การเป็นชาว LGBTQ + อย่างเปิดเผยยังคงผิดกฎหมาย แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองที่มีการออกความคุ้มครองมากมายสำหรับชาว LGBTQ +  ข้อมูลจาก Out Leadership เผยว่า จากตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารในบริษัทระดับ Fortune 500 กว่า 5,000 ตำแหน่ง มีคณะกรรมการบริหารเพียง 24 คน เท่านั้นที่เป็นชาว LGBTQ + อย่างเปิดเผย ในจำนวนนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นคนผิวสีและไม่มีผู้หญิงผิวสีเลยแม้แต่คนเดียว

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจะต้องให้ผู้หญิงและกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำ ไม่เฉพาะการเป็นสมาชิกในคณะกรรมการบริหารเท่านั้น ตัวแทนที่เป็นผู้หญิงจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้สำเร็จได้แบบทวีคูณ ด้วยความสามารถที่จะช่วยให้ผู้สมัครที่มีความหลากหลายประสบความสำเร็จ และเพิ่มความหลากหลายผ่านเครือข่ายของพวกเธอ:

  • ปัจจุบัน มีผู้หญิง 27.3% เป็นผู้นำในคณะกรรมการบริหารทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 25.5% ในปี 2561
  • อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้หญิงที่เป็นประธานคณะกรรมการมีเพียง 2.1% เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 2561
  • ทั่วโลก การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารใหม่คิดเป็นเพียง 13.5% ของตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารทั้งหมดในปี 2563 เพิ่มจาก 11.4% ในปี 2561 จากตัวเลขดังกล่าว เป็นผู้หญิง 30% เพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2561 ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้หมายถึงว่าจากจำนวนผู้อำนวยการทั้งหมด มีเพียง 4% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% จากปี 2561

แผนดำเนินการ

Egon Zehnder เชื่อว่าจะต้องมีการดำเนินการทั้งในระยะยาวและระยะสั้นหลายด้าน เพื่อสร้างความแตกต่างในแง่ของความหลากหลายให้ประสบความสำเร็จ:

  • สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากหัวแถว –แทนที่จะทำให้ผู้บริหารเสียชื่อเสียง สิ่งสำคัญกว่าคือการเปลี่ยนคำวิจารณ์ให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ ๆ
  • การไม่แบ่งแยกเป็นสิ่งสำคัญ – ความหลากหลายทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน หรือแม้แต่ความเห็นต่าง ซึ่งจะนำไปสู่ความคิดรูปแบบใหม่ ๆ ในที่สุด
  • การใช้อำนาจผ่านตัวเลข – เสียงของคนส่วนน้อยจะถูกละเลยตราบที่คนส่วนใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่ายังคงอยู่
  • เฟ้นหาศักยภาพ – ความอยากรู้อยากเห็น การมี่ส่วนร่วม ข้อมูลเชิงลึก และความมุ่งมั่นคือคุณลักษณะที่ดีของความเป็นผู้นำ
  • ขยายเครือข่าย – มองให้ไกลกว่าคนใกล้ตัว และตั้งใจขยายเครือข่ายเพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้คนที่จะนำมาซึ่งมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่าง
  • สร้างช่องทางเชื่อมต่อให้กับผู้อื่น – ให้ซีอีโอเป็นผู้รับผิดชอบต่อพันธกิจเรื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของเจตนารมย์นี้
  • ฉกฉวยโอกาส – ใช้โอกาสจากการพูดคุยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเพื่อเรียนรู้จากมุมมองใหม่ ๆ

คุณสามารถดูคำแนะนำและผลการศึกษาทั้งหมดจากรายงานงานนี้ สร้างรายงานแบบกำหนดเองโดยใช้การวัดผลต่างๆ รวมถึงกลุ่มและประเทศ และดูวิดีโอกรณีศึกษาได้ที่ www.egonzehnder.com/global-board-diversity-tracker

บทสัมภาษณ์

รายงานนี้ประกอบด้วยมุมมองแบบเจาะลึกจากกลุ่มผู้บริหาร

บทสัมภาษณ์ผู้บริหารที่สำคัญ ๆ จากรายงาน มีดังนี้:

“คุณต้องเป็นตัวแทนของชุมชนที่คุณรับใช้ การเสียชีวิตอันน่าเศร้าของ George Floyd เป็นการจุดประกายให้กับเรื่องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติขึ้นมากจริง ๆ” – Kathleen Taylor ประธาน Royal Bank of Canada

“ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องยอมรับว่าสิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันวันนี้ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 20, 30, 40 ปีที่แล้ว น่าเสียดายที่มันไม่ได้เกิดขึ้น แต่วันนี้เรามีโอกาสแล้วที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นนับจากนี้ไป เรามีหน้าที่ที่จะต้องสร้างโลกที่ดีกว่าให้กับพนักงาน บริษัท และลูก ๆ ของพวกเรา” – Enrique Lores ซีอีโอ HP Inc.

“เมื่อผู้คนมาถึงที่ทำงาน พวกเขาควรต้องรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามีโอกาสที่จะก้าวหน้า หากพวกเขามองไม่เห็นตัวเองนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางหรือระดับสูงของบริษัท หรือมองไม่เห็นตัวเองในคณะกรรมการบริหาร ก็ยากที่พวกเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัท” – Jim Fitterling ซีอีโอและประธาน Dow Inc.

“หากคุณเป็นชาวละติน หญิงหรือชาย เมื่อคุณได้รับการทาบทามให้รับตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร มันมักจะมีเหตุผลเสมอ เช่น ช่วยให้พวกเขาเข้าใจตลาด ช่วยให้พวกเขาเข้าใจพลังและศักยภาพ ช่วยให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับวิธีพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดที่สื่อถึงความจริงใจและเกี่ยวข้องกับชุมชนของเรา” – Monica Lozano ผู้อำนวยการฝ่ายเป้าหมาย Bank of America

“ผมรู้สึกเสมอว่าตัวเองได้รับเกียรติในการมาเป็นผู้นำ ซึ่งส่วนหนึ่งของความท้าทายคือการสร้างเงื่อนไขให้กับทุกคนเพื่อให้คนเหล่านั้นทำงานให้กับบริษัทได้อย่างสุดความสามารถ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะต้องสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับธุรกิจหากคุณไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่อมาทำงาน” – Robert Hanson รองประธานบริหารและประธานแผนกไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Constellation Brands

“เราคงไม่อาจ . . . ในสามหรือสี่ปีนับจากนี้ ก้าวจากบริษัทสัญชาติบราซิลที่มีแบรนด์และตลาดเดียว สู่การเป็นองค์กรระดับโลกที่มีแบรนด์และช่องทางจำหน่ายหลากหลายได้หากไม่ใช่เพราะความเชื่อมั่นอันแรงกล้าต่อความจำเป็นในการนำความสามารถและศักยภาพที่มีความแตกต่าง รวมถึงความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างมาไว้ในการดำเนินงานของเรา” – Roberto Marques ประธานและซีอีโอ Natura & Co.

“ความหลากหลายนำมาซึ่งความเห็นต่าง เมื่อคุณต้องตัดสินใจทางธุรกิจ การที่ทุกคนในที่ประชุมเห็นตรงกันแบบไม่มีข้อขัดแย้งคือสิ่งที่แย่และเป็นการเสียเวลาอย่างที่สุด เมื่อฉันนึกถึงการมีผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในคณะกรรมการบริหารที่เข้ามาจุดประกายให้กับการหารือและทำลายความสอดคล้องทางสังคมนั้น นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก” – Nadia Shouraboura ผู้อำนวยการ, X5, Blue Yonder, Ferguson plc, MTS Group

หมายเหตุบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Egon Zehnder

Egon Zehnder เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลก โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือช่วยให้บุคลากรและองค์กรพัฒนา เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สามารถทำได้ และเรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการให้คำปรึกษาด้านความเป็นผู้นำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา

บริษัทของเราประกอบด้วยที่ปรึกษามากกว่า 500 คน ประจำสำนักงาน 68 แห่ง ใน 40 ประเทศ ซึ่งนำจุดแข็งของแต่ละคนมารวมกันเพื่อสร้างทีมงานที่มีพลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียว บริการของเราประกอบด้วย การพัฒนาความเป็นผู้นำ ประสิทธิพลระดับบุคคล ทีม และองค์กร การเฟ้นหาซีอีโอและการสืบทอดตำแหน่ง การเฟ้นหาผู้บริหารและการประเมิน ที่ปรึกษาคณะกรรมการ และการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ http://www.egonzehnder.com และติดตามเราได้ที่ LinkedIn และ Twitter

ติดต่อ:

Jennifer Reingold
ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหา
Jennifer.reingold@egonzehnder.com
โทร +1 646 337 5566

Stacy Drumtra
ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายการตลาด
หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสารประจำสหรัฐฯ
stacy.drumtra@egonzehnder.com
โทร +1 312-260-8974

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เมื่อวัน Black Friday มาถึง คุณจะเลือกซื้อสินค้าเพื่อช่วยให้คุณหายจาก Holiday Blues หรือไม่ ลองคิดถึงอารมณ์ของคุณไปพร้อม ๆ กับการให้ Guardian Angels ช่วยป้องกันคุณจากการแรงกระตุ้นการจับจ่ายซื้อของที่มากเกินไป

Logo

การศึกษาใหม่ศึกษาว่า วิธีการที่เราแทนค่าอารมณ์ให้เป็นมนุษย์ ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของเราอย่างไร

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2563

เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกแย่พวกเราหลายคนชอบที่จะดื่มด่ำกับการช้อปปิ้งบำบัด ด้วยความที่ปีนี้ดำเนินไป แบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นการใช้จ่ายอย่างหุนหันพลันแล่นในช่วงวันหยุดช้อปปิ้ง อย่างเช่น Black Friday และ Cyber Monday เพราะการซื้อของให้ตัวเองนั้นทำให้คนรู้สึกดี

แม้ว่าเราจะเข้าใจได้ว่าความรู้สึกแย่ กระตุ้นให้เราเปิดกระเป๋าสตางค์ได้อย่างไรแต่การศึกษาใหม่ที่ร่วมเขียนโดย Dr. Rocky Chen จาก Hong Kong Baptist University School of Business แสดงให้เห็นว่าเราประมวลผลอารมณ์อย่างเช่นความเศร้าได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบมันเหมือนคน (มานุษยรูปนิยม) ในลักษณะเดียวกับที่ Disney แสดงถึงความสุข ความเศร้า ความโกรธ ความกลัว และความรังเกียจ ในภาพยนตร์เรื่อง Inside Out ส่งผลกระทบต่อเราในฐานะผู้บริโภค

แนวคิดเรื่องการทำให้อารมณ์มีความเป็นคนมากขึ้น กำลังผนวกรวมกับการที่นักการตลาดดึงดูดเราด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงและภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์แบรนด์ต่าง ๆ จึงทำการตลาดโดยคำนึงถึงอารมณ์และบุคลิกภาพเป็นหลัก นักการตลาดชอบที่จะมองหาโอกาสที่ดีที่สุดที่จะขายให้เรา นั่นคือเวลาที่เรามีความสุข เศร้า หรืออาจเป็นความรู้สึกระหว่างสองความรู้สึกนั้น

นี่คือความคิดแบบมานุษยรูปนิยมที่ส่งผลต่อการบริโภคของเรา:

  • เมื่อคุณทำให้ความรู้สึกเศร้ามีความเป็นคน คุณจะรู้สึกถึงความเข้มข้นของความเศร้าน้อยลง การคิดถึงความเศร้าในฐานะคน ๆ หนึ่งช่วยให้คุณรู้สึกแยกตัวออกจากมันมากขึ้นซึ่งอาจทำให้การใส่ความเป็นมนุษย์ในความรู้สึก เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในการบรรเทาความเศร้า
  • การลดความเข้มข้นของความเศร้าด้วยการใส่ความเป็นมนุษย์ในความเศร้า ก่อนที่จะช้อปปิ้งจะช่วยให้คุณควบคุมตนเองได้มากขึ้น การประมวลผลความเศร้าโดยแทนค่าความรู้สึกเศร้าให้เป็นมนุษย์ก่อนช้อปปิ้งหมายความว่าคุณมีโอกาสที่ดีกว่าในการเลือกซื้อที่เป็นประโยชน์แทนที่จะซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น คุณอาจจะพูดกับตัวเองว่า“ ลืมชีสเค้กไปได้เลยฉันจะทานสลัด” ก้ได้ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่แทนค่าความเป็นมนุษย์เกี่ยวกับความรู้สึกไม่ดีของพวกเขามักจะเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าการเลือกการบำเรอตนเองที่ไม่จำเป็น
  • การคิดแทนค่าความรู้สึกด้วยความเป็นมนุษย์ ไม่ได้ใช้ได้ต่อความเศร้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเจือจางความสุขได้ด้วย เราสามารถแยกตัวออกจากความสุขได้มากขึ้นเมื่อแทนค่าความสุขความเป็นตัวละครอิสระ ผู้บริโภคอาจต้องการใช้การแทนค่าความสุขหากพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้สอยเกินจำเป็นในช่วงเวลาดังกล่าว ความสุขอาจท่วมท้นจนนำไปสู่การตัดสินใจที่บุ่มบ่าม ดังนั้นบางคนอาจต้องการถอยออกมาสักก้าวและสงบสติอารมณ์ นักการตลาดยังสามารถพิจารณาได้ว่าอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และเส้นทางของลูกค้าอาจเป็นไปในทางการแทนค่าด้วยความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร

ในขณะที่คุณเรียกดูข้อเสนอดี ๆ ที่จะปรากฏในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดนี้คุณอาจต้องพิจารณาสภาพอารมณ์ของคุณก่อนที่คุณจะคลิก "สั่งซื้อเลย" และชำระเงิน การทำเช่นนี้อาจช่วยให้คุณเป็นนักช้อปที่มีสติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณซื้อสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ ในระยะยาวแทนที่จะเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกว่าถูกดึงดูดในชั่วครั้งชั่วคราวในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201119005581/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Eva Sham

Evasham@hkbu.edu.hk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Walgreens พลิกโฉมโปรแกรมความภักดีเพื่อสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและความเป็นอยู่ที่ดีเป็นศูนย์กลางด้วย myWalgreens เพื่อมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับลูกค้า

Logo

สิทธิประโยชน์ใหม่อย่างหนึ่งคือการรับสินค้าขายปลีกในวันเดียวกันที่เร็วที่สุดในเวลาเพียง 30 นาที

เดียร์ฟีลด์, อิลลินอยส์.–(BUSINESS WIRE)–19 พ.ย. 2563

วันนี้ Walgreens ประกาศเปิดตัว myWalgreens ซึ่งเป็นการคิดค้นใหม่ทั้งหมดของโปรแกรมความภักดี (loyalty program) ของลูกค้าเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า รวมถึงข้อเสนอการรับสินค้าปลีกในวันเดียวกันที่เร็วที่สุดในปัจจุบันนี้* ตอนนี้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าทางออนไลน์และในแอพมือถือที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับสินค้าเพื่อสุขภาพ และจากนั้นไปรับสินค้าในร้าน ริมทาง หรือแบบไดรฟ์ทรู ภายในเวลาเริ่มตั้งแต่ 30 นาที เท่านั้น **

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201119005676/en/

Walgreens pickup at curbside (Photo: Business Wire)

จุดรับของที่ริมถนน Walgreens  (ภาพ: Business Wire)

Walgreens เป็นโปรแกรมสร้างความภักดี หรือ loyalty program ของลูกค้าที่เน้นด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดในประเทศ โดยมีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน ปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยสำหรับสมาชิกที่จะอยู่ได้อย่างสบายช้อปปิ้งสะดวก และประหยัดเงินและเวลาได้อย่างราบรื่นในร้านค้ามากกว่า 9,000 แห่ง บน Walgreens.com และแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

สิทธิประโยชน์ใหม่นี้นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายที่ Walgreens นำเสนอแล้ว ยังรวมถึงบริการจัดส่งที่บ้านผ่าน DoorDash และ Postmates และ Prescription Savings Club หนึ่งแห่ง พร้อมส่วนลดสูงสุด 80 เปอร์เซ็นต์จากราคาขายปลีกเงินสด

สมาชิก myWalgreens สามารถลงทะเบียนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และตอนนี้จะได้รับ:

  • รางวัล Walgreens Cash หนึ่งเปอร์เซ็นต์ทั่วทั้งร้าน
  • รางวัลเงินสด Walgreens ห้าเปอร์เซ็นต์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีตราสินค้าของ Walgreens
  • "ข้อเสนอพิเศษสำหรับคุณเท่านั้น"

นอกจากนี้แอพมือถือยังมีบริการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่หลากหลายสำหรับลูกค้าและผู้ป่วย รวมถึงบริการการแชทกับร้านขายยาตลอด 24 ชั่วโมง การเข้าถึงเพื่อค้นหาและจองการดูแลทางการแพทย์และการนัดหมายการฉีดวัคซีน คำแนะนำด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีส่วนบุคคล การแจ้งเตือนไข้หวัดใหญ่แบบเรียลไทม์และอื่น ๆ แอปเวอร์ชันก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมอย่างมากและได้รับการดาวน์โหลดมากกว่า 65 ล้านครั้ง

“ในฐานะร้านขายยาชุมชนของอเมริกา Walgreens นำเสนอประสบการณ์ที่เหนือชั้นเพื่อช่วยลูกค้าและผู้ป่วยในการจัดการสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในช่วงวิกฤตสุขภาพที่รุนแรงที่สุดในช่วงชีวิตของเรา” John Standley ประธาน Walgreens กล่าว “เภสัชกรในชุมชนมากกว่า 25,000 คนยังคงเป็นหัวใจหลักของข้อเสนอของเรา เภสัชกรและทีมดูแลผู้ป่วยของเราทำมากกว่าเพียงแค่การกรอกใบสั่งยา โดยยังให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้ การสนับสนุนเฉพาะบุคคล และบริการที่หลากหลายอื่น ๆ

การเปิดตัว myWalgreens ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของบริษัท Walgreens มอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ และประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสูงโดยการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและคู่ค้าที่เข้าใจลูกค้ารวมถึง Microsoft, Adobe และ Epsilon

สมาชิก myWalgreens สามารถ กระทำการต่อไปนี้ผ่านช่องทางออนไลน์หรือบนแอป:

ประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวก

  • เลือกซื้อสินค้าที่มีให้เลือกมากกว่า 27,000 รายการซึ่งรวมถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิตประจำวัน และสินค้าจำเป็นที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาของแพทย์ตลอดจนถึงภาพถ่าย
  • เพิ่มวิธีการชำระเงินลงในกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อทำให้การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสทำได้เร็วขึ้น
  • แลกรางวัล Walgreens Cash ทันทีที่จุดชำระเงิน
  • เลือกใบเสร็จรับเงินดิจิทัลสำหรับการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสอย่างรวดเร็วและเพื่อติดตามการซื้อ

รักษาสุขภาพให้แข็งแรง

  • รับโบนัสรางวัล Walgreens Cash สำหรับการบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพ
  • รับคำแนะนำประจำวันสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตลอดจนสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นแบบเรียลไทม์และการคาดการณ์ด้านสุขภาพ

ช่วยเหลือชุมชน

  • บริจาครางวัล Walgreens Cash ให้กับองค์กรการกุศล (องค์กรการกุศลที่มีสิทธิ์จะหมุนเวียนโดยเริ่มจาก Full Plate Project ซึ่งเป็นโครงการ Comic Relief Red Nose Day  ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำงานเพื่อยุติความยากจนของเด็ก)

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสมาชิก Walgreens Balance Rewards ปัจจุบันสามารถโอนการเป็นสมาชิกของตนไปที่ myWalgreens ได้ที่ mywalgreens.com สมาชิกรางวัลยอดคงเหลือในปัจจุบันมีเวลาจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ในการสมัคร myWalgreens เพื่อให้แน่ใจว่ารางวัลที่มีอยู่จะถูกส่งไปยังโปรแกรมใหม่ ในอีกหลายเดือนข้างหน้า myWalgreens จะประกาศสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าและผู้ป่วย

กด ที่นี่ สำหรับชุดข่าว myWalgreens รวมถึงโลโก้รูปภาพและภาพหน้าจอของแอป

เกี่ยวกับ Walgreens

Walgreens (www.walgreens.com) รวมอยู่ในแผนก Retail Pharmacy USA ของ Walgreens Boots Alliance, Inc. (Nasdaq: WBA) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านร้านขายยาขายปลีกและขายส่ง ในฐานะบริษัทขายยา ที่ดูแลสุขภาพและความงามที่เป็นที่รักมากที่สุดในอเมริกา Walgreens มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชุมชนในอเมริกา โดย Walgreens ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกมากกว่า 9,000 แห่งทั่วอเมริกา เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา Walgreens ภูมิใจที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพในละแวกใกล้เคียงที่ให้บริการลูกค้าประมาณ 8 ล้านคน ในแต่ละวัน เภสัชกรของ Walgreens มีบทบาทสำคัญในระบบการดูแลสุขภาพของสหรัฐอเมริกาโดยให้บริการร้านขายยาและบริการด้านการดูแลสุขภาพที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้ป่วยให้ดีที่สุด Walgreens นำเสนอประสบการณ์ในทุกช่องทางที่แท้จริงโดยมีแพลตฟอร์มที่รวบรวมทางกายภาพและดิจิทัลเข้าด้วยกัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงในชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ

* เมื่อเทียบกับร้านค้าปลีกอาหารและร้านขายยาทั่วประเทศที่ให้บริการไปรับที่ร้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

** สำหรับร้านค้า Walgreens ที่ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ต้องมีการสั่งซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนปิดร้านจึงจะมีสิทธิ์สั่งได้ มิฉะนั้นคำสั่งซื้อจะถือว่าเป็นของวันทำการถัดไป ลูกค้าจะได้รับแจ้งทางอีเมลเมื่อคำสั่งซื้อพร้อมสำหรับการรับสินค้า และจะได้รับคำแนะนำสำหรับประสบการณ์การขับรถมารับที่เป็นไปตามแนวทางการกำหนดระยะห่างทางสังคม เราไม่รับประกันว่าคำสั่งซื้อจะพร้อมภายในกรอบเวลา 30 นาทีและอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผลิตภัณฑ์ในขณะสั่งซื้อ คำสั่งซื้อของสินค้าที่มีการจำกัดอายุสามารถมารับได้ที่ร้านเท่านั้น ไม่สามารถสั่งใบสั่งยาได้ แต่สามารถสั่งซื้อผ่าน Walgreens Express®ได้ หากต้องการค้นหาสถานที่ตั้งและเวลาทำการของร้านค้า Walgreens ใกล้บ้านคุณโปรดไปที่ Walgreens.com/FindAStore

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201119005676/en/

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Walgreens:

Emily Hartwig-Mekstan

emily.hartwig@walgreens.com

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Walgreens Boots Alliance:

Morry Smulevitz

morry.smulevitz@walgreens.com

นักลงทุนสัมพันธ์:

+1-847-315-2922

http://news.walgreens.com

@WalgreensNews

facebook.com/Walgreens

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย








Novo Nordisk ประเทศไทยได้รับการรับรองให้เป็น “สถานที่ทำงานที่ดีที่สุด หรือ Best Place to Work” ในปี 2563

Logo

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–18 พ.ย. 2563

Novo Nordisk ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มีนวัตกรรมและความเป็นผู้นำด้านการดูแลผู้ป่วยเบาหวานมากว่า 90 ปี ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน บริษัท ที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานในประเทศไทยในปี 2563 บริษัทนำเสนอวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลความก้าวหน้า โอกาสการฝึกอาชีพ การให้คำปรึกษาระดับสูง โครงการด้านสุขภาพ และการค่าตอบแทนที่ดี ส่งผลให้ได้เป็นหนึ่งในนายจ้างในประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับจากลูกจ้างมากที่สุด โดยจากผลสำรวจพบว่า 92% ของพนักงานกล่าวว่าที่นี่เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำงาน เมื่อเทียบกับ 80% ที่สถานที่ทำงานในไทยอื่น ๆ ได้รับจากพนักงาน

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุดในการทำงานในประเทศไทย” John Dawber, GM ของ Novo Nordisk ประจำประเทศไทยกล่าว "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างแท้จริงกับผลลัพธ์นี้ เพราะนี่มาจากคำตอบที่ผู้ตอบไม่ต้องเปิดเผยตัวตนที่รวบรวมจากพนักงานที่มีค่าของเรา เราทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่พนักงานของเราสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ที่พวกเขาทำงานและที่ที่เขาประสบความสำเร็จได้  รางวัลนี้ถือเป็นการยกย่องการมีส่วนร่วมของพนักงานของเราทุกคน”

“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมครอบครัวที่พนักงานของเราทุกคนเติบโต การเข้าร่วมโครงการนี้มีความสำคัญเนื่องจากการให้ข้อเสนอแนะที่มีคุณค่าแก่เราในแง่ของสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ตลอดจนถึงการเป็นพื้นที่ที่เราสามารถพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงานต่อไป พนักงานของเราคือกระดูกสันหลังของความสำเร็จและเราขอขอบคุณทุกคนสำหรับการมีส่วนร่วมอย่างมากในวัฒนธรรมของ บริษัทของเรา”  Vera Bakirova, ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Novo Nordisk Thailand กล่าว

“แม้จะมีการหยุดชะงักซึ่งเกิดจากการระบาดของโรค แต่ Novo Nordisk ประเทศไทยก็ประสบความสำเร็จในการได้รับความไว้วางใจจากพนักงานของพวกเขา ช่วยสร้างวัฒนธรรมในการทำงานที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่โดดเด่น”  Hamza Idrissi, ผู้จัดการโครงการสำหรับภูมิภาค APAC.

เกี่ยวกับโครงการ BEST PLACES TO WORK PROGRAM

Best Places To Work คือโครงการการรับรองระดับโลกสำหรับสถานที่ทำงานชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก การประเมินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราจะวิเคราะห์ความน่าดึงดูดใจของบริษัท ผ่านกระบวนการสองขั้นตอนโดยมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยในสถานที่ทำงาน 8 ประการ ซึ่งรวมถึง วัฒนธรรม ความเป็นผู้นำ โอกาสในการเติบโต และการปฏิบัติของผู้คน นอกเหนือจากการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานแล้วเรายังดำเนินการประเมินด้านทรัพยากรบุคคลโดยเน้นที่การปฏิบัติด้านทรัพยากรบุคคลที่นำมาใช้ในองค์กรเทียบกับมาตรฐานกรอบงานด้านบุคลากรของเราที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างรายได้ในระดับที่เป็นผู้นำตลาดและการยกระดับนวัตกรรม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.bestplacestoworkfor.org

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201117006152/en/

สำหรับสื่อ:

Grace Kelly

อีเมล: grace@bestplacestoworkinasia.com

โทร: +65 3159 1167

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

APRU Quarantunes การแข่งขันที่ช่วยสารสัมพันธ์และยกระดับชุมชนของนักเรียนผ่านดนตรีที่กระตุ้นจิตวิญญาณในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19

Logo

ผู้ชนะจากฮ่องกง ไต้หวัน เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา โคลอมเบียและเกาหลีใต้ ร่วมกันส่งเสริมด้านการมีสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–17 พ.ย. 2563

เพื่อเป็นการนำนักศึกษานานาชาติมารวมตัวกัน โดยการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และแบ่งปันเชิงบวกในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ เช่นตอนนี้ ทาง Association of Pacific Rim Universities (APRU) จึงได้เปิดตัวการแข่งขันดนตรีของนักศึกษาที่มีชื่อโครงการว่าการแข่งขัน Quarantunes โดยการแข่งขัน Quarantunes ซึ่งจัดขึ้นโดย APRU Plus ซึ่งเป็นศูนย์กลางออนไลน์ (online hub) ที่ได้เปิดตัวขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายในช่วง COVID นี้ ได้รับผลงานส่งเข้าประกวดจำนวนกว่า 108 ผลงาน จากนักศึกษากว่า 13 เขตเศรษฐกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยทีมที่ชนะรางวัลสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของนักเรียนจากนานาชาติ โดยในกลุ่มนี้มีผลงานชั้นนำจากทีมนักศึกษาจากฮ่องกง ไต้หวันเม็กซิโก ฟิลิปปินส์ แคลิฟอร์เนีย (สหรัฐอเมริกา) โคลอมเบีย และเกาหลีใต้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201116006114/en/

เนื่องจากแทบจะไม่มีการเคลื่อนไหวของนักเรียนต่างชาติ ประกอบกับการที่ห้องเรียนในรูปแบบปกติหยุดชะงักไป นักเรียนจึงต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในการเรียนและประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย โดยจากข้อมูลการศึกษาที่ดำเนินการในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาของกลุ่มวิจัยระดับอุดมศึกษาซึ่งรวมถึงสมาชิก APRU University of California, Berkeley พบว่า 35% ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมีอาการโรคซึมเศร้า ในขณะที่ 39% มีอาการวิตกกังวลทั่วไปซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก ด้วยความวิตกกังวลที่แพร่หลายไปทั่วมหาวิทยาลัยทั่วโลก APRU Plus จึงมอบโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานร่วมกันเพื่อลดปัญหาที่เกิดจากการห่างเหินทางสังคม

การแข่งขัน Quarantunes ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการอภิปรายเกี่ยวกับความสำคัญของสุขภาพจิตในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้  ทำให้นักเรียนมีวิธีใหม่ในการรับมือกับความโดดเดี่ยวและสามารถมารวมตัวกันเพื่อผลิตผลงานดนตรีที่ช่วยส่งต่อความรู้สึกเชิงบวก เพลงที่นักเรียนส่งมาแต่ละเพลงบอกเล่าเรื่องราวของ COVID ที่ไม่เหมือนใครซึ่งช่วยให้เราสามารถมองข้ามความลำบากในปัจจุบันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้มีความหวังสำหรับอนาคต

"'Get Down' เป็นเพลงที่ผสมผสานระหว่างความไพเราะดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและเนื้อเพลงที่สะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เราหวังว่าเราจะนำเสนอโลกในแบบที่มันเป็นจริง ๆ แต่ก็แฝงความขี้เล่นเอาไว้ โลกซึ่งผู้คนรับทราบข้อบกพร่องของสังคม แต่ก็ยังคงมองโลกในแง่ดี และเชื่อมั่นในอนาคตที่สดใสกว่านี้” – ทีม National Taiwan University andThe Chinese University of Hong Kong team กล่าว

ดู วิดีโอไฮไลต์ และ วิดีโอที่ชนะ :

  • รางวัลชนะเลิศ (เสมอกัน)
    • “Get Down”  จาก National Taiwan University and The Chinese University of Hong Kong
    • “Sonos Más” จาก Tecnológico de Monterrey
  • รางวัลที่สาม
    • “Six Feet Apart” จาก University of the Philippines
  • รางวัลพิเศษ
    • “Golden Girl” จาก University of Southern California
    • “Homenaje a Lucho Bermúdez”  จาก Universidad de los Andes
    • “We're All Heroes” จาก Yonsei University

เพื่อเชื่อมโยงนักเรียนนานาชาติมากขึ้น APRU ยังเสนอโครงการ APRU Virtual Student Exchange (VSE) ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษในการเชื่อมต่อกับเพื่อนจากทั่วโลกเพื่อเรียนรู้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวัฒนธรรมและพัฒนาความสัมพันธ์ที่สำคัญต่อความสำเร็จ คลิก ที่นี่ เพื่ออ่านเพิ่ม

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201116006114/en/

ติดต่อ:

APRU: Jack Ng jack.ng@apru.org

PLUG: Marisa Lam marisa@plug.agency

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย