Category Archives: General News

Amazon ประกาศการลงทุนในโซลูชันการกำจัดคาร์บอนจากธรรมชาติในบราซิลกับ The Nature Conservancy

Logo

ความคิดริเริ่มนี้จะเปิดตัวในป่าดิบชื้นแอมะซอน โดยเน้นที่การปลูกป่าและวนเกษตรแบบปฏิรูป พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

การลงทุนของ Amazon มีเป้าหมายที่จะกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 10 ล้านเมตริกตันภายในปี 2593 ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยมลพิษหนึ่งปีจากรถยนต์จำนวน 2 ล้านคัน

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–2 กันยายน 2564

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสนับสนุนโซลูชันระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ วันนี้ Amazon (NASDAQ: AMZN) ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Agroforestry and Restoration Accelerator โดยร่วมมือกับ The Nature Conservancy ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก โครงการ Accelerator จะสร้างแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับเกษตรกรในท้องถิ่นหลายพันรายใน Brazilian Amazonian state of Pará ในขณะเดียวกันก็ช่วยฟื้นฟูป่าฝนพื้นเมืองและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการดักจับและกักเก็บคาร์บอนตามธรรมชาติ

ตามรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐานมีบทบาทสำคัญในการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลและภาคเอกชนทั้งสองสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและกำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศโดยการลงทุนในการแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐานตามขนาด  โครงการ Agroforestry and Restoration Accelerator เป็นหนึ่งในโครงการกำจัดคาร์บอนดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Amazon ที่จะบรรลุปฏิญญา The Climate Pledge ซึ่งบริษัทได้ร่วมก่อตั้ง Global Optimism ผู้ลงนามในปฏิญญามุ่งมั่นที่จะลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583— 10 ปีข้างหน้าในความตกลงปารีส

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามปฏิญญา Climate Pledge โดย Amazon คืออันดับแรกและสำคัญที่สุดในการเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและลงทุนในการลดคาร์บอนให้กับธุรกิจ บริษัทได้ซื้อรถส่งของไฟฟ้าจำนวน 100,000 คัน และเป็นผู้ซื้อองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลกในด้านพลังงานหมุนเวียน Amazon ยังลงทุนในการแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐานนอกห่วงโซ่คุณค่าผ่านกองทุน Right Now Climate Fund ซึ่งสนับสนุนโครงการ Accelerator และโครงการอื่นๆ เพื่อฟื้นฟูดินแดนที่เสื่อมโทรมด้วยวิธีที่ปรับปรุงการดำรงชีวิตของชุมชนท้องถิ่นและกำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ที่เพิ่งประกาศพันธมิตร LEAF Coalition ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของภาครัฐและเอกชนในการระดมเงินอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อปกป้องป่าเขตร้อนของโลก Amazon และพันธมิตรรายอื่น ๆ กำลังทำงานเพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่าในเขตร้อนชื้น โดยการลดปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมาในชั้นบรรยากาศ

Kara Hurst รองประธานฝ่ายความยั่งยืนทั่วโลกของ Amazon กล่าวว่า “การฟื้นฟูป่าไม้ของโลกเป็นหนึ่งในการดำเนินการที่มีความหมายมากที่สุดที่เราสามารถทำได้ในขณะนี้เพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจะต้องมีโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่จึงจะประสบความสำเร็จ” “เราภูมิใจที่ได้เปิดตัวโครงการ Agroforestry and Restoration Accelerator โดยร่วมมือกับ The Nature Conservancy เพื่อสนับสนุนโซลูชันที่คำนึงความถึงสำคัญอย่างสูงของความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมและผลประโยชน์ของชุมชนที่แข็งแกร่ง Amazon ตั้งตารอที่จะร่วมเป็นแรงผลักดันในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของเราพร้อมกับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อปรับปรุงความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่นในบราซิล ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องโลกสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต”

Christiana Figueres ผู้ร่วมก่อตั้ง Global Optimism และอดีตหัวหน้าฝ่ายภูมิอากาศของ UN ที่รับผิดชอบในความตกลงปารีสกล่าวว่า “วิทยาศาสตร์มีความชัดเจนเกี่ยวกับระบบธรรมชาติเป็นลำดับความสำคัญในการดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศและรายงานล่าสุดของ IPCC เน้นย้ำเรื่องนี้” “การปกป้องระบบนิเวศที่ยืนยงและการฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมเป็นสิ่งสำคัญใกลยุทธ์การลดคาร์บอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษหน้าหรือสองทศวรรษข้างหน้า โครงการที่บรรลุเป้าหมายนี้เพื่อรักษาทั้งธรรมชาติและการดำรงชีวิตของชุมชนท้องถิ่นอันมีค่าอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่เหนือกว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เราขอชื่นชม Amazon และ The Nature Conservancy”

การลงทุนครั้งแรกของ Amazon ในโครงการ Accelerator จะช่วยสนับสนุนเกษตรกรจำนวน 3,000 ราย และฟื้นฟูพื้นที่ประมาณ 20,000 เฮกตาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีขนาดประมาณเมืองซีแอตเทิล โดยภายในสามปีจะกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้มากถึง 10 ล้านเมตริกตันจนถึงปี 2593

The Nature Conservancy จะทำงานร่วมกับ World Agroforestry Center และองค์กรภาคประชาสังคมในท้องถิ่นหลายแห่งเพื่อดำเนินการโครงการ Accelerator โดยช่วยเกษตรกรรายย่อยฟื้นฟูทุ่งหญ้าปศุสัตว์ที่เสื่อมโทรมไปสู่ป่าพื้นเมืองและวนเกษตร ระบบวนเกษตรจะช่วยให้เกษตรกรมีแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนผ่านการขายเมล็ดโกโก้และพืชผลอื่น ๆ นอกจากนี้โครงการ Accelerator ยังจะทำการทดลองด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการสนับสนุนเกษตรกรและดูแลตลาดสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์จากป่าที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และจะพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ และเทคโนโลยีที่ใช้ดาวเทียมในการหาปริมาณและติดตามในการกำจัดคาร์บอน

“รัฐปาราเป็นพื้นที่อาศัยของป่าเขตร้อน 9% ของโลก แต่ต้องเผชิญกับอัตราการตัดไม้ทำลายป่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยสูญเสียพื้นที่ 3,300 เอเคอร์ในทุก ๆ วันของปีที่แล้ว” Jennifer Morris ซีอีโอของ The Nature Conservancy กล่าว “ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ฟาร์มขนาดเล็กในรัฐปาราเป็นพื้นที่การทำเกษตรกรรมแบบเผาป่าซึ่งดูเหมือนเป็นทางเลือกเดียว—โดยมีส่วนรับผิดชอบต่อการตัดไม้ทำลายป่าโดยเฉลี่ย 40% ของรัฐ เป็นเวลา 20 ปีแล้วที่ The Nature Conservancy ทำงานร่วมกับเกษตรกรรายย่อย ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และชนพื้นเมืองเพื่อระบุและดำเนินการโดยใช้โซลูชันแบบที่ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ เช่น วนเกษตร ที่ช่วยให้ผู้คนและธรรมชาติเจริญเติบโต การเป็นพันธมิตรใหม่กับ Amazon จะช่วยให้เราสามารถจัดหาทรัพยากรและความช่วยเหลือด้านเทคนิคที่จำเป็นต่อการพัฒนาโครงการนี้ และแสดงให้เห็นว่าตลาดวนเกษตรเชิงปฏิรูปและตลาดคาร์บอนเป็นรูปแบบธุรกิจที่ใช้งานได้จริงสำหรับชุมชนในป่าแอมะซอน”

“เราต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุสิ่งที่อาจเป็นเป้าหมายของศตวรรษ นั่นคือการพัฒนาเศรษฐกิจและปกป้องรายได้ของผู้คน ในขณะเดียวกันก็รักษาและฟื้นฟูป่าไม้” Helder Barbalho ผู้ว่าการรัฐปารากล่าว “รัฐปาราพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายนี้ และกลยุทธ์ของเราได้วางไว้อย่างชัดเจนในแผน Amazonia Agora  ซึ่งมุ่งมั่นที่จะปราศจากคาร์บอนภายในปี 2579 โดยผ่านการลดการตัดไม้ทำลายป่าและโดยการส่งเสริมการฟื้นฟูป่า การลงทุนอย่างเช่น Amazon ในด้านวนเกษตรที่ยั่งยืนและการปลูกป่าในรัฐปารานั้นเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ความคิดริเริ่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชุมชนของรัฐ ทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Amazon ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน กรุณาเยี่ยมชมได้ที่: https://sustainability.aboutamazon.com.

เกี่ยวกับ Amazon

Amazon ซึ่งนำด้วยหลักการสี่ประการดังต่อไปนี้: ให้ความสำคัญกับความคลั่งใคล้ในลูกค้ามากกว่าการมุ่งเน้นของคู่แข่ง แรงผลักดันในการประดิษฐ์ ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และการคิดระยะยาว  Amazon มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากที่สุดในโลก นายจ้างที่ดีที่สุดในโลก และสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยความคิดเห็นของลูกค้า, การซื้อของในคลิกเดียว, คำแนะนำเฉพาะบุคคล, Prime, Fulfillment by Amazon, AWS, Kindle Direct Publishing, Kindle, Career Choice, Fire tablets, Fire TV, Amazon Echo, Alexa, เทคโนโลยี Just Walk Out, Amazon Studios และ The Climate Pledge เป็นส่วนหนึ่งที่บุกเบิกโดย Amazon สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ amazon.com/about และติดตาม @AmazonNews

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 72 ประเทศและภูมิภาค: ซึ่งแบ่งเป็น 38 ประเทศและภูมิภาคผ่านผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และ 34 ประเทศและภูมิภาคผ่านพันธมิตร เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210902005314/en/

ติดต่อ:

Amazon.com, Inc.
สายด่วนสื่อ
Amazon-pr@amazon.com
www.amazon.com/pr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Standard Industries เผย Bob Patel เตรียมเข้าร่วมบริษัทในฐานะซีอีโอแห่ง W. R. Grace

Logo

การแต่งตั้งจะมีผลในเดือนมกราคม 2565

พร้อมนำประสบการณ์กว่า 30 ปีมาพลิกโฉมธุรกิจอุตสาหกรรม

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2564

วันนี้ Standard Industries Holdings (“Standard”) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนด้านอุตสาหกรรมระดับโลก ประกาศว่า Bhavesh V. (Bob) Patel จะเข้าร่วมงานกับบริษัทในฐานะซีอีโอของ Grace โดยจะมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปิดดีลเข้าซื้อกิจการ WR Grace (“Grace”)

“David Winter และ David Millstone ซีอีโอร่วมของ Standard Industries กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Bob เข้าสู่ครอบครัว Standard ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ W. R. Grace โดย Bob เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในอุตสาหกรรมมาเป็นเวลาหลายสิบปี พร้อมประวัติการทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เขาได้พิสูจน์ว่าตัวเองมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำทีมยอดเยี่ยมของ Grace และช่วยก่อร่างการลงทุนของ Standard ในด้านวัสดุขั้นสูง เขาจะมีบทบาทสำคัญในการพา Grace เข้าสู่เส้นทางธุรกิจข้างหน้า ขณะที่เรามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนผ่านหลังจากปิดดีลซื้อขายจะราบรื่นและเริ่มดำเนินกลยุทธ์การเติบโตที่หวังผลได้ต่อไป”

Patel จะร่วมงานกับ Standard หลังจากสิ้นสุดการทำงานกับ LyondellBasell ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) มาตั้งแต่ปี 2558 และเป็นผู้นำในช่วงเวลาแห่งการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับบริษัท ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2557 Patel เป็นผู้นำในการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อปรับโครงสร้างต้นทุนและร่องรอยทางภูมิศาสตร์ของบริษัทให้เหมาะสม ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ LyondellBasell เขาได้ขยายโครงการด้านความยั่งยืนของบริษัทมากมายและเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้อย่างมหาศาลผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยการเข้าซื้อกิจการของ A. Schulman และการสร้างโรงงานผลิตระดับโลก ขณะที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่นั้น LyondellBasell ได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก หรือ “World’s Most Admired Companies” ของนิตยสาร Fortune เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ก่อนที่จะร่วมงานกับ LyondellBasell ในปี 2553 Patel ได้ทำงานกับ Chevron Phillips Chemical Co. เป็นเวลา 20 ปี โดยดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการผลิตและเป็นผู้นำธุรกิจหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย

Patel กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Standard Industries และได้รับคำขอให้นำพา W. R. Grace เข้าสู่เส้นทางใหม่ทางธุรกิจ Grace เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นธุรกิจที่มีพื้นฐานมั่นคง ซึ่งขับเคลื่อนโดยพนักงานที่มีทักษะและความสามารถโดดเด่น ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับทีมผู้นำที่ Grace เพื่อนำพาบริษัทไปสู่จุดสูงสุด”

Patel จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Hudson La Force ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Grace มาตั้งแต่ปี 2561 ภายใต้การนำของ La Force บริษัท Grace ได้ลงทุนมหาศาลเพื่อให้การเติบโตสูงขึ้นในธุรกิจตัวเร่งปฏิกิริยาและวัสดุ La Force จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไปจนถึงสิ้นปีและจะเข้าร่วมคณะกรรมการที่ปรึกษาของ Standard ในเดือนมกราคม 2565

Winter และ Millstone กล่าวว่า “Hudson เป็นผู้นำแบบอย่างที่มีบทบาทสำคัญในการสร้าง Grace ให้กลายเป็นธุรกิจเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน เรารู้สึกขอบคุณในการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับเขาเข้าสู่คณะกรรมการที่ปรึกษาของ Standard”

เกี่ยวกับ Standard Industries:

Standard Industries เป็นบริษัทอุตสาหกรรมเอกชนระดับโลกที่ดำเนินงานใน 80 กว่าประเทศและมีพนักงานมากกว่า 15,000 คน ระบบนิเวศของ Standard ครอบคลุมความหลากหลายของการถือครอง เทคโนโลยี และการลงทุน ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทภาครัฐและเอกชนตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงระยะสุดท้าย ตลอดจนสินทรัพย์วัสดุก่อสร้างระดับโลกและโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นต่อไป ตลอดระยะเวลา 140 ปีที่ผ่านมา Standard ได้สนับสนุนความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์เชิงลึกในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเกินมาตรฐานในธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยบริษัทที่กำลังดำเนินงาน ได้แก่ GAF, BMI, Siplast, GAF Energy, Schiedel และ SGI ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง 40 North ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ 40 North Ventures และ Winter Properties

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210831005554/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:

Patrick Ryan
Edelman
610-306-7536
Patrick.Ryan@edelman.com

Josh Hochberg
Edelman
Josh.Hochberg@edelman.com

Beth Kseniak
Standard Industries
917-509-7031
beth.kseniak@standardindustries.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SPRIX ส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาในญี่ปุ่นโดยสำรวจเด็กและผู้ปกครองจำนวน 22,000 รายใน 11 ประเทศทั่วโลกด้านการเรียนรู้

Logo

การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและแรงจูงใจของเด็กที่เกี่ยวข้องกับอัตราการจดจำในการเรียนรู้ของเด็ก

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2564

สถาบันวิจัย SPRIX ซึ่งดำเนินการโดย SPRIX (สำนักงานใหญ่: Toshima Ward, Tokyo) (ตัวแทนผู้อำนวยการและประธาน: Hiroyuki Tsuneishi) ได้นำสองแบบสำรวจที่ออกแบบมาใช้เพื่อทำความเข้าใจการศึกษาของรัฐทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น แบบสำรวจทั้งสองมุ่งเป้าไปที่เด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครองใน 11 ประเทศที่แตกต่างกัน แบบสำรวจแรกเป็นแบบสำรวจความตระหนัก เน้นการเรียนรู้ และแบบที่สองเป็นแบบสำรวจความรู้ เน้นการวัดทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210831005018/en/

Average Response Rates (as Percentages) for Basic Academic Skills Survey Directed at Children Aged Fifteen and Younger Across Eleven Countries (Graphic: Business Wire)

อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ย (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) สำหรับแบบสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือน้อยกว่าใน 11 ประเทศ (กราฟิก: Business Wire)

การสำรวจแต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนหนึ่งพันรายในแต่ละประเทศ รวมเด็ก พ่อแม่ และผู้ปกครองเป็นจำนวน 22,000 ราย ผลการสำรวจพบว่าประเทศที่มีระดับความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำสำหรับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่สูงขึ้นยังมีอัตราการมีส่วนร่วมของพ่อแม่หรือผู้ปกครองในการเรียนรู้ของเด็กที่สูงขึ้น ผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มอัตราการตอบสนองที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทราบถึงอาชีพในอนาคตของเด็กอย่างชัดเจน

ผลสำรวจที่สำคัญ

1. อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ยสำหรับผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานเกินร้อยละเจ็ดสิบในเอเชีย และพบว่าผลลัพธ์ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปต่ำกว่า

เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจนในการเรียนรู้ที่สม่ำเสมอและการจดจำสำหรับเด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่า

2. เด็กจากประเทศที่มีอัตราของความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำที่สูงขึ้นจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคตของพวกเขา

เด็กที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตจะมีความสนใจในชั้นเรียนและการศึกษาด้วยตนเอง

3. ประเทศที่ทำการสำรวจทั้งหมดตระหนักถึงความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ที่กล่าวมานั้น ได้เห็นความแตกต่างบางประการในแนวทางการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

4. ความพึงพอใจในชั้นเรียนเกินร้อยละแปดสิบ การระบาดใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสู่การเรียนรู้ออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่และผู้ปกครองมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ต้องการให้แบบสำรวจความรู้มีการตรวจสอบถึงความยากลำบากเป็นประจำของการเรียนออนไลน์ในช่วงที่เกิดโรคระบาด อย่างเช่น โควิด-19

หมายเหตุ: เมื่อต้องการแชร์เนื้อหาจากข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ให้ระบุว่าจัดทำโดยสถาบันวิจัย SPRIX

ภาพรวมของการสำรวจ

ประเทศเป้าหมาย:

ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส โปแลนด์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา

ผู้ตอบแบบสอบถาม:

เด็กอายุ 6 ถึง 15 ปี จำนวน 1,000 คนจากแต่ละประเทศที่ทำการสำรวจ รวมผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11,000 คน

พ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กดังกล่าว จำนวน 1,000 คนจากแต่ละประเทศที่ทำการสำรวจ รวมผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 11,000 คน

วิธีการสำรวจ:

ออนไลน์

เนื้อหาแบบสำรวจ:

แบบสำรวจความตระหนักสอบถามคำถามเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทั้งเด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครอง

แบบสำรวจทักษะทางวิชาการสอบถามคำถามทั้งหมด 50 ข้อในรูปแบบการทดสอบพื้นฐานสำหรับเด็ก

ระยะเวลาการสำรวจ:

สิงหาคม ถึง กันยายน 2563

1. อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ยสำหรับผลการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานเกินร้อยละเจ็ดสิบในเอเชีย และพบว่าผลลัพธ์ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาโดยทั่วไปต่ำกว่า

เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจนในการเรียนรู้ที่สม่ำเสมอและอัตราในการจดจำสำหรับเด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่า

ภายในการสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่จัดทำโดย SPRIX ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือต่ำกว่าใน 11 ประเทศที่ต่างกัน อัตราการตอบกลับสำหรับประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับต่ำ ในทางกลับกัน อัตราการตอบกลับสำหรับประเทศต่าง ๆ ภายในเอเชีย โดยเฉลี่ยอยู่ที่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์หรือสูงกว่านั้น เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคในด้านความสม่ำเสมอในการเรียนรู้ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานและอัตราในการจดจำ

ชื่อแผนภูมิ: อัตราการตอบกลับโดยเฉลี่ย (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) สำหรับแบบสำรวจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุสิบห้าหรือน้อยกว่าในสิบเอ็ดประเทศ

2. เด็กจากประเทศที่มีอัตราของความสม่ำเสมอในการเรียนรู้และการจดจำที่สูงขึ้นจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคตของพวกเขา

เด็กที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตจะมีความสนใจในชั้นเรียนและการศึกษาด้วยตนเอง

การสำรวจเด็ก ๆ เกี่ยวกับอนาคตของพวกเขาพบว่าคะแนนสูงอย่างต่อเนื่องในวิชาชีพด้านการแพทย์ วิชาชีพด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม และวิชาชีพด้านการศึกษาในหลายประเทศ โดยไม่มีความแตกต่างที่สำคัญสำหรับอาชีพในอนาคตทั่วทั้ง 11 ประเทศ เนื่องจากนวัตกรรมทางด้านเทคนิคเพิ่มบทบาทในด้านไอทีและเทคโนโลยีดิจิทัลภายในบทบาทบริการของแต่ละอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นในวิชาชีพด้านเทคนิค วิศวกรรม และการเขียนโปรแกรม

ชื่อแผนภูมิ: อาชีพที่เด็กสนใจ

อย่างไรก็ตาม เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของเด็กเกี่ยวกับอาชีพในอนาคต ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น เด็ก ๆ ในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอาชีพในอนาคตมากกว่าเมื่อเทียบกับเด็กในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เมื่อพิจารณาอย่างใกล้ชิดจากผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กับการกระจายผลลัพธ์สำหรับประเทศที่ยังคงทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานไว้ เราเชื่อว่าผลลัพธ์เหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กที่ไม่มีอาชีพในอนาคตหรือยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ เด็กในประเทศที่ผลลัพธ์ชี้ให้เห็นถึงอาชีพในอนาคตที่ชัดเจน ยังแสดงความรู้สึกเชิงบวกต่อชั้นเรียนในโรงเรียนด้วย นอกจากนี้ เส้นแนวโน้มความสนใจเรียนนอกโรงเรียนยังอยู่ในระดับสูง แบบสำรวจแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงระดับแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่สูงมาก

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กที่คิดว่างานชั้นเรียนน่าสนใจ

ชื่อแผนภูมิ: เวลาเรียนเฉลี่ย (คิดเป็นชั่วโมง) นอกชั้นเรียน

3. ประเทศที่ทำการสำรวจทั้งหมดตระหนักถึงความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

ที่กล่าวมานั้น ได้เห็นความแตกต่างบางประการในแนวทางการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

การตระหนักรู้สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองเกี่ยวกับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลานนั้นสูงมาก เกินกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองจาก 11 ประเทศที่ทำการสำรวจซึ่งเชื่อว่าทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานมีความสำคัญ การสำรวจยังระบุอย่างชัดเจนว่าพ่อแม่และผู้ปกครองประมาณร้อยละเก้าสิบต้องการพัฒนาระดับทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลานและต้องการมีส่วนร่วมกับพวกเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เราเห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเห็นด้วยกับความสำคัญของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน เนื่องจากเชื่อว่าความรู้ดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง หรืออย่างอื่นที่ขาดไม่ได้สำหรับการศึกษาของบุตรหลาน

ชื่อแผนภูมิ: ความตระหนัก (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของความรู้พื้นฐานสำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: ทักษะ (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ที่เชื่อว่าจำเป็นนอกเหนือจากการเรียน

นอกจากนี้ พ่อแม่และผู้ปกครอง ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ที่เข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานมีอยู่ในระดับสูง ในประเทศส่วนใหญ่พ่อแม่และผู้ปกครองเข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของบุตรหลาน และเราสามารถเห็นได้ว่าความตระหนักในทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานของพวกเขาก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน

ชื่อแผนภูมิ: อัตรา (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของเด็กและพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่เข้าใจทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน

เมื่อเราสำรวจความตระหนักเฉพาะเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพ่อแม่หรือผู้ปกครองในการเรียนรู้ของบุตรหลานของพวกเขา พ่อแม่และผู้ปกครองใน 11 ประเทศมีส่วนร่วมอย่างมาก ด้วยผลลัพธ์โดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละเก้าสิบสำหรับการมีส่วนร่วมซึ่งรวมถึงการกระตุ้นให้เด็กศึกษาและให้รางวัลเด็กในการศึกษา อย่างไรก็ตาม เราเห็นความแตกต่างในระดับภูมิภาคสำหรับเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในเรื่องการมีส่วนร่วม อย่างเช่น พ่อแม่หรือผู้ปกครองที่สอนบุตรหลานของตนเอง ให้คะแนนการบ้านแก่เด็ก หรือการพัฒนาตารางเรียนสำหรับเด็ก พ่อแม่และผู้ปกครองจากประเทศที่มีอัตราการตอบแบบสำรวจทักษะทางวิชาการสูงกว่าจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในรายละเอียดการเรียนของเด็กมากขึ้น รวมถึงการจัดตารางการเรียนรู้ที่เป็นอิสระของเด็ก และการให้คะแนนการบ้านของเด็ก แทนที่จะปล่อยไว้ให้แล้วแต่บุตรหลานของพวกเขา

ชื่อแผนภูมิ: การมีส่วนร่วม (เป็นเปอร์เซ็นต์) ในการเรียนรู้ของเด็กทั่วทั้งสิบเอ็ดประเทศ

4. ความพึงพอใจในชั้นเรียนเกินร้อยละแปดสิบ การระบาดใหญ่เปลี่ยนแปลงไปสู่การเรียนรู้ออนไลน์ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่และผู้ปกครองมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ต้องการให้แบบสำรวจความรู้มีการตรวจสอบถึงความยากลำบากเป็นประจำของการเรียนออนไลน์ในช่วงที่เกิดโรคระบาด อย่างเช่น โควิด-19

เราสำรวจว่าพ่อแม่และผู้ปกครองสนับสนุนโรงเรียนที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาทักษะทางวิชาการของเด็กอย่างไร ผู้ตอบแบบสอบถามจาก 11 ประเทศให้คะแนนโรงเรียนในระดับที่สูง ด้วยคำตอบรวมถึงความพึงพอใจต่อบทเรียนที่ทางโรงเรียนจัดให้ การเข้าเรียนของบุตรหลานของพวกเขา และทักษะทางวิชาการที่เพียงพอที่ได้รับการสอนในชั้นเรียนของโรงเรียน เนื่องจากประมาณร้อยละแปดสิบของผู้ตอบแบบสอบถามในทั้งหมด 11 ประเทศ ระบุว่าพวกเขาเชื่อมั่นในผลการทดสอบของโรงเรียน เราเชื่อว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงความพึงพอใจในระดับสูงสำหรับการศึกษาในโรงเรียน ในทางกลับกัน โรงเรียนหลายแห่งถูกบังคับให้พิจารณารูปแบบชั้นเรียนใหม่เพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของการติดเชื้อโควิด-19 และมีการใช้กลยุทธ์หลายอย่างสำหรับการเรียนรู้ออนไลน์ รวมถึงชั้นเรียนออนไลน์ผ่านแอปการประชุมทางไกล เช่น Zoom การเสนอเนื้อหาดิจิทัล และการแชร์วิดีโอของชั้นเรียนโดยคุณครู

ชื่อแผนภูมิ: การให้คะแนน (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของชั้นเรียนโดยพ่อแม่และผู้ปกครองในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: การตอบสนองของโรงเรียน (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ในสิบเอ็ดประเทศต่อโควิด-19

เป็นที่ชัดเจนว่าผลกระทบของโควิด-19 ต่อการเรียนรู้ของเด็กมีความสำคัญ และพ่อแม่หรือผู้ปกครองจำนวนมากเชื่อว่าต้องใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การเรียนรู้เฉพาะบุคคล การทบทวนระดับทักษะทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ และโอกาสในการเรียนรู้นอกโรงเรียนที่จำเป็น พ่อแม่หรือผู้ปกครองสี่ในห้าต้องการให้ใช้มาตรฐานแห่งชาติเพื่อประเมินทักษะทางวิชาการ และสามในสี่ต้องการให้ใช้มาตรฐานสากล ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่าพ่อแม่และผู้ปกครองหลายรายตระหนักถึงสภาพการเรียนรู้ของบุตรหลาน

ชื่อแผนภูมิ: สิ่งที่จำเป็น (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อการเรียนรู้ของเด็กในสิบเอ็ดประเทศ

ชื่อแผนภูมิ: ความตระหนัก (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์) ของการประเมินทักษะทางวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศในสิบเอ็ดประเทศ

คำพูดบางส่วนจาก Shuhei Umeda ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย SPRIX

เป็นเวลากว่ายี่สิบปีที่ SPRIX ได้ให้บริการด้านการศึกษาแก่เด็กชาวญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งและที่จะได้รับการจัดอันดับในรระดับกลางหรือต่ำกว่าของทักษะทางวิชาการ

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการเรียนรู้ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศในเอเชีย ระดับแรงจูงใจในการเรียนรู้ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้แนวทางต่าง ๆ ที่ใช้ในการเรียนรู้ เราเชื่อว่าผลลัพธ์จะเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ดีเยี่ยมสำหรับประเทศที่ผลการทดสอบทักษะทางวิชาการไม่สูงนัก

การสำรวจวิจัยประเภทนี้ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานอย่างที่ไม่เคยมีการดำเนินการในระดับโลกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ นอกจากนี้การทดสอบของ Fundamental Academic Skills (TOFAS) ที่เปิดตัวซึ่งเติบโตจากผลการวิจัยที่ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 30,000 คนในสิบประเทศทั่วโลก โดยมีแผนเรียกร้องเพื่อให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในภายภาคหน้า หากบุคคลในต่างประเทศสนใจงานวิจัยประเภทนี้ และต้องการทดสอบและศึกษาวิธีพัฒนาทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก เรายินดีที่จะพัฒนาการวิจัยต่อไป

ภาพรวมของสถาบันวิจัย SPRIX

สถาบันวิจัย SPRIX มุ่งเน้นที่ทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐาน และจัดตั้งขึ้นเพื่อประเมินทักษะทางวิชาการของเด็กอย่างถูกต้อง และเพื่อให้มั่นใจว่ามีความสม่ำเสมอและการจดจำของทักษะเหล่านั้น โดยมุ่งเน้นที่ทักษะทางวิชาการที่เป็นพื้นฐานขั้นต้นซึ่งทำหน้าที่เป็นบรรทัดเริ่มต้นของสถาบันวิจัยสำหรับการพัฒนาทักษะเหล่านั้น เมื่อทักษะเหล่านั้นเหมาะสมแล้ว เด็ก ๆ จะมีอนาคตที่หลากหลายให้เลือก โดยมอบโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชีวิตของพวกเขา ภารกิจของเราในฐานะสถาบันวิจัยคือการต่อยอดการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็นสำหรับการจดจำที่สม่ำเสมอของทักษะทางวิชาการขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ไปยังทั่วโลกด้วย

ชื่อสถาบัน:

สถาบันวิจัย SPRIX

ผู้อำนวยการสถาบัน:

Shuhei Umeda

เว็บไซต์:

https://tofas.education/

บัญชีโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ:

Twitter https://twitter.com/SprixBasri

Facebook https://www.facebook.com/SprixBasri

ภาพรวมของ SPRIX

ชื่อบริษัท:

SPRIX

สำนักงานใหญ่:

12F, Metropolitan Plaza Building, 1-11-1 Nishi-Ikebukuro, Toshima Ward, Tokyo

ตัวแทน:

Hiroyuki Tsuneishi, Representative Director and President

เว็บไซต์:

https://sprix.jp/

สอบถามโดยตรงไปที่:

tofas@sprix.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210831005018/en/

สมาชิกของสื่อมวลชนควรส่งคำถามไปที่:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ SPRIX (สำหรับการติดต่อเบื้องต้น)
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์: Ririna Matsui, Nao Aoyama
โทร: +81-3-5572-6062
โทรสาร: +81-3-5572-6065
อีเมล์: sprix@vectorinc.co.jp










AJC เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาเสมือนจริงครบรอบ 54 ปีของอาเซียนในหัวข้อเรื่อง “ASEAN Economic and Social Regional Integration in the New Normal” ในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 นี้

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–18 สิงหาคม 2564

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) จะจัดการประชุมสัมมนาเสมือนจริงครบรอบ 54 ปีของอาเซียนในหัวข้อเรื่อง “ASEAN Economic and Social Regional Integration in the New Normal” ในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 นี้ โดยจะร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียนและคณะกรรมการอาเซียนในกรุงโตเกียว คณะกรรมการของเอกอัครราชทูตอาเซียนประจำประเทศญี่ปุ่นจำนวน 10 คน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (TBC) และมูลนิธิสันติภาพระหว่างประเทศ

ในการประชุมสัมมนา ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2550 ศาสตราจารย์ Eric S. Maskin ศาสตราจารย์ของ Adams University และศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ Harvard University จะกล่าวปาฐกถาพิเศษ ตามด้วยการอภิปรายแบบคณะระหว่างเจ้าหน้าที่ที่มีชื่อเสียงจากอาเซียน รวมทั้งรองเลขาธิการอาเซียนด้านกิจการชุมชนและองค์กร และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น โดยจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์และความไม่เท่าเทียมกันในอาเซียนภายใต้ชีวิตวิถีใหม่

AJC เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นในปี 2524 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคลและรัฐสมาชิกอาเซียนกับญี่ปุ่น โดย AJC ได้จัดการประชุม ASEAN Anniversary Symposium มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาเซียน โดยรวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอาเซียนและภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นปัจจุบันในอาเซียน

=================================================

[รายละเอียดการประชุมสัมมนา]

วัน / เวลา: 27 สิงหาคม 20564, 11:00 น. -13:00 น. (เวลาตามประเทศญี่ปุ่น)

สถานที่: ออน์ไลน์ (Zoom)

กำหนดการ:

  • กล่าวเปิดงาน
    H.E. Mr. WASHIO Eiichiro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
  • คำกล่าวต้อนรับ
    H.E. Mr. Peter Tan Hai Chuan
    เอกอัครราชทูตวิสามัญและผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศญี่ปุ่น ประธานคณะกรรมการอาเซียน ณ กรุงโตเกียว
  • ถ้อยคำ
    H.E. Dato Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียน
  • คำปราศรัย
    ศาสตราจารย์ Eric S. Maskin
    ศาสตราจารย์ที่ Adams University และศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ Harvard University ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2550
  • การอภิปรายแบบคณะ
    วิทยากร:
    Mr. FUJITA Masataka เลขาธิการ ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

ผู้ร่วมอภิปราย:

(1)

ศาสตราจารย์ Eric S. Maskin ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ปี 2550

(2)

H.E. Mr. Tran Duc Binh รองเลขาธิการฝ่ายกิจการชุมชนและองค์กร สำนักเลขาธิการอาเซียน

(3)

Dr. Rafaelita M. Aldaba ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

(4)

ศาสตราจารย์ TAKAMURA Yukari ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย/สิ่งแวดล้อมศึกษา สถาบันเพื่อการริเริ่มแห่งอนาคต มหาวิทยาลัยโตเกียว

(5)

ศาสตราจารย์ SHIMIZU Kazushi ศาสตราจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ที่ Kyushu University

  • ช่วงถาม-ตอบ
  • สิ้นสุดกำหนดการ

ภาษา:

อังกฤษ (พร้อมล่ามภาษาญี่ปุ่น)

ค่าเข้าชม:

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ผู้จัดงาน:

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

ผู้ร่วมจัดงาน:

สำนักเลขาธิการอาเซียนและคณะกรรมการอาเซียน ณ กรุงโตเกียว

ผู้สนับสนุน:

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (TBC)

มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ

สำหรับข้อมูลล่าสุดและการลงทะเบียน กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ AJC ด้านล่าง
https://www.asean.or.jp/en/invest-info/20210806/
(วันและเวลาปิด : 09.00 น. เวลามาตรฐานญี่ปุ่น 26 สิงหาคม 2564)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210817005961/en/

ติดต่อ:

ASEAN-Japan Centre PR Unit
Emiko Sonoya (MS)
URL: https://www.asean.or.jp/en/
TEL: +81-3-5402-8118
E-mail: toiawase_ga@asean.or.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ได้รับหลายรางวัลสำหรับสำหรับการทำงานในความพยายามอย่างยั่งยืนและการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 สิงหาคม 2564

ในปี 2564 Mary Kay Inc. ได้สานต่อคำมั่นสัญญาที่ยาวนานหลายทศวรรษในการเสริมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของผู้หญิงทั่วโลก การผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และการสร้างชุมชนให้มีสุขภาพที่ดีและยั่งยืนยิ่งขึ้น แม้แต่ในการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเป็นการยกย่องความสำเร็จของ Mary Kay ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา แบรนด์ดังกล่าวจึงได้รับหลายรางวัลอันทรงเกียรติในธุรกิจ สัญชาติองค์กร และประเภทความเป็นผู้นำจากองค์กรที่มีชื่อเสียงต่างๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210811005163/en/

Mary Kay was named a Silver Globee® Winner in 3 categories at the 13th Annual 2021 Golden Bridge Business and Innovation Awards. (Graphic: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ได้รับรางวัล Silver Globee® จาก 3 ประเภทในงาน Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13 (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

รางวัลต่าง ๆ ซึ่งมีตั้งแต่การจดจำของแบรนด์ในการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ไปจนถึงรางวัลเกียรติยศสำหรับสารคดีที่ผลิตโดย Mary Kay เกี่ยวกับความพยายามในการอนุรักษ์อ่าวของเม็กซิโก โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าทางธุรกิจที่แน่วแน่ของบริษัทและการอุทิศตนเพื่อหลักการที่กำหนดไว้โดยผู้ก่อตั้งในตำนานของแบรนด์ Mary Kay Ash

รางวัลล่าสุด ได้แก่

รางวัลการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19 Response Awards)

  • ผู้ชนะ Silver Globee® Winner – รางวัล Golden Bridge Business and Innovation Awardsประจำปี 2564 ครั้งที่ 13
    • ทีมแห่งปีช่วงสถานการณโควิด-19 (ทีมจำหน่ายเจลล้างมือ)
    • การตอบสนองต่อบริษัทแห่งปี (Mary Kay Inc.)
    • ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้และลดผลกระทบของโควิด-19 (เจลล้างมือ Mary Kay)
  • ผู้ชนะ Gold Globee® Winner – รางวัล Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13
    • การตอบสนองที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นและโลกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (The Mary Kay FoundationSM)
  • ผู้ชนะ Silver Globee® Winner – รางวัล American Best in Business Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 6
    • ทีมแห่งปีช่วงสถานการณโควิด-19 (ทีมจำหน่ายเจลล้างมือ)
    • การตอบสนองต่อบริษัทแห่งปี (Mary Kay Inc.)
    • ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการต่อสู้และลดผลกระทบของโควิด-19 (เจลล้างมือ Mary Kay)
  • ผู้ชนะ Gold Globee® Winner – รางวัล American Best in Business Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 6
    • การตอบสนองที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นและโลกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (The Mary Kay FoundationSM)

รางวัลบริษัท (Company Awards)

  • นายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดของอเมริกาประจำปี 2564 – Forbes
  • รางวัล “พลังอำนาจของผู้หญิง” Mary Kay ยูเครน โครงการร่วมกับ Marie Claire – X-RAY Marketing Awards
  • นายจ้างที่ดีที่สุดประจำปี 2564 Mary Kay โปแลนด์ – The Financial Magazine
  • “รางวัลบริษัทเครื่องสำอางขายตรงอันดับหนึ่ง” Mary Kay เบลารุส – “Number One” Annual National Awards

รางวัลความยั่งยืน (Sustainability Awards)

Guardians of the Gulf เป็นสารคดีเปิดประสบการณ์ในการสำรวจความสัมพันธ์อลเวงระหว่างอ่าวเม็กซิโกกับนักอนุรักษ์ที่ตั้งใจจะปกป้องรักษา โดยได้รับรางวัลที่หลากหลาย Mary Kay Inc. ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกับ Media One เป็นหุ้นส่วนกับ The Nature Conservancy ได้ไปเยือนชายฝั่งของเท็กซัส แอละแบมา และเม็กซิโก เพื่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องราวที่มักไม่มีใครทราบเกี่ยวกับการอนุรักษ์อ่าว

  • Silver: รายการทั่วไปที่ไม่ออกอากาศ-ธรรมชาติ/สัตว์ป่า – Telly Awards
  • Bronze: รายการทั่วไปที่ไม่ออกอากาศ-สารคดี – Telly Awards
  • ผู้เข้ารอบสุดท้ายของสารคดีโฟกัสพิเศษยอดเยี่ยม – LA Femme International Film Festival
  • รางวัล World Remi Award – Worldfest Houston International Film Festival

การยอมรับความเป็นผู้นำ (Leadership Recognition)

  • “ซีอีโอจำนวน 67 คนและผู้บริหารหญิงผิวดำที่ทรงพลังในองค์กรของอเมริกา” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและเลขานุการองค์กร / Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด – Business Insider
  • “ซีอีโอหญิงอันดับต้น ๆ ในยูเครน” ภาวะผู้นำในส่วนองค์กรและการจัดอันดับธุรกิจของผู้หญิง – Viktoriia Zoria-Iatsenko ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay ยูเครน – WoMo (พอร์ทัลสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน)
  • “ผู้หญิงอันทรงคุณค่าจำนวน 50 คน ในโปแลนด์” Ewa Kudlińska-Pyrz ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay โปแลนด์ – The Financial Magazine
  • “ผู้นำหญิง 100 อันดับต้นในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคประจำปี 2564” Allyson Sellers รองประธานฝ่ายขายของ Mary Kay สหรัฐอเมิรกา – Women We Admire

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210811005163/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย










กลุ่มผู้นำภาคต่างๆ ในสหรัฐฯ ลงนามในจดหมายถึงประธานาธิบดีไบเดนให้เป็นผู้นำของ G-7 ในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรส่วนใหญ่ของโลกภายในสิ้นปีนี้

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนส ไวร์)–10 ส.ค. 2564

กลุ่มผู้นำ 34 รายจากภาคธุรกิจ รัฐบาล การแพทย์ และสถาบันการศึกษาได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกใน Wall Street Journal เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจเซฟ อาร์. ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เป็นผู้นำความพยายามของกลุ่ม G-7 ในการขยายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกในภูมิภาคที่ประสบปัญหามากที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210810005319/en/

“ผู้คนนับล้านในละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเข้าถึงวัคซีนเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยขณะที่ไวรัสพันธุ์เดลต้าแพร่กระจายมากขึ้นทั่วโลก” จดหมายกล่าว “การช่วยฉีดวัคซีนให้กับประชากรในประเทศอื่น ๆ เป็นการลงทุนด้านความปลอดภัยของเราเองและความมั่นคงของโลก”

จดหมายดังกล่าวระบุว่าในการประชุม G-7 เมื่อเดือนมิถุนายน ประเทศสมาชิกได้ให้คำมั่นที่จะขจัดโรคนี้และฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยของโลก แผนการประสานงานระดับโลกวิธีที่ดีที่สุดในการก้าวไปสู่เป้าหมายทั้งสองนี้

กลุ่มผู้นำนี้บริหารโดย Maurice R. Greenberg ประธานและซีอีโอของ CV Starr & Co., Inc. โดยมีข้อความเต็มของจดหมายแนบมาด้วย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210810005319/en/

ติดต่อ:
Joe Dillon
Senior Vice President, External Affairs

joe.dillon@starrcompanies.com, 212-230-5073

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Riskified Ltd. ประกาศปิดการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปและการใช้สิทธิเต็มรูปแบบของการรับประกันภัยในการซื้อหุ้นเพิ่มเติมของผู้จัดการการจัดจำหน่าย

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–4 สิงหาคม 2564

Riskified Ltd. (“Riskified”) แพลตฟอร์มการจัดการการฉ้อโกงที่มอบประสบการณ์การเปิดใช้งานอีคอมเมิร์ซที่ลื่นไหล ประกาศปิดการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปในครั้งแรกจำนวน 20,125,000 หุ้นสามัญ Class A เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 รวมถึงการใช้สิทธิทั้งหมดโดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ของทางเลือกในการซื้อหุ้นสามัญ Class A เพิ่มเติมจำนวน 2,625,000 หุ้น ในราคา 21.00 ดอลลาร์ต่อหุ้นสามัญ Class A การเสนอขายประกอบด้วยหุ้นสามัญ Class A จำนวน 19,925,000 หุ้นที่เสนอขายโดย Riskified และหุ้นสามัญ Class A จำนวน 200,000 หุ้นเพื่อจำหน่ายโดยผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่งของ Riskified ซึ่ง Riskified จะไม่ได้รับเงินจากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้น รายได้รวมของ Riskified ก่อนที่จะหักส่วนลดการรับประกันภัย ค่าคอมมิชชั่น และค่าใช้จ่ายในการเสนอซื้อ อยู่ที่ประมาณ 418 ล้านดอลลาร์ หุ้นสามัญ Class A เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ภายใต้สัญลักษณ์ “RSKD”

Goldman Sachs & Co. LLC, J.P. Morgan Securities LLC และ Credit Suisse Securities (USA) LLC ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้จัดการด้านธุรกรรมสำหรับการเสนอขายครั้งนี้ โดย Barclays Capital Inc., KeyBanc Capital Markets Inc., Piper Sandler & Co., Truist Securities, Inc. และ William Blair & Company, L.L.C. เป็นผู้จัดการการร่วมดำเนินการจัดทำรายการเสนอขาย Loop Capital Markets LLC, Samuel A. Ramirez & Company, Inc., Siebert Williams Shank & Co., LLC และ Stern Brothers & Co. ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขาย

การเสนอขายจะทำโดยใช้หนังสือชี้ชวนเท่านั้น สามาถขอรับสำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ที่ EDGAR บนเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.gov หรืออาจขอรับสำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายนี้ได้จาก Goldman Sachs & Co. LLC, Attn: Prospectus Department, 200 West Street, New York, New York, 10282 ทางอีเมลที่ prospectus-ny@ny.email.gs.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 866-471-2526; J.P. Morgan Securities LLC, Attn: Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York, 11717 ทางอีเมลที่ Prospectus-eq_fi@jpmorgan.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 1-866-803-9204 และ Credit Suisse Securities (USA) LLC, Attn: Prospectus Department, One Madison Avenue, New York, New York, 10010 ทางอีเมลที่ newyork.prospectus@credit-suisse.com หรือทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 800-221-1037

แบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนในแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ได้ยื่นต่อและประกาศให้มีผลบังคับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ตามข้อเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Riskified

Riskified ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มศักยภาพของอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่โดยเพิ่มความปลอดภัย เข้าถึงได้ และความลื่นไหล Riskified ได้สร้างแพลตฟอร์มการจัดการความเสี่ยงอีคอมเมิร์ซยุคหน้าที่ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้กับผู้บริโภคของพวกเขา แพลตฟอร์มของ Riskified ใช้ประโยชน์จากการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยได้ประโยชน์จากเครือข่ายผู้ค้าทั่วโลกเพื่อระบุบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโต้ตอบออนไลน์ในแต่ละครั้ง ช่วยให้ผู้ค้า—ลูกค้าของ Riskified สามารถขจัดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากธุรกิจของพวกเขา Riskified ช่วยเพิ่มยอดขายและลดการฉ้อโกงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ สำหรับผู้ค้า และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภค เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของผู้ค้าก่อนที่จะเริ่มดำเนินการของ Riskified

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน: https://www.businesswire.com/news/home/20210803006056/en/

ติดต่อ:

นักลงทุนสัมพันธ์:
Chris Mammone, The Blueshirt Group for Riskified
ir@riskified.com

การสื่อสารองค์กร:
Rowena Kelley
press@riskified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ประกาศรางวัลการตลาดระดับปริญญาเอก Academy of Marketing Science Mary Kay Doctoral Dissertation Awards ประจำปี 2021

Logo

Mary Kay สนับสนุนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเพื่อส่งเสริมความใฝ่ฝันทางวิชาชีพและการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการตลาด

แดลลัส–(บิสิเนส ไวร์)–27 ก.ค. 2564

Mary Kay Inc. องค์กรชั้นนำที่สนับสนุนและเสริมสร้างความเป็นผู้นำในผู้ประกอบการสตรี ได้ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาและการวิจัยมาเป็นเวลาหลายทศวรรษด้วยรางวัล Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Awards ในปี 2564 ที่ Academy of Marketing Science (AMS) ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว  เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่บริษัทด้านความงามระดับโลกได้มอบทุนสนับสนุนประจำปีเหล่านี้เพื่อให้ผู้สมัครระดับปริญญาเอกด้านการตลาดมีโอกาสแสดงวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างสำเร็จต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน  ผู้เข้ารอบสุดท้ายจะได้รับการคัดเลือกจากการนำเสนอครั้งสุดท้ายในการประชุมประจำปี AMS

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210727005230/en/

AMS Mary Kay Doctoral Dissertation Awards were presented to six deserving winners at the 2021 AMS Annual Conference held virtually. (Graphic: Mary Kay Inc.)

AMS Mary Kay Doctoral Dissertation Awards มอบให้แก่ผู้ชนะหกท่านในการประชุม AMS ประจำปี 2564 ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

ทางโครงการรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาเอกจากสาขาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย วิทยาลัยการเรียนรู้ระดับสูง โรงเรียนธุรกิจ หรือโรงเรียนการจัดการทั่วโลก  ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Awards ประจำปี 2564 ได้แก่

ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation Proposal Award ประจำปี 2564

  • รางวัลชนะเลิศ – Luo Bowen, PhD Candidate, University of Rochester, สหรัฐอเมริกา
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 – Aleksandrina Atanasova, PhD Candidate, Royal Holloway University of London, สหราชอาณาจักร
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 – Riley Krotz, PhD Candidate, University of Tennessee, สหรัฐอเมริกา

ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation Award ประจำปี 2564

  • รางวัลชนะเลิศ – Irene Nahm, PhD, University of Minnesota, สหรัฐอเมริกา
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 – Constant Pieters, PhD, Tilburg University, Netherlands
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 – Victor Lima, PhD, York University, แคนาดา

“Mary Kay มุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสในการเสริมความก้าวหน้าในอาชีพและการศึกษาทั่วโลก” Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. กล่าว  “การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่าน Academy of Marketing Science Dissertation and Dissertation Proposal Awards ช่วยให้ผู้ที่มีความโดดเด่นในได้แสดงความสามารถของตนและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน  พวกเขาเป็นกำลังสำคัญอย่างมากในด้านการตลาดและเรารู้สึกเป็นเกียรติที่สามารถสนับสนุนพวกเขาในอาชีพของพวกเขา”

Julie Moulard ประธาน Academy of Marketing Science กล่าวว่า “ในแต่ละปี เราได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mary Kay Dissertation Awards หลายสิบรายการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่ต้องการพัฒนาอาชีพและรับข้อเสนอแนะที่สำคัญจากเพื่อนร่วมงานของพวกเขาเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิทยานิพนธ์ของพวกเขา “กว่าสองทศวรรษที่ Mary Kay's Dissertation Awards ได้ให้โอกาสในการจัดโครงสร้างและปรับแต่งงานวิจัย สร้างเครือข่ายกับผู้นำในอุตสาหกรรม และเพิ่มความรู้จักในหมู่เพื่อนร่วมงานทางวิชาการ ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญต่อการพิสูจน์ผลงานของพวกเขาและการเผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการตลาดอย่างน่าเชื่อถือ”

 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Academy of Marketing Science Mary Kay Dissertation Awards คลิกที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม และการร่วมมือกับองค์กรทั่วโลกเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมที่ดี Mary Kay Global Design Studio เป็นหน่วยงานด้านครีเอทีฟโฆษณาภายในองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์สำหรับความร่วมมือด้านแฟชั่น ดีไซเนอร์และอินฟลูเอนเซอร์ และแคมเปญการสร้างแบรนด์ของ Mary Kay เพื่อพลิกโฉมการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับผู้บริโภค

เกี่ยวกับ Academy of Marketing Science

Academy of Marketing Science เป็นองค์กรวิชาชีพระดับนานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมมาตรฐานสูงและความเป็นเลิศในการสร้างและเผยแพร่ความรู้ด้านการตลาดและการส่งเสริมการปฏิบัติทางการตลาดผ่านบทบาทของความเป็นผู้นำในสาขาวิชาการตลาดทั่วโลก ทางองค์การมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดและความร่วมมือในการแสวงหาภารกิจนี้

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210727005230/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรีและความเท่าเทียมทางเพศผ่านชุดกระบวนการที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นและความร่วมมือครั้งสำคัญทั่วโลก

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–20 ก.ค. 2564

Mary Kay Inc., ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ได้สานต่อความมุ่งมั่นในการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ โดยการเผยแพร่เอกสารแสดงจุดยืนในการต้อนรับยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศของคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับปี 2563 – 2568 พร้อม ๆ ไปกับการเข้าร่วม Generation Equality Forum Global Action Coalitions หรือ แนวร่วมปฏิบัติการของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210720005347/en/

This month, Mary Kay also joined the “Drivers of change” Program at the Generation Equality Forum in Paris, France (June 30 - July 2). (Graphic: Mary Kay Inc.)

ในเดือนนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมโครงการ “ผู้ผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง หรือ Drivers of change” ที่ Generation Equality Forum ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

เอกสารแสดงจุดยืนซึ่งสามารถอ่านได้ ที่นี่ สะท้อนถึงกลยุทธ์ของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ โดยจากข้อมูลของสหภาพยุโรป “ยุทธศาสตร์นี้นำเสนอวัตถุประสงค์เชิงนโยบายและการดำเนินการเพื่อสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญภายในปี 2568 ซึ่งจะนำไปสู่ยุโรปที่เท่าเทียมกันทางเพศ เป้าหมายคือการสร้างสหภาพที่ผู้หญิงและผู้ชาย เด็กหญิงและเด็กชาย ผู้ที่มีความแตกต่างหลากหลายกันทั้งหมด ให้มีอิสระที่จะดำเนินตามเส้นทางชีวิตที่เลือกได้เอง มีโอกาสเท่าเทียมกันในการเติบโต และความสามารถในการมีส่วนร่วม และเป็นผู้นำสังคมยุโรปของเราอย่างเท่าเทียมกัน”

“กฎหมายที่กีดกันการเลือกปฏิบัติ อคติทางเพศ การเหมารวม ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ล้วนแต่เป็นปัญหาระดับโลก และต้องได้รับการจัดการร่วมกับภาครัฐและเอกชน และจากองค์กรภาคประชาสังคมทั่วโลก” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและความหลากหลายที่ Mary Kay. กล่าว “การบรรลุความเท่าเทียมกันทางเพศมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของโลกและการสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่”

ในเดือนนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมโครงการ “ผู้ผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง หรือ Drivers of Change” ที่ฟอรัมความเท่าเทียมกันจากรุ่นสู่รุ่น หรือ the Generation Equality Forum ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม)  การประชุม Generation Equality Forum ซึ่งจัดโดย UN Women และร่วมเป็นเจ้าภาพโดยรัฐบาลของเม็กซิโกและฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้น 26 ปีหลังจากปฏิญญาปักกิ่ง ถือเป็น “ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ที่จะลงทุนในความเท่าเทียมทางเพศและเร่งดำเนินการณ์เพื่อความปลอดภัย ความเป็นผู้นำ และโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิง1

Julia Simon เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเป็นธรรมทางเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและที่เชื่อมโยงกันในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสอภาคทางเพศ โดย 1 ใน 3 ของธุรกิจในโลกมีผู้หญิงเป็นเจ้าของ2 แต่มีผู้หญิงชนะการประมูลเพียงร้อยละ 1ในสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่ เท่านั้น3 นอกจากนี้ ยังมีวิทยากรร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมซึ่งพิสูจน์ได้จากเส้นทางของตนเองเกี่ยวกับวิธีการนำกลยุทธ์ การจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเป็นธรรมทางเพศ หรือ GRP มาใช้

ณ งาน ประชุม Paris Forum ครั้งนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรแนวร่วมปฏิบัติการของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมผ่านความมุ่งมั่นด้านนโยบาย โครงการ และการสนับสนุน ในด้านความยุติธรรมทางเศรษฐกิจและสิทธิ การดำเนินการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ ความรุนแรงตามเพศ และนวัตกรรมกับเทคโนโลยี โดยมีผู้คนเกือบ 50,000 คน มีส่วนร่วมในฟอรัมซึ่งรวบรวมผู้มีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมกว่า 1,000 ราย เป็นจำนวนการลงทุนกว่า 40,000 ล้าน สำหรับความเท่าเทียมกันทางเพศเพื่อสนับสนุนแผน 5 ปีเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันใน 6 ด้านของการดำเนินการ

การมีส่วนร่วมเหล่านี้ เป็นความพยายามชุดล่าสุดของโครงการสนับสนุนของ Mary Kay ในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรีและความเท่าเทียมทางเพศในการประชุมระดับสูงทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเป็นพันธมิตรกับ UN และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในท้องถิ่น

  • เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564 Deborah Gibbins ซีโอโอของ Mary Kay ได้เข้าร่วมการประชุม UN Global Compact Target Gender Equality เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่ Mary Kay ส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีในเกือบ 40 ประเทศ Gibbins เน้นย้ำข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยครั้งใหม่โดยธนาคารโลก4 ซึ่งเผยให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงทั่วโลกมีสิทธิตามกฎหมายสามในสี่ของผู้ชาย เธอท้าทายบริษัทต่าง ๆ ให้ยืนหยัดต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางกฎหมายและสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อปิดช่องว่าง เพื่อทำให้ผู้หญิงสามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดได้ โดยในงานนี้มีการรวบรวมผู้คนกว่า 5,000 คนจากภาคธุรกิจ องค์การสหประชาชาติ ประเทศสมาชิก และองค์กรภาคประชาสังคม จากกว่า 100 ประเทศ โดย ร้อยละ 75 ของผู้เข้าร่วมเป็นตัวแทนของภาคเอกชน
  • เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564 ได้มีการประชุมนอกรอบของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW65) ซึ่ง Gibbins ได้เข้าร่วมกลุ่มการประชุมที่จัดโดย Women's Empowerment Accelerator (WEA) ในหัวข้อ “Women Leading Economic Recovery Through Entrepreneurship หรือ การที่ผู้หญิงเป็นผู้นำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านการเป็นผู้ประกอบการ” ซึ่งเธอได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี ทั้งนี้ The Women's Entrepreneurship Accelerator ซึ่ง ก่อตั้งขึ้นโดย Mary Kay ร่วมกับหน่วยงานของ UN 5 แห่ง ได้รับการนำเสนอเป็นตัวอย่างของการสร้างผลกระทบที่เป็นเอกลักษณ์ของความร่วมมือหลายฝ่ายในการเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลง
  • เมื่อวันที่ 26 มีนาคม-4 เมษายน Edita Szabóová ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย ได้ร่วมประชุม Equal Pay Day ซึ่งเธอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ผู้หญิงที่สนับสนุนผู้หญิง” และเน้นย้ำถึงงานของ Mary Kay ในการสนับสนุนผู้หญิงที่เป็นผู้ประกอบการ ผ่านการฝึกอบรม ความเป็นผู้นำ และการให้คำปรึกษา “เมื่อผู้หญิงมารวมตัวกัน เราสามารถบรรลุสิ่งพิเศษเพื่อประโยชน์ของผู้หญิงและมนุษยชาติในวงกว้างได้ เพราะเรารู้ว่าถ้าเราอุ้มชูผู้หญิงหนึ่งคน ก็เท่ากับเป็นการอุ้มชูผู้หญิงทั้งหมด ทั้งนี้ หัวใจของการทำงานของ Mary Kay คือการพัฒนาและฝึกอบรมผู้ประกอบการซึ่งในทางกลับกันจะทำให้พวกเขาสร้างธุรกิจ เรื่องราว และมรดกของตนเองสำหรับลูกสาวทั้งหลายของพวกเขาได้” Szabóová กล่าว
  • เมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่งาน UN Global Compact Leaders Summit ที่จัดขึ้น Gibbins ได้พูดในเวทีหลักเรื่อง “Women In Sustainability: Innovating In A Man's World” ซึ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสตรีเป็นแบบอย่างที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ เธอยังเน้นย้ำถึงภารกิจที่สำคัญของ Women's Entrepreneurship Accelerator ซึ่งก่อตั้งโดย Mary Kay ร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานของ UN 5 ราย ได้แก่ UN Women, UN Global Compact, International Trade Center, International Labour Organisation และ UN Development Program Accelerator ว่ามีความมุ่งมั่นที่จะให้ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า “ผู้ประกอบการสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวที่ประสบความสำเร็จหลังจากการระบาดของโรค นี่คือเหตุผลที่ทำไมภารกิจของ Women's Entrepreneurship Accelerator เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะเจาะ และนี่คือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีจึงต้องการกรอบการทำงานในระดับที่ใหญ่ขนาดนี้” Gibbins กล่าว การประชุมสุดยอดประจำปีได้มีการประชุมผู้นำกว่า 25,000 คนจากภาคธุรกิจ รัฐบาล สหประชาชาติ และภาคประชาสังคม เพื่อให้รับทราบความคืบหน้าและผลักดันการดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรเทาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การระบาดใหญ่ทั่วโลก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
  • เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่เมือง Ekaterinburg ทาง Mary Kay ได้เข้าร่วมงาน International Industrial Trade Fair INNOPROM-2021 ซึ่งเป็นเวทีอุตสาหกรรม การค้า และการส่งออกหลักในรัสเซีย วิทยากรรับเชิญในการอภิปรายถูกจัดโดย UN Women ในหัวข้อ “UN Women Programs for the Promotion and Development of Gender-Based Entrepreneurship หรือ โครงการ UN Women เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการโดยคำนึงถึงความเท่าเทียมทางเพศ” Mary Kay เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อความเท่าเทียมทางเพศ และเน้นว่าการระบาดครั้งใหญ่ของโรคยังนำโอกาสพิเศษมาสู่ความก้าวหน้า การดำเนินการ และการสนับสนุนธุรกิจสตรีทั่วโลก

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 58 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ยังทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่ www.marykay.com

1 https://forum.generationequality.org/home

2 ธนาคารโลก (2563). Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal อ้างอิงจากบล็อก ธนาคารโลก (2563) Women entrepreneurs needed – stat!

3 Vazquez และ Sherman (2557). อ้างอิงโดย UN Women (2560) The Power of Procurement: How to source from women-owned businesses.

4 Women, Business and the Law, 2021. รายงาน ซึ่งมาจากการดำเนินการใน 190 ประเทศ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210720005347/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายการสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

Marykay.com/newsroom

(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




Women’s Entrepreneurship Accelerator เข้าร่วม Generation Equality Forum สำหรับแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศและคำมั่นต่อแนวร่วมปฏิบัติ

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2564                              

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) โครงการขับเคลื่อนชั้นนำเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีได้เข้าร่วมประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Generation Equality Forum) ในกรุงปารีส (30 มิถุนายน-2 กรกฎาคม) ผ่านโปรแกรม “Drivers of Change” 26 ปีหลังจากปฏิญญาปักกิ่ง การประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม จัดโดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ และรัฐบาลเม็กซิโกและฝรั่งเศสร่วมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในยุคที่จะลงทุนในความเท่าเทียมทางเพศและเร่งรัดเพื่อความปลอดภัยของผู้หญิง ความเป็นผู้นำ และโอกาสทางเศรษฐกิจ1 ผู้คนจำนวน 50,000 คนมีส่วนร่วมในการประชุมที่รวบรวมผู้มุ่งมั่นจำนวน 1,000 คน โดยได้บันทึกของการลงทุนไว้ 40 พันล้านดอลลาร์ สำหรับความเท่าเทียมทางเพศในการสนับสนุนแผนระยะเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินการอย่างเท่าเทียมกันในการปฏิบัติทั้ง 7 ด้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210712005178/en/

The Women’s Entrepreneurship Accelerator hosted a panel titled “Building a Transformative Strategy for Gender-Responsive Procurement,” aiming at creating awareness of the disproportionately complex and interconnected barriers on women’s entrepreneurship and promoting gender-responsive procurement strategies. (Graphic: WEA)

Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์ในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและการเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่สมส่วนในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และส่งเสริมกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ (กราฟิก: WEA)

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม Accelerator เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์ในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและการเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่สมส่วนในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และส่งเสริมกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ ทั่วทั้งโลก 1 ใน 3 เจ้าของธุรกิจเป็นผู้หญิง2 แต่ทว่าผู้หญิงชนะเพียง 1% เท่านั้นของการใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่3 วิทยากรแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมซึ่งพิสูจน์ได้จากเส้นทางของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีการใช้กลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างแบบครอบคลุม

โครงการ Women's Entrepreneurship Accelerator เปิดตัวในปี 2019 โดยริเริ่มจากพันธมิตรหลายรายที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมพลังให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีผ่านเส้นทางแห่งการเสริมอำนาจสี่แนวทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โดยปราศจากอุปสรรคด้านคุณสมบัติในการเข้าร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่ก่อตั้งโดย Mary Kay Inc. เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการปรึกษาหารือกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติห้าแห่ง

“เราเชื่อว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ สามารถสร้างผลลัพธ์อย่างมหาศาล ซึ่งเร่งรัดการรวมธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและจัดการความหลากหลายของ Mary Kay Inc. กล่าว “Accelerator สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างทั่วถึงตามลำดับความสำคัญและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระบบที่ผู้หญิงต้องการ การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีมีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

Simon เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายที่นำเสนอระหว่างการอภิปรายการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Gender Equality Forum) เธอเข้าร่วมโดย Elizabeth Vazquez ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ WEConnect International และ Jamila Belabidi ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของ Global Women Economic Empowerment & Global Innovation, Procter & Gamble โดย Sonia Dridi ผู้รายงานข่าวและผู้สื่อข่าว Washington DC สำหรับช่อง France 24 และ Europe 1 เป็นผู้กลั่นกรองช่วงการประชุม

“เศรษฐกิจโลกมีมูลค่า 93 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ผู้หญิงยังคงถูกมองไม่เห็นในฐานะซัพพลายเออร์ของผลิตภัณฑ์และบริการในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกของเรา” Vazquez กล่าว “ความล้มเหลวของตลาดครั้งใหญ่นี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากความเจริญทางเศรษฐกิจโดยครอบคลุมและการสร้างงานจากการสนับสนุนของ SDG5”

Jamila Belabidi ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของ Global Women's Economic Empowerment & Global Innovation ที่ Procter & Gamble กล่าวว่า “ที่ P&G เราให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศเป็นพื้นฐานและบูรณาการเข้ากับธุรกิจของเรา ด้วยเหตุนี้เราจึงมุ่งมั่นที่จะใช้เงิน 10 พันล้านดอลลาร์กับธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของและผู้หญิงที่เป็นผู้นำภายในปี 2568”

ในงานนั้น WEA ยังได้เข้าร่วมสี่กลุ่มในยุคแนวร่วมปฏิบัติการเพื่อความเท่าเทียม (Generation Equality Action Coalitions) ผ่านข้อผูกพันด้านนโยบาย โปรแกรมการจัดการอัติโนมัติ และการสนับสนุน: ความยุติธรรมและสิทธิทางเศรษฐกิจ; ปฏิบัติการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ; เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และขบวนการสตรีนิยมและภาวะผู้นำ Accelerator ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพลังให้กับผู้หญิง 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2573 โดยการแบ่งเบาอุปสรรคสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญ

การมีส่วนร่วมของ Accelerator ในการประชุมยุคแนวร่วมปฏิบัติการเพื่อความเท่าเทียม (Generation Equality Forum Action Coalitions) เป็นเพียงขั้นตอนล่าสุดที่องค์กรดำเนินการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความเท่าเทียมกันของผู้หญิงหลังโควิด-19:

  • วันที่ 16 มีนาคม 2564 Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Mary Kay เข้าร่วมการประชุม UN Global Compact Target Gender Equality ในนามของ Accelerator นาย Gibbins เน้นย้ำข้อมูลใหม่ที่ธนาคารโลกเพิ่งเผยให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยทั่วโลก ผู้หญิงมีสิทธิตามกฎหมายสามในสี่ของผู้ชาย เธอต้องการให้บริษัทต่างๆ ยืนหยัดต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางกฎหมายและสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อปิดช่องว่างที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถบรรลุศักยภาพอันสูงสุด งานนี้รวบรวมผู้คนกว่า 5,000 คนจากภาคธุรกิจ องค์การสหประชาชาติ ประเทศสมาชิก และองค์กรภาคประชาสังคมจากกว่า 100 ประเทศ ด้วย 75% ของผู้เข้าร่วมเป็นตัวแทนของภาคเอกชน
  • วันที่ 24 มีนาคม 2564 งานนอกเหนือของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี Commission on the Status of Women (CSW65) Women's Empowerment Accelerator ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “Women Leading Economic Recovery Through Entrepreneurship” โดยมีพันธมิตรหน่วยงานของ UN ห้าราย กลุ่มนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเป็นหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยกำหนดรูปแบบระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี
  • วันที่ 15-16 มิถุนายน 2564 ที่งานประชุมสุดยอดผู้นำ UN Global Compact Leaders Summit นาย Gibbins ได้พูดในเวทีหลักเรื่อง “Women in Sustainability: Innovating in a Man's World” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีให้เป็นแบบอย่างที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจและสังคม และเน้นย้ำภารกิจสำคัญของ Accelerator: “ผู้ประกอบการสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวจากโรคระบาดที่ประสบความสำเร็จ นี่คือเหตุผลที่ภารกิจของ Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นไปอย่างทันท่วงที และนี่คือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีต้องการกรอบการทำงานระดับใหญ่นี้” Gibbins กล่าว การประชุมสุดยอดประจำปีได้เรียกประชุมผู้นำกว่า 25,000 คนจากภาคธุรกิจ รัฐบาล สหประชาชาติ และภาคประชาสังคม เพื่อรับทราบความคืบหน้าและผลักดันการดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรเทาวิกฤตของสภาพภูมิอากาศ การระบาดใหญ่ทั่วโลก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นโครงการริเริ่มจากพันธมิตรหลายรายที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมพลังให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกผ่านเส้นทางแห่งการเสริมอำนาจสี่แนวทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โดยปราศจากอุปสรรคด้านคุณสมบัติในการเข้าร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่ก่อตั้งโดย Mary Kay Inc. เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการปรึกษาหารือกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติห้าแห่ง ได้แก่ องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ International Labour Organisation (ILO) บริษัทการค้าระหว่างประเทศ International Trade Center (ITC), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ UN Global Compact (UNGC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) Accelerator ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมพลังทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิง 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2573 เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://www.we-accelerate.com/


1 https://forum.generationequality.org/home
2 ธนาคารโลก (2020). Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal อ้างถึงโดย World Bank Blogs (2020) Women entrepreneurs needed – stat!
3 Vazquez and Sherman (2014). อ้างถึงโดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (2017) The Power of Procurement: How to source from women-owned businesses.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210712005178/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย