Category Archives: General News

Ingersoll Rand ประกาศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวยูเครนมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Logo

เดวิดสัน, นอร์ทแคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2565

เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในยูเครน Ingersoll Rand Inc. (NYSE: IR) ได้ร่วมกับโครงการอาหารโลก สหรัฐอเมริกา (World Food Program USA หรือ WFP USA) เพื่อจัดหาความช่วยเหลือด้านอาหารในยูเครน โดย Ingersoll Rand ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านระบบปั๊มลมที่จำเป็นสำหรับธุรกิจและโซลูชันทางอุตสาหกรรม ได้มอบเงินบริจาคมูลค่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการแจกจ่ายอาหารในสถานการณ์ฉุกเฉินของโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติ และได้ให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมสูงสุด 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะสมทบเพิ่มเติมจากเงินบริจาคของพนักงานในจำนวนเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศที่จะบริจาคสินค้าจำเป็นมูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ น้ำ สุขาภิบาล และการรับมือกับเหตุประสบภัยสำหรับประชาชนในยูเครนด้วย

โครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยได้ช่วยชีวิตผู้คนในสถานการณ์ฉุกเฉินและใช้ความช่วยเหลือด้านอาหารสร้างหนทางไปสู่สันติ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของผู้คนที่ฟื้นตัวจากความขัดแย้ง ภัยพิบัติ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ความช่วยเหลือด้านการเงินที่จัดหาโดย Ingersoll Rand และพนักงานของบริษัทจะสนับสนุนโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติโดยมอบความช่วยเหลือโดยตรงให้กับผู้คนในยูเครนและผู้ที่หนีภัยมายังประเทศเพื่อนบ้าน โดยในขณะนี้ หน่วยงานดังกล่าวอยู่ระหว่างระดมเสบียงอาหารสำหรับ 1 เดือนเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนราว 3 ล้านคนที่อยู่ในยูเครน

Vicente Reynal ประธานและซีอีโอ ประกาศว่า “จุดมุ่งหมายของข้อความที่ว่า ‘Lean on us to help you make life better’ เป็นพลังขับเคลื่อนในทุกสิ่งที่เราทำ สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้ระงับการทำธุรกิจใหม่ทั้งหมดกับลูกค้าชาวรัสเซีย ยกเว้นสินค้าที่จำเป็นต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ และวันนี้ พนักงานของเราจากทั่วโลกทั้งหมด 16,000 คนได้มาร่วมกันเพื่อมอบความช่วยเหลือด้านอาหารให้กับผู้คนที่หนีจากภัยความขัดแย้งในยูเครนและที่ยังคงอยู่ในยูเครน พวกเราภูมิใจที่ได้ยืนเคียงข้างชาวยูเครนและชื่นชมการกระทำอันน่าทึ่งมากมายที่พนักงานของเราได้ทำ ทั้งการให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนและสอนทักษะด้านภาษาเพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เรารู้ว่าความช่วยเหลือและความพยายามของพนักงานของเราจะช่วยชาวยูเครนในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมนี้”

เกี่ยวกับ Ingersoll Rand Inc.

Ingersoll Rand Inc. (NYSE:IR) ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการและความเป็นเจ้าของ บริษัทมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงาน ลูกค้า และชุมชน โดยลูกค้าต่างพึ่งพาความเป็นเลิศของผลลัพธ์ด้านอุตสาหกรรมและการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งเรานำเสนอผ่านแบรนด์ชั้นนำกว่า 40 แบรนด์ ผู้นำผลิตภัณฑ์และบริการของเราไปสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมในสภาพการทำงานที่มีความยากและซับซ้อน พนักงานของเราสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืนด้วยความมุ่งมั่นต่อความเชี่ยวชาญ ผลิตภาพ และประสิทธิภาพ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.IRCO.com

เกี่ยวกับโครงการอาหารโลก

โครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยได้ช่วยชีวิตผู้คนในสถานการณ์ฉุกเฉินและใช้ความช่วยเหลือด้านอาหารสร้างหนทางไปสู่สันติ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของผู้คนที่ฟื้นตัวจากความขัดแย้ง ภัยพิบัติ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

เกี่ยวกับโครงการอาหารโลก สหรัฐอเมริกา

โครงการอาหารโลก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรตามมาตร a 501(c)(3) ที่ตั้งอยู่ในวอชิงตัน ดีซี ภูมิใจสนับสนุนภารกิจของโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติ โดยการระดมผู้กำหนดนโยบาย ธุรกิจต่าง ๆ และปัจเจกบุคคลของอเมริกาเพื่อขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวระดับโลกเพื่อยุติความอดอยาก ความเป็นผู้นำและการสนับสนุนของเราช่วยส่งต่อสิ่งที่ชาวอเมริกันสืบทอดมายาวนานอย่างการเลี้ยงดูครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือทั่วโลก

ดูเนื้อหาต้นฉบับ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220318005088/en/

ติดต่อ:

สื่อ:
Misty Zelent
mzelent@irco.com

นักลงทุนสัมพันธ์:
Chris Miorin
christopher.miorin@irco.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 เป็นปีที่ 16 ติดต่อกัน

Logo

รายชื่อรางวัลด้านจริยธรรมขั้นสุดท้ายถือเป็นการยกย่องที่โดดเด่นสำหรับผู้ผลิตที่หลากหลาย

สปาร์ตันเบิร์ก เซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–15 มีนาคม 2565

Milliken & Company ได้รับการยกย่องจากสถาบัน Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 หรือ 2022 World’s Most Ethical Companies ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลาย ซึ่งมีมากกว่า 60 แห่งและพนักงานประมาณ 8,000 รายทั่วโลก เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณตามหลักจริยธรรมอันทรงเกียรติทุกปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งรางวัล

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

Milliken is one of six companies included on the list for the last 16 years. (Graphic: Business Wire)

Milliken เป็นหนึ่งในหกบริษัทที่มีอยู่ในรายชื่อในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา (กราฟิก: Business Wire)

“สถาบัน Ethisphere และโปรแกรมบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสำหรับวิธีการดำเนินธุรกิจของเรา” Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าว “การได้รับการยกย่องนี้เป็นเวลาถึง 16 ปีติดต่อกันเป็นการตอกย้ำถึงวัฒนธรรมและความมุ่งมั่นของสมาชิกทีม Milliken ทั่วโลก มันคือสิ่งที่เราเป็น”

ในปี 2565 มีผู้ได้รับรางวัล 136 คน ครอบคลุม 22 ประเทศและ 45 อุตสาหกรรม Milliken เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุตสาหกรรมเจ็ดราย ด้วยการประเมินภายใต้ระบบ Ethics Quotient® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบัน Ethisphere กระบวนการประเมินบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกที่จะได้รับคะแนนจากการให้ข้อมูลผ่านคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม บทบาททางสิ่งแวดล้อมและสังคม บทบาททางจริยธรรม การกำกับดูแลกิจการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่ง กระบวนการนี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อรวบรวมและประมวลแนวทางปฏิบัติชั้นนำขององค์กรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และทั่วโลก

การดำเนินงานของ Milliken ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยตระหนักว่าจริยธรรมนั้นยึดถือความสำเร็จระยะยาวของบริษัทสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

“ขอแสดงความยินดีกับ Milliken ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 16” Timothy Erblich ซีอีโอของสถาบัน Ethisphere กล่าว “เราขอชมเชยทีมงาน Milliken ทั้งหมดสำหรับความสำเร็จที่สำคัญอย่างแท้จริงและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและยั่งยืนโดยการสร้างวัฒนธรรมแห่งจริยธรรมและวัตถุประสงค์อย่างตั้งใจ”

ผู้ได้รับเกียรติ

รายชื่อบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2565 สามารถดูได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Milliken

บริษัท Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในวันพรุ่งนี้ จากอุตสาหกรรมโมเลกุลชั้นนำไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน ด้วยสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการใช้งานในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันของความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของบริษัท Milliken ได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagramLinkedIn และ Twitter.

เกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere

สถาบัน Ethisphere® เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ซึ่งกระตุ้นคุณลักษณะขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ สถาบัน Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมหลักโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้ปรับปรุงลักษณะองค์กรและวัดผลและปรับปรุงวัฒนธรรม ทั้งนี้สถาบัน Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโปรแกรมการยกย่องบริษัทที่ดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมมากที่สุดในโลก และมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere สามารถค้นหาได้ที่: https://ethisphere.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220315005184/en/

ติดต่อสื่อ
Betsy Sikma, Milliken
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Anne Walker, Ethisphere
Anne.Walker@Ethisphere.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Donald F. Colleran ประธานและ CEO ของ FedEx Express จะเกษียณอายุ 31 ธันวาคม 2565

Logo

Richard W. Smith ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง

เมมฟิส เทนเนสซี.–(บิสิเนสไวร์)–11 มี.ค. 2565

FedEx Corp. (NYSE: FDX) ประกาศในวันนี้ว่า Donald F. Colleran ประธานและ CEO ของ FedEx Express จะเกษียณอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2022 หลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพการงานที่ FedEx มาเกือบ 40 ปี  Richard W. Smith ประธานระดับภูมิภาคของอเมริกาและรองประธานบริหารฝ่ายสนับสนุนระดับโลกจะรับตำแหน่งต่อจาก Colleran ในตำแหน่งประธานและ CEO ของ FedEx Express

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220310005966/en/

Don Colleran (Photo: Business Wire)

Don Colleran (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

Colleran ดำรงตำแหน่งผู้นำที่สำคัญหลายประการที่ FedEx นับตั้งแต่เขาเข้าร่วมจาก Flying Tigers ในการเข้าซื้อกิจการโดย FedEx ในปี 1989  ในปี 1992 เขาย้ายไปโตเกียวและเริ่มงานระดับโลก 12 ปีในด้านการขายและการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ ซึ่งพาเขาจากโตเกียวไปยังฮ่องกงไปยังโตรอนโตซึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธานของ FedEx Express Canada โดยเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจระหว่างประเทศของเรา Colleran ช่วยวางรากฐานสำหรับการเติบโตที่สำคัญในภาคส่วนนั้นของพอร์ต FedEx จากนั้นเขาดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายขายระหว่างประเทศก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของ FedEx Corp. ในปี 2560 เขาดำรงตำแหน่งปัจจุบันในฐานะประธานและซีอีโอของ FedEx Express ในปี 2562

“ด้วยการเปิดตัวความสามารถใหม่ๆ สำหรับลูกค้าของเรา ในการเป็นผู้นำทีม FedEx Express ทั่วโลกในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด รวมถึงการระบาดของ COVID-19 Don มีบทบาทสำคัญในการสร้างและดำเนินกลยุทธ์การเติบโตระดับโลกที่โดดเด่นของเรา” Raj Subramaniam ประธานและ COO ของ FedEx Corp. กล่าว “ตลอดมาเขาได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ต่อลูกค้าและสมาชิกในทีมของเรา ผมมีความเคารพอย่างยิ่งต่อ Don และความแตกต่างที่เขาได้ทำระหว่างดำรงตำแหน่งที่ FedEx โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะแชมป์ที่แน่วแน่ในวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเรา  นอกเหนือจากผลงานทางธุรกิจที่น่าประทับใจตลอดหลายทศวรรษ  Don ทิ้งมรดกของการให้คำปรึกษาและสร้างทีมผู้นำที่น่าทึ่งซึ่งพร้อมที่จะนำธุรกิจ Express ไปสู่ระดับต่อไป เราขอให้เขาโชคดีในการเกษียณอายุหลังจากอาชีพที่โดดเด่นและยาวนานของเขา”

Richard W. Smith จะเป็นประธานและซีอีโอที่ได้รับเลือกให้ FedEx Express ในวันที่ 1 เมษายน 2565 และจะเข้ารับหน้าที่ทั้งหมดในวันที่ 1 กันยายน 2565.  Colleran จะยังคงอยู่ที่ FedEx Express ในฐานะที่ปรึกษาผู้บริหารระดับสูงจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมเพื่อช่วย รับรองการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น

Smith เข้าร่วมกับ FedEx ในปี 2548 ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของ FedEx Logistics และดำรงตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่งในด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต การดูแลสุขภาพ และโซลูชันลูกค้า รวมถึงดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายบริการการค้าโลกและกรรมการผู้จัดการด้านชีววิทยาศาสตร์ และบริการพิเศษ

“Richard มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธุรกิจของเรา และมีบทบาทสำคัญในหลายโครงการริเริ่มที่สำคัญที่สุดของเรา รวมถึงกลยุทธ์ยานยนต์ไฟฟ้าและความพยายามในการจำหน่ายวัคซีนช่วยชีวิตเพื่อต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด-19” Subramaniam กล่าว “ด้วยทีมผู้บริหารที่โดดเด่นที่เรามีไว้เพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ของเรา รวมถึงผู้นำอย่าง Richard ผมมั่นใจในอนาคตของ FedEx”

เกี่ยวกับ FedEx Corp.

FedEx Corp. (NYSE: FDX) ให้บริการด้านการขนส่ง อีคอมเมิร์ซ และบริการทางธุรกิจทั่วโลกแก่ลูกค้าและธุรกิจต่างๆ ด้วยรายรับต่อปีที่ 90 พันล้านดอลลาร์ บริษัทนำเสนอโซลูชั่นธุรกิจแบบบูรณาการผ่านบริษัทที่ดำเนินการแข่งขันร่วมกัน ดำเนินงานร่วมกัน และสร้างสรรค์นวัตกรรมทางดิจิทัลภายใต้แบรนด์เฟดเอ็กซ์ที่น่านับถือ FedEx ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนายจ้างที่ได้รับความชื่นชมและไว้วางใจมากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกในทีมกว่า 600,000 คน โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัย มาตรฐานทางจริยธรรมและความเป็นมืออาชีพสูงสุด และความต้องการของลูกค้าและชุมชนของพวกเขา  FedEx มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงผู้คนและความเป็นไปได้ทั่วโลกด้วยความรับผิดชอบและทรัพยากร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นศูนย์รวมคาร์บอนภายในปี 2583 หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ about.fedex.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/22020310005966/en/

ติดต่อ:

Jenny Robertson
FedEx
901-434-8100
jenny.robertson@fedex.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


A Thing of Beauty: Mary Kay Inc. คว้า 5 รางวัลนายจ้างดีเด่นในช่วงต้นปี 2565 ทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรปและมาเลเซีย

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2565

คนทำงานด้านบริการทั่วโลกต่างกล่าวขาน: Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและการพัฒนาผู้ประกอบการอันโด่งดัง ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ทำงานอันดับต้น ๆ อีกครั้ง ในช่วงเวลา 60 วันแรกของปี 2565 แบรนด์ได้รับรางวัลนายจ้างอันทรงเกียรติถึงห้ารางวัลผ่านทาง Forbes และ Kincentric  ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย การได้รับเกียรตินี้มาจากความสำเร็จในการจ้างงานอื่น ๆ อีกหลายรางวัลที่ได้รับตลอดสามปีที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

สุดยอดนายจ้างแห่งปี 2565 ของนิตยสาร Forbes (Forbes Best Employers of 2022) ได้รับการระบุในแบบสำรวจอิสระซึ่งจัดทำโดยพนักงานชาวอเมริกันประมาณ 60,000 รายที่ทำงานให้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 รายในสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้วนายจ้าง 1,000 รายได้รับการยอมรับจาก 25 ภาคอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Mary Kay ได้รับรายชื่อให้เป็นนายจ้างที่เป็นที่ปรารถนาของนิตยสาร Forbes—เมื่อเร็ว ๆ นี้ Forbes ยังระบุให้ Mary Kay เป็นสุดยอดนายจ้างขนาดกลาง สุดยอดนายจ้างสำหรับความหลากหลาย และสุดยอดนายจ้างสำหรับผู้หญิง

รางวัลนายจ้าง Kincentric ของ Mary Kay ในยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย เป็นผลจากการประเมินที่แข็งแกร่งซึ่งวัดผลและระบุองค์กรที่เปลี่ยนแนวปฏิบัติด้านบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จากข้อมูลของ Kincentric พนักงานของ Mary Kay ที่เข้าร่วมเกือบ 8 ใน 10 รายตอบว่า “ใช่” เมื่อถูกถามว่า: “Mary Kay เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำงานให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน” และพนักงานร้อยละ 87 ตอบรับคำกล่าวยืนยันว่า: “ภารกิจขององค์กรนี้ให้ทิศทางที่มีความหมายมาสู่ฉัน” ทั้งนี้เป็น 19 คะแนนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกของ Kincentric

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าวว่า “Mary Kay รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้งในด้านแนวปฏิบัติของพนักงานและคะแนนการมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม” “บุคลากรของเราเป็นรากฐานของงานอันน่าทึ่งที่เราทำทั่วโลกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังคงเป็นแบรนด์ความงามชั้นนำเกือบ 60 ปีหลังจากการก่อตั้งของเรา เรามีปรัชญาการจ้างงานที่เรียบง่ายที่ Mary Kay: หากพนักงานของเรามาทำงานในทุก ๆ วันโดยเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นนั้นแสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว”

ทั้งนี้ปรัชญาดังกล่าวได้แจ้งการตัดสินใจของพนักงานภายในทุกครั้งตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พนักงานของ Mary Kay ร้อยละ 41 ทั่วโลกจึงร่วมงานกับบริษัทมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี โดยร้อยละ 75 ของบทบาทใหม่ได้รับการส่งเสริมจากภายใน และแบรนด์นำเสนอหลายโปรแกรมที่มุ่งพัฒนาทางวิชาชีพ การคิดเชิงนวัตกรรม และสวัสดิภาพของพนักงาน Mary Kay นำเสนอรายการที่เอื้อประโยชน์ให้แก่พนักงานในด้านการรักษาพยาบาล ทันตกรรม และการมองเห็น การประกันชีวิต บัญชีออมทรัพย์สำหรับการรักษาพยาบาลและการดูแลที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการสูญเสียอวัยวะ และแผนการออมเพื่อการเกษียณที่มีทั้งแบบ 401k และโปรแกรมแบ่งปันผลกำไรที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมุ่งมั่นในการแบ่งปันความสำเร็จนี้เป็นรากฐานที่สำคัญของความมุ่งมั่นของ Mary Kay ต่อผู้ที่ทำให้เป็นไปได้

“บางทีฉันภูมิใจกับความพยายามด้านความหลากหลายของเราอย่างมากที่สุด” Sellers กล่าวเสริม “ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก ผู้นำของเรามากกว่า 1,000 ราย ได้เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องอคติโดยไม่รู้ตัวและกำลังมีการดำเนินการอย่างอื่นที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและผู้ขายข้อมูลความหลากหลายเพื่อประเมินห่วงโซ่อุปทานของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นตัวแทนของผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย และธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยทหารผ่านศึกอย่างเหมาะสม”

พนักงานทั่วโลกของ Mary Kay ร้อยละ 61 เป็นผู้หญิง และร้อยละ 64 ของผู้นำตลาดเป็นผู้หญิง ณ เดือนมีนาคม 2564 

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 57 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ถ้อยแถลงเนื่องในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ประจำปี 2565 โดย Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมแห่ง Mary Kay Inc.

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าทที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. เนื่องในโอกาสวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

Dr. Lucy Gildea, Chief Innovation Officer, Product and Science of Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ แห่ง Mary Kay Inc. (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ในการศึกษาที่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างปี 2509 และ 2520 มีการขอให้เด็กเกือบ 5,000 คนวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมาคนละ 1 ภาพ และในบรรดาภาพวาดทั้งหมด มีเพียง 0.6% ที่เป็นภาพวาดของนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิง ในการศึกษาที่คล้ายกันเมื่อไม่นานมานี้พบว่าเรื่องนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดย 28% ของเด็กยุคใหม่วาดภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงเมื่อได้รับโจทย์แบบเดียวกัน

นับว่าเป็นความก้าวหน้า แต่เรายังมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

Mary Kay Inc. จินตนาการถึงอนาคตที่นักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นจะต้องมีตัวตนไม่เพียงบนหน้ากระดาษแต่ในโลกแห่งความเป็น นั่นคือเหตุผลที่ในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ปีนี้ เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล สถาบันการศึกษา และเพื่อน ๆ ของเราในภาคเอกชนมาลงทุน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) เมื่อมีเด็กผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM สตรีที่ก้าวสู่อาชีพในสาขานี้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งนี้ยังช่วยให้เกิดการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้หญิง ลดช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกำจัดอคติในวงการวิทยาศาสตร์ด้วย

และนั่นคือเหตุผลที่ Mary Kay ให้การสนับสนุนนักเรียนในสาขา STEM ที่มีเพียงส่วนน้อยผ่านการลงทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น Academy of Marketing Science, Society of Investigative Dermatology และ Madam C.J. Walker Scholarship

นั่นคือเหตุผลที่ในแต่ละปี องค์กร Mary Kay Ash FoundationSM ได้สนับสนุนการพัฒนาของนักวิทยาศาสตร์ผ่านการมอบทุนวิจัยซึ่งช่วยให้ค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

ในแต่ละวัน ผ่านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ มีผู้หญิงจากทั่วโลกที่กำลังหาทางออกให้กับปัญหาอันซับซ้อนของพวกเรา และเรายังทำได้มากกว่านี้เพื่อแสดงออกว่าพวกเรามองเห็นสิ่งที่พวกเธอทำ เพื่อให้พวกเธอได้ส่งเสียงและมีตัวตนมากขึ้นในสาขา STEM

ในอนาคต เมื่อเราขอให้เด็ก ๆ ผู้หญิงวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา 1 ภาพ ดิฉันหวังว่าจะได้เห็นรูปของพวกเธอเองในภาพวาดนั้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ

นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ร่วมมือกับ XED เพื่อเสนอโปรแกรม LIVE แบบโต้ตอบสำหรับผู้นำระดับสูง

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–9 กุมภาพันธ์ 2565

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการวิจัยระดับโลกและการสอนที่โดดเด่น โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2543 พันธกิจของ SMU คือการสร้างงานวิจัยระดับแนวหน้าที่มีผลกระทบระดับโลกและจัดหาผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์และการเป็นผู้ประกอบการที่หลากหลายสำหรับเศรษฐกิจแบบที่ให้เกิดภูมิปัญญา

Singapore Management University Executive Development (SMU ExD) ที่ฝังอยู่ในแรงผลักดันโดยรวมในการคาดการณ์และเชื่อมโยงความสามารถสำหรับอนาคต ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ XED เพื่อเสนอโปรแกรมผู้บริหารสำหรับผู้นำระดับสูงทั่วทั้งองค์กร

“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตคือการสร้างมันขึ้นมา บรรดาผู้นำทั่วโลกกำลังเผชิญกับโลกที่คาดเดาไม่ได้และเศรษฐกิจที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูป เราจำเป็นต้องมีการไม่เรียนรู้และเรียนรู้ใหม่เพื่อนำทางกฎใหม่ของเกม การร่วมมือกับ XED ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ เนื่องจากขณะนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญของคณาจารย์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทั่วภูมิภาค” Eddie Tritton (ผู้อำนวยการบริหารของ ExD แห่งมหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์) กล่าว

โปรแกรมที่จะเกิดขึ้นของเรา: Executive Program in Digital Leadership (EPDL) ได้รับการออกแบบให้เป็นเส้นทางการเรียนรู้ออนไลน์ 5 เดือนที่มีรูปแบบเฉพาะและมุ่งเน้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับเสาหลักของการเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลและสามารถใช้กับการเรียนรู้ได้สู่สภาพแวดล้อมในการทำงาน เรียนรู้เพิ่มเติม

เซสชั่นจะ LIVE ในกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีผู้เข้าร่วม 40 ถึง 50 คนสำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งผลกระทบ ผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์การทำงานโดยเฉลี่ย 15 ปี และอาศัยอยู่ในฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอื่น ๆ

ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำบางแห่งและสถาบัน Ivy League ได้สร้างกระแสและประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก John Kallelil (ผู้ก่อตั้ง XED) ให้ความเห็นว่า “โปรไฟล์ผู้เข้าร่วมของเราแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานที่ไม่ซ้ำใครของผู้นำธุรกิจอาวุโส ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพไปจนถึงมืออาชีพรุ่นเก๋าจาก C-suite ผู้เข้าร่วมของเราแสดงความสนใจอย่างมากในการเพิ่มทักษะและเตรียมตัวสำหรับยุคดิจิทัล โมเดลที่มีการพัฒนาและผกผันอย่างต่อเนื่องต้องการการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร”

XED ได้ฝึกอบรมผู้นำอาวุโสมากกว่า 10,000 รายจาก PepsiCo, IBM, Adobe, John Deere, Bank of America, WNS, Meinhardt, Abu Dhabi Government และอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ในอนาคต XED มีแผนที่จะแนะนำโปรแกรมใหม่ที่ช่วยให้ผู้นำระดับสูงสามารถเข้าถึงมหาวิทยาลัยทั่วโลก การศึกษาที่มีคุณภาพ และการเรียนรู้ที่กำหนดเองได้กว้างขึ้น

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005679/en/

ติดต่อ:

John Kallelil | john@xedinstitute.org
https://xedinstitute.org/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Women’s Entrepreneurship Accelerator ต้อนรับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศในฐานะพันธมิตรใหม่ของสหประชาชาติในการเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างเพศ

Logo

กิจกรรมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสตรีจากกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่มีระดับการพัฒนาน้อยที่สุด

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–8 กุมภาพันธ์ 2565

รายงานการค้นพบที่สำคัญของ McKinsey Global Institute พบว่า GDP โลกจะเพิ่มขึ้น 12 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 หากผู้หญิงที่ด้อยโอกาสทั่วโลกได้รับสิทธิ์เข้าถึงการศึกษาทักษะด้านดิจิทัลที่สำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220208005293/en/

Doreen Bogdan-Martin, Director of the Telecommunication Development Bureau at International Telecommunication Union (ITU) (Photo: Mary Kay Inc.)

Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมแห่งสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ช่องว่างที่น่าตกใจนี้ได้แจ้งในความร่วมมือล่าสุดของ Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) กับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสหประชาชาติ ทั้งนี้ได้ร่วมกันกับ WEA และ ITU ในการวางแผนที่จะเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างเพศ

นอกจากการสนับสนุนของ Mary Kay แล้ว ITU และ WEA จะช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของตนเองในเร็ว ๆ นี้ ผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมทักษะคุณภาพสูง นอกจากโมดูลออนไลน์แล้วและในการสนับสนุนของ WEA,  ITU และ Mary Kay จะมีส่วนช่วยในการสร้างระบบนิเวศการเสริมสร้างพลังของผู้หญิงผ่านการเปิดตัวความท้าทายด้านนวัตกรรมประจำปี

“การรู้หนังสือดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องดีที่จะมีอีกต่อไป—แต่มันคือสิ่งจำเป็น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดจะต้องได้รับการเข้าถึงการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงและคุณภาพสูง เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการจากตลาดที่พัฒนาแล้วได้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยการทำงานร่วมกับ WEA และ ITU เราจะทำให้มันเกิดขึ้น”

ช่องว่างทางดิจิทัลยังคงมีอยู่แพร่หลายในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา โดยที่ผู้หญิงเพียงร้อยละ 19 เท่านั้นที่ใช้และได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต1 ความไม่เท่าเทียมกันเหล่านี้ได้รับการเปิดเผยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผู้ประกอบการจำนวนมาก—ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด—ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยการเคลื่อนย้ายธุรกิจของตนเข้าสู่โลกออนไลน์ พูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้ประกอบการสตรีที่มีศักยภาพซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) ไม่สามารถทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ เว้นแต่จะมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น

“ITU รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก” Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU กล่าว “การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างทักษะดิจิทัลและสภาพแวดล้อมที่เปิดใช้งาน ICT รอบ ๆ ผู้ประกอบการเหล่านี้ เราสามารถช่วยให้ผู้หญิงเข้ามาแทนที่ในฐานะผู้นำที่มีทักษะและเท่าเทียมกันในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ”

โครงการริเริ่ม “Bridging the Digital Gender Divide” ซึ่งจะได้รับการแปลเป็นหลายภาษาจะประกอบด้วย:

  • 17 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลทั่วไปสำหรับเยาวชนหญิงและผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด
  • 8 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับทักษะดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการสตรีในภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
  • 4 4 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับทักษะการจัดการสำหรับผู้ประกอบการสตรีในด้านเทคโนโลยี
  • 2-4 โมดูลออนไลน์สำหรับหลักสูตรผู้ประกอบการธุรกิจสีเขียวและเศรษฐกิจ
  • 2-4 โมดูลออนไลน์สำหรับหลักสูตรการดูแลผู้ประกอบการและเศรษฐกิจ

โครงการนี้ไม่เคยมีมาก่อนในการเข้าถึงทั่วโลกที่มีศักยภาพ การมุ่งเน้นที่การฝึกอบรม – ในการมอบทักษะดิจิทัลเพื่อการเปลี่ยนแปลงระหว่างเพศสำหรับผู้ประกอบการสตรี – จะมีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นใจในสังคมและเศรษฐกิจที่ครอบคลุมผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งนี้จะช่วยให้ผู้หญิงในการพัฒนาและ LDCs เข้าถึงหลักสูตรฟรีที่มีคุณภาพสูงที่จะพาพวกเขาผ่านเส้นทางการเรียนรู้เชิงกลยุทธ์จากการระบุตนเองในฐานะผู้ประกอบการ เพื่อรับทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในเศรษฐกิจดิจิทัล

โครงการนี้จะมีส่วนช่วยใน Women’s Entrepreneurship Accelerator ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการเติบโตและก้าวหน้าอย่างครอบคลุมและยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยโดยตรงในการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 และเป้าหมายหลายประการที่เกี่ยวข้องกับ SDG 1 (ความยากจน) SDG 4 (การศึกษา) SDG 5 (เพศ) และ SDG 17 (การเป็นพันธมิตร)

เกี่ยวกับ International Telecommunication Union

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นหน่วยงานเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสหประชาชาติ (ICTs) โดยขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน ICTs ร่วมกับประเทศสมาชิก 193 แห่ง และเป็นสมาชิกของบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคกว่า 900 แห่ง ITU ก่อตั้งขึ้นกว่า 150 ปีที่แล้วในปี 2408 ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างรัฐบาลที่รับผิดชอบในการประสานงานการใช้คลื่นความถี่วิทยุร่วมกันทั่วโลก ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการกำหนดวงโคจรของดาวเทียม ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารในประเทศที่กำลังพัฒนา และกำหนดมาตรฐานทั่วโลกที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างกันอย่างราบรื่นของระบบสื่อสารที่หลากหลาย ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบรนด์ไปจนถึงเทคโนโลยีไร้สายล้ำสมัย การนำทางการบินและการเดินเรือ ดาราศาสตร์วิทยุ การเฝ้าติดตามโลกทางมหาสมุทรและดาวเทียม ตลอดจนการรวมกันของโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีการแพร่ภาพ ITU มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.itu.int

เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่จัดโดยหน่วยงานของสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay มุ่งมั่นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี

สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate ติดตามเราบน: Twitter (We_Accelerator) และ Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator) และ LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ marykayglobal.com

1 https://www.itu.int/itu-d/reports/statistics/2021/11/15/the-gender-digital-divide/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005293/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



สำนักงานกฎหมาย Kim & Chang ยื่นขอคำสั่งห้ามบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Cyworld ในฐานะตัวแทนของ Betalabs

Logo

โซล เกาหลีใต้–(บิสิเนสไวร์)–08 ก.พ. 2565

โซล, เกาหลีใต้ — Betalabs (CEO Kim Ho-gwang) ผู้ดำเนินการ Cy Club ได้ยื่นขอ 'คำสั่งห้ามชั่วคราว ได้แก่ การห้ามขัดขวางการทำธุรกิจ เช่น การออกสกุลเงินดิจิทัล' กับสามบริษัท ซึ่งรวมถึง Cyworld Z ในวันที่ 4  ทางอุตสาหกรรมและนักลงทุนกำลังสังเกตภูมิหลังของการมีส่วนร่วมของบริษัทกฎหมาย Kim & Chang ในฐานะตัวแทนทางกฎหมายของ Betalabs

การยื่นขอคำสั่งห้ามโดย Betalabs ต่อศาลกลางกรุงโซลเป็นคำขอเพื่อรับรองสถานะการผูกขาดของ Betalabs ในการดำเนินงานโดยรวมของ Cyworld ซึ่งรวมถึงการออกเหรียญ การรีแบรนด์ การใช้โลโก้ การเชื่อมโยงแพลตฟอร์ม และการใช้ทรัพยากรเนื้อหา  นอกจากนี้ยังมีคำขอให้ระงับโครงการบล็อคเชนที่ Cyworld Z กำลังส่งเสริมกับบริษัทอื่นๆ เช่น Conun Korea เนื่องจากไม่มีสิทธิทางกฎหมาย

เมื่อเร็วๆ นี้ Cyworld Z ไล่ CEO Hogwang Kim ของจากตำแหน่งและแจ้ง Betalabs เพื่อยุติสัญญา ทั้งนี้ Betalabs ได้ตอบโต้ว่า Cyworld Z กำลังละเมิดกฎหมายโดยนำเสนอบันทึกความเข้าใจเมื่อวันที่ 16 มีนาคมของปีที่แล้วและข้อตกลงในการออกเหรียญในวันที่ 14 เมษายน  Betalabs อ้างว่าสถานะพิเศษของ Betalabs ระบุไว้ในเอกสารทั้งสองฉบับและการแจ้งการบอกเลิกสัญญาไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย  หากศาลยอมรับคำเสนอของ Betalabs อุตสาหกรรมจะเชื่อว่า Cyworld Z อาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ

เมื่อ 'Kim & Chang' ขึ้นศาลในนามของ Betalabs หมู่คนในวงการได้ลือกันว่า 'Kim & Chang' น่าจะรับคดีนี้ขึ้นเพราะมีพื้นฐานทางกฎหมายและคาดว่าจะได้รับชัยชนะ  ฝ่าย 'Kim & Chang' กล่าวว่า “เราต้องรอคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับผลการขอคำสั่งห้าม” แต่ยังกล่าวอีกว่า “หลังจากใช้เวลาพอสมควรในการตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว เราจึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Kim & Chang ยอมรับข้ออ้างทางกฎหมายของ Betalabs

ด้วยผู้ใช้และนักลงทุนจำนวนมากที่รอคอยให้ Cyworld เปิด ความสนใจของอุตสาหกรรมจึงมุ่งเน้นไปที่ว่าคำตัดสินของศาลจะเปิดทางไปสู่การฟื้นฟูธุรกิจหรือไม่

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005996/en/

ติดต่อ:

Betalabs
Kim Ho-gwang CEO
+82-70-7772-1107
ceo@Betalabs.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. มุ่งมั่นที่จะปกป้องชายฝั่งของเราในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกปี 2565

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–3 กุมภาพันธ์ 2565

มหาสมุทรให้ออกซิเจน 80% ที่เราหายใจเข้าไป และเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำหรับผู้คนกว่าสามพันล้านคนทั่วโลก ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetland Day) Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านความยั่งยืนขององค์กรและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้ให้คำมั่นครั้งใหม่กับ The Nature Conservancy เพื่อรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำอันล้ำค่าที่เรียงราย และปกป้องชายฝั่งของเรา

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

The Nature Conservancy logo

โลโก้ของ The Nature Conservancy

การเป็นพันธมิตรของ Mary Kay กับ The Nature Conservancy (TNC) เริ่มขึ้นในปี 2533 ในทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้รวมพลังเพื่อมีส่วนร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืนในนิวซีแลนด์ จัดหาน้ำจืดให้กับผู้คนในเม็กซิโก ทำความสะอาดมหาสมุทรของเรา สงวนพันธุ์และส่งเสริมสตรีในหมู่เกาะโซโลมอน โครงการล่าสุดของพวกเขากับ TNC ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2562 ที่มุ่งเน้นในการอนุรักษ์และปรับปรุงพื้นที่ชุ่มน้ำ

“พื้นที่ชุ่มน้ำริมชายฝั่งทำให้เกิดการบรรลุความสำเร็จที่สำคัญสามประการของสภาพอากาศอันได้แก่: การดักจับคาร์บอน การปรับตัวให้เข้ากับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นต่อพายุและน้ำท่วม โดยทั้งหมดนี้และในขณะเดียวกันก็สนับสนุนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “น่าเสียดายที่รัฐเท็กซัสซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Mary Kay ได้สูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งมากกว่าครึ่งในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาในการแปลงสภาพเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่รกร้างว่างเปล่า และความเจริญ ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก Mary Kay มุ่งมั่นที่จะปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราอีกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไป”

“ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากมีนกหลายร้อยสายพันธุ์อพยพบินข้ามอ่าวจากละตินและอเมริกาใต้ ดังนั้นพื้นที่ชุ่มน้ำของชายฝั่งจึงเป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับพวกมันเพื่อพักผ่อนและเติมเชื้อเพลิงก่อนเดินทางต่อไป” Lauren Williams ผู้อำนวยการ Texas Resilient Coast Program ที่ The Nature Conservancy กล่าว “ในขณะที่จำนวนประชากรของรัฐเพิ่มขึ้น คาบสมุทรกัลฟ์ได้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ชั้นเยี่ยมสำหรับผู้คนมากเท่า ๆ กับสำหรับสัตว์ป่า ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Mary Kay เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตตามแนวชายฝั่งที่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่าที่อาศัยพึ่งพา”

Mary Kay และ TNC ร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราในปีหน้าดังต่อไปนี้:

  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญสำหรับการป้องกันและฟื้นฟูตามแนวชายฝั่งมากกว่า 27,000 กิโลเมตรตามแนวอ่าวเม็กซิโก
  • จัดทำแผนปฏิบัติการอนุรักษ์และฟื้นฟูชายฝั่งสำหรับระบบนิเวศบลูคาร์บอนสามแห่งของเท็กซัส ได้แก่ ป่าชายเลน บึงเกลือ และหญ้าทะเล รวมถึงพื้นที่ทำแผนที่ที่เราคาดว่าพื้นที่ชุ่มน้ำจะโยกย้ายในอนาคตอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ประเมินความเป็นไปได้ของตลาดบลูคาร์บอนเพื่อรองรับความต้องการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำในระยะยาวในเท็กซัส
  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลแบบไดนามิกที่สามารถกำหนดเป็น “ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิต” เพื่อแบ่งปันเทคนิคการอนุรักษ์ สำรวจการชดเชยบลูคาร์บอน และเน้นความสำคัญของระบบนิเวศที่สำคัญเหล่านี้
  • สร้างแรงผลักดัน ความร่วมมือ และความสามารถในการฟื้นฟูชายฝั่งในเท็กซัสเพื่อดำเนินงานนี้ต่อไปในอนาคต

“กุญแจสำคัญคือการทำงานควบคู่กันไม่ใช่เพียงแค่ The Nature Conservancy เท่านั้น แต่กับธรรมชาติด้วย” Gibbins กล่าวเสริม “เราต้องปรับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบทั้งของมนุษย์และระบบธรรมชาติ Mary Kay มีความเชื่อพื้นฐานในการทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และไม่มีที่ใดที่จะดีไปกว่าการเริ่มต้นที่บ้าน”

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน สามารถเยี่ยมชมได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ที่ชื่อว่า Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นมากกว่า 57 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย Mary Kay ยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky เพื่อเข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

Logo

มาเฮ เซเชลส์–(BUSINESS WIRE)–14 ม.ค. 2565

แพลตฟอร์มการลงทุน Crypto BitMEX ยินดีที่จะต้อนรับ Raphael Polansky ให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) คนใหม่ โดยในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Raphael รับผิดชอบการจัดการการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและการขยายตลาด และการเปลี่ยน BitMEX ให้กลายเป็นระบบนิเวศการลงทุนแบบคริปโตเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ Raphael รายงานตรงต่อ Alexander Höptner ผู้เป็น CEO ของ BitMEX

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

BitMEX Welcomes Raphael Polansky as Chief Operating Officer (Photo: Business Wire)

BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ภาพ: Business Wire)

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ BitMEX คุณ Raphael เคยเป็นกรรมการผู้จัดการของ Blocknox มาเกือบสองปีแล้ว โดยเขาได้จัดตั้งและดำเนินการแพลตฟอร์มการดูแลคริปโต และเป็นผู้นำกลยุทธ์ทางธุรกิจ การพัฒนาไอที และการดำเนินงานของบริษัท Raphael เคยทำงานในตำแหน่งหัวหน้าที่ Boerse Stuttgart และ Deutsche Boerse มาเกือบหนึ่งทศววรษครึ่งแล้ว

Raphael กล่าวว่า: “ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสที่จะผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ BitMEX เรามีท่อส่งโครงการที่แข็งแกร่งซึ่งวางแผนไว้สำหรับปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป และทีมงานบุคลากรที่แข็งแกร่งของที่มีความสามารถและความสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ดีขึ้นทั่วโลก ผมตื่นเต้นที่จะได้เป็นผู้นำในการดำเนินงานและการขยายตัวของคริปโตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสำหรับเราและอุตสาหกรรมโดยรวม”

Alex กล่าวว่า: “ผมตื่นเต้นที่ได้  Raphael เข้าร่วมทีมผู้นำของเราในฐานะซีโอโอ ความมั่งคั่งของคริปโต, ตลาดการเงิน และประสบการณ์การจัดการของเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถมอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน การประสานงาน และการทำงานร่วมกันที่ดียิ่งขึ้นในช่วงระยะต่อไปของการเติบโตของเรา”

BitMEX กำลังหาผู้ร่วมงาน คลิกที่นี่ เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEXเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ของเรา ทีมที่กำลังเติบโต และหนทางข้างหน้า โปรดติดตามเราที่ Twitter, Telegram, และที่ บล็อก BitMEX Blog. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

ติดต่อ:

สื่อ

Jessica Lindeman

press@bitmex.com

+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย