บทสรุปเชิงสนับสนุนตามหลักฐานเรียกร้องให้ภาคเอกชนนำกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายมาใช้ และรวมธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ เป็นผู้นำ และตอบสนองบทบาทหญิงชายเข้าในห่วงโซ่คุณค่าเพื่อเป็นสื่อกลางในการขับเคลื่อนเป้าหมายทางเศรษฐกิจของธุรกิจและคุณค่าทางสังคมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–5 พฤษภาคม 2565
Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ประกาศในวันนี้ว่าการตีพิมพ์บทสรุปเชิงสนับสนุน หรือ Advocacy Brief ในหัวข้อเรื่อง “มูลค่าเชิงกลยุทธ์ของการจัดซื้อจัดจ้าง: เหตุใดการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจ หรือ Procurement’s strategic value: Why gender-responsive procurement makes business sense” ซึ่งแสดงหลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชนในการตระหนักรวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน
เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220505005120/en/
มูลค่าเชิงกลยุทธ์ของการจัดซื้อจัดจ้าง: เหตุใดการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจที่ได้รับการตีพิมพ์โดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women (เครดิตภาพ: UN Women/David Snyder)
Advocacy Brief พัฒนาโดย UN Women และได้รับทุนจาก Mary Kay Inc. เพื่อสนับสนุนโครงการ WEA โดยเน้นการย้อนกลับของความคืบหน้าในการบรรลุความเสมอภาคระหว่างหญิงชายอันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงระดับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและผลกระทบจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมีผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างไม่สมส่วนเนื่องจากตำแหน่งที่ไม่เท่าเทียมกันในสังคม
สิ่งพิมพ์ดังกล่าวสะท้อนถึงการศึกษาก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อวิกฤตการณ์หากผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน1 อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยังคงมีอยู่ ผู้ประกอบการสตรียังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ซึ่งรวมถึงการขาดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ เครือข่ายผู้ประกอบการน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชาย และนโยบายที่กีดกันการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานสตรี2 ในทั่วโลกขณะที่หนึ่งในสามของธุรกิจเป็นเจ้าของโดยผู้หญิง3 ผู้หญิงชนะเพียงประมาณร้อยละ 1 เท่านั้นของการใช้จ่ายทั่วโลกในองค์กรขนาดใหญ่4 กฎหมายเรื่องเพศที่ไม่เท่าเทียมกันยังเป็นอุปสรรคต่อโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิงอีกด้วย ตัวอย่างเช่นผู้หญิงวัยทำงานเกือบ 2.4 พันล้านคนยังคงไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับผู้ชาย5 แม้จะมีสถิติเหล่านี้ผู้ประกอบการสตรียังคงเป็นทางออกสำหรับความท้าทายมากมายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการเพิ่มขึ้นในการประกอบการของผู้หญิงและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาที่ยั่งยืน และสังคมที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น6
ข้อมูลที่นำเสนอใน Advocacy Brief สรุปว่าการนำนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ตอบสนองบทบาทหญิงชาย (GRP) มาใช้ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นกลไกสำคัญในการลดผลกระทบของอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่ผู้หญิงต้องเผชิญได้อย่างไร และในขณะเดียวกันก็ช่วยปรับปรุงธุรกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจ Advocacy Brief ได้เตือนให้เห็นว่าการไม่นำ GRP มาใช้เป็นโอกาสที่สูญเปล่า หลักฐานนั้นมีความชัดเจน การลดความไม่เสมอภาคระหว่างหญิงชายนั้นดีสำหรับธุรกิจและเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ชาญฉลาด
“การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรขององค์กร การลดความเสี่ยง นวัตกรรม และความยั่งยืน เมื่อผู้ประกอบการสตรีถูกกีดกันจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง บริษัทต่าง ๆ ก็เสี่ยงที่จะทิ้งพรสวรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญไว้เป็นจำนวนมาก GRP เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับแรงกระตุ้นที่ทรงพลังสำหรับการเปลี่ยนแปลง” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay, Inc. และผู้ริเริ่มโครงการ WEA กล่าว
เพื่อเป็นการแจ้งถึง Advocacy Brief โดย UN Women ได้มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกว่า 350 รายในปี 2564 โดยในจำนวนนี้เป็นตัวแทนของบริษัทภาคเอกชนกว่า 150 แห่ง และรวบรวมกรณีศึกษา 7 กรณีเกี่ยวกับเส้นทางการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างเชิงหลักฐานว่าเหตุใดธุรกิจจึงควรนำการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทระหว่างหญิงชายมาใช้ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในรูปแบบของการสัมภาษณ์ การสำรวจ และชุมชนแห่งการปฏิบัติ ซึ่งได้ประโยชน์จากการเผยแพร่ในเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสมาชิกภาพและเครือข่ายของ ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Global Compact's (UNGC)
บริษัทต่าง ๆ รายงานว่า GRP นำไปสู่:
- เพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้าง
- ความพร้อมใช้งานและความยืดหยุ่นของซัพพลายเออร์ที่มากขึ้น
- ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น
- นวัตกรรมและการปรับตัวที่มากขึ้น
- การส่งมอบบริการที่ดีขึ้นเนื่องจากความคล่องตัวที่มากขึ้นและ
- ตลาดมีความเข้มแข็งผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นและการเติบโตอย่างครอบคลุม
ตามหมายเหตุของ Advocacy Brief “การพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการรักษาเสถียรภาพในเศรษฐกิจที่ผันผวนและได้รับประโยชน์จากการเติบโตในอนาคต ความเหลื่อมล้ำในความไม่เสมอภาคระหว่างหญิงชายที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกบริษัท รวมถึงผู้ประกอบการสตรีที่มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น ตลอดจนธุรกิจที่พึ่งพาพวกเขา”
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นที่เพิ่มขึ้นในแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทต่าง ๆ Advocacy Brief ให้หมายเหตุว่า “การนำ GRP ไปใช้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปฏิบัติและกำหนดค่านิยมของ ESG และมีส่วนสำคัญต่อการเสริมพลังอำนาจของผู้หญิงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การนำหลักการ GRP มาใช้นั้น ธุรกิจต่าง ๆ สามารถก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายได้หลายด้าน รวมถึงความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย (SDG 5) และความเหลื่อมล้ำที่ลดลง (SDG 10) และอีกทั้งการบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ (SDG 12) การขจัดความยากจน (SDG 1) และงานที่มีคุณค่า และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8)”
“การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้โดยผู้หญิงคนเดียว หรือโดยธุรกิจเพียงอย่างเดียว หรือโดยรัฐบาลเพียงอย่างเดียว วิธีเดียวที่เราจะสามารถก้าวหน้าได้อย่างแท้จริงคือถ้าทั้งหมด – รวมถึงธุรกิจ – ได้ทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ร่วมกัน” Anita Bhatia ผู้ช่วยเลขาธิการและรองกรรมการบริหารของ UN Women กล่าว
จากการเปิดเผยรายงานนี้ โดย WEA เรียกร้องให้ภาคเอกชนนำกลยุทธ์ GRP มาใช้และบูรณาการสตรีเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกเพื่อเป็นพาหนะในการพัฒนา SDGs สิ่งนี้สมเหตุสมผลทางธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมการเสริมพลังทางเศรษฐกิจของผู้หญิง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
Advocacy Brief สามารถดูได้ที่นี่
เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator
Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่ตั้งขึ้นในช่วง UNGA 74 โดยมีหน่วยงานขององค์กรสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC) องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay Inc. จะเพิ่มพลังให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573
เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate ติดตามเราได้ที่: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)
ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220505005120/en/
ติดต่อ:
Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย