Category Archives: General News

VOOPOO สร้างกราฟฟิตี้บุหรี่ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยร่วมกับศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง

Logo

ลอนดอน–(บิสิเนส ไวร์)–22 มิถุนายน 2022

หลังจากออกเพลง Spark Your Life, VOOPOO ซึ่งเป็นแบรนด์บุหรี่ไฟฟ้าชั้น นำได้ก้าวข้ามขีดจำกัดอีกครั้งด้วยการเชิญศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังระดับโลก Woskerski มาสร้างสรรค์งานฉลองภาพสตรีทอาร์ตในลอนดอนด้วยภาพกราฟฟิตี้สุดประทับใจของเขา

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220509006281/en/

VOOPOO Graffiti in UK (Photo: Business Wire)

กราฟฟิตี้ VOOPOO ในสหราชอาณาจักร (ภาพ: Business Wire)

การสร้างสัญลักษณ์อินฟินิตี้ขนาดยักษ์ ∞ ให้คนนับพันได้เห็น

ในฐานะแบรนด์บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก VOOPOO ไม่เคยหยุดการแสวงหานวัตกรรมที่สอดคล้องกับความหมายแฝงของสัญลักษณ์แบรนด์ ∞  โดยสร้างความร่วมมือใหม่อย่างต่อเนื่องและเป็นผู้นำเทรนด์อุตสาหกรรม  ในครั้งนี้แบรนด์ VOOPOO ได้รับการนำเสนออย่างมีเอกลักษณ์ในสไตล์โมเดิร์นนิสม์ผ่านความร่วมมือกับศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง Woskerski ซึ่งสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างงานศิลปะและภาพลักษณ์ของแบรนด์ และนำประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายมาสู่ผู้บริโภค

ตามสัญลักษณ์แบรนด์ VOOPOO ∞ ศิลปิน Woskerski ใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่น่าทึ่งของเขาเพื่อสร้างกราฟฟิตีขนาดใหญ่โดยมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ VOOPOO Argus GT 2 ซึ่งรวมไอระเหยและสัญลักษณ์แบรนด์ไว้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันก็รวมเข้ากับอุโมงค์ Leake Street ของลอนดอนอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เกิดพลังงานและเสน่ห์ที่มีลักษณะเฉพาะ  ผู้คนหลายพันคนสนใจที่จะได้เห็นกระบวนการสร้างสรรค์และคนดังทางอินเทอร์เน็ตจำนวนมากเปิดตัวไลฟ์สตรีมสดเพื่อโต้ตอบกับแฟนๆ ของ VOOPOO

เทรนด์อินฟลูเอนเซอร์และผู้ใช้ต่างสร้างสัญลักษณ์ ∞ ให้ไวร

ล Spark Your Life และอีกมากมาย  ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั่วโลก สัญลักษณ์ตราสินค้าอันเป็นเอกลักษณ์ของ VOOPOO จึงหยั่งรากลึกในหัวใจของผู้ใช้  นอกจากภาพกราฟฟิตี้สัญลักษณ์อินฟินิตี้ขนาดยักษ์ของในลอนดอนแล้ว ศิลปินอีกคนหนึ่งยังได้เปิดตัวการสร้างกราฟิตีของสัญลักษณ์อินฟินิตี้ขนาดยักษ์ VOOPOO เมื่อเร็วๆ นี้ที่สวน Kalijodo ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งดึงดูดแฟน ๆ ชาวอินโดนีเซียจำนวนมาก  ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้น บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok และ แอพ VOOPOO Fans club ในอินโดนีเซีย ดาราและผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายพันคนโพสต์การสร้างสัญลักษณ์อินฟินิตี้ของตนเองและแสดงความรักต่อแบรนด์ด้วยการแสดงผลิตภัณฑ์และภาพวาดของ VOOPOO

ในปีนี้ ตั้งแต่การเปิดตัวเพลง Spark Your Life ไปจนถึงการเปิดตัว TikTok Challenge และจนถึงการขีดเขียนสัญลักษณ์อินฟินิตี้ในสหราชอาณาจักรและอินโดนีเซีย VOOPOO ยังคงทลายขีดจำกัดและกลายเป็นผู้นำเทรนด์ใน อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้า  มาติดตามความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ VOOPOO ด้วยกัน

ข้อความภาษาต้นฉบับของประกาศนี้เป็นฉบับที่เป็นทางการและเชื่อถือได้ การแปลจัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรมีการอ้างอิงโยงกับข้อความภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นข้อความเวอร์ชันเดียวที่มีจุดประสงค์เพื่อให้มีผลทางกฎหมาย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220509006281/en/

ติดต่อ:

Nical Zhang
Email: nical.zhang@voopootech.com 

โทรศัพท์: +86 16635003093

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


เงิน 26,000 ล้าน วอนของ DEXLEVO จากการเสนอขายหุ้น Pre IPO ช่วยกระตุ้นการตลาดระดับโลกให้กับผลิตภัณฑ์ ‘GOURI’

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–21 มิ.ย. 2565

เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ได้ชะลอตัวลงแล้วทั่วโลก ความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจึงถูดคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้น และความคาดหวังสำหรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ได้ยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากกลางแจ้งแล้ว และมีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากในขณะอยู่บนขนส่งสาธารณะด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมความงามที่มีสัดส่วนการส่งออกในต่างประเทศที่สูง

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220518005556/en/

GOURI, a liquid PCL injection developed by DEXLEVO (Photo: Business Wire)

GOURI เป็นผลิตภัณฑ์ฉีด PCL เหลวที่พัฒนาโดย DEXLEVO (ภาพ: Business Wire)

DEXLEVO บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือแพทย์ด้านเครื่องสำอาง ได้ระดมทุน Pre IPO จนเสร็จสิ้น เป็นจำนวนเงิน 26,000 ล้านวอนสำหรับนักลงทุนที่มีอยู่ ได้แก่ Magna Investment, Smilegate Investment, Hyundai Technology Investment และ Shinhan Capital ตอนนี้ DEXLEVO กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในปี 2566 และ DEXLEVO ได้คาดการณ์มูลค่าหลังการลงทุนเอาไว้ที่ 276,000 ล้านวอน

DEXLEVO ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 โดยแจวอน ยู อดีตนักวิจัยของ Samyang Corporation และประสบความสำเร็จในการทำให้ Polycaprolactone (PCL) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ กลายเป็นของเหลวเป็นครั้งแรกในโลก ด้วยการใช้เทคโนโลยีนี้ DEXLEVO ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ฉีด PCL เหลวชื่อ 'GOURI' และได้เข้าร่วมงาน AMWC แห่งความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Aesthetic and Anti-aging Medicine world Congress) ในเดือนกันยายนของปีที่แล้วและมีนาคมของปีนี้ในฐานะผู้สนับสนุนหลักเพื่อประกาศความสามารถทางเทคโนโลยีและความเป็นเลิศของ GOURI นอกจากนี้ยังจะเข้าร่วมในหลักสูตร International Master Course on Aging Science (IMCAS) ที่จัดขึ้นที่ปารีสในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก อีกด้วย

GOURI แตกต่างไปจากฟิลเลอร์ที่มีอยู่ทั่วไปในตลาด ตรงที่ GOURI อยู่ในรูปแบบของเหลวที่ไม่มีอนุภาค จึงกระจายไปทั่วใบหน้าเมื่อฉีดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

DEXLEVO กำลังขยายส่วนแบ่งการตลาดด้านความงามโดยไม่ได้มีเพียงแค่ GOURI ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้านเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังมี KABELLINE ผลิตภัณฑ์คอนทัวร์ และ Touch BR ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ปัจจุบัน DEXLEVO มุ่งเน้นการจัดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย และ KABELLINE กำลังไปถึงทวีปอเมริกา

KABELLINE เป็นผลิตภัณฑ์คอนทัวร์ที่ช่วยสลายไขมันโดยใช้กรดดีออกซีโคลิก KABELLINE ต่างจากผลิตภัณฑ์คอนทัวร์ที่มีอยู่เดิมตรงที่ไม่มีความเจ็บปวดหรือผลข้างเคียง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันการโยโย่จากการสังเคราะห์กรดไขมันอิสระ (FFA) ที่เหลืออยู่ในร่างกายให้กลายเป็นไขมัน

Touch BR เป็นผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มีเปปไทด์และวิตามินซีเป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยป้องกันริ้วรอยของผิวและการผลิตเมลานิน พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ DEXLEVO (www.dexlevoaesthetic.com).

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220518005556/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

DEXLEVO

ฝ่ายพัฒนาการวางแผนธุรกิจ

Diana Kim

diana.kim@dexlevo.com

Mary Kay Inc. เน้นการอนุรักษ์แนวปะการังในวันสามเหลี่ยมปะการังประจำปี 2565

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)– 9 มิ.ย. 2565

สามเหลี่ยมปะการัง หรือ The Coral Triangle เป็นดั่งหัวใจของแนวปะการังและชีวิตต่าง ๆ ที่อยู่ในมหาสมุทรของเราทั่วโลก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันสามเหลี่ยมปะการัง Mary Kay ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนระดับโลก จึงให้ความสำคัญกับความพยายามในการรักษาสุขภาพของสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทร ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของโลกของเรา

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220609005686/en/

Papua New Guinea ©Mark Godfrey (Photo: Mary Kay Inc.)

ปาปัวนิวกินี ©Mark Godfrey (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“สามเหลี่ยมปะการังซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรกว่า 120 ล้านคน เป็นแหล่งอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของโลก น่านน้ำของอินโดนีเซีย มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ เกาะโซโลมอน และติมอร์-เลสเต เป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายและให้ผลผลิตมากที่สุดในมหาสมุทร จึงทำให้รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นป่าฝนในทะเล “สามเหลี่ยมปะการังมีความหลากหลายของปะการังมากที่สุดในโลก โดยสามารถพบปะการังเกือบ 80% ทั่วโลกได้ที่นี่ ดร.Elizabeth Mcleod ผู้นำด้านการอนุรักษ์แนวปะการังของThe Nature Conservancy กล่าว “บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาในแนวปะการังที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก โดยมีสายพันธุ์ปลาแนวปะการังในโลก  37% และ มีปลาแนวปะการังในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก 56% การเป็นพันธมิตรของเรากับผู้ให้ทุนอย่าง Mary Kay ทำให้ TNC และพันธมิตรในท้องถิ่นของเราสามารถฟื้นฟูและปกป้องภูมิภาคแนวปะการังที่สำคัญแห่งนี้ได้”

เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศอันมีค่านี้และความหลากหลายทางชีวภาพที่กว้างขวาง หกประเทศที่ประกอบเป็นสามเหลี่ยมปะการังได้รวมตัวกันเพื่อมุ่งเน้นที่การอนุรักษ์พื้นที่ ทั้งนี้ The Nature Conservancy (TNC) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ได้สร้างโครงการอนุรักษ์ระดับภูมิภาคที่สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อดินแดนละแวกนี้ เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่ TNC ได้จัดตั้งโครงการระดับประเทศที่เข้มแข็งในอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะโซโลมอน ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความร่วมมือที่เชื่อถือได้กับชุมชน ธุรกิจ และรัฐบาลในท้องถิ่น มีการทำงานอย่างกว้างขวางเพื่อสร้างเครือข่ายพื้นที่คุ้มครองทางทะเลทั่วสามเหลี่ยมปะการัง ในปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน มีการวางแผนรวบรวมความรู้ในท้องถิ่นและวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด เรียกว่า Ridges to Reefs ซึ่งได้รับการสนับสนุนและพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน

The Nature Conservancy ยังทำงานร่วมกับ Coral Triangle Initiative ซึ่งเป็นความร่วมมือพหุภาคีของ 6 ประเทศที่ทำงานร่วมกันเพื่อรักษาทรัพยากรชายฝั่งและทางทะเล เพื่อทำให้แน่ใจว่ามีการสร้างเวทีการอนุรักษ์ที่ตอบสนองต่อประเด็นทางเพศและที่มีความครอบคลุม ด้วยการสนับสนุนจาก Mary Kay ได้มีการทำงานเพื่อยกระดับโครงการที่นำโดยผู้หญิงใน Coral Triangle รวมถึงการอนุรักษ์แบบพื้นเมืองและโดยชุมชนในอินโดนีเซีย ชัยชนะในการอนุรักษ์ที่สำคัญเกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มนี้เพื่อพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ พื้นที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับการอนุรักษ์ของโครงการนี้ในอินโดนีเซีย ได้แก่ Raja Ampat, ทะเล Savu, Wakatobi และ Berau พื้นที่เหล่านี้มีคุณค่าการอนุรักษ์สูงและมีความสำคัญต่อการสนับสนุนวิถีชีวิตท้องถิ่น

ด้วยการอนุรักษ์เชิงยุทธศาสตร์โดยชุมชน เราในฐานะชุมชนระดับโลกสามารถปกป้องแนวปะการังที่หลงเหลืออยู่ของโลก และสร้างความมั่นใจว่าจะมีมหาสมุทรที่อุดมสมบูรณ์สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป เข้าร่วมกับเราไปพร้อม ๆ กับการที่เราเฉลิมฉลองการทำงานอันล้ำลึกที่ทำอยู่ใน สามเหลี่ยมปะการัง ซึ่งเทียบได้กับป่าอเมซอนใต้น้ำ

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่มีความจำเป็นต่อทุกชีวิต ภายใต้การนำของวิถีวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และทำได้จริงสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกเพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ที่ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น เราทำงานใน 79 ประเทศและดินแดน และใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์รูปแบบเดิมก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 2506 โดยมีเป้าหมายคือทำให้ชีวิตผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็กๆ ทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com, หรือ Facebook Instagram และ LinkedIn หรือตามเราได้ที่ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220609005686/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย







NielsenIQ ประกาศแต่งตั้ง Tracey Massey เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–09 มิ.ย. 2022

วันนี้ NielsenIQ บริษัทที่ให้บริการข้อมูลระดับโลก ได้แต่งตั้ง Tracey Massey เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) คนแรกของบริษัท โดยจะรายงานต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารและจะดูแลด้านการค้าและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด รับผิดชอบด้านรายได้ แผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์หน่วยธุรกิจ และแง่มุมตลาดทั้งหมดของ NielsenIQ

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

“Tracey จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของ NielsenIQ โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้นผ่านการดำเนินการตามแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเรา” Jim Peck ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NielsenIQ กล่าว “เธอมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่า 30 ปีและประวัติในการขยายธุรกิจทั่วโลก แต่ที่สำคัญที่สุดคือความหลงใหลในการให้บริการลูกค้าและการดูแลทีมงาน  สิ่งเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาของเรา”

ล่าสุด Tracey ดำรงตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับโลกของ Mars Pet Nutrition ซึ่งเธอเป็นผู้นำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของเธอ  ก่อนหน้านั้น เธอเป็นประธานประจำภูมิภาค Mars Confectionary Americas ซึ่งเธอประสบความสำเร็จในการนำทีมผ่านการผสาน Mars Chocolate Americas กับ Wrigley Co. Americas

“ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ NielsenIQ และหวังว่าจะได้ใช้ประสบการณ์ของฉันในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) เพื่อช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จในอนาคต” Tracey Massey กล่าว

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลระดับโลก ส่งมอบมาตรฐานระดับสูงสุดในการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ผ่านความเข้าใจที่เชื่อมโยง สมบูรณ์ และนำไปให้บริการผู้บริโภคทั่วโลกผ่านทุกช่องทางได้มากที่สุด NielsenIQ เป็นแหล่งความเชื่อมั่นสำหรับอุตสาหกรรมที่เราให้บริการ และผู้บุกเบิกการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก  ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีก ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับชุมชนที่พวกเขาให้บริการมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของพวกเขา

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในตลาดมากกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ NielsenIQ.com

ดูคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52744423/en

ติตด่อ:

สื่อ: Gillian Mosher, gillian.mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ เข้าซื้อกิจการ CGA เพื่อสร้างขีดความสามารถของการวัดแบบออน-พรีมิส (On-Premise) ชั้นนำในตลาด

Logo

การเข้าซื้อกิจการสร้างมุมมองที่สมบูรณ์เป็นครั้งแรกของการตลาดแบบออนและออฟ-พรีมิส

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–07 มิถุนายน 2565

วันนี้ NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก ประกาศการเข้าซื้อกิจการ CGA ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่น่าเชือที่สุดของข้อมูลเชิงลึกแบบออน-พรีมิส (on-premise) การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นจากการลงทุน CGA ในปี 2552 ของ NielsenIQ และจะส่งมอบโซลูชันการวัดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีนวัตกรรมและละเอียดที่สุด โดยมีเป้าหมายเดียวในการช่วยให้ลูกค้าได้เติบโต

NielsenIQ และ CGA จะมารวมกันและเร่งการครอบคลุม – ปิดจุดบอดของลูกค้าและนำเสนอมุมมองที่สมบูรณ์ของการวัดแบบออนและออฟ-พรีมิส ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่น่าตื่นเต้นเนื่องจากเป็นพื้นที่ครอบคลุมระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบ เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรมของ NielsenIQ ถูกจับคู่กับการติดตามการขายชั้นนำของ CGA

ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโต 7% ในอีกห้าปีข้างหน้า เนื่องจากช่องทางการขายที่กระจัดกระจาย ผู้ประกอบการเครื่องดื่มทั่วโลกจึงจำเป็นต้องอ่านข้อมูลการขายหลายช่องทางอย่างถี่ถ้วนเพื่อวางแผนสำหรับอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เกิดการเติบโตนี้ ข้อมูลและสินทรัพย์ CGA จะถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Connect ของ NielsenIQ อย่างสมบูรณ์ ทำให้ตลาดมีความถูกต้องของข้อมูลและโซลูชันการวิเคราะห์เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ความสามารถในการแสดงภาพและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็วจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงการทำงานร่วมกันระหว่างประสิทธิภาพแบบออนและออฟ-พรีมิส เพื่อระบุแนวโน้มและได้รับมุมมองที่สมบูรณ์ของตลาด

“การมองเห็นยอดขายแบบออน-พรีมิสเป็นสิ่งสำคัญอย่างเหลือเชื่อสำหรับลูกค้า BevAl ของเรา เนื่องจากมีปริมาณการขายผ่านช่องทางนี้เป็นจำนวนมาก การปิดบาร์ ร้านอาหาร และไนท์คลับในช่วงโควิด แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลผ่านช่องทางออนและออฟ-พรีมิส” Kim Cox, SVP Client Success with NielsenIQ กล่าว “การรวมข้อมูล CGA เข้ากับแพลตฟอร์ม Connect เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจในการทำงานร่วมกันระหว่างแบบออนและออฟ-พรีมิส วิเคราะห์ธุรกิจของลูกค้าของเราผ่านช่องทางต่าง ๆ และให้มุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางธุรกิจที่มีอยู่”

“การขายแบบออน-พรีมิสมีนัยสำคัญในแง่ของการขายเป็นดอลลาร์ โดยผู้บริโภคจ่ายแบบพรีเมียมเพื่อการบริโภคในสถานที่หรือสถานที่ทางสังคม” Phil Tate ซีอีโอของ CGA กล่าว “หากคุณกำลังดูข้อมูลแบบออนและออฟ-พรีมิสในแบบไซโลทั้งนี้มีจุดบอดสำหรับตลาดรวม ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และประสิทธิภาพทางธุรกิจทั้งหมด”

“ด้วยการลงทุนนี้ NielsenIQ ยังคงเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำที่ให้บริการโซลูชั่นที่ไม่เหมือนใครเพื่อเสริมความสามารถในการวัดข้อมูล การวิเคราะห์ และข้อมูลเชิงลึกชั้นนำของอุตสาหกรรมของเรา” Rachel White กรรมการผู้จัดการสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ของ NielsenIQ กล่าว “ความมุ่งมั่นของเราในการลงทุนและสร้างสรรค์นวัตกรรมในระดับโลกด้วยการครอบคลุมช่องทางชั้นนำที่ก้าวล้ำจะขับเคลื่อนการเติบโตของลูกค้าทั่วโลก”

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก ส่งมอบมาตรฐานอ้างอิงในการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ผ่านความเข้าใจที่เชื่อมโยง สมบูรณ์ และนำไปดำเนินการได้มากที่สุดของผู้บริโภคจากทุกช่องทางทั่วโลกที่กำลังพัฒนา NielsenIQ เป็นแหล่งของความเชื่อมั่นสำหรับอุตสาหกรรมที่เราให้บริการ และผู้ริเริ่มที่กำหนดศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ทั้งนี้ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมต่อ และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีก ทำให้ใกล้ชิดกับชุมชนที่พวกเขาให้บริการมากยิ่งขึ้น และช่วยเป็นพลังในการขับเคลื่อนการเติบโต

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในมากกว่า 90 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

เกี่ยวกับ CGA

CGA Strategy Ltd คือทางเลือกที่ปรึกษาด้านข้อมูลและการวิจัยสำหรับตลาดอาหารและเครื่องดื่มแบบ out-of- home เชี่ยวชาญด้านการวัดผลตลาด การวิจัยผู้บริโภค และการวางแผนสถานที่ ปัจจัยที่ทำให้ CGA แตกต่างไปคือความสามารถเฉพาะตัวในการเข้าถึงข้อมูลหลักสามประเภท (อุปทาน อุปสงค์ และผู้บริโภค) จากนั้นจึงวิเคราะห์ข้อมูลนี้แยกเป็นสามส่วนเพื่อให้เห็นภาพที่สมบูรณ์และแม่นยำที่สุดของทุกคนในภาคส่วนแบบ out-of- home จากสำนักงานในแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร และชิคาโก สหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญ CGA ทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง รวมถึงผู้ผลิตเครื่องดื่ม เจ้าของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค ผู้จัดหาอาหารและผู้ค้าส่ง ตลอดจนผู้ค้าปลีกผับ บาร์ และร้านอาหาร และหน่วยงานภาครัฐ ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 พันธกิจของ CGA คือการใช้ข้อมูลที่ยอดเยี่ยมและข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านการสันทนาการ เพื่อให้แบรนด์เหล่านี้ได้เปรียบในการแข่งขัน และทำให้ไปถึงที่ที่ต้องการได้เร็วยิ่งขึ้น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่: www.cga.co.uk

ดูเวอรชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220607005485/en/

ติดต่อ:

Stephanie Manning (Europe) Stephanie.Manning@NielsenIQ.com
Gillian Mosher (North America) Gillian.Mosher@NielsenIQ.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ค้นหาความหวังผ่านแนวปะการังสายพันธุ์อึด Super Reefs ในภารกิจกอบกู้มหาสมุทร

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–2 มิถุนายน 2565

มากกว่าร้อยละ 25 ของสัตว์ทะเลทุกสายพันธุ์ได้รับการเกื้อหนุนจากแนวปะการัง โดยพวกมันเอื้ออำนวยชีวิตและความเป็นอยู่ให้ผู้คนทั่วโลก แต่อนาคตของพวกมันนั้นยังไม่แน่นอน Mary Kay ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนระดับโลก เฉลิมฉลองวันแนวปะการังโลก หรือ World Reef Day โดยสนับสนุนช่วยเหลืองโครงการริเริ่มในการปกป้องและฟื้นฟูแนวปะการัง ซึ่งรวมถึงโครงการ Super Reefs ของ Nature Conservancy

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220601005317/en/

logo of Mary Kay

โลโก้ Mary Kay

แนวปะการังเป็นโครงสร้างที่สวยงามและมีส่วนทำให้มหาสมุทรไม่มีอะไรที่เปรียบได้ พวกมันไม่เพียงแค่เป็นแหล่งอาหารและแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์ทะเลหลายสายพันธุ์เท่านั้น แต่ยังเป็นป้อมปราการที่มีชีวิตซึ่งปกป้องแนวชายฝั่งของเราจากคลื่นทะเลและพลังงานคลื่น แนวปะการังที่มีสุขภาพดีสามารถลดพลังงานคลื่นได้ถึง 97% ดังนั้นพวกมันจึงทำหน้าที่เป็นเขื่อนกันคลื่นที่มีชีวิต ปกป้องชายฝั่งหลายหมื่นกิโลเมตรจากน้ำท่วมตามฤดูกาลและการกัดเซาะ

แม้ว่าจะมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของเรา แต่แนวปะการังก็เสื่อมโทรมลงเนื่องจากมลภาวะ การทำประมงแบบทำลายล้าง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิของมหาสมุทรที่เพิ่มสูงขึ้นคุกคามการอาศัยของพวกมันและทำให้การสูญพันธุ์เป็นไปได้อย่างแท้จริง

“หน้าต่างแห่งโอกาสในการกอบกู้แนวปะการังของโลกกำลังจะปิดตัวลง” Dr. Lizzie Mcleod, Global Reef Systems Lead ของ The Nature Conservancy กล่าว “เราต้องลงมือทำทันทีเพื่อรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญเหล่านี้”

และความหวังอยู่ที่นี่แล้ว แนวปะการัง Super Reefs มีความยืดหยุ่นและสามารถอยู่รอดได้ในน่านน้ำทะเลที่อุ่นกว่าเนื่องจากมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงขึ้น แนวปะการังที่ยืดหยุ่นเหล่านี้บางส่วนยังอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการปกป้องจากความร้อนตามธรรมชาติ ศักยภาพในการอยู่รอดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดความหวังสำหรับอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ซึ่งน่านน้ำเขตร้อนเต็มไปด้วยปะการังที่สร้างแนวปะการังอย่างน้อย 500 สายพันธุ์ ทีมงาน Super Reef ของ Nature Conservancy ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการอนุรักษ์มหาสมุทร เพื่อสร้างเครือข่ายแนวปะการัง super reefs ทั่วโลกผ่านพันธุวิศวกรรม การฟื้นฟูแนวปะการัง และการทำฟาร์มปะการัง

เราสามารถช่วยแนวปะการังให้มีชีวิตอยู่ได้ แต่ต้องมีการลงมือทำอย่างจริงจังเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันจะอยู่รอด ขั้นตอนแรกคือการระบุชื่อและการปกป้องแนวปะการัง Super Reefs และเมื่อได้รับการปกป้องแล้ว พวกมันก็สามารถผสมพันธุ์ตัวอ่อนที่แข็งแรงและสร้างปะการังที่ยืดหยุ่นรุ่นใหม่ได้ ด้วยการทำงานอย่างต่อเนื่องและการสนับสนุนช่วยเหลือจาก Mary Kay เรายังคงมีโอกาสสำหรับแนวปะการังนี้

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เรารังสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220601005317/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Mary Kay Inc. ร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปเพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูหอยนางรมพื้นเมือง

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2565

แนวปะการังและหอยนางรมเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วยการดูแลระบบนิเวศต่างๆ  หอยนางรมตัวเดียวสามารถกรองน้ำได้มากถึง 240 ลิตรต่อวัน ส่งผลให้ปรับปรุงคุณภาพน้ำและความใสมากขึ้น และสนับสนุนปลาและสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีเอกลักษณ์และมีความหลากหลายสูง  ในขณะเดียวกัน แนวปะการังหอยนางรมเป็นที่อยู่อาศัยทางทะเลที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก โดยสูญเสียไปประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220519005168/en/

Mary Kay logo

โลโก้ Mary Kay

ในการเฉลิมฉลองวันสัตว์ใกล้สูญพันธุ์โลกและวันสากลเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ  Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกใน ความยั่งยืนขององค์กร ประกาศความร่วมมือกับ The Nature Conservancy (TNC) และพันธมิตรในยุโรป เพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูหอยนางรมพื้นเมืองในภาคพื้นทวีปสหราชอาณาจักรและยุโรป

TNC ได้ช่วยเปิดตัว Native Oyster Restoration Alliance (NORA) ซึ่งเป็นเครือข่ายในยุโรปที่ประกอบด้วยหน่วยงานของรัฐ นักวิทยาศาสตร์ เอ็นจีโอ ผู้ปลูกหอยนางรม และองค์กรเอกชน  ทีมงานกำลังร่วมมือกันในการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยนางรมพื้นเมืองของยุโรป ดังนั้นจึงสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพที่ต้องพึ่งพาอาศัยและช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำอีกครั้ง

“แนวปะการังหอยนางรมเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ในการอนุรักษ์ระบบธรรมชาติ” Dr. Elizabeth McLeod ผู้นำด้านการอนุรักษ์แนวปะการังในโครงการ Global Reef ของ TNC กล่าว “ประชากรหอยนางรมที่มีสุขภาพดีช่วยให้น้ำสะอาดขึ้นและช่วยปกป้องพื้นที่ชายฝั่งทะเลและผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ด้วยการสนับสนุนจากผู้ให้ทุนอย่าง Mary Kay TNC สามารถกู้คืนและปกป้องระบบที่สำคัญเหล่านี้ได้ในระยะยาว”

ความร่วมมือระหว่าง Mary Kay กับ TNC และเครือข่าย NORA จะสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรทางทะเลทั่วยุโรป ตัวอย่าง ได้แก่

  • ฟื้นฟูหอยนางรมในสหราชอาณาจักร
    • เขตอนุรักษ์ทางทะเลของ Blackwater, Crouch, Roach และ Colne Estuaries (MCZ): พื้นที่คุ้มครองทางทะเล 284 ตารางกิโลเมตรนี้ถูกกำหนดในปี 2013 สำหรับหอยนางรมพื้นเมือง โดยมีพื้นที่ เป็นโครงการฟื้นฟูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
    • The Solent (ช่องแคบของน้ำที่แยก Isle of Wight จากแผ่นดินใหญ่ของสหราชอาณาจักร): ประชากรหอยนางรมถูกทำลายตั้งแต่สมัยโรมัน  อันที่จริง ระหว่างปี 2515-2549 เป็นแหล่งการประมงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป  อย่างไรก็ตาม การจับปลามากเกินไป โรคภัย และการปล้นสะดมทำให้เกิดการล่มสลายและการปิดตัวในที่สุดในปี 2556 โดยมีผู้ทำประมงที่จำกัดและเข้าถึงเป็นครั้งคราวเท่านั้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
  • การฟื้นฟูหอยนางรมในยุโรป
    • ทะเลเหนือของเยอรมัน: บริเวณนี้เป็นแหล่ของหอยนางรมยุโรปพื้นเมืองที่แพร่หลายในอดีต แต่ถูกจำแนกว่าใกล้สูญพันธุ์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20  สิ่งมีชีวิตแต่ละชิ้นนั้นหายากมาก และชนิดนี้อยู่ในบัญชีแดงของ IUCN ของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โครงการนี้กำลังพัฒนาและทดสอบวิธีการนอกชายฝั่งเพื่อการฟื้นฟูสต็อกหอยนางรมในพื้นที่ในระยะยาว

“Mary Kay ภูมิใจที่ได้สนับสนุนงานของ The Nature Conservancy เพื่อช่วยรื้อฟื้นหอยนางรมพื้นเมืองของยุโรปเพื่อฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลที่สำคัญ” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว “ประสบการณ์มากมายของ The Nature Conservancy ในการฟื้นฟูแนวปะการังหอยนางรมในสี่ทวีปทำให้เรามั่นใจในความพยายามของพวกเขาในการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยที่หายากและใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งเหล่านี้ในน่านน้ำทางทะเลของยุโรป ที่แมรี่ เคย์ เรามุ่งความสนใจไปที่การจากโลกนี้ไปให้ดีขึ้นกว่าที่เราพบ ซึ่งรวมถึงการปกป้องสิ่งมีชีวิตทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก”

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ที่ชื่อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตพึ่งพา  ภายใต้การนำของวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ที่ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น ใน 79 ประเทศและดินแดน  เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วดั้งเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว: การทำให้ชีวิตของผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น  ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ทันสมัย  Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว เพื่อทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagramและ LinkedIn หรือ  Twitter

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220519005168/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร)
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย







สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ รุกตลาดประกันภัยไทย

Logo

นครนิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565

สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ (“สตารร์“) ได้ประกาศทำสัญญากับเอฟพีจี อินชัวรันซ์ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (ฮ่องกง) (“เอฟพีจี“) และผู้ถือหุ้นไทย เพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอฟพีจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“เอฟพีจี ประเทศไทย“) ซึ่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศไทย ร่วมกับนักลงทุนไทย

การเข้าลงทุนดังกล่าวของ สตารร์ จะดำเนินการโดยสตารร์ อินชัวรันส์ แอนด์ รีอินชัวรันส์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายเบอร์มิวดา โดยคาดว่าจะการเข้าซื้อหุ้นจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในไตรมาสที่สองของปี 2565 ทั้งนี้ การสำเร็จลุล่วงของการเข้าลงทุนอยู่ภายใต้เงื่อนไขการเสร็จสิ้นธุรกรรม (Customary Closing Conditions) รวมถึงการได้รับอนุมัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่จำเป็น

“ประเทศไทยเป็นตลาดประกันภัยที่สำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มอริซ อาร์. กรีนเบิร์ก ประธาน และซีอีโอของ สตารร์ กล่าว “ภูมิภาคเอเชียมีความสำคัญต่อ สตารร์ ทั้งในด้านการค้าและวัฒนธรรม ดังจะเห็นได้จากการที่กลุ่มสตารร์ได้ก่อตั้งบริษัทอเมริกันในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว โดยเรามุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของบรรดาบริษัทและผู้บริโภคในประเทศไทยผ่านกิจการประกันภัยใหม่นี้”

เดวิด ซิลลิค ประธานระดับภูมิภาคของ เอฟพีจี กล่าวว่า “การเข้าทำธุรกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของกลุ่มธุรกิจของเรา และผลของการทำงานหนัก ความพากเพียร และความมุ่งมั่นของทีมงาน เอฟพีจี ประเทศไทย แม้ภายใต้สภาวะตลาดที่มีความท้าทาย ทั้งนี้ บรรดาทีมงานมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ สตารร์ เพื่อนำพาบริษัทให้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น”

สตารร์ คาดว่าจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งในการเสนอผลิตภัณฑ์ในตลาดประกันภัยไทย ด้วยประกันภัยเชิงพาณิชย์ และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมตามความต้องการ และวางแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างเต็มที่โดยจะสรรหาและพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยในประเทศไทย โดยที่ผ่านมา สตารร์ ได้สนับสนุนตลาดประกันภัยในประเทศไทยผ่านการรับประกันภัยต่อเป็นหลัก ซึ่งรวมถึง ประกันความเสี่ยงทางด้านเทคนิค ประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประกันภัยทางทะเล และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ

เจอราร์ด เพนฟาเธอร์ จากฮันติงตัน (Huntington) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ของ เอฟพีจี กล่าวว่า “นี่เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งของทั้ง สตารร์ และ เอฟพีจี เราเชื่อว่า สตารร์ เป็นเหมือนบ้านในอุดมคติของ เอฟพีจี ประเทศไทยที่จะช่วยสร้างฐานธุรกิจ ขยายขีดความสามารถ และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดประกันภัย”

ตามรายงานล่าสุดของเอเอ็ม เบสท์ (AM Best) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดอันดับ ในปี 2564 ตลาดประกันวินาศภัยของประเทศไทยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมประมาณ 253 พันล้านบาท (หรือประมาณ 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ)

ทั้งนี้ คาดว่าสำนักงานใหญ่ของฝ่ายปฏิบัติการจะยังคงอยู่ในกรุงเทพมหานครตามเดิม

เกี่ยวกับสตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์

สตารร์ อินชัวรันส์ คอมพานีส์ (หรือ สตารร์) เป็นชื่อทางการตลาดของบรรดาบริษัท และบริษัทลูกของ สตารร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอมพานี อิงค์ ซึ่งประกอบธุรกิจประกันภัยและให้บริการความช่วยเหลือระหว่างการเดินทาง และรวมถึง ซี.วี. สตารร์ แอนด์ คอมพานี อิงค์ และบริษัทในเครือซึ่งประกอบธุรกิจการลงทุน ทั้งนี้ สตารร์ เป็นองค์กรชั้นนำในด้านประกันภัยและการลงทุน ซึ่งมีสำนักงานของบริษัทในเครือครอบคลุมอยู่ทั้งใน 6 ทวีปทั่วโลก โดยบริษัทประกันภัยของ สตารร์ มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย ทั้งประกันภัยทรัพย์สิน ประกันเบ็ดเตล็ด และประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ รวมถึงความคุ้มครองพิเศษต่างๆ เช่น ประกันภัยเครื่องบิน ประกันภัยทางทะเล ประกันภัยพลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน บริษัทประกันภัยในเครือของ สตารร์ ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ และมอลตา ล้วนแต่ได้รับเกรด “A” (Excellent) โดยเอเอ็ม เบสท์ ในขณะที่ลอยซ์ ซินดิเคท (Lloyd's syndicate) ของ สตารร์ ได้รับเกรด “A+” (Strong) โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (Standard & Poor)

เกี่ยวกับเอฟพีจี อินชัวรันส์ กรุ๊ป

เอฟพีจี อินชัวรันส์ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นมานานกว่าครึ่งศตวรรษและเป็นกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัยในภูมิภาคอาเซียน

เกี่ยวกับฮันติงตัน

ฮันติงตันและบริษัทร่วมเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์แบบบูรณาการและลงทุนในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพและหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ (private equity) โดยให้ความสำคัญในด้านการประกันภัยต่อ และมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์และตุรกี

ติดต่อเราได้ที่เว็บไซต์ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราได้ที่ LinkedIn และ Twitter.

ติดต่อ:

ชาร์ลี อาร์มสตรอง

รองประธานฝ่ายการตลาด

ที่อยู่อีเมล charlie.armstrong@starrcompanies.com หมายเลขโทรศัพท์ 646.758.8308

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Women’s Entrepreneurship Accelerator เริ่มสร้างสิ่งตีพิมพ์กรณีการศึกษาทางธุรกิจสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชาย

Logo

บทสรุปเชิงสนับสนุนตามหลักฐานเรียกร้องให้ภาคเอกชนนำกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายมาใช้ และรวมธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ เป็นผู้นำ และตอบสนองบทบาทหญิงชายเข้าในห่วงโซ่คุณค่าเพื่อเป็นสื่อกลางในการขับเคลื่อนเป้าหมายทางเศรษฐกิจของธุรกิจและคุณค่าทางสังคมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–5 พฤษภาคม 2565

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ประกาศในวันนี้ว่าการตีพิมพ์บทสรุปเชิงสนับสนุน หรือ Advocacy Brief ในหัวข้อเรื่อง “มูลค่าเชิงกลยุทธ์ของการจัดซื้อจัดจ้าง: เหตุใดการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจ หรือ Procurement’s strategic value: Why gender-responsive procurement makes business sense” ซึ่งแสดงหลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชนในการตระหนักรวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220505005120/en/

Procurement’s strategic value: Why gender-responsive procurement makes business sense a publication by UN Women (photo credit: UN Women/David Snyder)

มูลค่าเชิงกลยุทธ์ของการจัดซื้อจัดจ้าง: เหตุใดการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจที่ได้รับการตีพิมพ์โดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women (เครดิตภาพ: UN Women/David Snyder)

Advocacy Brief พัฒนาโดย UN Women และได้รับทุนจาก Mary Kay Inc. เพื่อสนับสนุนโครงการ WEA โดยเน้นการย้อนกลับของความคืบหน้าในการบรรลุความเสมอภาคระหว่างหญิงชายอันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงระดับความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและผลกระทบจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมีผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างไม่สมส่วนเนื่องจากตำแหน่งที่ไม่เท่าเทียมกันในสังคม

สิ่งพิมพ์ดังกล่าวสะท้อนถึงการศึกษาก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อวิกฤตการณ์หากผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน1 อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ยังคงมีอยู่ ผู้ประกอบการสตรียังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ซึ่งรวมถึงการขาดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ เครือข่ายผู้ประกอบการน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้ชาย และนโยบายที่กีดกันการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานสตรี2 ในทั่วโลกขณะที่หนึ่งในสามของธุรกิจเป็นเจ้าของโดยผู้หญิง3 ผู้หญิงชนะเพียงประมาณร้อยละ 1 เท่านั้นของการใช้จ่ายทั่วโลกในองค์กรขนาดใหญ่4 กฎหมายเรื่องเพศที่ไม่เท่าเทียมกันยังเป็นอุปสรรคต่อโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิงอีกด้วย ตัวอย่างเช่นผู้หญิงวัยทำงานเกือบ 2.4 พันล้านคนยังคงไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับผู้ชาย5 แม้จะมีสถิติเหล่านี้ผู้ประกอบการสตรียังคงเป็นทางออกสำหรับความท้าทายมากมายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการเพิ่มขึ้นในการประกอบการของผู้หญิงและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาที่ยั่งยืน และสังคมที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น6

ข้อมูลที่นำเสนอใน Advocacy Brief สรุปว่าการนำนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ตอบสนองบทบาทหญิงชาย (GRP) มาใช้ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นกลไกสำคัญในการลดผลกระทบของอุปสรรคเชิงโครงสร้างที่ผู้หญิงต้องเผชิญได้อย่างไร และในขณะเดียวกันก็ช่วยปรับปรุงธุรกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจ Advocacy Brief ได้เตือนให้เห็นว่าการไม่นำ GRP มาใช้เป็นโอกาสที่สูญเปล่า หลักฐานนั้นมีความชัดเจน การลดความไม่เสมอภาคระหว่างหญิงชายนั้นดีสำหรับธุรกิจและเป็นเศรษฐศาสตร์ที่ชาญฉลาด

“การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทหญิงชายส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรขององค์กร การลดความเสี่ยง นวัตกรรม และความยั่งยืน เมื่อผู้ประกอบการสตรีถูกกีดกันจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง บริษัทต่าง ๆ ก็เสี่ยงที่จะทิ้งพรสวรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญไว้เป็นจำนวนมาก GRP เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับแรงกระตุ้นที่ทรงพลังสำหรับการเปลี่ยนแปลง”  Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay, Inc. และผู้ริเริ่มโครงการ WEA กล่าว

เพื่อเป็นการแจ้งถึง Advocacy Brief โดย UN Women ได้มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกว่า 350 รายในปี 2564 โดยในจำนวนนี้เป็นตัวแทนของบริษัทภาคเอกชนกว่า 150 แห่ง และรวบรวมกรณีศึกษา 7 กรณีเกี่ยวกับเส้นทางการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างเชิงหลักฐานว่าเหตุใดธุรกิจจึงควรนำการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองบทบาทระหว่างหญิงชายมาใช้ การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในรูปแบบของการสัมภาษณ์ การสำรวจ และชุมชนแห่งการปฏิบัติ ซึ่งได้ประโยชน์จากการเผยแพร่ในเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสมาชิกภาพและเครือข่ายของ ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Global Compact's (UNGC)

บริษัทต่าง ๆ รายงานว่า GRP นำไปสู่:

  • เพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้าง
  • ความพร้อมใช้งานและความยืดหยุ่นของซัพพลายเออร์ที่มากขึ้น
  • ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น
  • นวัตกรรมและการปรับตัวที่มากขึ้น
  • การส่งมอบบริการที่ดีขึ้นเนื่องจากความคล่องตัวที่มากขึ้นและ
  • ตลาดมีความเข้มแข็งผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นและการเติบโตอย่างครอบคลุม

ตามหมายเหตุของ Advocacy Brief “การพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการรักษาเสถียรภาพในเศรษฐกิจที่ผันผวนและได้รับประโยชน์จากการเติบโตในอนาคต ความเหลื่อมล้ำในความไม่เสมอภาคระหว่างหญิงชายที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกบริษัท รวมถึงผู้ประกอบการสตรีที่มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น ตลอดจนธุรกิจที่พึ่งพาพวกเขา”

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นที่เพิ่มขึ้นในแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทต่าง ๆ Advocacy Brief ให้หมายเหตุว่า “การนำ GRP ไปใช้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปฏิบัติและกำหนดค่านิยมของ ESG และมีส่วนสำคัญต่อการเสริมพลังอำนาจของผู้หญิงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การนำหลักการ GRP มาใช้นั้น ธุรกิจต่าง ๆ สามารถก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายได้หลายด้าน รวมถึงความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย (SDG 5) และความเหลื่อมล้ำที่ลดลง (SDG 10) และอีกทั้งการบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ (SDG 12) การขจัดความยากจน (SDG 1) และงานที่มีคุณค่า และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8)”

“การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้โดยผู้หญิงคนเดียว หรือโดยธุรกิจเพียงอย่างเดียว หรือโดยรัฐบาลเพียงอย่างเดียว วิธีเดียวที่เราจะสามารถก้าวหน้าได้อย่างแท้จริงคือถ้าทั้งหมด – รวมถึงธุรกิจ – ได้ทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ร่วมกัน” Anita Bhatia ผู้ช่วยเลขาธิการและรองกรรมการบริหารของ UN Women กล่าว

จากการเปิดเผยรายงานนี้ โดย WEA เรียกร้องให้ภาคเอกชนนำกลยุทธ์ GRP มาใช้และบูรณาการสตรีเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกเพื่อเป็นพาหนะในการพัฒนา SDGs สิ่งนี้สมเหตุสมผลทางธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมการเสริมพลังทางเศรษฐกิจของผู้หญิง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม

Advocacy Brief สามารถดูได้ที่นี่

เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่ตั้งขึ้นในช่วง UNGA 74 โดยมีหน่วยงานขององค์กรสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC) องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay Inc. จะเพิ่มพลังให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate ติดตามเราได้ที่: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)


1 World Development Report. 2012: Gender Equality and Development (รายงานการพัฒนาโลก. ปี 2555: ความเสมอภาคระหว่างหญิงชายและการพัฒนา): https://openknowledge.worldbank.org/handle/10986/4391.

2 European Commission and OECD Policy Brief on Women’s Entrepreneurship. 2017 (คณะกรรมาธิการยุโรปและบทสรุปนโยบาย OECD เกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการสตรีปี 2560): https://www.oecd.org/cfe/smes/Policy-Brief-on-Women-s-Entrepreneurship.pdf

3 World Bank. 2020. Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal (ธนาคารโลก ปี 2563 การสำรวจองค์กร พอร์ทัลข้อมูลเพศสภาพของธนาคารโลก): https://www.worldbank.org/en/data/datatopics/gender

4 Vazquez, E.A. and A.J. Sherman. 2013. Buying for Impact: How to Buy from Women and Change the World. Charleston, USA: Advantage (Vazquez, E.A. and A.J. Sherman ปี 2556 การซื้อเพื่อผลกระทบ: วิธีการซื้อจากผู้หญิงและการเปลี่ยนแปลงโลก Charleston, USA: Advantage)

5 World Bank Group. 2022.. Women, Business and the Law 2022. Washington, DC: World Bank (World Bank Group ปี 2565 ผู้หญิง ธุรกิจ และกฎหมายปี 2565 วอชิงตัน ดีซี: ธนาคารโลก)

6 UN Women Facts and Figures: Economic Empowerment (ข้อเท็จจริงและตัวเลขของ UN Women: การเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจ): https://www.unwomen.org/en/what-we-do/economic-empowerment/facts-and-figures

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220505005120/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




Mary Kay Inc. เน้นย้ำการกระทำของมหาสมุทรและความร่วมมือกับ The Nature Conservancy ในวันคุ้มครองโลกปี 2565

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–23 เมษายน 2565

วันคุ้มครองโลกนี้เป็นวันครบรอบ 52 ปีของวันคุ้มครองโลกครั้งแรกในปี 2513 Mary Kay Inc. ร่วมในการเฉลิมฉลองสิ่งแวดล้อมและการเป็นพันธมิตรทั่วโลกที่ทำงานเพื่อลงทุนในโลกของเราและบรรลุ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (UN)

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220422005430/en/

Logo of Mary Kay

โลโก้ของ Mary Kay

องค์ประกอบสำคัญของการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการบรรลุ SDGs นั้นขึ้นอยู่กับการกระทำของมหาสมุทร ซึ่งมหาสมุทรนั้นครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นผิวโลก เป็นชีวภาคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้สร้างออกซิเจน 50 เปอร์เซ็นต์ที่เราต้องการ ดูดซับ 25 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมด และดักจับ 90 เปอร์เซ็นต์ของความร้อนเพิ่มเติมที่เกิดจากการปล่อยสิ่งเหล่านั้น1

The Nature Conservancy (TNC) ได้เริ่มต้นการเดินทางเพื่อปกป้องมหาสมุทรของเรา โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ซึ่งถือว่าน้ำเป็นหัวใจของกลยุทธ์ความยั่งยืน: “วันคุ้มครองโลกนี้ มหาสมุทรของเราต้องการเราทุกคน” กรรมการผู้จัดการระดับโลกฝ่ายการอนุรักษ์ธรรมชาติของ The Nature Conservancy กล่าว “ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรองค์กรของเรา TNC ทำงานในทุก ๆ วันทั่วทั้งโลกเพื่ออนุรักษ์แนวปะการัง ชายฝั่งและการประมงที่ทำให้ชีวิตบนโลกใบนี้ และชีวิตของเราเองรุ่งเรืองเฟื่องฟู เราร่วมกันสร้างวันคุ้มครองโลกในทุก ๆ วัน”

ผ่านการเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน Mary Kay ช่วยเหลือสนับสนุนโครงการที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบอย่างยั่งยืนในการอนุรักษ์และปกป้องมหาสมุทรของเรา:

  • การปกป้องมหาสมุทรทั่วโลกเพื่อปรับปรุงคุณภาพของมหาสมุทรสำหรับธรรมชาติและผู้คน
  • การปกป้องแนวปะการังที่ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ “แนวปะการังสายพันธุ์อึด super reefs” ในสามเหลี่ยมปะการัง
  • การฟื้นฟูแนวปะการังหอยเอเชียแปซิฟิกในออสเตรเลีย ฮ่องกง และจีน;
  • การสนับสนุนผู้นำสตรีในมหาสมุทรแปซิฟิกในปาปัวนิวกินี (ป่าชายเลน ผู้หญิง และตลาด) และหมู่เกาะโซโลมอน (คุณภาพและความยืดหยุ่นของชุมชน);
  • การอนุรักษ์และฟื้นฟูชายฝั่งในคาบสมุทรกัลฟ์ (การปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งคาบสมุทรกัลฟ์); และ
  • การปรับปรุงการประมงในเม็กซิโก (การปรับปรุงการประมงและการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน)

The Nature Conservancy จะเปิดตัวพันธมิตรระดับโลกใหม่เพื่อระบุและปกป้องแนวปะการังที่อยู่ในตำแหน่งที่จะอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ – “แนวปะการังสายพันธุ์อึด super reefs” ที่งาน 2022 UN Ocean Conference ในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส การประชุม UN Ocean Conference ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกันโดยรัฐบาลของเคนยาและโปรตุเกส จะพยายามจัดการกับภัยคุกคามต่อสุขภาพ นิเวศวิทยา เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาลของมหาสมุทร และขับเคลื่อนโซลูชั่นนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นอย่างมาก โดยมุ่งเป้าไปที่การเริ่มต้นบทใหม่ของการกระทำของมหาสมุทรทั่วโลก

“ในวันคุ้มครองโลกและในทุก ๆ วัน Mary Kay เฉลิมฉลองงานที่เราทำเพื่อลงทุนในโลกของเราและปกป้องมหาสมุทรของเรา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ค้ำจุนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนประมาณ 3 พันล้านคนทั่วโลก มันคือความสำคัญต่อโลก อนาคต และชุมชนของเรา Mary Kay ภูมิใจในความร่วมมือของเราในการช่วยสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนและยาวนานต่อชุมชนทั่วโลก และคือหุ้นส่วนสำหรับโลกอย่างแท้จริง” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว

“เรารู้ว่ายังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ และเรารู้ว่าเราสามารถทำได้และจะทำให้มากกว่านี้ การดูแลโลกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Mary Kay และวันคุ้มครองโลกเปิดโอกาสให้เรายืนยันคำมั่นสัญญาของเราในการดำเนินการอย่างยั่งยืน” Gibbins กล่าวเสริม

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน สามารถเยี่ยมชมได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และสามารถดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ในหัวข้อเรื่อง “Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow”

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เรารังสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

1 เกี่ยวกับงาน 2022 UN Ocean Conference งาน UN Ocean Conference เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส https://www.un.org/en/conferences/ocean2022/about

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220422005430/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย