Category Archives: Finance

MetLife ประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูง

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–15 ต.ค. 2563

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ได้ประกาศในวันนี้ถึงการเปลี่ยนแปลงหลายประการในทีมผู้นำระดับสูง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

Oscar Schmidt รองประธานบริหารและประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกา จะเกษียณอายุหลังจากทำงานร่วมกับบริษัท มา 26 ปี เขาจะก้าวออกจากตำแหน่งผู้บริหารในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และจะอยู่ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 เพื่อช่วยในการเรื่องการส่งต่อตำแหน่งผู้นำ

“ในช่วงสองทศวรรษครึ่งที่ผ่านมา Oscar ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาธุรกิจละตินอเมริกาของเรา โดยการสร้างผลงานธุรกิจที่หลากหลายทั่วทั้งภูมิภาค” Michel Khalaf ประธานและซีอีโอของ MetLife กล่าว “ ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของเขา เราได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ หลายครั้ง”

เมื่อได้รับการอนุมัติทุกครบแล้ว Eric Clurfain จะมารับหน้าที่ต่อจาก Schmidt ในฐานะประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกาในตำแหน่ง รองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. โดยเขา เขาจะรายงานตรงต่อ Khalaf

“ด้วยประสบการณ์ด้านการประกันภัยมากว่าสองทศวรรษ Eric มีผลงานที่พิสูจน์แล้วในด้านการสร้างทีมงานและธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูง “ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขามุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจและการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่นและสร้างผลลัพธ์ที่สนับสนุนกลยุทธ์ Next Horizon ภายใต้การนำของเขาผมมั่นใจว่า LatAm จะยังคงเป็นกลไกในการเติบโตของ MetLife ต่อไป”

เส้นทางอาชีพของ Clurfain ครอบคลุมหลายภูมิภาคและหลากความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน Clurfain ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของ EMEA ซึ่งดูแลตลาด 25 แห่งในภูมิภาค ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกหลังจากดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ MetLife ในตุรกี และก่อนหน้านั้นในอาชีพของเขากับ AIG / Alico Clurfain อาศัยและทำงานในละตินอเมริกา

เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาแทน Clurfain ในตำแหน่งรองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. ได้แก่ Dirk Ostijn หัวหน้า EMEA โดย Ostijn จะรายงานต่อ Kishore Ponnavolu รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย

“Dirk ประสบความสำเร็จในการนำภูมิภาค EMEA ของเราผ่านสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทาย” Khalaf กล่าว “ภายใต้การนำของเขา ทีม EMEA ได้สร้างโมเมนตัมที่แข็งแกร่งด้วยโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งและรูปแบบที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมมากกว่า 25 ตลาด ผมรู้ว่าความเป็นผู้นำที่เป็นต้นแบบ ความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยที่ลึกซึ้งและความหลงใหลในลูกค้าของเขา จะได้รับการต้อนรับและชื่นชมจากทีมงานของเราในญี่ปุ่น”

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีอาชีพของ Ostijn ซึ่งครอบคลุมทุกด้านของอุตสาหกรรมประกันชีวิต ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์การเงิน การดำเนินงานการบริการลูกค้าและเทคโนโลยี นอกจากนี้เขายังใช้เวลามากกว่าทศวรรษในการบริหารการดำเนินงานนายหน้าประกันภัยจากการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในเบลเยียม และมีบทบาทในระดับภูมิภาค เช่น หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินและหัวหน้าฝ่ายริเริ่มเชิงกลยุทธ์

ผู้ที่จะมารับตำแหน่งต่อจาก Ostijn ในตำแหน่งหัวหน้า EMEA คือ Nuria Garcia รองประธานอาวุโสและรองหัวหน้า EMEA โดยเธอเธอจะรายงานต่อ  Khalaf

“Nuria ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจและการเป็นหุ้นส่วนตลอดจนความใส่ใจในลูกค้า” Khalaf กล่าว “เธอเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง ผู้ที่สามารถเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในและภายนอกเพื่อทำงานร่วมกันในธุรกิจ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ และการตลาด ความเป็นผู้นำของเธอมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้และผมมีความมั่นใจทุกครั้งว่าเธอจะยังคงสร้างผลงานที่ดีต่อไปในอนาคต”

Garcia มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีใน EMEA ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดจำหน่ายการตลาด การปฏิบัติการ และการเงิน ทั้งกับ MetLife และ GE

“เมื่อนำมารวมกัน แล้วการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาคนและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านผู้นำในระดับลึกของเราที่พร้อมจะทำงานทันทีและส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นของเรา” Khalaf กล่าว

เกี่ยวกับ MetLife

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทในเครือ ("MetLife") เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกที่ให้บริการประกันภัย เงินรายปี ผลประโยชน์ของพนักงาน และการจัดการสินทรัพย์เพื่อช่วยให้ลูกค้าบุคคลและสถาบันสามารถไปต่อได้โลกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ MetLife ก่อตั้งขึ้นในปี  พ.ศ. 2411 มีการดำเนินงานในกว่า 40 ตลาดทั่วโลกและดำรงตำแหน่งผู้นำในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ละตินอเมริกา เอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.metlife.com.

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในการเปิดเผยนี้ใช้คำตัวอย่างเช่น "พินัยกรรม" ตั้งอยู่บนสมมติฐานและความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนรวมถึง "ปัจจัยเสี่ยง" ที่ MetLife, Inc. อธิบายไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ผลลัพธ์ในอนาคตของ MetLife อาจแตกต่างออกไป และ MetLife  ไม่มีหน้าที่ในการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อความเหล่านี้

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201015005425/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ: Randy Clerihue, 646-552-0533

ติดต่อสำหรับนกลงทุน: John Hall, 212-578-7888

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ไตรคอร์กรุ๊ปแต่งตั้งคุณดีแลนด์ หม่า (Dyland Mah) ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เพื่อขยายธุรกิจในประเทศไทย

Logo

ฮ่องกงและประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–9 ตุลาคม 2020

ไตรคอร์กรุ๊ป (“ไตรคอร์”) ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการขยายการประกอบธุรกิจระดับชั้นนำของเอเชีย ซึ่งให้บริการต่างๆ ทั้งบริการธุรกิจแบบบูรณาการ บริการต่างๆ เกี่ยวกับบริษัท บริการนักลงทุน บริการบริหารทรัพยากรบุคคลและเงินเดือน บริการทรัสต์สำหรับองค์กร บริการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และบริการให้คำปรึกษาทางด้าน
กลยุทธ์ทางธุรกิจ ได้ประกาศการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่ผู้มากด้วยประสบการณ์ คุณดีแลนด์ หม่า (Dyland Mah) ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการประจำไตรคอร์ประเทศไทย

โดยเขาจะรายงานขึ้นตรงกับประธานกรรมการบริหารกลุ่มไตรคอร์กรุ๊ปคุณเลนนาร์ด ย้ง เป้าหมายสำคัญที่คุณดีแลนด์จะต้องมุ่งเน้นคือ จะพัฒนาและนำสิ่งใหม่ ๆ มาใช้กับธุรกิจของไตรคอร์ประเทศไทย รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำของตลาดในประเทศไทย โดยคุณดีแลนด์จะเข้ามารับผิดชอบในการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กร ขยายฐานลูกค้า และผลักดันการเปลี่ยนแปลงโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจ

คุณดีแลนด์มีประสบการณ์ด้านการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สะสมมาจากการดำรงตำแหน่งต่างๆ ในระดับผู้บริหารภูมิภาคอาวุโส อาทิ กรรมการบริหารด้านการขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัทข้ามชาตชั้นนำ เป็นผู้อำนวยการด้านการเงินและเลขานุการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่มีรายได้ต่อปีมากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตำแหน่งต่าง ๆ ที่คูเปอร์ส แอนด์ ไลแบรนด์ (ก่อนควบรวมเป็นพีดับบลิวซี) ซึ่งได้ให้คำปรึกษากับลูกค้าข้ามชาติจากหลากหลายอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คุณดีแลนด์ยังผ่านการอบรมวิชาชีพบัญชี (professionally-trained chartered certified accountant) และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพต่างๆ รวมถึงเป็นสมาชิกของสมาคมนักบัญชีของประเทศอังกฤษ (Fellow of the Association of Chartered Certified Accountants)

คุณเลนนาร์ด ย้ง ประธานกรรมการบริหารกลุ่มไตรคอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “นี่ถือเป็นเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับไตรคอร์ ที่เรายังทำการขยายและทำให้องค์กรของเราเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงอย่างมากเพิ่มขึ้นไปอีกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผ่านการควบรวมกิจการ การร่วมมือทางธุรกิจ และการเติบโตจากภายในองค์กรเอง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของเรา ที่เราจะได้นำเสนอโอกาสสำคัญให้แก่ลูกค้าของเราเพื่อขยายธุรกิจและการลงทุนในตลาดซึ่งเติบโตเร็วและมีความเป็นพลวัต”

“เราต้องขอขอบคุณ คุณสมจินต์ พลพรประเสริฐ นับเป็นเวลามากกว่า 15 ปี  สำหรับการอุทิศตนเองทำงานหนักของคุณสมจินต์ ด้วยความเป็นมืออาชีพพร้อมทั้งความซื่อสัตย์ต่อองค์กรและลูกค้าเพื่อธำรงชื่อเสียงขององค์กรตลอดมา เราขอให้คุณประสบแต่สิ่งดี ๆ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราและน้อง ๆ พนักงานที่ไตรคอร์ ประเทศไทยจะต้องคิดถึงคุณอย่างมากแน่นอน” “ในช่วงเวลาต่อจากนี้ คุณดีแลนด์ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดและมีผลงานเป็นที่พิสูจน์มาแล้ว จะมาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ไตรคอร์ดำเนินการขยายฐานลูกค้าและการบริการในประเทศไทยต่อไป ผมรอคอยที่จะร่วมงานกับเขาและทีมงานบริหารคนอื่น ๆ เพื่อผลักดันกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจในเอเชียแฟซิฟิก เพิ่มตลาดใหม่ ๆ และคว้าโอกาสในการดูแลลูกค้าให้มากขึ้น”

คุณดีแลนด์ หม่า กล่าวว่า “จากภาวะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในปี 2562 ที่เพิ่มสูงขึ้น 5% อันเป็นจำนวนที่ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติที่จำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นหกพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาเซียนจึงถือเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนธุรกิจของโลก และความสำคัญของประเทศไทยในฐานะที่เป็นตลาดสำหรับการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจเติบโตมากยิ่งขึ้น ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับไตรคอร์ และพร้อมที่จะได้ทำงานกับทีมงานคุณภาพเพื่อที่จะเพิ่มพูนมูลค่าและศักยภาพสำหรับให้บริการลูกค้าของเรา”

ขอบคุณ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

HONG KONG SAR (GROUP OFFICE)

Sunshine Farzan

Tricor Services Limited

Group Head of Marketing & Communications

Tel: +852 2980 1261

Email: Sunshine.Farzan@hk.tricorglobal.com

เกี่ยวกับไตรคอร์กรุ๊ป

ไตรคอร์กรุ๊ป (“ไตรคอร์”) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการประกอบธุรกิจระดับชั้นนำของเอเชีย ซึ่งมีองค์ความรู้ระดับโลก และมีสำนักงานให้บริการธุรกิจทางด้านต่าง ๆ เช่น กฏหมายบริษัท บริการนักลงทุน บริการทรัพยากรบุคคลและเงินเดือน บริการทรัสต์สำหรับองค์กร บริการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และบริการให้คำปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยไตรคอร์พร้อมสนับสนุนตั้งแต่ขั้นตอนการวางฐานรากของธุรกิจ และส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจในทุกช่วง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การจัดตั้งบริษัทไปจนถึงการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ไตรคอร์ได้พัฒนาการเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากการเติบโตภายในองค์กร และจากการร่วมมือทางธุรกิจ ตลอดจนการควบและรวมกิจการ ปัจจุบัน ไตรคอร์กรุ๊ปมีลูกค้าในความดูแลมากกว่า 50,000 รายทั่วโลก (ซึ่งรวมถึงลูกค้าที่จีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 20,000 ราย) และมีพนักงานมากกว่า 2,700 คน จากเคริอข่ายสำนักงานใน 47 เมืองจาก 21 ประเทศ / เขตการปกครอง โดยจำนวนลูกค้าดังกล่าว เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงและที่จีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า 1,500 บริษัท เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์และมาเลเซียโดยประมาณ 500 บริษัท และมากกว่า 40 % เป็นบริษัทที่อยู่ในรายชื่อบริษัทชั้นนำ 500 แห่งทั่วโลกจากการรวบรวมและจัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune รวมทั้งบริษัทข้ามชาติ และบริษัทจำกัดอื่น ๆ ที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายประเทศ โดยไตรคอร์กรุ๊ปอยู่ภายใต้การบริหารและการถือหุ้นของกองทุนเพอร์มีรา (Permira Fund) นับตั้งแต่ มีนาคม 2560

โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: www.tricorglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

วิธีการสร้างรายได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ในช่วงวิกฤต

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF FXCLEARING)–7 ตุลาคม 2563

ถ้าเป้าหมายของคุณคือการหารายได้เพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ การเทรดฟอเร็กซ์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากโดยส่วนใหญ่การลงทุนจะได้กำไรเมื่อตลาดอยู่ในขาขึ้นเท่านั้น แต่ว่าการเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถทำกำไรได้แม้ในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

ถ้าเป้าหมายของคุณคือการหารายได้เพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ การเทรดฟอเร็กซ์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากโดยส่วนใหญ่การลงทุนจะได้กำไรเมื่อตลาดอยู่ในขาขึ้นเท่านั้น แต่ว่าการเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถทำกำไรได้แม้ในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

เริ่มลงทุนอย่างไร

ข้อแรกคืออย่าลงทุนด้วยจำนวนเงินที่คุณไม่สามารถสูญเสียไปได้ และก่อนอื่นคุณต้องมีการจัดการเงินที่ดีก่อนในช่วงที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำนี้ ซึ่งความรู้ทางด้านการเงินสามารถช่วยคุณได้ ให้คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงิน ความรู้นี้จะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ดีขึ้น รวมถึงรู้วิธีลดค่าใช้จ่ายและวิธีการหาช่องทางหารายได้เพิ่มเติม

คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเงินนานก่อนที่จะลงทุน ข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์ก็คือคุณสามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยได้ คุณสามารถเริ่มทำรายได้ในตลาดจากเงินเพียงแค่ $100 และเมื่อคุณมีรายได้เพิ่มเติมจากงานอื่น คุณก็สามารถฝากเงินลงทุนเพิ่มได้ ด้วยวิธีนี้จำนวนกำไรจากการเทรดของคุณก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้

คุณไม่สามารถเข้าไปเทรดในตลาดด้วยตัวเองได้หากไม่มีโบรกเกอร์ เนื่องจากคุณจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล โบรกเกอร์จะเป็นบริษัทให้บริการเทรดที่จะให้คุณสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยเทียบเท่ากับลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าสิบเท่าหรือร้อยเท่าได้

การเลือกโบรกเกอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ ให้คุณพิจารณาจากหัวข้อเหล่านี้:

  1. เงื่อนไขการเทรด – สเปรดและเลเวอเรจ
  2. การฝากถอนเงิน – ช่องทางการฝากถอนเงินและจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ
  3. โปร่งใส – ไม่ปกปิดเงื่อนไขใด ๆ
  4. ไม่มีค่าคอมมิชชัน หรือมีค่าคอมมิชชันต่ำ
  5. ความเสี่ยงต่ำ – รองรับบัญชีหน่วยเซนต์ และสามารถเปิดออเดอร์ปริมาณน้อย ๆ ได้

เริ่มต้นศึกษา

อย่าเพิ่งเริ่มลงทุนโดยไม่มีความรู้และการฝึกฝนเทรดก่อน สำหรับขั้นตอนแรก ให้คุณศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับฟอเร็กซ์ก่อนดังนี้:

  • อ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและจิตวิทยาการเทรด
  • เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการเทรดรวมถึงกลยุทธ์การเทรด ให้คุณเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับคุณ
  • เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยง และให้ทำแผนการเทรดขึ้นมา

เมื่อคุณมีความรู้เบื้องต้นแล้ว ให้คุณเริ่มทดลองเทรดที่บัญชีเดโม และเมื่อคุณมีประสบการณ์มากพอและมีความมั่นใจ ให้คุณเริ่มต้นเทรดที่บัญชีจริงได้

แน่นอนว่าขั้นตอนทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา อาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณมีความรู้และประสบการณ์มากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งสามารถทำกำไรได้มากขึ้นในภายหลังแม้กระทั่งในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การลงทุนเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพมากในการให้คุณรวมถึงคนที่คุณรักมีอิสรภาพทางการเงิน

www.fxclearing.com

—————————————-

ข้อความปฎิเสธความรับผิดชอบ

Thai Business News ไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการเงินและไม่แนะนำหรือต่อต้านการซื้อขายสกุลเงินหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ และไม่ได้แนะนำโบรกเกอร์ใดๆ โดยเฉพาะการซื้อขายตราสารดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ในกรณีของการสูญเสียตราสารที่มีเลเวอเรจอาจเกินมูลค่าของเงินลงทุนเดิม

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบนมาร์จิ้นนั้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนในบางราย ผลการดำเนินการในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต  โดยระดับของ leverage อาจทำอันตรายกับสถานะทางการเงินของท่าน ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินนั้น ท่านควรพิจารณาจุดมุ่งหมายการลงทุนของท่าน, ระดับของประสบการณ์และการยอมรับความเสี่ยง โดยมีความเป็นไปได้ที่ท่านจะสูญเสียเงินทุนเริ่มต้นเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ดังนั้นท่านจึงไม่ควรนำเงินส่วนที่ท่านคิดว่าไม่สามารถจะสูญเสียได้มาลงทุน ท่านควรจะคำนึงถึงทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระดับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินและหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินหากท่านมีข้อสงสัยใดๆ

Lightspeed Venture Partners ขยายไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ก่อตั้งไฟแรงเพื่อสร้างนวัตกรรมบุกเบิก

Logo

สรุปหัวข้อข่าว:

  • Lightspeed ได้ลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น Grab, Chilibeli, Ula, Shipper และ NextBillion โดยมีแผนการเร่งด่วนต่อไป
  • Lightspeed จะลงทุนทั่วทั้งภูมิภาคโดยใช้ทุน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้ระดมเมื่อเร็วๆ นี้จากกองทุนทั่วโลก โดยสิงคโปร์และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่สำคัญ
  • Lightspeed ได้จัดตั้งสำนักงานประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ นำโดยทีมงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีประสบการณ์ที่แข็งแกร่งด้านการลงทุนและการดำเนินงานในระดับภูมิภาค

สิงคโปร์0–(บิสิเนสไวร์)–17 ก.ย. 2563

Lightspeed Venture Partners (“ Lightspeed”) ประกาศการดำเนินงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ Lightspeed จะเป็นพันธมิตรและสนับสนุนผู้ประกอบการไฟแรงในภูมิภาคกำลังสร้างบริษัทบุกเบิก  Lightspeed จะลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้เงินจากกองทุนทั่วโลกซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าระดมได้รวม 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200916005103/en/

Lightspeed Southeast Asia Team (pictured left to right): Akshay Bhushan, Marsha Sugana, Pinn Lawjindakul, and Bejul Somaia.(Graphic: Business Wire)

ทีม Lightspeed Southeast Asia (ภาพจากซ้ายไปขวา): Akshay Bhushan, Marsha Sugana, Pinn Lawjindakul และ Bejul Somaia (กราฟฟิค : บิสิเนสไวร์)

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจที่เพราะโรคโควิด 19 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่รวดเร็วในอุตสาหกรรมและประเภทต่างๆ แรงหนุนเหล่านี้ทำให้ผู้ก่อตั้งที่แข็งแกร่งสามารถสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ  Lightspeed มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ก่อตั้งทั่วทั้งภูมิภาคที่กำลังสร้างอนาคตใหม่จากการหยุดชะงักครั้งนี้โดยการใช้เทคโนโลยี

ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา Lightspeed ได้สนับสนุนผู้ก่อตั้งนักบุบเบิกตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงช่วงเติบโต กว่า 70% ของการลงทุนเป็นบริษัทในระยะเริ่มต้น โดยมักจะเป็นหุ้นส่วนทุนสถาบันรายแรก  ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Lightspeed มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับการลงทุนตั้งแต่ระยะแรกๆ โดยช่วยตอบโจทย์ที่เป็นเอกลักษณ์ในเอเชียในภาคส่วนต่าง เช่นการค้า ฟินเทค edtech และ SaaS และอื่นๆ อีกมากมาย

“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศของสตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยเกิดจากความสามารถพิเศษของผู้ประกอบการในภูมิภาคนี้  เราเชื่อว่าระบบนิเวศสตาร์ทอัพจะยังคงขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญและรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการในช่วงที่พวกเขาสร้างและขยายขนาดบริษัท” Akshay Bhushan หุ้นส่วนของ Lightspeed Venture Partners กล่าว

Lightspeed ได้ลงทุนไปแล้วในซุปเปอร์แอพพลิเคชั่นแห่งภูมิภาค Grab  แพลตฟอร์มพาณิชย์สังคม Chilibeli แอพตลาด B2B Ula ผู้ให้บริการองค์กรซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ NextBillion.ai เช่นเดียวกับบริษัทจัดส่งสินค้า Shipper  นอกจากนี้บริษัทในพอร์ตโฟลิโอของ Lightspeed หลายแห่งกำลังขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในสิงคโปร์ ได้แก่ Snap, OYO Rooms, Yellow Messenger และ Darwinbox เป็นต้น  นอกจากนี้กิจการหลายแห่งกำลังสร้างธุรกิจที่มีความสามารถด้านวิศวกรรมจากอินเดียและพื้นที่อื่นๆ

“ภารกิจของเราที่ Lightspeed ยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าเราจะขยายตัวจากซิลิคอนวัลเลย์ไปยังอิสราเอล จีน อินเดีย ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่กล้าหาญซึ่งกำลังสร้างบริษัทในอนาคตในวันนี้” Ravi Mhatre ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Lightspeed Venture Partners กล่าว “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในระบบนิเวศนวัตกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยและเราหวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยาวนานกับผู้ก่อตั้งและชุมชนเทคโนโลยีที่กว้างขึ้น”

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา Lightspeed ได้ช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ เติบโตกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ได้แก่ Snap (สหรัฐฯ), Nutanix (สหรัฐฯ), Pinduoduo (จีน), Man Bang group (จีน), Grab (เอเชีย), ห้อง OYO (อินเดีย), Udaan (อินเดีย) และ Byju's (อินเดีย).  Lightspeed มีส่วนร่วมอย่างอย่างลึกซึ้งกับการลงทุนเพื่อให้ผู้ก่อตั้งประสบความสำเร็จโดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกการแนะนำลูกค้า ความสามารถและการสนับสนุนด้านการตลาด และเงินทุนในการเติบโต

“ด้วยประชากรจำนวนมากที่เข้าใจเทคโนโลยีและอายุที่น้อย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เรามีความเชื่อมั่นอย่างมากในโอกาสที่นี่และความสามารถที่ผู้ก่อตั้งในภูมิภาคนี้ได้แสดงให้เห็น” Bejul Somaia หุ้นส่วนหุ้นส่วนของ Lightspeed Venture กล่าว “การดำเนินงานในระดับโลกของเรา เมื่อรวมกับความเชี่ยวชาญของทีมงานในพื้นที่แล้ว จะช่วยให้ผู้ก่อตั้งภูมิภาคสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสระดับโลกได้ดีขึ้นและเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับพวกเขา”

Lightspeed จะนำพากิจกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากสำนักงานประจำภูมิภาคในสิงคโปร์  ทีมงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยผู้มีความสามารถจากทั่วภูมิภาค พร้อมด้วยประสบการณ์ การดำเนินงาน และการลงทุนที่หลากหลายในยูนิคอร์นระดับภูมิภาคและบริษัทข้ามชาติ  ทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วย:

  • Akshay Bhushan หุ้นส่วน ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา Akshay เป็นผู้นำการลงทุนร่วมกับ Lightspeed  ก่อนหน้านี้เขาเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งทีมพัฒนาองค์กรของ Flipkart ซึ่งเป็นผู้นำการลงทุนเชิงกลยุทธ์และการเข้าซื้อกิจการของสตาร์ทอัพ  ก่อนหน้าการทำงานที่ Flipkart, Akshay เคยเป็นที่ปรึกษาของ Bain & Company ซึ่งเขาได้ก่อตั้ง บริษัท Atlanta Private Equity Practice ซึ่งเป็นองค์กรลงทุนระยะแรกในอินเดียและผู้ร่วมก่อตั้ง Whalelogix แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของนักช้อป
     
  • Bejul Somaia หุ้นส่วน Bejul เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2542 ได้เข้าร่วมงานกับ Lightspeed ในปี 2551 และมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งบริษัท Lightspeed India  เขามีส่วนช่วยในการสร้างบริษัทที่กำหนดตลาดเช่น OYO Rooms และ Udaan ในอินเดีย
     
  • Pinn Lawjindakul รองประธาน Pinn ได้ทำงานร่วมกับผู้ก่อตั้งในจีนและอินเดีย  นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับ Grab ในช่วงแรกๆ ของซุปเปอร์แอพพลิเคชั่นนี้แล้ว เธอยังเคยทำงานกับ Tiger Global Management ในสิงคโปร์ซึ่งทำงานในบริษัทพอร์ตโฟลิโอในด้านต่างๆ เช่น fintech ไรด์แชร์ การสื่อสารและอีคอมเมิร์ซ  นอกจากนี้เธอยังทำงานกับ Bain & Company ซึ่งเธอให้คำแนะนำแก่ลูกค้าหุ้นเอกชนในช่วงแรกของการเริ่มต้นธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
     
  • Marsha Sugana รองหุ้นส่วนอาวุโสด้านการลงทุน Marsha เคยดำรงตำแหน่ง Private equity ร่วมกับ L Catterton และ Goldman Sachs ในอดีตและมีประสบการณ์ครอบคลุมบริษั ผู้บริโภคและบริษัทค้าปลีกมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เธอยังทำงานร่วมกับแผนกที่ปรึกษาตลาดการเงินของ BlackRock ในนครนิวยอร์กในฐานะนักวิเคราะห์

ด้วยการขยายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ Lightspeed ยังคงมุ่งมั่นในพันธกิจมากกว่าที่เคย ซึ่งก็คือการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการไฟแรงในการสร้าง บริษัทที่ยอดเยี่ยมในอนาคต

เกี่ยวกับ Lightspeed Venture Partners

Lightspeed Venture Partners เป็นบริษัทร่วมทุนหลายขั้นตอนที่มุ่งเน้นการเร่งสร้างนวัตกรรมและแนวโน้มที่บุกเบิกในภาคธุรกิจและผู้บริโภค  ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทีมงาน Lightspeed ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการหลายร้อยรายและช่วยสร้างบริษัทมากกว่า 400 แห่งทั่วโลกรวมถึง Snap, Nest, Nutanix, AppDynamics, MuleSoft, OYO, Guardant, StitchFix และ GrubHub  ปัจจุบัน Lightspeed และบริษัทในเครือบริหารจัดการแพลตฟอร์ม Lightspeed ทั่วโลกมูลค่า 10.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและที่ปรึกษาในซิลิคอนวัลเลย์ อิสราเอล อินเดีย จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป www.lsvp.com

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: www.lsvp.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200916005103/en/

สำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ:
Pranav Rastogi – REDHILL ​​ในนามของ Lightspeed Venture Partners
pranav@redhill.asia l +6587487919

DCG ตั้ง Foundry เป็นบริษัทย่อยใหม่ล่าสุดเพื่อขยายสู่อุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์

Logo

บริษัทย่อยแห่งนี้จะเป็นผู้จัดหาทุนและให้บริการคำปรึกษาเพื่อเพิ่มอำนาจในระบบนิเวศของการขุดสินทรัพย์ดิจิทัล 
DCG ตั้งเป้าลงทุนใน Foundry เป็นมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ตลอดปี 2564

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–27 สิงหาคม 2563

Digital Currency Group (DCG) องค์กรระดับโลกผู้พัฒนา ซื้อ และลงทุนในบริษัทบล็อกเชน ประกาศถึงการก่อตั้งบริษัทในเครือใหม่ล่าสุดชื่อ Foundry หลังก่อตั้งขึ้นในปี 2562 Foundry เป็นผู้ให้บริการด้านความเชี่ยวชาญสำหรับสถาบัน ทุน และการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดให้กับนักขุดสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ผลิตต่าง ๆ โดยจัดหาแหล่งทรัพยากรสำหรับสร้าง รักษา และทำให้เครือข่ายที่มีไม่ศูนย์กลาง (decentralized network) ปลอดภัย ขณะนั้น Mike Colyer อดีตผู้บริหารแห่ง Core Scientific ถูกเลือกให้เป็นตัวเต็งที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ Foundry

Foundry ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านสถาบันด้านการเข้าถึงทุน ประสิทธิภาพของตลาด รวมถึงความโปร่งใสในอุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์ ปัจจุบัน บริษัทมีบริการต่าง ๆ อยู่สามด้านที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ สินเชื่อที่ใช้เครื่องจักรเป็นหลักค้ำประกันและบริการจัดหา บริการขุดและการตรวจสอบธุรกรรมแบบวางเงินค้ำประกัน (staking) และบริการที่ปรึกษา

นับตั้งแต่ก่อตั้ง Foundry ทะยานสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทขุดบิตคอยน์รายใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ และได้เพิ่มวงเงินสินเชื่อที่ใช้เครื่องจักรค้ำประกันเป็นหลายสิบล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรด้านการขุดบิตคอยน์และได้ช่วยจัดหาอุปกรณ์ขุดบิตคอยน์ราวครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดที่มีการส่งมอบในอเมริกาเหนือปีนี้

“เราต้องการติดอาวุธให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีศูนย์กลางในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่นี้ และงานของเราจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตของการขุดบิตคอยน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาเหนือ” Mike Colyer ซีอีโอของ Foundry กล่าว “พวกเราคือธุรกิจที่สร้างขึ้นโดยนักขุดเพื่อนักขุดเอง และพวกเราเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการที่มีพันธกิจเดียวกันกับเราในการทำให้อุตสาหกรรมนี้ก้าวหน้า และสร้างระบบนิเวศการขุดบิตคอยน์แบบไม่มีศูนย์กลางให้เกิดขึ้น”

DCG มีเป้าหมายที่จะลงทุนใน Foundry เป็นเม็ดเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดปี 2564 นี้ และเป็นครั้งแรกที่นักขุดและผู้ผลิตจะได้เข้าถึงพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือและแหล่งทุนผ่านทางเครือข่ายอันทรงพลังของ DCG

“ที่ DCG เป้าหมายของเราคือการเร่งการพัฒนาระบบการเงินที่ดีกว่าให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น” Barry Silbert ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง DCG กล่าว “การขุดบิตคอยน์และการทำสแต็กกิ้งสินทรัพย์ดิจิทัลทำให้เรามีสิ่งที่เป็นแกนหลักของเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งจะขับเคลื่อนความก้าวหน้านั้น Foundry จะนำทรัพยากรที่สำคัญและคำแนะนำมาสู่ด้านที่จำเป็นของอุตสาหกรรม และ Mike Colyer พร้อมทีมของเขามีทั้งความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ และความซื่อตรงที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งนักขุดและผู้ผลิต”

Foundry ให้ความสำคัญกับการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นรายสำคัญ ๆ ในอุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์และการทำสแต็กกิ้ง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการเข้าถึงการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลให้กว้างขึ้น กระจายโอกาสทางภูมิศาสตร์ และนำความถูกต้องและความโปร่งใสที่มากขึ้นมาสู่ระบบนิเวศการขุดบิตคอยน์ นอกจากนี้ Foundry ตั้งเป้าที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับบริษัทพลังงานและรัฐบาลเพื่อช่วยสร้างและเริ่มใช้กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการขุดบิตคอยน์

“ความเข้าใจของ Foundry ต่ออุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์บวกกับการสนับสนุนอยางเต็มรูปแบบของ DCG ได้พาบริษัทก้าวสู่การเป็นพันธมิตรหลักในการขยายธุรกิจของเราทั่วทั้งอเมริกาเหนือในปีที่ผ่านมา เราวางแผนที่จะสานต่อความร่วมมือนี้กับ Foundry ระหว่างที่เรามุ่งหน้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก” Jordan Chen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ MicroBT ผู้ผลิตเครื่องขุดบิตคอยน์จากเซินเจิ้น

“การสนับสนุนด้านงานและการเงินของ Foundry ต่อลูกค้าของเราช่วยให้เราสามารถส่งเครื่องจักรไปยังสหรัฐอเมริกาได้จำนวนมหาศาลในปีนี้” Su Ke ผู้อำนวยการด้านการขายและการตลาดทั่วโลกของ Antminer แห่ง Bitmain กล่าว “บริการระดับสถาบันของ Foundry สำหรับธุรกิจในอเมริกาเหนือและความเชี่ยวชาญของทีมงานมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราหวังที่จะได้ทำงานร่วมกับ Foundry อย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับพวกเขา”

นอกจาก Foundry แล้ว DCG ยังเป็นบริษัทแม่ของ Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเงินสกุลดิจิทัล Genesis โบรกเกอร์สำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลแบบครบวงจรเจ้าแรกของโลก และ CoinDesk บริษัทด้านสื่อและกิจกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรมบล็อกเชน นอกจากนี้ DCG ยังเป็นผู้ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ กว่า 160 แห่งทั่วโลก

Colyer และทีมประจำสำนักงานอยู่ในโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก

เกี่ยวกับ Foundry

Foundry เป็นบริษัทย่อยของ DCG และเป็นบริษัทการเงินและที่ปรึกษาด้านการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลและการทำสแต็กกิ้ง ด้วยพันธกิจที่จะสร้างอำนาจให้กับโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีศูนย์กลาง (decentralized infrastructure) ให้กับโลกดิจิทัล Foundry และเป็นผู้จัดหาทุนและข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วให้กับธุรกิจขุดสินทรัพย์ดิจิทัลในอเมริกาเหนือ

สำนักงานของ Foundry ตั้งอยู่ที่โรเชสเตอร์ นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ foundrydigital.com

เกี่ยวกับ DCG

Digital Currency Group ก่อตั้งขึ้นโดย Barry Silbert ในปี 2558 และเป็นองค์กรระดับโลกที่พัฒนา ซื้อ และลงทุนในบริษัทบล็อกเชนทั่วโลก ในฐานะนักลงทุนที่มีบทบาทมากที่สุดในวงการบล็อกเชน DCG อยู่ ณ จุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบล็อกเชน ซึ่งสนับสนุนบริษัทกว่า 160 แห่งในกว่า 30 ประเทศ นอกเหนือจากบริการด้านการลงทุนแล้ว DCG ยังเป็นบริษัทแม่ของ Grayscale Investments, Genesis, CoinDesk และ Foundry อีกด้วย

สำนักงานของ DCG ตั้งอยู่ในนิวยอร์กซิตี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ dcg.co

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20200827005146/en/

สื่อ

Mark Murphy

press@dcg.co

media@foundrydigital.com