Category Archives: Finance

Planto ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ Fintech Innovation Challenge: การใช้ประโยชน์จาก AI สำหรับ SMEs ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Asian Development Bank

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–06 มีนาคม 2025

Planto บริษัทฟินเทคที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกงได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะ AI สำหรับ SMEs Challenge จาก Asian Development Bank (ADB)! การยกย่องนี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเพิ่มศักยภาพให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยโซลูชั่นทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สร้างผลกระทบอย่างแท้จริง

โดยแนวทางของ Planto มีจุดมุ่งเน้นอยู่ที่:

✅ การพัฒนาการประเมินสินเชื่อและขยายการเข้าถึงเงินทุน – ทำให้ SME ได้รับการประเมินที่ยุติธรรมและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อปลดล็อกโอกาสในการเติบโต

✅ การสนับสนุนการจัดการทางการเงินและการศึกษา – ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีเครื่องมือและความรู้ที่เหมาะสมเพื่อนำทางเส้นทางทางการเงินของพวกเขาอย่างมั่นใจ

✅ การใช้ประโยชน์จาก LLM เพื่อการแปลงเป็นดิจิทัล – ปรับปรุงกระบวนการทางการเงินและลดอุปสรรคสำหรับ SME ผ่านระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

✅ การเตรียมความพร้อมสำหรับ SME สำหรับการเงินแบบเปิด – วางรากฐานสำหรับการแบ่งปันข้อมูลที่ราบรื่นและการเชื่อมต่อทางการเงินในระบบนิเวศทางการเงินที่กำลังพัฒนา

นับจากนี้ไป Planto จะได้รับการสนับสนุนจาก ADB Digital Learning Labs โดยจะมีการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ของ ADB และธนาคารพันธมิตรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน และสร้างระบบนิเวศสำหรับ SME ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

“ที่ Planto เราเชื่อว่า AI มีพลังในการเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงทางการเงินสำหรับ SME ต่างๆ ทำให้พวกเขาเจริญเติบโตในโลกดิจิทัลมากขึ้น การได้รับการยอมรับจาก Asian Development Bank เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงภารกิจของเราในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจด้วยโซลูชั่นทางการเงินที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมต่อไป โดยส่งเสริมให้เกิดความครอบคลุมทางการเงินสำหรับธนาคาร SME ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Ankit Suri ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Planto กล่าว

“SME กว่า 70 ล้านรายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล การนำ AI มาใช้ และโครงการริเริ่มด้านการเงินแบบเปิดที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค การได้รับการยอมรับจาก ADB นี้ ได้ช่วยตอกย้ำความเชื่อของเราว่าความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินและฟินเทคสามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อ SME ได้” Apinun Narkhan ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวเสริม

โดยเงินทุนสนับสนุนสำหรับความท้าทายด้านนวัตกรรมฟินเทคได้รับจากกองทุนเทคโนโลยีระดับสูงที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นและบริหารงานโดย ADB

เกี่ยวกับ Planto

Planto Limited ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 เป็นบริษัทฟินเทคที่มีสมาชิกในทีมทั่วเอเชีย โดย Planto ได้นำเสนอโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมีส่วนร่วมด้วย AI สำหรับทั้งธนาคารและผู้บริโภคปลายทาง บริษัทได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินหลายแห่งเพื่อพัฒนาโซลูชันนวัตกรรมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางผ่าน AI ข้อมูล รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้ธนาคารสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมทางดิจิทัล การขายทางดิจิทัล และประสิทธิภาพการดำเนินงานได้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Ankit Suri, CEO
ankit@planto.io

ที่มา: Planto Limited

Multiply Group ลงนามการลงทุนครั้งสำคัญกับพันธมิตร CVC และ PAI เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น (67.91%) ใน Tendam โดยธุรกรรมดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่ม EBITDA เป็นสองเท่าของการดำเนินงานหลังการรวมกิจการ

Logo

  •  Multiply Group ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและเครื่องแต่งกายใหม่โดยมี Tendam เป็นธุรกิจหลัก ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มในอุตสาหกรรมที่เน้นผู้บริโภคมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  •  Tendam เป็นกลุ่มเครื่องแต่งกายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสเปนเมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาด และเป็นหนึ่งในกลุ่มเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป โดยมีจุดขาย 1,800 จุดในตลาดมากกว่า 80 แห่ง รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และละตินอเมริกา รวมถึงแบรนด์ต่างๆ เช่น Women’secret, Springfield และ Cortefiel
  •  สัดส่วนการถือหุ้นส่วนใหญ่ใน Tendam นี้เป็นกิจกรรมการลงทุนด้านอาคารแนวดิ่งล่าสุดโดย Multiply Group ซึ่งเพิ่งใช้เงินประมาณ 1 พันล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อซื้อ BackLite Media, Excellence Premier Investment และ The Grooming Company Holding

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–26 กุมภาพันธ์ 2025

Multiply Group PJSC (ADX: MULTIPLY) บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่มีฐานอยู่ในอาบูดาบี ซึ่งลงทุนและดำเนินธุรกิจทั่วโลกผ่านสี่ภาคส่วน ได้แก่ การเดินทาง สื่อและการสื่อสาร พลังงานและสาธารณูปโภค และความงามและสุขภาพ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลทั้งหมดสำเร็จ ได้ตกลงที่จะลงทุนโดยการเพิ่มทุนซึ่งจะทำให้ได้หุ้นควบคุม 67.91% ใน Castellano Investments S.À R.L. (“บริษัท ”) (เจ้าของ Tendam Brands S.A.U และบริษัทย่อยอื่นๆ) กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทควบคู่ไปกับ Llano Holdings S.À R.L. และ Arcadian Investments S.À R.L. ซึ่งเป็นเครื่องมือในการลงทุนขององค์กรสำหรับ CVC Funds และ PAI Partners ตามลำดับ ซึ่งจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัท

Multiply Group signs landmark investment with CVC and PAI Partners to secure a controlling stake in Tendam (Photo: AETOSWire)

Multiply Group ลงนามการลงทุนครั้งสำคัญกับ CVC และ PAI Partners เพื่อควบคุมสัดส่วนการถือหุ้นใน Tendam (ภาพ: AETOSWire)

Tendam เป็นกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสเปน เมื่อพิจารณาจากส่วนแบ่งการตลาด และเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel ชั้นนำของยุโรป Multiply Group จะเป็นผู้นำในการเติบโตในระยะต่อไปของ Tendam โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายตัวในระดับนานาชาติและการพัฒนาระบบนิเวศแบบ Omnichannel ของกลุ่มต่อไป การทำธุรกรรมดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

ด้วยการลงทุนครั้งนี้ Multiply Group จึงสามารถสร้างสถานะของตนเองในภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกายได้ โดยมี Tendam ทำหน้าที่เป็นเสาหลักสำหรับแนวทางใหม่นี้ ข้อตกลงนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งแรกของ Multiply Group ในยุโรป ซึ่งถือเป็นการเติบโตทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญและช่วยให้บริษัทมีสถานะที่มั่นคงยิ่งขึ้นในธุรกิจที่เน้นผู้บริโภค

ตั้งแต่ปี 2020 Tendam มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยรวบรวมโมเดลธุรกิจในตลาดสำคัญๆ และขยายการดำเนินงานในต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2025 ยอดขายรวมของ Tendam ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (LTM) อยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านยูโร โดยมี EBITDA หลัง IFRS-16 ที่ 341 ล้านยูโร

Samia Bouazza ซีอีโอกลุ่มและกรรมการผู้จัดการ Multiply Group  กล่าวว่า “การถือหุ้นส่วนใหญ่ใน Tendam บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์สามประการสำหรับ Multiply Group ซึ่งได้แก่ ช่วยให้เราเดินหน้าต่อไปตามคำมั่นสัญญาของเราในการสร้างการเติบโตของ EBITDA ในระดับสองหลัก ถือเป็นการเข้าสู่ภาคค้าปลีกและเครื่องแต่งกายเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้และเชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสุดท้าย การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่ชัดเจนในการพยายามขยายธุรกิจไปทั่วโลกของเรา ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มธุรกิจสามารถขยายพอร์ตโฟลิโอระหว่างประเทศต่อไปได้ในปีต่อๆ ไป”

Tendam กลายเป็นผู้บุกเบิกในภาคส่วนค้าปลีกเครื่องแต่งกายแบบ Omnichannel โดยมีจุดขายมากกว่า 1,800 จุดในเกือบ 80 ประเทศใน 4 ทวีป โดยมีแบรนด์ของตัวเอง 12 แบรนด์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มตลาดมวลชนระดับพรีเมียม (Women’secret, Springfield, Cortefiel, Pedro del Hierro, Hoss Intropia, Slowlove, High Spirits, Dash and Stars, OOTO, HI&BYE, Milano และไลน์เสื้อผ้าเด็ก Springfield Kids) ตลอดจนแบรนด์บุคคลที่สามเกือบ 200 แบรนด์ คลับสะสมคะแนนที่มีชื่อเสียง ความสามารถทางเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำตลาด เครือข่ายที่กว้างขวางซึ่งประกอบด้วยจุดขายมากกว่า 1,800 จุด (รวมถึงร้านค้าที่ดำเนินการโดยตรง มุมถนน และแฟรนไชส์) และออนไลน์

จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ Multiply Group ในการสร้างแบรนด์บนแพลตฟอร์มของ Tendam และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตด้วยการเข้าถึงตลาดค้าปลีกเครื่องแต่งกายทั่วโลกที่ 1.3 ล้านล้านยูโร

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเข้าซื้อกิจการ และกิจกรรมขยายธุรกิจแบบแนวดิ่งต่างๆ ของ Multiply Group ซึ่งบริษัทประสบความสำเร็จในการเข้าควบคุมสัดส่วนการถือหุ้นใน Excellence Premier Investment, Media 247, BackLite Media และ The Grooming Company Holding และบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพประจำปี 2024 เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

Jaume Miquel ประธานและซีอีโอของ Tendamเน้นย้ำว่า “นับตั้งแต่นำกลยุทธ์ Tendam 5.0 มาใช้ Tendam ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่น โดยได้รับการสนับสนุนจากการสร้างระบบนิเวศแบบ Omnichannel ที่มีเอกลักษณ์และไม่มีใครเทียบได้ การลงทุนของ Multiply Group ถือเป็นการรับรองกลยุทธ์ดังกล่าวและช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในทำนองเดียวกัน CVC Funds และ PAI ผ่าน Llano และ Arcadian ให้ความต่อเนื่องและความเข้าใจในเชิงลึกที่แข็งแกร่งของบริษัท นักลงทุนทั้งหมดของเรา ร่วมกับทีมผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่น ถือเป็นหลักประกันที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตและความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง”

Caroline Goergen ผู้อำนวยการของ Llano Holdings S.à r.l.,กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับ Multiply Group และยังคงสนับสนุน Tendam ต่อไปในช่วงการเติบโตใหม่นี้ เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งต่อทีมผู้บริหารของ Tendam ซึ่งได้สร้างระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตลาดอย่างมาก เรายังคงกระตือรือร้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Tendam และการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเรา”

Laura Muries หุ้นส่วนและหัวหน้าสเปนของกองทุนเรือธงของ PAIกล่าวว่า: “นับตั้งแต่ที่เราลงทุนในปี 2017 ความร่วมมือกับ Tendam ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบัน Tendam เป็นบริษัทชั้นนำที่ทำกำไรได้หลายช่องทาง โดยสามารถเข้าถึงลูกค้า 24 ล้านรายและเติบโตเหนือตลาดอย่างต่อเนื่อง เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนบริษัทในการพัฒนากลยุทธ์ใหม่นี้ในระดับสากลต่อไป” 

Multiply Group ได้รับคำแนะนำจาก Greenhill (บริษัทในเครือ Mizuho), Hogan Lovells และ KPMG เกี่ยวกับธุรกรรมนี้ Castellano และผู้ถือหุ้นปัจจุบันได้รับคำแนะนำจาก Uria Menendez นอกจากนี้ Ramón Hermosilla Abogados และ Latham & Watkins LLP ยังเป็นที่ปรึกษากฎหมายในธุรกรรมนี้ด้วย

Multiply Group ประสบความสำเร็จอย่างแข็งแกร่งในปี 2024 โดยวัดผลจากตัวชี้วัดสำคัญ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่มธุรกิจการเดินทาง สื่อ และความงาม รายได้ของกลุ่มพุ่งสูงขึ้น 56% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าระดับ 2 พันล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และขับเคลื่อนด้วยการเติบโตแบบออร์แกนิกเป็นตัวเลขสองหลักในทุกแนวดิ่ง ส่งผลให้ EBITDA ของกลุ่มเติบโต 15% แตะที่ 1.9 พันล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 *ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/54214631/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
Wassim El Jurdi
Multiply Group
M: +971 56 105 9595
E: wassim@multiply.ae

Rawad Khattar
Weber Shandwick
M: +971 56 336 2131
E: rkhattar@webershandwick.com

ที่มา: Multiply Group PJSC

แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศแต่งตั้ง วรฉัตร ลักขณาโรจน์ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารคนต่อไปของ 2C2P เดินหน้าขยายธุรกิจ-เสริมทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอบรับเอสเอ็มอีทั่วภูมิภาค

Logo

  • วรฉัตร ลักขณาโรจน์ พร้อมนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดฟินเทคมาขับเคลื่อน 2C2P จากผู้ให้บริการเกตเวย์การชำระเงินแก่ลูกค้าองค์กรสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลและบริการทางการเงินแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกขนาดรวมถึงกลุ่มเอสเอ็มอีทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • ออง โจ โม ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของ 2C2P จะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนเมษายนนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว หลังจาก 22 ปีในฐานะผู้นำที่เปลี่ยน 2C2P ให้กลายเป็นผู้ให้บริการระบบชำระเงินชั้นนำระดับภูมิภาคที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากลูกค้ามากมาย ทั้งในภาคธุรกิจการบิน อีคอมเมิร์ซ ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ และอื่นๆ
  • แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (หรือในชื่อเดิม กลุ่มธุรกิจต่างประเทศของแอนท์ กรุ๊ป) ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน 2C2P เมื่อเดือนเมษายน 2565 โดยนับจากนั้นทั้งสองบริษัททำงานประสานกันได้อย่างแข็งแกร่งด้วยการผสานผลิตภัณฑ์และทีมงานของทั้งสองฝ่ายเพื่อพัฒนาโซลูชันที่เปี่ยมนวัตกรรมสำหรับลูกค้า

กรุงเทพฯ / สิงคโปร์  25 กุมภาพันธ์ 2568 

แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินดิจิทัล นวัตกรรมดิจิทัล และเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับโลก ประกาศแต่งตั้งคุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร (CEO) คนต่อไปของ 2C2P โดยคุณวรฉัตรจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนเมษายน 2568 หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

Worachat Luxkanalode (Photo: Business Wire)

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ (รูปภาพ: Business Wire))

ในบทบาทนี้ คุณวรฉัตรจะดูแลกลยุทธ์ทางธุรกิจและการดำเนินงานโดยรวมของ 2C2P และเข้ามาสานต่อภารกิจในการยกระดับกลยุทธ์ของบริษัท จากเดิมที่เน้นการให้บริการลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เป็นหลัก สู่การให้บริการแก่ธุรกิจทุกขนาดรวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ 2C2P เป็นธุรกิจในเครือของแอนทอม (Antom) ผู้ให้บริการ โซลูชันด้านการชำระเงินและนวัตกรรมดิจิทัลระดับโลกภายใต้ความดูแลของ แอนท์ กรุ๊ป โดยปัจจุบัน 2C2P ให้บริการแก่ธุรกิจชั้นนำทั้งในภาคการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ ความบันเทิง และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

แกรี่ หลิว ผู้จัดการทั่วไปของแอนทอม – แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “แอนทอมและ 2C2P  ได้ต่อยอดนวัตกรรมร่วมกันและขยายระบบนิเวศเพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในระดับโลกและท้องถิ่น ผลักดันการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและภูมิทัศน์การชำระเงินในภูมิภาคนี้  แอนทอมและ 2C2P จะยังคงอยู่แนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ ในฐานะทีมที่เป็นหนึ่งเดียวภายใต้พันธกิจร่วมกัน ในการเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการทุกขนาด ด้วยโซลูชันที่ล้ำสมัยและบริการระดับโลก พร้อมรองรับและขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งในยุคดิจิทัล”

“คุณวรฉัตรนับเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการฟินเทค ที่พรั่งพร้อมด้วยประสบการณ์และผลงานที่ผ่านการพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว ในด้านบริการชำระเงิน การเงินการธนาคารเชิงดิจิทัล และการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า 2C2P จะสามารถสานต่อความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมให้ก้าวไปอีกขั้น ภายใต้การนำของคุณวรฉัตร ทั้งยังขยายบริการของเราให้ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีในภูมิภาคนี้อย่างกว้างขวางขึ้น ควบคู่ไปกับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่” คุณหลิวเสริม

ปัจจุบันคุณวรฉัตรร่วมงานอยู่กับแกร็บ ซูเปอร์แอปชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของแกร็บ ประเทศไทย ทั้งนี้คุณวรฉัตรเข้าร่วมงานกับแกร็บเมื่อปี 2562 และผ่านการทำงานหลากหลายตำแหน่งจวบจนปัจจุบัน ทั้งในฐานะกรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย และกรรมการบริหารของแกร็บ ประเทศไทย ก่อนหน้านี้คุณวรฉัตรมีประสบการณ์ในบทบาทผู้บริหารระดับสูงของธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 17 ปี ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกนวัตกรรมดิจิทัลในภาคการเงินการธนาคารของไทยอีกด้วย

คุณวรฉัตรกล่าวในโอกาสนี้ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับแอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนลและเข้ามาดูแล 2C2P ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ขณะที่เรากำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดบริการชำระเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง บทบาทของผมจะมุ่งเน้นไปที่การปรับกลยุทธ์ขององค์กร ให้พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มเอสเอ็มอีในภูมิภาคนี้ได้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยการต่อยอดจากรากฐานอันแข็งแกร่งที่วางไว้ โดยทีมผู้บริหารชุดปัจจุบันของ 2C2P โดยเฉพาะผู้ก่อตั้งที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อย่างคุณออง”

“นับจากนี้ไป 2C2P จะทำงานร่วมกับแอนทอมอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นไปอีก และกลายเป็นส่วนสำคัญในบริการและนวัตกรรมแบบครบวงจรที่แอนทอมมอบให้กับผู้ประกอบการทั่วโลก ผมมั่นใจว่าทีมงานทั้งสองจะสามารถร่วมกันสรรสร้างโซลูชันด้านการชำระเงิน นวัตกรรมดิจิทัล และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์อย่างแม่นยำมากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเสริมพลังให้ธุรกิจในทุกระดับเติบโตได้ดียิ่งขึ้นในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล” คุณวรฉัตรเสริม

2C2P ก่อตั้งขึ้นโดยคุณออง โจ โม ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2546 โดยในเดือนเมษายน 2566 แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (หรือในชื่อเดิม กลุ่มธุรกิจต่างประเทศของแอนท์ กรุ๊ป) ได้เข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน 2C2P ก่อนที่ทั้งสองบริษัทจะร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมมาผสมผสานกันได้ลงตัว และยังสรรสร้างนวัตกรรมในระดับแนวหน้าของตลาดบริการด้านการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ปริมาณการรับชำระเงินรายปีของ 2C2P ได้เพิ่มขึ้นถึงเกือบสองเท่าตัวขณะที่ปริมาณการชำระเงินรวม (Total Payment Volume; TPV) จากลูกค้ารายหลักของแอนทอมที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันให้บริการก็เพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่าตัว

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้มาจากลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งอีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก สายการบิน ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ธุรกิจโรงแรม อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ดิจิทัลคอนเทนต์ และธุรกิจแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) ครอบคลุมตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันเปิดตัวนวัตกรรมหลายอย่าง เช่น แอนทอม บิสซิเนส แอคเคาท์ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับชำระเงินและทำการจ่ายเงินทั้งในประเทศและข้ามประเทศได้อย่างราบรื่นด้วยบัญชีเดียว และการผนึกรวมระบบของ 2C2P เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของแอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำการชำระเงินข้ามประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า

“ในเมื่อ 2C2P อยู่ในความดูแลของคนมีฝีมือแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ ผมจะอุทิศเวลาส่วนหนึ่งให้กับงานวิจัยของผมเรื่อง ‘เส้นทางสู่ความสำเร็จและความล้มเหลวของสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: เจาะความแตกต่างของทิศทางการเติบโต’ และผมก็กำลังเขียนหนังสือเรื่อง ‘Red Kite’ ที่จะเป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตของผมเองทั้งในมุมของชีวิตส่วนตัวและการบริหารธุรกิจ นอกจากงานเขียนเหล่านี้ ผมก็รอไม่ไหวแล้วที่จะได้ขับเครื่องบินเล็กของผมไปเจอกับสถานที่ใหม่ๆ และผู้คนใหม่ๆ” คุณอองกล่าวผ่านทางโพสต์ LinkedIn

ในโอกาสนี้ คุณหลิวยังได้กล่าวขอบคุณคุณอองสำหรับความทุ่มเทและบทบาทในการขับเคลื่อน 2C2P ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอีกด้วย “วิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำของคุณอองทำให้ 2C2P ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง และยังสามารถช่วยลูกค้าองค์กรทั่วทั้งภูมิภาคให้ก้าวข้ามอุปสรรคที่ท้าทายไม่น้อยในด้านระบบการชำระเงิน จนกระทั่ง 2C2P เป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในด้านการชำระเงิน ความสำเร็จทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และความสามารถของคุณอองในการจุดประกายให้ทีมงานเดินหน้าสู่ความเป็นเลิศ”

ทั้งนี้ คุณปิยชาติ รัตน์ประสาทพร ประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของ 2C2P ประเทศไทย จะวางมือจากตำแหน่งดังกล่าวในเดือนเมษายนเช่นกัน โดยคุณอองและคุณปิยชาติจะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของ 2C2P จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้

“เราขอให้ทั้งคุณอองและคุณปิยชาติประสบกับความสำเร็จและความสมหวังต่อไปในอนาคต” คุณหลิวกล่าว

# # #

เกี่ยวกับแอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล

แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีสำนักงานใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ และดำเนินงานภายใต้พันธกิจเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของการค้าระดับโลกด้วยนวัตกรรมดิจิทัลที่สร้างโอกาสให้ทุกคนและทุกธุรกิจได้เติบโตสู่ความสำเร็จ เราร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับทั่วโลก ให้บรรลุเป้าหมายด้านการเติบโตของตนเอง ผ่านทางโซลูชันด้านการชำระเงินแบบดิจิทัล และบริการทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.antglobal.com/

เกี่ยวกับแอนทอม

แอนทอม โดยแอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการชำระเงินและนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการทั่วโลก ด้วยโซลูชันการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลแบบครบวงจร ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานแบบเฉพาะทางในแต่ละอุตสาหกรรม พร้อมตอบโจทย์ของธุรกิจทุกขนาด ทั้งนี้ แอนทอมทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในกว่า 50 ประเทศและในทุกภูมิภาค เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดกว่า 200 แห่ง และรับชำระเงินได้มากกว่า 100 สกุลเงิน นอกจากระบบชำระเงินแล้ว แอนทอมยังมีโซลูชันสำหรับการตลาดเชิงดิจิทัลและบริการ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเปลี่ยนถ่ายมาใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล จนสามารถยกระดับการดำเนินงานและดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.antom.com/

เกี่ยวกับ 2C2P

2C2P เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบครบวงจร ที่ช่วยให้องค์กรชั้นนำระดับโลกสามารถชำระและรับชำระเงินได้อย่างปลอดภัยผ่านช่องทางเดียว เครือข่ายที่กว้างขวางของ 2C2P ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์ สมาร์ทโฟน และออฟไลน์ รวมถึงจุดชำระเงินทางเลือกกว่า 600,000 แห่ง จึงช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงลูกค้าหรือผู้รับเงินได้ทุกที่ ทั้งนี้ 2C2P ยังให้บริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการทำบัตรใช้จ่ายบริการดิจิทัลวอลเล็ต ระบบความปลอดภัย 3D Secure การชำระค่าบริการ และสินค้าดิจิทัล เพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางธุรกิจ

2C2P มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยปัจจุบันดำเนินธุรกิจอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกง นอกจากนี้ 2C2P ยังเป็นพันธมิตรด้านการชำระเงินที่ได้รับความไว้วางใจจากสายการบิน แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจค้าปลีก และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://2c2p.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54214032/en

Media Inquiries:

Fanny Wu

chen.wc@antgroup.com

media@2c2p.com

ผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้อนุมัติสัญลักษณ์เงินริยัลซาอุดีอาระเบีย

Logo

20 กุมภาพันธ์ 2025 21 ชาอฺบาน 1446

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย –(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2025

ในวันนี้ 20 กุมภาพันธ์ 2025 กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด ผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง ได้อนุมัติสัญลักษณ์สกุลเงินริยัลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเสริมสร้างเอกลักษณ์ของสกุลเงินของซาอุดีอาระเบีย

The Saudi Riyal Symbol (Graphic: Business Wire)

สัญลักษณ์เงินริยัลซาอุดีอาระเบีย (กราฟิก: Business Wire)

ผู้ว่าการธนาคารกลางซาอุดีอาระเบีย (SAMA) ฯพณฯ นายอัยมัน โมฮัมเหม็ด อัล-ซายารี แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอุด และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน สำหรับการเปิดตัวสัญลักษณ์เงินริยัลซาอุดีอาระเบีย

อัล-ซายารีตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจครั้งนี้ช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์ทางการเงินของซาอุดีอาระเบียทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เขาระบุว่าการนำสัญลักษณ์ใหม่มาใช้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปสำหรับธุรกรรมทางการเงินและเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

อัล-ซายารีกล่าวว่าความคิดริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของชาติและความเป็นเจ้าของทางวัฒนธรรม เน้นย้ำถึงบทบาทของสกุลเงินประจำชาติ และแสดงให้เห็นว่าราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจสำคัญๆ ของโลกและสมาชิก G20 นอกจากนี้ ความคิดริเริ่มนี้ยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นของสกุลเงินประจำชาติในระบบนิเวศทางการเงินระดับโลกอีกด้วย

ผู้ว่าการรัฐรับทราบถึงความพยายามร่วมมือที่อำนวยความสะดวกให้เกิดความสำเร็จนี้ โดยแสดงความขอบคุณต่อหน่วยงานที่มีส่วนร่วมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาสัญลักษณ์ที่นำโดย SAMA รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสื่อมวลชน และองค์กรมาตรฐาน มาตรวิทยา และคุณภาพแห่งซาอุดีอาระเบีย

สัญลักษณ์ริยัลซาอุดีอาระเบียได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานทางเทคนิคสูงสุด สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของราชอาณาจักร โดยใช้ชื่อสกุลเงินประจำชาติของเราว่า “ริยัล” ในการออกแบบที่ได้มาจากการประดิษฐ์ตัวอักษรอาหรับ สัญลักษณ์ดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงการแสดงค่าเงินริยัลซาอุดีอาระเบียในบริบทท้องถิ่น ภูมิภาค และนานาชาติให้มีความคล่องตัวมากขึ้น จึงเหมาะสมที่จะใช้ในการอ้างอิงถึงริยัลซาอุดีอาระเบียในธุรกรรมทางการเงินและเชิงพาณิชย์ทั้งหมด

ขณะที่ซาอุดีอาระเบียก้าวไปสู่เป้าหมายวิสัยทัศน์ 2030 การเปิดตัวสัญลักษณ์ดังกล่าวจะช่วยตอกย้ำความสำคัญของระบบการเงินของราชอาณาจักรและบทบาทที่เพิ่มขึ้นในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54210713/en

Contacts

ทีมสื่อของธนาคารกลางซาอุดีอาระเบีย: Media@SAMA.GOV.SA

ที่มา: Saudi Central Bank

 

Uniswap Labs เปิดตัว Unichain ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงสู่สาธารณชน

Logo

Unichain ได้รับการสนับสนุนจากแอปและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำกว่า 80 ราย รวมถึง Circle, Coinbase, Lido และ Morpho

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2025

Uniswap Labs ผู้นำด้านการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เปิดตัว Unichain สู่สาธารณชน โดยเป็นบล็อคเชนที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความเร็ว ประสิทธิภาพ และสภาพคล่องข้ามเชนขึ้นไปอีกขั้น ผู้ใช้และนักพัฒนาได้ประมวลผลธุรกรรมทดสอบมากกว่า 88 ล้านรายการและทดสอบสัญญาอัจฉริยะกว่า 12 ล้านรายการบนเทสเน็ตของ Unichain ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเพื่อรอการเปิดตัว โดยจะมีแอปพลิเคชันและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 80 รายที่สนับสนุนหรือสร้างบน Unichain

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

บล็อคเชนเลเยอร์ 2 (L2) เช่น Unichain มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการนำบล็อกเชนไปใช้กับผู้ซื้อขายคริปโต ผู้สร้างสินทรัพย์ดิจิทัล และสถาบันต่างๆ โดยบล็อคเชนเหล่านี้จะช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดบน Ethereum ที่ช่วยให้ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมลดลง และประสบการณ์ที่ราบรื่นบนบล็อคเชนต่างๆ สำหรับผู้ใช้คริปโตทุกวัน นั่นหมายถึงการซื้อขายที่ถูกกว่าและรวดเร็วกว่า การเข้าถึง stablecoin แบบบูรณาการ เช่น USDC และการแลกเปลี่ยนข้ามเชนที่ได้รับการปรับปรุงขึ้น

“Unichain ถูกสร้างมาอย่างแตกต่าง” Hayden Adams ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Uniswap Labs กล่าว “เรามาที่นี่เพื่อทำให้ DeFi เร็วขึ้น ถูกลง และมีการกระจายอำนาจมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเปิดตัว Unichain โดยไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันแรก”

การกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่

Unichain จะปลดล็อกตลาดยุคถัดไปสำหรับทั้งผู้ใช้และผู้สร้างด้วยเวลาบล็อกเพียงหนึ่งวินาที โดยมีแผนที่จะขยายไปถึง 250 มิลลิวินาที ซึ่งจะทำให้ Unichain กลายเป็นเชนที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม ในปัจจุบัน สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ใช้ ประกอบด้วย:

  •  การแลกเปลี่ยนและสภาพคล่อง: เข้าถึง Uniswap Protocol เวอร์ชันล่าสุดบนเว็บแอป และกระเป๋าเงิน Uniswap
  •  ไม่มีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน: Uniswap Labs จะยกเว้นค่าธรรมเนียมอินเทอร์เฟซทั้งหมดสำหรับการแลกเปลี่ยนบน Unichain ในช่วงสองสามเดือนแรกหลังจากเปิดตัว
  •  การเปิดตัว token: เริ่มต้นใช้งาน token launcher บน Unichain หรือปรับใช้สัญญาด้วยตนเอง
  •  การให้ยืมและการกู้ยืม: รับดอกเบี้ยหรือกู้ยืมโดยมีหลักประกัน
  •  การใช้ Stablecoins: การรวม Native Circle ที่นำ USDC มาสู่ Unichain และจะมี Stablecoin อื่นๆ ตามมา

เชนที่เปิดกว้าง เร็วกว่า และถูกกว่าสำหรับผู้ซื้อขายและผู้สร้างคริปโต

Unichain ถูกสร้างขึ้นบนหลักการสำคัญของ Ethereum ซึ่งก็คือ เปิด ไม่ได้รับอนุญาต และกระจายอำนาจ ในฐานะ L2 แรกที่เปิดตัวเป็น Stage 1 rollup นั่นหมายความว่า Unichain มุ่งมั่นที่จะกระจายอำนาจตั้งแต่วันแรก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการรักษาความสมบูรณ์ของเชนด้วยการพิสูจน์ข้อผิดพลาดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถท้าทายธุรกรรมได้ ปลายปีนี้ Unichain Validation Network จะช่วยให้ทุกคนสามารถตรวจสอบบล็อกได้ ทำให้เชนสามารถกระจายอำนาจได้มากขึ้น

สำหรับผู้ซื้อขายคริปโต ค่าธรรมเนียมแก๊สที่สูงและธุรกรรมที่ช้าเป็นปัญหามานานแล้ว ด้วยเวลาบล็อกที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ Unichain จึงได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับตลาดออนเชน โดยเสนอบล็อกที่ใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีและค่าแก๊สที่ถูกกว่า Ethereum ถึง 95% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Unichain จะเปิดตัวความสามารถขั้นสูง เช่น Trusted Execution Environment (TEE) ของ Flashbot ซึ่งจะทำให้การสรุปผลรวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นคำที่ใช้ใน DeFi เพื่ออธิบายการชำระเงินธุรกรรมบน Ethereum

สุดท้ายนี้ ประสบการณ์ของผู้ใช้ในการเคลื่อนย้ายคริปโตระหว่างบล็อคเชนที่แตกต่างกันอาจช้าและยุ่งยาก Uniswap Labs มุ่งหวังที่จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยนวัตกรรมเช่น ERC-7683 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ Across ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากเมื่อต้องแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายข้ามบล็อคเชน

Unichain ถูกสร้างขึ้นบน Optimism Superchain โดยมีวิสัยทัศน์ในการสร้างเครือข่ายของเครือข่ายที่สามารถทำงานร่วมกันได้ ประชาชนสามารถเข้าถึง Unichain ผ่านทาง Uniswap Interface และแอป สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม รวมถึงรายการแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งบน Unichain โปรดไปที่ Unichain หรือ อ่านบล็อก

เกี่ยวกับ Uniswap Labs
Uniswap Labs สร้างผลิตภัณฑ์ DeFi ที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด รวมถึงกระเป๋าเงินมือถือที่ดูแลตนเองAPI การซื้อขาย และอินเทอร์เฟซเว็บ Uniswap Labs เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ก่อตั้งในปี 2018 โดย Hayden Adams ซึ่งเป็นผู้คิดค้น Uniswap Protocol ซึ่งเป็นระบบเพียร์ทูเพียร์สำหรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการประมวลผลในปริมาณมากกว่า 2.75 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ก่อตั้ง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/54203601/en

Contacts

Chantal De Soto
Media@uniswap.org

ที่มา: Uniswap Labs

ยุคใหม่ของการฝึกอบรมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ: Solidus Labs เปิดตัว Trade Surveillance Academy เพื่อปิดช่องว่างความรู้ในการป้องกันการละเมิดตลาด

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–28 มกราคม 2025

Solidus Labs ผู้นำด้านการตรวจสอบการซื้อขายสินทรัพย์ข้ามกลุ่มและการตรวจสอบความเสี่ยง ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เป็นครั้งแรก Trade Surveillance Academy (TSA) เป็นโปรแกรมการฝึกอบรมที่เปิดให้เข้าถึงได้สาธารณะ ซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขช่องว่างความรู้ในสาขาการเฝ้าระวังการค้าที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่

TSA ได้รับการออกแบบโดยผู้ปฏิบัติงานสำหรับผู้ปฏิบัติงาน โดยให้การฝึกอบรมที่ครอบคลุมและปฏิบัติได้จริงโดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกจากโลกแห่งความเป็นจริง ในขณะที่กฎระเบียบทางการเงินเข้มงวดขึ้นและมีกรณีการละเมิดตลาดเพิ่มขึ้น สถาบันต่างๆ ก็เผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นในการให้ทีมงานมีความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการต่อสู้กับแผนการหลอกลวงในสถานที่ ผลิตภัณฑ์ และประเภทสินทรัพย์ที่หลากหลาย TSA ของ Solidus ตอบสนองความต้องการนี้โดยตรง โดยให้เจ้าหน้าที่ด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความเสี่ยง และกฎระเบียบมีเนื้อหาการฝึกอบรมที่แข็งแกร่ง TSA ของ Solidus ตอบสนองความต้องการนี้โดยตรงโดยจัดเตรียมเนื้อหาการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความเสี่ยง และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อดูแลการเฝ้าระวังการค้าและการสอบสวนที่มีประสิทธิภาพในสินทรัพย์ทุกประเภท

เสริมด้วยเครื่องมือ การฝึกอบรม และการสนับสนุนที่หลากหลายซึ่งรวมอยู่ในแพลตฟอร์มการเฝ้าระวังการค้าของ Solidus Labs – HALO, Solidus' Professional Services (PS)ทีมงานให้บริการโซลูชันระดับพรีเมียมที่ออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้า รวมถึงการฝึกอบรมการสืบสวนการเฝ้าระวังการค้าแบบลงมือปฏิบัติจริง ทีมงานฝ่ายบริการระดับมืออาชีพให้การสนับสนุนทีมงานด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกขนาดด้วยบริการขั้นสูง รวมถึงการออกใบอนุญาตและการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ การพัฒนานโยบายและขั้นตอน การปรับแต่งและการสอบเทียบเครื่องมือวัด ด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางในการสนับสนุนลูกค้าภาครัฐและเอกชนในการสืบสวนทั้งในและนอกเครือข่ายเกี่ยวกับการละเมิดตลาดและการฉ้อโกง ทีมงานบริการระดับมืออาชีพของ Solidus จึงสามารถเสริมพลังให้กับทีมลูกค้าด้วยกลยุทธ์ ความเชี่ยวชาญ และความรู้ทางเทคนิค เพื่อดำเนินการโปรแกรมเฝ้าระวังการค้าและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

“ด้วย Trade Surveillance Academy และข้อเสนอบริการระดับมืออาชีพของเรา Solidus Labs กำลังสร้างอนาคตที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบจะได้รับความรู้ เครื่องมือ และความมั่นใจในการบรรลุบทบาทหน้าที่ของตน” Spiro Antonopoulos รองประธานฝ่ายบริการและการสืบสวนระดับมืออาชีพของ Solidus Labs กล่าว“ความคิดริเริ่มเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่กว้างขึ้นในการกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังการค้าในสินทรัพย์ทุกประเภท”

TSA มีวิดีโอบรรยายตามความต้องการมากกว่า 5 ชั่วโมง การประเมินและแบบทดสอบเชิงโต้ตอบ และใบรับรองการสำเร็จหลักสูตร โปรแกรมนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมได้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานหลายทศวรรษด้านการเฝ้าระวังการค้า การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และตลาดที่มีความโปร่งใสและเป็นธรรม TSA ส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญมีทักษะเชิงปฏิบัติและคุณสมบัติที่จำเป็นเพื่อขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมด้านกำกับดูแลที่ซับซ้อนในปัจจุบันได้อย่างมั่นใจ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ soliduslabs.com.

เกี่ยวกับ Solidus Labs
Solidus Labs เป็นผู้นำระดับแนวหน้าในด้านการเฝ้าระวังการซื้อขายและการตรวจสอบความเสี่ยงระหว่างสินทรัพย์และสินค้าข้ามประเภท โดยเชื่อมโยงตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมและดิจิทัลเข้าด้วยกัน Solidus ได้รับความไว้วางใจจากสถาบันและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก โดยนำเสนอเทคโนโลยีการตรวจจับที่ล้ำสมัยซึ่งปรับแต่งมาสำหรับตลาดคริปโตที่มีการเปลี่ยนแปลงและกระจัดกระจาย เพื่อตรวจจับและป้องกันการละเมิดตลาด ด้วยนวัตกรรมและความยืดหยุ่นที่เป็นแกนหลัก Solidus ช่วยให้ทีมงานด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบสามารถก้าวนำหน้าภัยคุกคามที่เกิดขึ้น และดูแลการซื้อขายในสถานที่ สินทรัพย์ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ได้อย่างมั่นใจ แม้แต่ในกลยุทธ์ที่ซับซ้อนที่สุด

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Bernardo Soriano
Gregory FCA for Solidus Labs
914.656.3880
bernardo@gregoryfca.com

ที่มา: Solidus Labs

Starr แต่งตั้ง Peter Hirs ขึ้นดำรงตำแหน่ง CFO แทน Howard Smith

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2025

Starr ประกาศว่า Peter Hirs ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ต่อจาก Howard I. Smith ซึ่งจะเกษียณอายุหลังจากทำงานที่ Starr และบริษัทที่เกี่ยวข้องมานานกว่า 40 ปี

Peter Hirs, chief financial officer, Starr (Photo: Business Wire)

Peter Hirs ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Starr (ภาพ: Business Wire)

Hirs นำประสบการณ์ที่สำคัญด้านการเงินและการประกันภัยมาสู่ Starr โดยใช้เวลา 20 ปีที่ผ่านมาในบริษัทประกันภัยระดับโลก โดยเขาบริหารจัดการทีมการเงินระดับภูมิภาคทั่วโลก และเป็นผู้นำกิจกรรมการควบรวมและซื้อกิจการ ในบทบาทใหม่นี้ Hirs จะดูแลการดำเนินงานด้านการเงินระดับโลกขององค์กร เขาประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ Starr ในนิวยอร์ก

Smith เป็นผู้นำฝ่ายการเงินของ Starr ตั้งแต่ปี 2005 เมื่อ Maurice R. “Hank” Greenberg ซึ่งเป็นประธานกิตติคุณของ Starr ได้สถาปนา Starr ขึ้นมาใหม่ในฐานะองค์กรด้านการลงทุนและการประกันภัยอิสระ และก่อนหน้านั้นเขาเคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Hank โดยเข้ามาร่วมงานกับเขาเป็นครั้งแรกในปี 1984

“Peter จะเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายระดับโลกของเรา” Jeff Greenberg ประธานและซีอีโอร่วมของ Starr กล่าว “นอกเหนือจากประสบการณ์ทางการเงินที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังแสดงให้เห็นว่าเขาเข้ากันได้กับวัฒนธรรมและค่านิยมของเรา เราขอขอบคุณ Howie สำหรับการสนับสนุนมากมายของเขา และเรายินดีต้อนรับ Peter สู่ Starr”

 เกี่ยวกับ Starr

Starr เป็นชื่อทางการตลาดของบริษัทประกันภัยและความช่วยเหลือด้านการเดินทางที่ดำเนินงานอยู่ และบริษัทในเครือของ Starr International Company, Inc. และสำหรับธุรกิจการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทในเครือ Starr เป็นองค์กรประกันภัยและการลงทุนชั้นนำที่มีสำนักงานอยู่ใน 6 ทวีป โดยผ่านบริษัทประกันภัยที่ดำเนินงานอยู่ Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันวินาศภัย อุบัติเหตุและสุขภาพ ตลอดจนความคุ้มครองพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น การบิน ทางทะเล พลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน บริษัทประกันภัยในเครือของ Starr ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง มอลตา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ต่างก็ได้รับการจัดอันดับ A.M. Best ที่ระดับ “A” (ยอดเยี่ยม) ส่วนกลุ่มพันธมิตรของ Starr’s Lloyd’s ได้รับการจัดอันดับ Standard & Poor’s ที่ระดับ “A+” (แข็งแกร่ง)

เยี่ยมชมเราได้ที่ starrcompanies.com หรือติดตามเราได้ที่ LinkedIn และ X

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54176150/en

Contacts

Charlie Armstrong
รองประธาน ฝ่ายการตลาด
charlie.armstrong@starrcompanies.com , 646.758.8308

ที่มา: Starr

Alpaca และ Derayah Financial ของซาอุดีอาระเบียประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งธุรกิจในตะวันออกกลางของ Alpaca และการเสนอขายหุ้นซาอุดีอาระเบียทั่วโลก

Logo

Alpaca เสริมสร้างรากฐานการหักบัญชีด้วยตนเองผ่านการเป็นสมาชิก DTCC และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง รวมถึงการซื้อขายออปชั่นและบัญชีเงินสดที่ให้ผลตอบแทนสูง

ซานมาเทโอ แคลิฟอร์เนีย

ผู้นำด้านการเงินจากกว่า 20 ประเทศจะมาร่วมกันหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืนที่การประชุมใหญ่ของ ABA ที่ไทเป

Logo

ไทเป ประเทศไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2024

ตัวแทนมากกว่า 250 คนจากกว่า 20 ประเทศ รวมทั้งธนาคารกลาง สถาบันการเงิน บริษัทต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศ รวมตัวกันที่ไทเปเพื่อเข้าร่วมการประชุมใหญ่และการประชุมทางวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย หรือ Asian Bankers Association (ABA) ครั้งที่ 40 งานนี้ชื่อว่า “ธนาคารเอเชีย: การเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 ถึง 19 พฤศจิกายนที่โรงแรม Grand Hyatt Taipei ผู้เข้าร่วมพิธีเปิด ได้แก่ กัว จี้ฮวย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน และเผิง จินหลง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน โดยทั้งสองท่านได้กล่าวสุนทรพจน์และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการเงินและเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

The 40th ABA General Meeting and Conference held its opening ceremony on Nov. 18 at the Grand Hyatt Taipei. Over 250 financial leaders from more than 20 countries gathered in Taipei. Notable attendees included Minister of Economic Affairs, Kuo Jyh-Huei (center), Financial Supervisory Commission Chairman, Peng Jin-lung (sixth from left), and ABA chairman and CTBC Financial Holding Vice Chairman Daniel Wu (sixth from right). (Photo courtesy of the Asian Bankers Association)

การประชุมใหญ่และการประชุมวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ครั้งที่ 40 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่โรงแรม Grand Hyatt Taipei ผู้นำด้านการเงินกว่า 250 รายจากกว่า 20 ประเทศมารวมตัวกันที่ไทเป ผู้เข้าร่วมงานที่มีชื่อเสียง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ กัว จี้ฮุ่ย (คนตรงกลาง) ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงิน เผิง จินหลง (คนที่ 6 จากทางซ้าย) และประธานสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) กับรองประธาน CTBC Financial Holding แดเนียล หวู่ (คนที่ 6 จากทางขวา) (ภาพจากสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย)

นายเจฟฟรีย์ คู ซีเนียร์ ผู้ก่อตั้ง CTBC Financial Holding ได้ก่อตั้งสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) เมื่อ 43 ปีที่แล้วเพื่อรับมือกับความท้าทายในระดับนานาชาติของไต้หวัน โดยสร้างเส้นทางสู่การทูตทางการค้าและเศรษฐกิจภาคเอกชน เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ยังถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านการบูรณาการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น สมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ได้จัดการประชุมประจำปีในเมืองใหญ่ ๆ ของประเทศสมาชิกเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจในภูมิภาค โดยก่อนหนา้นี้ไทเปเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 1981 1998 2006 2010 และ 2015 ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่งานนี้จัดขึ้นในไต้หวัน โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลและความเป็นผู้นำของ CTBC Bank ในภูมิภาค ไม่เพียงแต่ตัวแทนสำคัญจากอุตสาหกรรมการเงินระหว่างประเทศเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่ยังมีทูตจากประเทศสมาชิกสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ที่ประจำอยู่ในไต้หวันด้วย รวมถึงลี อึนโฮ ตัวแทนคณะผู้แทนเกาหลีในไทเป ยิป เว่ย เคียต ตัวแทนสำนักงานการค้าสิงคโปร์ในไทเป และหวู เตียน สุง ตัวแทนสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเป

แดเนียล หวู่ ประธานสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) และรองประธาน CTBC Financial Holding ได้เน้นย้ำถึงความท้าทายสำคัญที่อุตสาหกรรมการธนาคารต้องเผชิญในการเดินทางบนเส้นทางการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล ในขณะที่ความคาดหวังของลูกค้า รูปแบบการดำเนินงาน และเทคโนโลยีดิจิทัลยังคงพัฒนาต่อไป ธนาคารเองก็กำลังเปลี่ยนจากการดำเนินงานแบบดั้งเดิมไปสู่บริการดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ของลูกค้าเช่นกัน หวู่แสดงความมั่นใจในบทบาทของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ในฐานะแพลตฟอร์มระดับโลกในการสนับสนุนประเทศสมาชิกในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้ธนาคารบรรลุการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ และมั่นใจได้ถึงความยั่งยืนในระยะยาว

การประชุมครั้งนี้มีการสนทนาอย่างเป็นกันเองระหว่างโธมัส ไนเดส ซึ่งเป็นรองประธานของบริษัท Blackstone Inc. และเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2023 กับแดเนียล หวู่ ไนเดสได้เน้นย้ำถึงโอกาสและความท้าทายเฉพาะตัวของเอเชียในยุคหลังการระบาดใหญ่ โดยอาศัยประสบการณ์การทำงานอันยาวนานของเขา รวมถึงบทบาทอาวุโสที่ Morgan Stanley และประสบการณ์จากตำแหน่งรองเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศในสมัยประธานาธิบดีโอบามา นอกจากนี้ เขายังให้ข้อเสนอแนะถึงวิธีที่ภาคการธนาคารจะสามารถรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและยั่งยืนได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์

ในวันแรกของการประชุมนั้น ราเชล เคา ประธานบริษัท CTBC Financial Holding ได้เป็นผู้แลการประชุมอภิปราย โดยได้มีการหารือกับฟิลิป เฉา ประธานบริษัท Bank SinoPac และนีเวน หวาง กรรมการผู้จัดการบริษัท KPMG Sustainability Consulting จำกัดในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เพีย เบอร์นาเด็ตต์ โรมัน ทายาค ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ก็ได้ร่วมหารือกับไททัน เชีย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีการเงินของ CTBC และฟริดมัน วัง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลของ CTBC Bank ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงการธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี” และ “การปรับจุดเน้นด้านลูกค้าและสังคมใหม่” โดยเป็นการหารือในเรื่องเทคโนโลยีและความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผันเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลภายในภาคการธนาคาร

โดยมีริชาร์ด คู หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ของ Nomura Research Institute ได้วิเคราะห์พลวัตทางการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีนในวันที่สองของการประชุม ทั้งยังได้มีการหารือถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคาร ระหว่างโทนี่ หยาง ประธานธนาคาร CTBC ลิโต วิลลานูเอวา รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของ Rizal Commercial Banking Corporation อัตซึชิ มาซูดะ ประธานสมาคมสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในเอเชีย และวินายัก เอชวี หุ้นส่วนอาวุโสของ McKinsey & Co ด้วย การประชุมใหญ่และการประชุมวิชาการของสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) ครั้งที่ 40 ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยธนาคาร CTBC สมาคมธนาคารแห่งสาธารณรัฐจีน และสมาคมธนาคารแห่งเอเชีย (ABA) มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีทางการเงินและความยั่งยืน ซึ่งผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกโดยตรงและสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกันผ่านการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง การประชุมอภิปรายระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การอภิปรายแบบโต้ตอบ และการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/54156310/en

ข้อมูลติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์│ธนาคาร CTBC จำกัด
ชื่อ: พาเมล่า เฉิน
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
เบอร์โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724

ลิงก์: https://www.ctbcholding.com/content/twhoo/zh_tw/index.html

แหล่งข้อมูล: CTBC HOLDING



Berkshire Partners ประกาศปิดระดมทุนครั้งที่ 11 โดยได้รับเงินทุนประมาณ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

ถือเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติ 40 ปีของบริษัท

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–30 ตุลาคม 2024

Berkshire Partners (“Berkshire”) บริษัทหุ้นนอกตลาดในบอสตันที่มุ่งเต้นตลาดระดับกลางประกาศปิดระดมทุนครั้งที่ 11 (“การระดมทุนครั้งที่ 11”) ของ Berkshire ในวันนี้ โดยได้รับเงินทุนประมาณ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นเงินทุนจำนวนมากที่สุดของ Berkshire นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 1986 การระดมทุนครั้งที่ 11 ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทางบริษัทเชื่อมั่นว่ายิ่งตอกย้ำถึงแรงสนับสนุนจากนักลงทุนต่อกลยุทธ์การลงทุนในตลาดระดับกลางของบริษัท

“เรารู้สึกขอบคุณที่ได้รับแรงสนับสนุนมากถึงระดับนี้จากสุดยอดกลุ่มนักลงทุนชั้นยอดระดับสากล ทั้งรายเดิมและรายใหม่ เนื่องจากอุปสงค์เกินปริมาณเงินทุนเป้าหมายเดิมของเราไปอีก” Mike Ascione ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ Berkshire Partners กล่าว “เราชื่อว่าผลดำเนินงานของทีมงานของเราที่สนับสนุนบริษัทในตลาดระดับกลางที่มีศักยภาพสูงให้พลิกโฉมไปสู่การเป็นผู้นำอย่างยั่งยืนทั่วทุกวงจรทางเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่น และเราก็มั่นใจว่าเรามีความสามารถเหมาะสมที่จะนำเงินไปลงทุนและสร้างผลตอบแทนจำนวนมากภายในภาคส่วนที่เรามุ่งเป้าต่อไปได้”

ในฐานะบริษัทที่เชี่ยวชาญในหลายภาคส่วนที่มุ่งเน้นกับตลาดระดับกลาง Berkshire ตั้งกลยุทธ์เพื่อมุ่งเป้าไปที่โอกาสในการร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ดำเนินงานอยู่ใน 4 ภาคส่วนอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ บริการและอุตสาหกรรม ผู้บริโภค การดูแลสุขภาพ ตลอดจนเทคโนโลยีและการสื่อสาร ความรู้ความเชี่ยวชาญของทีมลงทุนที่ตั้งมั่นตามเป้าหมายและปฏิบัติงานมาเป็นระยะเวลานานส่งผลให้บริษัทพร้อมระบุโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ รวมถึงใช้ทรัพยากรและเงินทุนที่จำเป็นเพื่อนำทางบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ให้ผ่านการขยับขยายและปรับปรุงการดำเนินงานทุกขั้นไปได้

Kirkland & Ellis LLP ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้แก่ Berkshire Partners

เกี่ยวกับ Berkshire Partners
Berkshire Partners เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในหุ้นนอกตลาดและหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลายภาคส่วน โดยที่พนักงานถือสิทธิ์เป็นเจ้าของบริษัท 100% ทีมงานด้านหุ้นนอกตลาดของบริษัทลงทุนกับบริษัทต่าง ๆ ที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตในธุรกิจบริการและอุตสาหกรรม ผู้บริโภค การดูแลสุขภาพ และเทคโนโลยีและการสื่อสาร นับตั้งแต่ก่อตั้ง Berkshire Partners ได้ลงทุนในหุ้นนอกตลาดมากกว่า 150 รายการและมีผลการดำเนินงานเด่นชัดที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือกับทีมบริหารจัดการเพื่อพัฒนาบริษัทที่ตนลงทุนให้เติบโต กลุ่มหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทอย่าง Stockbridge ที่ก่อตั้งในปี 2007 มุ่งบริหารจัดการกลุ่มหลักทรัพย์ โดยแสวงหาการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.berkshirepartners.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Greg Winter
Berkshire Partners
gwinter@berkshirepartners.com

แหล่งที่มา: Berkshire Partners