Category Archives: Featured

MetLife ประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูง

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–15 ต.ค. 2563

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ได้ประกาศในวันนี้ถึงการเปลี่ยนแปลงหลายประการในทีมผู้นำระดับสูง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

Oscar Schmidt รองประธานบริหารและประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกา จะเกษียณอายุหลังจากทำงานร่วมกับบริษัท มา 26 ปี เขาจะก้าวออกจากตำแหน่งผู้บริหารในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และจะอยู่ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 เพื่อช่วยในการเรื่องการส่งต่อตำแหน่งผู้นำ

“ในช่วงสองทศวรรษครึ่งที่ผ่านมา Oscar ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาธุรกิจละตินอเมริกาของเรา โดยการสร้างผลงานธุรกิจที่หลากหลายทั่วทั้งภูมิภาค” Michel Khalaf ประธานและซีอีโอของ MetLife กล่าว “ ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของเขา เราได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ หลายครั้ง”

เมื่อได้รับการอนุมัติทุกครบแล้ว Eric Clurfain จะมารับหน้าที่ต่อจาก Schmidt ในฐานะประธานประจำภูมิภาคละตินอเมริกาในตำแหน่ง รองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. โดยเขา เขาจะรายงานตรงต่อ Khalaf

“ด้วยประสบการณ์ด้านการประกันภัยมากว่าสองทศวรรษ Eric มีผลงานที่พิสูจน์แล้วในด้านการสร้างทีมงานและธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูง “ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขามุ่งเน้นไปที่การดำเนินธุรกิจและการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่นและสร้างผลลัพธ์ที่สนับสนุนกลยุทธ์ Next Horizon ภายใต้การนำของเขาผมมั่นใจว่า LatAm จะยังคงเป็นกลไกในการเติบโตของ MetLife ต่อไป”

เส้นทางอาชีพของ Clurfain ครอบคลุมหลายภูมิภาคและหลากความรับผิดชอบในการเป็นผู้นำเชิงกลยุทธ์ ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน Clurfain ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของ EMEA ซึ่งดูแลตลาด 25 แห่งในภูมิภาค ก่อนหน้านี้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าภูมิภาคของยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกหลังจากดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของ MetLife ในตุรกี และก่อนหน้านั้นในอาชีพของเขากับ AIG / Alico Clurfain อาศัยและทำงานในละตินอเมริกา

เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาแทน Clurfain ในตำแหน่งรองประธานบริหารและประธานกรรมการประธานและซีอีโอของ MetLife Japan K.K. ได้แก่ Dirk Ostijn หัวหน้า EMEA โดย Ostijn จะรายงานต่อ Kishore Ponnavolu รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย

“Dirk ประสบความสำเร็จในการนำภูมิภาค EMEA ของเราผ่านสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทาย” Khalaf กล่าว “ภายใต้การนำของเขา ทีม EMEA ได้สร้างโมเมนตัมที่แข็งแกร่งด้วยโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งและรูปแบบที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมมากกว่า 25 ตลาด ผมรู้ว่าความเป็นผู้นำที่เป็นต้นแบบ ความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยที่ลึกซึ้งและความหลงใหลในลูกค้าของเขา จะได้รับการต้อนรับและชื่นชมจากทีมงานของเราในญี่ปุ่น”

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีอาชีพของ Ostijn ซึ่งครอบคลุมทุกด้านของอุตสาหกรรมประกันชีวิต ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์การเงิน การดำเนินงานการบริการลูกค้าและเทคโนโลยี นอกจากนี้เขายังใช้เวลามากกว่าทศวรรษในการบริหารการดำเนินงานนายหน้าประกันภัยจากการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในเบลเยียม และมีบทบาทในระดับภูมิภาค เช่น หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินและหัวหน้าฝ่ายริเริ่มเชิงกลยุทธ์

ผู้ที่จะมารับตำแหน่งต่อจาก Ostijn ในตำแหน่งหัวหน้า EMEA คือ Nuria Garcia รองประธานอาวุโสและรองหัวหน้า EMEA โดยเธอเธอจะรายงานต่อ  Khalaf

“Nuria ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจและการเป็นหุ้นส่วนตลอดจนความใส่ใจในลูกค้า” Khalaf กล่าว “เธอเป็นผู้นำที่มีประสิทธิผลสูง ผู้ที่สามารถเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในและภายนอกเพื่อทำงานร่วมกันในธุรกิจ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ และการตลาด ความเป็นผู้นำของเธอมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้และผมมีความมั่นใจทุกครั้งว่าเธอจะยังคงสร้างผลงานที่ดีต่อไปในอนาคต”

Garcia มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีใน EMEA ซึ่งครอบคลุมทั้งการจัดจำหน่ายการตลาด การปฏิบัติการ และการเงิน ทั้งกับ MetLife และ GE

“เมื่อนำมารวมกัน แล้วการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาคนและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านผู้นำในระดับลึกของเราที่พร้อมจะทำงานทันทีและส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นของเรา” Khalaf กล่าว

เกี่ยวกับ MetLife

MetLife, Inc. (NYSE: MET) ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทในเครือ ("MetLife") เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกที่ให้บริการประกันภัย เงินรายปี ผลประโยชน์ของพนักงาน และการจัดการสินทรัพย์เพื่อช่วยให้ลูกค้าบุคคลและสถาบันสามารถไปต่อได้โลกที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ MetLife ก่อตั้งขึ้นในปี  พ.ศ. 2411 มีการดำเนินงานในกว่า 40 ตลาดทั่วโลกและดำรงตำแหน่งผู้นำในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ละตินอเมริกา เอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.metlife.com.

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในการเปิดเผยนี้ใช้คำตัวอย่างเช่น "พินัยกรรม" ตั้งอยู่บนสมมติฐานและความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนรวมถึง "ปัจจัยเสี่ยง" ที่ MetLife, Inc. อธิบายไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ผลลัพธ์ในอนาคตของ MetLife อาจแตกต่างออกไป และ MetLife  ไม่มีหน้าที่ในการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อความเหล่านี้

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201015005425/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ: Randy Clerihue, 646-552-0533

ติดต่อสำหรับนกลงทุน: John Hall, 212-578-7888

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ป๊อกกี้ ได้รับการรับรองโดย GUINNESS WORLD RECORDS™ ในฐานะแบรนด์ขนมปังเคลือบช็อกโกแลตที่ขายดีที่สุดในโลก (*) เริ่ม 11 ตุลาคม นี้

Logo

เตรียมสร้างรอยยิ้มทั่วโลกระหว่างการจัดกิจกรรม “วันป๊อกกี้” ประจำปีครั้งที่ 5 เริ่ม 11 ตุลาคม นี้

โอซาก้า, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2563

ป๊อกกี้ (Pocky) ได้รับการรับรองจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (GUINNESS WORLD RECORDS) ว่าเป็นแบรนด์ขนมปังอบกรอบเคลือบช็อกโกแลตที่ขายดีที่สุดของโลก*

Special Packages with the GUINNESS WORLD RECORDS record holder logo from Around the Globe (Graphic: Business Wire)

แพ็คเกจพิเศษจากทั่วโลกที่มีโลโก้ของ GUINNESS WORLD RECORDS อยู่ด้วย (กราฟิก: Business Wire)

Pocky ซึ่งกลายเป็นที่โปรดปรานของลูกค้าจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งแต่ออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2509 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่วางขายยาวนานที่สุดของ เอซากิ กูลิโกะ (Glico) นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กูลิโกะ ได้เสริมแกร่งความพยายามด้านการบริหารจัดการตราสินค้าของแบรนด์ป๊อกกี้ทั่วโลก โดยใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีความเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละตลาดทั่วโลกมากขึ้น และปรับปรุงโฆษณาให้มีความถูกต้องเหมาะสม

และที่พิเศษ กูลิโกะ ได้เตรียมเฉลิมฉลองวันป๊อกกี้ (Pocky Day) ในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแคมเปญประจำปีภายใต้สโลแกน “Share happiness!” ซึ่งเป็นสารที่ ป๊อกกี้ ใช้ขับเคลื่อนกิจกรรมของแบรนด์ให้เกิดขึ้นทั่วโลก และปีนี้ซึ่งครบรอบ 5 ปีของการจัดแคมเปญวันป๊อกกี้ทั่วโลก กูลิโกะ จะเปิดตัวแคมเปญระดับโลกที่มีชื่อว่า “Say Pocky! Cheer Street View” โดยมีเป้าหมายเพื่อนำรอยยิ้มกลับคืนสู่เมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ที่สูญเสียกำลังกายและใจไปเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) กิจกรรมนี้จะเริ่มต้นขึ้นวันที่ 11 ตุลาคม พร้อมกันใน 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ กูลิโกะ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ป๊อกกี้ ในแพ็คเกจที่มีการออกแบบพิเศษ โดยมีโลโก้ของ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด อยู่ด้วย

ขณะที่มีการรณรงค์ให้ผู้คนทั่วโลกหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 กูลิโกะ ต้องการสร้างโอกาสให้ผู้คนมีความรู้สึกใกล้ชิดกับบุคคลอันเป็นที่รักผ่านการมองที่รอยยิ้มของกันและกัน ซึ่งจะเป็นการย่นระยะห่างทางอารมณ์ของพวกเขาให้แคบลงในช่วงที่ต้องมีการรักษาระยะห่างทางกายภาพ ผ่านแคมเปญที่ชื่อว่า “Say Pocky! Cheer Street View”

(*) แบรนด์ขนมปังอบกรอบเคลือบช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุด – จากราคาขายปลีกปัจจุบัน (ยอดขายโดยประมาณอยู่ที่ 589,900,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2562 อ้างอิงจากข้อมูลวิจัยตลาดต่างประเทศ)
(*) ขนมปังอบกรอบเคลือบครีมรวมอยู่ในการจำแนกข้อมูลตามการวิจัยตลาดต่างประเทศ

– รายละเอียดการรับรอง ป๊อกกี้ โดย กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด
ชื่อ: แบรนด์ขนมปังอบกรอบเคลือบช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุด — จากราคาขายปลีกปัจจุบัน
ปีที่ได้รับการบันทึก: 2562
ยอดขายทั่วโลก: 589.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (อ้างอิงข้อมูลจากการวิจัยตลาดต่างประเทศ)
วันที่ได้รับการรับรอง: 22 มิถุนายน 2563
หน่วยงานผู้รับรอง: กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด

– “Share happiness!” ข้อความที่แบรนด์ ป๊อกกี้ ใช้สื่อสารทั่วโลก
กูลิโกะ ใช้ข้อความ “Share happiness!” เพื่อสื่อสารผลิตภัณฑ์แบรนด์ ป๊อกกี้ ทั่วโลก ภายใต้ข้อความดังกล่าว ผู้ผลิตขนมหวานรายนี้มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการรับรู้ของชื่อ ป๊อกกี้ ในตลาดหลายแห่งทั่วโลก และได้จัดแคมเปญทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อให้การสื่อสารระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์มีความลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากนี้ กูลิโกะ ยังได้จัดแคมเปญ “Pocky day” ซึ่งจัดเป็นแคมเปญหลักของแบรนด์ที่จัดขึ้นทั่วโลกทุกปีนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้แบ่งปันความสุขกับคนที่รัก

สำหรับปีนี้ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้คนทั่วโลกต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อบังคับต่าง ๆ เกี่ยวกับการออกนอกเคหะสถานและการเดินทาง ซึ่งทำให้เมืองหลายเมืองและพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ร้างผู้คน

ขณะที่คนในสังคมได้มาร่วมกันทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ ที่ ป๊อกกี้ เราเชื่อว่าข้อความ “Share happiness!” ที่เราใช้สื่อสารมายาวนาน และ “รอยยิ้ม” ซึ่งเป็นคุณค่าทางประสบการณ์ ควรได้รับการส่งต่อให้กับผู้คนมากกว่าครั้งไหน ๆ มีข้อความหนึ่งกล่าวว่า “หากคุณยิ้ม คุณจะได้ความสุขกลับมาในชีวิตทุก ๆ วัน”

– แคมเปญวันป๊อกกี้ปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้ชื่อ “Say Pocky! Cheer Street View”
กิจกรรมส่วนหนึ่งที่จะจัดในวันป๊อกกี้ปีนี้ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 กูลิโกะ จะเริ่มฉลองวันป๊อกกี้ในที่ต่าง ๆ พร้อมกันภายใต้ชื่อ “Say Pocky! Cheer Street View” โดยตั้งเป้านำรอยยิ้มกลับคืนสู่เมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ที่ต้องสูญเสียกำลังใจไปเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กิจกรรมนี้จะเริ่มต้นขึ้นวันที่ 11 ตุลาคม พร้อมกันใน 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

โรคระบาดที่เกิดขึ้นในตอนนี้อาจทำให้รอยยิ้มถูกลบเลือนจากใบหน้าของผู้คนในหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ แต่เราได้เตรียมจัดแคมเปญที่จะนำรอยยิ้มกลับคืนมาด้วยการเชิญชวนให้ผู้คนถ่ายภาพพร้อมกล่าวคำมหัศจรรย์ที่ว่า “Pocky!” และอัปโหลดภาพบน Google Street View ผ่านทางเว็บไซต์แคมเปญของเรา เราหวังว่าการแต่งแต้มรอยยิ้มบนแผนที่ออนไลน์ครั้งนี้ จะเป็นการให้กำลังใจและปลอบประโลมกันและกันจนกว่าจะถึงวันที่เราจะได้พบเจอบุคคลอันเป็นที่รักอีกครั้ง

นอกจากนี้เราจะจัดกิจกรรม “Smile Relay” ซึ่งต้องการให้เพื่อนฝูงและครอบครัวได้ส่งต่อโพสต์ของพวกเขาเป็นทอด ๆ นอกเหนือจากการโพสต์ภาพรอยยิ้มของพวกเขาเดี่ยว ๆ ทีมที่สามารถส่งต่อภาพรอยยิ้มได้นานที่สุดในสถานที่หนึ่ง ๆ จะได้รับเลือกไปแสดงบนป้ายโฆษณาของกูลิโกะแห่งย่านโดตมโบริ และบนเว็บไซต์ของแคมเปญในวันที่ 11 พฤศจิกายนด้วย

แคมเปญ “Say Pocky! Cheer Street View” ตั้งเป้าที่จะมอบรอยยิ้มและความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับทุกคนที่เผชิญกับความอ่อนล้าและความเครียดอันเกิดจากความกังวลที่เกิดขึ้นในแต่ละวันในช่วงเวลาที่ไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ตามใจ ณ ขณะนี้

ชื่อ: Say Pocky! Cheer Street View
ระยะเวลา: 11 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2563
พื้นที่: ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
เว็บไซต์: https://pocky-day2020.glico.com/

– ถ่ายภาพของคุณพร้อมพูดคำมหัศจรรย์ “Pocky!” แล้วอัปโหลดบน Google Street View!
เมื่อถ่ายภาพพร้อมพูดประโยคฮิตติดปาก “Pocky!” คุณจะได้ภาพที่มีรอยยิ้มสดใส คุณสามารถแต่งแต้มเมืองด้วยรอยยิ้มโดยการโพสต์ภาพของคุณพร้อมรอยยิ้มในแบบ Pocky! บน Google Street View ที่เว็บไซต์แคมเปญของเรา และแชร์ภาพเหล่านั้นกับคนที่คุณรัก

ขั้นตอนร่วมกิจกรรม:
1. ถ่ายภาพยิ้มของคุณขณะพูดคำว่า “Pocky” และอัปโหลดบนเว็บไซต์ของแคมเปญ
2. ปัก “หมุดรอยยิ้ม” ลงบนจุดที่คุณต้องการโดยเลือกจากพื้นที่ต่าง ๆ 59 จุดที่กำหนดไว้บนแผนที่ Google Street View หรือ Google Maps
3. ดาวน์โหลด “หมุดรอยยิ้ม” และแชร์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์
4. ชวนคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงของคุณมาส่งต่อรอยยิ้มกับกิจกรรม "Smile Relay"

– ส่งต่อรอยยิ้มผ่านกิจกรรม “Smile Relay!” การมีส่วนร่วมของเพื่อนและคนรู้จักจะช่วยส่งต่อรอยยิ้มให้กระจายออกไป
ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม “Smile Relay” ซึ่งให้ผู้คนร่วมสนุกกับเพื่อนฝูงและคนรู้จัก สามารถแชร์หมุดรอยยิ้มสีเดียวกันกับเพื่อน ๆ และคนรู้จักได้ โดยสัญลักษณ์แบบเดียวกันจะแสดงบนภาพของเพื่อน ๆ และคนรู้จักที่เข้าร่วมกิจกรรม Smile Relay ด้วยกัน ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถส่งต่อภาพรอยยิ้มเป็นทอด ๆ ด้วยการแชร์กับเพื่อน ๆ ผ่านลิงก์ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับหลังจากอัปโหลดภาพลงบนแผนที่และมีเพื่อนเข้าร่วมในแคมเปญเพื่อส่งต่อลิงก์ให้กับคนอื่น ๆ ต่อไป

จากประเทศที่ร่วมกิจกรรมทั้งหมด 11 ประเทศ สำหรับทีมผู้ร่วมกิจกรรมจากสิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียที่สามารถส่งต่อรอยยิ้มตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ถึง 10 พฤศจิกายน ได้มากที่สุด รอยยิ้มที่พวกเขาส่งต่อถึงกันจะถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งของสไลด์โชว์บนป้ายโฆษณากูลิโกะที่ย่านโดตมโบริ พร้อมกับแสดงบนเว็บไซต์ของแคมเปญตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

– สองกิจกรรมออนไลน์จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาแคมเปญ
กูลิโกะ จะจัดกิจกรรมออนไลน์สองช่วงระหว่างการจัดแคมเปญ ครั้งแรกวันที่ 11 ตุลาคม และอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 (วันป๊อกกี้) บริษัทจะทำให้กิจการส่งต่อรอยยิ้มทั่วโลกคึกคักยิ่งขึ้นด้วยการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ให้มาร่วมเปิดงานด้วย

เกี่ยวกับป๊อกกี้
ป๊อกกี้ เป็นขนมเคลือบช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยมและเป็นที่โปรดปรานของผู้คนทั่วโลกนับตั้งแต่ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2509 โดยทำจากขนมปังอบกรอบชนิดหนึ่งและเคลือบด้วยครีมช็อกโกแลต กูลิโกะ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงกรอบบริหารจัดการตราสินค้าทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา และได้รับการรับรองโดย GUINNESS WORLD RECORDS™ ว่ามียอดขายสูงสุดของโลก* ในปี 2563 (ชื่อ: แบรนด์ขนมปังอบกรอบเคลือบช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุด – จากราคาค้าปลีกปัจจุบัน/มียอดขาวราว 589,900,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2562 อ้างอิงจากข้อมูลวิจัยตลาดต่างประเทศ)

เกี่ยวกับวันป๊อกกี้
เอซากิ กูลิโกะ ได้กำหนดให้วันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันป๊อกกี้ หรือ Pocky Day ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะส่งต่อความสุขด้วยการแบ่งปันป๊อกกี้ของผู้คนทั่วโลก วันที่ 11 พฤศจิกายน ถูกเลือกให้เป็นวันป๊อกกี้เนื่องจากขนมป๊อกกี้มีลักษณะเป็นแท่งคล้ายกับเลข “1” (ในญี่ปุ่น วันที่ 11 พฤศจิกายน ได้รับการรับรองโดย Japan Anniversary Association ให้เป็น "วันป๊อกกี้และขนมอบกรอบ หรือ Pocky & Pretz Day")

ในวันป๊อกกี้ บริษัทหวังว่าผู้คนทั่วโลกจะได้นึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก รู้สึกขอบคุณกันและกัน และทำสิ่งที่จะสร้างร้อยยิ้มให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของคนที่พวกเขารักกันมากขึ้น

– “‘Pocky’ คือคำมหัศจรรย์ที่จะสร้าง ‘รอยยิ้มพิมพ์ใจ’”
อันที่จริงแล้ว การสร้างรอยยิ้มที่จะนำมาซึ่งความประทับใจและคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป คุณจำเป็นต้องวอร์มกล้ามเนื้อก่อน การยืดกล้ามเนื้อเลียนแบบ “การนอนหลับ” (การแสดงออกทางสีหน้า) ก่อนยิ้มจะช่วยให้คุณสร้างรอยยิ้มที่เรียกว่า Duchenne Smile หรือที่เรียกกันว่า รอยยิ้มที่จริงใจ (*1) ได้อย่างง่ายดาย

(*1) การยิ้มเช่นนี้ถูกเรียกโดยทั่วไปว่า Duchenne (ตั้งชื่อตาม Duchenne de Boulogne นักประสาทวิทยาชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19) ซึ่งรอยยิ้มเช่นนี้จะแสดงถึงการแสดงออกทางสีหน้าอย่างเต็มใจ โดยดวงตาจะยิ้มไปด้วย และกล้ามเนื้อรอบปากและดวงตาจะขยับไปพร้อมกัน

เมื่อคุณพูดคำว่า “Pocky” จังหวะที่พูดคำว่า “Po” ตาของคุณจะเบิกกว้างและกล้ามเนื้อแก้มจะยืดออกซึ่งเป็นการแสดงความประหลาดใจผ่านทางสีหน้า จากนั้นเมื่อพูดว่า “cky” คุณจะสามารถแสดงออกทางสีหน้าคล้ายกับการยิ้มได้อย่างง่ายดาย ระหว่างการวอร์ม กล้ามเนื้อแก้มจะยกมุมปากขึ้นและช่วยให้คุณสร้างรอยยิ้มพิมพ์ใจ คุณอาจกล่าวได้ว่าการออกเสียงคำว่า “Pocky” อาจเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีเมื่อต้องการถ่ายภาพรอยยิ้มของคุณ

เกี่ยวกับนักศึกษา 200 คนที่ร่วมทำการทดลอง
เพื่อเป็นการทดสอบว่ารอยยิ้มที่เกิดจากการพูดคำว่า “Pocky” ขณะถ่ายภาพสามารถสร้าง “รอยยิ้มพิมพ์ใจ” ได้ เราได้ทำการทดลองโดยได้รับความช่วยเหลือจากนักศึกษา 200 คน ในการทดลอง เราได้ทดลองพูดคำต่าง ๆ 7 คำขณะถ่ายภาพเพื่อทำการเปรียบเทียบ โดยคำทั้ง 7 เป็นคำที่ใช้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ดังนี้ “Cheese” (สหรัฐฯ) “Kimchi” (เกาหลี) “Tequila” (เม็กซิโก) “Spaghetti” (เยอรมนี) “Whiskey” (แอฟริกา) และ “Qiezi” (“หมายถึงมะเขือยาว” ในจีนแผ่นดินใหญ่) รวมถึงคำว่า “Pocky” เราได้ขอให้นักศึกษาแต่ละคนพูดคำต่าง ๆ และดูว่าคำเหล่านั้นทำให้พวกเขายิ้มได้มากแค่ไหน โดยให้คะแนนจาก 1 ถึง 100 และผลสำรวจที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าคำว่า “Pocky” ได้คะแนนเฉลี่ย 77 คะแนน ขณะที่คะแนนเฉลี่ยของคำอื่น ๆ อยู่ที่ 60 คะแนน คำว่า “Pocky” เอาชนะคำอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายในการทำให้ผู้ตอบแบบสำรวจยิ้ม นักศึกษาส่วนใหญ่ตอบว่า “เสียงที่เกิดขึ้นขณะออกเสียง po- ทำให้รู้สึกดี และทำให้ยิ้มแบบธรรมชาติได้ง่าย” และ “เสียง -y ในตอนท้ายช่วยให้ยิ้มง่ายขึ้น”

นอกจากนี้ ภายใต้การควบคุมของศาสตราจารย์ Sugahara นักวิจัยด้ายการยิ้ม เราได้ทำการทดลองโดยใช้เครื่องอ่านใบหน้าวิเคราะห์รอยยิ้มจากการพูดประโยคต่าง ๆ ขณะถ่ายรูป และพบว่า คำว่า “Pocky” สามารถสร้าง “รอยยิ้มที่พิมพ์ใจ” ซึ่งเป็นมาตรฐานรอยยิ้มในอุดมคติได้ง่ายกว่าคำอื่น ๆ

นำโดย Dr. Toru Sugahara นักวิจัยด้านการยิ้มที่ได้รับการยอมรับ
Dr. Toru Sugahara เกิดในเมืองดาไซฟุ จังหวัดฟุกุโอกะ สำเร็จหลักสูตรปริญญาเอกจากคณะชีววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งทอจากโครงการสหวิทยาการระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยชินชู และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต (วิศวกรรมศาสตร์) ในปี 2548 เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งศิลปะมนุษย์และวิทยาศาสตร์ และอาจารย์ประจำศูนย์การศึกษาต่อเนื่องและอาจารย์สัญญาจ้างประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ ปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งนักวิจัยรับเชิญของศูนย์วิจัยขั้นสูง คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวาเซดะ อาจารย์สัญญาจ้างประจำคณะสารสนเทศและศิลปกรรม และนักวิจัยรับเชิญของสถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของมหาวิทยาลัยโตโย ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมของสถาบันวิจัยทางเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งมหานครโตเกียว และกรรมการบริหารสมาคมวิทยาศาสตร์การยิ้ม หรือ Society of Smile Science และท่านยังมีส่วนใน “การวิจัยด้านกลไกและการสร้างรอยยิ้มแบบ kansei” และได้รับรางวัลทางวิชาการมากมายจากงานวิจัยชิ้นนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ โปรดติดต่อ
Hirohisa Tamai (Mr.), Assistant Global Brand Manager, Glico Co., Ltd.
Yuko Takatani (Ms.), Regional PR Manager, Glico Asia Pacific Pte. Ltd.
อีเมล: glico-singapore@glico.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย










งานสัมนาประจำปีแบบ Virtual Summit 2020 ภายใต้หัวข้อ “Sangfor is Building the Pillars of Enterprise IT Innovation”

Logo

ฮ่องกง–(บิสิเนสไวร์)–12 ตุลาคม 2020

บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) มีความภูมิใจที่จะประกาศให้ทุกท่านทราบว่างาน Sangfor Virtual Summit 2020 ที่กำลังจะมานี้ ภายในงานจะมีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลกมาพบกันในบรรยกาศการจัดงานแบบสภาพแวดล้อมเสมือน (Virtual Summit) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้พร้อมกับการอัพเดทเทคโนโลยีที่จะเข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไอที รวมถึงวิธีการที่บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) ใช้ในการสร้างนวัตกรรมไอทีสำหรับองค์กรเพื่อดำเนินงานทางธุรกิจจากสถานการณ์ในปัจจุบัน

ซึ่งงานดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2020 โดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) ผู้บริหารไอทีระดับ C-Level และผู้มีอำนาจในการตัดสินใจภายในองค์กร จากหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกจะเข้าร่วมในการอภิปรายที่จำเป็นอย่างมากเกี่ยวกับมาตรการหรือวิสัยทัศน์ในการรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของปี 2564 ความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ รวมถึงความสำคัญและความจำเป็นสำหรับการนำเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์เข้ามาใช้งานในองค์กร สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้อย่างไร

นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานยังสามารถร่วมพูดคุยและตั้งคำถามที่สงสัยไม่ว่าจะเป็นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ แนวทางปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือการดำเนินงานทางธุรกิจขององค์กร กับคุณ David Holmes ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Forrester ซึ่งเป็น บริษัท วิจัยการตลาดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมากว่า 35 ปี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานครั้งนี้

สำหรับการจัดงาน Sangfor Virtual Summit 2020 ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทอินเทล (Intel) เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักสำหรับสำหรับการจัดงานสัมนาในครั้งนี้อีกด้วย บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) จึงใช้โอกาสนี้ในการสร้างแพลตฟอร์มระดับนานาชาติที่มีการประชุมในหลากหลายภาษาไม่ว่าจะเป็นจีนกวางตุ้ง ภาษาบาฮาซาเกาหลี และภาษาไทยเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นภายในงานสัมนาดังกล่าว ผู้ที่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมงานดังกล่าวสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานได้ ที่นี่ (Registration)

เกี่ยวกับบริษัท บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) เป็นผู้จำหน่ายโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานไอทีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security และ Cloud Computing สามารถเยี่ยมชมหรือรับข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับเราได้ที่ http://www.sangfor.com/เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของ Sangfor และให้ Sangfor ทำให้ระบบไอทีขององค์กรคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

สื่อมวลชนติดต่อ:

Sunny Sun

marketing@sangfor.com&nbsp

+8675586560605

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MessageBird ระดมทุน 200 ล้านดอลลาร์ในรอบซีรีส์ C โดยมีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากความต้องการทั่วโลกสำหรับ Omnichannel Platforma-Service (OPaaS) ที่ในช่วงล็อคดาวน์

Logo

  • MessageBird แก้ปัญหาความซับซ้อนในการสื่อสารกับลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มบริการหลากหลายช่องทาง Omnichannel Platform as a Service (OPaaS) แห่งแรกและแห่งเดียวของโลก ซึ่งประกอบด้วย ชุดเครื่องมือรวมทั้ง Inbox, Omnichannel Chat Widget และ Flow Builder
  • การลงทุนล่าสุดที่นำโดยเจ้าของร่วมฝ่ายการลงทุนของ Spark, Will Reed ที่กำลังจะเข้าร่วมคณะกรรมการทำให้ MessageBird เป็นยูนิคอร์นใหม่ล่าสุดของยุโรปด้วยการประเมินมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
  • วิธีการด้วยแพลตฟอร์ม Omnichannel ช่วยให้ธุรกิจทุกที่ใน โลกสามารถสื่อสารและแบ่งปันสื่อกับลูกค้าทุกคนได้ทันทีผ่าน WhatsApp, SMS, เสียง, Messenger, WeChat, Google Business Messaging, Line และ Telegram และรวบรวมการโต้ตอบของลูกค้าทั้งหมดในช่องทางเดียว
  • การระดมทุนล่าสุดมาในขณะบริษัทเปิดตัวนโยบาย 'ทำงานจากที่ไหนก็ได้' อย่างเต็มที่

อัมสเตอร์ดัม ซานฟรานซิสโก และสิงคโปร์ –(บิสิเนสไวร์)–08 ต.ค. 2563

MessageBird แพลตฟอร์มการสื่อสารบนคลาวด์แบบ Omnichannel ชั้นนำของโลกได้ประกาศปิดตัวซีรีส์ C รอบใหม่มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ซึ่งนำโดย Spark Capital ของซิลิคอนแวลลีย์ในราคา 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีส่วนร่วมจาก Bonnier, Glynn Capital, LGT Lightstone, Longbow, Mousse Partners และ New View Capital  ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนล่าสุด หุ้นส่วนทั่วไปของ Spark Capital Will Reed จะเข้าร่วมคณะกรรมการของ MessageBird  นักลงทุนปัจจุบัน Accel, Atomico และ Y-Combinator ก็เข้าร่วมในรอบนี้ด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201008005504/en/

Robert Vis, MessageBird CEO (Photo: Business Wire)

Robert Vis ซีอีโอของ MessageBird (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

การลงทุนครั้งล่าสุดนี้ระดมทุนจากระยะไกลระหว่างการล็อคดาวน์ โดยเกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกสำหรับเครื่องมือสื่อสารในการรับส่งข้อความในหลากหลายช่องทางที่กว้างขึ้นเนื่องจากธุรกิจทั่วโลกต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากการบริการลูกค้าในร้านค้าและศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไปยังพนักงานระยะไกลอย่างเต็มที่และการขายทางออนไลน์  สิ่งนี้เร่งวิวัฒนาการของ MessageBird จากบริษัทบริการแพลตฟอร์มการสื่อสาร Communications Platform as a Service (CPaaS) ไปสู่บริษัทบริการแพลตฟอร์มการสื่อสารหลายช่องทาง Omnichannel Platform as a Service (OPaaS) แห่งแรกและแห่งเดียวของโลก  เงินทุนดังกล่าวจะใช้เพื่อเพิ่มขนาดทีมงานทั่วโลกของ MessageBird เป็นสามเท่าและขยายไปสู่ตลาดหลักในยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกาต่อไปเนื่องจากบริษัทได้เปิดตัวนโยบาย “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” อย่างเป็นทางการ

ผมแค่อยากอยู่ในโลกที่ผมสามารถส่งข้อความถึงธุรกิจอื่นๆ และไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป  MessageBird เป็นผู้บุกเบิก OPaaS (Omnichannel Platform as a Service) โดยอาศัยแนวคิดที่ว่าบริษัทระดับโลกควรมีการสื่อสารที่ไม่มีอุปสรรค์กับลูกค้าได้ทุกที่ในโลกและทุกช่องทางที่พวกเขาต้องการRobert Vis ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ MessageBird กล่าว “การระดมทุนรอบล่าสุดนี้เป็นการยืนยันว่ามีความต้องการจากลูกค้าทั่วโลกที่ต้องการให้ธุรกิจแบบดั้งเดิมย้ายเข้าสู่โลกสื่อสารหลากหลายช่องทางและเรามีผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดเพื่อช่วยให้พวกเขาทำเช่นนั้นได้

ในขณะที่ผู้บริโภคเรียกร้องให้ธุรกิจต่างๆ พูดคุยกับพวกเขาในแอพที่พวกเขาต้องการมากขึ้น ในที่สุดธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องหันมาใช้กลยุทธ์หลากหลายช่องทางในวงกว้างWill Reed หุ้นส่วนทั่วไปของ Spark Capital กล่าวว่า “Robert และทีม MessageBird ได้สร้างแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อดึงดูดลูกค้าในทุกช่องทางทั่วโลกพร้อมกับชุดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้การโต้ตอบเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจต่างๆ โดดเด่นในโลกแห่งการส่งข้อความแบบใหม่"

ประสบการณ์หลากหลายช่องทางที่แท้จริงคือการเปลี่ยนการมีส่วนร่วมของลูกค้าจากช่องทางอีเมลและเสียงที่ไม่มีประสิทธิภาพไปสู่ช่องทางการส่งข้อความที่มีความยืดหยุ่นเข้าถึงได้มากขึ้น  สิ่งนี้จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์สำหรับทั้งธุรกิจและผู้บริโภคเพื่อเติมเต็มแวดวงของการมีบริบทที่เป็นหนึ่งเดียวกันในทุกๆ การโต้ตอบ ซึ่งไปได้ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ของ MessageBird ได้แก่

  • Inbox – บริการลูกค้าหลากหลายช่องทางฟรี  Inbox ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกสามารถสื่อสารและแบ่งปันสื่อกับลูกค้าได้ทันทีผ่าน WhatsApp, SMS, เสียง, Messenger, WeChat, Google Business Messaging, Line และ Telegram  ข้อความขาเข้าในทุกช่องทางจะรวมกลุ่มกระทู้ข้อความของลูกค้ารายเดียวเพื่อความสะดวกในการออกตั๋วและตอบกลับ
  • Omnichannel Chat Widget – เปลี่ยนหน้าเว็บแบบคงที่เป็นการสนทนาแบบยืดหยุ่น ช่วยให้ลูกค้าสามารถสื่อสารกับทีมของคุณบนหน้าแรกในแอปของคุณในแชทสดหรือบริการส่งข้อความใดๆ (WhatsApp, Messenger, WeChat, SMS และอื่นๆ)
  • Flow Builder – แพลตฟอร์ม RPA สำหรับการส่งข้อความทางธุรกิจ Flow Builder ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์ omnichannel ตามความต้องการได้
  • ในที่สุด MessageBird เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่มีความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ที่ต้องการกับแพลตฟอร์มการส่งข้อความหลักทั้งหมด ช่วยให้ลูกค้าสามารถสื่อสารและแบ่งปันสื่อสมบูรณ์กับธุรกิจใดๆ ได้ทันที

หนึ่งในสามของลูกค้าทั่วโลกของ Messagebird ได้เปลี่ยนไปใช้การสื่อสารบนคลาวด์แบบ omnichannel ผ่านผลิตภัณฑ์ Flow Builder, Inbox หรือ Omnichannel Widget.  MessageBird ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 15,000 รายจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเช่น Lufthansa Airlines, Heineken, Hugo Boss, Rituals Cosmetics และ SAP รวมถึงผู้นำด้านนวัตกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วเช่น Uber, Glovo, HelloFresh และ Deliveroo

เกี่ยวกับ MESSAGEBIRD

MessageBird เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารบนคลาวด์ omnichannel ชั้นนำของโลกที่นำเสนอชุดผลิตภัณฑ์ Omnichannel และ Cloud Communications API ที่ช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้แทบทุกมุมโลกและในทุกช่องทาง

บริษัท ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ได้ริเริ่มและทำกำไรภายในเวลาหกปีก่อนที่จะเป็นหนึ่งในการระดมทุน Series A รอบที่ใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ในยุโรป (60 ล้านดอลลาร์จาก Accel Partners ในสหรัฐอเมริกาและ Atomico ของสหราชอาณาจักร)

MessageBird ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 15,000 รายจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเช่น Lufthansa Airlines, Heineken, Hugo Boss, Rituals Cosmetics และ SAP รวมถึงผู้นำด้านนวัตกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วเช่น Uber, HelloFresh และ Deliveroo

บริษัทมีสำนักงานในอัมสเตอร์ดัม ซานฟรานซิสโก สิงคโปร์ โบโกตา ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ ดับลิน ฮัมบูร์ก และซิดนีย์

เกี่ยวกับ SPARK CAPITAL

เราคือ Spark Capital นักลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เราชื่นชอบโดยผู้สร้างที่เราชื่นชอบ ซึ่งรวมถึง Affirm, Carta, Cruise, Discord, Oculus, Plaid, Postmates, Slack, Twitter และ Wayfair  เราทราบดีว่าไม่มีสูตรความสำเร็จที่ตายตัวและเราพร้อมที่จะช่วยให้ผู้ก่อตั้งชนะในแบบของตัวเอง  เราลงทุนในทุกภาคส่วนและทุกขั้นตอนและทำงานในซานฟรานซิสโก บอสตัน และนครนิวยอร์ก

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201008005504/en/

ติดต่อ:

Kerry Walker
Walker Communications
kerry@walkercomms.com 
617-201-7494

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ไตรคอร์กรุ๊ปแต่งตั้งคุณดีแลนด์ หม่า (Dyland Mah) ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เพื่อขยายธุรกิจในประเทศไทย

Logo

ฮ่องกงและประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–9 ตุลาคม 2020

ไตรคอร์กรุ๊ป (“ไตรคอร์”) ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการขยายการประกอบธุรกิจระดับชั้นนำของเอเชีย ซึ่งให้บริการต่างๆ ทั้งบริการธุรกิจแบบบูรณาการ บริการต่างๆ เกี่ยวกับบริษัท บริการนักลงทุน บริการบริหารทรัพยากรบุคคลและเงินเดือน บริการทรัสต์สำหรับองค์กร บริการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และบริการให้คำปรึกษาทางด้าน
กลยุทธ์ทางธุรกิจ ได้ประกาศการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่ผู้มากด้วยประสบการณ์ คุณดีแลนด์ หม่า (Dyland Mah) ให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการประจำไตรคอร์ประเทศไทย

โดยเขาจะรายงานขึ้นตรงกับประธานกรรมการบริหารกลุ่มไตรคอร์กรุ๊ปคุณเลนนาร์ด ย้ง เป้าหมายสำคัญที่คุณดีแลนด์จะต้องมุ่งเน้นคือ จะพัฒนาและนำสิ่งใหม่ ๆ มาใช้กับธุรกิจของไตรคอร์ประเทศไทย รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำของตลาดในประเทศไทย โดยคุณดีแลนด์จะเข้ามารับผิดชอบในการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กร ขยายฐานลูกค้า และผลักดันการเปลี่ยนแปลงโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจ

คุณดีแลนด์มีประสบการณ์ด้านการค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สะสมมาจากการดำรงตำแหน่งต่างๆ ในระดับผู้บริหารภูมิภาคอาวุโส อาทิ กรรมการบริหารด้านการขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัทข้ามชาตชั้นนำ เป็นผู้อำนวยการด้านการเงินและเลขานุการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่มีรายได้ต่อปีมากกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตำแหน่งต่าง ๆ ที่คูเปอร์ส แอนด์ ไลแบรนด์ (ก่อนควบรวมเป็นพีดับบลิวซี) ซึ่งได้ให้คำปรึกษากับลูกค้าข้ามชาติจากหลากหลายอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คุณดีแลนด์ยังผ่านการอบรมวิชาชีพบัญชี (professionally-trained chartered certified accountant) และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพต่างๆ รวมถึงเป็นสมาชิกของสมาคมนักบัญชีของประเทศอังกฤษ (Fellow of the Association of Chartered Certified Accountants)

คุณเลนนาร์ด ย้ง ประธานกรรมการบริหารกลุ่มไตรคอร์กรุ๊ป กล่าวว่า “นี่ถือเป็นเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับไตรคอร์ ที่เรายังทำการขยายและทำให้องค์กรของเราเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงอย่างมากเพิ่มขึ้นไปอีกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผ่านการควบรวมกิจการ การร่วมมือทางธุรกิจ และการเติบโตจากภายในองค์กรเอง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของเรา ที่เราจะได้นำเสนอโอกาสสำคัญให้แก่ลูกค้าของเราเพื่อขยายธุรกิจและการลงทุนในตลาดซึ่งเติบโตเร็วและมีความเป็นพลวัต”

“เราต้องขอขอบคุณ คุณสมจินต์ พลพรประเสริฐ นับเป็นเวลามากกว่า 15 ปี  สำหรับการอุทิศตนเองทำงานหนักของคุณสมจินต์ ด้วยความเป็นมืออาชีพพร้อมทั้งความซื่อสัตย์ต่อองค์กรและลูกค้าเพื่อธำรงชื่อเสียงขององค์กรตลอดมา เราขอให้คุณประสบแต่สิ่งดี ๆ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเราและน้อง ๆ พนักงานที่ไตรคอร์ ประเทศไทยจะต้องคิดถึงคุณอย่างมากแน่นอน” “ในช่วงเวลาต่อจากนี้ คุณดีแลนด์ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดและมีผลงานเป็นที่พิสูจน์มาแล้ว จะมาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ไตรคอร์ดำเนินการขยายฐานลูกค้าและการบริการในประเทศไทยต่อไป ผมรอคอยที่จะร่วมงานกับเขาและทีมงานบริหารคนอื่น ๆ เพื่อผลักดันกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจในเอเชียแฟซิฟิก เพิ่มตลาดใหม่ ๆ และคว้าโอกาสในการดูแลลูกค้าให้มากขึ้น”

คุณดีแลนด์ หม่า กล่าวว่า “จากภาวะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในปี 2562 ที่เพิ่มสูงขึ้น 5% อันเป็นจำนวนที่ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติที่จำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นหกพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาเซียนจึงถือเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนธุรกิจของโลก และความสำคัญของประเทศไทยในฐานะที่เป็นตลาดสำหรับการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจเติบโตมากยิ่งขึ้น ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับไตรคอร์ และพร้อมที่จะได้ทำงานกับทีมงานคุณภาพเพื่อที่จะเพิ่มพูนมูลค่าและศักยภาพสำหรับให้บริการลูกค้าของเรา”

ขอบคุณ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

HONG KONG SAR (GROUP OFFICE)

Sunshine Farzan

Tricor Services Limited

Group Head of Marketing & Communications

Tel: +852 2980 1261

Email: Sunshine.Farzan@hk.tricorglobal.com

เกี่ยวกับไตรคอร์กรุ๊ป

ไตรคอร์กรุ๊ป (“ไตรคอร์”) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมการประกอบธุรกิจระดับชั้นนำของเอเชีย ซึ่งมีองค์ความรู้ระดับโลก และมีสำนักงานให้บริการธุรกิจทางด้านต่าง ๆ เช่น กฏหมายบริษัท บริการนักลงทุน บริการทรัพยากรบุคคลและเงินเดือน บริการทรัสต์สำหรับองค์กร บริการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และบริการให้คำปรึกษาทางด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยไตรคอร์พร้อมสนับสนุนตั้งแต่ขั้นตอนการวางฐานรากของธุรกิจ และส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจในทุกช่วง ซึ่งเริ่มตั้งแต่การจัดตั้งบริษัทไปจนถึงการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ไตรคอร์ได้พัฒนาการเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากการเติบโตภายในองค์กร และจากการร่วมมือทางธุรกิจ ตลอดจนการควบและรวมกิจการ ปัจจุบัน ไตรคอร์กรุ๊ปมีลูกค้าในความดูแลมากกว่า 50,000 รายทั่วโลก (ซึ่งรวมถึงลูกค้าที่จีนแผ่นดินใหญ่ จำนวน 20,000 ราย) และมีพนักงานมากกว่า 2,700 คน จากเคริอข่ายสำนักงานใน 47 เมืองจาก 21 ประเทศ / เขตการปกครอง โดยจำนวนลูกค้าดังกล่าว เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงและที่จีนแผ่นดินใหญ่มากกว่า 1,500 บริษัท เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์และมาเลเซียโดยประมาณ 500 บริษัท และมากกว่า 40 % เป็นบริษัทที่อยู่ในรายชื่อบริษัทชั้นนำ 500 แห่งทั่วโลกจากการรวบรวมและจัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune รวมทั้งบริษัทข้ามชาติ และบริษัทจำกัดอื่น ๆ ที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายประเทศ โดยไตรคอร์กรุ๊ปอยู่ภายใต้การบริหารและการถือหุ้นของกองทุนเพอร์มีรา (Permira Fund) นับตั้งแต่ มีนาคม 2560

โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: www.tricorglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

JCB และ NTT Com เตรียมสาธิตแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลอเนกประสงค์

Logo

—ฟีเจอร์พิเศษเพียงหนึ่งเดียว1 ที่ให้การรับประกันอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเดิมในเวลาที่กำหนด—

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–08 ตุลาคม 2563

JCB Co., Ltd. ผู้ให้บริการระบบชำระเงินระหว่างประเทศเพียงรายเดียวของญี่ปุ่น และ NTT Communications Corporation (NTT Com) ธุรกิจโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภายใต้ NTT Group (TOKYO: 9432) ได้ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาจะทำการสาธิตการทดสอบกระเป๋าเงินดิจิทัล JCB Mobile Wallet (อาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อในภายหลัง) ฟีเจอร์พิเศษเพียงหนึ่งเดียว1 ที่ให้การรับประกันอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเดิม ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของ JCB และ NTT Com จะเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ซึ่งจะมีไปจนถึงสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่จะมีการเปิดตัวบริการเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่นและตลาดอื่น ๆ ทั่วทั้งเอเชียในปีถัดไป

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201007006061/en/

JCB Mobile Wallet (tentative name) (Graphic: Business Wire)

กระเป๋าเงินดิจิทัล JCB Mobile Wallet (อาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อภายหลัง) (กราฟิก: Business Wire)

แอปพลิเคชันอเนกประสงค์ที่ให้ผู้ใช้สร้างบัตรเติมเงินเสมือนของแบรนด์ JCB ได้ทันที มาพร้อมบริการต่าง ๆ ที่มากด้วยประโยชน์ ทั้งบริการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด บริการโอนเงินทางมือถือ การตั้งค่าบัญชี และบริการค้นหาร้านค้า JCB จากแผนที่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักเรียนที่อยู่ในต่างประเทศ นักธุรกิจ และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น คุณสมบัติต่าง ๆ ของแอปมีดังนี้

  • รองรับสกุลเงินหลากหลาย
    ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินหลักเป็นสกุลเงินอื่นได้ 22 สกุล โดยสามารถเลือกได้ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์หรืออัตราแลกเปลี่ยนในระยะเวลารับประกัน อัตราในระยะเวลารับประกันเป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีให้บริการเฉพาะที่นี่เท่านั้น สกุลเงินใด ๆ ที่ไม่ได้ใช้ภายในสิบสี่วันจะถูกแลกเปลี่ยนกลับในอัตราเดิม
  • มีได้มากกว่าหนึ่งบัญชี
    ลูกค้ากลุ่มครอบครัวและธุรกิจสามารถเปิดใช้บัญชีย่อยได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองสามารถใส่เงินในบัญชีย่อยของบุตรที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับบัญชีประเภทองค์กร บริษัทสามารถจัดการยอดเงินในบัญชีย่อยเมื่อพนักงานเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้อย่างสะดวก
  • บริการที่หลากหลาย
    บริการต่าง ๆ เช่น บริการสำรองที่นั่งร้านอาหารและบริการจองแท็กซี่จะถูกผูกเข้ากับแอปพลิเคชัน

การสาธิตจะจัดขึ้นเพื่อรับประกันการทำงานและการใช้งานได้จริงของส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (UI) และประสบการณ์ของผู้ใช้ (UX) ของฟังก์ชันและบริการต่าง ๆ ที่พัฒนาโดย JCB และ NTT Com นอกจากนี้ยังเป็นการทดสอบระบบ Home Currency Anywhere®2 ของ NTT Com ซึ่งทำหน้าที่จัดการข้อมูลสกุลเงินต่างประเทศที่มีการรับประกันอัตราแลกเปลี่ยน3 อย่างครอบคลุมและรวดเร็ว โดยมี API Gateway as a Service4 ของ NTT Com เป็นตัวจัดการ API ของระบบ Home Currency Anywhere® และบริการอื่น ๆ จากส่วนกลาง
แอปพลิเคชันใหม่นี้สามารถใช้ได้กับระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านโทรศัพท์มือถือและในสภาพแวดล้อมของระบบชำระเงินในหลายประเภทและภูมิภาคซึ่งใช้เทคโนโลยี Near Field Communication5 และ QR codes รวมถึงมีการเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตต่าง ๆ

ในอนาคตจะมีการเพิ่มฟังก์ชันตามแผนที่วางไว้ โดยจะรวมบริการ Wallet Exchange®6 ของ NTT Com เข้าไปเพื่อให้บริการโอนเงินออนไลน์และการจัดการเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายสกุล นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มมาตรการต่าง ๆ เข้าไปเพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลของ JCB สามารถมอบความปลอดภัยที่เข้มแข็งให้กับการทำธุรกรรมของลูกค้าได้

อ้างอิงจากการวิจัยโดย JCB และ NTT Com
Home Currency Anywhere® เป็นบริการโดย NTT Com สำหรับกระจายข้อมูลการแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศในอัตราที่มีการรับประกัน และการทำธุรกรรมผ่านระบบที่มีความปลอดภัย อัตราเงินสกุลต่างประเทศที่มีการรับประกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ช่วยให้ผู้ใช้ เช่น นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และผู้ที่พำนักในต่างประเทศ สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 
https://www.ntt.com/en/about-us/press-releases/news/article/2019/1112.html
3 การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะดำเนินการโดย M-DAQ Pte. LTD. ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรของ NTT Com โปรดดูรายละเอียดที่ https://www.m-daq.com/
API Gateway as a Service จะจัดการการเชื่อมต่อ API กับบริการอื่น ๆ จากส่วนกลางเพื่อการปรับใช้ที่รวดเร็วและง่ายดายผ่านการเชื่อมต่อ API และรูปแบบข้อมูลของแต่ละบริการ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ntt.com/en/about-us/press-releases/news/article/2017/0614.html
5 Near Field Communications (NFC) เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายมาตรฐานสากลซึ่งกำหนดโดย ISO ว่าเป็นมาตรฐานอินเทอร์เฟซการ์ด IC แบบไม่สัมผัสสำหรับการเชื่อมต่อไร้สายกับโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งเทคโนโลยี NFC หรือบัตรเครดิตที่รองรับ NFC ในระยะไม่กี่เซนติเมตร
6 Wallet Exchange® เป็นบริการออนไลน์ของ NTT Com ซึ่งใช้ระบบ Home Currency Anywhere® ฝากเงินสกุลต่าง ๆ เข้าบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้สามารถแปลงเงินอิเล็กทรอนิกส์จากสกุลเงินหลักเป็นสกุลเงินต่าง ๆ ได้เมื่อเดินทางต่างประเทศ และสามารถแปลงเงินที่ไม่ได้ใช้กลับมายังสกุลหลักได้ในอัตราแลกเปลี่ยนเดิมภายใน 14 วัน

เกี่ยวกับ JCB

JCB เป็นแบรนด์ระบบชำระเงินขนาดใหญ่ระดับโลก และผู้ออกบัตรเครดิตและรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น JCB เริ่มธุรกิจบัตรในญี่ปุ่นเมื่อปี 2504 และเริ่มขยายไปทั่วโลกในปี 2524 เครือข่ายผู้ให้บริการของแบรนด์ประกอบไปด้วยผู้ค้า 34 ล้านรายทั่วโลก JCB ให้บริการออกบัตรใน 24 ประเทศและอาณาเขตทั่วโลก โดยมีสมาชิกผู้ถือบัตรมากกว่า 140 คน JCB ได้สร้างพันธมิตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตในต่างประเทศ กับธนาคารและสถาบันทางการเงินชั้นนำหลายร้อยแห่งทั่วโลกเพื่อเพิ่มความครอบคลุมของร้านค้าและขยายฐานผู้ถือบัตร ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันระบบชำระเงินแบบครบวงจร JCB มุ่งมั่นที่จะมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองได้รวดเร็วและมีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: www.global.jcb/en/

เกี่ยวกับ NTT Communications

NTT Communications นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคด้านเทคโนโลยี โดยการช่วยเหลือธุรกิจให้เอาชนะความซับซ้อนและความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมทางด้านไอซีทีของพวกเขาด้วยโซลูชันระบบไอทีพื้นฐานที่มีการจัดการแบบเบ็ดเสร็จ โซลูชันเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยระบบโครงสร้างพื้นฐานของเราที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงเครือข่ายสาธารณะและเครือข่ายส่วนตัวชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมในระดับ tier-1 ที่ครอบคลุมทั่วโลก เข้าถึงประเทศ/ภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 190 จุดหมายปลายทาง และศูนย์กลางข้อมูลที่มีความทันสมัยมากที่สุดของโลกที่มีพื้นที่มากกว่า 500,000 ตรม. ทีมบริการลูกค้ามืออาชีพที่อยู่ทุกมุมโลกของเราคอยให้คำปรึกษาและสถาปัตยกรรมที่มีความยืดหยุ่นและปลอดภัยที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ รวมถึงขนาดและความสามารถระดับโลกในการบริการที่เหนือกว่าของเรา และเมื่อรวมเข้ากับ NTT Data, NTT Security, NTT DOCOMO and Dimension Data พวกเราคือ NTT Group
www.ntt.com | Twitter@NTT Com | Facebook@NTT Com | LinkedIn@NTT Com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่นี่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20201007006061/en/

สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Kumiko Kida, Ayaka Nakajima
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
JCB Co., Ltd.
+81-3-5778-8353
jcb-pr@jcb.co.jp

Masaki Nomoto, Aoi Funagoshi
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานวางแผนองค์กร
NTT Communications
+81-3-6700-4010
pr-cp@ntt.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Meggitt Training Systems ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น InVeris Training Solutions

Logo

ซูวานี  รัฐจอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–7 ต.ค. 2563

Meggitt Training Systems (“ บริษัท ”) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการฝึกซ้อมจริงอาวุธและการฝึกซ้อมอาวุธเสมือนจริงระดับบูรณาการสำหรับลูกค้าทางทหารและหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น InVeris Training Solutions ซึ่งการเปลี่ยนชื่อจะมีผลทันที โดย “InVeris” หมายถึงความเข้าใจและความจริง การเปลี่ยนโฉมแบรนด์สะท้อนให้เห็นถึงความภาคภูมิใจของบริษัทในการยืนอยู่เบื้องหลังชายและหญิงที่กล้าหาญที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทั่วโลก และเพื่อจัดหาโซลูชันการฝึกอบรมที่ครอบคลุมซึ่งเตรียมให้พวกเขาปฏิบัติงานได้ทันท่วงทีเพื่อปกป้องชุมชนและประเทศที่พวกเขารับใช้อยู่ โดยบริษัทยังคงมีสำนักงานใหญ่ในซูวานี  รัฐจอร์เจีย และเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกที่มีศูนย์ปฏิบัติงานหลายแห่งครอบคลุม 5 ทวีป

“ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการตริตรองอย่างรอบคอบเพื่อทำให้ชื่อและตราสินค้าของเราสอดคล้องกับค่านิยมในการให้บริการด้านความปลอดภัยมากขึ้น” Andrea Czop รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การขายและการตลาดกล่าว “ InVeris หมายถึงความไว้วางใจและความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็น ค่านิยมที่เป็นหัวใจหลักสำหรับลูกค้าของเราและเป็นค่านิยมเราปฏิบัติตามอยู่ทุกวัน ลูกค้าของเราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ และเรารู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้ให้บริการผู้ที่ทำให้พวกเราปลอดภัยด้วยความเป็นเลิศ เพราะเรารู้ว่าเมื่อลูกค้าของเรามีการเตรียมพร้อมและคนของพวกเขาปลอดภัย พวกเราทุกคนก็ปลอดภัยไปด้วย”

InVeris Training Solutions ได้นำเสนอโลโก้ใหม่ สีขององค์กรใหม่ และเว็บไซต์ InVerisTraining.comในฐานะส่วนหนึ่งของการรีแบรนด์บริษัทครั้งนี้ โดยบริษัทยังคงเป็นเจ้าของแบรนด์ดั้งเดิมอย่าง FATS® และเทคโนโลยี Caswell ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเวทีการสู้รบเสมือนจริงและการฝึกอบรมแบบซ้อมจริง ตามลำดับ

Czop กล่าวต่อว่า“ ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของการเติบโตในตลาดสหรัฐฯ และตลาดต่างประเทศ ความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของเรายังคงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของเรา เราสนับสนุนลูกค้าของเราเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ นวัตกรรมที่พิสูจน์แล้วและการสนับสนุนแบบเฉพาะเจาะจง เราจะทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อก้าวไปข้างหน้า”

InVeris Training Solutions ผสมผสานวิธีการที่คล่องตัวเข้ากับความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ในเทคโนโลยีการฝึกอบรมเพื่อออกแบบและส่งมอบโซลูชันการฝึกอบรมที่ทันสมัยตามความต้องการซึ่งช่วยให้ลูกค้าทางทหาร หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย และลูกค้าเอกชนและในเชิงพาณิชย์ ได้รับปลอดภัย มีความเตรียมพร้อม และพร้อมให้บริการด้วย Seconds Matter™ บริษัทได้ดำเนินการให้บริการฝึกซ้อมจริงกว่า 15,000 ครั้ง และการฝึกเสมือนจริงกว่า 5,100 ระบบทั่วโลกในประวัติศาสตร์ 90 ปี ของบริษัท นอกจากนี้ยังใช้โครงการฝึกทดลองใช้อาวุธเสมือนจริง (Simulation Training Program of Record for Domestic and International) ในกองทัพต่าง ๆ ทั้งในและระหว่างประเทศ ทั้งนี้โซลูชันการฝึกอบรมขั้นสูงของบริษัทเตรียมพร้อมลูกค้าในกว่า 55 ประเทศเพื่อปกป้องชุมชนที่พวกเขารับใช้อย่างปลอดภัย

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ InVerisTraining.com.

เกี่ยวกับ InVeris Training Solutions

InVeris Training Solutions ผสมผสานวิธีการที่คล่องตัวเข้ากับความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ในเทคโนโลยีการฝึกอบรมเพื่อออกแบบและส่งมอบโซลูชันการฝึกอบรมชั้นหนึ่งที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งช่วยให้การทหาร หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย ลูกค้าเอกชนและในเชิงพาณิชย์ปลอดภัย มีความเตรียมพร้อมและพร้อมรับใช้ชาติ อันเป็นผลมาจากการใช้ Seconds Matter™ InVeris Training Solutions เป็นผู้นำระดับโลกในโซลูชันการฝึกอบรมที่ใช้เทคโนโลยีและทีมงานที่มีพนักงานมากกว่า 400 คนที่ขับเคลื่อนระดับนวัตกรรม  โดยการมีบริษัทดั้งเดิมเป็นFATS® และ Caswell ดังนั้น InVeris Training Solutions ได้ดำเนินการให้บริการฝึกซ้อมจริงกว่า 15,000 ครั้งการฝึกเสมือนจริงกว่า 5,100 ระบบทั่วโลกในช่วงประวัติศาสตร์ 90 ปี บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในซูวานี จอร์เจีย และเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกที่มีศูนย์ปฏิบัติงานหลายแห่งครอบคลุม 5 ทวีป

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201007005137/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Michelle Henderson

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด

InVeris Training Solutions

678-288-1090

michelle.henderson@inveristraining.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

“Guardians of the Gulf” ได้รับเลือกให้ฉายรอบปฐมทัศน์ในงาน LA Femme International Film Festival ในเดือนนี้

Logo

สารคดีที่ผลิตและกำกับโดยผู้หญิงเรื่องนี้ นำเสนอด้านความเอื้ออาทรและความเข้มแข็งของอ่าวเม็กซิโก พร้อม ๆ ไปกับเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลก

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–7 ต.ค. 2563

Guardians of the Gulf, สารคดีที่จะเปิดหูเปิดตาผู้ขมเรื่องนี้ ว่าด้วยการสำรวจความสัมพันธ์ที่สับสนวุ่นวายระหว่างอ่าวเม็กซิโกกับนักอนุรักษ์ที่มุ่งมั่นที่จะปกป้องอ่าว โดยภาพยนตร์ได้รับเลือกให้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ LA Femme International Film Festival ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม โดย Mary Kay Inc. ซึ่งขึ้นแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างโดยการเป็นพันธมิตรกับ Media One และ The Nature Conservancy ได้เข้าเยี่ยมชมชายฝั่งเท็กซัส อลาบามาและเม็กซิโก เพื่อทำความเข้าใจจนกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องราวการอนุรักษ์อ่าวที่มักไม่ค่อยมีใครนำมาเล่า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201007005109/en/

Guardians of the Gulf, produced by Mary Kay Inc., has been selected to premiere at the LA Femme International Film Festival. (Photo: Mary Kay Inc.)

Guardians of the Gulf, ภาพยนตร์ที่ผลิตโดย Mary Kay Inc. ได้รับเลือกให้ฉายรอบปฐมทัศน์ในงาน LA Femme International Film Festival (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ถ่ายทำ กำกับ และอำนวยการสร้างโดยทีมงานหญิงล้วน ภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the Gulf มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์แบบดิจิทัลทั่วโลกในวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคมเวลา 17.00 น. เวลามาตรฐานแปซิฟิก พร้อมกับเซสชัน คำถาม & คำตอบ กับผู้สร้างภาพยนตร์และดาราในเรื่องนี้หลังภาพยนตร์ฉายจบ

เรื่องย่อของ Guardians of the Gulf

อ่าวเม็กซิโกได้รับผลกระทบมานานแล้วจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง เช่น จากเฮอริเคน จากการตกปลามากเกินไป การที่น้ำท่วมเข้าไปยังพื้นที่ทางการเกษตร และการรั่วไหลของน้ำมัน อย่างไรก็ตามอ่าวเม็กซิโกก็ยังเป็นพื้นฐานระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย โดยมีสิ่งมีชีวิตมากกว่า 15,000 ชนิด อย่างไรก็ดีความสามารถในความสามารถในการฟื้นตัวของสภาพของสิ่งแวดล้อมที่นี่กำลังมีความแข็งแกร่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ  ระบบนิเวศของอ่าวที่แสนจะมีประโยชน์แห่งนี้กำลังจะสูญไปตลอดกาลหากไม่ได้รับการบำรุงรักษาจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมัน

ใน Guardians of the Gulf เรื่องราวของอ่าวเม็กซิโกจะถูกเล่าโดยผู้ดูแลระบบนิเวศของที่นี่ ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของความเอื้ออาทรและความเข้มแข็ง นักอนุรักษ์ชาวประมง ผู้ประกอบการท่องเที่ยว พ่อครัวแม่ครัว และผู้นำนักศึกษาเหล่านี้ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงด้านความยั่งยืนในงานและชุมชนของพวกเขา พวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงจากการร่วมมือร่วมใจผ่านโครงการต่าง ๆ และมันทำให้พวกเขามีความหวัง

อ่านเพิ่มเติมที่  https://www.guardiansofthegulf.com.

LA Femme International Film Festival เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่จัดขึ้นครั้งแรกเพื่อเฉลิมฉลอง สนับสนุน และพัฒนาเนื้อหาที่มีผู้ผลิต นักเขียน และผู้กำกับเป็นสตรีจากทั่วโลก เทศกาลนี้ได้พัฒนาอาชีพของศิลปินกว่า 1,000 คนและยังคงมีการสัมมนาด้านการศึกษา การดำเนินโครงการ และการสร้างเครือข่ายในสภาพแวดล้อมแบบอินดี้หรือแบบนอกกระแส

เครดิตภาพยนตร์:

Cait Martin Newnham – ผู้กำกับ

Ulla Laidlaw – ผู้กำกับ

Aine Corby – โปรดิวเซอร์

Jenny Williams – โปรดิวเซอร์

Gayle Ye – ผู้อำนวยการถ่ายภาพ

Mary Kay – ผู้อำนวยการผลิต

คำกล่าว:

“น้ำไม่ใช่ปัญหาเดี่ยว ๆ มันสัมผัสทุกแง่มุมของชีวิตสมัยใหม่และหลักฐานเดียวที่เราต้องการสำหรับปัญหานี้ ถูกแสดงไว้ที่อ่าวเม็กซิโก ในกรณีที่บางคนมองว่าการพึ่งพาซึ่งกันและกันที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เกินไป เรากลับมองเห็นโอกาสและโอกาสที่จะนำผู้คนมาร่วมกับเรามากขึ้นในขณะที่เราคิดค้นวิธีแก้ปัญหาและเปลี่ยนวิถีของแหล่งน้ำที่ทำงานหนักที่สุดในโลกแห่งนี้ หลังจากได้รับชม Guardians of the Gulf แล้วเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชมจะซาบซึ้งบุญคุณไม่เพียงเฉพาะต่ออ่าวนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและการร่วมมือกันเพื่อรักษามันเอาไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป”

Laura Huffman, อดีตผู้อำนวยการภูมิภาค The Nature Conservancy ในเท็กซัสและ และยังมีบทบาทใน Guardians of the Gulf

“ในระหว่างการเรียนรู้เกี่ยวกับอ่าวเม็กซิโกและประวัติศาสตร์ครั้งล่าสุด เราพบว่าตัวเองจมอยู่กับความเศร้าลึกซึ้งของโศกนาฏกรรมและผลกระทบของมัน แต่แล้วเราก็ได้พบกับผู้คนที่น่าทึ่งในอ่าวแห่งนี้ และเราก็รู้ได้ว่าเราไม่มีพื้นที่ให้เรื่องราวของความสิ้นหวังอีกต่อไป ดังนั้นเราต้องการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการฟื้นตัวของอ่าวผ่านการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เพื่อให้ระบบนิเวศแห่งนี้มีกระบอกเสียงในการสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งจะก่อให้เกิดความหวังและการกระทำสร้างความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ”

Cait Martin Newnham, ผู้กำกับ Guardians of the Gulf

“ในขณะที่เราสร้าง Guardians of the Gulf เราตกหลุมรักอ่าวเม็กซิโก อ่าวนี้เป็นที่รู้จักในฐานะตัวละครที่ใจกว้าง ปรับตัวได้ และเปี่ยมไปด้วยพลัง อ่าวนี้ให้ชีวิตและเส้นทางสำหรับการอพยพกับกว่า 15,000 สปีชีส์ และเป็นแห่งอาหารและเป็นเกราะกำบังทางธรรมชาติจากภัยธรรมชาติให้กับมนุษย์ อ่าวนี้ให้ประโยชน์ที่กว้างไกลต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ส่วนชะตากรรมของอ่าวเปรียบเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤตสภาพภูมิอากาศทั่วโลก”

Ulla Laidlaw, ผู้กำกับ of Guardians of the Gulf

“หนึ่งในประเด็นที่เราต้องการนำเสนอที่สุดของสารคดีเรื่องนี้คือความหวัง หวังว่าเราจะไม่เพียงแค่สื่อถึงการรักษาอ่าวเม็กซิโกเท่านั้น แต่ยังสื่อว่าการกระทำของคนจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้อย่างไร การมีความหวังจะทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นมีแรงจูงใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่คลื่นแห่งความยั่งยืนยังคงแผ่ขยายออกไป ทีมงานหญิงล้วนจึงได้สร้างผลงานได้อย่างเหลือเชื่อในการจับกระแสของอ่าวเม็กซิโก สารคดีนี้แสดงให้เห็นถึงผู้คนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องอ่าวนี้และความสามารถในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เราหวังให้ Guardians of the Gulf สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจ ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถดำเนินการในพื้นที่อย่างไรบ้าง เพื่อส่งผลต่อความยั่งยืนของโลก”

Julia Simon, หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย การสื่อสารและผลกระทบทางสังคมของ Mary Kay Inc..

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 56 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com.

เกี่ยวกับ Media One Creative

Media One คือสตูดิโอสร้างสรรค์และการผลิตระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเชิงพาณิชย์สารคดีและเนื้อหาสั้น ๆ สำหรับแบรนด์ที่เราชื่นชอบ เรามีความภาคภูมิใจในกระบวนการสร้างสรรค์และการผลิตแบบครบวงจรซึ่งทำให้เราสามารถพาแบรนด์เข้าไปในใจกลุ่มผู้ชมเป้าหมายผ่านการเล่าเรื่องที่เป็นเรื่องจริง

ตั้งแต่ปี 2555 เราได้สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านการสร้างความแตกต่างในหมู่ผู้ชม โดยการร่วมงานกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาด้านครีเอทีฟ ด้านการผลิตเสียงและวิดีโอ เรียนรู้เพิ่มเติมที่ mediaonecreative.ca.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201007005109/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายการสื่อสารองค์กร

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

วิธีการสร้างรายได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ในช่วงวิกฤต

Logo

กรุงเทพฯ–(THAI BUSINESS NEWS ON BEHALF OF FXCLEARING)–7 ตุลาคม 2563

ถ้าเป้าหมายของคุณคือการหารายได้เพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ การเทรดฟอเร็กซ์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากโดยส่วนใหญ่การลงทุนจะได้กำไรเมื่อตลาดอยู่ในขาขึ้นเท่านั้น แต่ว่าการเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถทำกำไรได้แม้ในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

ถ้าเป้าหมายของคุณคือการหารายได้เพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ การเทรดฟอเร็กซ์ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากโดยส่วนใหญ่การลงทุนจะได้กำไรเมื่อตลาดอยู่ในขาขึ้นเท่านั้น แต่ว่าการเทรดฟอเร็กซ์ คุณสามารถทำกำไรได้แม้ในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

เริ่มลงทุนอย่างไร

ข้อแรกคืออย่าลงทุนด้วยจำนวนเงินที่คุณไม่สามารถสูญเสียไปได้ และก่อนอื่นคุณต้องมีการจัดการเงินที่ดีก่อนในช่วงที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำนี้ ซึ่งความรู้ทางด้านการเงินสามารถช่วยคุณได้ ให้คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงิน ความรู้นี้จะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ดีขึ้น รวมถึงรู้วิธีลดค่าใช้จ่ายและวิธีการหาช่องทางหารายได้เพิ่มเติม

คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเงินนานก่อนที่จะลงทุน ข้อดีของการเทรดฟอเร็กซ์ก็คือคุณสามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยได้ คุณสามารถเริ่มทำรายได้ในตลาดจากเงินเพียงแค่ $100 และเมื่อคุณมีรายได้เพิ่มเติมจากงานอื่น คุณก็สามารถฝากเงินลงทุนเพิ่มได้ ด้วยวิธีนี้จำนวนกำไรจากการเทรดของคุณก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้

คุณไม่สามารถเข้าไปเทรดในตลาดด้วยตัวเองได้หากไม่มีโบรกเกอร์ เนื่องจากคุณจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล โบรกเกอร์จะเป็นบริษัทให้บริการเทรดที่จะให้คุณสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยเทียบเท่ากับลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าสิบเท่าหรือร้อยเท่าได้

การเลือกโบรกเกอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ ให้คุณพิจารณาจากหัวข้อเหล่านี้:

  1. เงื่อนไขการเทรด – สเปรดและเลเวอเรจ
  2. การฝากถอนเงิน – ช่องทางการฝากถอนเงินและจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ
  3. โปร่งใส – ไม่ปกปิดเงื่อนไขใด ๆ
  4. ไม่มีค่าคอมมิชชัน หรือมีค่าคอมมิชชันต่ำ
  5. ความเสี่ยงต่ำ – รองรับบัญชีหน่วยเซนต์ และสามารถเปิดออเดอร์ปริมาณน้อย ๆ ได้

เริ่มต้นศึกษา

อย่าเพิ่งเริ่มลงทุนโดยไม่มีความรู้และการฝึกฝนเทรดก่อน สำหรับขั้นตอนแรก ให้คุณศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับฟอเร็กซ์ก่อนดังนี้:

  • อ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคและจิตวิทยาการเทรด
  • เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการเทรดรวมถึงกลยุทธ์การเทรด ให้คุณเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับคุณ
  • เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยง และให้ทำแผนการเทรดขึ้นมา

เมื่อคุณมีความรู้เบื้องต้นแล้ว ให้คุณเริ่มทดลองเทรดที่บัญชีเดโม และเมื่อคุณมีประสบการณ์มากพอและมีความมั่นใจ ให้คุณเริ่มต้นเทรดที่บัญชีจริงได้

แน่นอนว่าขั้นตอนทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา อาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณมีความรู้และประสบการณ์มากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งสามารถทำกำไรได้มากขึ้นในภายหลังแม้กระทั่งในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การลงทุนเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพมากในการให้คุณรวมถึงคนที่คุณรักมีอิสรภาพทางการเงิน

www.fxclearing.com

—————————————-

ข้อความปฎิเสธความรับผิดชอบ

Thai Business News ไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการเงินและไม่แนะนำหรือต่อต้านการซื้อขายสกุลเงินหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ และไม่ได้แนะนำโบรกเกอร์ใดๆ โดยเฉพาะการซื้อขายตราสารดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ในกรณีของการสูญเสียตราสารที่มีเลเวอเรจอาจเกินมูลค่าของเงินลงทุนเดิม

การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบนมาร์จิ้นนั้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนในบางราย ผลการดำเนินการในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต  โดยระดับของ leverage อาจทำอันตรายกับสถานะทางการเงินของท่าน ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินนั้น ท่านควรพิจารณาจุดมุ่งหมายการลงทุนของท่าน, ระดับของประสบการณ์และการยอมรับความเสี่ยง โดยมีความเป็นไปได้ที่ท่านจะสูญเสียเงินทุนเริ่มต้นเป็นบางส่วนหรือทั้งหมด ดังนั้นท่านจึงไม่ควรนำเงินส่วนที่ท่านคิดว่าไม่สามารถจะสูญเสียได้มาลงทุน ท่านควรจะคำนึงถึงทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระดับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินและหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินหากท่านมีข้อสงสัยใดๆ

มหาวิทยาลัย NTHU เปิดตัวรังสีแห่งความหวังในการปรับปรุงการรักษาภาวะสมองเสื่อม

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(บิสิเนสไวร์)–07 ต.ค. 2563

สาเหตุหนึ่งของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเช่นพาร์คินสันและอัลไซเมอร์คือการกลายเป็นแคลเซียมของฐานนิวเคลียสของสมอง ซึ่งจะปิดกั้นช่องโปรตีนที่เยื่อหุ้มเซลล์สมองและกันการส่งสัญญาณโมเลกุลและสารอาหารไปยังเซลล์  ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์ Sun Yuh-Ju จากสถาบันชีวสารสนเทศศาสตร์และชีววิทยาโครงสร้างซึ่งทำงานร่วมกับห้องปฏิบัติการของ Chwan-Deng Hsiao ที่สถาบันชีววิทยาโมเลกุลของ Academia Sinica ได้ไขปริศนาโครงสร้างโมเลกุลของ “สารลำเลียงฟอสเฟต” และการค้นพบนี้คาดว่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการวิจัยเกี่ยวกับการรักษาภาวะสมองเสื่อม  ผลการวิจัยของทีมที่ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Science Advances ฉบับเดือนสิงหาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20201006005444/en/

Professor Sun Yuh-Ju of the Institute of Bioinformatics and Structural Biology showing team member Tsai Jia-Yin how to grow a crystal. (Photo: Business Wire)

ศาสตราจารย์ Sun Yuh-Ju จากสถาบันชีวสารสนเทศศาสตร์และชีววิทยาโครงสร้างกำลังสาธิตวิธีการปลูกคริสตัลให้สมาชิกในทีม Tsai Jia-Yin (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ศาสตราจารย์ Sun กล่าวว่าเมมเบรนโปรตีน เช่นตัวรับและส่งสัญญาณและช่องทางทำการส่งสัญญาณและจัดหาพลังงานให้กับเซลล์ จึงมีบทบาทสำคัญมากในการพัฒนายา  ฟอสเฟตทรานสปอร์ตเตอร์มนุษย์ (hPiT) เป็นโปรตีนเมมเบรนที่สำคัญสำหรับการขนส่งฟอสเฟตและโซเดียมไอออนเข้าสู่เซลล์สมอง  แต่การเปลี่ยนแปลงสามารถขัดขวางการขนส่งนี้ ทำให้แคลเซียมฟอสเฟตตกตะกอนบนพื้นผิวของเยื่อหุ้มเซลล์ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การกลายเป็นแคลเซียมของฐานนิวเคลียส ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทเช่นโรคพาร์คินสันและโรคอัลไซเมอร์

 Sun กล่าวว่าการวิเคราะห์ตัวส่งฟอสเฟตของมนุษย์และการระบุตำแหน่งของตัวแปรของผู้ป่วยมีความสำคัญในการค้นหาวิธีการรักษาภาวะแคลเซียมในสมอง  ขั้นตอนต่อไปคือการร่วมมือกับแพทย์ในการออกแบบยาตามโครงสร้างนี้โดยใช้การคำนวณทางคอมพิวเตอร์และการจำลองในการทำการทดลองเพื่อระบุโมเลกุลเคมีขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการทำงานปกติของโปรตีนเมมเบรน  Chwan-Deng Hsiao ซึ่งเชี่ยวชาญด้านชีวฟิสิกส์มีบทบาทสำคัญในการวิจัยเชิงนวัตกรรมนี้  หลังจากทีมวิจัยของ Sun วิเคราะห์โครงสร้างสามมิติของตัวลำเลียงฟอสเฟตของมนุษย์ Hsiao ได้ใช้เยื่อหุ้มเซลล์เทียมเพื่อตรวจสอบว่าการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งเป้าหมายจะป้องกันไม่ให้โปรตีนเมมเบรนขนส่งฟอสเฟตได้หรือไม่

ร่างกายมนุษย์มีโปรตีนมากกว่า 30,000 ชนิดซึ่งโปรตีนเมมเบรนเป็นโปรตีนที่สำคัญที่สุดและมีคนเข้าใจน้อยที่สุด  นั่นคือเหตุผลที่ Sun ให้ความสำคัญกับการวิจัยของเธอ โดยใช้เวลา 5 ปีในการวิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลของตัวลำเลียงฟอสเฟต

ขั้นตอนแรกในการวิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลของโปรตีนเมมเบรนคือการเพาะเลี้ยงผลึกโปรตีนเมมเบรน ผลึกลำเลียงฟอสเฟตของมนุษย์ที่มีขนาดเพียงหนึ่งในสิบของเม็ดงา  Sun กล่าวว่ารูปแบบเชิงมุม ความแวววาว และความโปร่งแสงนี้มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างโมเลกุลซึ่งทำให้ “มีค่าและสวยงามกว่าเพชร”

สมาชิกในทีมที่รับผิดชอบในการปลูกผลึกโปรตีนเมมเบรนคือ Tsai Jia-Yin นักวิจัยหลังปริญญาเอกที่สถาบันชีวสารสนเทศศาสตร์และชีววิทยาโครงสร้างของ NTHU

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201006005444/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh
NTHU
(886) 3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย