ผู้อำนวยการธุรกิจ Jerin Raj รับบทบาทพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าในภูมิภาค
กรุงเทพฯ–(บิสิเนส ไวร์)–22 มิ.ย. 2564
เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน และ ภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการในระบบการผลิต ระบบส่ง และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย Black & Veatch ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในธุรกิจด้านพลังงาน ได้เสริมศักยภาพให้กับองค์กรภายใต้การนำ ของ Jerin Raj ผู้อำนวยการธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้าแห่งภูมิภาคเอเชีย
“ด้วยส่วนแบ่งของการผลิตไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ภูมิภาคนี้จึงจำเป็นต้องมีโซลูชั่นด้านพลังงานแบบบูรณาการมากขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเสถียรภาพของระบบโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการขยายเครือข่ายระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า ด้วยความรู้และประสบการณ์อันยาวนานของ Jerin เกี่ยวข้องกับการส่งกำลังไฟฟ้าในระดับภูมิภาคจะช่วยให้ Black & Veatch สามารถช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไร ความน่าเชื่อถือ ด้วยต้นทุนและแผนงานที่แน่นอน” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ Black & Veatch ประจำ Asia Power Business กล่าว
รายงานทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ Black & Veatch: Electric Industry Asia 2021 คาดว่าการลงทุนที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ในช่วงสามถึงห้าปีนับจากนี้จะเป็นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน พลังงานแสงอาทิตย์ บนภาคพื้นดิน การจัดเก็บพลังงาน พลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ ,พลังงานลมนอกชายฝั่ง และไมโครกริดเป็นหมวดหมู่ที่สำคัญห้าอันดับแรก
จากข้อมูลอุตสาหกรรมพลังงานระดับภูมิภาคได้กล่าวว่าการไม่ลงทุนเพื่อทำให้โครงข่ายระบบส่งไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้นเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญต่อประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานในตลาดไฟฟ้าในเอเชีย
Raj มีประสบการณ์มากกว่า 17 ปีในการจัดการและส่งมอบโครงการ รวมถึงพัฒนาธุรกิจด้านพลังงาน ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ปัจจุบัน Raj ประจำอยู่สำนักงานในกรุงเทพมหานคร
Black & Veatch เป็นผู้นำตลาดด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบส่งและจำหน่ายพลังงาน โดยให้บริการธุรกิจด้านพลังงาน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิศวกรรม ไปจนถึงบริการวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง (EPC) อย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงสถานีไฟฟ้าแรงสูง ระบบสายส่งอากาศ และระบบสายส่งใต้ดิน พลังงานหมุนเวียน, ระบบการส่งกระแสไฟฟ่าตรงแรงดันสูง (HVDC) และระบบส่งกำลังไฟฟ้า FACTS (Flexible AC Transmission System)
คลิกที่นี่ เพื่อดาวน์โหลดภาพสนับสนุน
หมายเหตุบรรณาธิการ:
- Black & Veatch ดำเนินธุรกิจด้านระบบส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าแรงสูงมาตั้งแต่ปี 1940 ในปี 2019 ทางบริษัทได้สร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงมากกว่า 1,900 แห่งและโครงการสายส่งมากกว่า 500 โครงการทั่วโลก บริษัทมีประสบการณ์ในเอเชียเกี่ยวกับ EPC เต็มรูปแบบสำหรับสถานีไฟฟ้าแรงสูง GIS (Gas Insulated Substatation) ครอบคลุมด้านสถาปัตยกรรม โยธาและโครงสร้าง, ออกแบบ, ติดตั้ง, ทดสอบ, จัดซื้อ และงานระบบเต็มรูปแบบ
- Black & Veatch เป็นส่วนหนึ่งของกิจการค้าร่วม (consortium) ที่ สร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 kV GIS, 230 kV GIS และสถานีไฟฟ้าแรงสูง 115 kV ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- ในประเทศสิงคโปร์ ทางบริษัทให้บริการเป็นที่ปรึกษาและออกแบบด้านวิศวกรรมสำหรับสถานี 230/66 kV GIS ในศูนย์การจัดการของเสียแบบบูรณาการของสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสิงคโปร์
- Black & Veatch เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบของเทคโนโลยีสายส่ง Breakthrough Overhead Line Design® (BOLD) ในเอเชีย บริษัทให้บริการปรึกษาเกี่ยว BOLD® แก่ลูกค้าในอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม
- ประสบการณ์ของ Black & Veatch ครอบคลุมการบริการด้านวิศวกรรมและการออกแบบในเขตเมืองและชนบท สำหรับการเชื่อมต่อโครงข่ายแรงดันไฟฟ้าที่หลากหลายตั้งแต่ 66kV ถึง 765kV
เกี่ยวกับ Black & Veatch
Black & Veatch เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และก่อสร้าง โดยมีนโยบายให้พนักงานเป็นเจ้าของบริษัท บริษัทมีประวัติด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1915 บริษัทให้บริการลูกค้าทั่วโลกโดยจัดการกับการฟื้นสภาพ และสร้างเสถียรภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุด รายได้ของบริษัทในปี 2020 มีมูลค่าเกิน 3.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย
ดูต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210621005856/en/
ติดต่อสำหรับสื่อ:
EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
สายด่วนสำหรับสื่อตลอด 24 ชั่วโมง | +1 866-496-9149
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย