All posts by Jasmine

การรับชมเนื้อหาวิดีโอที่สตรีมออนไลน์ครองความเป็นผู้นำในการบริโภคสื่อและความบันเทิงในเอเชียแปซิฟิก จากรายงานดัชนีวิดีโอทั่วโลกของ Brightcove ไตรมาสที่สองของปี 2563

Logo

ยอดดูวิดีโอในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 40% และทีวีที่เชื่อมต่อออนไลน์เพิ่มขึ้น 160% ในขณะที่การบริโภคข่าวสารและเนื้อหาความบันเทิงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงที่ COVID -19 ระบาด

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)– 19 ส.ค. 2563

Brightcove Inc. (NASDAQ: BCOV) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีวิดีโอชั้นนำของโลกได้เผยแพร่ดัชนี Brightcove Q2 2020 Global Video Index Entertainment and Media Edition ซึ่งพบว่าการสตรีมเนื้อหาความบันเทิงแบบ OTT ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มคลายนโยบายการให้อยู่ที่บ้าน ข้อมูลนี้ได้แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้บริโภคอาจเปลี่ยนไปจากการดูทีวีแบบเดิม ๆ อย่างถาวร ซึ่งการสตรีมกลายมาเป็นทางเลือกหลักสำหรับการรับชมความบันเทิง

ดัชนี Brightcove’s Q2 2020 Global Video Index ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 ของ Brightcove วิเคราะห์จุดข้อมูลล่าสุดหลายแสนล้านจุดจากลูกค้าของ Brightcove ทั่วโลก เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าผู้ชมรับชมเนื้อหาวิดีโออย่างไร ข้อมูลไตรมาสที่ 2 แสดงให้เห็นว่าการบริโภคข่าวและเนื้อหาบันเทิงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า (40%) จากไตรมาสที่ 1 (23%) ซึ่งเป็นการค้นพบที่สำคัญโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าโดยทั่วไปในไตรมาสที่ 2 มีการเติบโตของการรับชมวิดีโอที่ช้าลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 เมื่อดูครึ่งแรกของปี 2563 เทียบกับปี 2562 จำนวนการรับชมโดยรวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 30%.

“ตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งในเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะสูงถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 และด้วยเทคโนโลยี 5G ที่กำลังมาถึง เราจะยังคงเห็นผู้บริโภคหันมาใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อสตรีมเนื้อหาวิดีโอต่อไป” Jim O’Neill หัวหน้านักวิเคราะห์ และผู้จัดทำ Brightcove’s Global Video Index กล่าว “ ยิ่งไปกว่านั้น  GSMA รายงานว่าจะมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือใหม่ 663 ล้านคนในเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2,000 ล้านคนในภูมิภาคนี้ เมื่อคำนึงถึงสถิตินี้ควบคู่ไปกับการมีเครือข่ายที่เร็วขึ้นและแบนด์วิดท์ที่มากขึ้น จะมีอัตราการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง”

สิ่งที่ผู้บริโภคใช้ในการเข้าดูเนื้อหาก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทีวีที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต (CTV) มีการเติบโตมากที่สุดในไตรมาสที่ 2 (160% เมื่อเทียบปีต่อปี) ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของหน้าจอทีวีที่ใหญ่ขึ้นในฐานะสื่อการรับชมสำหรับความบันเทิง

ข้อค้นพบที่น่าทึ่งอื่น ๆ จากดัชนี Brightcove Q2 2020 Global Video Index ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ :

  • สมาร์ทโฟนเป็นหน้าจอหลักสำหรับวิดีโอ  ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคยังคงใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เกือบทั้งหมดเป็นแบบสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งการดูวิดีโออยู่ที่ 90% หรือเกือบ 90% เป็นระยะเวลาหลายไตรมาสแล้ว
     
  • สมาร์ทโฟนแบบที่ใช้ Android ยังคงครองตลาดอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่จะรับชมเนื้อหาบนสมาร์ทโฟน Android มากกว่าของ iPhone ถึง 8 เท่าซึ่ งเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่ยังคงมีความสอดคล้องกันมาหลายไตรมาส
     
  • ผู้บริโภครับชมเนื้อหาที่มีรูปแบบยาวเป็นพิเศษบนอุปกรณ์มือถือมากขึ้นเรื่อย ๆเอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีอัตราการบริโภคที่เนื้อหาที่มีรูปแบบยาวเป็นพิเศษ (41 นาทีขึ้นไป) โดยเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 66%

“ ปี 2563 กลายเป็นช่วงเวลาแห่งวิวัฒนาการด้านวิดีโอ ส่วนการสตรีมเนื้อหาวิดีโอเพื่อความบันเทิงเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” Jeff Ray ซีอีโอของ Brightcove กล่าว “ วิกฤตในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อผู้คนในด้านอารมณ์และการเงิน ทำให้การเชื่อมต่อกับเพื่อนมนุษย์ผ่านเนื้อหาวิดีโอมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เราได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นจากการสมัครใช้บริการสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าอนาคตของการบริโภคความบันเทิงจะอยู่ที่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อออนไลน์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ การดูโทรทัศน์แบบเดิม ๆ ในไม่ช้าอาจกลายเป็นเพียงอดีต”

หากต้องการดาวน์โหลด Brightcove Q2 2020 Global Video Index Entertainment and Media Edition ฉบับสมบูรณ์รวมถึงข้อมูลทั้งหมดโปรดไปที่: https://www.brightcove.com/en/video-index

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อค้นพบของไตรมาสนี้ หรือ ติดตามการสัมมนาผ่านเว็บสุดพิเศษกับ Jim O’Neill ในวันที่ 15 กันยายน หรือ หากต้องการลงทะเบียนโปรดไปที่: https://get.brightcove.com/global-video-index-2020-q2/

เกี่ยวกับ the Global Video Index

ดัชนี Brightcove’s Global Video Index ประเมินจุดข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนมากกว่า 400,000 ล้านจุดจากลูกค้าหลายพันรายของ Brightcove ในแต่ละไตรมาส โดยดึงข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมที่สามารถช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจทุกขนาด

เกี่ยวกับ Brightcove Inc. (NASDAQ: BCOV)

เราคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มเทคโนโลยีวิดีโอชั้นนำของโลก ด้วยเทคโนโลยีและบริการที่ได้รับรางวัลของเรา เราช่วยให้องค์กรต่างๆในกว่า 70 ประเทศพบบรรลุความท้าทายทางธุรกิจและสร้างโอกาสเชิงกลยุทธ์ด้วยการสร้างแรงบันดาลใจให้ความบันเทิงและดึงดูดผู้ชมผ่านวิดีโอ

นับตั้งแต่ Brightcove ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 เราได้ผลักดันขอบเขตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่จริงจังด้านวิดีโอ นั่นก็คือแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย Brightcove ซึ่งได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก การสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ระบบนิเวศของคู่ค้าที่กว้างขวางและการลงทุนอย่างไม่หยุดยั้งในด้านการวิจัยและพัฒนาวิดีโอ ได้กำหนดมาตรฐานระดับมืออาชีพสำหรับการจัดการวิดีโอ การเผยแพร่ และการสร้างรายได้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมโปรดไปที่ www.brightcove.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200818005473/en/

ติดต่อ:

Radha K Raman

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด, ภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิค

Brightcove | +65 3163 5555

rraman@brightcove.com

Meredith Duhaime

ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์

Brightcove | 603-785-8518

mduhaime@brightcove.com

ปตท.สผ. มอบโครงการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลแก่ Halliburton

Logo

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่เน้นความเป็นเลิศด้านการผลิต

โครงการประกอบด้วยชุดเทคโนโลยี DecisionSpaceของ Halliburton® และซอฟต์แวร์การจัดการประสิทธิภาพองค์กร Honeywell Forge

ฮิวสตัน–(บิสิเนส ไวร์)–18 ส.ค. 2563

ปตท.สผ. บริษัท สำรวจและผลิตปิโตรเลียมของประเทศไทยได้มอบสัญญาแก่ Halliburton (NYSE: HAL) ในการออกแบบและดำเนินโครงการการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Advanced Production Excellence (APEX) ของ ปตท.สผ.  APEX จะปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและการผลิตใน 4 แท่นขุดเจาะนอกชายฝัง ได้แก่ โครงการอาทิตย์ บงกชใต้ บงกชเหนือ และทุ่งซอติก้า เมียนมาร์

Landmark สายธุรกิจของ Halliburton จะใช้ DecisionSpace® Production Suite ในระบบคลาวด์เพื่อปรับปรุงการดำเนินการผลิตตั้งแต่พื้นผิวดินไปจนถึงโรงงานแปรรูป  DecisionSpace® Enterprise Platform จะทำงานร่วมกับ Honeywell Forge ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ในการมอบข้อมูลแบบเรียลไทม์และภาพอัจฉริยะเพื่อให้ ปตท.สผ. สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิผลมากขึ้น

โดยใช้แบบจำลองทางฟิสิกส์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลขั้นสูง ผลิตภัณฑ์นี้สามารถสร้างแบบจำลองของพื้นผิวและส่วนประกอบใต้พื้นผิวเพื่อจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตั้งแต่แหล่งน้ำมันจนถึงจุดส่งมอบ  สิ่งนี้รวมถึงการวางแผนและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะสั้น การตรวจสอบ ควบคุม และรับประกันการไหลเวียน การตรวจสอบและควบคุมการผลิตทราย การเพิ่มประสิทธิภาพการคงตัวของคอนเดนเสท การเพิ่มประสิทธิภาพเมมเบรน CO2 การเพิ่มประสิทธิภาพก๊าซเชื้อเพลิง และการตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโรงงานแปรรูป

“เรามีความยินดีที่จะได้ร่วมมือกับ Honeywell เพื่อสนับสนุน ปตท.สผ. ในเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล” Nagaraj Srinivasan รองประธานอาวุโสของ Landmark และ Halliburton Digital Solutions กล่าว “การใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มการผลิต ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเพิ่มมูลค่าสูงสุดของพอร์ตโฟลิโอของผู้ปฏิบัติงาน”

เกี่ยวกับ HALLIBURTON

Halliburton ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2462 เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมพลังงาน  ด้วยพนักงานมากกว่า 40,000 คนจาก 140 สัญชาติในกว่า 80 ประเทศ บริษัทช่วยให้ลูกค้าเพิ่มมูลค่าตลอดวงจรชีวิตของแหล่งเชื้อเพลิง ตั้งแต่การค้นหาไฮโดรคาร์บอนและการจัดการข้อมูลทางธรณีวิทยา ไปจนถึงการขุดเจาะและการประเมินการก่อตัว การก่อสร้างบ่อ และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตลอดอายุของสินทรัพย์ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.halliburton.com ติดตาม Halliburton บน Facebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube

อ่านที่มาใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200818005064/en/

สำหรับนักลงทุน:
Abu Zeya
Investor Relations (นักลงทุนสัมพันธ์) investors@halliburton.com 
281-871-2688

สำหรับสื่อข่าว:
William Fitzgerald
External Affairs  (กิจการภายนอก)
pr@halliburton.com  
281-871-5267