All posts by Jasmine

Riskified Ltd. ประกาศกำหนดราคาเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–29 กรกฎาคม 2564

Riskified Ltd. (“Riskified”) แพลตฟอร์มการจัดการการฉ้อโกงที่มอบประสบการณ์การเปิดใช้งานอีคอมเมิร์ซที่ลื่นไหล ประกาศราคาการเสนอขายหุ้นครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 17,500,000 หุ้นสามัญ Class A ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปที่ 21.00 ดอลลาร์ต่อหุ้นสามัญ Class A การเสนอขายประกอบด้วยหุ้นสามัญ Class A จำนวน 17,300,000 หุ้นที่เสนอขายโดย Riskified และหุ้นสามัญ Class A จำนวน 200,000 หุ้นเพื่อจำหน่ายโดยผู้ถือหุ้นรายใดรายหนึ่งของ Riskified ซึ่ง Riskified จะไม่ได้รับเงินจากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้น ผู้จัดการการจัดจำหน่ายจะมีสัญญาอนุพันธ์เป็นเวลา 30 วันในการซื้อหุ้นสามัญ Class A เพิ่มเติมสูงสุดจำนวน 2,625,000 หุ้นจาก Riskified ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก โดยหักส่วนลดการรับประกันและค่าคอมมิชชั่น หุ้นสามัญ Class A คาดว่าจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ภายใต้สัญลักษณ์ “RSKD”

การปิดการเสนอขายคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ขึ้นอยู่กับความพอใจของเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม

Goldman Sachs & Co. LLC, J.P. Morgan Securities LLC และ Credit Suisse Securities (USA) LLC ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้จัดการด้านธุรกรรมสำหรับการเสนอขายครั้งนี้ โดย Barclays Capital Inc., KeyBanc Capital Markets Inc., Piper Sandler & Co., Truist Securities, Inc. และ William Blair & Company, L.L.C. เป็นผู้จัดการร่วมดำเนินการจัดทำรายการเสนอขาย Loop Capital Markets LLC, Samuel A. Ramirez & Company, Inc., Siebert Williams Shank & Co., LLC และ Stern Brothers & Co. ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขาย

การเสนอขายจะทำโดยใช้หนังสือชี้ชวนเท่านั้น กรุณารับสำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายได้จาก Goldman Sachs & Co. LLC, Attn: Prospectus Department, 200 West Street, New York, New York, 10282 ทางอีเมลที่ prospectus-ny@ny.email.gs.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 866-471-2526; J.P. Morgan Securities LLC, Attn: Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York, 11717 ทางอีเมลที่ Prospectus-eq_fi@jpmorgan.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 1-866-803-9204 และ Credit Suisse Securities (USA) LLC, Attn: Prospectus Department, One Madison Avenue, New York, New York, 10010 ทางอีเมลที่ newyork.prospectus@credit-suisse.com หรือทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 800-221-1037

ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนในแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้ และมีผลบังคับใช้แล้วโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ตามข้อเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Riskified

Riskified ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มศักยภาพของอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่โดยเพิ่มความปลอดภัย เข้าถึงได้ และความลื่นไหล Riskified ได้สร้างแพลตฟอร์มการจัดการความเสี่ยงอีคอมเมิร์ซยุคหน้าที่ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้กับผู้บริโภคของพวกเขา แพลตฟอร์มของ Riskified ใช้ประโยชน์จากการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง โดยได้ประโยชน์จากเครือข่ายผู้ค้าทั่วโลกเพื่อระบุบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโต้ตอบออนไลน์ในแต่ละครั้ง ช่วยให้ผู้ค้า—ลูกค้าของ Riskified สามารถขจัดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากธุรกิจของพวกเขา Riskified ช่วยเพิ่มยอดขายและลดการฉ้อโกงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ สำหรับผู้ค้า และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภค เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของผู้ค้าก่อนที่จะเริ่มดำเนินการของ Riskified

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210728006106/en/

ติดต่อ:

นักลงทุนสัมพันธ์:
Chris Mammone, The Blueshirt Group for Riskified
ir@riskified.com

การสื่อสารองค์กร:
Rowena Kelley
press@riskified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gupshup ระดมทุนเพิ่มอีก 240 ล้านดอลลาร์เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์การส่งข้อความสนทนาทั่วโลกอย่างรวดเร็วแบบฟาสต์แทร็ค

Logo

การลงทุนทำให้ Gupshup เป็นผู้นำในการส่งข้อความสนทนา เร่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับการเปิดใช้งานการค้าดิจิทัล กิจกรรม M&A และการขยาย GTM ทั่วโลก

ซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–28 ก.ค. 2564

Gupshup ผู้นำด้านการส่งข้อความสนทนา ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมเงินทุนเพิ่มเติมอีก 240 ล้านดอลลาร์ จากกลุ่มนักลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง Fidelity Management and Research Company LLC, Tiger Global, Think Investments, Malabar Investments, Harbor Spring Capital, บัญชีบางรายการที่จัดการโดย Neuberger Berman Investment Advisers LLC, White Oak, Neeraj Arora และอื่นๆ โดยรอบการระดมทุนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ระดมทุนได้ 100 บ้านดอลลาร์จาก Tiger Global ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ระดมทุนได้มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์

Gupshup จะใช้การลงทุนนี้เพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ต่อไปและเพื่อซื้อหุ้นต่อจากพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงาน ตลอดจนถึงนักลงทุนรายเดิมก่อนหน้านี้ Gupshup ยังคงลงทุนในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อการพาณิชย์ดิจิทัล ตลอดจนการขยายโครงการริเริ่มสู่ตลาดในประเทศที่เน้นอุปกรณ์พกพาเป็นหลักทั่วโลก นอกจากนี้ Gupshup กำลังสำรวจโอกาสในการควบรวมกิจการเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ประกาศการขยายทีมผู้บริหารด้วยการจ้างงานผู้นำในด้านการพัฒนาองค์กร การพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ การขาย ความสำเร็จของลูกค้า การตลาด และไอที

“เราเห็นการเติบโตในเศรษฐกิจดิจิทัลของอินเดียเป็นอย่างมาก” Shashin Shah ผู้จัดการใหญ่ของ Think Investments กล่าว “แพลตฟอร์มของ Gupshup เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับธุรกิจที่สร้างรอยเท้าดิจิทัล เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Gupshup เนื่องจากตำแหน่งผู้นำตลาด การเติบโตที่นำโดยนวัตกรรม และสถานะทางการเงินที่น่าดึงดูดของบริษัท”

“เราได้ติดตามความก้าวหน้าของ Gupshup มาระยะหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าพวกเขาเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารกับลูกค้าที่มีการพัฒนามากที่สุดในอินเดียและเพิ่มมากขึ้นในตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ด้วยตำแหน่งผู้นำในกลุ่มย่อยที่น่าสนใจและเติบโตเร็วที่สุดของตลาด” กล่าว Sumeet Nagar กรรมการผู้จัดการ Malabar Investments “เราเชื่อว่า Beerud และทีมงานมีโอกาสพิเศษในการขยายตลาดที่เข้าถึงได้ด้วยข้อเสนอใหม่ ๆ และการขยายธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นสูตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างมูลค่ามหาศาล ผมรู้จัก Beerud มากว่าสามทศวรรษแล้ว และพวกเราทุกคนที่ Malabar รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Gupshup ในขั้นต่อไปของการเดินทางของพวกเขา”

“เราเชื่อว่าการแปลงเป็นดิจิทัลของอินเดียอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตเชิงพลวัต ซึ่งขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่สำคัญ” Subir Jajoo หุ้นส่วนของ Harbor Spring Capital กล่าว “Gupshup ได้สร้างแพลตฟอร์มชั้นนำเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของธุรกิจ-ผู้บริโภค และเรายินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทในขณะที่ดำเนินการปรับปรุงประสบการณ์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่องผ่านนวัตกรรม ความน่าเชื่อถือ และการบริการลูกค้า”

“การมีบทสนทนาเป็นเหมือนตัวแทนของหน้าร้านดิจิทัลใหม่สำหรับธุรกิจ แทบทุกธุรกิจจะต้องสร้างระบบสนมนาขึ้นมา” Beerud Sheth ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Gupshup กล่าว “เรากำลังเปลี่ยนแปลงการค้าดิจิทัลทั่วโลกด้วยการส่งข้อความสนทนา เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับนักลงทุนรายใหม่ของเราเนื่องจากประวัติอันน่าทึ่งในการสนับสนุนบริษัทในการสร้างหมวดหมู่ นอกจากนี้เรายังยินดีกับโอกาสที่จะมอบสภาพคล่องและผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนและพนักงานที่เชื่อมั่นใน Gupshup ด้วย”

การเปิดใช้งานการค้าดิจิทัลด้วยการส่งข้อความสนทนาจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรม พาลูกค้าไปยังเส้นทางการสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในแอปรับส่งข้อความ ทั่วทั้งการตลาด การพาณิชย์ และเวิร์กโฟลว์การสนับสนุน ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถค้นพบผลิตภัณฑ์ ชำระเงิน ติดตามการส่งของ ให้คำติชม และขอรับการสนับสนุน ขณะสนทนากับแบรนด์โปรดของพวกเขา ได้เหมือนกับเวลาที่พูดคุยกับเพื่อนและครอบครัว

รอบการระดมทุนครั้งสุดท้ายของ Gupshup เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2564 โดยบริษัทระดมทุนได้ 340 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 ทั้งนี้ Gupshup เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อสิ้นปี 2563 มีอัตราการดำเนินการรายรับต่อปีประมาณ 150 ล้านดอลลาร์

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Gupshup

Gupshup ช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมผ่านการส่งข้อความสนทนาได้ดีขึ้น Gupshup เป็นแพลตฟอร์มการส่งข้อความเชิงสนทนาชั้นนำที่ขับเคลื่อนข้อความมากกว่า 6 พันล้านข้อความต่อเดือน ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กหลายพันแห่งในตลาดเกิดใหม่ต่างใช้ Gupshup เพื่อสร้างประสบการณ์การสนทนาในด้านการตลาด การขาย และการสนับสนุน แพลตฟอร์มระดับผู้ให้บริการของ Gupshup ประกอบด้วย API การส่งข้อความเดียวสำหรับช่องสัญญาณมากกว่า 30 ช่อง ชุดเครื่องมือสร้างประสบการณ์การสนทนาที่หลากหลายสำหรับกรณีการใช้งานใดๆ และเครือข่ายพันธมิตรทางการตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ผ่านช่องทางการส่งข้อความ ผู้ผลิตอุปกรณ์ ISV และผู้ให้บริการ อนึ่งการมีอยู่ของ Gupshup ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถทำให้การสนทนาเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า Gupshup มีบริษัทอยู่ในอินเดีย ลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา เยี่ยมชม www.gupshup.io และ สนทนากับ บอทของ Gupshup

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210728005075/en/

สำหรับสื่อติดต่อ

Richard Laermer

RLM PR | gupshup@rlmpr.com | (212) 741-5106 x 216

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Ripple เปิดตัวบริการ On-Demand Liquidity ร่วมกับ SBI Remit เพื่อเร่งสร้างการเติบโตของระบบชำระเงินข้ามพรมแดนจากญี่ปุ่น

Logo

Ripple เปิดตัวบริการ On-Demand Liquidity ร่วมกับ SBI Remit เพื่อเร่งสร้างการเติบโตของระบบชำระเงินข้ามพรมแดนจากญี่ปุ่น

การเข้าเป็นพันธมิตรกับ Coins.ph และ SBI VC Trade จะช่วยให้ SBI Remit สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าด้วยบริการโอนเงินที่เร็วขึ้นในราคาที่ถูกกว่า โดยจะเริ่มจากประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่แรก

ซานฟรานซิสโก & โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–28 กรกฎาคม 2564

Ripple ผู้ให้บริการชั้นนำด้านบล็อกเชนสำหรับธุรกิจและโซลูชันเงินดิจิทัลสำหรับการชำระเงินทั่วโลก วันนี้ ได้ประกาศเปิดตัวบริการ On-Demand Liquidity (ODL) ของ Ripplenet แบบเรียลไทม์เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น โดยร่วมกับ SBI Remit Co., Ltd ผู้ให้บริการโอนเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และหนึ่งในผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลชั้นนำในฟิลิปปินส์อย่าง Coins.ph

การขยายความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ SBI Remit เชื่อมต่อกับ Coins.ph และ SBI VC Trade ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลบน RippleNet เพื่อให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนจากญี่ปุ่นไปยังฟิลิปปินส์ที่รวดเร็วมากขึ้นและในราคาที่เอื้อมถึงง่ายขึ้น หลังการมาถึงของบริการ ODL ในญี่ปุ่น ลูกค้าของ RippleNet จะสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล XRP ในการลดความจำเป็นในการวางเงินล่วงหน้า (pre-funding) และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินการ ซึ่งเป็นการปลดล็อคเงินทุนและเร่งให้เกิดการขยายธุรกิจรับชำระเงินของลูกค้า

Asheesh Birla ผู้จัดการทั่วไปของ RippleNet แห่ง Ripple กล่าวว่า “การขยายความร่วมมือของเรากับ SBI Remit เพื่อเริ่มให้บริการ ODL ของ RippleNet ในญี่ปุ่น เป็นอีกก้าวความสำเร็จครั้งสำคัญในหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเรา หากพูดถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า SBI Remit คือผู้นำทางด้านนี้มาตลอด เราตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีวิสัยทัศน์อย่าง SBI ที่มองเห็นคุณค่าในเทคโนโลยีบล็อกเชน และได้สนับสนุนพวกเขาในการเตรียมความพร้อมสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยสกุลเงินดิจิทัล”

แนวโน้มการเติบโตของแรงงานต่างชาติในระยะยาวและธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศในญี่ปุ่นคาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้มีการโอนเงินที่มียอดไม่สูงแต่จำนวนครั้งถี่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน ประชากรฟิลิปปินส์พลัดถิ่นในญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนมากสูงสุดเป็นอันดับสาม เฉพาะในปี 2563 มีการโอนเงินจากญี่ปุ่นไปยังฟิลิปปินส์โดยแรงงานชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศรวมราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกเหนือจากนั้น ญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินระหว่างประเทศสูงที่สุดของโลก โดยข้อมูลจากธนาคารโลกเผยว่าการส่งเงินจากญี่ปุ่นจะมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 10.5% ขณะที่ต้นทุนเฉลี่ยในการส่งเงินจากกลุ่มประเทศ G8 อยู่ที่ 5.92%

Nobuo Ando ประธานกรรมการแห่ง SBI Remit กล่าวว่า “เรามองเห็นศักยภาพอันมหาศาลในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อพลิกโฉมไม่เพียงเฉพาะวิธีการทำธุรกรรมชำระเงิน แต่ยังรวมถึงวิธีบริหารจัดการธุรกิจโดยการปลดล็อคเงินทุนที่จมอยู่ การเปิดตัวบริการ ODL ในญี่ปุ่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และเราตั้งตารอที่จะได้สานต่อการผลักดันไปสู่อีกระดับของนวัตกรรมการเงินที่เหนือกว่าการชำระเงินแบบเรียลไทม์เฉพาะในฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาคด้วย”

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างมากและเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโอกาสมากมายสำหรับ RippleNet สืบเนื่องจากระเบียบข้อบังคับที่ก้าวหน้าและบริษัทที่มีความก้าวล้ำเช่น SBI Remit ซึ่งตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำอุตสาหกรรมเงินดิจิทัล เอเชียแปซิฟิกเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดสำหรับ Ripple โดยมีการทำธุรกรรมเติบโต 130% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับความร่วมมือในระยะถัดไป SBI Remit จะเชื่อมต่อกับพันธมิตรรายอื่น ๆ ของ RippleNet และใช้ XRP เพื่อเร่งสร้างธุรกิจรับชำระเงินประสิทธิภาพสูงให้กับพวกเขาต่อไป

Nauman Mustafa ซีอีโอของ Coins.ph กล่าวว่า “นวัตกรรมฟินเทคเป็นกุญแจที่จะนำไปสู่การทำธุรกรรมทางการเงินที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนจาก SBI Remit และ Ripple เราหวังที่จะได้สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าด้วยบริการชำระเงินระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ที่มีความรวดเร็วยิ่งกว่าในราคาที่ถูกลง พร้อมก้าวสู่การปฏิวัติระบบการเงินไปอีกขั้น”

ขณะที่มีธุรกิจจำนวนมากขึ้นต้องการผสานบริการที่รองรับเงินดิจิทัลเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน SBI Remit จึงจะร่วมกับลูกค้า ODL ปัจจุบันในเอเชียแปซิฟิก เช่น Novatti และ Tranglo และเข้าไปมีบทบาทสำคัญบน RippleNet ในรูปแบบ fiat ทั้งแบบ on ramp และ off-ramp โดย SBI Holdings เป็นผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของ Ripple

เกี่ยวกับ Ripple

Ripple ช่วยให้ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงบริการชำระเงินได้ทุกที่ ทุกช่องทาง โดยใช้พลังของคริปโตและบล็อกเชน การเข้าร่วมเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก (RippleNet) ซึ่งกำลังเติบโตของ Ripple ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถดำเนินการการชำระเงินของลูกค้าได้ทันทีจากทุกที่ในโลกด้วยความน่าเชื่อถือและความคุ้มค่า ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล XRP เพื่อลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และด้วยสำนักงานทีมีอยู่ทั้งในซานฟรานซิสโก วอชิงตันดีซี นิวยอร์ก ลอนดอน มุมไบ สิงคโปร์ เซาเปาโล เรคยาวิก และดูไบ Ripple จึงมีลูกค้าหลายร้อยรายทั่วโลก

เกี่ยวกับ SBI Remit

SBI Remit ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของ SBI FinTech Solutions เป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการโอนเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยความปลอดภัย สะดวก และง่ายดาย สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้ภายใน 10 นาที เมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม ปี 2563 มียอดการโอนเงินรวมสูงกว่า 1 ล้านล้านเยน

เกี่ยวกับ Coins.ph

พันธกิจของ Coins.ph คือการพัฒนาบริการทางการเงินที่ให้ใคร ๆ สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านทางโทรศัพท์มือถือแม้ไม่มีบัญชีธนาคาร ด้วยบริการจาก Coins.ph ลูกค้าสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ให้พวกเขาใช้บริการทางการเงินต่าง ๆ อย่างเช่นการส่งและรับเงิน การชำระบิลออนไลน์ การซื้อ air-time สำหรับมือถือ การใช้งานจากผู้ให้บริการด้านการขนส่ง และสกุลเงินดิจิทัล Coins.ph อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Bangko Sentral ng Pilipinas (BSP) และเป็นบริษัทด้านบล็อกเชนเพียงแห่งเดียวในเอเชียที่ได้รับทั้งใบอนุญาต Virtual Currency และ Electronic Money Issuer จากธนาคารกลาง

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210727006246/en/

Sheryl Tham
press@ripple.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ประกาศรางวัลการตลาดระดับปริญญาเอก Academy of Marketing Science Mary Kay Doctoral Dissertation Awards ประจำปี 2021

Logo

Mary Kay สนับสนุนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเพื่อส่งเสริมความใฝ่ฝันทางวิชาชีพและการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการตลาด

แดลลัส–(บิสิเนส ไวร์)–27 ก.ค. 2564

Mary Kay Inc. องค์กรชั้นนำที่สนับสนุนและเสริมสร้างความเป็นผู้นำในผู้ประกอบการสตรี ได้ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาและการวิจัยมาเป็นเวลาหลายทศวรรษด้วยรางวัล Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Awards ในปี 2564 ที่ Academy of Marketing Science (AMS) ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว  เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่บริษัทด้านความงามระดับโลกได้มอบทุนสนับสนุนประจำปีเหล่านี้เพื่อให้ผู้สมัครระดับปริญญาเอกด้านการตลาดมีโอกาสแสดงวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการตอบรับอย่างสำเร็จต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน  ผู้เข้ารอบสุดท้ายจะได้รับการคัดเลือกจากการนำเสนอครั้งสุดท้ายในการประชุมประจำปี AMS

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210727005230/en/

AMS Mary Kay Doctoral Dissertation Awards were presented to six deserving winners at the 2021 AMS Annual Conference held virtually. (Graphic: Mary Kay Inc.)

AMS Mary Kay Doctoral Dissertation Awards มอบให้แก่ผู้ชนะหกท่านในการประชุม AMS ประจำปี 2564 ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

ทางโครงการรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาเอกจากสาขาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย วิทยาลัยการเรียนรู้ระดับสูง โรงเรียนธุรกิจ หรือโรงเรียนการจัดการทั่วโลก  ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Awards ประจำปี 2564 ได้แก่

ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation Proposal Award ประจำปี 2564

  • รางวัลชนะเลิศ – Luo Bowen, PhD Candidate, University of Rochester, สหรัฐอเมริกา
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 – Aleksandrina Atanasova, PhD Candidate, Royal Holloway University of London, สหราชอาณาจักร
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 – Riley Krotz, PhD Candidate, University of Tennessee, สหรัฐอเมริกา

ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ Mary Kay Doctoral Dissertation Award ประจำปี 2564

  • รางวัลชนะเลิศ – Irene Nahm, PhD, University of Minnesota, สหรัฐอเมริกา
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 – Constant Pieters, PhD, Tilburg University, Netherlands
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 – Victor Lima, PhD, York University, แคนาดา

“Mary Kay มุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสในการเสริมความก้าวหน้าในอาชีพและการศึกษาทั่วโลก” Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. กล่าว  “การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่าน Academy of Marketing Science Dissertation and Dissertation Proposal Awards ช่วยให้ผู้ที่มีความโดดเด่นในได้แสดงความสามารถของตนและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน  พวกเขาเป็นกำลังสำคัญอย่างมากในด้านการตลาดและเรารู้สึกเป็นเกียรติที่สามารถสนับสนุนพวกเขาในอาชีพของพวกเขา”

Julie Moulard ประธาน Academy of Marketing Science กล่าวว่า “ในแต่ละปี เราได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mary Kay Dissertation Awards หลายสิบรายการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่ต้องการพัฒนาอาชีพและรับข้อเสนอแนะที่สำคัญจากเพื่อนร่วมงานของพวกเขาเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวิทยานิพนธ์ของพวกเขา “กว่าสองทศวรรษที่ Mary Kay's Dissertation Awards ได้ให้โอกาสในการจัดโครงสร้างและปรับแต่งงานวิจัย สร้างเครือข่ายกับผู้นำในอุตสาหกรรม และเพิ่มความรู้จักในหมู่เพื่อนร่วมงานทางวิชาการ ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญต่อการพิสูจน์ผลงานของพวกเขาและการเผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการตลาดอย่างน่าเชื่อถือ”

 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Academy of Marketing Science Mary Kay Dissertation Awards คลิกที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม และการร่วมมือกับองค์กรทั่วโลกเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมที่ดี Mary Kay Global Design Studio เป็นหน่วยงานด้านครีเอทีฟโฆษณาภายในองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์สำหรับความร่วมมือด้านแฟชั่น ดีไซเนอร์และอินฟลูเอนเซอร์ และแคมเปญการสร้างแบรนด์ของ Mary Kay เพื่อพลิกโฉมการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับผู้บริโภค

เกี่ยวกับ Academy of Marketing Science

Academy of Marketing Science เป็นองค์กรวิชาชีพระดับนานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมมาตรฐานสูงและความเป็นเลิศในการสร้างและเผยแพร่ความรู้ด้านการตลาดและการส่งเสริมการปฏิบัติทางการตลาดผ่านบทบาทของความเป็นผู้นำในสาขาวิชาการตลาดทั่วโลก ทางองค์การมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดและความร่วมมือในการแสวงหาภารกิจนี้

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210727005230/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tetrate โดย Istio Creators ผู้ริเริ่มประกาศเปิดสำนักงานเอเชียแปซิฟิกในสิงคโปร์

Logo

ซานฟรานซิสโก & สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–28 กรกฎาคม 2564

วันนี้ Tetrate ผู้นำด้านเทคโนโลยีในเครือข่ายด้วยฟีเจอร์ application-aware และ service mesh ได้ประกาศเปิดสำนักงานในสิงคโปร์เพื่อขยายธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Tetrate แต่งตั้ง Karthik Viswanathan ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขาย APAC และ Adrian Cole เป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมเพื่อสร้างทีมในเอเชีย Viswanathan ได้ขยายองค์กรการขายสำหรับ Cloudhealth (ได้มาโดย VMware) และ Fortinet โดย Cole เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้สนับสนุนหลักในโครงการโอเพนซอร์ส เช่น JClouds, Spring Cloud Sleuth และ OpenZipkin เมื่อต้นปีนีในเดือนมีนาคม Tetrate ได้ระดมทุน 40 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุน Series B ที่นำโดย Sapphire Ventures นักลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ Scale Venture PartnersNTTVCDell Technologies CapitalIntel Capital8VC, และ Samsung NEXT.

“เรากำลังมองหาแรงผลักดันที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Tetrate ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนเพื่อสร้างทีมขายและวิศวกรรมที่แข็งแกร่งในเอเชีย” Varun Talwar ซีอีโอของ Tetrate กล่าว “การปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ทันสมัยเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกและการรักษาความปลอดภัยแบบ zero trust สำหรับการบริการแอปพลิเคชัน และ API เป็นสิ่งที่กังวลทั่วไปในหมู่องค์กร Tetrate Service Bridge สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ผ่านจำนวนงานและสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน”

บริษัทการเงิน สุขภาพ และการค้าปลีกที่ติดอันดับ Fortune 200 และองค์กรรัฐบาลสหรัฐ แพลตฟอร์มการจัดส่งแอปพลิเคชันของ Tetrate และผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุด Tetrate Service Bridge ช่วยเร่งการปรับใช้ระบบคลาวด์ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และสถาปัตยกรรม zero trust  ซึ่ง Tetrate เป็นผู้สนับสนุนชั้นนำของ Envoy Proxy และ Istio ช่วยองค์กรต่างๆ ในเส้นทาง service mesh ที่จะนำมาใช้ โดยการให้การสนับสนุนและความเชี่ยวชาญในเชิงพาณิชย์

การขยายตัวในภูมิภาคนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ Tetrate ที่จะใกล้ชิดกับลูกค้าทั่วโลกมากขึ้น ทีมงานในสิงคโปร์จะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย การตลาด วิศวกรรม และความสำเร็จของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าในพื้นที่และภูมิภาคได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนที่รวดเร็วยิ่งขึ้น Tetrate จะยังคงขยายธุรกิจต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในเอเชีย

เกี่ยวกับ Tetrate

Tetrate เป็นบริษัท service mesh ระดับองค์กร ริเริ่มโดย Istio ในการสร้างสรรค์ระบบเครือข่ายแอปพลิเคชันใหม่ โดยจัดการความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานแอปพลิเคชันระบบคลาวด์แบบไฮบริดที่ทันสมัย ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท Tetrate Service Bridge นำเสนอแพลตฟอร์ม service mesh ที่ครอบคลุมและพร้อมสำหรับองค์กร ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับการปรับใช้แบบมัลติคลัสเตอร์ มัลติเทนแนนซ์ และมัลติคลาวด์ ลูกค้าจะได้รับความสามารถในการสังเกตที่สม่ำเสมอ ความปลอดภัยรันไทม์ และการจัดการทราฟฟิกในทุกสภาพแวดล้อม Tetrate ยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักในโครงการโอเพนซอร์ส Istio และ Envoy Proxy ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tetrate.io

ถ้ามีคำถามกรุณา ติดต่อเรา 

ติดตามบน Twitter, @Tetrateio.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210727006063/en/

ติดต่อ:

Annie Fink, Bospar
Annie@bospar.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรีและความเท่าเทียมทางเพศผ่านชุดกระบวนการที่มาพร้อมกับความมุ่งมั่นและความร่วมมือครั้งสำคัญทั่วโลก

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–20 ก.ค. 2564

Mary Kay Inc., ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกด้านการเสริมสร้างพลังอำนาจและการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง ได้สานต่อความมุ่งมั่นในการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ โดยการเผยแพร่เอกสารแสดงจุดยืนในการต้อนรับยุทธศาสตร์ความเท่าเทียมทางเพศของคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับปี 2563 – 2568 พร้อม ๆ ไปกับการเข้าร่วม Generation Equality Forum Global Action Coalitions หรือ แนวร่วมปฏิบัติการของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210720005347/en/

This month, Mary Kay also joined the “Drivers of change” Program at the Generation Equality Forum in Paris, France (June 30 - July 2). (Graphic: Mary Kay Inc.)

ในเดือนนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมโครงการ “ผู้ผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง หรือ Drivers of change” ที่ Generation Equality Forum ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

เอกสารแสดงจุดยืนซึ่งสามารถอ่านได้ ที่นี่ สะท้อนถึงกลยุทธ์ของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ โดยจากข้อมูลของสหภาพยุโรป “ยุทธศาสตร์นี้นำเสนอวัตถุประสงค์เชิงนโยบายและการดำเนินการเพื่อสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญภายในปี 2568 ซึ่งจะนำไปสู่ยุโรปที่เท่าเทียมกันทางเพศ เป้าหมายคือการสร้างสหภาพที่ผู้หญิงและผู้ชาย เด็กหญิงและเด็กชาย ผู้ที่มีความแตกต่างหลากหลายกันทั้งหมด ให้มีอิสระที่จะดำเนินตามเส้นทางชีวิตที่เลือกได้เอง มีโอกาสเท่าเทียมกันในการเติบโต และความสามารถในการมีส่วนร่วม และเป็นผู้นำสังคมยุโรปของเราอย่างเท่าเทียมกัน”

“กฎหมายที่กีดกันการเลือกปฏิบัติ อคติทางเพศ การเหมารวม ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ล้วนแต่เป็นปัญหาระดับโลก และต้องได้รับการจัดการร่วมกับภาครัฐและเอกชน และจากองค์กรภาคประชาสังคมทั่วโลก” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและความหลากหลายที่ Mary Kay. กล่าว “การบรรลุความเท่าเทียมกันทางเพศมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของโลกและการสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่”

ในเดือนนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมโครงการ “ผู้ผลักดันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง หรือ Drivers of Change” ที่ฟอรัมความเท่าเทียมกันจากรุ่นสู่รุ่น หรือ the Generation Equality Forum ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส (30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม)  การประชุม Generation Equality Forum ซึ่งจัดโดย UN Women และร่วมเป็นเจ้าภาพโดยรัฐบาลของเม็กซิโกและฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้น 26 ปีหลังจากปฏิญญาปักกิ่ง ถือเป็น “ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ที่จะลงทุนในความเท่าเทียมทางเพศและเร่งดำเนินการณ์เพื่อความปลอดภัย ความเป็นผู้นำ และโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิง1

Julia Simon เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเป็นธรรมทางเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและที่เชื่อมโยงกันในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสอภาคทางเพศ โดย 1 ใน 3 ของธุรกิจในโลกมีผู้หญิงเป็นเจ้าของ2 แต่มีผู้หญิงชนะการประมูลเพียงร้อยละ 1ในสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่ เท่านั้น3 นอกจากนี้ ยังมีวิทยากรร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมซึ่งพิสูจน์ได้จากเส้นทางของตนเองเกี่ยวกับวิธีการนำกลยุทธ์ การจัดซื้อจัดจ้างที่มีความเป็นธรรมทางเพศ หรือ GRP มาใช้

ณ งาน ประชุม Paris Forum ครั้งนี้ Mary Kay ยังได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรแนวร่วมปฏิบัติการของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมผ่านความมุ่งมั่นด้านนโยบาย โครงการ และการสนับสนุน ในด้านความยุติธรรมทางเศรษฐกิจและสิทธิ การดำเนินการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ ความรุนแรงตามเพศ และนวัตกรรมกับเทคโนโลยี โดยมีผู้คนเกือบ 50,000 คน มีส่วนร่วมในฟอรัมซึ่งรวบรวมผู้มีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมกว่า 1,000 ราย เป็นจำนวนการลงทุนกว่า 40,000 ล้าน สำหรับความเท่าเทียมกันทางเพศเพื่อสนับสนุนแผน 5 ปีเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันใน 6 ด้านของการดำเนินการ

การมีส่วนร่วมเหล่านี้ เป็นความพยายามชุดล่าสุดของโครงการสนับสนุนของ Mary Kay ในการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรีและความเท่าเทียมทางเพศในการประชุมระดับสูงทั่วโลก ควบคู่ไปกับการเป็นพันธมิตรกับ UN และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในท้องถิ่น

  • เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2564 Deborah Gibbins ซีโอโอของ Mary Kay ได้เข้าร่วมการประชุม UN Global Compact Target Gender Equality เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่ Mary Kay ส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีในเกือบ 40 ประเทศ Gibbins เน้นย้ำข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยครั้งใหม่โดยธนาคารโลก4 ซึ่งเผยให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงทั่วโลกมีสิทธิตามกฎหมายสามในสี่ของผู้ชาย เธอท้าทายบริษัทต่าง ๆ ให้ยืนหยัดต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางกฎหมายและสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อปิดช่องว่าง เพื่อทำให้ผู้หญิงสามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดได้ โดยในงานนี้มีการรวบรวมผู้คนกว่า 5,000 คนจากภาคธุรกิจ องค์การสหประชาชาติ ประเทศสมาชิก และองค์กรภาคประชาสังคม จากกว่า 100 ประเทศ โดย ร้อยละ 75 ของผู้เข้าร่วมเป็นตัวแทนของภาคเอกชน
  • เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564 ได้มีการประชุมนอกรอบของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW65) ซึ่ง Gibbins ได้เข้าร่วมกลุ่มการประชุมที่จัดโดย Women's Empowerment Accelerator (WEA) ในหัวข้อ “Women Leading Economic Recovery Through Entrepreneurship หรือ การที่ผู้หญิงเป็นผู้นำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจผ่านการเป็นผู้ประกอบการ” ซึ่งเธอได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี ทั้งนี้ The Women's Entrepreneurship Accelerator ซึ่ง ก่อตั้งขึ้นโดย Mary Kay ร่วมกับหน่วยงานของ UN 5 แห่ง ได้รับการนำเสนอเป็นตัวอย่างของการสร้างผลกระทบที่เป็นเอกลักษณ์ของความร่วมมือหลายฝ่ายในการเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลง
  • เมื่อวันที่ 26 มีนาคม-4 เมษายน Edita Szabóová ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย ได้ร่วมประชุม Equal Pay Day ซึ่งเธอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ผู้หญิงที่สนับสนุนผู้หญิง” และเน้นย้ำถึงงานของ Mary Kay ในการสนับสนุนผู้หญิงที่เป็นผู้ประกอบการ ผ่านการฝึกอบรม ความเป็นผู้นำ และการให้คำปรึกษา “เมื่อผู้หญิงมารวมตัวกัน เราสามารถบรรลุสิ่งพิเศษเพื่อประโยชน์ของผู้หญิงและมนุษยชาติในวงกว้างได้ เพราะเรารู้ว่าถ้าเราอุ้มชูผู้หญิงหนึ่งคน ก็เท่ากับเป็นการอุ้มชูผู้หญิงทั้งหมด ทั้งนี้ หัวใจของการทำงานของ Mary Kay คือการพัฒนาและฝึกอบรมผู้ประกอบการซึ่งในทางกลับกันจะทำให้พวกเขาสร้างธุรกิจ เรื่องราว และมรดกของตนเองสำหรับลูกสาวทั้งหลายของพวกเขาได้” Szabóová กล่าว
  • เมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่งาน UN Global Compact Leaders Summit ที่จัดขึ้น Gibbins ได้พูดในเวทีหลักเรื่อง “Women In Sustainability: Innovating In A Man's World” ซึ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสตรีเป็นแบบอย่างที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ เธอยังเน้นย้ำถึงภารกิจที่สำคัญของ Women's Entrepreneurship Accelerator ซึ่งก่อตั้งโดย Mary Kay ร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานของ UN 5 ราย ได้แก่ UN Women, UN Global Compact, International Trade Center, International Labour Organisation และ UN Development Program Accelerator ว่ามีความมุ่งมั่นที่จะให้ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า “ผู้ประกอบการสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวที่ประสบความสำเร็จหลังจากการระบาดของโรค นี่คือเหตุผลที่ทำไมภารกิจของ Women's Entrepreneurship Accelerator เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะเจาะ และนี่คือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีจึงต้องการกรอบการทำงานในระดับที่ใหญ่ขนาดนี้” Gibbins กล่าว การประชุมสุดยอดประจำปีได้มีการประชุมผู้นำกว่า 25,000 คนจากภาคธุรกิจ รัฐบาล สหประชาชาติ และภาคประชาสังคม เพื่อให้รับทราบความคืบหน้าและผลักดันการดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรเทาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การระบาดใหญ่ทั่วโลก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
  • เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่เมือง Ekaterinburg ทาง Mary Kay ได้เข้าร่วมงาน International Industrial Trade Fair INNOPROM-2021 ซึ่งเป็นเวทีอุตสาหกรรม การค้า และการส่งออกหลักในรัสเซีย วิทยากรรับเชิญในการอภิปรายถูกจัดโดย UN Women ในหัวข้อ “UN Women Programs for the Promotion and Development of Gender-Based Entrepreneurship หรือ โครงการ UN Women เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการโดยคำนึงถึงความเท่าเทียมทางเพศ” Mary Kay เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อความเท่าเทียมทางเพศ และเน้นว่าการระบาดครั้งใหญ่ของโรคยังนำโอกาสพิเศษมาสู่ความก้าวหน้า การดำเนินการ และการสนับสนุนธุรกิจสตรีทั่วโลก

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 58 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ยังทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่ www.marykay.com

1 https://forum.generationequality.org/home

2 ธนาคารโลก (2563). Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal อ้างอิงจากบล็อก ธนาคารโลก (2563) Women entrepreneurs needed – stat!

3 Vazquez และ Sherman (2557). อ้างอิงโดย UN Women (2560) The Power of Procurement: How to source from women-owned businesses.

4 Women, Business and the Law, 2021. รายงาน ซึ่งมาจากการดำเนินการใน 190 ประเทศ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210720005347/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายการสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

Marykay.com/newsroom

(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




Riskified Ltd. ประกาศเสนอขายหุ้นสามัญครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–19 ก.ค. 2564

Riskified Ltd. (“Riskified”) แพลตฟอร์มการจัดการการฉ้อโกงที่มอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ราบรื่น ประกาศเสนอขายหุ้นสามัญ Class A   ครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 17,500,000 หุ้น โดยประกอบด้วยหุ้นสามัญ Class A จำนวน 17,300,000 หุ้นที่เสนอขายโดย Riskified และหุ้นสามัญ Class A จำนวน 200,000 หุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของ Riskified จะทำการขาย  Riskified จะไม่ได้รับเงินจากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้น  ผู้จัดการการจัดจำหน่ายจะมีสัญญาอนุพันธ์ 30 วันในการซื้อหุ้นสามัญ Class A เพิ่มเติมเป็นจำนวน 2,625,000 หุ้นจาก Riskified ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก  โดยหักส่วนลดค่าบริการการจัดจำหน่ายและค่าคอมมิชชั่น  คาดว่าราคาเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรกจะอยู่ระหว่าง $18.00 ถึง $20.00 ต่อหุ้น  Riskified ตั้งใจที่จะนำหุ้นสามัญ Class A เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ “RSKD”

Goldman Sachs & Co. LLC, JP Morgan Securities LLC และ Credit Suisse Securities (USA) LLC ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการด้านธุรกรรมหลักสำหรับการเสนอขายครั้งนี้ โดย Barclays Capital Inc., KeyBanc Capital Markets Inc., Piper Sandler & Co., Truist Securities, Inc. และ William Blair & Company, LLC เป็นผู้จัดการบัญชีร่วมสำหรับการเสนอขาย และ Loop Capital Markets LLC, Samuel A. Ramirez & Company, Inc., Siebert Williams Shank & Co., LLC และ Stern Brothers & Co. ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขาย

การเสนอขายจะกระทำโดยใช้หนังสือชี้ชวนเท่านั้น  สามารถรับสำเนาหนังสือชี้ชวนเบื้องต้นได้รับจาก Goldman Sachs & Co. LLC, Attn: Prospectus Department, 200 West Street, New York, New York, 10282 ผ่านทางอีเมลที่ prospectus-ny@ny.email.gs.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 866-471-2526; JP Morgan Securities LLC, Attn: Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York, 11717 ผ่านทางอีเมลที่ Prospectus-eq_fi@jpmorgan.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 1-866-803-9204 และ Credit Suisse Securities (USA) LLC, Attn: Prospectus Department, One Madison Avenue, New York, New York, 10010 ผ่านทางอีเมลที่ newyork.prospectus@credit-suisse.com  หรือทางโทรศัพท์ที่ 800-221-1037

ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้ต่อสำนักงาน SEC แล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้  หลักทรัพย์เหล่านี้ไม่สามารถขายได้ และไม่อาจรับข้อเสนอซื้อได้ก่อนเวลาที่แบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนจะมีผลใช้บังคับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ที่ข้อเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Riskified Ltd.

Riskified ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มศักยภาพของอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่ด้วยการเพิ่มความปลอดภัย การเข้าถึง และความราบรื่น  Riskified ได้สร้างแพลตฟอร์มการจัดการความเสี่ยงอีคอมเมิร์ซก้าวหน้าที่ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้กับผู้บริโภคของพวกเขา  แพลตฟอร์มของ Riskified ใช้ประโยชน์จากระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตนเองซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายผู้ค้าทั่วโลกในการระบุบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโต้ตอบออนไลน์แต่ละครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าและลูกค้าของ Riskfied ขจัดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากธุรกิจของตน  Riskified ช่วยเพิ่มยอดขายและลดการฉ้อโกงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับผู้ค้าและมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภค

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210719005324/en/

Investor Relations (ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์):
Chris Mammone, The Blueshirt Group for Riskified ir@riskified.com 

Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร):
Rowena Kelley
press@riskified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Regencell Bioscience Holdings Limited ประกาศราคาเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับนักลงทุนประมาณ 21.9 ล้านดอลลาร์

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–16 กรกฎาคม 2564

Regencell Bioscience Holdings Limited (NASDAQ:RGC) (“Regencell” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นบริษัทชีววิทยาศาสตร์ระยะเริ่มต้นที่มุ่งเน้นการวิจัย พัฒนา และการค้าของแพทย์แผนจีน (“TCM”) สำหรับการรักษาความผิดปกติและความเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะโรคสมาธิสั้น Attention Deficit Hyperactivity Disorder (“ADHD”) และโรคออทิสติก Autism Spectrum Disorder (“ASD”) ประกาศราคาการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (“การเสนอขาย”) จำนวน 2,300,000 หุ้น ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 9.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นสามัญ โดยหุ้นสามัญได้รับการอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดทุนของ Nasdaq และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ภายใต้สัญลักษณ์ “RGC”

Regencell คาดว่าจะได้รับรายได้รวมประมาณ 21.9 ล้านดอลลาร์จากการเสนอขายนี้ ก่อนที่จะหักส่วนลดการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้บริษัทได้ให้สิทธิผู้รับประกันการจัดจำหน่ายในการซื้อหุ้นสามัญโดยเพิ่มทุนจำนวน 345,000 หุ้นในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปได้ภายใน 45 วัน หักด้วยส่วนลดการรับประกันภัย การเสนอขายนี้คาดว่าจะปิดในหรือประมาณวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม

เงินที่ได้จากการเสนอขายนี้จะนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษาวิจัยครั้งที่สอง สูตรและผลิตภัณฑ์ TCM ของบริษัท เงินเดือนพนักงาน การเช่าสิ่งอำนวยความสะดวก การปรับปรุงและอุปกรณ์ การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์และทรัพย์สินทางปัญญา และเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์ทั่วไปอื่นๆ ขององค์กร

การเสนอขายจะดำเนินการบนพื้นฐานของความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ Maxim Group LLC ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการบัญชีสำหรับนี้แต่เพียงผู้เดียว

Hunter Taubman Fischer & Li LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท และ Loeb & Loeb LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ Maxim Group LLC ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขาย

แบบแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนในแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ก.ล.ต.”) (หมายเลขไฟล์: 333-254571) และประกาศให้มีผลบังคับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 การเสนอขายนี้จัดทำขึ้นโดยใช้หนังสือชี้ชวนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนเท่านั้น สำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายสามารถรับได้จาก Maxim Group LLC, 300 Park Ave, 16th Floor, New York, NY 10022 ที่ (212) 895-3745 นอกจากนี้ สามารถรับสำเนาหนังสือชี้ชวนที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.gov

ก่อนการลงทุนควรอ่านหนังสือชี้ชวนและเอกสารอื่นๆ ที่บริษัทได้ยื่นหรือจะยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับบริษัทและการเสนอขาย ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย หรือการชักชวนให้เสนอซื้อหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัท และจะไม่มีการนำเสนอหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาหากไม่ได้ลงทะเบียนหรือได้รับการยกเว้นจากการลงทะเบียน และจะไม่มี การเสนอ การชักชวน หรือการขายหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัทในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Regencell Bioscience Holdings Limited

Regencell Bioscience Holdings Limited เป็นบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพระยะเริ่มต้นที่มุ่งเน้นการวิจัย การพัฒนา และการค้าของ TCM สำหรับการรักษาความผิดปกติและความเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะ ADHD และ ASD บริษัทเริ่มต้นในฮ่องกงในปี 2557 และเสร็จสิ้นการศึกษาวิจัยครั้งแรกโดยใช้สูตร TCM เฉพาะบุคคลในฮ่องกง บริษัทมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวยาสูตร TCM ที่เป็นของเหลวมาตรฐานจำนวนสามสูตรสำหรับผู้ป่วย ADHD และ ASD ที่มีอาการเล็กน้อย ปานกลาง และขั้นรุนแรงในฮ่องกงก่อนแล้วจึงค่อยไปสู่ตลาดอื่นๆ ตามความเหมาะสม

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

ข้อความทั้งหมดนอกเหนือจากข้อความข้อเท็จจริงในอดีตในประกาศนี้เป็นข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการเสนอขายของบริษัท ข้อความที่มีลักษณะการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งที่ทราบและไม่ทราบ และอยู่บนพื้นฐานของความคาดหวังในปัจจุบันและการคาดการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มทางการเงินในอนาคตที่บริษัทเชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน กลยุทธ์ทางธุรกิจ และความต้องการทางการเงิน รวมทั้งความคาดหวังว่าการเสนอขายจะเสร็จสมบูรณ์ นักลงทุนสามารถระบุข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้ด้วยคำหรือวลี อย่างเช่น “อาจจะ” “จะ” “คาดหวัง” “คาดการณ์” “ตั้งเป้า” “ประมาณการ” “ตั้งใจ” “วางแผน” “เชื่อ” “มีศักยภาพ” “ดำเนินต่อไป” “มีแนวโน้มว่าจะ” หรือสำนวนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน บริษัทไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตที่สะท้อนถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา หรือการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวัง ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าบริษัทเชื่อว่าความคาดหวังที่แสดงไว้ในข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าความคาดหวังดังกล่าวจะถูกต้อง และบริษัทเตือนนักลงทุนว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ และสนับสนุนให้นักลงทุนทบทวนปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ในอนาคตในแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนของบริษัทและการยื่นเอกสารอื่นๆ ต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210715006080/en/

ติดต่อ:

องค์กร:
James Chung
Chief Strategy Officer
Regencell Bioscience Holdings Limited
ir@rgcbio.com

สำหรับนักลงทุนในภูมิภาคเอเชีย:
Strategic Financial Relations Limited
Vicky Lee (852) 2864 4834
Brigid Lee (852) 2114 4313
Yvonne Lee (852) 2864 4847
SPRG_Regencell@sprg.com.hk

สำหรับนักลงทุนนอกภูมิภาคเอเชีย:
Lena Cati
The Equity Group Inc.
Vice President
(212) 836-9611
lcati@equityny.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเตรียมจัดงาน Society 5.0 Expo เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีอันก้าวล้ำและความสำเร็จทางด้านต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น

Logo

ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สุดล้ำและความสำเร็จทางด้านวิจัยกว่า 200 ผลงาน ซึ่งมุ่งเน้นทางด้านนโยบาย Society 5.0 แห่งอนาคตอันที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 กรกฎาคม 2564

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (Cabinet Office) รัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศเตรียมจัดงาน Society 5.0 Expo ร่วมกับ Japan Agency for Marine-Earth Science and Technology หรือ JAMSTEC ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ณ TOKYO SKYTREE TOWN® ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ด้านสังคม 5.0 เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น โดยสามารถรับชมได้ทางออนไลน์และจะมีคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ สำหรับผู้ชมทั่วโลก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210713006253/en/

[From upper-left] SHINKAI 6500, HAYABUSA2, Wearable Cyborg, Active scope camera for rescue [From lower-left] Ultra-thin and flexible tough polymer, Rescue robot, Small synthetic-aperture radar satellite (SAR), Communication robot, Flying car, Level-3 autonomous vehicle (Photo: Business Wire)

[แถวบน-จากซ้ายไปขวา] SHINKAI 6500, HAYABUSA2, ไซบอร์กที่สวมกับร่างกายได้, กล้องแบบ active scope สำหรับการกู้ภัย [แถวล่าง-จากซ้ายไปขวา] พอลิเมอร์ที่มีความทนทานยืดหยุ่นและบางเป็นพิเศษ, หุ่นยนต์กู้ภัย, ระบบดาวเทียมขนาดเล็กที่ใช้คลื่นเรดาร์ถ่ายภาพเพื่อให้ได้ความละเอียดสูง (SAR), หุ่นยนต์สื่อสาร, รถยนต์บินได้, ยานยนต์ไร้คนขับ Level-3 (รูปภาพ: Business Wire)

งานดังกล่าวจะจัดแสดงแนวคิดเกี่ยวกับ สังคม 5.0 ที่รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้เสนอขึ้นเพื่อสร้างสังคมแห่งอนาคตที่น่าปรารถนา โดยแนวคิดนี้หวังสร้างสังคมที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางที่แต่ละอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมนำเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) รวมถึงหุ่นยนต์ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอื่น ๆ มาใช้เพื่อเอาชนะความท้าทายที่สำคัญ ทั้งนี้ แผนงานพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมฉบับที่ 6 ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งครอบคลุมงบประมาณปี 2564 ไปจนถึงปี 2568 ได้กำหนดทิศทางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมให้เกิดความยั่งยืน การฟื้นตัว และสุขภาวะที่ดีของผู้คนที่มีความหลากหลาย

ภายในงานจะมีการนำเสนอความสำเร็จที่เกิดจากการโครงการระดับชาติที่มุ่งเพิ่มนวัตกรรมในสังคมให้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงโครงการส่งเสริมนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ข้ามกระทรวง (SIP) และโครงการ ImPACT ที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาในด้านที่ส่งผลกระทบกับผู้คนจำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง โดยปณิธานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจะถูกสื่อผ่านการจัดแสดงเทคโนโลยีที่มีความก้าวล้ำต่าง ๆ มากมาย

สำหรับความพิเศษก็คือบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรชั้นนำของญี่ปุ่น 50 แห่งจะร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และความสำเร็จด้านการวิจัยราว 200 ชิ้น ที่คาดว่าจะถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคม 5.0 รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยครอบคลุมแขนงต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนที่ สุขภาพและการดูแล การผลิต การเกษตร อาหาร การป้องกันภัยพิบัติ และพลังงาน ดังนี้

  • แคปซูลเก็บตัวอย่างของยานสำรวจดาวเคาะห์น้อย Hayabusa2
  • ต้นแบบในมาตราส่วนปกติของอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ SHINKAI 6500 ที่สามารถดำลงไปใต้ทะเลได้ลึกถึง 6,500 เมตร
  • รถยนต์บินได้ SkyDrive
  • ยานยนต์ไร้คนขับ Honda Legend Level-3 มาพร้อมเทคโนโลยี 3D mapping ที่มีความละเอียดสูง
  • ต้นแบบระบบดาวเทียมขนาดเล็กที่ใช้คลื่นเรดาร์ถ่ายภาพเพื่อให้ได้ความละเอียดสูง (Synthetic Aperture Radar) สำหรับการปล่อยดาวเทียมแบบออนดีมานด์และการสำรวจแบบทันที
  • HAL ไซบอร์กที่สวมเข้ากับร่างกายได้ ทำงานโดยส่งสัญญาจากสมองไปยังกล้ามเนื้อของมนุษย์เพื่อสั่งการให้ทำงานเมื่อต้องการความช่วยเหลือทางกายภาพ
  • ระบบป้องกันภัยพิบัติสำหรับคาดการณ์ฝนที่ตกหนักและพายุทอร์นาโด และระบบแบ่งปันข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
  • เทคโนโลยีอัจฉริยะทางการเกษตร เช่น ระบบจ่ายน้ำและระบายน้ำอัตโนมัติ

ผู้ชมจากประเทศต่าง ๆ สามารถร่วมเพลิดเพลินไปกับการจัดแสดงต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ซึ่งรองรับคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ ได้จากอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งนี้ ผู้จัดมีความยินดีอย่างยิ่งที่การจัดนิทรรศการแบบเสมือนครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ชุมชนทั่วโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดสังคม 5.0 แห่งอนาคตของประเทศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

การจัดแสดงจะจัดเป็นกลุ่มภายใต้ธีมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

ช่วงที่ 1 เปิดงาน

ในช่วงเปิดงานจะเป็นการนำเสนอต้นแบบในมาตราส่วนปกติของอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ SHINKAI 6500 และลูกโลกดิจิทัลแบบสามมิติ Dagik Earth รวมถึงจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยีที่ใช้ระบบดาวเทียมซึ่งมีการนำไปใช้งานจริงในภาคส่วนต่าง ๆ

ช่วงที่ 2 พรมแดนวิทยาศาสตร์—อวกาศ และมหาสมุทร

การจัดแสดงเทคโนโลยีสำรวจอวกาศระดับโลกของญี่ปุ่น ซึ่งจะประกอบด้วยสถานีอวกาศนานาชาติจำลอง โมดูลห้องทดลองของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “Kibo” เครื่องยนต์จรวดในมาตรส่วนปกติ และแคปซูลเก็บตัวอย่างของยานสำรวจ Hayabusa2

การจัดแสดงเทคโนโลยีสำรวจมหาสมุทรและจำลองสภาพแวดล้อมของญี่ปุ่น ซึ่งจะประกอบด้วยยานยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติสำหรับสำรวจปล่องความร้อนใต้ทะเลและทรัพยากรที่อยู่พื้นมหาสมุทร และโซลูชันที่มีความก้าวล้ำทางด้านการสำรวจมหาสมุทร

ช่วงที่ 3 สังคม 5.0 แห่งอนาคต

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนาผ่านโครงการ SIP และ ImPACT ของญี่ปุ่น และการเข้าไปมีส่วนช่วยยกระดับชีวิตในด้านต่าง ๆ ห้าด้าน ได้แก่ 1) อายุขัย 100 ปี 2) การเคลื่อนที่และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 3) ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการฟื้นฟูและชีวิตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น 4) วิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับมนุษย์และโลก และ 5) การผลิตขั้นสูง การจัดแสดงจะประกอบด้วยโซลูชันอัตโนมัติ เช่น หุ่นยนต์ ยานยนต์ และอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ระบบป้องกันภัยพิบัติ เช่น AI สำหรับการตรวจสอบระบบโครงสร้างพื้นฐาน กล้องสำรวจภายในท่อระบบหุ่นยนต์สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม พลังงานและทรัพยากรแห่งอนาคต เช่น เชื้อเพลิงจากแอมโมเนียและแร่ธาตุใต้ท้องทะเล และวัสดุที่มีความก้าวล้ำ เช่น เส้นใยแมงมุมสังเคราะห์และพอลิเมอร์ที่มีความแข็งแรงทนทานแต่ยืดหยุ่นและบางเป็นพิเศษ

ช่วงที่ 4 วิถีสู่สังคม 5.0

จะมีการจัดแสดงวิวัฒนาการของอารยธรรมมนุษย์ผ่านวิดีโอและสื่อต่าง ๆ ของสังคมในแต่ละยุคเริ่มจากยุค 1.0 (ล่าสัตว์และหาของป่า), 2.0 (ยุคเกษตร), 3.0 (ยุคอุตสาหกรรม) และ 4.0 (ยุคข้อมูล) รวมถึง 5.0 (ณ TOKYO SKYTREE® Tembo Galleria ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้อวกาศที่สุดของกรุงโตเกียว)

ช่วงที่ 5 โรงละครสังคม 5.0

จะมีการฉายภาพยนตร์จาก Japan Aerospace Exploration Agency (JAXA) และ JAMSTEC นอกจากนี้ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจะมาบรรยายในหัวข้อวิทยาศาสตร์ มหาสมุทร การป้องกันภัยพิบัติ และไอซีทีสำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง

โปรดดาวน์โหลดรูปภาพที่ใช้อย่างเป็นทางการที่นี่

ภาพรวมการจัดงาน Society 5.0 Expo

ผู้จัด

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ and Japan Agency for Marine-Earth Science and Technology (JAMSTEC)

สถานที่

พื้นที่จัดนิทรรศการภายใน TOKYO SKYTREE TOWN

– พาวิลเลียนใน TOKYO SKYTREE TOWN Sky Arena (4F)

– TOKYO SKYTREE TOWN Solamachi Square (1F)

– TOKYO SKYTREE Group Floor (1F)

– TOKYO SKYTREE Tembo Galleria

– TOKYO SKYTREE TOWN วิทยาเขตของสถาบัน Chiba Institute of Technology

วันที่

15 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน 2564

– นิทรรศการทางกายภาพโดยธุรกิจต่าง ๆ (15 กรกฎาคม ถึง 19 กรกฎาคม)

– นิทรรศการทางกายภาพโดยองค์กรต่าง ๆ (15 กรกฎาคม ถึง 28 กรกฎาคม)

– นิทรรศการขนาดย่อยจัดแสดงโปสเตอร์และวิดีโอ (15 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน)

– นิทรรศการเสมือนจริง (17 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน) โดยมีคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ
(อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน จีน อาหรับ และญี่ปุ่น)

การเข้ามชม

ไม่มีค่าใช้จ่าย (ตั๋วสำหรับเข้าชมนิทรรศการขนาดย่อยจะจำหน่ายที่ TOKYO SKYTREE Tembo Galleria)

ผู้ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการและพันธมิตร

โปรดดูรายชื่อที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210713006253/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสังคม 5.0 สำหรับสื่อ
Weber Shandwick
Mayuko Harada (+81-90-9006-4968)
Rina Uesugi (+81-90-2280-0041)
อีเมล: society5.0expo@webershandwick.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


INNORULES เตรียมเข้าสู่ตลาดการเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังคว้าโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากบริษัทประกันญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุด

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2564

INNORULES (ซีอีโอ, Kil Kon Kim) ประกาศว่าบริษัทได้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Decision Manager (DDM) ของบริษัทให้กับโปรเจ็กต์นวัตกรรมแห่งอนาคตของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยได้เปิดระบบเพื่อทำงานในระยะแรกไปแล้ว

INNORULES’ Digital Product Manager (DPM) is a product information management system that supports the development of new products quickly and easily by disassembling and assembling the product information, structure and attributes. INNORULES, a Korean professional developer of Business Rule Engine, supplied the Digital Product Manager to the innovative digital transformation project of one of the biggest insurance companies in Japan. INNORULES is planning to expand into the South East Asian financial market upon this opportunity. (Graphic: Business Wire)

Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES เป็นระบบจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่รองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยการรื้อและประกอบข้อมูล โครงสร้าง และคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์ INNORULES ผู้พัฒนา Business Rule Engine มืออาชีพจากเกาหลี เป็นผู้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Product Manager ให้กับโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่มีความก้าวล้ำของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และ INNORULES วางแผนที่จะใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (กราฟิก: Business Wire)

INNORULES คือผู้พัฒนาโซลูชัน Business Rule Engine (BRE) อย่างมืออาชีพ ซึ่งโซลูชัน BRE นี้จะทำหน้าที่ลดความซับซ้อนของงานต่าง ๆ รวมทั้งปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างระบบให้ดีขึ้น บริษัทด้านการเงินในเกาหลีหลายแห่ง รวมถึงบริษัทประกัน นายหน้า และธนาคารต่างเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ INNORULES

สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ ได้เตรียมโปรเจ็กต์แห่งอนาคตนี้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งมีเงินลงทุนราว 1.746 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

บริษัทญี่ปุ่นรายนี้ได้พบกับผลิตภัณฑ์ของ INNORULES ครั้งแรกเมื่อพวกเขามาเยือนเกาหลีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านผลิตภัณฑ์กับบริษัทประกันในเกาหลี และท้ายที่สุดได้เลือก INNORULES หลังมีการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะ หรือ Benchmark Test

บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ได้นำระบบ Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES ไปใช้กับงานสำคัญ ๆ และนำไปใช้ลดความซับซ้อนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เช่น การขายประกัน ใบเสร็จเบี้ยประกัน และกระบวนการชำระเบี้ยประกันภัย เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น INNORULES ยังได้รับบทบาทสำคัญในโปรเจ็กต์นี้โดยรับหน้าที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระบบมรดก (legacy system) ของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลสะสมในปริมาณมหาศาล ก่อนหน้านี้ การแปลงผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยความรวดเร็วเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากจำเป็นต้องมีการพิจารณาผลกระทบจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ลงในระบบที่มีอยู่แล้วก่อน

ระบบที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้ใช้ระบบจัดการข้อมูล DPM ของ INNORULES เพื่อจัดระเบียบงานที่เหมือนกันให้มีมาตรฐานเดียวกัน และแยกกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามคุณลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้คาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาและปรับแก้ผลิตภัณฑ์ได้ถึงหนึ่งในสามจากที่เคยใช้เวลาเกือบปี บริษัทแห่งนี้ยังวางแผนที่จะแนะนำระบบที่เพิ่งนำมาใช้ใหม่ให้กับระบบของธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันอัคคีภัยของตนภายในปี 2568 นี้อีกด้วย

ขณะที่ INNORULES วางแผนเตรียมใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Kil Kon Kim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ INNORULES กล่าวว่า “การที่ผลิตภัณฑ์ของเราถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่เป็นแกนหลักของบริษัทการเงินญี่ปุ่นซึ่งโดยปกติแล้วขึ้นชื่อเรื่องความระมัดระวังครั้งนี้มีความหมายกับเราอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการยอมรับในเรื่องของความเสถียรและความสามารถทางเทคโนโลยีมาหลายปี เราจึงได้รับการติดต่อสอบถามจากบริษัทการเงินของญี่ปุ่นหลายแห่งอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ระบบใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวผ่านสัญญาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้”

“จากข้อตกลงกับบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค เราจึงได้วางแผนที่จะขยายสู่ประเทศใหญ่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่นอินโดนีเซียและมาเลเซียที่กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์ด้านการเงินใหม่ ๆ อยู่ในขณะนี้” Kim กล่าวเพิ่มเติม “เราคาดว่ายอดขายในต่างประเทศจะเติบโตกว่า 20% ในปีนี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

INNORULES CO.,LTD
Yosep Park
+82-2-416-2501
marketing@innorules.com