All posts by Jasmine

SBC Medical Group Holdings ประกาศการเจรจาร่วมกันเกี่ยวกับสัญญาหลักเพื่อเข้าซื้อกิจการ Aesthetic Healthcare Holdings Pte. Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเวชศาสตร์ความงามหลายแห่งในสิงคโปร์

Logo

Aesthetic Healthcare สร้างฐานที่มั่นคงเพื่อขยายธุรกิจสู่เอเชียและยกระดับความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานของ SBC ในตลาดโลก

SBC จะใช้ประโยชน์จากการผนึกกำลังด้านการดำเนินงานและดำเนินกลยุทธ์การเติบโตเพื่อขยายธุรกิจในแนวดิ่งและเข้าถึงภูมิภาคใหม่

TOKYO

SBC Medical Group Holdings Inc. รายงานงบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024

Logo

เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2024

SBC Medical Group Holdings Incorporated (“SBC Medical” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นเจ้าของ ผู้ดําเนินการ และผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการและผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์บำบัดความงามระดับโลก ในวันนี้ได้ประกาศงบการเงินก่อนตรวจสอบไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024

งบการเงินที่สำคัญไตรมาส 3 ปี 2024

  • รายได้รวม ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
  • รายได้รวม ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
  • รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023
    • ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
  • รายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 65.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
    • ผลลัพธ์นี้ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจดทะเบียนของบริษัท
  • EBITDA1 ซึ่งคํานวณโดยการนำค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายมาบวกกับรายได้จากการดําเนินงาน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 EBITDA margin อยู่ที่ 42% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024
  • รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023
  • รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 60% จาก 25 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023
  • จํานวนคลินิกพันธมิตร อยู่ที่ 224 แห่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 24 แห่งจากวันที่ 30 กันยายน 2023

1 EBITDA และ EBITDA Margin เป็นการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP (ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานบัญชี) สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  โปรดดูหัวข้อ “การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ” และตารางที่มีชื่อว่า “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP (ตามมาตรฐานบัญชี) และแบบ non-GAAP  “

  • จํานวนลูกค้า ในงวดสิบสองเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.3 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ต่อปี) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิต่อปีที่เป็นของบริษัทหารด้วยค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 และ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 31% ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • กําไรต่อหุ้น (พื้นฐาน) ซึ่งหมายถึงกําไรสุทธิที่เป็นของบริษัทหารด้วยจํานวนหุ้นที่ชำระแล้วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 0.42 เหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

“การประกาศผลประกอบการครั้งแรกของเราในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสําคัญสําหรับ SBC Medical หลังจากประสบความสำเร็จในการควบรวมธุรกิจกับ Pono Capital Two แล้ว SBC Medical เริ่มซื้อขายบน Nasdaq ภายใต้สัญลักษณ์ 'SBC' เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2024” Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBC Medical กล่าว “ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 161 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 59% เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของแผนริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของเรา เช่น การปรับโครงสร้างค่าสิทธิและการขยายเครือข่ายคลินิก นอกจากนี้ ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินสด 137 ล้านเหรียญสหรัฐ เราจึงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนโดยมีนโยบายเงินทุนที่ชัดเจน เราให้ความสําคัญกับผู้ถือหุ้นเป็นอย่างยิ่ง และยังคงให้ความสําคัญกับมูลค่าของผู้ถือหุ้นต่อไปผ่านผลตอบแทนที่สม่ำเสมอด้วยการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนต่อเชิงกลยุทธ์ และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นทุกคนรวมถึงนักลงทุนรายย่อยของเรา จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตและความสําเร็จของเรา”

งบการเงินไตรมาส 3 ปี 2024

รายได้รวมในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23% จาก 131 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 รายได้รวมในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทเริ่มเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าจากคลินิกแฟรนไชส์ของเรา และเนื่องจากการขยายของจํานวนคลินิกแฟรนไชส์ของเรา ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 56 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% จาก 47 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 118% จาก 13 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมดนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น

EBITDA ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 68.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% จาก 56.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ แต่หักล้างไปบางส่วนด้วยค่าปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ EBITDA ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 14.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 36% จาก 23.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการให้คําปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมวิชาชีพ ค่าตอบแทนตามหุ้น และค่าใช้จ่ายสํานักงานที่สูงขึ้น

รายได้สุทธิในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 40.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 24.3 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้รวม แต่หักล้างไปบางส่วนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานทั้งหมด รายได้สุทธิในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 อยู่ที่ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 8.1 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2023 การลดลงมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่สูงขึ้น

ข้อมูลกระแสเงินสดและสภาพคล่องที่สำคัญ

ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 SBC Medical ยังคงรักษาสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดรวม 137.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 103.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างเงินสดที่แข็งแกร่งจากกิจกรรมดําเนินงาน การจัดการการลงทุนอย่างรอบคอบ กลยุทธ์การจัดสรรเงินทุนที่มีวินัย

กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน

เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงานอยู่ที่ 27 ล้านเหรียญสหรัฐสในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้น 23% จาก 22 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น 15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนตามหุ้น 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ล่าสุดของบริษัท และการปรับปรุงในการจัดเก็บบัญชีลูกหนี้ ปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยการเปลี่ยนแปลงของบัญชีเจ้าหนี้และหนี้สินภาษี ซึ่งสะท้อนถึงการมุ่งเน้นของบริษัทในการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมการดําเนินงานที่กําลังเติบโต

กระแสเงินสดจากการลงทุน

เงินสดสุทธิที่ใช้ในกิจกรรมการลงทุนมีมูลค่ารวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 ลดลงจาก 8 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักหลักที่ส่งผลให้ลดลงนี้ ได้แก่ การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องมูลค่า 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทยังคงจัดสรรเงินทุนอย่างมีกลยุทธ์เพื่อใช้กับสินทรัพย์ที่มีผลกระทบสูงซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตในระยะยาว

กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน

เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงินมีมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เพิ่มขึ้นนี้ ได้แก่ รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนธุรกรรม 11.7 ล้านเหรียญสหรัฐ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสําคัญกับการเติบโตแบบยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านกระแสเงินสดจากการดําเนินงานมากกว่าการจัดหาเงินทุนจากภายนอก โดยไม่มีหนี้สินใหม่ที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

กระแสเงินสดของ SBC Medical ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 0.5 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ บริษัทฯ ยังคงติดตามความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และใช้กลยุทธ์เพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน

ด้วยเงินสดสํารองที่แข็งแกร่งและกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่ดี SBC Medical มั่นใจในความสามารถในการตอบสนองความต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น และจัดหาเงินทุนสําหรับความคิดริเริ่มการเติบโตในอนาคต ฝ่ายบริหารเชื่อว่าสถานะเงินสดในปัจจุบันควบคู่ไปกับกระแสเงินสดจากการดําเนินงานที่วางแผนไว้จะเพียงพอที่จะรองรับการดําเนินธุรกิจและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในอีก 12 เดือนข้างหน้า

เกี่ยวกับ SBC Medical

SBC Medical ซึ่งมีสํานักงานใหญ่ในเมืองเออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการด้านการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์เสริมความงาม บริษัทมุ่งเน้นที่การให้บริการด้านการบริหารจัดการอย่างครบวงจรแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การบริหารจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาและการฝึกอบรม) การจองคิวสําหรับลูกค้าคลินิกแฟรนไชส์ การช่วยเหลือในการเช่าที่พักและการเช่าสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานแฟรนไชส์ การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ การจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (ขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าคลินิก  การออกใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างรอรับสิทธิบัตรและไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชั่นซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการให้คําปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมรางวัลสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ (โปรแกรมคะแนนความภักดีของลูกค้า)  และเครื่องมือการชําระเงินสําหรับคลินิกแฟรนไชส์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/

การใช้การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP

บริษัทใช้การวัดผลแบบ non-GAAP  เช่น EBITDA ในการประเมินผลการดําเนินงานและเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงาน บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  ช่วยระบุแนวโน้มที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทเชื่อว่าการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับผลการดําเนินงานของบริษัท เพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับผลการดําเนินงานในอดีตของบริษัทและแนวโน้มในอนาคต และช่วยให้มองเห็นตัวชี้วัดหลักที่ฝ่ายบริหารของบริษัทใช้ในการตัดสินใจทางการเงินและการดําเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  ไม่ได้ถูกกําหนดไว้ภายใต้มาตรฐานบัญชีของสหรัฐอเมริกา (U.S. GAAP) และไม่ได้นําเสนอแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  มีข้อจํากัดในเรื่องเครื่องมือวิเคราะห์ และเมื่อประเมินผลการดําเนินงาน กระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของบริษัท นักลงทุนไม่ควรพิจารณาแยกออก หรือพิจารณาแทนผลขาดทุนสุทธิ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดําเนินงาน หรืองบกำไรขาดทุนอื่นๆ และข้อมูลกระแสเงินสดที่จัดทําขึ้นแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกา

บริษัทบรรเทาข้อจํากัดเหล่านี้โดยการกระทบยอดการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  เข้ากับการวัดผลการดําเนินงานแบบ GAAP ของสหรัฐอเมริกาที่เทียบเคียงได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเมื่อประเมินผลการดําเนินงานของบริษัท

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP  โปรดดูตารางที่หัวข้อ “การกระทบยอดก่อนตรวจสอบของผลลัพธ์แบบ GAAP  และแบบ non-GAAP”

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือข้อความเกี่ยวกับสภาวะปัจจุบัน  แต่เป็นเพียงการแสดงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดําเนินงานในอนาคตเท่านั้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายสิ่งมีความไม่แน่นอนโดยและอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้สะท้อนถึงมุมมองปัจจุบันของบริษัท เกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายรับและรายได้ แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ และแผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตสามารถระบุได้ด้วยการใช้คําต่างๆ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหมายว่า” “คาดการณ์ว่า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “มีแผนจะ” “คาดว่า” “ทำนาย” “อาจเป็นไปได้” หรือ “หวังว่า” หรือความหมายเชิงลบของคําเหล่านี้หรือคําที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านว่าอย่าพึ่งพาข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตใดๆ มากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจุบัน ณ วันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดการณ์หรือวัดผลได้ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเป็นความคาดหวังในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร มิได้เป็นการรับรองการดําเนินงานในอนาคต บริษัทไม่มีภาระผูกพันหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลอัปเดต หรือการแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตต่อสาธารณะ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่ข้อความดังกล่าวอ้างถึง เว้นแต่ตามที่กฎหมายกําหนด ปัจจัยที่อาจทําให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญจากการคาดการณ์ในปัจจุบันอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ได้ทั้งหมด ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (“SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED

งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

30 กันยายน

31 ธันวาคม

2024

2023

สินทรัพย์

สินทรัพย์หมุนเวียน:

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

$

137,393,070

$

103,022,932

บัญชีลูกหนี้

1,944,604

1,437,077

บัญชีลูกหนี้– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

27,835,179

33,676,672

สินค้าคงเหลือ

1,985,883

3,090,923

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

8,443,338

6,143,564

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า หมุนเวียน

16,125,086

8,484,753

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 

8,372,668

10,050,005

รวมสินทรัพย์หมุนเวียน

202,099,828

165,905,926

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน:

ทรัพย์สินและอุปกรณ์สุทธิ

13,194,414

13,582,017

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนสุทธิ

16,218,233

19,739,276

การลงทุนระยะยาว

4,905,115

849,434

ค่าความนิยมสุทธิ

3,545,391

3,590,791

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

4,629,047

3,420,489

สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าดําเนินงาน

5,251,418

5,919,937

สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

624,564

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า ไม่หมุนเวียน

6,590,301

6,444,025

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

4,308,810

4,099,763

การลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

19,561,069

19,811,555

ทรัพย์สินอื่น

15,550,402

15,442,058

รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

94,378,764

92,899,345

รวมสินทรัพย์

$

296,478,592

$

258,805,271

หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

หนี้สินหมุนเวียน:

บัญชีเจ้าหนี้

$

14,873,829

$

26,531,944

ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี

136,683

156,217

ตั๋วเงินจ่าย หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

10,202,360

3,369,203

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า

565,495

2,074,457

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

18,994,015

23,058,175

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

8,000,808

8,782,930

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน หมุนเวียน

4,060,844

3,885,812

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

12,054,047

21,009,009

เนื่องจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

3,532,453

3,583,523

รวมหนี้สินหมุนเวียน

72,420,534

92,451,270

หนี้สินไม่หมุนเวียน:

เงินให้กู้ยืมระยะยาว

686,470

1,062,722

ตั๋วเงินจ่าย ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

11,659,022

11,948,219

หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

3,515,825

6,013,565

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน ไม่หมุนเวียน

1,528,972

2,444,316

หนี้สินอื่น

1,147,345

1,074,930

รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน

18,537,634

22,543,752

รวมหนี้สิน

90,958,168

114,995,022

ส่วนของผู้ถือหุ้น:

หุ้นบุริมสิทธิ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 20,000,000 หุ้น ไม่มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1)

หุ้นสามัญ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 เหรียญสหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 400,000,000 หุ้น หุ้นที่ออกและชำระแล้ว  103,020,816 หุ้น และ 94,192,433 หุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2024 และ 31 ธันวาคม 2023) (1)

10,302

9,419

ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้น (1)

60,825,115

36,879,281

ลูกหนี้หุ้นทุนซื้อคืน (หุ้นสามัญ 270,000 หุ้น) – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(2,700,000

)

กำไรสะสม

182,923,786

142,848,732

ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นสะสม

(36,078,149

)

(37,578,255

)

รวมส่วนของผู้ถือหุ้นของ Total SBC Medical Group Holdings Incorporated

204,981,054

142,159,177

ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

539,370

1,651,072

รวมส่วนของผู้ถือหุ้น

205,520,424

143,810,249

รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

$

296,478,592

$

258,805,271

(1)

ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED

งบกําไรขาดทุนและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน

สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน

2024

2023

2024

2023

รายได้สุทธิ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

$

51,209,243

$

45,119,709

$

152,718,488

$

125,336,653

รายได้สุทธิ

1,875,640

2,158,976

8,276,517

5,856,076

รวมรายได้สุทธิ

53,084,883

47,278,685

160,995,005

131,192,729

ต้นทุนรายได้ตามจริง

9,845,793

13,780,309

38,816,865

37,256,066

กําไรขั้นต้น

43,239,090

33,498,376

122,178,140

93,936,663

ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน:

ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไปและการบริหาร

16,597,032

13,446,618

43,784,637

46,885,138

ค่าตอบแทนตามหุ้น

12,807,455

12,807,455

ขาดทุนจากการยักยอก

28,516

380,766

รวมค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน

29,404,487

13,475,134

56,592,092

47,265,904

รายได้จากการดําเนินงาน

13,834,603

20,023,242

65,586,048

46,670,759

รายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย):

รายได้จากดอกเบี้ย

7,950

10,234

37,283

86,345

ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

(5,466

)

(3,978

)

(15,898

)

(37,380

)

รายได้อื่น

65,922

1,138,869

721,894

3,875,723

ค่าใช้จ่ายอื่น 

(795,158

)

(98,314

)

(2,746,450

)

(581,239

)

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

3,813,609

รวมรายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย)

(726,752

)

1,046,811

1,810,438

3,343,449

กำไรก่อนภาษีเงินได้

13,107,851

21,070,053

67,396,486

50,014,208

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้

10,273,384

13,012,262

27,254,478

25,683,244

กำไรสุทธิ

2,834,467

8,057,791

40,142,008

24,330,964

หัก: กําไรสุทธิ (ขาดทุน) ที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

1,573

(298,623

)

66,954

(696,812

)

กําไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

$

2,832,894

$

8,356,414

$

40,075,054

$

25,027,776

กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จอื่น:

ส่วนปรับปรุงจากการแปลงค่าสกุลเงินต่างประเทศ

20,783,646

(974,249

)

1,543,245

(19,825,222

)

การจําแนกประเภทกําไรทียังไม่เกิดขึ้นจากตราสารหนี้เผื่อขายเป็นกําไรสุทธิตามจริง สุทธิจากผลกระทบทางภาษีเป็นศูนย์และ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ ไม่มีและ (97,856) เหรียญสหรัฐ ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2024 และ 2023 ตามลําดับ

(205,383

)

(8,760

)

รวมกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ

23,618,113

6,878,159

41,685,253

4,496,982

หัก: กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

180,093

(387,948

)

110,093

(1,129,475

)

กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

$

23,438,020

$

7,266,107

$

41,575,160

$

5,626,457

กําไรสุทธิต่อหุ้นที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated (1)

กำไรต่อหุ้นปรับลด

$

0.03

$

0.09

$

0.42

$

0.27

จำนวนหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ชำระแล้ว (1)

กำไรต่อหุ้นปรับลด

95,095,144.00

94,192,433.00

94,495,533.00

94,192,433.00

(1)

ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการปรับโครงสร้างทุนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเนื่องจากการรวมธุรกิจแบบย้อนกลับมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED

งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่

30 กันยายน

2024

2023

กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน

กำไรสุทธิ

$

40,142,008

$

24,330,964

การปรับเพื่อกระทบยอดกำไรสุทธิกับเงินสดสุทธิที่ได้จากกิจกรรมดําเนินงาน:

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

2,867,781

9,688,640

ค่าใช้จ่ายการเช่าที่ไม่ใช่เงินสด

2,908,990

2,424,220

สํารองหนี้เสีย (กลับรายการ)

(127,196

)

282,934

ค่าตอบแทนตามหุ้น

12,807,455

ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินและอุปกรณ์

204,026

กําไรที่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนระยะสั้น

(223,164

)

การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะยาว

1,682,282

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

(3,813,609

)

ขาดทุน (กําไร) จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน

185,284

(249,532

)

ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

(2,154,837

)

(1,379,922

)

การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดําเนินงาน

บัญชีลูกหนี้

(804,000

)

(924,061

)

บัญชีลูกหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

4,971,911

(19,979,099

)

สินค้าคงเหลือ

763,075

(4,038,874

)

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(3,430,267

)

17,241,740

ลูกหนี้สินเชื่อของลูกค้า

12,860,220

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น

902,230

8,173,153

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

432,380

(1,991,626

)

สินทรัพย์อื่น

(348,178

)

(1,884,352

)

บัญชีเจ้าหนี้

(10,511,619

)

6,712,977

ตั๋วเงินจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(14,030,092

)

ความก้าวหน้าจากลูกค้า

(1,401,437

)

(681,973

)

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(3,565,778

)

(7,430,332

)

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

(549,446

)

16,518,062

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

(2,971,946

)

(2,335,113

)

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

(9,010,270

)

298,743

ค่าใช้จ่ายชดเชยการเกษียณอายุค้างจ่าย – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(22,082,643

)

หนี้สินอื่น

81,290

79,215

เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดําเนินงาน

27,886,231

22,753,983

กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน

การซื้อทรัพย์สินและอุปกรณ์

(1,974,285

)

(2,299,045

)

การซื้อสินทรัพย์ไม่มีตัวตน

(1,683,030

)

การซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ

(1,700,000

)

(1,000,000

)

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าสําหรับทรัพย์สินและอุปกรณ์

(843,740

)

(417,353

)

รายได้รับล่วงหน้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(617,804

)

(1,017,292

)

การชําระเงินในนามของบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน

(5,245,990

)

การซื้อเงินลงทุนระยะสั้น

(2,106,720

)

การซื้อเงินลงทุนระยะยาว

(331,496

)

เงินลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(26,780

)

เงินสดที่ได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่ได้รับ

722,551

เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ผู้อื่น

(80,793

)

(421,429

)

การชําระคืนจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

5,990,990

734,358

การชําระคืนจากผู้อื่น

62,927

47,356

รายได้จากการขายเงินลงทุนระยะสั้น

4,125,813

รายได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิต

3,954,760

การจําหน่ายบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่จําหน่ายไป

(815,819

)

รายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

1,971

8,046,007

เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน (ใช้ใน)

(5,554,039

)

8,659,196

กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน

การกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

12,310,106

รายได้จากการปรับโครงสร้างทุนแบบย้อนกลับ สุทธิจากต้นทุนการทําธุรกรรม

11,707,417

รายได้จากการออกหุ้นสามัญ

10

รายได้จากการใช้สิทธิของใบสําคัญแสดงสิทธิ

31,374

การชําระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว

(89,448

)

(8,691,462

)

การชําระคืนให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(65,305

)

(7,619,266

)

ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการกําจัดทรัพย์สินและอุปกรณ์

9,620,453

ถือว่าเป็นเงินสมทบที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร

642,748

เงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน

11,584,038

6,262,589

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

453,908

(11,982,793

)

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เพิ่มขึ้นสุทธิ

34,370,138

25,692,975

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ ต้นงวด

103,022,932

51,737,994

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นงวด

$

137,393,070

$

77,430,969

การเปิดเผยข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม

เงินสดที่จ่ายดอกเบี้ยจ่าย

$

15,898

$

37,380

เงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้

$

31,332,123

$

12,608,072

กิจกรรมจัดหาเงินและกิจกรรมลงทุนที่ไม่ใช่เงินสด

ทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

$

164,781

$

7,681,830

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

$

$

17,666,115

การชําระหนี้ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันเกี่ยวกับการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

$

$

4,163,604

สินทรัพย์สิทธิการเช่าดําเนินงานที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

$

$

1,029,518

การวัดค่ามูลค่าใหม่ของหนี้สินตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสินทรัพย์สิทธิการใช้อันเนื่องมาจากการแก้ไขสัญญาเช่า

$

2,408,752

$

2,110,079

การออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันที่เกี่ยวข้องในการให้บริการสินเชื่อ

$

20,398,301

$

การออกหุ้นสามัญให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกันจากการแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพ

$

2,700,000

$

การออกหุ้นสามัญเป็นหุ้นจูงใจ

$

34

$

การชําระคืนเงินกู้ให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นสามัญ

$

$

795

การพิจารณาซื้อที่ไม่ใช่เงินสดสําหรับการซื้อสินทรัพย์

$

$

705,528

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED

การกระทบยอดผลของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน

สําหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน

2024

2023

2024

2023

รายได้จากการดําเนินงาน

13,834,603

20,023,242

65,586,048

46,670,759

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

1,018,359

3,287,809

2,867,781

9,688,640

EBITDA

14,852,962

23,311,051

68,453,829

56,359,399

อัตรากําไร EBITDA

28

%

49

%

42

%

43

%

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ในเอเชีย:

SBC Medical Group Holdings Incorporated

Hikaru Fukui / Head of Investor Relations

E-mail: ir@sbc-holdings.com

ในสหรัฐอเมริกา:

ICR LLC

Bill Zima / Managing Partner

Email: bill.zima@icrinc.com

ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated.

STEERLife และ Callidus Research Laboratories สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งการพัฒนายาเชิงนวัตกรรม

Logo

เบงกาลูรู อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024

STEERLife ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการพัฒนายา และ Callidus Research Laboratories ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการพัฒนาสูตรยาที่มีประสบการณ์มากมายในการพัฒนายารักษาโรคอย่างครอบคลุม ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งการพัฒนายาสำหรับตลาดทั่วโลก STEERLife เป็นแผนกหนึ่งของ STEER World

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีการอัดรีดด้วยความร้อน (HME) ขั้นสูงและการผลิตแบบต่อเนื่องของ STEERLife เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนายารักษาโรคของ Callidus เพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกสำหรับสูตรยาและการพัฒนายาเชิงนวัตกรรม

STEERLife และ Callidus จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งร่วมกันเพื่อให้บริการพัฒนายาขั้นสูงแก่ลูกค้าทั่วโลกโดยใช้เทคโนโลยีการอัดรีดด้วยความร้อน (HME) ความร่วมมือนี้ทำให้ทั้งสององค์กรสามารถผสมผสานความรู้และทักษะเฉพาะทางของตนเข้าด้วยกันได้ ซึ่งนำไปสู่โซลูชันเชิงนวัตกรรมและข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือยังช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนเครือข่าย การติดต่อ และการเข้าถึงตลาด ทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถเข้าสู่ภูมิภาคและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ ความร่วมมือนี้จะตอบสนองความต้องการทั่วโลกสำหรับสูตรยารักษาโรครุ่นถัดไป โดยให้บริการแก่บริษัทยาสามัญและบริษัทยาที่มีแบรนด์

ความร่วมมือนี้ยังช่วยให้สามารถพัฒนายาแบบครบวงจรสำหรับสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) ที่ออกฤทธิ์แรงได้ด้วย นอกเหนือจากความสามารถที่เสริมซึ่งกันและกันแล้ว ความร่วมมือระหว่างองค์กรยังได้รับการขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันในการผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตสำหรับตลาดทั่วโลก

“ความร่วมมือของเรากับ Callidus Research Laboratories ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านนวัตกรรมเภสัชกรรม” Indu Bhushan ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ STEERLife กล่าว “ความร่วมมือนี้ช่วยให้ลูกค้ามีเทคโนโลยีสุดล้ำ ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และความสามารถในการขยายขนาดที่ราบรื่น”

“การพัฒนานี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ STEERLife ในด้านความเป็นเลิศ นวัตกรรม และการส่งมอบคุณค่าที่ยอดเยี่ยม” คุณ Bhushan กล่าวเสริม

“การร่วมมือกับ STEERLife ช่วยเพิ่มความสามารถของเรา ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่ครอบคลุมให้กับบริษัทด้านเภสัชกรรมต่างๆ ทั่วโลกได้” Vardhaman Bafna ผู้ก่อตั้งร่วมและผู้อำนวยการของ Callidus Research Laboratories กล่าว “ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันขอบเขต ส่งเสริมการเติบโต และปรับปรุงผลลัพธ์สำหรับผู้ป่วยผ่านโซลูชันทางเภสัชกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิต”

เกี่ยวกับ STEERLife

STEERLife ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ STEER World เป็นบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพชั้นนำที่ปฏิวัติการผลิตและการบริโภคยารักษาโรคผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์สุดล้ำ ในฐานะบริษัทด้านเภสัชกรรมชั้นนำในอินเดียที่เปลี่ยนจากการผลิตเป็นชุดแบบดั้งเดิมเป็นการผลิตแบบต่อเนื่องและไม่มีการหยุดชะงัก STEERLife มอบโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพที่ยอดเยี่ยม โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการให้ความสำคัญกับผู้ป่วย ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเชิงนวัตกรรม

เกี่ยวกับ Callidus Research Laboratories

Callidus Research Laboratories เป็นบริษัทให้บริการพัฒนาสูตรยาที่ก่อตั้งและบริหารโดยทีมงานมืออาชีพจากอุตสาหกรรมเภสัชกรรม ซึ่งมีประวัติการให้บริการตลาดทั่วโลกที่ยอดเยี่ยม

ทีมงานของ Callidus ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการพัฒนารูปแบบยาต่างๆ และให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยารักษาโรคครบวงจรแก่ลูกค้าทั่วโลก

เราให้บริการครบวงจรในโปรแกรมพัฒนายาแก่พันธมิตรทั่วโลกของเรา ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาสูตรยา การพัฒนาเชิงวิเคราะห์ การศึกษาความคงตัว การถ่ายโอนเทคโนโลยี สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
Amit Jain, Myo Brand Partners, +91-9886062866

แหล่งข้อมูล: STEERLife

Medidata คว้าตำแหน่งสุดยอดผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก

Logo

นิวยอร์ก –(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024

Medidata (แบรนด์ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางคลินิกชั้นนำในวงการวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต) ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน PEAK Matrix® สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบการจัดการการทดลองทางคลินิกด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตประจำปี 2024 ที่ Everest Group จัดขึ้นเป็นครั้งแรก รายงานนี้ได้ประเมินผู้ให้บริการ 13 รายโดยอิงตามผลลัพธ์ที่ผลิตภัณฑ์ของผู้ให้บริการเหล่านี้มีต่อตลาด และขีดความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและประสบผลสำเร็จ

Rave CTMS จาก Medidata เป็นผู้นำวงการในการมอบบริการส่งข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์และราบรื่นที่พลิกโฉมระบบการติดตามผลการลงทะเบียน และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นและมีข้อมูลประกอบ ทั้งนี้ Rave CTMS ช่วยยกระดับการทำงานร่วมกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงรายการข้อมูลด้วยตนเอง และทำให้การทดลองเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นพร้อมความแม่นยำที่เหนือชั้น โดยช่วยให้ทีมศึกษาวิจัยเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ในทันที

คุณ Tom Doyle ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Medidata กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำสูงสุดในด้าน CTMS จากทาง Everest Group” และ “รางวัลนี้ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเราในการพลิกโฉมการวิจัยและตอกย้ำถึงกลยุทธ์ของเราในการนำเสนอประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่าน AI ที่จะปฏิวัติวิธีการออกแบบ วางแผน และจัดการการทดลองแบบครบวงจรขององค์กรต่าง ๆ พร้อมมอบผลลัพธ์สูงสุด”

คุณ Tom Doyle ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “ในปี 2025 Medidata จะนำข้อมูลเชิงลึกจาก AI เข้ามาผสานรวมกับโซลูชันด้านการวางแผนและการดำเนินการวิจัย ช่วยให้สามารถจำลองการออกแบบการทดลอง ลดความยุ่งยากของกระบวนการ และยกระดับประสิทธิภาพให้ดีขึ้นได้”

Medidata เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำในการประเมิน CTMS, การบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และการทดลองทางคลินิกแบบแยกจากศูนย์ (DCT) จาก Everest Group สำหรับ Rave EDC ของ Medidata, แพลตฟอร์ม Medidata และผลงานของทางบริษัทใน DCT

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของเรา

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata มุ่งพัฒนาการรักษาให้มีความอัจฉริยะยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก Medidata ได้พัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาแล้ว 25 ปีจากการทดลองกว่า 34,000 ครั้งและผู้ป่วย 10 ล้านราย บริษัทนี้จึงมีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของวงการ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกที่ผ่าน ๆ มาในระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ราบรื่นของ Medidata ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกว่า 1 ล้านคนจากลูกค้าประมาณ 2,200 ราย เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งคิดค้นนวัตกรรมทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ Dassault Systèmes(Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี และได้รับยกย่องให้เป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.medidata.com และติดตามเราที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes ช่วยเร่งให้มนุษย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น เราให้บริการสภาพแวดล้อมเสมือนในการทำงานร่วมกับแก่ธุรกิจและผู้คนเพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ยั่งยืน เมื่อมีการสร้างประสบการณ์แบบ Virtual Twin ที่เหมือนกับโลกความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ของเรา ลูกค้าของเราก็จะสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการสร้างสรรค์ ผลิต และจัดการวงจรการใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนได้ และช่วยให้โลกใบนี้ยั่งยืนยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี ความสวยงามของเศรษฐกิจประสบการณ์ (Experience Economy) ก็คือเศรษฐกิจแบบนี้จะคำนึงถึงมนุษย์เป็นสำคัญเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ป่วย และประชาชน ทั้งนี้ Dassault Systèmes ได้สร้างคุณค่าให้กับลูกค้ากว่า 350,000 รายการในทุกขนาด ทุกวงการ และในกว่า 150 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com

© Dassault Systèmes สงวนสิทธิ์ทุกประการ 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอน Compass, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS คือเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัทในยุโรป (Societas Europaea) ที่จัดตั้งภายใต้กฎหมายของฝรั่งเศส และมีการจดทะเบียนกับ Versailles Trade และหน่วยงานทะเบียนบริษัทภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่นทั้งหมดจะเป็นของเจ้าของรายนั้น ๆ การใช้เครื่องหมายการค้าใด ๆ ของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรโดยชัดแจ้ง

เกี่ยวกับ Everest Group

Everest Group เป็นบริษัทด้านการวิจัยชั้นนำของโลก ซึ่งช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ การประเมิน PEAK Matrix® ของ Everest Group มาพร้อมการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกที่องค์กรต่าง ๆ ต้องใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกผู้ให้บริการระดับสากล ตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงผลิตภัณฑ์และโซลูชันภายในส่วนตลาดต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันเหล่านี้เองก็เลือกใช้ PEAK Matrix® ในการวัดและเทียบผลิตภัณฑ์ของตนกับผู้อื่นในวงการหรือตลาด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเนื้อหาเชิงลึกที่ www.everestgrp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

ประชาสัมพันธ์ของ Medidata
Medidata.PR@3ds.com

นักวิเคราะห์สัมพันธ์
Medidata.AR@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

Medidata และ Bioforum เสริมสร้างความสัมพันธ์ยาวนานกว่าทศวรรษเพื่อพัฒนาข้อมูลทางคลินิกและโซลูชันไบโอเมตริกสำหรับการทดลองทางคลินิก

Logo

ความร่วมมือที่ขยายขึ้นใช้ประโยชน์จาก Clinical Data Studio และไบโอเมตริกที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อมอบบริการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสำหรับลูกค้าของ Bioforum

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2024 

Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes และผู้ให้บริการโซลูชันการทดลองทางคลินิกชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ได้ประกาศข้อตกลงองค์กรฉบับใหม่กับ Bioforum ซึ่งเป็น CRO ด้านไบโอเมตริกที่ให้บริการแก่ผู้สนับสนุนการทดลองทางคลินิกทั่วโลก

ความร่วมมือที่ขยายขึ้นจากการทำงานร่วมกันมากกว่าทศวรรษจะช่วยให้ลูกค้าด้านเทคโนโลยีชีวภาพของ Bioforum เข้าถึงเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Medidata ได้กว้างขวางขึ้น ทำให้ประสบการณ์การพัฒนาทางคลินิกมีความคล่องตัวมากขึ้น นอกเหนือจากโซลูชัน Medidata เช่น Medidata Rave EDC และ Medidata Rave RTSM ซึ่ง Bioforum ได้ใช้ประโยชน์เพื่อจัดทำการศึกษาวิจัย 60 รายการในด้านการรักษาที่หลากหลาย CRO ยังเพิ่ม Medidata Clinical Data Studio และ Medidata eConsent เพื่อปรับปรุงการไหลของข้อมูล รักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล และให้เป็นไปตามข้อกำหนด

“ทีมผู้เชี่ยวชาญ บริการไบโอเมตริกชั้นนำของอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราส่งผลให้ Bioforum ช่วยให้ผู้สนับสนุนสามารถจัดการข้อมูลทางคลินิกได้อย่างราบรื่นในที่เดียว และมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะปลอดภัย ถูกต้อง และพร้อมสำหรับการวิเคราะห์” Amir Malka ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งร่วมของ Bioforum กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เสริมสร้างความร่วมมือกับ Medidata และร่วมกันมอบโซลูชันขั้นสูงที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าเพื่อเติบโตได้”

“ความร่วมมือที่ขยายขึ้นกับ Bioforum จะนำการจัดการการทดลองทางคลินิกที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาสู่บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่คล่องตัว ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเหล่านั้นออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น” Janet Butler รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายขายทั่วโลกของ Medidata กล่าว “การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการเฝ้าระวังข้อมูลผู้ป่วยและ RBQM จะช่วยให้เราเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กับ Bioforum และมอบสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลคุณภาพสูงที่ราบรื่นให้กับลูกค้าของพวกเขาได้”

Bioforum จะสนับสนุนงาน NEXT New York ของ Medidata ที่กำลังจะจัดขึ้น ซึ่งเป็นการประชุมการทดลองทางคลินิกชั้นนำที่บริษัทจัดขึ้น โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 ถึง 14 พฤศจิกายน ณ นครนิวยอร์ก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata ขับเคลื่อนการรักษาที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้นผ่านโซลูชันดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการทดลองทางคลินิก Medidata เฉลิมฉลอง 25 ปีของนวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำในการทดลองมากกว่า 34,000 ครั้งและผู้ป่วย 10 ล้านราย โดยนำเสนอความเชี่ยวชาญระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ และชุดข้อมูลการทดลองทางคลินิกในอดีตระดับผู้ป่วยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านรายในลูกค้าประมาณ 2,200 รายไว้วางใจในแพลตฟอร์มที่ไร้รอยต่อและครบวงจรของ Medidata ในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วย เร่งการค้นพบทางคลินิก และนำการรักษาออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น Medidata ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์ก และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำโดย Everest Group และ IDC ค้บหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความก้าวหน้าของมนุษย์ เรามอบสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ทำงานร่วมกันให้กับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน การสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่เป็นคู่ขนานกับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ของเราจะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถกำหนดนิยามใหม่ให้กับกระบวนการสร้างสรรค์ การผลิต และการจัดการวงจรชีวิตของข้อเสนอของลูกค้าได้ และด้วยเหตุนี้จึงมีผลอย่างมากในการทำให้โลกยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ความงามของเศรษฐกิจประสบการณ์คือเศรษฐกิจที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นหลักเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ป่วย และพลเมือง Dassault Systèmes มอบคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่า 350,000 รายในอุตสาหกรรมทุกขนาดในกว่า 150 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com

© Dassault Systèmes สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด 3DEXPERIENCE, โลโก้ 3DS, ไอคอนเข็มทิศ, IFWE, 3DEXCITE, 3DVIA, BIOVIA, CATIA, CENTRIC PLM, DELMIA, ENOVIA, GEOVIA, MEDIDATA, NETVIBES, OUTSCALE, SIMULIA และ SOLIDWORKS เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัทในยุโรป (Societas Europaea) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส และจดทะเบียนกับสำนักงานทะเบียนการค้าและบริษัทแวร์ซายส์ภายใต้หมายเลข 322 306 440 หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง การใช้เครื่องหมายการค้าของ Dassault Systèmes หรือบริษัทในเครือต้องได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน

เกี่ยวกับ Bioforum the Data Masters

Bioforum the Data Masters เป็นองค์กรวิจัยทางคลินิกชั้นนำระดับโลก (CRO) ที่เชี่ยวชาญด้านบริการและโซลูชันด้านไบโอเมตริกสำหรับอุตสาหกรรมยา เทคโนโลยีชีวภาพ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีสุดล้ำช่วยให้ Bioforum ให้บริการต่างๆ มากมาย รวมถึงการจัดการข้อมูล ชีวสถิติ การเขียนโปรแกรมเชิงสถิติ และการเขียนทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ นำยาและการรักษาใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเราและบริการของเรา โปรดไปที่ www.bioforumgroup.com หรือค้นหาเราบน LinkedIn ได้ที่ https://il.linkedin.com/company/bioforum-ltd

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Medidata PR
Medidata.PR@3ds.com

ความสัมพันธ์กับนักวิเคราะห์
Medidata.AR@3ds.com

แหล่งข้อมูล: Medidata

VentureOne ของ ATRC เปิดตัว QuantumGate เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับยุคควอนตัมที่งาน CyberQ

Logo

  • บริษัทน้องใหม่เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยข้อมูลขั้นสูงเพื่อปกป้องสินทรัพย์ข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น
  • เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอาบูดาบี (Abu Dhabi’s Technology Innovation Institute)

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2024

VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council) ได้เปิดตัว QuantumGate บริษัทใหม่ที่ให้นำเสนอชุดผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยข้อมูลขั้นสูงเพื่อปกป้องสินทรัพย์ข้อมูลขององค์กรต่างๆ ในยุคควอนตัมที่งาน CyberQ ซึ่งจัดที่เมืองอาบูดาบีในวันนี้

ATRC’s VentureOne Launches QuantumGate to Secure Data for the Quantum Era at CyberQ (Photo: AETOSWire)

VentureOne ของ ATRC เปิดตัว QuantumGate เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับยุคควอนตัมที่งาน CyberQ (ภาพ: AETOSWire)

ท่าน Faisal Al Bannai เลขาธิการของ ATRC กล่าวว่า “ยุคควอนตัมไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ไกลตัวอีกต่อไป ยุคดังกล่าวได้มาถึงแล้ว การเปิดตัว QuantumGate ถือเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องสินทรัพย์ข้อมูลอันล้ำค่าจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โซลูชันภายในประเทศของ QuantumGate จะช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของประเทศและองค์กรของเราจะยังคงปลอดภัยอยู่เสมอ”

“องค์กรแทบทุกแห่งต่างก็ใช้อัลกอริทึมการเข้ารหัสเพื่อเข้ารหัสและปกป้องข้อมูล” ดร. Najwa Aaraj ซึ่งเป็น CEO ของสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีกล่าว “แต่ความก้าวหน้าในการประมวลผลแบบควอนตัมจะทำให้อัลกอริทึมจำนวนมากตกยุคในเวลาเพียงแค่ 5 ถึง 10 ปีเท่านั้น ถึงแม้จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบัน แต่ผู้ไม่ประสงค์ดีก็สามารถรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลขององค์กรไว้เพื่อถอดรหัสในภายหลังเมื่อควอนตัมคอมพิวเตอร์มีให้ใช้งานอย่างแพร่หลายมากกว่านี้ นั่นหมายความว่าความเสี่ยงอยู่ใกล้แค่เอื้อม ข้อมูลขององค์กรตกอยู่ในความเสี่ยงเรียบร้อยแล้ว”

ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยข้อมูลของ QuantumGate ใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์จากสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างๆ ปกป้องสินทรัพย์ข้อมูลของตนจากภัยคุกคามที่มีอยู่ในปัจจุบันและภัยคุกคามใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับด้านการเข้ารหัสข้อมูลที่จะมีการประกาศใช้ ชุดผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย:

  • QSphere ซึ่งประกอบด้วย VPN สำหรับยุคควอนตัม และอีเมล โฟลเดอร์ไฟล์ และแอปพลิเคชันเข้ารหัส-ถอดรหัสข้อความสำหรับยุคควอนตัม
  • Salina เครื่องมือจัดการตัวตนและการเข้าถึงที่ออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากของขั้นตอนการยืนยันตัวตนโดยตัดความจำเป็นในการใช้รหัสผ่านออกไป 

“ความก้าวหน้าล่าสุดในการประมวลผลแบบควอนตัมทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทุกคนเห็นตรงกันว่าโซลูชันการเข้ารหัสในปัจจุบันจะถูกท้าทายอย่างรุนแรงในอีกไม่ช้า” คุณ Reda Nidhakou รักษาการ CEO ของ VentureOne ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ QuantumGate กล่าว “เพื่อป้องกันความสูญเสียครั้งใหญ่ ธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับยุคควอนตัมในทันที ซึ่งภารกิจของเราก็คือการทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ่านโซลูชันที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และล้ำสมัย”

นอกจากจะมอบผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยข้อมูลแล้ว QuantumGate จะให้บริการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านจากการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบเก่าไปใช้ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับยุคควอนตัม พร้อมทั้งรับประกันว่าการดำเนินงานจะเกิดการหยุดชะงักน้อยที่สุด

QuantumGate เป็นบริษัทลำดับที่สามที่ VentureOne เปิดตัวต่อจาก SteerAI บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีการเดินทางแบบอัตโนมัติซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2024 และ AI71 บริษัทที่สร้างโซลูชันทางธุรกิจโดยใช้โมเดล AI ช่วยสร้างของ Falcon ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2023

LinkedIn

ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54151175/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Menna Massoud
Menna.massoud@edelman.com

ที่มา: QuantumGate

คณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดีอาระเบีย ปิดการประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์ครั้งที่สอง

Logo

ริยาด ซาอุดีอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024

การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติครั้งที่ 2 ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดีอาระเบียสิ้นสุดลงแล้วในวันนี้ หลังจากจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 10 พฤศจิกายนในกรุงริยาด การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจํานวนมากทั้งที่ผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้ชมภาพยนตร์

The Saudi Film Commission Concludes The Second Edition of The Film Criticism Conference (Photo: AETOSWire)

คณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดีอาระเบียปิดการประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์ครั้งที่สอง (ภาพ: AETOSWire)

ภายใต้หัวข้อ “Sound in Cinema” การประชุมครั้งนี้จะเน้นที่ประเด็นต่างๆ ของภาพยนตร์ โดยเน้นไปที่ผลกระทบของเสียงที่มีต่อประสบการณ์การถ่ายทําภาพยนตร์ และอิทธิพลของเสียงที่มีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ หัวข้อที่ครอบคลุมรวมถึงเพลงประกอบต้นฉบับ เอฟเฟกต์เสียง และเสียงของธรรมชาติ วิทยากรกว่า 40 คนจาก 24 ประเทศ รวมถึงนักวิจารณ์ ผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ได้แสดงความสนใจอย่างมากในงานนี้ เนื่องจากเสียงมีบทบาทสําคัญในภาพยนตร์และความสําคัญต่อการพัฒนาภาคส่วนนี้และเสริมสร้างประสบการณ์การชมภาพยนตร์ร่วมสมัย

การประชุมครั้งนี้มีการจัดเวิร์กช็อป 6 ครั้งที่นําโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงเวิร์กช็อปเฉพาะทาง 4 ครั้งสําหรับเด็กที่มุ่งพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการชมภาพยนตร์ นอกจากนี้ โปรแกรมยังรวมถึงการอภิปรายแบบกลุ่ม 13 ครั้งและการฉายภาพยนตร์ที่โดดเด่น 8 เรื่องจากทั่วโลก ตามด้วยการอภิปรายเชิงวิพากษ์วิจารณ์

การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของคณะกรรมการภาพยนตร์ซาอุดีอาระเบียในการยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เนื่องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นสื่อกลางของวัฒนธรรมและเป็นตัวเร่งให้เกิดการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ การประชุมยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของคณะกรรมการในการส่งเสริมบทบาทของภาพยนตร์ในฐานะเครื่องมือสําหรับการพัฒนาวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ คณะกรรมการมุ่งหวังที่จะบรรลุวัตถุประสงค์โดยการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถ และยกระดับประสบการณ์การชมภาพยนตร์ระดับประเทศ นอกจากนี้ การวิจารณ์ภาพยนตร์ยังมีบทบาทสําคัญในความพยายามของคณะกรรมการ เนื่องจากเป็นกุญแจสําคัญในการกําหนดวัฒนธรรมภาพยนตร์สําหรับผู้ชม และเสริมสร้างศักยภาพระดับมืออาชีพของผู้สร้างภาพยนตร์

การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นกิจกกรมสุดท้ายของการประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์ประจำปีนี้ ซึ่งรวมถึงงานก่อนหน้านี้ 2 งานใน Hail เมื่อวันที่ 27 กันยายน และใน Al-Ahsa เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติในกรุงริยาดเป็นกิจกรรมสุดท้ายของการประชุมประจำปีนี้ โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วราชอาณาจักรและทั่วโลก

ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54151289/en

ติดต่อ

Nasry Abou Zaki
nasry@jcn.marketing

ที่มา: การประชุมวิจารณ์ภาพยนตร์นานาชาติ

Quit Like Sweden ร่วมฉลองความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของสวีเดน

Logo

สต็อกโฮล์ม–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024

ในวันนี้ ชาวสวีเดนได้กลายเป็นกลุ่มคนปลอดบุหรี่อย่างเป็นทางการแล้ว ความแพร่หลายของการสูบบุหรี่ทั่วประเทศลดลงเหลือ 5.3% ที่น่าสนใจก็คือ ในบรรดาคนที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของสวีเดนมาตลอดชีวิต ตัวเลขนี้ลดลงเหลือ 4.5% ส่วนคนจากประเทศอื่น ๆ ในยุโรปที่ย้ายมาอยู่ในสวีเดนก็มีแนวโน้มมากขึ้นถึงสามเท่าที่จะสูบบุหรี่หากก่อนหน้านี้ไม่ได้เลือกย้ายมาอยู่ที่สวีเดน (24%1 เทียบกับ 7.8%)

Quit Like Sweden (แพลตฟอร์มที่มุ่งเผยแพร่ “Swedish Experience”) ร่วมยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ มาร่วมพัฒนาอีกหลายล้านชีวิตทั่วโลกไปด้วยกัน

คุณ Suely Castro  ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Quit Like Sweden กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ความสำเร็จของสวีเดนเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นการพิสูจน์ว่าแนวคิดนี้ได้ผลจริงสำหรับผู้คนทั่วโลก”

“ในวันนี้ เราสามารถร่วมยินดีไปกับพัฒนาการด้านสุขภาพของสาธารณชนได้ เมื่อนำแนวทางทดแทนการสูบบุหรี่แบบ “เข้าถึงได้” “ยอมรับได้” และ “มีค่าใช้จ่ายไม่แพง” มาเสริมให้กับมาตรการและโปรแกรมต่าง ๆ ในการหยุดและป้องกันการสูบบุหรี่ สวีเดนได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า การลดการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่นั้นไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นเรื่องที่ทำได้จริง และตอนนี้เราก็อยากให้ทั่วโลกมาร่วมมือกันเพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จทั่วโลก”

เกี่ยวกับ Quit Like Sweden

Quit Like Sweden เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการนำ Swedish Experience ไปปรับใช้เพื่อลดความแพร่หลายของการสูบบุหรี่ โดยการนำแนวทางทดแทนที่เข้าถึงได้ ยอมรับได้ และมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาผสานรวมกับมาตรการและโปรแกรมต่าง ๆ ในการหยุดและป้องกันการสูบบุหรี่

1 คณะกรรมาธิการยุโรป, ยูโรบารอมิเตอร์พิเศษ 539 – ทัศนคติที่ชาวยุโรปมีต่อยาสูบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง, 2024 (ดูได้ที่ https://europa.eu/eurobarometer/surveys/detail/2995)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บุคคลติดต่อ

info@quitlikesweden.org

แหล่งที่มา: Quit Like Sweden

Greenery นำเสนอโซลูชันสำหรับการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์แบบคาร์บอนต่ำที่การประชุม COP29

Logo

Greenery ในฐานะตัวแทนจากเกาหลีใต้ที่การประชุม COP29 ได้นำเสนอระบบการจัดการน้ำในนาข้าวและวิธีแปรรูปมูลสัตว์ให้เป็นถ่านชีวภาพ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ร่วมการประชุมทั่วโลกเห็นถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านการเกษตร

บากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน–(BUSINESS WIRE)–13 พฤศจิกายน 2024

Greenery, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศจากเกาหลีใต้ได้นำเสนอโซลูชันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ที่การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ครั้งที่ 29 (COP29)

ในการบรรยายหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านสู่การเกษตรและการเลี้ยงสัตว์แบบคาร์บอนต่ำ” Greenery ได้นำเสนอกรณีศึกษากรณีแรกของบริษัท ว่าด้วยระบบระบายน้ำในนาข้าวที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนและอนุรักษ์น้ำ โดยระบบนี้จะวัดปริมาณและติดตามการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการเฝ้าสังเกตระดับน้ำและรวบรวมข้อมูลสภาพภูมิอากาศและดิน ซึ่งจะมีการเปิดตัวโปรเจ็กต์นี้ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการสำคัญด้านข้อมูลที่นำโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีใต้และสำนักงานสังคมสารสนเทศแห่งชาติ (NIA) ภายในสิ้นปี การใช้ข้อมูลด้านการเกษตรของโปรเจ็กต์นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และมีผู้เข้าร่วมสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการผสานความร่วมมือตลอดทั้งการประชุม

Wonho Lee, Director of the Climate Tech Division at Greenery, presents on the urgent need for low-carbon agriculture. (Image: Greenery)

คุณ Wonho Lee ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศของ Greenery นำเสนอเกี่ยวกับความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการเปลี่ยนผ่านสู่การเกษตรแบบคาร์บอนต่ำ (ภาพ: Greenery)

สำหรับกรณีศึกษากรณีที่สอง Greenery ได้นำเสนอโปรเจ็กต์ในการนำมูลสัตว์ที่เป็นต้นตอหลักในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของฟาร์มต่างๆ มาแปรรูปเป็นถ่านชีวภาพ โดยถ่านชีวภาพสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ถึง 100 ปีโดยประมาณ ซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพในการลดคาร์บอนในระดับสูง ในการนำเสนอกรณีศึกษานี้ Greenery ได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมปศุสัตว์

การบรรยายนี้ปิดท้ายด้วยการอธิปรายกลุ่มเกี่ยวกับความจำเป็นในการใช้โซลูชันที่อาศัยเทคโนโลยีและวิธีการที่เข้มงวดในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการเกษตร ซึ่งการอภิปรายนี้ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญที่ว่า เนื่องจากการเกษตรมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านอาหารอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการเกษตรจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ คุณ Saskia Sanders ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายจากสำนักงานเกษตรกรรมแห่งสหพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ คุณ Pankaj Kumam ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของหน่วยงานประเมินและตรวจสอบ Enviance และคุณ Soojeong Myeong หัวหน้าคณะนักวิจัยจากสถาบันสิ่งแวดล้อมแห่งเกาหลีก็เข้าร่วมการอภิปรายกลุ่มด้วย

Greenery มอบโซลูชันด้านความยั่งยืนจำนวนมาก รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์, การประเมินวงจรชีวิต (Life Cycle Assessments หรือ LCA) และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Greenery ได้เปิดตัว ENVION ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ LCA ที่ประเมินผลกระทบที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีต่อสภาพแวดล้อมตลอดทั้งวงจรชีวิต โดยจะติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกขั้นตอนของกระบวนการ

“การเปลี่ยนผ่านสู่การเกษตรและการเลี้ยงสัตว์แบบคาร์บอนต่ำจำเป็นอย่างยิ่งต่อการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” คุณ Yoosik Hwang ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ของ Greenery กล่าว “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านที่ยั่งยืนในภาคการเกษตรผ่านโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่”

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54152074/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Greenery, Inc.
Gyeongin Park
+82-2-6274-3600
gi.park@greenery.im

ที่มา: Greenery, Inc.

Xsolla เผยแพร่รายงานประจำฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 เกี่ยวกับอนาคตของเกมมือถือและการพัฒนาเกม: การวิเคราะห์ตัวชี้วัดล่าสุดและแนวโน้มใหม่

Logo

หัวข้อสําคัญ ได้แก่ การเติบโตของร้านค้าออนไลน์ อิทธิพลของเกมเมอร์หญิง และผลกระทบของพระราชบัญญัติตลาดดิจิทัล

ลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–12 พฤศจิกายน 2024

Xsolla บริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลก ประกาศเปิดตัว “The Xsolla Report: The State of Play.” ฉบับบฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 อย่างภาคภูมิใจรายงานโดยละเอียดนี้ให้ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้ม และโอกาสที่สําคัญในการกําหนดภูมิทัศน์ของเกม ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมสามารถปรับตัวและเติบโตในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

(Graphic: Xsolla)

(กราฟฟิก: Xsolla)

ฉบับฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 มุ่งเน้นไปที่เกมมือถือ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ 98,700 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกในปีนี้ โดยเอเชียเป็นผู้นําตลาดที่ 65,000 ล้านดอลลาร์ รายงานยังเน้นย้ำถึงความสําคัญที่เพิ่มขึ้นของร้านค้าออนไลน์ โดยผู้เล่น 77% ซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเน้นย้ำถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของช่องทางเหล่านี้

รายงานยังเน้นย้ำถึงผู้หญิงในการเล่นเกมและความเท่าเทียมกันที่เพิ่มขึ้นในการเล่นเกม โดยตั้งข้อสังเกตว่า 87% เล่นเกมมือถือทุกสัปดาห์ และ 64% ทําการซื้อสินค้าในแอป เมื่อกลุ่มประชากรนี้เติบโตขึ้น บริษัทต่างๆ ก็ตอบสนองด้วยการพัฒนาประสบการณ์การเล่นเกมที่ครอบคลุมและมีส่วนร่วมมากขึ้น

“รายงาน 'The Xsolla Report' ฉบับฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 นําเสนอมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มของมือถือ โซลูชันการชําระเงินที่เกิดขึ้นใหม่ ผลกระทบของผู้หญิงในเกม และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องที่ส่งผลต่ออนาคต” Berkley Egenes ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของ Xsolla กล่าว “ด้วยรายงานนี้ เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ที่จําเป็นแก่พันธมิตรของเราเพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ และประสบความสําเร็จในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมและเข้าถึง “The Xsolla Report: The State of Play” ฉบับฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 ฉบับเต็ม โปรดไปที่ xsolla.pro/txr-autumn24

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่เกมหลายพันรายทุกขนาด ในการระดมทุน ทําการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนทั่วโลกและบนแพลตฟอร์มต่างๆ ในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจําหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับเกมเมอร์ทั่วโลก Xsolla มีสํานักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสํานักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลี โตเกียว มอนทรีออล และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนพันธมิตรเกมชั้นนํา เช่น Valve, Twitch, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo เป็นต้น

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54151076/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสื่อ

Derrick Stembridge
ผู้อํานวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla