กราเดียนท์ (Gradiant) เปิดตัว alkaLi ที่ขับเคลื่อนโดย EC2 ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก

Logo

การแยกดำเนินการทางธุรกิจของกราเดียนท์ (Gradiant) ในครั้งนี้ จะมาช่วยเร่งการขยายขนาดการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม เพื่อตอบสนองความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) แหล่งกักเก็บพลังงาน (energy storage) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดพกพา (portable devices) ทั่วโลก

เมืองบอสตัน–(BUSINESS WIRE)–17 กรกฎาคม 2024

กราเดียนท์ (Gradiant) ผู้ให้บริการระบบบำบัดน้ำและน้ำเสียชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศแยกตัวการทำธุรกิจของ alkaLi™ โดยให้เป็นบริษัทที่สามารถดำเนินการเองได้อย่างอิสระ (standalone company)เพื่อมุ่งเน้นการเร่งขยายขนาดการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม โดยalkaLi ซึ่งขับเคลื่อนโดย EC2 นั้นเป็นระบบการทำงานแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ออกแบบมาเพื่อสกัด ทำให้เข้มข้น และแปลงแบตเตอรี่ลิเธียม

alkaLi is dedicated to accelerating the scaling of battery-grade lithium production and is powered by EC2, the world's only all-in-one solution engineered to Extract, Concentrate and Convert battery-grade lithium. (Graphic: Business Wire)

alkaLi ทุ่มเทเพื่อเร่งการขยายการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม และขับเคลื่อนโดย EC2 ซึ่งเป็นโซลูชันแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวของโลกที่ออกแบบมาเพื่อสกัด ทำให้เข้มข้น และแปลงแบตเตอรี่ลิเธียม (กราฟิก: Business Wire)

เนื่องด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดพกพานั้นทำให้ความต้องการลิเธียมทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น EC2  จึงได้นําเสนอวิธีการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนแก่ผู้ผลิต เพื่อขยายขนาดการผลิตลิเธียมให้สามารถมีการผลิตที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดย EC2 มีคุณลักษณะการผลิตที่สามารถวัดได้เป็นวินาที ซึ่งทำให้สามารถลดต้นทุนของ OPEX ลงถึง 50% และต้นทุน CAPEX ลดลงเป็นศูนย์ อีกทั้งเป็นอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าในเรื่องความยั่งยืนจากการลดการปล่อยคาร์บอนและน้ำลงอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถเร่งการดำเนินการเพื่อตอบสนองความต้องการลิเธียมทั่วโลก ความสมบูรณ์ของระบบนี้คือความสมดุล ความเป็นหนึ่งเดียว และการปรับตัวให้เข้ากับแหล่งการผลิตต่างๆ ที่หลากหลายได้

EC2 ของ alkaLi เป็นโมดูลาร์ขั้นสูง (highly modular) ซึ่งประกอบด้วยระบบแบบสามขั้นตอน ที่สามารถปรับให้เข้ากับแหล่งการผลิตที่หลากหลายได้มากที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง –น้ำเกลือ การระเหย และการรีไซเคิลโดยเทคโนโลยีนี้สามารถถูกปรับใช้แบบเต็มรูปแบบ (in full) หรือใช้แบบอิสระ(standalone) ผสานรวมกับระบบที่มีตัวเลือกในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย SmartOps AI อยู่แล้วก็ได้ EC2 ได้ถูกทดลองก่อนติดตั้ง และทดลองใช้งานจริงทั้งยังประสบความสําเร็จในการพิสูจน์ระบบเชิงพาณิชย์กับลูกค้า ในปี 2023. ด้วยเหตุนี้ alkaLi จะนําเสนอความยืดหยุ่นของรูปแบบธุรกิจที่กราเดียนท์ (Gradiant) เป็นที่รู้จักอยู่แล้วซึ่งก็คือการนำเสนอตัวเลือก CAPEX เป็นศูนย์ให้แก่ผู้ผลิตที่บริษัทในการสร้างธุรกิจ การเป็นเจ้าของธุรกิจและการใช้งานระบบนี้ต่อไป

“จุดประสงค์ที่เป็นแรงขับเคลื่อนการทำงานของกราเดียนท์ (Gradiant)อย่างชัดเจน คือ การมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าเราจะมีน้ำไว้สําหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไปได้ใช้ ด้วยเหตุนี้กราเดียนท์ (Gradiant) จึงมาพร้อมกับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวมนอกเหนือจากเพียงการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งรวมถึงจการผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้ในสังคมของเราให้สำเร็จ เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล” นายปรากาช โกวินตัน (Prakash Govindan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ กราเดียนท์ (Gradiant) กล่าว และยังกล่าวอีกว่า “ความต้องการลิเธียมขณะนี้มีมากกว่าอุปทาน ฉะนั้นเราจึงต้องเร่งเพิ่มขนาดการผลิต และด้วยเหตุนี้เราจึงแยก alkaLi ให้เป็นบริษัทที่สามารถดำเนินการได้อย่างอิสระโดยสมบูรณ์ เพื่อมุ่งเน้นทการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมให้ได้สูงที่สุด”

” ด้วยเหตุนี้ กราเดียนท์ (Gradiant) จึงแตกต่างไปจากบริษัทอื่น ๆ  เพราะเราเป็นมากกว่าบริษัทดูแลเฉพาะเรื่องของน้ำ แต่เรายังเป็นบริษัทเทคโนโลยี” สิวา กุมาร์ โกต้า (Siva Kumar Kota) หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีได้กล่าวเสริม “การปฏิวัติวงการด้วย RO Infinity พร้อมเทคโนโลยี Counter-Flow Reverse Osmosis ที่ขับเคลื่อนโดย EC2 CFRO ของเรานั้นทำงานโดยการลดความต้องการในการใช้พลังงานและการใช้น้ำลงไปอย่างมาก โดยมุ่งเน้นที่จะจํากัดการเข้าใกล้จุดอิ่มตัว โดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่พบได้ทั่วไปในเทคโนโลยีแบบเดิม”

ระบบการทำงาน ECของ alkaLi ได้กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมแบบใหม่ในการสกัด ทำให้เข้มข้น และแปลงแบตเตอรี่ลิเธียมด้วยการปรับประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละขั้นตอน:

การสกัด (Extraction): เรซินสังเคราะห์และเมมเบรนชนิดใหม่ได้เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดลิเธียมให้เหนือกว่ามาตราฐานของอุตสาหกรรมทั่วๆ ไป โดยการเข้าถึงระดับ Generation II ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยกระแสลิเธียม (lithium stream) ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพปลายน้ำอย่างสูงสุด โดยสตรีม Li-lean ที่สองจะถูกส่งออก และแต่ละกระแสจะไหลไปยัง CFRO ในขั้นตอนความเข้มข้นต่อไป

ความเข้มข้น (Concentration): ขับเคลื่อนโดย CFRO ซึ่งเป็นรางวัลที่กราเดียนท์(Gradiant) ได้รับมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบอย่างสูงที่สุด โดยที่ใช้พลังงานน้อยกว่ากระบวนการระบายความร้อน

  • CFRO I รับกระแส Li-rich (Li-rich stream)และมีความเข้มข้นจนถึงระดับที่เพียงพอที่จะแปลงเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมได้
  • CFRO II รับกระแส Li-lean (Li-lean stream) และลด TDS ให้ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ทําให้สามารถได้รับการอนุญาตได้เร็วขึ้น

การแปลง (Conversion): ลิเธียมเข้มข้นจะตกตะกอนเป็นของแข็งเพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมคาร์บอเนต (Li2CO3) หรือลิเธียมไฮดรอกไซด์ (LiOH)

ขณะนี้ alkaLi กําลังเตรียมความพร้อมเพื่อรับพันธมิตรลูกค้ารายใหม่อยู่

เกี่ยวกับ กราเดียนท์ (Gradiant)
กราเดียนท์ (Gradiant) เป็นบริษัทที่ดูแลเรื่องน้ำที่ต่างไปจากบริษัทอื่นๆ ด้วยระบบการทำงานแบบครบวงจรที่ไม่เหมือนใครและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะอย่างเต็มรูปแบบที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำระดับแนวหน้าทำหน้าที่ควบคุมดูแล เราคือบริษัทที่ให้บริการแก่การดำเนินงานที่มีความสำคัญต่อภารกิจของลูกค้าในอุตสาหกรรมสำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยารักษาโรค อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียม แร่ธาตุสำคัญ และพลังงานทดแทน โดยระบบที่เป็นนวัตกรรมของกราเดียนท์ (Gradiant) นี้จะช่วยลดการใช้น้ำและลดการปล่อยน้ำเสีย ฟื้นคืนทรัพยากรอันมีค่า และเปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำสะอาดได้ โดยบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน (Boston) โดยก่อตั้งขึ้นที่ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ (MIT) และปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com

เกี่ยวกับ alkaLi
alkaLi มุ่งมั่นที่จะเร่งการขยายขนาดการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมที่ขับเคลื่อนโดย EC2 ซึ่งเป็นระบบการทำงานแบบครบวงจรเพียงแห่งเดียวของโลกที่ออกแบบมาเพื่อสกัด ทำให้เข้มข้น และแปลงแบตตอรี่ลิเธียม alkaLi นําเสนอวิธีการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนแก่ผู้ผลิตลิเธียม ในการขยายขนาดการผลิตลิเธียมอย่างรวดเร็ว โดยมีประโยชน์อย่างมากในด้านกําลังการผลิต ความเร็ว ต้นทุน และความยั่งยืน ด้วยระบบการทำงานที่ปรับให้เข้ากับแหล่งการผลิตตที่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงน้ำเกลือ การระเหย และการรีไซเคิล ทั้งนี้ สํานักงานใหญ่นั้นตั้งอยู่ที่เมืองบอสตันซึ่งเป็นบริษัทเดี่ยว (standalone company) ซึ่งแยกตัวออกจากกราเดียนท์ (Gradiant) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ alkaLi3.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54085519/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางการติดต่อฝ่ายธุรกิจ (Corporate Contact)
ฟิลิกซ์ หวัง (Felix Wang)
กราเดียนท์ (Gradiant)
ประธานฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ (Global Head of Marketing)
fwang@gradiant.com

ที่มา: Gradiant

teamLab Planets TOKYO ได้รับการยอมรับจาก GUINNESS WORLD RECORDS™ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก (กลุ่มศิลปะเดียว) โดย “Athletics Forest” ขนาดใหญ่จะเปิดใหม่ในต้นปี 2025

Logo

teamLab Planets มีผู้เยี่ยมชม 2,504,264 รายระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2023 ถึง 31 มีนาคม 2024 ทำให้ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกซึ่งอุทิศให้กับศิลปินเพียงคนเดียว

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 กรกฎาคม 2024

 teamLab Planets TOKYO DMM ที่โทโยสุ โตเกียว (ต่อไปนี้จะเรียกว่า teamLab Planets) ต้อนรับผู้เข้าชมทั้งหมด 2,504,264 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2023 ถึง 31 มีนาคม 2024 ความสำเร็จนี้ทำให้ GUINNESS WORLD RECORDS ให้การยอมรับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด (กลุ่มศิลปะเดี่ยว) ในโลก

teamLab Planets in Tokyo has been recognized by GUINNESS WORLD RECORDS™ as the most visited museum (single art group) in the world.(teamLab, Highlight video of teamLab Planets, Toyosu, Tokyo / Video: teamLab)

teamLab Planets ในโตเกียวได้รับการยอมรับจาก GUINNESS WORLD RECORDS™ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก (กลุ่มศิลปะเดียว) (teamLab, วิดีโอไฮไลท์ของ teamLab Planets, Toyosu, Tokyo / วิดีโอ: teamLab)

นอกจากนี้ teamLab Planets มีผู้เยี่ยมชมทั้งหมด 2,412,495 คนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2023 (*1) เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจ “The Art Newspaper Visitor Figures 2023” (*2) ซึ่งเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก teamLab Planets แซงหน้าพิพิธภัณฑ์ที่มีศิลปินเดี่ยวอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์ Van Gogh ในอัมสเตอร์ดัม (ผู้เข้าชม 1,686,766 คน) และ พิพิธภัณฑ์ Picasso ในบาร์เซโลนา (ผู้เยี่ยมชม 1,047,094 คน)

teamLab Planets ยังอยู่ในอันดับที่ 5 ใน “Year in Search 2023” ของ Google สำหรับ “Most Popular Museums in the World” (*3), ตามหลังจากพิพิธภัณฑ์ Louvre (ปารีส), British Museum (ลอนดอน), Musée d'Orsay (ปารีส), และ Natural History Museum (ลอนดอน)

การยอมรับนี้เป็นรางวัล GUINNESS WORLD RECORDS ครั้งที่สองสำหรับพิพิธภัณฑ์ของ teamLab ตามหลังจากที่พิพิธภัณฑ์ teamLab Borderless: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM ในโอไดบะ, โตเกียว ได้รับการยอมรับในปี 2019 โดยมีผู้เข้าชมถึง 2,198,284 คน (*4).

พื้นที่ใหม่ขนาดใหญ่ที่จะเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2025

ในต้นปี 2025, teamLab Planets จะขยายพื้นที่อย่างมากด้วยการเพิ่มพื้นที่ศิลปะใหม่ที่สำคัญ พื้นที่ใหม่จะมีพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ “Athletics Forest,” โครงการการศึกษาแบบร่วมกัน “Future Park” และ “Catching and Collecting Forest” การขยายพื้นที่นี้จะรวมถึงศิลปะติดตั้งมากกว่า 10 ชิ้น เพิ่มความสมจริงในประสบการณ์ที่ teamLab Planets

ATHLETICS FOREST

Athletics Forest เป็นพื้นที่กีฬาสร้างสรรค์ที่มีแนวคิดในการเข้าใจโลกผ่านทางร่างกายและการคิดเกี่ยวกับโลกในแบบสามมิติ ผู้คนสามารถใช้ร่างกายทั้งหมดของพวกเขาเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่สามมิติที่ซับซ้อนและท้าทายทางกายภาพของโลกแบบอินเตอร์แอคทีฟ

มนุษย์รับรู้โลกด้วยร่างกายและคิดด้วยร่างกาย เมื่อคุณสำรวจโลกสามมิติที่ซับซ้อนด้วยร่างกายของคุณเอง คุณจะรับรู้โลกในแบบสามมิติทางกายภาพ และความคิดของคุณก็จะกลายเป็นสามมิติ เราเริ่มโครงการนี้ Athletics Forest ด้วยความหวังที่จะเสริมสร้างการคิดแบบสามมิติและการคิดในมิติที่สูงขึ้น

ความตระหนักรู้ในเชิงพื้นที่กล่าวกันว่ามีความสัมพันธ์กับนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ผมเติบโตในพื้นที่ชนบทและเล่นในภูเขา แต่ในสังคมและโรงเรียนปัจจุบัน ร่างกายถูกจำกัดให้อยู่นิ่งๆ ผมคิดว่าเมืองต่างๆ รายล้อมไปด้วยข้อมูลที่เป็นพื้นราบมากเกินไป เช่น หนังสือ โทรทัศน์ และหน้าจอสมาร์ทโฟน นั่นเป็นเหตุผลที่เราสร้างพื้นที่สามมิติที่เรียกร้องการใช้ร่างกายอย่างมาก มันเป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถรับรู้ศิลปะด้วยร่างกายของพวกเขา

– Toshiyuki Inoko ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Athletics Forest:
https://www.teamlab.art/concept/athletics-forest/

FUTURE PARK

Future Park เป็นโครงการการศึกษาที่มีแนวคิดการสร้างสรรค์ร่วมกัน (co-creation) เป็นสวนสนุกที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับการสร้างโลกอย่างอิสระร่วมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเกิดขึ้นจากกระบวนการที่ผู้คนสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ร่วมกัน และเมื่อผู้คนยังคงสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป ผลงานศิลปะนั้นก็จะพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Future Park:

 https://www.teamlab.art/concept/future-park/

CATCHING AND COLLECTING FOREST

Catching and Collecting Forest เป็นพื้นที่การเรียนรู้ใหม่ที่มีแนวคิดการ จับ ศึกษา ปล่อย โดยที่ผู้คนสำรวจโลกด้วยร่างกายของพวกเขา ค้นพบ จับ และขยายความสนใจตามสิ่งที่พวกเขาจับได้ ผู้เข้าชมสำรวจด้วยสมาร์ทโฟน จับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ศึกษามัน และสร้างหนังสือสะสมของตัวเอง

เมื่อผู้เข้าชมใช้กล้องของสมาร์ทโฟนดูสัตว์ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่และยิง Study Arrow ไปที่สัตว์ในมุมมองของกล้อง ลูกศรจะพุ่งออกจากโทรศัพท์เข้าสู่พื้นที่จริง เมื่อ Study Arrow ไปถึงสัตว์ สัตว์นั้นจะหายไปจากพื้นที่และถูกเพิ่มเข้าไปในคอลเลกชันของผู้เข้าชมในสมาร์ทโฟนของตัวเอง เมื่อผู้เข้าชมปัดสัตว์ที่จับได้ไปยังตำแหน่งที่เห็นในกล้องของแอป สัตว์นั้นจะถูกปล่อยและกลับไปยังตำแหน่งนั้น

การสำรวจทางกายภาพร่วมกับผู้อื่น การค้นพบและจับบางสิ่ง และใช้โอกาสนี้เพื่อขยายความสนใจตามสิ่งที่จับได้ นี่คือสิ่งที่เราได้ทำตามธรรมชาติมาเป็นเวลานานในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

สำหรับมนุษยชาติ การจับและรวบรวมเป็นเรื่องสนุก การศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”

– Toshiyuki Inoko ผู้ก่อตั้ง teamLab

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดของ Catching and Collecting Forest:
https://www.teamlab.art/concept/catching/

เกี่ยวกับ teamLab Planets

ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปี “Year in Search 2023” ของ Google ทาง teamLab Planets ได้รับการจัดอันดับใน 5 อันดับแรกสำหรับ “Most Popular Museums in the World” (*3) ท่ามกลางพิพิธภัณฑ์โลกที่มีประวัติศาสตร์มากกว่าหลายศตวรรษ ทาง teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์เดียวจากประเทศญี่ปุ่นที่ติดอันดับนี้ นอกจากนี้ teamLab Planets ยังได้รับการเลือกเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในโตเกียวเป็นระยะเวลาสองปีติดต่อกันโดย Honichi Lab (Visit Japan Lab) ใน “Ranking of Popular Tourist Attractions Among Foreign Visitors: Tokyo Edition” (*5) จากทั้งหมด 2,662 แหล่งท่องเที่ยวในโตเกียว

ยิ่งกว่านั้น ทาง teamLab Planets ยังได้รับความชื่นชมจากทั่วโลก อย่างเช่น การได้เป็นที่แรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัล “Asia's Leading Tourist Attraction 2023” ในงาน World Travel Awards ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลที่เรียกได้ว่าเป็นรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

แนวคิด TeamLab Planets

พร้อมกับผู้อื่น ลงตัวทั้งร่างกาย รับรู้ด้วยร่างกาย และกลายเป็นหนึ่งกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณเดินผ่านน้ำและสวนที่คุณกลายเป็นหนึ่งกับดอกไม้ ประกอบด้วยผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 พื้นที่และสวน 2 พื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมศิลปะ collective teamLab

ผู้คนเดินเท้าเปล่าและจมอยู่ในผลงานศิลปะที่ใหญ่ให้กับร่างกายทั้งหมดพร้อมกับผู้อื่น ผลงานศิลปะเปลี่ยนแปลงภายใต้การมีอยู่ของคน ทำให้เกิดความสับสนในการรับรู้ของขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะ ผู้คนอื่นๆ ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในผลงานศิลปะเช่นกัน ทำให้ขอบเขตระหว่างตัวเองกับผลงานศิลปะสับสนกัน และสร้างความต่อเนื่องระหว่างตัวเอง ศิลปะ และผู้อื่น

เว็บไซต์ทางการ: teamlab.art.planets

ข้อมูลำหรับผู้เยี่ยมชม

teamLab Planets TOKYO DMM
Toyosu, Tokyo (6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo)
https://maps.app.goo.gl/QVs4a34HD9qnvjUo8

เปิด: ทุกวัน 9:00 – 22:00
ปิด: วันพุธที่ 7 สิงหาคมและวันพุธที่ 4 กันยายน
*เข้าได้ช้าสุดหนึ่งชั่วโมงก่อนปิด

*เวลาเปิด-ปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลง

*โปรดตรวจสอบราคาตั๋วจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ร้านขายตั๋ว teamLab Planets TOKYO DMM

https://teamlabplanets.dmm.com

ชุดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
https://www.dropbox.com/sh/ir7d2aui794eo6z/AAChbzX5wPsQm8cgkQ2ViFD4a?dl=0

*1. ข้อมูลการใช้ตั๋วของผู้เข้าชม teamLab Planets (1 มกราคม 2023 – 31 ธันวาคม 2023)

*2. The Art Newspaper (2024) 'Visitor Figures 2023: The 100 most popular art museums in the world—blockbusters, bots and bounce-backs'. The Art Newspaper, 26 มีนาคม อ่านได้ที่:
https://www.theartnewspaper.com/2024/03/26/the-100-most-popular-art-museums-in-the-world-2023

*3 “artnet (2023) 'These Were the Most Popular Museums in the World, According to Google’s “Year in Search”'. artnet, 20 ธันวาคม อ่านได้ที่:
https://news.artnet.com/art-world/google-trends-top-museums-teamlab-ark-encounter-2411845

*4 ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถิติโลกด้านจำนวนผู้เข้าชม อ่านได้ที่::
https://prtimes.jp/main/html/rd/p/000000776.000007339.html

*5 Honichi Lab (2024) 'The Most Popular Tourist Spots in Tokyo Among Foreign Visitors in 2024: Asakusa Temple Ranks 3rd, and 1st Place is?'. Honichi Lab, 21 พฤษภาคม อ่านได้ที่:
https://honichi.com/news/2024/05/21/202405_inboundranking_tokyo/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54092083/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

แผนกประชาสัมพันธ์ teamLab Planets

E-MAIL: pr-info@planets.art
For interview enquiries: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.


บทวิเคราะห์การสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของ Midea Group ประจำปี 2024: การก้าวกระโดดเชิงกลยุทธ์ในด้านนวัตกรรมระดับโลกและการปรับให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่

Logo

ซาน ฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–10 กรกฎาคม 2024

Midea Group ซึ่งได้รับการยอมรับในฐานะองค์กรเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการสัญจรเพื่อการสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โดยงานสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และกิจกรรมการสรรหาบุคลากรนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งเป้าสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับโลก รวมถึงการทำนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ด้วย

Midea Group's 2024 1H Overseas Campus Recruitment Tour at Stanford University (Photo: Business Wire)

โครงการสัญจรเพื่อการสรรหาบุคลากรจากสถานศึกษาในต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของ Midea Group ประจำปี 2024 ที่มหาวิยาลัยสแตนฟอร์ด (ภาพ: Business Wire)

นี่คือบริษัทผู้เป็นเจ้าของผลงานหลากหลายรอบด้านทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงธุรกิจที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งทาง Midea Group ได้ตอกย้ำถึงความทุ่มเทในตลาดโลกผ่านโครงการสรรหาบุคลากรที่ครอบคลุมนี้ โดยทุกๆ ปี ประมาณ 15-20% ของการรับสมัครในสถานศึกษาของ Midea Group นั้นได้บุคลากรที่มีพื้นฐานการศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มผู้มีความสามารถระดับนานาชาติของบริษัทเป็นอย่างมาก

โดยการสรรหาบุคลากรในสถานศึกษาของ Midea ประจำปี 2024 มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

  • มีผู้สมัครเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน
  • มีการจัดงานกิจกรรมของมหาวิทยาลัยมากกว่า 4 ประเทศและมีกิจกรรมที่น่าสนใจกว่า 20 รายการ
  • การจัดประชุมแบบโต๊ะกลมกว่า 10 โต๊ะที่ออกแบบมาเพื่อผู้สมัครระดับปริญญาเอกโดยเฉพาะ

การประชุมเชิงกลยุทธ์ในเชิงลึก

  • ข้อมูลเชิงลึกในด้านความเป็นผู้นำ: เซสชั่นปาฐกถาพิเศษที่นำเสนอโดย CTO, CPO ของ Midea และผู้บริหารคนอื่นๆ โดยมีการนำเสนอมุมมองวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีและบทบาทสำคัญของ Midea
  • เข้าใจวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง: เน้นย้ำถึงปรัชญาของ Midea ที่ให้ความสำคัญกับผู้คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สวัสดิการ และความก้าวหน้าของบุคลากร
  • การจัดแสดงนวัตกรรม: นำเสนอเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาที่กว้างขวางของ Midea ซึ่งรวมถึงสถาบันวิจัยกลางที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนาระดับโลกอย่าง “2+4+N” ซึ่งจะทำให้ความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ Midea แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ประสบการณ์เชิงปฏิสัมพันธ์อันสมจริง

  • ช่วงถามและตอบคำถาม: การอภิปรายในทุกแง่มุมเรื่องค่านิยม โอกาส และความคาดหวังของ Midea
  • การอภิปรายแบบโต๊ะกลม: การสนทนาอย่างละเอียดเกี่ยวกับโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและพัฒนา การเติบโตทางอาชีพ และบทบาทในระดับโลก
  • แชร์ประสบการณ์จากอดีตผู้ร่วมงาน: เรื่องราวการเติบโตจากศิษย์เก่าที่ให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงเกี่ยวกับโอกาสของการทำงานใน Midea

เส้นทางที่ชัดเจนสู่การสรรหาบุคลากร:

  • ช่องทางพิเศษสำหรับนักศึกษาจากต่างประเทศ: นักศึกษาต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ถึงธันวาคม 2025 ล้วนเป็นผู้สมัครเป้าหมายของเราและได้รับอนุญาตให้ส่งประวัติสมัครงานทางออนไลน์ได้
  • กระบวนการที่ชัดเจน: ผู้สมัครจะได้รับคำแนะนำผ่านกระบวนการสมัคร การสัมภาษณ์ และการเสนองานที่โปร่งใส
  • โอกาสอันหลากหลาย: หน้าที่การงานที่รอบด้านทั้งการวิจัยและพัฒนา, AI, ไอที, วิศวกรรม และอีกมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Midea ในด้านชุดทักษะที่หลากหลายและความสนใจในวิชาชีพ
  • Global Outlook: Midea เปิดโอกาสให้ผู้สมัครได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยโอกาสที่จะได้ทำงานในเมืองกว่า 40 เมืองทั่วโลก

ความมุ่งมั่นอันไม่หยุดยั้งของ Midea

เส้นทางการสรรหาบุคลากรตั้งแต่สหราชอาณาจักรไปจนถึงเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ของ Midea ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการสร้างรากฐานที่เป็นนวัตกรรม ครอบคลุม และเปิดกว้าง นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญในด้านบุคลากรและการวิจัยและพัฒนา เพื่อการันตีว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54092129/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Diwei Zhang
zhangdw26@midea.com

แหล่งข้อมูล: Midea Group

Toshiba เปิดตัวสวิตช์มัลติเพล็กเซอร์ 2:1/สวิตช์ดีมัลติเพล็กเซอร์ 1:2 ที่รองรับสัญญาณดิฟเฟอเรนเชียลความเร็วสูง เช่น PCIe® 5.0 และ USB4®

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–11 กรกฎาคม 2024

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวสวิตช์มัลติเพล็กเซอร์/ดีมัลติเพล็กเซอร์ (Mux/De-Mux) “TDS4A212MX” และ “TDS4B212MX”  สําหรับสัญญาณดิฟเฟอเรนเชียลความเร็วสูง เช่น PCIe® 5.0, USB4® และ USB4® Ver.2 สําหรับพีซี อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์  อุปกรณ์พกพา ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถใช้เป็นสวิตช์ Mux 2 อินพุต 1 เอาต์พุต และสวิตช์ De-Mux 1 อินพุต 2 เอาต์พุต เริ่มจัดส่งตั้งแต่วันนี้

Toshiba:

Toshiba: สวิตช์มัลติเพล็กเซอร์/ดีมัลติเพล็กเซอร์ “TDS4A212MX” และ “TDS4B212MX” สําหรับสัญญาณดิฟเฟอเรนเชียลความเร็วสูง เช่น PCIe® 5.0, USB4® และ USB4® Ver.2 สําหรับพีซี อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ ฯลฯ (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้กระบวนการ SOI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Toshiba (TarfSOI™) เพื่อให้ได้แบนด์วิดท์ที่สูงมาก: แบนด์วิดท์ (ดิฟเฟอเรนเชียล) ชั้นนําของอุตสาหกรรม[1] -3-dB ที่ 27.5GHz (typ.) สําหรับ TDS4B212MX และ 26.2GHz (typ.) สําหรับ TDS4A212MX ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถใช้เป็นสวิตช์ Mux/De-Mux สําหรับสัญญาณดิฟเฟอเรนเชียลความเร็วสูง เช่น PCIe® 5.0, USB4® และ USB4® Ver.2

TDS4B212MX และ TDS4A212MX มีการกําหนดพินที่แตกต่างกัน TDS4B212MX ได้รับการปรับให้เหมาะสมสําหรับคุณลักษณะความถี่สูง TDS4A212MX มีการกําหนดพินโดยคำนึงถึงโครงร่างแผงวงจร

หมายเหตุ:

[1] สวิตช์ Mux 2:1/ De-Mux 1:2 ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2024 จากการสํารวจของ Toshiba

การใช้งาน

  • พีซี อุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์พกพา อุปกรณ์สวมใส่ ฯลฯ อินเทอร์เฟซที่รองรับ: PCIe® 5.0, PCIe® 4.0, PCIe® 3.0, CXL2.0, CXL1.0, USB4® Ver.2, USB4®, USB3.2 Gen2×1, USB3.2 Gen1×1, Thunderbolt™ 4, Thunderbolt™ 3, Thunderbolt™ 2, DisplayPort™ 2.0, DisplayPort™ 1.4, DisplayPort™ 1.3, DisplayPort™ 1.2

คุณสมบัติ

  • แบนด์วิดท์สูง -3-dB (ดิฟเฟอเรนเชียล) สําหรับสัญญาณดิฟเฟอเรนเชียลความเร็วสูง เช่น PCIe® 5.0 และ USB4®
    TDS4B212MX: แบนด์วิดท์ -3-dB (ดิฟเฟอเรนเชียล)=27.5GHz (typ.)

TDS4A212MX: แบนด์วิดท์ -3-dB (ดิฟเฟอเรนเชียล)=26.2GHz (typ.)

  • การใช้กระแสไฟต่ำ: Iope = 150μA (สูงสุด)
  • บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก: XQFN16 (2.4 มม.×1.6 มม. (typ.), t = 0.4 มม. (สูงสุด))

ข้อมูลจําเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TDS4B212MX

TDS4A212MX

บรรจุภัณฑ์

ชื่อ

XQFN16

ขนาด (มม.)

2.4×1.6 (typ.), t=0.4 (สูงสุด)

ระยะของการหมุน

(Ta=-40 ถึง 85°C)

แรงดันแหล่งจ่ายไฟ VCC (V)

1.6 ถึง 3.6

พินสัญญาณ แรงดันดิฟเฟอเรนเชียล (ยอดถึงยอด) VI/O(Diff) (V)

0 ถึง 1.8

พินสัญญาณ แรงดันโหมดทั่วไป VI/O(Com) (V)

0 ถึง 2.0

ลักษณะ DC

(Ta=-40 ถึง 85°C)

กระแสไฟสแตนด์บาย ISTB (μA)

สูงสุด

10

การใช้ในปัจจุบัน Iope (μA)

สูงสุด

150

ลักษณะความถี่สูง

(Ta=25°C)

แบนด์วิดท์ -3-dB (ดิฟเฟอเรนเชียล)

BW(Diff) (GHz)

Typ.

27.5

26.2

การสูญเสียพลังงานภายแบบดิฟเฟอเรนเชียล

DDIL (dB)

f=5.0GHz

Typ.  

-0.8

-0.9

f=8.0GHz

-0.9

-1.0

f=10.0GHz

-0.9

-1.1

f=12.8GHz

-1.2

-1.4

f=16.0GHz

-1.4

-1.9

การสูญเสียเนื่องจากการย้อนกลับแบบดิฟเฟอเรนเชียล

DDRL (dB)

f=5.0GHz

Typ.

-17

-15

f=8.0GHz

-15

-14

f=10.0GHz

-20

-17

f=12.8GHz

-17

-17

f=16.0GHz

-16

-18

การแยกสัญญาณ OFF แบบดิฟเฟอเรนเชียล

DDOIRR (dB)

f=5.0GHz

Typ.

-20

-20

f=8.0GHz

-17

-19

f=10.0GHz

-16

-17

f=12.8GHz

-17

-12

f=16.0GHz

-14

-11

สัญญาณแทรกข้ามแบบดิฟเฟอเรนเชียล

DDXT (เดซิเบล)

f=5.0GHz

Typ.  

-56

-36

f=8.0GHz

-48

-34

f=10.0GHz

-44

-32

f=12.8GHz

-39

-31

f=16.0GHz

-36

-30

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมใช้งาน

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TDS4A212MX
TDS4B212MX

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Toshiba’s General Purpose Logic ICs
General Purpose Logic ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้จัดจําหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่: TDS4A212MX
ซื้อออนไลน์
TDS4B212MX
ซื้อออนไลน์

*USB4® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ USB Implementers Forum

*Thunderbolt™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Intel Corporation หรือบริษัทในเครือ

*DisplayPort™ เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Video Electronics Standards Association ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

*PCIe® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

*TarfSOI™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices &; Storage Corporation

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนําด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนําเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงาน 19,400 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้า ในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน บริษัทตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสําหรับผู้คนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TDSC ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54091207/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลลูกค้า:
Power &; Small Signal Device Sales & Marketing Dept.II

Tel: +81-44-548-2215
ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices &; Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices &; Storage Corporation

NielsenIQ (NIQ) ปลดปล่อยพลังของประสบการณ์ผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกันด้วยข้อมูลกลุ่มผู้บริโภคและการวัดการขายปลีกที่รวมอยู่ในแพลตฟอร์ม NIQ Discover

Logo

  • ประสบการณ์แพลตฟอร์มส่วนหน้าและส่วนหลังบนคลาวด์แบบบูรณาการบน NIQ Discover มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นในการวัดผลการค้าปลีกและข้อมูลกลุ่มผู้บริโภค
  • ข้อมูลกลุ่มผู้บริโภคคุณภาพสูงที่นำมาใช้จริงผ่านเทคโนโลยีตามความต้องการ ขณะนี้อยู่ในตลาด NIQ ทั้ง 23 แห่งทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก แอฟริกาใต้ และละตินอเมริกา
  • แพลตฟอร์มที่ทันสมัยช่วยให้สามารถขยายขนาดตัวอย่างได้อย่างมีนัยสําคัญ – NIQ เพื่อเพิ่มขนาดตัวอย่างได้ 250,000 ทั่วทั้งอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และแปซิฟิก

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–10 กรกฎาคม 2024

NielsenIQ (NIQ) ประกาศเปิดตัวประสบการณ์ผู้ใช้แบบบูรณาการสําหรับลูกค้า และกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งจะทําให้มุมมองเต็มรูปแบบของการวัดผลการค้าปลีกและข้อมูลกลุ่มผู้บริโภคกลายเป็นจริงบนแพลตฟอร์มเดียว NIQ Discover ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า แพลตฟอร์ม Discover ใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมบนคลาวด์ใหม่และกลไกการผสานรวมซึ่งช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้นและความยืดหยุ่นของผู้ใช้

แพลตฟอร์ม Discover ของ NIQ สําหรับกลุ่มผู้บริโภค ได้รับการตั้งค่าให้เปลี่ยนภูมิทัศน์ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ด้วยโมเดลการวิเคราะห์ขั้นสูงและความสามารถที่ทำงานตลอดเวลา NIQ เป็นผู้นําในการนําเสนอข้อมูลเชิงลึกที่นําไปปฏิบัติได้ ขณะนี้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอินเทอร์เฟซที่ทันสมัยและใช้งานง่าย ซึ่งช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับแพลตฟอร์ม โดยเปิดโอกาสไม่รู้จบในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต “NIQ ได้ลงทุนอย่างมีนัยสําคัญในความสามารถของกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกของเราในปีที่ผ่านมา โดยปรับปรุงประสิทธิภาพ คุณภาพ และความสามารถในการใช้งานข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การเปิดตัวแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ทันสมัยนี้ เป็นหนึ่งในการปรับปรุงหลายอย่างที่เรากำลังนำเสนอให้กับกลุ่มผู้บริโภคของเราทั่วโลก ตอนนี้ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มข้อมูลพร้อมกับการวัดผลการค้าปลีก เพื่อมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกัน” Kris Ewing ประธาน Global Consumer Panel Services, NIQ กล่าว

ประโยชน์หลักของแพลตฟอร์ม NIQ Discover สําหรับ Consumer Panel ได้แก่:

  • ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้: ปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกตามความต้องการ ผ่านประสบการณ์การแสดงภาพที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับข้อมูลการวัดผลการค้าปลีก ช่วยให้เกิดขั้นตอนที่ราบรื่นและมีคําแนะนําที่ข้ามชุดข้อมูลเสริม
  • ความยืดหยุ่น: ลูกค้าสามารถสร้างการวิเคราะห์ของตนเองและรับผลลัพธ์ได้ทันที เปิดโลกแห่งความเป็นไปได้ในมิติต่างๆของกลุ่มคน ข้อเท็จจริง ผลิตภัณฑ์ ผู้ค้าปลีก ภูมิศาสตร์ ช่วงเวลา และข้อมูลประชากร
  • ข้อมูลตามความต้องการ: การเข้าถึงโมเดลการวิเคราะห์ขั้นสูง ช่วยยกระดับประสบการณ์การวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างราบรื่นภายในไม่กี่วินาที ลูกค้าสามารถเข้าถึงตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพที่สำคัญ เช่น การเจาะตลาด นอกเหนือจากโมเดลการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น Super Shifting, Key Item Ranking, Assortment Optimizer และ Portfolio Trial and Repeat
  • ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย Gen AI ผ่าน NIQ Ask Arthur: กลุ่มผู้บริโภคบน NIQ Discover ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จาก NIQ Ask Arthur ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย Gen AI ที่ก้าวล้ำ เพื่อช่วยในการค้นหาทั่วโลก ปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูล และอํานวยความสะดวกในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

Consumer Panel Services (CPS) ของ NIQ ให้มุมมองที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดของผู้บริโภคในปัจจุบันใน 23 ตลาด การปรับปรุงบางอย่างที่ NIQ กำลังดำเนินการกับกลุ่มผู้บริโภค ได้แก่ :

  • การขยาย ขนาดตัวอย่างกลุ่มไปทั่วโลก โดยมีความครอบคลุมและการนําเสนอที่กว้างขึ้นทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และแปซิฟิก
  • ข้อมูลที่ดีที่สุด: นําเสนอมุมมองเต็มรูปแบบของพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านช่องทางค้าปลีกและแบรนด์ต่างๆ ด้วยคุณภาพและความครอบคลุมที่อุตสาหกรรมไว้วางใจ
  • ขยายขีดความสามารถในการวิเคราะห์ ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคชั้นนําของอุตสาหกรรมที่นําข้อมูลเชิงลึกอันทรงพลังมาใช้ได้จริง เชื่อมต่อข้อมูลการวัดผลการค้าปลีกของ NIQ กลุ่มผู้บริโภค และข้อเสนอ NIQ อื่น ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของลูกค้า CPG และผู้ค้าปลีก

NIQ Discover สำหรับ CPS มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่เหนือชั้น มอบคุณภาพที่ดีที่สุด ครอบคลุมกว้างที่สุด และการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนที่สุด ทั้งหมดนี้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียว โดยกําหนดวิธีที่ลูกค้าสามารถควบคุมพลังการวิเคราะห์ของข้อมูล NIQ และยกระดับข้อมูลเชิงลึกให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เกี่ยวกับ NIQ

NielsenIQ (NIQ) เป็นบริษัทข่าวกรองผู้บริโภคชั้นนําของโลกที่ ซึ่งนำเสนอความเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคอบ่างครบถ้วนที่สุด และเผยให้เห็นเส้นทางใหม่สู่การเติบโต NIQ รวมกับ GfK ในปี 2023 โดยรวบรวมผู้นําในอุตสาหกรรมทั้งสองที่มีการเข้าถึงทั่วโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ ปัจจุบัน NIQ มีการดําเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP ด้วยการอ่านการค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด—นําเสนอด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย—NIQ มอบ Full View™

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

sweta.patra@nielseniq.com

ที่มา: NielsenIQ

กลุ่ม SCBX ผนึกกำลัง SambaNova เพิ่ม “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ บน Samba-1 พร้อมให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้งานได้แล้ววันนี้

Logo

เปาโล อัลโต, แคลิฟอเนีย –(BUSINESS WIRE)–10 กรกฎาคม 2024

กลุ่ม SCBX นำโดย เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) และเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศและคอมมูนิตี้ AI ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ AI-First Organization  ล่าสุด ผนึกกำลัง SambaNova Systems บริษัทผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ที่รวบรวมโมเดลที่เร็วที่สุด และ Chips ที่ทันสมัยที่สุด นำ “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) เปิดให้บริการบนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts (CoE) เพื่อให้นักพัฒนา AI ทั่วโลกสามารถใช้ต่อยอดและพัฒนาแอปพลิเคชันด้าน AI บนแพลตฟอร์ม Samba-1 ได้แล้ววันนี้

The power and scalability of Samba-1 is now enhanced with Typhoon, a series of Thai Large Language Models (LLMs) (Graphic: Business Wire)

เข้าถึงประสิทธิภาพอีกขั้นของโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ “ไต้ฝุ่น” ได้บน Samba-1 แล้ววันนี้ (กราฟิก: Business Wire)

นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Head of AI Strategy บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ (Thai Large Language Model) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Samba-1 และพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าของ SambaNova ทั่วโลก โดยเราเชื่อมั่นว่า Samba-1 จะช่วยให้โมเดล  “ไต้ฝุ่น” เข้าถึงนักพัฒนานวัตกรรมและแอปพลิเคชันด้าน AI ภาษาไทยได้มากขึ้น”

ล่าสุด “ไต้ฝุ่น” ได้เปิดตัวเวอร์ชัน Typhoon-1.5X ในขนาด 8B และ 70B พัฒนาต่อยอดจากโมเดล Llama3 โมเดลถูกปรับแต่งให้เหมาะสำหรับภาษาไทยโดยมีเทคนิคการฝึกอบรมเพื่อให้เข้าใจบริบทและวัฒนธรรมไทยให้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโมเดลชั้นนำอย่าง ChatGPT และ GPT-4 นับเป็นก้าวหน้าที่สำคัญของ NLP และ AI ภาษาไทย

“ไต้ฝุ่น” เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ Open Beta ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. Pretrained Model โมเดลข้อมูลด้านภาษาไทย ครอบคลุมคำศัพท์ บริบท หรือความแตกต่างทางวัฒนธรรม รวมถึงความรู้ทั่วไปที่เกิดขึ้นทั่วโลก โมเดลนี้เป็น Open Source ที่นักพัฒนาด้าน AI สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีเพื่อนำไปใช้พัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI   2. Instruction-tuned Model โมเดลที่ต่อยอดจาก Pretraining สามารถทำตามคำสั่งที่ป้อนเข้าไป เช่น การแปล การสรุปความ หรือการตอบคำถามได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านบริการ API

ด้าน นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Head of R&D and Innovation Lab บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “ไต้ฝุ่น” โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่มักเจอเมื่อใช้งานโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยชาวต่างชาติและถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น การให้ข้อมูลภาษาไทย แต่ไม่ถูกกับบริบทหรือวัฒนธรรมของคนไทย เป็นต้น อีกทั้งภาษาไทยถูกเก็บข้อมูลสำหรับใช้พัฒนาโมเดลภาษาไว้น้อยมาก (Low Resource Language)  เช่นเดียวกับภาษาอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เกิดปัญหาช่องว่างทางภาษา เราเชื่อว่าการนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” ไปอยู่บน Samba-1 จะช่วยให้นักพัฒนาด้าน AI ได้รับประสบการณ์ (User Experience) ที่ดีขึ้น พร้อมมีส่วนช่วยยกระดับนวัตกรรมด้าน AI และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรม AI ของไทย”

ขณะที่ มร.โรดริโก เหลียง (Rodrigo Liang) ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ SambaNova Systems กล่าวว่า “Samba-1 นำเสนอโมเดล Open Source ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI เข้าถึงโมเดล AI ที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในโลก โดยการเข้าร่วมของ “ไต้ฝุ่น” ครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเรา อีกทั้งเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำ “ไต้ฝุ่น” เข้าสู่ Samba-1 ร่วมกับโมเดลชั้นนำระดับโลก” 

“นักพัฒนาด้าน AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมด้านการเงินการธนาคารจะมีแพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ของพวกเขา การนำโมเดล “ไต้ฝุ่น” มาอยู่บนแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของโมเดล “ไต้ฝุ่น” และลดต้นทุนการใช้งานให้น้อยลงกว่าที่เคย” มร.มาร์แชล ชอย (Marshall Choy) SVP Product ของ SambaNova Systems กล่าวเสริม

“ไต้ฝุ่น” ได้เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Samba-1 Composition of Experts ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ SambaNova ที่รวบรวมโมเดลสำหรับพัฒนานวัตกรรมด้าน AI ที่หลากหลายและสามารถแนะนำโมเดลเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่ามีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการผู้ใช้งาน นอกจากนี้ “ไต้ฝุ่น” ทำงานบนชิป SN40L ของ SambaNova ด้วยหน่วยความจำ Dataflow 3 ชั้น ซึ่งช่วยให้การประมวลผลข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

#############

เกี่ยวกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX)

SCBX เป็นยานแม่ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน โดยมี 12 บริษัทภายใต้กลุ่มฯ ครอบคลุม 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจธนาคาร (Banking Business) ธุรกิจบริการทางการเงินดิจิทัลและสินเชื่อเพื่อรายย่อย (Consumer and Digital Finance Business) ธุรกิจแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี (Platform and Technology Business) รวมถึง Climate Technology มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่การเป็นกลุ่มเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาคที่น่าชื่นชม ดำเนินธุรกิจด้วยความคล่องตัว รอบคอบในการกำกับดูแลและบริหารความเสี่ยง ตลอดจนมีขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้อย่างทัดเทียม

เกี่ยวกับบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X)

บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เป็นบริษัท ในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ภายใต้ภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด เรามุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจด้าน Disruptive Technology: Web3 (Blockchain, Digital Assets, Web3 และ Metaverse), Deep Tech AI/ML และ FinTech ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://scb10x.com/  

เกี่ยวกับ SambaNova Systems

SambaNova เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงโมเดลด้าน AI ที่ล้ำสมัยได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถแนะนำโมเดลให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้พัฒนา SambaNova Systems มีสำนักงานใหญ่ในเมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จาก Sun/Oracle และ Stanford University บริษัทมีผู้ร่วมลงทุน ได้แก่ SoftBank Vision Fund 2, กองทุนและบัญชีที่จัดการโดย BlackRock, Intel Capital, GV, Walden International, Temasek, GIC, Redline Capital, Atlantic Bridge Ventures, Celesta และอื่นๆ อีกมากมาย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ info@sambanova.ai   หรือ ติดตาม SambaNova Systems บน Linkedin และบน X

เกี่ยวกับโมเดล “ไต้ฝุ่น” (Typhoon Thai LLM)

“ไต้ฝุ่น” (Typhoon) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ (Large Language Model optimized for Thai) ซึ่งนับเป็นโมเดลภาษาไทยขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 และ GPT-4 ในภาษาไทย โดยวัดจาก Benchmark ที่รวบรวมและจัดเตรียมมาจากข้อสอบภาษาไทยความยากเทียบเท่าข้อสอบมัธยมปลายและข้อสอบมาตรฐานอื่นๆ ในประเทศไทย โดย “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางภาษาที่โมเดลส่วนใหญ่ในปัจจุบันถูกฝึกฝนเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึงข้อจำกัดด้านทรัพยากรของภาษาไทยที่ไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ (Low Resource Language) ผู้สนใจและนักพัฒนาทดลองสามารถดาวน์โหลด Typhoon Model เพื่อต่อยอดในการพัฒนาแอปพลิเคชันและนวัตกรรมด้าน AI ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://opentyphoon.ai/

คำกล่าวอ้าง: 

  • การตอบสนองที่สร้างโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) นี้สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่ได้ถูกประมวลขึ้นเพื่อสะท้อนถึงมุมมองหรือตำแหน่งขององค์กรที่กำลังพัฒนา บริษัทในเครือ หรือพนักงานคนใดคนหนึ่ง 
  • การตอบสนองที่สร้างโดย AI เหล่านี้ไม่ได้เป็นคำตอบจากตัวแทนขององค์กรหนึ่งองค์กรใด องค์กรไม่รับรอง สนับสนุน ในการนำความคิดเห็น  หรือข้อความที่สร้างโดย AI นี้ ไปใช้โดยตรง
  • ความคิดเห็นหรือข้อความที่ถูกประมวลจาก AI นี้ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะใส่ร้ายศาสนา กลุ่มชาติพันธุ์ สโมสร องค์กร บริษัท บุคคล ใครก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการนำคำตอบสนองของ AI นี้ไปใช้

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54092674/en

ติดต่อ

Virginia Jamieson
SambaNova Systems
(650) 279-8619
virginia.jamieson@sambanova.ai

Thanandorn Panichnok
Thanandorn@scb10x.com
+66869195552

Kolmar Korea ร่วมมือกับ Amazon เพื่อสนับสนุนการขยายบริษัท K-beauty ไปทั่วโลก

Logo

– จัดงาน “K-Beauty Seller Day” ร่วมกับบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม K-Beauty ทั่วโลก

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2024

Kolmar Korea (KRX: 161890) ผนึกกําลังกับ Amazon ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนําของโลก เพื่อสนับสนุนแบรนด์ K-beauty ในการเข้าสู่ตลาดโลกอย่างประสบความสำเร็จ

Sang-hyun Yoon, Vice President of Kolmar Group, delivers welcoming remark at the Amazon K-Beauty Conference Seller Day (Image: Kolmar Korea)

Sang-hyun Yoon รองประธานของ Kolmar Group กล่าวต้อนรับในงาน Amazon K-Beauty Conference Seller Day (ภาพ: Kolmar Korea)

Kolmar Korea ประกาศว่าได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน 'Amazon K-Beauty Conference Seller Day' กับ Amazon ในวันที่ 27 มิถุนายน ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลในกรุงโซล

งานนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากแบรนด์ความงามของเกาหลี ตลอดจนถึงผู้ที่มาจากภาคการจัดจําหน่ายและการผลิตทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ผู้เข้าร่วมงานที่สําคัญ ได้แก่ Sang-hyun Yoon รองประธาน Kolmar Group; Hyun-gyu Choi ซีอีโอของ Kolmar Korea; Jim Yang รองประธานบริหารของ Amazon Global Selling Asia Pacific (APAC); และ Yuki Suita หัวหน้าฝ่ายธุรกิจความงามสําหรับผู้บริโภคของ Amazon Japan

ในสุนทรพจน์ต้อนรับ Sang-hyun Yoon ได้อธิบายวัตถุประสงค์ของงาน เขากล่าวว่า “งานนี้จัดโดย Kolmar และ Amazon เป็นมากกว่าความร่วมมือทางธุรกิจ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่นวัตกรรมและคุณค่าของ K-beauty ไปทั่วโลก เราหวังว่างานนี้จะเป็นรากฐานที่สําคัญในการสํารวจโอกาสระดับโลกสําหรับ K-beauty และแบ่งปันกลยุทธ์โดยละเอียดสําหรับการนําไปใช้”

งานนี้เกิดขึ้นเมื่อ K-beauty กําลังได้รับความนิยมอย่างมากใน Amazon และทั้งสองบริษัทต้องการสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดโลกของบริษัทความงามของเกาหลีอย่างจริงจัง

K-beauty ได้รับความนิยมอย่างมากจนยอดขายผลิตภัณฑ์ K-beauty บนร้านค้าทั่วโลกของ Amazon เพิ่มขึ้นมากกว่า 75% ในปีที่แล้ว Kolmar Korea เป็นผู้นําเทรนด์นี้ด้วยการทําสัญญาใหม่กับลูกค้า 253 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์อินดี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 48.7% จากปีก่อน ทั้งสองบริษัทวางแผนที่จะค้นหาแบรนด์ที่โดดเด่นซึ่งขับเคลื่อนแนวโน้มของตลาดโลกด้วยแนวคิดที่น่าสนใจและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม

ในงาน Kolmar Korea ได้จัดบูธขนาดใหญ่ที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การแต่งหน้า ครีมกันแดด และแพ็คเกจเครื่องสําอาง พวกเขายังให้คําปรึกษาเฉพาะด้านสําหรับธุรกิจเครื่องสําอางทั่วโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Sang-Keun Han รองผู้อํานวยการ Kolmar Korea R&D Complex ได้บรรยายในหัวข้อ 'Deeply Grounded Confidence: The Competitiveness of Korean Cosmetics'

ตัวแทนจาก Kolmar Korea กล่าวว่า “งานนี้มีความสําคัญเนื่องจากเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง Kolmar Korea ซึ่งเป็นบริษัท ODM เครื่องสําอางระดับโลกที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ K-beauty และ Amazon ซึ่งเป็น บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก Kolmar และ Amazon จะติดตามการเติบโตร่วมกันโดยนําเสนอเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดเพื่อสนับสนุนความสำเร็จของลูกค้าของเราในการเข้าสู่ตลาดโลก”

วิดีโอไฮไลท์ของงาน: https://www.youtube.com/watch?v=sbqXL8fBgpM

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54091414/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Kolmar Holdings

Jang Woo Lee
jay.lee@kolmar.co.kr

ที่มา: Kolmar Holdings

Xsolla เป็นผู้นำในงาน FORWARD NIGHT JAPAN 2024 รวบรวมผู้นำด้านเกมและการตลาดระดับโลก

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2024

Xsolla บริษัทพาณิชย์วิดีโอเกมระดับโลก ประกาศจัดงานสัมมนาและเครือข่ายครั้งแรกในชื่อ FORWARD NIGHT JAPAN 2024 งานนี้จะรวมผู้นำด้านเกมและการตลาดระดับโลกเพื่อสำรวจข้อมูลล่าสุดและโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเกม FORWARD NIGHT JAPAN 2024 จะจัดขึ้นในวันที่ 16 กรกฎาคม (วันอังคาร) ที่โตเกียว และวันที่ 18 กรกฎาคม (วันพฤหัสบดี) ที่เกียวโต

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

งานนี้สัญญาว่าจะมีเซสชันที่น่าสนใจนำโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะแบ่งปันมุมมองใหม่ๆ และแนวคิดที่สร้างสรรค์เพื่อท้าทายและกระตุ้นความคิดของผู้เข้าร่วม เซสชันหลักจะครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตและพัฒนาของอุตสาหกรรมเกม

ภาพรวมอีเวนต์:

โตเกียว:

  • วันที่: วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2024
  • เวลา: 16:00 – 19:40 น. (เริ่มลงทะเบียน 15:00 น.)
  • สถานที่: ที่ Harajuku Hall, 1-14-30 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

เกียวโต:

  • วันที่: วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2024
  • เวลา: 18:00 – 21:00 น. (เริ่มลงทะเบียน 17:00 น.)
  • สถานที่: HOTEL ANTEROOM KYOTO, 7 Higashi-Kujo Akita-cho, Minami-ku, Kyoto

วิทยากรและหัวข้อที่น่าสนใจ:

Xsolla: 「Merchant of Record(MOR)について Xsollaによるグローバル進出支援」 (“Merchant of Record (MOR) และการสนับสนุนการขยายตัวทั่วโลกโดย Xsolla”)

Appier: 「収益へ貢献するスマホゲームのAIマーケティングとは」 (“การตลาดด้วย AI สำหรับเกมมือถือที่ช่วยเพิ่มรายได้”)

Nazara: 「อินเดีย: ตลาดที่จะเกิดใหม่ถัดไป」

Alibaba Cloud: 「ゲーム業界向け最新技術とパートナーエコシステム」 (“เทคโนโลยีล่าสุดและระบบนิเวศของพันธมิตรสำหรับอุตสาหกรรมเกม”)

Cloud Navi: 「アリババクラウドのことなら全てお任せ」 (“เรื่องของ Alibaba Cloud ทั้งหมด”)

Mr.GAMEHIT: 「ゲームプロモーションで勝ちクリエイティブを量産する成功法則」 (“หลักการความสำเร็จสำหรับการสร้างโปรโมชันเกมที่ชนะ”)

เซสชันเหล่านี้จะเน้นจุดแข็งของบริษัทที่เข้าร่วมและการมีส่วนร่วมของพวกเขาในอุตสาหกรรมเกม งานนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดเกมในประเทศญี่ปุ่นโดยการแก้ไขปัญหาสำคัญและโอกาสต่าง ๆ

อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญกับการเติบโตที่สำคัญ โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจสูงถึงประมาณ 100 ล้านล้านเยนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเผชิญกับความท้าทายทางการตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างรายได้จากภาษีการขายในท้องถิ่นในประเทศต่างๆ FORWARD NIGHT JAPAN 2024 มีเป้าหมายที่จะจัดการกับความท้าทายเหล่านี้โดยนำผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและแนวทางแก้ไข

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทด้านการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการอันมีประสิทธิภาพและทรงพลังซึ่งออกแบบมาเพื่ออุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ทาง Xsolla ได้ช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดจำนวนหลายพันรายในการระดมทุน ทำการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของตนเองทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ภารกิจของ Xsolla ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนที่มีอยู่แต่เดิมจากการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานในลอนดอน, เบอร์ลิน, โซล, ปักกิ่ง, กัวลาลัมเปอร์, ราลี, โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสนับสนุนบริษัทเกมหลักๆ อย่าง Valve, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54091482/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสื่อ
Derrick Stembridge
Global Director of Public Relations, Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

กราฟิก: Xsolla

Motorola Solutions ได้ซื้อกิจการของ Noggin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การจัดการเหตุการณ์สำคัญ (CEM) ระดับโลก

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2024

Motorola Solutions (NYSE: MSI) ได้ซื้อกิจการของ Noggin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจในรูปแบบคลาวด์ (cloud-based business continuity planning), ความทนทานในการดำเนินการ (operational resilience) และการจัดการเหตุการณ์สำคัญ (critical event management – CEM) ทั่วโลก บริษัทนี้มีที่ตั้งหลักที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และมีลูกค้าทั่วโลก

Noggin’s software helps enterprises and critical infrastructure anticipate, prepare for and efficiently respond to incidents. Credit: Motorola Solutions

ซอฟต์แวร์ของ Noggin ช่วยให้องค์กรและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสามารถทำนาย จัดเตรียม และตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครดิต: Motorola Solutions

ซอฟต์แวร์ของ Noggin ช่วยให้องค์กรและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสามารถคาดการณ์ เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มบูรณาการของบริษัทนำเสนอขั้นตอนการทำงานและรายการตรวจสอบที่ยืดหยุ่น แผนที่ในตัว และแดชบอร์ดการรับรู้สถานการณ์ เพื่อช่วยปรับปรุงการจัดการเหตุการณ์และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจ ด้วยอินเทอร์เฟซเดียวที่ใช้งานง่าย ซอฟต์แวร์ของ Noggin ช่วยให้ทีมตอบสนองสามารถสื่อสารได้โดยตรง ปฏิบัติตามขั้นตอนที่เป็นหนึ่งเดียว และดูภาพการปฏิบัติงานเดียวกันในระหว่างเหตุการณ์หรือเหตุฉุกเฉินในชีวิตประจำวัน

“การลงทุนด้านเทคโนโลยีของเราเพื่อเชื่อมโยงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือกับผู้ที่สามารถช่วยได้นั้นมีความสำคัญมากกว่าที่เคย” Greg Brown ประธานและซีอีโอของ Motorola Solutions กล่าว “Noggin ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและความสามารถในการจัดการเหตุการณ์ซึ่งจำเป็นในขณะที่อุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกยังคงเผชิญกับภัยคุกคามทั้งในด้านจำนวนและความซับซ้อน”

Noggin เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันการประสานงานฉุกเฉินของ Motorola Solutions โดยเพิ่มการวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน และซอฟต์แวร์ CEM ที่ช่วยให้การรักษาความปลอดภัยขององค์กรเข้าถึงและดำเนินการได้มากขึ้น การเข้าซื้อกิจการ Noggin เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของ Motorola Solutions ในการเชื่อมโยงหน่วยงานด้านความปลอดภัยสาธารณะและองค์กรต่างๆ ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแนวทางเชิงรุกด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย

“ด้วยความร่วมมือกับ Motorola Solutions เราจะยังคงช่วยให้องค์กรต่างๆ ตอบสนองและจัดการเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์และการหยุดชะงักทุกประเภทได้อย่างรวดเร็ว” James Boddam-Whetham ซีอีโอของ Noggin กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นกับก้าวใหม่ในการเดินทางของเราซึ่งจะทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นของเราให้กับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น”

เงื่อนไขของการทำธุรกรรมไม่ได้รับการเปิดเผย

เกี่ยวกับ Motorola Solutions

Motorola Solutions กำลังแก้ไขปัญหาเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น เราสร้างและเชื่อมโยงเทคโนโลยีเพื่อช่วยปกป้องผู้คน ทรัพย์สิน และสถานที่ โซลูชันของเราทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านความปลอดภัยสาธารณะและองค์กรต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแนวทางเชิงรุกด้านความปลอดภัย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราแก้ไขปัญหาเพื่อชุมชนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โรงเรียนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น โรงพยาบาลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ธุรกิจที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้นทุกที่ ที่ www.motorolasolutions.com

แถลงการณ์คาดการณ์อนาคตจาก Motorola Solutions

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มี “แถลงการณ์คาดการณ์อนาคต” ตามความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางที่บังคับใช้ ข้อความเหล่านี้จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 และโดยทั่วไปประกอบด้วยคำต่างๆ เช่น “เชื่อ” “คาดหวัง” “ตั้งใจ” “คาดการณ์” “ประมาณการ” และสำนวนที่คล้ายกัน บริษัทไม่สามารถรับประกันได้ว่าผลลัพธ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือในอนาคตที่กล่าวถึงในแถลงการณ์เหล่านี้จะบรรลุผลสำเร็จ ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ แสดงถึงความเห็นของบริษัท ณ วันนี้เท่านั้น และไม่ควรใช้อ้างอิงเพื่อเป็นตัวแทนของความเห็นของบริษัท ณ วันที่ต่อ ๆ ไป ผู้อ่านควรระวังว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์หรือเหตุการณ์จริงของบริษัทที่กล่าวถึงในข้อความเหล่านี้แตกต่างอย่างมากจากข้อความที่มีอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความสามารถของ Motorola Solutions ในการรวมผลิตภัณฑ์และบริการเข้ากับพอร์ตโฟลิโอและข้อเสนอแก่ลูกค้า Motorola Solutions ขอเตือนผู้อ่านว่าความเสี่ยงและความไม่แน่นอนด้านล่าง รวมถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในส่วนที่ 1 ข้อ 1A ของรายงานประจำปี 2023 ของ Motorola Solutions ในแบบฟอร์ม 10-K และในเอกสารอื่นๆ ที่ยื่นต่อ SEC สามารถอ่านได้ฟรีบนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov และบนเว็บไซต์ของ Motorola Solutions ที่ www.motorolasolutions.com อาจทำให้ผลลัพธ์หรือเหตุการณ์ที่แท้จริงของ Motorola Solutions ที่กล่าวถึงในแถลงการณ์เหล่านี้แตกต่างอย่างมากจากที่ประมาณการหรือคาดการณ์ไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมได้โดย Motorola Solutions และปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อแถลงการณ์คาดการณ์อนาคต รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความสามารถของ Motorola Solutions ในการบูรณาการและดำเนินการ Noggin ได้สำเร็จ Motorola Solutions ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์อนาคตหรือปัจจัยเสี่ยงต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรืออื่นๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54090132/en 

ติดต่อ

สื่อติดต่อ
Damien Batey
Motorola Solutions
damien.batey@motorolasolutions.com
+61 428 036 806

นักลงทุนติดต่อ
Tim Yocum
Motorola Solutions
tim.yocum@motorolasolutions.com
+1 847-576-6899

แหล่งข้อมูล: Motorola Solutions

Tabreed Eyes ขยายสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการสนับสนุนการประชุม Asia Urban Energy Assembly ครั้งที่ 3

Logo

  • บริษัทพร้อมนำเสนอประสบการณ์ชั้นนำระดับโลกสู่สมาชิกสภานิติบัญญัติและนักพัฒนาในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและการปรับขนาดให้มีการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น

ABU DHABI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–09 กรกฎาคม 2024

Tabreed บริษัทชั้นนำด้านระบบทำความเย็นของโลก ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในงาน Asia Urban Energy Assembly ครั้งที่ 3 ซึ่งมีการจัดขึ้นในกรุงเทพ ประเทศไทย ด้วยแนวโน้มเชิงกลยุทธ์การตลาดที่มีความเป็นไปได้สูงสำหรับระบบทำความเย็นในภูมิภาคอย่างยั่งยืน Tabreed มองหาโอกาสใหม่ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีผลกระทบทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสังคมเพิ่มขึ้นจากบรรยากาศอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปของโลก

Chief Executive Officer, Khalid Al Marzooqi (Photo: AETOSWire)

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร, Khalid Al Marzooqi (ภาพถ่าย: AETOSWire)

สมาชิกในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของ Tabreed แสดงความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการร่วมมือกับนักพัฒนา สถาปนิก นักวางแผน วิศวกร ที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตรง โดยมีการแสดงกรณีศึกษาที่น่าสนใจและเป็นส่วนสำคัญสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนสำหรับระบบทำความเย็นในภูมิภาค เมื่อมีการวางแผนสร้างเมืองอัจฉริยะใหม่ๆ ขึ้น รัฐบาลและนักพัฒนาที่รับผิดชอบโครงการจะคำนึงถึงเทคโนโลยีที่รองรับอนาคต โดยสามารถลดการใช้พลังงานด้วยบริการที่เชื่อถือได้และมีความยั่งยืน ซึ่งมีส่วนเสริมให้ชุมชนและอุตสาหกรรมเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

“ระบบการทำความเย็นไม่ถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยอีกต่อไป” Khalid Al Marzooqi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tabreed กล่าว “ปัจจุบันนี้ ระบบการทำความเย็นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตและมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต่อประเทศและเขตแดนต่างๆ มากขึ้น จึงมีความจำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพ ความสะดวกสบาย และความปรองดองในสังคม และ Tabreed เป็นผู้ส่งเสริมสิ่งที่สำคัญเหล่านี้มานานแล้วกว่ากึ่งศตวรรษ”

ระบบการทำความเย็นในภูมิภาคจะมีการจ่ายน้ำเย็นให้กับภาคส่วนพัฒนาอุตสาหกรรม ธุรกิจ และที่อยู่อาศัยจากโรงงานส่วนกลางผ่านเครือข่ายท่อหุ้มฉนวนใต้ดิน ซึ่งจากนั้น จะมีการนำไปใช้ในระบบปรับอากาศของอาคาร ก่อนที่จะมีการส่งกลับไปยังโรงงานเพื่อใช้ในระบบการทำความเย็นในวงจรอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบันทึกประโยชน์ต่างๆ ในเอกสารเป็นอย่างดี รวมถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลดลง 50% เมื่อเทียบกับระบบการทำความเย็นแบบดั้งเดิม รวมถึงการลดมลภาวะทางเสียงและทัศนียภาพ นักพัฒนาก็สามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนเป็นศูนย์และเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยเช่นกัน

“ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น” Al Marzooqi กล่าวสรุป “ในแต่ปี ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง การดำเนินงานของ Tabreed จึงสามารถป้องกันการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้หลายล้านตัน นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน ทุกที่ และเรากำลังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้หลายประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ได้”

เกี่ยวกับ Tabreed

Tabreed ให้บริการระบบทำความเย็นที่จำเป็นและยั่งยืนแก่ภูมิภาคเพื่อการพัฒนาอย่างมีเอกลักษณ์สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชีย โดยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมทั่วโลกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1998 มีการจดทะเบียนในตลาดการเงินดูไบ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ด้วยการดำเนินงานที่กว้างขวางระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยมีความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพระดับชั้นนำในอุตสาหกรรม มีโปรแกรมการวิจัยและการพัฒนา และมีการลงทุนในเทคโนโลยี AI ทำให้ Tabreed เป็นผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมระบบทำความเย็นในภูมิภาค นอกเหนือจากระบบทำความเย็นในภูมิภาคแล้ว บริการด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของ Tabreed ยังขยายผลต่อความยั่งยืนของบริษัท ช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถปรับปรุงการใช้พลังงานโดยองค์รวม ในทางกลับกัน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นกลางอีกด้วย

แหล่งข้อมูลAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54091062/en

ติดต่อ

Samer Al Tawil
ผู้จัดการอาวุโส, Marketing and Engagement
saltawil@tabreed.ae

Kevin Hackett
รองผู้จัดการ, External Communications
khackett@tabreed.ae

แหล่งข้อมูล: Tabreed