Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls “รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล”

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศให้ Forest of Hope เป็นภาพยนตร์คัดสรรสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ และพูดถึงผลจากการปลูกต้นไม้

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. องค์กรผู้อุทิศตัวระดับโลกเพื่อความยั่งยืน ยินดีประกาศว่า Forest of Hope สารคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซึ่งเน้นประเด็นของการต่อสู้ปกป้องผืนป่า และบอกเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์ รวมถึงการสนับสนุนบทบาทของสตรี ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของสี่เทศกาลภาพยนตร์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

ทีมผู้หญิงล้วนเป็นผู้เขียนบท กำกับ และผลิต Forest of Hope รวมถึงจัดฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ La Femme International ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เฉลิมฉลอง สนับสนุน และผลักดันการสร้างเนื้อหาโดยโปรดิวเซอร์ นักเขียน และผู้กำกับหญิงจากทั่วโลก ภาพยนตร์นี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ North Dakota Environmental Rights เทศกาลภาพยนตร์ Hot Springs International Women และเทศกาลภาพยนตร์ Green Film ด้วย

Mary Kay ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกับ The Nature Conservancy ในการขับเน้นเรื่องราวของ Angelica ผู้นำของ Mujeres Unidas Para La Conservacion de Laguna de Sanchez และกลุ่มของนักธุรกิจหญิงที่ต่อสู้กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบของเมืองมอนเตอเรย์

Forest of Hope พาผู้ชมไปยังเมืองในหุบเขาเล็กใกล้เมืองมอนเตอเรย์ที่แวดล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติ Cumbres สถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ “ปอดของภูมิภาค” เป็นสถานที่ที่ไฟและการตัดไม้ทำลายผืนป่าไป 30% รวมถึงความท้าทายด้านนิเวศอื่น ๆ เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ปัญหาอื่นทั่วไปที่เจอในพื้นที่นี้คือ การไหลของน้ำฝนที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปศุสัตว์ท้องถิ่น และพลเมืองในชุมชน การเสื่อมสภาพของธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอุทิศตนในการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และผลิตพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองในสถานอนุบาล เพื่อรักษาความยืดหยุนทางธรรมชาติของพื้นที่ไว้

การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูป่าเป็นทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศ คุณภาพและปริมาณน้ำ สุขภาพความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์เอง จนถึงปัจจุบัน Mary Kay ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก งานอนุรักษ์ของ Mary Kay ต่อต้นไม้เป็นสิ่งที่วัดได้และสร้างผลลัพธ์ที่ยืนยาว

รายงานสถานการณ์ต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay เน้นให้เห็นประโยชน์ที่สั่งสมสามอย่างในการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้องรักษา และการจัดการต้นไม้ให้ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศเข้าไปในลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • การวัดปริมาณ CO2 แบบตันที่แยกออกมาเดี่ยว ๆ จนถึงปัจจุบัน: 1,115,522
  • น้ำ: ต้นไม้และผืนป่ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้ที่มีสุขภาพดีและผืนป่าช่วยลดการกัดกร่อนดิน กรองน้ำฝน และการทดน้ำเพื่อการเกษตร ยกระดับการซึมของฝน และลดการไหลของน้ำบนผิวดิน
    • ปริมาณแกลลอนที่เลี่ยงการไหลของน้ำ: 138,014,028 (เทียบเท่ากับ 1,568,341 คนที่มีน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังลดอากาศเป็นพิษด้วยการลดอุณหภูมิอากาศ ทั้งการปล่อยน้ำเข้าสู่บรรยากาศ และการกรองอนุภาค
    • ปริมาณตันของมลพิษทางอากาศที่ถูกกำจัด: 6,123

หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของคำมั่นสัญญาต่อความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดดูที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอันจำเป็นต่อชีวิตต่าง ๆ เราสร้างโซลูชันที่ใช้ได้จริงและเป็นนวัตกรรมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือความท้าทายที่ยากที่สุดของโลกเรา เพื่อให้ธรรมชาติและคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ การอนุรักษ์ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยมอบอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยทำให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เราปฏิบัติงานใน 79 ประเทศ และเขตต่าง ๆ โดยใช้วิธีร่วมมือซึ่งทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ริเริ่มนำร่อง เธอก่อตั้งบริษัทความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ช่วยให้ชีวิตผู้หญิงดียิ่งขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลกลายเป็นบริษัทหลายพันล้านดอลลาร์ มีสมาชิกฝ่ายการขายอิสระในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทที่พัฒนาความเป็นนักธุรกิจ Mary Kay ตั้งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม

Mary Kay อุทิศตัวในการลงทุนกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอางสี ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องหอมอันล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการยกระดับชีวิตวันนี้เพื่อความยั่งยืนในวันข้างหน้า จับมือร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเน้นที่การสนับสนุนความเป็นเลิศด้านธุรกิจ การสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในบ้าน ช่วยให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เดินตามความฝัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูข้อมูลต้นฉบับได้บน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




จุดประกายความหลงใหลในกีฬา! เข้าร่วมการแข่งขัน VOOPOO Infinity Contest ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และรับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

Logo

เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

ในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬา ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว บริษัท VOOPOO แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งมั่นในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและนวัตกรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณแห่งกีฬาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaper)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ บริษัท VOOPOO ได้ให้รูปลักษณ์เฉพาะตัวแก่ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษอย่าง ARGUS Series Limited Edition, ARGUS MT, ARGUS XT, ARGUS GT II, ARGUS POD และ ARGUS PRO แคมเปญ VOOPOO Infinity Go Go Go ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เปิดตัว

DIY ผลงานศิลปะของคุณเอง พร้อมกับสนับสนุนทีมโปรดของคุณ และชิงเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน VOOPOO จะเปิดตัวขั้นตอนที่สองอย่างเป็นทางการของ VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในหน้ากิจกรรมที่ได้เผยแพร่นั้น เรารู้สึกประหลาดใจที่พบว่า VOOPOO ได้ซ่อนสิทธิประโยชน์มหาศาลเอาไว้อันได้แก่ เงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เราพบว่านี่จะเป็นการแข่งขัน DIY ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ DIY ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง มาที่หน้ากิจกรรม VOOPOO Infinity Go Go Go แล้วตั้งตาคอยการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ ใครกันที่จะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 5,000 ดอลลาร์นี้ไป

VOOPOO รวมเอาความชื่นชอบด้านกีฬาอย่าง “นวัตกรรม” “ความเพียร” และ “การผสมผสาน” ซึ่งตรงกับค่านิยมของ VOOPOO เอาไว้ในกิจกรรมนี้ ส่งมอบให้กับผู้ใช้และผู้ที่ชื่นชอบ แม้กระทั่งอุตสาหกรรมแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานหนึ่งของการพัฒนา และนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดจะเปลี่ยนอนาคตได้ ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบของการแข่งขันและเงื่อนไขการให้รางวัล โปรดดูที่หน้ากิจกรรมของ VOOPOO Infinity Go Go Go ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น ในฐานะองค์กรไฮเทคที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต รวมถึงการสร้างแบรนด์ด้วย VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด ได้แก่ ARGUS, DRAG, VINCI และ V ปัจจุบัน VOOPOO มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

เว็บไซต์: https://www.voopoo.com/

Instagram: https://www.instagram.com/voopootech_official/

Facebook: https://www.facebook.com/voopooglobal

Youtube: https://www.youtube.com/c/VOOPOO

Tiktok: https://www.tiktok.com/@voopoofans

ร้านค้า: https://shop.voopoo.com/

ข้อมูลติดต่อ

Nical Zhang
ผู้จัดการฝ่าย PR
Nical.zhang@voopootech.com

แหล่งที่มา: VOOPOO

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Midea VRF เข้าสู่ระดับโลก เปิดตัวรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง

Logo

JAKARTA, Indonesia–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

การประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลีนำเสนอผลการก่อสร้างล่าสุดของรถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระยะทางยาวทั้งหมด 142 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุดตามการออกแบบอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อินโดนีเซียเข้าสู่ “ยุครถไฟความเร็วสูง ” Midea นำเสนอโซลูชัน HVAC ระดับมืออาชีพ และการบริการที่เข้าถึงผู้ใช้มากที่สุด พร้อมนำเสนอ “Midea Coolness” สำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ด้วย 126 ODU และ 705 IDU จาก Midea VC Pro

Midea VC Pro VRFs have been used in Jakarta-Bandung High-Speed Railway (HSR), Dubai Expo and many other overseas projects. (Graphic: Business Wire)

มีการนำ Midea VC Pro VRFs มาใช้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) จาการ์ตา-บันดุงในงาน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการ (กราฟิก: Business Wire)

โครงการ HVAC เป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง โดยรถไฟจากจาการ์ตา-บันดุงตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อนของหมู่เกาะชวา และได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแถบเส้นศูนย์สูตร ผู้ปฏิบัติงานของ HSR จึงต้องการระบบเครื่องปรับอากาศส่วนกลางที่เชื่อถือได้และมีความเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงและสภาพการทำงานที่มีความชื้นสูงโดยไม่มีการหยุดทำงาน และสามารถคงระดับอุณหภูมิของพื้นที่อาคาร HSR ให้คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม HVAC ระดับโลก Midea Building Technologies นำเสนอโซลูชันระบบเครื่องปรับอากาศมืออาชีพสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนด้วยชิปของเหลวแบบหลายตัว โดยสามารถช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าให้เย็นลงได้ทันเวลา และสามารถลดอุณหภูมิของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าได้ประมาณ 8 องศา ซึ่งสามารถรักษาความเย็นในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี ในกรณีของความทนทานต่อการกัดกร่อน ODU ของ VC Pro VRFs ยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนของเกลืออย่างรุนแรงได้ โดยผ่านการจำลองการทดสอบเชิงทดลอง

นอกจากประสบกับปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่และการเข้าออกของประชากรจำนวนมากในสถานี HSR ไซต์ 4 ที่ Midea MBT ชนะการประมูลแล้ว ยังมีอาคารอยู่หกประเภท เช่น อาคารสถานี อาคารอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น เป็นไซต์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง นอกเหนือจากนั้น ที่ประเทศอินโดนีเซีย การจัดหาวัสดุการติดตั้งสำหรับโครงการก็มีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน จึงต้องมีการประเมินทุกปัจจัยในกระบวนการคัดเลือก แผนการออกแบบเครื่องปรับอากาศยังมีการปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด ระบบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ปรับจนเหมาะสมสำหรับโครงการติดตั้ง HVAC ก็บรรลุผลสำเร็จโดยมีการผสมผสานระหว่างดีไซน์หลากหลายรูปแบบและโครงร่างแบบผสมผสาน

ยังมีการใช้งาน Midea VC Pro VRFs ใน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน Midea Building Technologies ได้ปรับเครือข่ายการขายและบริการในตลาดต่างประเทศ โดยมีการสร้างโครงร่างที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ไปจนถึงโซลูชันที่แตกต่างกันไปตามการปรับแต่งให้เหมาะสม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Lori Luo
+86 13512784739
luory17@midea.com

แหล่งที่มา: Midea

upGrad เซ็นสัญญาขยายพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตใน 4 เมือง

Logo

~เพื่อจ้างสมาชิกในทีม 1,400 คนภายในเดือนมีนาคม ปี 2023~

MUMBAI, India–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

upGrad ผู้เล่นด้าน Edtech ระดับอุดมศึกษารายใหญ่ที่สุดในเอเชียยังคงเดินหน้าแผนการเติบโตและการขยายตัวเพื่อส่งผลต่อผู้เรียนในอินเดียและทั่วโลก รวมถึงทำให้พวกเขาพร้อมรับงาน จนถึงปัจจุบัน 'One upGrad' ได้ส่งผลต่อผู้เรียน 8.2 ล้านคนในทักษะด้านอารมณ์ การเตรียมตัวสอบ โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาลัย โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับข้อมูลรับรอง ตำแหน่งงาน การเปลี่ยนงาน และการพัฒนาอาชีพ

ด้วยเส้นทางการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง upGrad ได้ลงนามในสัญญาเช่าใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตเพื่อใช้สำหรับพื้นที่สำนักงาน วิทยาเขตแบบออฟไลน์ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เรียน สตูดิโอ และห้องฝึกอบรมสำหรับรายชื่ออาจารย์และคณาจารย์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทได้เสนอจ้างสมาชิกในทีมกว่า 1,400 คนระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ถึงมีนาคม ปี 2023 ทั่วอินเดียและสำนักงานทั่วโลก

upGrad ปิดพื้นที่ 200,000 ตารางฟุตในมุมไบสำหรับโครงการที่พักสำหรับผู้เรียน ที่ซึ่งนักศึกษายังได้ผันตัวเป็นสถาปนิกเพื่อออกแบบที่พักของพวกเขา พื้นที่ 20,000 ตารางฟุตในเบงกาลูรูสำหรับการขยาย KnowledgeHut ไปสู่ ​​Bootcamps และอีกมากมาย พื้นที่ 25,000 ตารางฟุตในปูเน่สำหรับการขยายที่ Talentedge พื้นที่อีก 40,000 ตารางฟุตใน Sector 125 ในนอยดา สำหรับแผนกศึกษาต่อต่างประเทศ – upGrad Abroad และพื้นที่ 50,000 ตารางฟุตใน Sector 58 ในนอยดา เพื่อใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการเตรียมสอบของรัฐบาลซึ่งมีสตูดิโอมากกว่า 45 ห้องพร้อมครูฝึกมากกว่า 150 คน ที่รองรับช่อง YouTube 27 ช่องที่มียอดวิวมากกว่า 25L ต่อวัน และจะฝึกอบรมผู้สมัครมากกว่า 5L ในปีนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานของรัฐบาล

upGrad มีทีมงานประจำและมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ซานฟรานซิสโก อินโดนีเซีย นิวยอร์ก ตะวันออกกลาง ลอนดอน เวียดนาม วอชิงตัน และทั่วทั้งออสเตรเลีย จากสมาชิก 1,400 คน ส่วนใหญ่จะเป็นคณาจารย์ ผู้ฝึกอบรม และผู้เชี่ยวชาญในด้านการขายและการตลาด เนื้อหา การจัดส่ง และประสบการณ์การเรียนรู้ จุดเน้นของการจ้างงานอยู่ที่พื้นที่ที่มีการเติบโตสูงซึ่งรวมถึง (ก) การศึกษาในต่างประเทศ (ข) วิทยาเขตทั่วโลก 10 แห่ง (ค) โปรแกรมที่เน้นการทำงานและพร้อมทำงานซึ่ง upGrad เปิดตัวในอินเดียและสหรัฐอเมริกาในช่วง 90 วันที่ผ่านมา และ (ง) ที่ ATLAS SkillTech University ในมุมไบ

การขยายธุรกิจในประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา แม้ว่าโมเดลธุรกิจของเราจะได้รับผลตอบแทน 100%+ ในทุกไตรมาส แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องลงทุนใหม่เพื่อขยายผลลัพธ์ที่เราตั้งเป้าไว้ เรากำลังขยายธุรกิจเพื่อรองรับทีมที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรากำลังรับเข้ามา นอกจากนี้ ในขณะที่เรามุ่งเน้นที่รูปแบบการจัดส่งออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เรายังสนับสนุนให้ผู้เรียนในปัจจุบันและในอนาคตมาพบเราแบบตัวต่อตัวในขณะที่ตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับตนเอง ดังนั้น การแสดงตนแบบเห็นหน้ากันทำให้เราใกล้ชิดกับผู้เรียนมากขึ้นในเส้นทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต กล่าวโดย Mayank Kumar ผู้ร่วมก่อตั้งและ MD ของ upGrad

ด้วย upGrad นี้ยังคงดำเนินงานจากสำนักงาน 30 แห่งในอินเดียใน 10 เมือง นอกเหนือจากนี้ สำนักงานทั่วโลกตั้งอยู่ทั่วซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก วอชิงตัน ลอนดอน สิงคโปร์ ดูไบ จาการ์ตา เวียดนาม ซิดนีย์ เมลเบิร์น และไนโรบี ความสามารถในการจับจ่ายและการเข้าถึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภารกิจของ upGrad ในการทำให้หลายล้านคนพร้อมทำงานและสร้างงานสำหรับอาชีพในอนาคต ดังนั้นการขยายตัวทางภูมิศาสตร์จะยังคงสนับสนุนการเติบโตตามแผนและตามจังหวะต่อไป

เกี่ยวกับ upGrad: upGrad เริ่มต้นในปี 2015 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติการศึกษาออนไลน์ โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมความสำเร็จในอาชีพสำหรับคนทำงานทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้านคน เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบบูรณาการไม่กี่แห่งในโลก ที่ครอบคลุมผู้เรียนระดับวิทยาลัยไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทำงาน ตั้งแต่กลุ่มอายุ 18-50 ปี และในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาเขตและงาน การศึกษาในต่างประเทศ หลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหารจนถึงระดับปริญญาอย่างปริญญาโทและปริญญาเอก พร้อมกับฐานผู้เรียน 8.2 ล้านคนใน 100+ ประเทศ และพันธมิตรของมหาวิทยาลัยกว่า 300 แห่ง และธุรกิจระดับองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมฐานลูกค้ากว่า 1,000 บริษัททั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221116005522/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media Contact: upGrad | Neha Prasad | Asst. Manager – PR | neha.prasad@upgrad.com

แหล่งที่มา: upGrad

Innophos เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เตรียมเจาะตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเอเชียแปซิฟิก

Logo

เว็บไซต์โฉมใหม่นี้เปรียบดั่งสถานที่จัดแสดงวัตถุดิบที่สร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

แครนเบอรี รัฐนิวเจอร์ซีย์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Innophos ผู้นำด้านสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบระดับโลกที่สร้างคุณูปการด้านต่าง ๆ แก่ตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการมาแล้วนักต่อนักได้ฤกษ์เปิดตัวเว็บไซต์ innophos.cn ที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เว็บไซต์โฉมใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Innophos ได้สัมผัสมาในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ โดยตัวเว็บไซต์มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานแบบสองภาษาเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

Announcing our new APAC website innophos.cn (Graphic: Business Wire)

ประกาศเว็บไซต์ APAC ใหม่ของเรา innophos.cn (กราฟิก: Business Wire)

“ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านสารละลายฟอสเฟตสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การเปิดตัว innophos.cn ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Innophos” Migue DeJong ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกของ Innophos กล่าว “การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ผมอยากติดตามการเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มธุรกิจของเราทั้งในเอเชียและทั่วโลกอย่างใจจดใจจ่อ”

Innophos Asia Pacific ได้เปิดโรงงานผลิตในเมืองไท่ชาง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนขึ้นเมื่อแปดปีก่อน จากนั้นมา Innophos ได้ใช้โรงงานผลิตแห่งนี้เพื่อให้บริการสารละลายแก่ลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอาหารข้ามชาติ ผู้ผลิตอาหารประจำภูมิภาค และผู้ผลิตอาหารในท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ Innophos Asia Pacific ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟอสเฟตสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมฟอสเฟต และผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้อย่างครบครันเพื่อมอบเนื้อสัมผัส รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และอายุการเก็บรักษาที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

“การเติบโตทางธุรกิจของเรานั้นขับเคลื่อนจากความเข้าใจที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของลูกค้ารวมถึงกระบวนการพัฒนาของเราด้วย” Laurent Dubois ผู้จัดการทั่วไปของ Innophos Asia Pacific กล่าวเสริม “เราภูมิใจที่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิภาคนี้เพื่อลูกค้าของเราด้วยห้องปฏิบัติการประยุกต์ที่มีอุปกรณ์ครบครัน สารละลายที่เราสร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะ และความใส่ใจต่อคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos นี้มุ่งเน้นการแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทกับอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเบเกอรี่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม บะหมี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช โดยสามารถเยี่ยมชมส่วนผสมเฉพาะสำหรับการพัฒนาคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มด้วยสารละลายฟอสเฟตสำหรับวัตถุดิบรูปแบบใหม่ได้ที่ innophos.cn เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos Asia Pacific

เกี่ยวกับ Innophos

Innophos คือผู้ผลิตสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบชั้นนำระดับสากลซึ่งสร้างประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการ โดยเราใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผสมและสร้างสรรค์สูตรวัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากฟอสเฟต แร่ธาตุ เอนไซม์ และพืช เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาประหยัดได้ ปัจจุบัน Innophos ดำเนินการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และจีน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969382/en

ข้อมูลติดต่อ

Carrie Livingston
อีเมล: carrie@colinkurtis.com
หมายเลขโทรศัพท์: +1 815-519-8302

แหล่งที่มา: Innophos

Medidata เปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้โซลูชันแรกสำหรับการป้อนข้อมูล EHR เข้าไปยัง Rave EDC โดยอัตโนมัติ

Logo

Rave Companion มีการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ EDC ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นับพันสำหรับการทดลองทางคลินิกและระบบการจัดการข้อมูล 

  • Rave Companion จะช่วยเพิ่มคุณภาพข้อมูลและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ โดยรับข้อมูลต้นทางจาก EHRs โดยตรงและส่งไปยัง Rave EDC โดยไม่ต้องมีการพิมพ์ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
  • เป็นโซลูชันระหว่างระบบ EHR ของไซต์และโซลูชันข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ กับ Rave EDC โดยนำบันทึกเวชระเบียนของผู้ป่วยเข้าสู่ Rave EDC โดยตรง

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Medidata บริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมสามารถปรับขนาดได้ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ที่จะช่วยให้การทดลองทางคลินิกสามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการถ่ายโอนข้อมูล EHR (บันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังระบบ Rave EDC (การบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) Rave Companion จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีมาอย่างยาวนานได้ โดยมีการใช้งานข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจากบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Rave EDC สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงเพียงไม่กี่คลิก

“จำนวนจุดข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกมีการเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและสำหรับไซต์ต่าง ๆ ที่มองหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ EHR และลดการป้อนข้อมูล” Dan Braga รองประธานฝ่ายโซลูชัน EHR และฝ่ายดูแลสุขภาพที่ Medidata กล่าว “Rave Companion เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยในการใช้งานข้อมูลที่มีอยู่จากระบบ EHR ใด ๆ แทนที่จะเป็นการป้อนข้อมูลซ้ำ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลองทางคลินิก”

Medidata ดำเนินการทดลองมากกว่า 29,000 ครั้ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์กว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้แพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม Rave Companion ได้รับการออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนอกกรอบสำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง รวมถึงความสามารถในการผสานรวมระบบ EHR แบบขั้นสูงสำหรับไซต์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของไซต์สำหรับการวิจัยของ Medidata และสามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว Rave Companion ทำงานโดยการจำลองแผนผังของ Rave eCRF ในเครื่องมือ “companion” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และติดตามผู้ใช้ของไซต์เมื่อมีการเข้าใช้งานผ่านระบบการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในฐานข้อมูลด้านการวิจัย

สำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง หรือสำหรับไซต์ที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของ Medidata Rave Companion จะช่วยให้สามารถหยุดการดำเนินการ “ทำงานพร้อมกันในทั้งสองระบบ” และช่วยให้ Rave EDC สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานระบบ EHR หรือระบบทางคลินิกอื่น ๆ ในการค้นหาข้อมูลผู้ป่วยที่เหมาะสม เพียงผู้ใช้คลิกที่ค่า ระบบก็จะกรอกข้อมูลเข้า eCRF ให้ แทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลอีกครั้ง

ในปีหน้า Rave Companion จะมีการรวมการนำเสนอข้อมูล EHR ภายในโซลูชันโดยตรง หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องออกจากระบบ Rave EDC เพื่อกรอกข้อมูล eCRF ให้ครบถ้วน เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ภายในระบบเดียว

Medidata จะมีการเปิดตัว Rave Companion ในงานชีววิทยาศาสตร์ชั้นนำ NEXT New York ในวันที่ 15-16 เดือนพฤศจิกายน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการที่ Medidata จัดการความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาความท้ายทายของการถ่ายโอนข้อมูลจาก EHR ไปยัง EDC: มุมมอง แนวทาง และเทคโนโลยีใหม่” โดยมี Gene Vinson ผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายบริหารจัดการ Clinical Vendor Management ที่ Syneos Health และ Dan Braga และ Samir Jain ผู้อำนวยการอาวุโสของ EHR Solutions ของ Medidata เข้าร่วม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทชั้นนำในระบบการเปลี่ยนแปลงชีววิทยาศาสตร์ระบบดิจิทัลในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลที่มีแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงเชิงพาณิชย์ระบบแรก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับชีววิทยาศาสตร์ การสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata จะช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย รวมถึงนักวิจัยด้านวิชาการเพื่อเพิ่มมูลค่า ลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาทางคลินิก ช้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลจริงได้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัท Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัทในเครือของบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นฝ่ายพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์ โดยเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมเหมือนจริงสำหรับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันของ 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราสามารถขยายขอบเขตการสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ากว่า 300,000 รายในทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็น “société européenne” ในฝรั่งเศส (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

Contentstack ระดมทุน Series C มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ นำโดย Georgian และ Insight Partners เพื่อเร่งเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กร

Logo

ระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียจะใช้เงินทุนเพื่อช่วยให้แบรนด์ระดับโลกตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล และเพื่อสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั่วอินเดีย

เทศบาลวิราร เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Contentstack ผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) และผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรมเชิงประกอบ ได้ประกาศในวันนี้ว่าการระดมทุน Series C มีมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ Georgian และ Insight Partners ร่วมเป็นผู้นำในรอบนี้โดยมีส่วนร่วมจาก Illuminate Ventures ทั้งสามบริษัทยังคงเพิ่มการลงทุนด้วย Contentstack ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระดมทุนได้ทั้งหมด 169 ล้านดอลลาร์จนถึงตอนนี้ บริษัทจะใช้เงินทุนเพื่อสนับสนุนบริษัทองค์กรต่าง ๆ ต่อไปในเส้นทางของพวกเขาเพื่อรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูล โดยเสริมศักยภาพให้พวกเขาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล

Emily Walsh หัวหน้านักลงทุนของ Georgian จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ Contentstack พร้อมกับ David Overmyer ผู้อำนวยการสายการเงิน (CFO) ของ Contentstack

“เรามองหาบริษัทที่มีการเติบโตสูงพร้อมความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและวัฒนธรรมการทำงานที่แข็งแกร่ง เราชอบที่จะช่วยให้ผู้ที่มองเห็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงได้ทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด” กล่าวโดย Walsh “ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เราจึงเลือกที่จะเพิ่มการลงทุนของเราเป็นสองเท่า ความสามารถของ Contentstack ในการรับรองว่าลูกค้าจะประสบความสำเร็จในขณะเดียวกันก็สร้างนวัตกรรมด้วยความเร็วที่บันทึกนั้น ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในตลาด CMS เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำร่วมกันในรอบนี้และให้การสนับสนุนบริษัทที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่แท้จริง”

Contentstack เป็น CMS ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์ระดับโลก เช่น Chase, Holiday Inn, Levi’s, Mattel, McDonald's, Mitsubishi และ Shell นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เงินทุนเพื่อเติบโตและสรรหาบุคลากรอย่างต่อเนื่องในไฮเดอราบัด เบงกาลูรู ปูเน และวิราร-มุมไบ

“เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัท SaaS ที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเดีย” กล่าวโดย Nishant Patel ผู้ร่วมก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Contentstack “Contentstack ได้รับการบ่มเพาะใน Raw Engineering ในอินเดียก่อนที่จะแยกตัวออกไปสู่ระดับโลกมากขึ้นในปี 2018 ภารกิจของเราคือการช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตในระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัพในอินเดีย เมื่อเร็วๆ นี้ การสนับสนุนการประชุมผลิตภัณฑ์ NASSCOM ช่วยกระตุ้นภารกิจดังกล่าว ซึ่งคุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้”

ในฐานะที่เป็น CMS แบบไม่มีส่วนหัวเพียงตัวเดียวที่นำเสนอโซลูชัน “การผสานรวม” กับ Automation Hub Contentstack จึงมอบเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กรต่าง ๆ ด้วยการทำให้กิจกรรมหลายร้อยรายการในเทคโนโลยีและผู้ขายเป็นไปอย่างอัตโนมัติและคล่องตัวแบบเรียลไทม์ องค์กรต่างๆ จึงสามารถเลิกใช้งานระบบจัดการเนื้อหา (CMS) แบบเดิมที่มีราคาแพงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกนวัตกรรมประสบการณ์ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้นและตระหนักถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โปรแกรม Care Without CompromiseTM ที่เป็นเรือธงของบริษัทช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสนับสนุนข้ามผู้จัดจำหน่ายในสภาพแวดล้อมที่ผสมผสานกัน ด้วย Automation Hub และ Care Without Compromise ทำให้ Contentstack กลับมาอยู่ในระดับแนวหน้าของการเคลื่อนไหวที่ผสมผสานกันได้อีกครั้ง ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างลูกค้าให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในแนวธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ตั้งแต่ Series B ของ Contentstack ในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ความเชี่ยวชาญของ Contentstack ได้นำไปสู่การเติบโตของขนาดและอัตราของกรณีการใช้งาน เนื่องจากมีองค์กรจำนวนมากขึ้นได้นำสถาปัตยกรรมเชิงประกอบมาใช้เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ดิจิทัลมากขึ้น บริษัทจึง

  • เติบโตจนมีพนักงานมากกว่า 400 คน และเข้าถึงผู้ใช้กว่า 50,000 รายในตลาดโลกกว่า 70 แห่ง
  • เพิ่มจำนวนลูกค้าที่ให้บริการและเพิ่ม ARR เกือบสามเท่า ขณะที่รักษาอัตราการรักษาลูกค้าไว้ 97%
  • ปรับขนาดด้วยแบรนด์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดย 42% มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และ 35% มีการซื้อขายต่อสาธารณะ
  • นำเสนอโซลูชันที่ไม่อิงกับคลาวด์ที่รองรับทั้ง AWS และ Microsoft Azure ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

นอกจากนี้ Contentstack ยังได้รับการรับรองเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมในอินเดีย (กันยายน 2021-2023) โดยได้รับรางวัลสถานที่ทำงานยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ถึง 6 รางวัลและได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ทำงานที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 Austin Business Journal เสนอชื่อ Neha Sampat ผู้บริหารสูงสุด (CEO) ให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่ดีที่สุดของ Austin ในปี 2022

เกี่ยวกับ Contentstack

Contentstack™ เป็นผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) ที่ช่วยให้นักการตลาดและนักพัฒนานำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่รวบรวมได้ด้วยความรวดเร็วดั่งจินตนาการ บริษัทต่าง ๆ เช่น ASICS, Chase, Express, Holiday Inn, Icelandair, Mattel, McDonald's, Mitsubishi, Riot Games และ Shell ไว้วางใจให้ Contentstack ขับเคลื่อนประสบการณ์เนื้อหาที่สำคัญที่สุดด้วยขนาดที่มั่นคงและความน่าเชื่อถือ Contentstack มีชื่อเสียงในด้าน Care without Compromise™ ซึ่งได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าในอุตสาหกรรม Contentstack ยังเป็นผู้ก่อตั้ง MACH Alliance ที่กำหนดวาระอุตสาหกรรมสำหรับเทคโนโลยีแบบเปิดและปรับแต่งได้ที่ใช้ Microservices, API-first, Cloud-native SaaS และ Headless เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.contentstack.com

ข้อมูลติดต่อ

Manish Sharma
manish.sharma@contentstack.com
+91 98200 43185

แหล่งที่มา: Contentstack

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ ที่ดีที่สุดของไต้หวัน เฉิดฉายในงาน SDIA Award 2022

Logo

กรุงไทเป ไต้หวัน –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ของไต้หวันให้ก้าวทันเทคโนโลยีแสดงผลชั้นนำ Smart Display Industry Alliance หรือ SDIA จึงได้จัดงาน SDIA Award ปี 2022 ขึ้นมา โดยจะมอบรางวัลระดับ Gold, Silver, Bronze รวมถึง Prize of Excellence ให้แก่ผู้ชนะที่เข้าเกณฑ์การประเมินรางวัล เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยความสามารถทางการตลาด, ความเป็นนวัตกรรม, เทคโนโลยี, งานวิจัย, ขีดความสามารถในการพัฒนา และศักยภาพตัวต้นแบบ เป้าหมายคือการยกย่องผู้ผลิตที่มีส่วนร่วม ซึ่งพวกเขาได้ลงทุนขยายเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ และยกระดับการแข่งขันด้านภาพกับการตลาดในอุตสาหกรรมการแสดงผลของไต้หวัน

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมของกระทรวงเศรษฐการเป็นผู้ก่อตั้ง SDIA ในปี 2021 องค์กรนี้ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยรัฐภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลไกการบูรณาการการดำเนินงาน, เสริมความเข้มแข็งข้ามภาคการผลิต, หน่วยงานสากล, การผนวกรวมหลากหลายสาขาวิชา และขีดความสามารถในการเพิ่มการแข่งขันระดับสากลของไต้หวันในเทคโนโลยีสมาร์ทดิสเพลย์ รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมแสดงผลจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมเดี่ยว เป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรม

ในปีนี้ มีการมอบรางวัลให้บริษัทที่ดำเนินโครงการอันยอดเยี่ยมที่เน้นเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ ผู้ได้รับรางวัลระดับ Gold ได้แก่ AUO Corporation, Innolux Corporation, และ PlayNitride Display Co., Ltd สำหรับรางวัลระดับ Silver มอบให้กับ E Ink Holdings Inc., Lextar Electronics Corporation, และ Darwin Precisions Corporation ส่วนผู้ได้รับรางวัลระดับ Bronze คือ PanelSemi Corporation, WiseChip Semiconductor Inc., และ InnoCare Optoelectronics Corp. และรางวัล Prize of Excellence มอบให้กับ Taiwan Nanocrystals Inc., General Interface Solution Limited และ GIO Optoelectronics Corp.

AUO Corporation เป็นผู้สร้างหน้าจอแสดงผล Micro LED แบบม้วนได้ขนาด 14.6 นิ้ว ครั้งแรกของโลก ด้วยความคมชัดระดับสูงสุด มีการใช้เทคโนโลยีถ่ายโอนความเร็วระดับสูงให้ได้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงระดับอัลตราที่ 202 ppi ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความโดดเด่นทั้งในแง่ขนาดและความคมชัด กระบวนการผลิตยังมีการดำเนินการด้วยพลังงานสะอาดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยประหยัดและลดการบริโภคพลังงาน จอแสดงผลแบบม้วนได้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพื้นที่ภายในยานพาหนะด้วย

Innolux Corporation นำเสนอโซลูชันภาพทางการแพทย์อัจฉริยะ 3 มิติ แบบมองเห็นด้วยตาเปล่า ผสานกับสิทธิบัตรพิเศษเฉพาะของ Innolux – เทคโนโลยีการแสดงผลไลท์ฟีลด์ภาพแบบ Volume N3D และอัลกอริทึม ทำให้ระบบสามารถอ่านข้อมูลภาพรังสีส่วนตัดได้โดยตรง ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตีความข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

PlayNitride Display Co., Ltd อาศัยการใช้เมตาเวิร์สอันเป็นที่สนใจทั่วทั้งอุตสาหกรรม ในการเปิดตัวจอแสดงผล
ไมโครแบบมีสีเต็มรูปแบบ ขนาด 0.49 นิ้ว/4,536 ppi เมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดในอุตสาหกรรมปัจจุบัน และสามารถใช้กับแว่นตา AR ได้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแสดงผลช่วยยกระดับประสบการณ์เมตาเวิร์ส

บริษัทเทคโนโลยีแสดงผลมีความเข้มแข็งในตัวเอง SDIA จะช่วยผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการแสดงผล ให้เปลี่ยนแปลงและอัปเกรดพร้อมเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้น หรือระบบ และบริการบูรณาการแอปพลิเคชัน สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันในหลากหลายสาขา เพื่อนำทฤษฎีไปปฏิบัติจริงให้เกิดการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการแสดงผลอัจฉริยะในภาพรวม และการอัปเกรดให้ไปถึงเป้าหมายในการสร้างพอร์ตอุตสาหกรรม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52966218/en

ข้อมูลติดต่อ

Smart Display Industrial Alliance, SDIA
อีเมล: IDB.SDIA@itri.org.tw
โทรศัพท์: +886-2-27001910

แหล่งที่มา: Smart Display Industrial Alliance