Riskified Ltd. ประกาศเสนอขายหุ้นสามัญครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไป

Logo

นิวยอร์ก–(บิสิเนสไวร์)–19 ก.ค. 2564

Riskified Ltd. (“Riskified”) แพลตฟอร์มการจัดการการฉ้อโกงที่มอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ราบรื่น ประกาศเสนอขายหุ้นสามัญ Class A   ครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 17,500,000 หุ้น โดยประกอบด้วยหุ้นสามัญ Class A จำนวน 17,300,000 หุ้นที่เสนอขายโดย Riskified และหุ้นสามัญ Class A จำนวน 200,000 หุ้นที่ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของ Riskified จะทำการขาย  Riskified จะไม่ได้รับเงินจากการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้น  ผู้จัดการการจัดจำหน่ายจะมีสัญญาอนุพันธ์ 30 วันในการซื้อหุ้นสามัญ Class A เพิ่มเติมเป็นจำนวน 2,625,000 หุ้นจาก Riskified ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก  โดยหักส่วนลดค่าบริการการจัดจำหน่ายและค่าคอมมิชชั่น  คาดว่าราคาเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรกจะอยู่ระหว่าง $18.00 ถึง $20.00 ต่อหุ้น  Riskified ตั้งใจที่จะนำหุ้นสามัญ Class A เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ “RSKD”

Goldman Sachs & Co. LLC, JP Morgan Securities LLC และ Credit Suisse Securities (USA) LLC ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการด้านธุรกรรมหลักสำหรับการเสนอขายครั้งนี้ โดย Barclays Capital Inc., KeyBanc Capital Markets Inc., Piper Sandler & Co., Truist Securities, Inc. และ William Blair & Company, LLC เป็นผู้จัดการบัญชีร่วมสำหรับการเสนอขาย และ Loop Capital Markets LLC, Samuel A. Ramirez & Company, Inc., Siebert Williams Shank & Co., LLC และ Stern Brothers & Co. ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร่วมสำหรับการเสนอขาย

การเสนอขายจะกระทำโดยใช้หนังสือชี้ชวนเท่านั้น  สามารถรับสำเนาหนังสือชี้ชวนเบื้องต้นได้รับจาก Goldman Sachs & Co. LLC, Attn: Prospectus Department, 200 West Street, New York, New York, 10282 ผ่านทางอีเมลที่ prospectus-ny@ny.email.gs.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 866-471-2526; JP Morgan Securities LLC, Attn: Broadridge Financial Solutions, 1155 Long Island Avenue, Edgewood, New York, 11717 ผ่านทางอีเมลที่ Prospectus-eq_fi@jpmorgan.com หรือทางโทรศัพท์ที่ 1-866-803-9204 และ Credit Suisse Securities (USA) LLC, Attn: Prospectus Department, One Madison Avenue, New York, New York, 10010 ผ่านทางอีเมลที่ newyork.prospectus@credit-suisse.com  หรือทางโทรศัพท์ที่ 800-221-1037

ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์เหล่านี้ต่อสำนักงาน SEC แล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้  หลักทรัพย์เหล่านี้ไม่สามารถขายได้ และไม่อาจรับข้อเสนอซื้อได้ก่อนเวลาที่แบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนจะมีผลใช้บังคับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์เหล่านี้ในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ที่ข้อเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Riskified Ltd.

Riskified ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มศักยภาพของอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มที่ด้วยการเพิ่มความปลอดภัย การเข้าถึง และความราบรื่น  Riskified ได้สร้างแพลตฟอร์มการจัดการความเสี่ยงอีคอมเมิร์ซก้าวหน้าที่ช่วยให้ผู้ค้าออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อถือได้กับผู้บริโภคของพวกเขา  แพลตฟอร์มของ Riskified ใช้ประโยชน์จากระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตนเองซึ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายผู้ค้าทั่วโลกในการระบุบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการโต้ตอบออนไลน์แต่ละครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าและลูกค้าของ Riskfied ขจัดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากธุรกิจของตน  Riskified ช่วยเพิ่มยอดขายและลดการฉ้อโกงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับผู้ค้าและมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภค

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210719005324/en/

Investor Relations (ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์):
Chris Mammone, The Blueshirt Group for Riskified ir@riskified.com 

Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร):
Rowena Kelley
press@riskified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Regencell Bioscience Holdings Limited ประกาศราคาเสนอขายหุ้นครั้งแรกของบริษัทให้กับนักลงทุนประมาณ 21.9 ล้านดอลลาร์

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–16 กรกฎาคม 2564

Regencell Bioscience Holdings Limited (NASDAQ:RGC) (“Regencell” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นบริษัทชีววิทยาศาสตร์ระยะเริ่มต้นที่มุ่งเน้นการวิจัย พัฒนา และการค้าของแพทย์แผนจีน (“TCM”) สำหรับการรักษาความผิดปกติและความเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะโรคสมาธิสั้น Attention Deficit Hyperactivity Disorder (“ADHD”) และโรคออทิสติก Autism Spectrum Disorder (“ASD”) ประกาศราคาการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (“การเสนอขาย”) จำนวน 2,300,000 หุ้น ในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 9.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นสามัญ โดยหุ้นสามัญได้รับการอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดทุนของ Nasdaq และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ภายใต้สัญลักษณ์ “RGC”

Regencell คาดว่าจะได้รับรายได้รวมประมาณ 21.9 ล้านดอลลาร์จากการเสนอขายนี้ ก่อนที่จะหักส่วนลดการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้บริษัทได้ให้สิทธิผู้รับประกันการจัดจำหน่ายในการซื้อหุ้นสามัญโดยเพิ่มทุนจำนวน 345,000 หุ้นในราคาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปได้ภายใน 45 วัน หักด้วยส่วนลดการรับประกันภัย การเสนอขายนี้คาดว่าจะปิดในหรือประมาณวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม

เงินที่ได้จากการเสนอขายนี้จะนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษาวิจัยครั้งที่สอง สูตรและผลิตภัณฑ์ TCM ของบริษัท เงินเดือนพนักงาน การเช่าสิ่งอำนวยความสะดวก การปรับปรุงและอุปกรณ์ การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์และทรัพย์สินทางปัญญา และเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์ทั่วไปอื่นๆ ขององค์กร

การเสนอขายจะดำเนินการบนพื้นฐานของความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ Maxim Group LLC ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการบัญชีสำหรับนี้แต่เพียงผู้เดียว

Hunter Taubman Fischer & Li LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท และ Loeb & Loeb LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ Maxim Group LLC ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขาย

แบบแสดงรายการข้อมูลการลงทะเบียนในแบบฟอร์ม F-1 ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“ก.ล.ต.”) (หมายเลขไฟล์: 333-254571) และประกาศให้มีผลบังคับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 การเสนอขายนี้จัดทำขึ้นโดยใช้หนังสือชี้ชวนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนเท่านั้น สำเนาหนังสือชี้ชวนขั้นสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายสามารถรับได้จาก Maxim Group LLC, 300 Park Ave, 16th Floor, New York, NY 10022 ที่ (212) 895-3745 นอกจากนี้ สามารถรับสำเนาหนังสือชี้ชวนที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายได้จากเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ที่ www.sec.gov

ก่อนการลงทุนควรอ่านหนังสือชี้ชวนและเอกสารอื่นๆ ที่บริษัทได้ยื่นหรือจะยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับบริษัทและการเสนอขาย ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย หรือการชักชวนให้เสนอซื้อหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัท และจะไม่มีการนำเสนอหรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาหากไม่ได้ลงทะเบียนหรือได้รับการยกเว้นจากการลงทะเบียน และจะไม่มี การเสนอ การชักชวน หรือการขายหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัทในรัฐหรือเขตอำนาจศาลใดๆ ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อนการลงทะเบียนหรือคุณสมบัติภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจศาลดังกล่าว

เกี่ยวกับ Regencell Bioscience Holdings Limited

Regencell Bioscience Holdings Limited เป็นบริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพระยะเริ่มต้นที่มุ่งเน้นการวิจัย การพัฒนา และการค้าของ TCM สำหรับการรักษาความผิดปกติและความเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะ ADHD และ ASD บริษัทเริ่มต้นในฮ่องกงในปี 2557 และเสร็จสิ้นการศึกษาวิจัยครั้งแรกโดยใช้สูตร TCM เฉพาะบุคคลในฮ่องกง บริษัทมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวยาสูตร TCM ที่เป็นของเหลวมาตรฐานจำนวนสามสูตรสำหรับผู้ป่วย ADHD และ ASD ที่มีอาการเล็กน้อย ปานกลาง และขั้นรุนแรงในฮ่องกงก่อนแล้วจึงค่อยไปสู่ตลาดอื่นๆ ตามความเหมาะสม

ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

ข้อความทั้งหมดนอกเหนือจากข้อความข้อเท็จจริงในอดีตในประกาศนี้เป็นข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการเสนอขายของบริษัท ข้อความที่มีลักษณะการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งที่ทราบและไม่ทราบ และอยู่บนพื้นฐานของความคาดหวังในปัจจุบันและการคาดการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์และแนวโน้มทางการเงินในอนาคตที่บริษัทเชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน กลยุทธ์ทางธุรกิจ และความต้องการทางการเงิน รวมทั้งความคาดหวังว่าการเสนอขายจะเสร็จสมบูรณ์ นักลงทุนสามารถระบุข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้ด้วยคำหรือวลี อย่างเช่น “อาจจะ” “จะ” “คาดหวัง” “คาดการณ์” “ตั้งเป้า” “ประมาณการ” “ตั้งใจ” “วางแผน” “เชื่อ” “มีศักยภาพ” “ดำเนินต่อไป” “มีแนวโน้มว่าจะ” หรือสำนวนอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน บริษัทไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตที่สะท้อนถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา หรือการเปลี่ยนแปลงในความคาดหวัง ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าบริษัทเชื่อว่าความคาดหวังที่แสดงไว้ในข้อความที่มีลักษณะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าความคาดหวังดังกล่าวจะถูกต้อง และบริษัทเตือนนักลงทุนว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ และสนับสนุนให้นักลงทุนทบทวนปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ในอนาคตในแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนของบริษัทและการยื่นเอกสารอื่นๆ ต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210715006080/en/

ติดต่อ:

องค์กร:
James Chung
Chief Strategy Officer
Regencell Bioscience Holdings Limited
ir@rgcbio.com

สำหรับนักลงทุนในภูมิภาคเอเชีย:
Strategic Financial Relations Limited
Vicky Lee (852) 2864 4834
Brigid Lee (852) 2114 4313
Yvonne Lee (852) 2864 4847
SPRG_Regencell@sprg.com.hk

สำหรับนักลงทุนนอกภูมิภาคเอเชีย:
Lena Cati
The Equity Group Inc.
Vice President
(212) 836-9611
lcati@equityny.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเตรียมจัดงาน Society 5.0 Expo เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีอันก้าวล้ำและความสำเร็จทางด้านต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น

Logo

ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สุดล้ำและความสำเร็จทางด้านวิจัยกว่า 200 ผลงาน ซึ่งมุ่งเน้นทางด้านนโยบาย Society 5.0 แห่งอนาคตอันที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 กรกฎาคม 2564

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (Cabinet Office) รัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศเตรียมจัดงาน Society 5.0 Expo ร่วมกับ Japan Agency for Marine-Earth Science and Technology หรือ JAMSTEC ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ณ TOKYO SKYTREE TOWN® ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น การจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ด้านสังคม 5.0 เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น โดยสามารถรับชมได้ทางออนไลน์และจะมีคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ สำหรับผู้ชมทั่วโลก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210713006253/en/

[From upper-left] SHINKAI 6500, HAYABUSA2, Wearable Cyborg, Active scope camera for rescue [From lower-left] Ultra-thin and flexible tough polymer, Rescue robot, Small synthetic-aperture radar satellite (SAR), Communication robot, Flying car, Level-3 autonomous vehicle (Photo: Business Wire)

[แถวบน-จากซ้ายไปขวา] SHINKAI 6500, HAYABUSA2, ไซบอร์กที่สวมกับร่างกายได้, กล้องแบบ active scope สำหรับการกู้ภัย [แถวล่าง-จากซ้ายไปขวา] พอลิเมอร์ที่มีความทนทานยืดหยุ่นและบางเป็นพิเศษ, หุ่นยนต์กู้ภัย, ระบบดาวเทียมขนาดเล็กที่ใช้คลื่นเรดาร์ถ่ายภาพเพื่อให้ได้ความละเอียดสูง (SAR), หุ่นยนต์สื่อสาร, รถยนต์บินได้, ยานยนต์ไร้คนขับ Level-3 (รูปภาพ: Business Wire)

งานดังกล่าวจะจัดแสดงแนวคิดเกี่ยวกับ สังคม 5.0 ที่รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้เสนอขึ้นเพื่อสร้างสังคมแห่งอนาคตที่น่าปรารถนา โดยแนวคิดนี้หวังสร้างสังคมที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางที่แต่ละอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมนำเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) รวมถึงหุ่นยนต์ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอื่น ๆ มาใช้เพื่อเอาชนะความท้าทายที่สำคัญ ทั้งนี้ แผนงานพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมฉบับที่ 6 ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งครอบคลุมงบประมาณปี 2564 ไปจนถึงปี 2568 ได้กำหนดทิศทางนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมให้เกิดความยั่งยืน การฟื้นตัว และสุขภาวะที่ดีของผู้คนที่มีความหลากหลาย

ภายในงานจะมีการนำเสนอความสำเร็จที่เกิดจากการโครงการระดับชาติที่มุ่งเพิ่มนวัตกรรมในสังคมให้มากขึ้น ซึ่งรวมถึงโครงการส่งเสริมนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ข้ามกระทรวง (SIP) และโครงการ ImPACT ที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาในด้านที่ส่งผลกระทบกับผู้คนจำนวนมากและมีความเสี่ยงสูง โดยปณิธานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจะถูกสื่อผ่านการจัดแสดงเทคโนโลยีที่มีความก้าวล้ำต่าง ๆ มากมาย

สำหรับความพิเศษก็คือบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรชั้นนำของญี่ปุ่น 50 แห่งจะร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และความสำเร็จด้านการวิจัยราว 200 ชิ้น ที่คาดว่าจะถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคม 5.0 รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยครอบคลุมแขนงต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนที่ สุขภาพและการดูแล การผลิต การเกษตร อาหาร การป้องกันภัยพิบัติ และพลังงาน ดังนี้

  • แคปซูลเก็บตัวอย่างของยานสำรวจดาวเคาะห์น้อย Hayabusa2
  • ต้นแบบในมาตราส่วนปกติของอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ SHINKAI 6500 ที่สามารถดำลงไปใต้ทะเลได้ลึกถึง 6,500 เมตร
  • รถยนต์บินได้ SkyDrive
  • ยานยนต์ไร้คนขับ Honda Legend Level-3 มาพร้อมเทคโนโลยี 3D mapping ที่มีความละเอียดสูง
  • ต้นแบบระบบดาวเทียมขนาดเล็กที่ใช้คลื่นเรดาร์ถ่ายภาพเพื่อให้ได้ความละเอียดสูง (Synthetic Aperture Radar) สำหรับการปล่อยดาวเทียมแบบออนดีมานด์และการสำรวจแบบทันที
  • HAL ไซบอร์กที่สวมเข้ากับร่างกายได้ ทำงานโดยส่งสัญญาจากสมองไปยังกล้ามเนื้อของมนุษย์เพื่อสั่งการให้ทำงานเมื่อต้องการความช่วยเหลือทางกายภาพ
  • ระบบป้องกันภัยพิบัติสำหรับคาดการณ์ฝนที่ตกหนักและพายุทอร์นาโด และระบบแบ่งปันข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
  • เทคโนโลยีอัจฉริยะทางการเกษตร เช่น ระบบจ่ายน้ำและระบายน้ำอัตโนมัติ

ผู้ชมจากประเทศต่าง ๆ สามารถร่วมเพลิดเพลินไปกับการจัดแสดงต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ซึ่งรองรับคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ ได้จากอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งนี้ ผู้จัดมีความยินดีอย่างยิ่งที่การจัดนิทรรศการแบบเสมือนครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ชุมชนทั่วโลกได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดสังคม 5.0 แห่งอนาคตของประเทศญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น

การจัดแสดงจะจัดเป็นกลุ่มภายใต้ธีมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

ช่วงที่ 1 เปิดงาน

ในช่วงเปิดงานจะเป็นการนำเสนอต้นแบบในมาตราส่วนปกติของอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ SHINKAI 6500 และลูกโลกดิจิทัลแบบสามมิติ Dagik Earth รวมถึงจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยีที่ใช้ระบบดาวเทียมซึ่งมีการนำไปใช้งานจริงในภาคส่วนต่าง ๆ

ช่วงที่ 2 พรมแดนวิทยาศาสตร์—อวกาศ และมหาสมุทร

การจัดแสดงเทคโนโลยีสำรวจอวกาศระดับโลกของญี่ปุ่น ซึ่งจะประกอบด้วยสถานีอวกาศนานาชาติจำลอง โมดูลห้องทดลองของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “Kibo” เครื่องยนต์จรวดในมาตรส่วนปกติ และแคปซูลเก็บตัวอย่างของยานสำรวจ Hayabusa2

การจัดแสดงเทคโนโลยีสำรวจมหาสมุทรและจำลองสภาพแวดล้อมของญี่ปุ่น ซึ่งจะประกอบด้วยยานยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติสำหรับสำรวจปล่องความร้อนใต้ทะเลและทรัพยากรที่อยู่พื้นมหาสมุทร และโซลูชันที่มีความก้าวล้ำทางด้านการสำรวจมหาสมุทร

ช่วงที่ 3 สังคม 5.0 แห่งอนาคต

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนาผ่านโครงการ SIP และ ImPACT ของญี่ปุ่น และการเข้าไปมีส่วนช่วยยกระดับชีวิตในด้านต่าง ๆ ห้าด้าน ได้แก่ 1) อายุขัย 100 ปี 2) การเคลื่อนที่และปฏิสัมพันธ์ทางสังคม 3) ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการฟื้นฟูและชีวิตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น 4) วิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับมนุษย์และโลก และ 5) การผลิตขั้นสูง การจัดแสดงจะประกอบด้วยโซลูชันอัตโนมัติ เช่น หุ่นยนต์ ยานยนต์ และอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ระบบป้องกันภัยพิบัติ เช่น AI สำหรับการตรวจสอบระบบโครงสร้างพื้นฐาน กล้องสำรวจภายในท่อระบบหุ่นยนต์สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม พลังงานและทรัพยากรแห่งอนาคต เช่น เชื้อเพลิงจากแอมโมเนียและแร่ธาตุใต้ท้องทะเล และวัสดุที่มีความก้าวล้ำ เช่น เส้นใยแมงมุมสังเคราะห์และพอลิเมอร์ที่มีความแข็งแรงทนทานแต่ยืดหยุ่นและบางเป็นพิเศษ

ช่วงที่ 4 วิถีสู่สังคม 5.0

จะมีการจัดแสดงวิวัฒนาการของอารยธรรมมนุษย์ผ่านวิดีโอและสื่อต่าง ๆ ของสังคมในแต่ละยุคเริ่มจากยุค 1.0 (ล่าสัตว์และหาของป่า), 2.0 (ยุคเกษตร), 3.0 (ยุคอุตสาหกรรม) และ 4.0 (ยุคข้อมูล) รวมถึง 5.0 (ณ TOKYO SKYTREE® Tembo Galleria ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้อวกาศที่สุดของกรุงโตเกียว)

ช่วงที่ 5 โรงละครสังคม 5.0

จะมีการฉายภาพยนตร์จาก Japan Aerospace Exploration Agency (JAXA) และ JAMSTEC นอกจากนี้ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจะมาบรรยายในหัวข้อวิทยาศาสตร์ มหาสมุทร การป้องกันภัยพิบัติ และไอซีทีสำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง

โปรดดาวน์โหลดรูปภาพที่ใช้อย่างเป็นทางการที่นี่

ภาพรวมการจัดงาน Society 5.0 Expo

ผู้จัด

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ and Japan Agency for Marine-Earth Science and Technology (JAMSTEC)

สถานที่

พื้นที่จัดนิทรรศการภายใน TOKYO SKYTREE TOWN

– พาวิลเลียนใน TOKYO SKYTREE TOWN Sky Arena (4F)

– TOKYO SKYTREE TOWN Solamachi Square (1F)

– TOKYO SKYTREE Group Floor (1F)

– TOKYO SKYTREE Tembo Galleria

– TOKYO SKYTREE TOWN วิทยาเขตของสถาบัน Chiba Institute of Technology

วันที่

15 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน 2564

– นิทรรศการทางกายภาพโดยธุรกิจต่าง ๆ (15 กรกฎาคม ถึง 19 กรกฎาคม)

– นิทรรศการทางกายภาพโดยองค์กรต่าง ๆ (15 กรกฎาคม ถึง 28 กรกฎาคม)

– นิทรรศการขนาดย่อยจัดแสดงโปสเตอร์และวิดีโอ (15 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน)

– นิทรรศการเสมือนจริง (17 กรกฎาคม ถึง 5 กันยายน) โดยมีคำอธิบายในภาษาต่าง ๆ
(อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน จีน อาหรับ และญี่ปุ่น)

การเข้ามชม

ไม่มีค่าใช้จ่าย (ตั๋วสำหรับเข้าชมนิทรรศการขนาดย่อยจะจำหน่ายที่ TOKYO SKYTREE Tembo Galleria)

ผู้ร่วมจัดแสดงในนิทรรศการและพันธมิตร

โปรดดูรายชื่อที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210713006253/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสังคม 5.0 สำหรับสื่อ
Weber Shandwick
Mayuko Harada (+81-90-9006-4968)
Rina Uesugi (+81-90-2280-0041)
อีเมล: society5.0expo@webershandwick.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


INNORULES เตรียมเข้าสู่ตลาดการเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังคว้าโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากบริษัทประกันญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุด

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–08 กรกฎาคม 2564

INNORULES (ซีอีโอ, Kil Kon Kim) ประกาศว่าบริษัทได้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Decision Manager (DDM) ของบริษัทให้กับโปรเจ็กต์นวัตกรรมแห่งอนาคตของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยได้เปิดระบบเพื่อทำงานในระยะแรกไปแล้ว

INNORULES’ Digital Product Manager (DPM) is a product information management system that supports the development of new products quickly and easily by disassembling and assembling the product information, structure and attributes. INNORULES, a Korean professional developer of Business Rule Engine, supplied the Digital Product Manager to the innovative digital transformation project of one of the biggest insurance companies in Japan. INNORULES is planning to expand into the South East Asian financial market upon this opportunity. (Graphic: Business Wire)

Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES เป็นระบบจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่รองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วโดยการรื้อและประกอบข้อมูล โครงสร้าง และคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์ INNORULES ผู้พัฒนา Business Rule Engine มืออาชีพจากเกาหลี เป็นผู้จัดหาระบบจัดการข้อมูล Digital Product Manager ให้กับโปรเจ็กต์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่มีความก้าวล้ำของหนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และ INNORULES วางแผนที่จะใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (กราฟิก: Business Wire)

INNORULES คือผู้พัฒนาโซลูชัน Business Rule Engine (BRE) อย่างมืออาชีพ ซึ่งโซลูชัน BRE นี้จะทำหน้าที่ลดความซับซ้อนของงานต่าง ๆ รวมทั้งปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างระบบให้ดีขึ้น บริษัทด้านการเงินในเกาหลีหลายแห่ง รวมถึงบริษัทประกัน นายหน้า และธนาคารต่างเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ INNORULES

สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ ได้เตรียมโปรเจ็กต์แห่งอนาคตนี้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งมีเงินลงทุนราว 1.746 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

บริษัทญี่ปุ่นรายนี้ได้พบกับผลิตภัณฑ์ของ INNORULES ครั้งแรกเมื่อพวกเขามาเยือนเกาหลีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านผลิตภัณฑ์กับบริษัทประกันในเกาหลี และท้ายที่สุดได้เลือก INNORULES หลังมีการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะ หรือ Benchmark Test

บริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ได้นำระบบ Digital Product Manager (DPM) ของ INNORULES ไปใช้กับงานสำคัญ ๆ และนำไปใช้ลดความซับซ้อนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เช่น การขายประกัน ใบเสร็จเบี้ยประกัน และกระบวนการชำระเบี้ยประกันภัย เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น INNORULES ยังได้รับบทบาทสำคัญในโปรเจ็กต์นี้โดยรับหน้าที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระบบมรดก (legacy system) ของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลสะสมในปริมาณมหาศาล ก่อนหน้านี้ การแปลงผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยความรวดเร็วเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากจำเป็นต้องมีการพิจารณาผลกระทบจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ลงในระบบที่มีอยู่แล้วก่อน

ระบบที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้ใช้ระบบจัดการข้อมูล DPM ของ INNORULES เพื่อจัดระเบียบงานที่เหมือนกันให้มีมาตรฐานเดียวกัน และแยกกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามคุณลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ โดยบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้คาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาและปรับแก้ผลิตภัณฑ์ได้ถึงหนึ่งในสามจากที่เคยใช้เวลาเกือบปี บริษัทแห่งนี้ยังวางแผนที่จะแนะนำระบบที่เพิ่งนำมาใช้ใหม่ให้กับระบบของธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันอัคคีภัยของตนภายในปี 2568 นี้อีกด้วย

ขณะที่ INNORULES วางแผนเตรียมใช้โอกาสนี้ขยายสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Kil Kon Kim ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ INNORULES กล่าวว่า “การที่ผลิตภัณฑ์ของเราถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่เป็นแกนหลักของบริษัทการเงินญี่ปุ่นซึ่งโดยปกติแล้วขึ้นชื่อเรื่องความระมัดระวังครั้งนี้มีความหมายกับเราอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการยอมรับในเรื่องของความเสถียรและความสามารถทางเทคโนโลยีมาหลายปี เราจึงได้รับการติดต่อสอบถามจากบริษัทการเงินของญี่ปุ่นหลายแห่งอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ระบบใหม่นี้ได้รับการเปิดตัวผ่านสัญญาที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้”

“จากข้อตกลงกับบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค เราจึงได้วางแผนที่จะขยายสู่ประเทศใหญ่ ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเช่นอินโดนีเซียและมาเลเซียที่กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์ด้านการเงินใหม่ ๆ อยู่ในขณะนี้” Kim กล่าวเพิ่มเติม “เราคาดว่ายอดขายในต่างประเทศจะเติบโตกว่า 20% ในปีนี้”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

INNORULES CO.,LTD
Yosep Park
+82-2-416-2501
marketing@innorules.com

iNova Pharmaceuticals ได้รับใบรับรองสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในโลก

Logo

ซิดนีย์–(บิสิเนสไวร์)–14 ก.ค., 2564

iNova Pharmaceuticals บริษัทที่ขายและจัดจำหน่ายยาที่ไม่ต้องสั่งและไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ในออสเตรเลีย เอเชีย และแอฟริกา เพิ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในปี 2564  iNova ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการประเมินหลายประเภท และยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้ข้อเสนอแนะเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมที่พนักงานทุกคนสามารถมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายและบรรลุศักยภาพของพวกเขา

แบบสำรวจการประเมินได้รวมคำถามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญ เช่น ความเป็นผู้นำ การปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคล ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ วัฒนธรรม และโอกาสในการพัฒนา  ท่ามกลางความท้าทายที่บริษัทต่างๆ เผชิญในปีที่ผ่านมา iNova และพนักงานของบริษัทในสถานที่ต่างๆ ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น นวัตกรรม ความอดทน และความอุตสาหะในการปรับตัวให้เข้ากับการระบาดใหญ่ทั่วโลก

การรับรอง Best Places to Work เป็นโปรแกรมการรับรองระดับสากล ซึ่งถือเป็น 'มาตรฐานระดับแพลตตินั่ม' ในการระบุและยกย่องสถานที่ทำงานชั้นนำทั่วโลก  โดยเปิดโอกาสให้นายจ้างได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของพนักงาน และให้เกียรติผู้ที่มอบประสบการณ์การทำงานที่มีมาตรฐานสูงสุด

“ในฐานะบริษัทที่มุ่งพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อื่น วิสัยทัศน์นี้จึงมีความสำคัญต่อพนักงานของเรา  ความสามารถ พลังงาน และความมุ่งมั่นของพวกเขาที่ช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาเป็นธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และเราต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลในที่ทำงาน” Dan Spira ซีอีโอของ iNova กล่าว

เกี่ยวกับ INOVA PHARMACEUTICALS

iNova Pharmaceuticals เป็นบริษัทข้ามชาติด้านเวชภัณฑ์และการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคที่ขายและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการควบคุมน้ำหนัก หวัดและการไอ คอ การดูแลผิว และสุขภาพตามธรรมชาติ  iNova Pharmaceuticals ดำเนินงานในกว่า 20  ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา  วิสัยทัศน์ของ iNova Pharmaceuticals คือการจัดหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้ที่พัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทุกวัน ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ INOVA ได้ที่ www.inovapharma.com

เกี่ยวกับโปรแกรม BEST PLACES TO WORK

Best Places To Work คือใบรับรอง 'นายจ้างยอดเยี่ยม' ที่ชัดเจนที่สุดที่องค์กรต้องการ  โปรแกรมนี้รับรองและยกย่องสถานที่ทำงานชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลกด้วยการประเมินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งจะวิเคราะห์ความน่าดึงดูดใจของบริษัทผ่านกระบวนการสองขั้นตอนโดยเน้นที่ปัจจัย 8 ประการของสถานที่ทำงาน  เข้าร่วมกับชุมชนของเราได้ใน LinkedIn, Twitter, และ Facebook.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.bestplacestoworkfor.org

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210713005994/en/

ติดต่อ:

Maria Mercedes

maria@bestplacestoworkfor.org 

+65 3159 1167

Women’s Entrepreneurship Accelerator เข้าร่วม Generation Equality Forum สำหรับแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศและคำมั่นต่อแนวร่วมปฏิบัติ

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2564                              

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) โครงการขับเคลื่อนชั้นนำเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีได้เข้าร่วมประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Generation Equality Forum) ในกรุงปารีส (30 มิถุนายน-2 กรกฎาคม) ผ่านโปรแกรม “Drivers of Change” 26 ปีหลังจากปฏิญญาปักกิ่ง การประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม จัดโดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ และรัฐบาลเม็กซิโกและฝรั่งเศสร่วมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในยุคที่จะลงทุนในความเท่าเทียมทางเพศและเร่งรัดเพื่อความปลอดภัยของผู้หญิง ความเป็นผู้นำ และโอกาสทางเศรษฐกิจ1 ผู้คนจำนวน 50,000 คนมีส่วนร่วมในการประชุมที่รวบรวมผู้มุ่งมั่นจำนวน 1,000 คน โดยได้บันทึกของการลงทุนไว้ 40 พันล้านดอลลาร์ สำหรับความเท่าเทียมทางเพศในการสนับสนุนแผนระยะเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินการอย่างเท่าเทียมกันในการปฏิบัติทั้ง 7 ด้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210712005178/en/

The Women’s Entrepreneurship Accelerator hosted a panel titled “Building a Transformative Strategy for Gender-Responsive Procurement,” aiming at creating awareness of the disproportionately complex and interconnected barriers on women’s entrepreneurship and promoting gender-responsive procurement strategies. (Graphic: WEA)

Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์ในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและการเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่สมส่วนในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และส่งเสริมกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ (กราฟิก: WEA)

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม Accelerator เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “การสร้างกลยุทธ์ในการเปลี่ยนแปลงสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอุปสรรคที่ซับซ้อนและการเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่สมส่วนในการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิง และส่งเสริมกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ ทั่วทั้งโลก 1 ใน 3 เจ้าของธุรกิจเป็นผู้หญิง2 แต่ทว่าผู้หญิงชนะเพียง 1% เท่านั้นของการใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่3 วิทยากรแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมซึ่งพิสูจน์ได้จากเส้นทางของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีการใช้กลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างแบบครอบคลุม

โครงการ Women's Entrepreneurship Accelerator เปิดตัวในปี 2019 โดยริเริ่มจากพันธมิตรหลายรายที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมพลังให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีผ่านเส้นทางแห่งการเสริมอำนาจสี่แนวทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โดยปราศจากอุปสรรคด้านคุณสมบัติในการเข้าร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่ก่อตั้งโดย Mary Kay Inc. เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการปรึกษาหารือกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติห้าแห่ง

“เราเชื่อว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ สามารถสร้างผลลัพธ์อย่างมหาศาล ซึ่งเร่งรัดการรวมธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน” Julia Simon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและจัดการความหลากหลายของ Mary Kay Inc. กล่าว “Accelerator สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างทั่วถึงตามลำดับความสำคัญและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระบบที่ผู้หญิงต้องการ การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีมีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

Simon เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายที่นำเสนอระหว่างการอภิปรายการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศของการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Gender Equality Forum) เธอเข้าร่วมโดย Elizabeth Vazquez ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ WEConnect International และ Jamila Belabidi ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของ Global Women Economic Empowerment & Global Innovation, Procter & Gamble โดย Sonia Dridi ผู้รายงานข่าวและผู้สื่อข่าว Washington DC สำหรับช่อง France 24 และ Europe 1 เป็นผู้กลั่นกรองช่วงการประชุม

“เศรษฐกิจโลกมีมูลค่า 93 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ผู้หญิงยังคงถูกมองไม่เห็นในฐานะซัพพลายเออร์ของผลิตภัณฑ์และบริการในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกของเรา” Vazquez กล่าว “ความล้มเหลวของตลาดครั้งใหญ่นี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากความเจริญทางเศรษฐกิจโดยครอบคลุมและการสร้างงานจากการสนับสนุนของ SDG5”

Jamila Belabidi ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของ Global Women's Economic Empowerment & Global Innovation ที่ Procter & Gamble กล่าวว่า “ที่ P&G เราให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศเป็นพื้นฐานและบูรณาการเข้ากับธุรกิจของเรา ด้วยเหตุนี้เราจึงมุ่งมั่นที่จะใช้เงิน 10 พันล้านดอลลาร์กับธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของและผู้หญิงที่เป็นผู้นำภายในปี 2568”

ในงานนั้น WEA ยังได้เข้าร่วมสี่กลุ่มในยุคแนวร่วมปฏิบัติการเพื่อความเท่าเทียม (Generation Equality Action Coalitions) ผ่านข้อผูกพันด้านนโยบาย โปรแกรมการจัดการอัติโนมัติ และการสนับสนุน: ความยุติธรรมและสิทธิทางเศรษฐกิจ; ปฏิบัติการสตรีนิยมเพื่อความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ; เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ และขบวนการสตรีนิยมและภาวะผู้นำ Accelerator ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพลังให้กับผู้หญิง 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2573 โดยการแบ่งเบาอุปสรรคสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญ

การมีส่วนร่วมของ Accelerator ในการประชุมยุคแนวร่วมปฏิบัติการเพื่อความเท่าเทียม (Generation Equality Forum Action Coalitions) เป็นเพียงขั้นตอนล่าสุดที่องค์กรดำเนินการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความเท่าเทียมกันของผู้หญิงหลังโควิด-19:

  • วันที่ 16 มีนาคม 2564 Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Mary Kay เข้าร่วมการประชุม UN Global Compact Target Gender Equality ในนามของ Accelerator นาย Gibbins เน้นย้ำข้อมูลใหม่ที่ธนาคารโลกเพิ่งเผยให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยทั่วโลก ผู้หญิงมีสิทธิตามกฎหมายสามในสี่ของผู้ชาย เธอต้องการให้บริษัทต่างๆ ยืนหยัดต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางกฎหมายและสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อปิดช่องว่างที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถบรรลุศักยภาพอันสูงสุด งานนี้รวบรวมผู้คนกว่า 5,000 คนจากภาคธุรกิจ องค์การสหประชาชาติ ประเทศสมาชิก และองค์กรภาคประชาสังคมจากกว่า 100 ประเทศ ด้วย 75% ของผู้เข้าร่วมเป็นตัวแทนของภาคเอกชน
  • วันที่ 24 มีนาคม 2564 งานนอกเหนือของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี Commission on the Status of Women (CSW65) Women's Empowerment Accelerator ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในหัวข้อ “Women Leading Economic Recovery Through Entrepreneurship” โดยมีพันธมิตรหน่วยงานของ UN ห้าราย กลุ่มนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเป็นหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยกำหนดรูปแบบระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี
  • วันที่ 15-16 มิถุนายน 2564 ที่งานประชุมสุดยอดผู้นำ UN Global Compact Leaders Summit นาย Gibbins ได้พูดในเวทีหลักเรื่อง “Women in Sustainability: Innovating in a Man's World” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีให้เป็นแบบอย่างที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจและสังคม และเน้นย้ำภารกิจสำคัญของ Accelerator: “ผู้ประกอบการสตรีจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวจากโรคระบาดที่ประสบความสำเร็จ นี่คือเหตุผลที่ภารกิจของ Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นไปอย่างทันท่วงที และนี่คือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีต้องการกรอบการทำงานระดับใหญ่นี้” Gibbins กล่าว การประชุมสุดยอดประจำปีได้เรียกประชุมผู้นำกว่า 25,000 คนจากภาคธุรกิจ รัฐบาล สหประชาชาติ และภาคประชาสังคม เพื่อรับทราบความคืบหน้าและผลักดันการดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรเทาวิกฤตของสภาพภูมิอากาศ การระบาดใหญ่ทั่วโลก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator เป็นโครงการริเริ่มจากพันธมิตรหลายรายที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมพลังให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกผ่านเส้นทางแห่งการเสริมอำนาจสี่แนวทาง ได้แก่ การศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โดยปราศจากอุปสรรคด้านคุณสมบัติในการเข้าร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่ก่อตั้งโดย Mary Kay Inc. เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการปรึกษาหารือกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติห้าแห่ง ได้แก่ องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ International Labour Organisation (ILO) บริษัทการค้าระหว่างประเทศ International Trade Center (ITC), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ UN Global Compact (UNGC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) Accelerator ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมพลังทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิง 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2573 เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://www.we-accelerate.com/


1 https://forum.generationequality.org/home
2 ธนาคารโลก (2020). Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal อ้างถึงโดย World Bank Blogs (2020) Women entrepreneurs needed – stat!
3 Vazquez and Sherman (2014). อ้างถึงโดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (2017) The Power of Procurement: How to source from women-owned businesses.

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210712005178/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย







International Content Market SPP 2021 จะจัดขึ้นทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

Logo

– ตลาดคอนเทนต์ B2B ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

– แนะนำ ‘SPP connect’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจใหม่ที่มีฟังก์ชันการแนะนำระบบ AI และโซลูชันของการประชุมทางวิดีโอ

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–12 กรกฎาคม 2564

Seoul Business Agency (SBA, ซีอีโอ Jang Young-seung) เป็นองค์กรที่สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมคอนเทนต์เชิงวัฒนธรรมของกรุงโซล ได้ประกาศว่าบริษัทจะจัดตลาดคอนเทนต์ ‘SPP 2021’ ทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210708005402/en/

The international content market SPP 2021 (<a href=www.spp.kr/) hosted by Seoul Business Agency is held online from July 12 to 30. SPP (Seoul Promotion Plan) is the largest B2B market where various content-related businesses are made. In SPP 2021, SPP connect, a new business matching platform will be introduced for the first time and various B2B programs such as online biz-matching, pitching, showcase, and promotional events will take place. The Asia Animation Alliance will strengthen the content business network between Asian countries through showcases of new animations from Korea, China, Japan, India, and ASEAN countries and briefing sessions to share animation market trends in each country. (Graphic: Business Wire)” src=”https://mms.businesswire.com/media/20210708005402/en/890185/4/image_spp.jpg” />

The international content market SPP 2021 (https://www.spp.kr/) จัดงานโดย Seoul Business Agency จะมีขึ้นทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 30 กรกฎาคม ซึ่ง SPP (Seoul Promotion Plan) เป็นตลาด B2B ที่ใหญ่ที่สุดที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ต่างๆ ในงาน SPP 2021 แพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า SPP connect จะเปิดตัวเป็นครั้งแรก และโปรแกรม B2B ที่หลากหลาย เช่น การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การเสนอขาย การจัดแสดง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดย Asia Animation Alliance จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายธุรกิจคอนเทนต์ระหว่างประเทศในเอเชียผ่านการจัดแสดงแอนิเมชันใหม่ๆ จากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน และช่วงบรรยายสรุปเพื่อแบ่งปันแนวโน้มตลาดแอนิเมชันในแต่ละประเทศ (กราฟิก: Business Wire)

'SPP (Seoul Promotion Plan)' การตลาดที่เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน ตัวละคร เว็บตูน และคอนเทนต์เกม เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น การซื้อลิขสิทธิ์ การร่วมผลิต และสิ่งจูงใจในการลงทุน ปีที่แล้วมีบริษัทเข้าร่วม 619 แห่ง รวมถึงบริษัทระดับโลกอย่างเช่น Disney และ Tencent และการจับคู่ธุรกิจ 4,092 เรื่อง โดยเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะจัดขึ้นทางออนไลน์เนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ความสำเร็จของ 'SPP' นี้ คือประสิทธิภาพที่โดดเด่นของแพลตฟอร์มออนไลน์ การแนะนำระบบออนไลน์ก่อนล่วงหน้าในปี 2560  โดย SPP ได้มอบโอกาสในการจับคู่ธุรกิจคุณภาพสูงแก่บริษัททำคอนเทนต์ในประเทศด้วยฟังก์ชันการตั้งเวลาล่วงหน้าที่ช่วยให้สามารถจัดการประชุมและฟังก์ชันการคัดกรองออนไลน์ที่อนุญาตให้รับชมวิดีโอคอนเทนต์ล่วงหน้าได้อีกด้วย

SPP connect ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ ได้ปรับปรุงความสะดวกสบายของผู้ใช้ด้วยการใช้ฟังก์ชันหลักที่จำเป็นสำหรับธุรกิจแบบทิ้งระยะห่าง เช่น โซลูชันการแนะนำอ้างอิงระบบ AI และโซลูชันการประชุมทางวิดีโอนอกเหนือจากการตั้งเวลาล่วงหน้าและการคัดกรองออนไลน์

ในงาน SPP 2021 จะเป็นการแนะนำให้รู้จัก SPP connect เป็นครั้งแรก โปรแกรม B2B ที่หลากหลายอย่างเช่น การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การเสนอขาย การจัดแสดง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่จะเกิดขึ้นนี้

Asia Animation Alliance จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายธุรกิจคอนเทนต์ระหว่างประเทศในเอเชียผ่านการจัดแสดงแอนิเมชันใหม่ๆ จากเกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน และช่วงบรรยายสรุปเพื่อแบ่งปันแนวโน้มตลาดแอนิเมชันในแต่ละประเทศ ในช่วงการบรรยายสรุปตลาดที่ประเทศต่างๆ ในเอเชีย เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ประเทศไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เข้าร่วม คุณสามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันและวิสัยทัศน์ของอุตสาหกรรมแอนิเมชันในประเทศต่างๆ ในเอเชียได้

นอกจากนี้ในงาน Global Ignite ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายที่นำโดยองค์กร ช่วงที่เป็นประโยชน์ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับการผลิต การตลาด เทคโนโลยี และการลงทุนในด้านคอนเทนต์รวมถึงแอนิเมชัน ช่วงเหล่านี้รวมถึงสตูดิโอแอนิเมชันของหนุ่มชาวเกาหลีที่กำลังแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงการบรรยายสรุปโดยสตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านแอนิเมชัน และช่วงแนะนำนโยบายแอนิเมชันและสถานะกองทุนในแคนาดา

“SPP connect ที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จะกลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งออกคอนเทนต์ในประเทศท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ” Park Bo-kyung หัวหน้า SBA Seoul Animation Center กล่าว “ในงาน SPP 2021 เราวางแผนที่จะให้การสนับสนุนบริษัทในประเทศเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สำคัญโดยนำเสนอโครงการของพวกเขาไปยังผู้ซื้อชั้นนำในต่างประเทศ”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน SPP 2021 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-30 กรกฎาคม สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ SPP connect (www.spp.kr)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210708005402/en/

ติดต่อ:

Seoul Business Agency (SBA)
Yujin Park
+82-2-3455-8365
yjpark@sba.seoul.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kyalio เปิดตัวห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริง (VR Endo-Laparoscopic Library) แบบวันต่อวันเป็นแห่งแรกในเอเชีย

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–8 ก.ค. 2564

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 Kyalio กับ Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA) ซึ่งเป็นสมาคมศัลยกรรมชั้นนำที่มีสมาชิกกว่า 2,600 ราย ได้ร่วมกันเปิดตัวห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริง หรือ Virtual Endo-Laparoscopic Library แบบวันต่อวัน ห้องสมุดศัลยกรรมเสมือนจริงแบบหลายแพลตฟอร์มแห่งแรกในเอเชียนี้จะใช้ เทคโนโลยี Virtual Reality ในฉากที่เป็นสถานที่จริง โดยจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกฝนการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยในเรื่องของการศึกษาด้านศัลยกรรมข้ามพรมแดนให้ดำเนินต่อไปได้แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม นอกจากนี้ ห้องสมุดยังสนับสนุนการฝึกอบรมการผ่าตัดทางไกลสำหรับศัลยแพทย์รุ่นเยาว์ในประเทศกำลังพัฒนาและพื้นที่ห่างไกล อีกด้วย

เทคโนโลยี VR ช่วยให้ผู้เรียนจากทั่วโลกได้สัมผัสกับกรณีต่างๆ มากมายโดยมีการจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในห้องผ่าตัดเพื่อเสริมความรู้และทักษะในการปรับปรุงผลการผ่าตัดในแต่ละแนวทาง ศัลยแพทย์หนุ่มสาวกว่าครึ่งล้านคนในเอเชียจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้

ศ. Davide Lomanto, ผู้นำโครงการการศึกษาดิจิทัลของ ELSA กล่าวว่า “ห้องสมุดศัลยกรรม VR หรือ The VR Surgical Library เป็นก้าวสำคัญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้การศึกษาด้านศัลยกรรมเข้าถึงได้สำหรับศัลยแพทย์ทั่วโลก “องค์กรของเราสนับสนุนศัลยแพทย์หลายพันคนในเอเชียและที่อื่น ๆ ไม่เพียงแต่การฝึกอบรมขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังผ่านการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากศัลยแพทย์ชั้นนำทั่วภูมิภาคด้วย การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มประสิทธิผลให้กับสมาชิกในการปฏิบัติการผ่าตัดของตนเอง ความร่วมมือของเรากับ Kyalio ได้ขยายความพยายามในการศึกษาศัลยกรรมทั่วโลกของเรา ด้วยวิธีที่เข้าถึงได้และราคาไม่แพง”

เกี่ยวกับ Kyalio Pte Ltd

Kyalio ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2562โดยมีพันธกิจในการสร้างเทคโนโลยีที่ราคาไม่แพงแต่ล้ำหน้าสำหรับการศึกษาศัลยกรรมในวงกว้าง วิสัยทัศน์ของ Kyalio คือ “การปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยด้วยการฝึกการผ่าตัดที่ดีขึ้น” และดำเนินการพัฒนาต่อไปแบบวันต่อวันควบคู่ไปกับความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมและสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำ ติดตามการเดินทางของ Kyalio ได้ที่ www.kyalio.com

เกี่ยวกับ The Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA)

The Endoscopic and Laparoscopic Surgeons of Asia (ELSA) ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการผ่าตัดแบบส่องกล้องในเอเชีย และยังแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติแก่ประเทศสมาชิก

ณ วันนี้ ELSA เป็นตัวแทนระดับภูมิภาคที่สำคัญสำหรับศัลยแพทย์ส่องกล้องในเอเชียแปซิฟิก และหน่วยงานที่กำกับดูแลที่ประกอบด้วยผู้นำด้านการผ่าตัดส่องกล้องจาก 37 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ตุรกีทางตะวันตกไปจนถึงนิวซีแลนด์ทางตะวันออก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210708005424/en/

ติดต่อ:

Cortilia Lin | cortilia@kyalio.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SoftBank Group แต่งตั้ง Mark Kornblau ให้ดำรงตำแหน่ง Global Head of Communications

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–07 กรกฎาคม 2564

วันนี้ SoftBank Group Corp. (“SBG”) ได้ประกาศว่า Mark Kornblau จะเข้าร่วม SBG ในตำแหน่ง Global Head of Communications ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยก่อนที่จะย้ายมาร่วมงานกับ SBG ปัจจุบันนี้ Mark ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารอยู่ที่ NBCUniversal News Group

Mark จะประจำอยู่ที่สำนักงานของ SoftBank ในนิวยอร์ก และรายงานตรงต่อ Masayoshi Son กรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่บริหาร ประธานและซีอีโอของ SBG รวมถึง Marcelo Claure เจ้าหน้าที่บริหาร รองประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของ SBG และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SoftBank Group International ในบทบาทใหม่นี้ Mark จะรับผิดชอบงานด้านกลยุทธ์ของฝ่ายสื่อสารองค์กรของ SBG โดยจะเป็นผู้อำนวยการการปฏิบัติงานด้านการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กรในระดับนานาชาติ นอกจากนี้จะทำงานร่วมกับบริษัทในเครือของ SBG อีกเกือบ 300 แห่ง เพื่อสร้างความสอดคล้องและค่านิยมเดียวกันทั่วทั้งระบบนิเวศของ SoftBank Group

Marcelo กล่าวว่า “Mark เป็นผู้นำด้านการสื่อสารที่มีความสามารถและเป็นที่นับถืออย่างมาก และยังเป็นที่ปรึกษาที่เหล่าซีอีโอ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีหลาย ๆ ท่าน รวมถึงบรรดาผู้นำของรัฐบาลและนักหนังสือพิมพ์ให้ความไว้วางใจมากว่าสองทศวรรษ เขาจะเป็นพันธมิตรที่มีค่าสำหรับทีมบริหารของเรารวมถึงธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ ที่เราเข้าไปลงทุน”

ขณะที่ Mark กล่าวว่า “SoftBank คือศูนย์กลางช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นผู้กำหนดอนาคตด้วยการชี้ให้เห็นว่าอะไรคือเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริงและช่วยเร่งการเติบโตของบริษัทต่าง ๆ ที่พลิกโฉมวิถีชีวิตและการทำงานของพวกเราอย่างสิ้นเชิง และแน่นอนว่าในทางที่ดีขึ้น ผมตั้งตารออย่างมากที่จะได้สนับสนุนภารกิจนี้”

ที่ NBCUniversal News Group, Mark เป็นผู้นำทีมสื่อสารให้กับแบรนด์ด้านโทรทัศน์และข่าวดิจิทัลเจ้าของรางวัล และเป็นผู้วางตำแหน่งธุรกิจให้อยู่บนเส้นทางความสำเร็จในวงการสื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับในบทบาทใหม่ Mark จะร่วมงานกับผู้บริหารด้านธุรกิจและบรรณาธิการของแบรนด์ต่าง ๆ อย่าง NBC News, MSNBC, TODAY, Nightly News, Meet the Press และเครือข่ายบริการสตรีมมิ่งรวมถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลของแบรนด์เหล่านั้น โดยเขายังเป็นผู้นำการเจรจาเพื่อคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดการอภิปรายระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ในรอบแรก ซึ่งมียอดชมสูงสุดเป็นสถิติให้กับเครือข่ายอีกด้วย

ก่อนจะเข้าร่วมงานกับ NBCUniversal News Group, Mark เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรให้กับ JPMorgan Chase ซึ่งที่นั่นเขาได้ร่วมงานกับทีมผู้บริหารด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และการสื่อสารในภาวะวิกฤต รวมถึงดูแลงานด้านสื่อมวลชนสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนงานด้านรัฐสัมพันธ์และความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร

ก่อนหน้านี้ Mark ยังเคยทำงานภายใต้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโอบามาในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและโฆษกของผู้แทนถาวรของสหรัฐประจำสหประชาชาติ เอกอักคราชทูต Susan Rice โดยเขาอยู่ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการสื่อสารในการรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สองแคมเปญ ได้แก่ครั้งที่แคปิตอลฮิลล์และสภาผู้แทนและวุฒิสภาสหรัฐฯ

ปัจจุบัน Mark ยังดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการโครงการ Careers in Culinary Arts Program ซึ่งเป็นโครงการด้านการพัฒนาแรงงานที่ไม่แสวงหากำไร และเขายังได้รับปริญญาด้านศิลปศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสันด้วย

เกี่ยวกับ SoftBank Group

SoftBank Group ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนทั่วโลก SoftBank Group ประกอบด้วย SoftBank Group Corp. (TOKYO: 9984) บริษัทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุนที่มีหุ้นในบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม บริการอินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ หุนยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยี IoT และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด, SoftBank Vision Funds ซึ่งลงทุนไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่มีความสามารถในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่าง ๆ และกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังมีกองทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ อย่าง SoftBank Latin America Fund ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และ SB Opportunity Fund กองทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อการลงทุนในธุรกิจที่ก่อตั้งโดยผู้ประกอบการผิวสีในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ โปรเยี่ยมชมที่ https://global.softbank เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210707005434/en/

ติดต่อ:

ญี่ปุ่น:
sbpr@softbank.co.jp
+81 3 6889 2300

สหรัฐอเมริกา:
Sard Verbinnen & Co
Benjamin Spicehandler / Hannah Dunning
SoftBank-SVC@sardverb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Entravision Communications Corporation ประกาศปิดดีลการเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts

Logo

บริษัทขยายแพลตฟอร์มดิจิทัลสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มเติมไปจากสหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา และยุโรป

ซานตา โมนิกา แคลิฟอร์เนีย.–(BUSINESS WIRE)–7 ก.ค. 2564

Entravision Communications Corporation (NYSE: EVC) (“Entravision” หรือ “บริษัท”) ประกาศปิดการเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ซึ่งเป็นบริษัทการตลาดดิจิทัลชั้นนำและการสร้างแบรนด์ที่มีการดำเนินงานใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210706005763/en/

MediaDonuts ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ นำเสนอบริการในด้านการโฆษณาดิจิทัลที่กว้างขวางร่วมกับบริษัทสื่อและเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่น บริษัทรักษาความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกและแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ เช่น Twitter, TikTok, Spotify, Criteo และพันธมิตรทางการค้าที่มีเอกลักษณ์อื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันดิจิทัลของ MediaDonuts ให้บริการฐานลูกค้ามากกว่า 500 แบรนด์ด้านเทคโนโลยีและผู้บริโภคในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์ และกัมพูชา

“วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Entravision และเรามีความยินดีที่จะต้อนรับ MediaDonuts เข้าสู่ครอบครัว Entravision อย่างเป็นทางการ” Walter Ulloa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Entravision กล่าว “MediaDonuts เป็นการเข้าซื้อกิจการทางดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญครั้งที่สองของเราในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าซื้อกิจการส่วนใหญ่ของ Cisneros Interactive การเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ในวันนี้ยังคงเป็นกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและระดับโลกในระยะยาว ซึ่งรวมถึงสำหรับสหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

“การเข้าซื้อกิจการ MediaDonuts ของเราสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีการตลาดดิจิทัลชั้นนำของโลก” Juan Saldívar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล กลยุทธ์ และความรับผิดชอบของ Entravision กล่าว “เราได้เริ่มร่วมมือกับทีม MediaDonuts ในโครงการที่น่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ และเดินหน้าขยายรอยเท้าทั่วโลกของเราต่อไป ผมมั่นใจว่าความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ MediaDonuts ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของ Entravision และพอร์ตโฟลิโอดิจิทัลระดับโลก”

Entravision ได้ขยายการเข้าถึงทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการเข้ามาของบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนี้ Entravision ให้บริการลูกค้าดิจิทัลใน 33 ประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งทั่วโลก รวมถึง 700 ล้านคน โดย 400 ล้านคนมีการเชื่อมต่อทางดิจิทัล

ทีมขายและนักประดิษฐ์สื่อที่ชาญฉลาดของ MediaDonuts มีพนักงานมากกว่า 80 คนที่สนับสนุนลูกค้าในการซื้อโดยใช้โปรแกรม (programmatic buying) เทคโนโลยี และข้อมูลเชิงลึก และการวางแผนสื่อ นอกจากนี้ MediaDonuts ยังดูแลตัวแทนสื่อซึ่งสนับสนุนแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในสื่อและเทคโนโลยีผ่านองค์กรการขายที่กว้างขวางทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พนักงาน MediaDonuts ทั้งหมดยังคงอยู่ในบริษัทต่อไป และ Pieter-Jan de Kroon จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ที่สำนักงานของ MediaDonuts ในสิงคโปร์ต่อไป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดธุรกรรมในครั้งนี้ โปรดตรวจสอบเอกสารที่บริษัทยื่นล่าสุดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในแบบฟอร์ม 8-K

เกี่ยวกับ Entravision Communications Corporation

Entravision เป็นบริษัทด้านสื่อ การตลาด และเทคโนโลยีระดับโลกที่ให้บริการลูกค้าทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและใน 32 ประเทศทั่วละตินอเมริกา ยุโรป และเอเชีย Entravision มีสถานีโทรทัศน์ 54 สถานีและเป็นกลุ่มในเครือที่ใหญ่ที่สุดของเครือข่ายโทรทัศน์ Univision และ UniMás และสถานีวิทยุภาษาสเปน 48 สถานีที่นำเสนอรายการระดับประเทศที่มีรางวัลเป็นการันตี พอร์ตโฟลิโอดิจิทัลแบบไดนามิกของเราประกอบด้วย Entravision Digital ซึ่งให้บริการ SMB ในตลาดละตินอเมริกาที่มีประชากรที่มีความหนาแน่นสูง และให้บริการโซลูชันแบบที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ล้ำสมัย และแพลตฟอร์มฝั่งดีมานด์ที่อนุญาตให้ผู้ลงโฆษณาดำเนินการแคมเปญด้านประสิทธิภาพโดยใช้อัลกอริธึมการเสนอราคาที่เรียนรู้ด้วยเครื่องแมชีน ร่วมกับ Cisneros Interactive ผู้นำด้านโซลูชันการโฆษณาดิจิทัลในตลาดละตินอเมริกาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สำคัญ และ MediaDonuts ผู้นำด้านโซลูชันดิจิทัลแบบที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หุ้นของ Entravision Class A Common Stock ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้สัญลักษณ์ EVC เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเสนอสื่อ การตลาด และเทคโนโลยีของเราได้ที่ entravision.com หรือเชื่อมต่อเราได้ที่ LinkedIn กับ Facebook.

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความคาดหวังและความตั้งใจในปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับการยื่นแบบฟอร์ม 10-K แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ซึ่งรวมอยู่ในข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 2538 โดยอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ ที่ทราบและไม่ทราบที่อาจทำให้ผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทในอนาคตแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพในอนาคตที่ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นผู้แนะนำ แม้ว่าบริษัทเชื่อว่าความคาดหวังที่สะท้อนให้เห็นในแถลงการณ์นี้ซึ่งเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้านั้นตั้งอยู่บนสมมติฐานที่สมเหตุสมผลแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงจะไม่แตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้ และบริษัทขอปฏิเสธหน้าที่ในการปรับปรุงแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ทำโดยบริษัท อนึ่ง ในบางครั้ง ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆ เหล่านี้จะมีการหารือในการยื่นเอกสารของบริษัทต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210706005763/en/

ติดต่อ:

Entravision:

Christopher T. Young

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

310-447-3870

Kimberly Esterkin

นักลงทุนสัมพันธ์ ADDO

310-829-5400

evc@addo.com

MediaDonuts:

Pieter-Jan de Kroon

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

pieterjan@mediadonuts.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย