นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–24 กันยายน 2563
โปรดดูคำชี้แจงด้านล่างจากผู้นำ Women’s Entrepreneurship Accelerator เกี่ยวกับการครบรอบหนึ่งปีของโครงการริเริ่มที่สร้างความเปลี่ยนแปลงโครงการนี้
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20200924005283/en/
Anita Bhatia รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจาก UN Women
หนึ่งปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะให้ความรู้และเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการสตรี 10 ล้านคนในช่วงสิบปีข้างหน้าผ่านโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) โดยเราเริ่มวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบเพื่อทำลายอุปสรรคที่ทำให้ผู้หญิงไม่สามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินและการมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตนเองและชุมชน
ทุกวันนี้ อนาคตของผู้หญิงกำลังอยู่ในทางแยกของประวัติศาสตร์ ผู้หญิงได้รับผลกระทบในด้านลบอย่างไม่สมสัดส่วนจากความหายนะทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจาก COVID-19 แต่ในขณะเดียวกันผู้หญิงก็กุมกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย โดยปัจจุบันมีผู้หญิงจำนวน 39% ในการจ้างงานทั่วโลก แต่ว่ามีการสูญเสียงานโดยรวมของสตรีในช่วงการระบาดใหญ่ คิดเป็น 54% และพวกเขามีแนวโน้มที่จะทำงานในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจาก Covid มากกว่า เช่น ภาคการผลิต การศึกษา การท่องเที่ยว การบริการและอาหาร การขายส่งและการขายปลีก สถานประกอบการของสตรีมีความอ่อนไหวต่อแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจเป็นพิเศษ แต่ในสถานการณ์ที่เราดำเนินการในขณะนี้เพื่อต่อสู้กับแนวโน้มเหล่านี้การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของผู้หญิงสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ GDP ได้ถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์ทั่วโลกภายในปี 25731 ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกประเทศ จึงควรให้ผู้หญิงเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเศรษฐกิจหลังการระบาดและความพยายามในการฟื้นตัว
นั่นคือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีต้องกลายเป็นสถาปนิกของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ซึ่งจะเป็นเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน มันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย โดยให้ธุรกิจที่นำโดยผู้หญิงเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง
- กรอบนโยบาย: เราเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติพัฒนากรอบนโยบายระดับชาติโดยมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและเป้าหมายระดับชาติที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในอันที่จะส่งเสริมเพิ่มจำนวนและสร้างขีดความสามารถของธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ เราขอปรบมือให้กับประเทศที่ได้เริ่มใช้นโยบายการตอบสนอง COVID-19 ในการระดมทุนเพื่อสตรีและเสนอบริการให้กับผู้ประกอบการสตรีแล้ว2 อย่างไรก็ดีธุรกิจของผู้หญิงมักจะยังไม่อยู่ในแผนและมาตรการระดับชาติของประเทศส่วนใหญ่ในด้านการสนับสนุน SMEs
- การเข้าถึงด้านการเงิน: ภาคเอกชนและภาครัฐต้องร่วมมือกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในธุรกิจของผู้หญิงทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดและช่วงอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินระดับนวัตกรรม ผ่านการจัดหาทุนและการชำระหนี้และการแนะนำสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- การจัดหางาน: รัฐบาลและบริษัททุกขนาดสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อโดยการซื้อกิจการที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ สร้างความแตกต่างแบบก้าวกระโดดของการเพิ่มขึ้นของธุรกิจที่มีสตรีเป็นผู้นำในห่วงโซ่อุปทานโดยการแสวงหาธุรกิจที่เป็นของผู้หญิง ตั้งและติดตามเป้าหมาย พร้อม ๆ กับสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีให้เข้าถึงโอกาสในการจัดหางานใหม่ ๆ
- การศึกษาเชิงดิจิทัล: ผู้ประกอบการสตรีจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลทักษะดิจิทัลและการฝึกอบรมเพื่อให้สามารถเป็นผู้นำและผู้สร้างผลงานในโลกออนไลน์ได้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเลิกการกีดกันทางเพศแบบดิจิทัลและช่วยให้ผู้หญิงเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลทางการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงได้
- การคุ้มครองทางสังคม: 75% ของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลกทำงานบ้านโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และการทำงานบ้านก็เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโควิด การคุ้มครองทางสังคม เช่น การลาเพื่อดูแลบุตร เงินสนับสนุนจากรัฐในการดูแลบุตรการประกันสุขภาพ และการชดเชยการว่างงานจะต้องได้รับการสนับสนุนให้ครอบคลุมผู้หญิงในการจ้างงานอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการซึ่งรวมไปถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระด้วย สิ่งนี้จะสร้างเสถียรภาพให้กับชุมชนทั้งหมดทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกในการพิจารณาเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น
- การสนับสนุนข้ามภาคส่วน: เราทุกคนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม สมาคมเชิงธุรกิจ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย สามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีเติบโตขึ้นได้3
หากเราไม่ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้หญิงในระหว่างการต่อกรในระยะยาวกับการแพร่ระบาดของโควิด เราเสี่ยงที่จะทิ้งผู้หญิงหลายล้านคนไว้ข้างหลังและการสูญเสียความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศที่เราสามารถเก็บเกี่ยวมาได้นานหลายทศวรรษ ซึ่งนี่ยังรวมถึงการจัดการกับอุปสรรคที่มีมายาวนานตลอดจนการดูแลความปลอดภัยของผู้หญิงทุกคน
ผลกระทบเชิงลบของ COVID-19 ทำให้ความไม่เท่าเทียมกันที่มีอยู่ทวีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งทำให้ผู้หญิงที่มีภูมิหลังที่หลากหลายไม่สามารถมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในทีม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้มุมมองแบบประสานภาคส่วน (intersectional lens) ในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการทางเศรษฐกิจของผู้หญิงทุกคนในการพยายามฟื้นฟูโลกหลังจากภาวะโควิด
การลงทุนในผู้ประกอบการสตรีเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวจากการระบาดของโรค พร้อม ๆ ไปกับการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น มีความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมากขึ้น อนาคตของเราขึ้นอยู่กับการลงทุนในผู้ประกอบการสตรี
ลงชื่อ,
Anita Bhatia
รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร UN Women
Pamela Coke-Hamilton
กรรมการบริหาร, The International Trade Centre (ITC)
Annemarie Hou
กรรมการบริหาร a.i., UN Office for Partnerships
Deborah Gibbins
ประธานฝ่ายปฏิบัติการ, Mary Kay Inc.
เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator
Women’s Entrepreneurship Accelerator เป็นโครงการริเริ่มที่มีพันธมิตรหลายรายซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกผ่าน 4 วิธีการส่งเสริมศักยภาพ หรือ Four Pathways of Empowerment ได้แก่ ด้านการศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่เริ่มต้นโดย Mary Kay Inc. ที่ไม่มีการกีดกั้นด้านการมีส่วนร่วม เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการหารือกับหน่วยงานของสหประชาชาติ 6 แห่ง ได้แก่ UN Women, สำนักงานเพื่อความร่วมมือแห่งสหประชาชาติ (UNOP), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), International Trade Centre (ITC), UN Global Compact (UNGC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) อนึ่ง Accelerator ตั้งเป้าที่จะเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิง 10 ล้านคนภายในปี 2573
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.we-accelerate.com/ ติดตามเราบน Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator).
เกี่ยวกับ UN Women
UN Women เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติที่อุทิศตนเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิง โดย UN Women เป็นองค์กรส่งเสริมผู้หญิงและเด็กผู้หญิงระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งความคืบหน้าในการตอบสนองความต้องการของพวกเขาทั่วโลก
UN Women สนับสนุนประเทศสมาชิกสหประชาชาติในการกำหนดมาตรฐานระดับโลกเพื่อก่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทางเพศ พร้อม ๆ ไปกับการทำงานร่วมกับรัฐบาลและภาคประชาสังคมในการออกแบบกฎหมาย นโยบาย โครงการ และการบริการที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรฐานต่าง ๆ ถูกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้หญิงจริง ๆ นอกจากนี้ UN Women ยังได้ทำงานไปทั่วโลกเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals ให้เกิดขึ้นจริงสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และคอยสนับสนุนผลักดันการมีส่วนร่วมของผู้หญิงอย่างเท่าเทียมกันในทุกด้านของชีวิตโดยมุ่งเน้นที่สี่ยุทธศาสตร์สำคัญคือ
- ผู้หญิง เป็นผู้นำ มีส่วนร่วม และได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน จากระบบการกำกับดูแลของรัฐ
- ผู้หญิงมี ความมั่นคงด้านรายได้ การมีงานที่ดี และความมีเอกภาพทางเศรษฐกิจ
- ผู้หญิงและเด็กหญิงทุกคนใช้ชีวิตที่ปราศจากความรุนแรงทุกรูปแบบ
- ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมีส่วนร่วมมากขึ้นในการสร้างสันติภาพและภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน และได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันจากการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ การป้องกันความความขัดแย้ง และการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
UN Women ยังประสานงานและส่งเสริมการทำงานของระบบสหประชาชาติในการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและในด้านข้อพิจารณาและข้อตกลงทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับวาระ 2030 โดยองค์กรได้วางตำแหน่งด้านความเสมอภาคทางเพศไว้ให้เป็นหลักการพื้นฐานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และโลกที่ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น
เกี่ยวกับ the International Trade Centre
International Trade Center (ITC) เป็นหน่วยงานร่วมขององค์การการค้าโลกและองค์การสหประชาชาติ โดย ITC ช่วยองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางในการพัฒนา และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดโลกเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนภายใต้กรอบของวาระการช่วยเหลือเพื่อการค้า หรือ Aid-for-Trade และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
โครงการริเริ่ม SheTrades ของ ITC มีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการสตรีและธุรกิจที่เป็นของผู้หญิงสามล้านคน เพื่อเข้าสู่ตลาดต่างประเทศภายในปี 2564 โดย SheTrades ทำงานร่วมกับรัฐบาล บริษัท และองค์กรสนับสนุนทางธุรกิจเพื่อดำเนินการวิจัย กำหนดรูปแบบนโยบายและกฎระเบียบทางการค้า อำนวยความสะดวกในการจัดหาเงินทุน และขยายการเข้าถึงสู่สาธารณะ การประมูลและซัพพลายเชนขององค์กร ITC ให้โแกาสผู้ประกอบการสตรีในการได้รับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลายและหลักสูตรที่ยืดหยุ่นบนแพลตฟอร์ม www.shetrades.com ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.intracen.org หรือติดตาม ITC บน Twitter | Facebook | LinkedIn | Instagram | Flickr.
เกี่ยวกับ the International Labour Organization
The International Labour Organization (ILO) เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2462 หลังจากเกิดสงครามทำลายล้างเพื่อดำเนินตามวิสัยทัศน์ตามสมมติฐานที่ว่าสันติภาพที่เป็นสากลและยั่งยืนสามารถสร้างได้ก็ต่อเมื่อตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมในสังคม จุดมุ่งหมายหลักของ ILO คือการส่งเสริมสิทธิในการทำงานส่งเสริมโอกาสในการจ้างงานที่เหมาะสมเพิ่มการคุ้มครองทางสังคมและเสริมสร้างการเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทำงาน โครงสร้างไตรภาคีที่เป็นเอกลักษณ์ของ ILO ให้เสียงที่เท่าเทียมกับคนงาน นายจ้าง และรัฐบาล เพื่อทำให้แน่ใจว่ามุมมองของพันธมิตรทางสังคมจะสะท้อนออกมาในรูปแบบของการมีมาตรฐานแรงงาน และในการกำหนดนโยบายและโครงการต่าง ๆ
โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีของ ILO หรือ The ILO’s Women’s Entrepreneurship Development programme (ILO-WED) เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และดำเนินการมากว่าทศวรรษ โดย ILO-WED ดำเนินการเพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงโดยการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในการเริ่มต้นจัดตั้งและขยายกิจการของตน และโดยการนำประเด็นความเท่าเทียมทางเพศมาใช้ในงานของ ILO ในการพัฒนาองค์กร เว็บไซต์: www.ilo.org | Twitter – @ILOWED | Facebook – ILO WED (International Labour Organization)
เกี่ยวกับ the United Nations Global Compact
ในฐานะที่เป็นโครงการความคิดริเริ่มพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติงาน the United Nations Global Compact คือความพยายามเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ จัดให้มีการดำเนินงานและกลยุทธ์ตามหลักการสากลสิบประการในด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต องค์กรซึ่งเปิดตัวในปี 2543 นี้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและสนับสนุนชุมชนธุรกิจทั่วโลกในการพัฒนาเป้าหมายและค่านิยมขององค์การสหประชาชาติผ่านแนวทางปฏิบัติขององค์กร ทั้งนี้ ด้วยว่ามีบริษัทมากกว่า 10,000 แห่ง และสมาชิกที่ไม่ใช่องค์กรธุรกิจอีก 3,000 ราย ในกว่า 160 ประเทศ และเครือข่ายท้องถิ่นมากกว่า 60 เครือข่าย มันจึงเป็นโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดตาม @globalcompact บนโซเชียลมีเดียและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ unglobalcompact.org.
เกี่ยวกับ United Nations Office for Partnerships
The United Nations Office for Partnerships (UNOP) ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ระดับโลกสำหรับการเร่งปฏิกิริยาและการสร้างพันธมิตรแบบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่มเพื่อความก้าวหน้าในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) โดย UNOP จัดทำแพลตฟอร์มสำหรับการมีส่วนร่วมของพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพและการทำงานเพื่อยกระดับสินทรัพย์และความเชี่ยวชาญของคู่ค้าที่หลากหลายในการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน UNOP จะกำกับดูแลกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (the United Nations Fund for International Partnerships) กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งสหประชาชาติ (the United Nations Democracy Fund) ศูนย์ปฏิบัติการ SDG และผู้ให้การสนับสนุน SDG ของสำนักงานเลขาธิการ the Secretary-Generals’ SDG Advocates
เยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมที่:
สำนักงานเพื่อความร่วมมือแห่งสหประชาชาติ (UNOP) พยายามที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้สำหรับเหล่าพันธมิตรในการเชื่อมต่อและสร้างโอกาสและแนวทางแก้ไขเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย The UN Office for Partnerships ทำงานในระดับโลกภูมิภาคและในประเทศต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกผ่านการเป็นหุ้นส่วนของ SDG – สำหรับผู้คนและโลกใบนี้
สำนักงานนี้ดูแลกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ( the United Nations Fund for International Partnerships), กองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งสหประชาชาติ (the United Nations Democracy Fund), SDG Action Hub และ Secretary-Generals’ SDG Advocates ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.un.org/partnerships/.
เกี่ยวกับ Mary Kay
Mary Kay ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอมานานกว่า 57 ปี โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนใน เกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอาง ค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติกยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.marykay.com.
1McKinsey Global Institute, COVID-19 และความเท่าเทียมทางเพศ: การต่อต้านผลกระทบที่ถดถอยโดย Anu Madgavkar, Olivia White, Mekala Krishnan, Deepa Mahajan และ Xavier Azcue (กรกฎาคม 2563)
2ได้แก่ แคนาดา โคลอมเบีย อียิปต์ กัวเตมาลา จอร์เจีย ฮอนดูรัสไอร์แลนด์ เม็กซิโก โมร็อกโก ปารากวัย และสหราชอาณาจักร นโยบายการตอบโต้ COVID-19 ที่คำนึงถึงเรื่องเพศจากประเทศต่าง ๆ สามารถหาดูได้จาก UN Women และ UNDP’s COVID-19 Global Gender Response Tracker https://www.undp.org/content/undp/en/home/covid-19-gender-dashboard.html
3การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีในการตอบสนองต่อ COVID-19 และเครื่องมือสนับสนุนการฟื้นตัวหน้า 2 หาอ่านได้ที่: https://www.empowerwomen.org/en/resources/documents/2020/09/strengthening-support-for-women-entrepreneurs-in-covid-19-response-and-recovery?lang=en
ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20200924005283/en/
ติดต่อ:
Mary Kay Inc.
Michael Wassmer
+1-972-687-5332
UN Women
Oisika Chakrabarti
oisika.chakrabarti@unwomen.org
+1-646-781-4522
International Trade Centre
Vittorio Cammarota
+41 (0)22 730-0322